MSN on June 29, 2013, 03:05:51 PM
เมอร์เซเดส-เบนซ์เผยโฉมยนตรกรรมใหม่ล่าสุด The new E-Class Coupe และ Cabriolet ส่งมอบได้ก่อนใคร










   
          - ที่สุดแห่งสุนทรีในการขับขี่ : ความน่าหลงใหล ความสปอร์ตและทรงพลัง

          บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวยนตรกรรมหรูในตระกูล E-Class รุ่นใหม่ล่าสุดได้แก่ The new E-Class Coupé รถยนต์สปอร์ตคูเป้ และ The new E-Class Cabriolet รถยนต์สปอร์ตเปิดประทุนแบบ 4 ที่นั่ง ภายใต้บรรยากาศความสุขแบบไร้ขีดจำกัด (Uncontrained Pleasure) พร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ที่เร้าใจ น่าหลงใหล ให้ความสปอร์ตและเต็มไปด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เน้นความ หรูหราและมีความเป็นไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินทรงพลังใหม่สี่สูบแบบ BlueDIRECT พร้อมระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยที่ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นรถยนต์ที่ ขับขี่ปลอดภัยอย่างชาญฉลาด “Mercedes-Benz Intelligent Drive” ในราคาสุดเร้าใจ โดย E 200 Coupé Sport และ E 200 Coupé AMG Dynamic ราคา 3.79 ล้านบาท ส่วน E 200 Cabriolet AMG Dynamic ราคา 3.99 ล้านบาท ซึ่งสามารถรับรถได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไปเฉพาะที่ ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการเท่านั้น
ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ E-Class Coupé และ Cabriolet ที่นำมาเปิดตลาดในไทยมี 3 รุ่นด้วยกันได้แก่ E 200 Coupé Sport, E 200 Coupé AMG Dynamic และ E 200 Cabriolet AMG Dynamic ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีความโดดเด่น ความแข็งแกร่งที่แฝงไว้ด้วยอารมณ์สปอร์ต รูปลักษณ์ที่หรูหรา สะดุดตา มีความดุดัน และยังใช้เครื่องยนต์ใหม่ที่เต็มไปด้วยสมรรถนะและให้ประสิทธิภาพด้านการ ประหยัดพลังงานเป็นเยี่ยม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความปลอดภัยสูง ทั้งหมดนี้ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ E-Class Coupé และ Cabriolet เป็นยนตรกรรมที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นตามปรัชญาของกอตต์ลีบ เดมเลอร์ ผู้ก่อตั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ภายใต้สโลแกน “The best or nothing.” รวมทั้งยังเป็นรถที่เข้ามาช่วยเติมเต็มในตระกูล E-Class ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอ๊อบชั่น และราคาซึ่งนับเป็นการปรับราคาครั้งใหญ่ที่ลูกค้าจะได้รับความคุ้มค่ามาก ขึ้น รวมถึงการส่งมอบรถซึ่งลูกค้าสามารถรับรถได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟ แรงหรือเจ้าของกิจการทั้งชายและหญิงที่ชื่นชอบรถยนต์ในสไตล์สปอร์ตปราด เปรียวและคล่องตัว แฝงไว้ซึ่งความทรงพลังที่น่าดึงดูดใจโดยเป็นรถยนต์ในฝันได้อย่างแท้จริง
ดีไซน์ภายนอก – ดึงดูดได้ทุกอารมณ์
          The new E-Class Coupé และ Cabriolet โฉมใหม่ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนเด่นชัดที่สุดคือที่ แผงกระจังหน้าและโคมไฟแบบใหม่ซึ่งเป็นการรวมเอาฟังก์ชั่นการทำงานของไฟ LED ต่างๆรวมไว้ในกรอบเดียวกัน และยังมีการนำเทคโนโลยีไฟ LED แบบ fibre-optic มาใช้ด้วย ทำให้ไฟคู่หน้ามีลักษณะแบบ “สี่ตา (four-eyed)” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ E-Class กระจังหน้าเป็นแบบสปอร์ตมีลาย 1 แถบพร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ดวงใหญ่ตรงกลาง กันชนด้านหน้าได้รับการดีไซน์ใหม่เน้นรายละเอียดมากขึ้นพร้อมช่องอากาศขนาด ใหญ่ตกแต่งด้วยโครเมียมทำให้รถยนต์รุ่นนี้ดูปราดเปรียว โดยรวมแล้วการปรับเปลี่ยนด้านหน้าในรถทั้งสองรุ่นนี้ เน้นความเป็นสปอร์ตมากขึ้น
          The new E-Class Coupé ยังคงความสง่างามได้สัดส่วนด้วยฝากระโปรงหน้าที่เทลาดยาวและลายเส้นด้านข้าง ตั้งแต่หน้าจรดท้าย รับกับความโค้งมนของเส้นใต้หลังคาของรถสไตล์คูเป้เน้นความหรูหราและปราด เปรียว ที่โดดเด่นคือไม่มีเสาหลังคากลาง B-Pillar ทำให้บรรยากาศภายในรถดูโปร่งสบายและกว้างมากขึ้น พร้อมด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
          ส่วน The new E-Class Cabriolet โดดเด่นด้วยลายเส้นนูนด้านข้างตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายรถทำให้เกิดมิติด้าน ข้างสวยงามและได้สัดส่วน หลังคาเปิดประทุนแบบผ้า (soft-top) สามารถเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าและสามารถสั่งการทำงานด้วยกุญแจรีโมทคอนโทรล โดยเปิด-ปิดภายในเวลา 20 วินาที แม้ขณะรถวิ่งมาด้วยความเร็วที่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
          โคมไฟคู่หน้าได้รับการออกแบบใหม่หมดและ คล้ายคลึงกันกับโคมไฟหลัง โดยรวมชุดไฟ LED ทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว อาทิ ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟเลี้ยว และไฟ daytime ทำให้เกิดลายเส้นกราฟฟิกสวยงามสะดุดตามากขึ้นซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกด้วย เช่นกันที่โคมไฟแบบ LED ได้รับการออกแบบให้อยู่รวมในกรอบเดียวกัน และยังคงเป็นการสื่อถึง “ไฟคู่หน้า” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ดั้งเดิมของ E-Class ไว้เหมือนเดิม นอกจากนั้นยังมีระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS-Active Light System) และระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering Light) ด้วย

          การตกแต่งภายใน : สไตล์เอ็กคลูซีฟพร้อมวัสดุคุณภาพชั้นเยี่ยม
          ภาย ในห้องโดยสารมีการปรับให้มีความผสานกลมกลืนสวยงามเข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกที่ ปรับเปลี่ยนไปมีบรรยากาศความเป็นสปอร์ตในทุกรายละเอียด และเลือกใช้วัสดุชั้นดีมีคุณภาพสูงทำให้ดูหรูหรามีระดับ นาฬิกาแบบอนาล็อกอยู่ตรงกลางแผงคอนโซลระหว่างช่องแอร์ให้ความสวยงามแบบ คลาสสิก เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง และสำหรับรุ่น E 200 Coupé AMG Dynamic และ E 200 Cabriolet AMG Dynamic จะเป็นเบาะหุ้มหนัง ARTICO สีดำ ส่วนเบาะนั่งคู่หน้าเป็นแบบ multi-contour seats ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ สำหรับตำแหน่งที่นั่ง พวงมาลัย และกระจกมองข้าง พร้อมด้วยระบบเพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออกรถ สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง (EASY-ENTRY) ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบ THERMATIC แบบ 2-zone สำหรับรุ่น E-Class Cabriolet จะมีแผงบังคับทิศทางลม (AIRCAP®) และแผงกั้นลม (draught-stop) ที่ช่วยลดกระแสลมที่เกิดขึ้นในห้องโดยสารรวมถึงเสียงรบกวนจากภายนอก โดยระบบ AIRCAP® จะทำงานอัตโนมัติเมื่อรถวิ่งอยู่ที่ความเร็วตั้งแต่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป และระบบจะหยุดการทำงานเองได้โดยอัตโนมัติเมื่อรถวิ่งอยู่ที่ความเร็วต่ำกว่า 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนั้นยังติดตั้งพวงมาลัย 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ DIRECT SELECT ที่พวงมาลัย ซึ่งเป็นพวงมาลัยนิรภัยพร้อม พาวเวอร์ที่สามารถปรับน้ำหนักได้ตามความเร็วรถ ซึ่งจะช่วยทำให้การควบคุมทิศทางรถเป็นไปอย่างเที่ยงตรงแม่นยำ ทั้งในรุ่น The new E-Class Coupé และ Cabriolet

          ระบบช่วยเหลืออัจฉริยะจากเมอร์เซเดส-เบนซ์
          เมอร์ เซเดส-เบนซ์ E-Class Coupé และ Cabriolet มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยใหม่ที่ผสานความสะดวกสบายและความ ปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกันซึ่งเรียกว่าระบบ “Mercedes-Benz Intelligent Drive” เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้ E-Class Coupé และ Cabriolet ใหม่นี้ เป็นยานยนต์ที่มีความปลอดภัยมากที่สุดคันหนึ่งในเซ็กเม้นท์นี้ โดยระบบดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากแนวคิดการปกป้องก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เข้าไว้ด้วยกันภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียวที่ทำงานสอดประสาน กัน ไม่ว่าจะเป็นระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ (PRE-SAFE® system) โปรแกรมการควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 4 ที่นั่งผ่อนแรงและรั้งกลับอัตโนมัติ พร้อมระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า (automatic belt feeder) หมอนรองศีรษะคู่หน้าแบบ NECK-PRO head restraints ที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บกรณีที่ถูกชนจากด้านหลัง ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเซ็นเซอร์วัดแรงปะทะและการคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ม่านถุงลมนิรภัยป้องกันศีรษะ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้ง 4 ตำแหน่ง โครงสร้างตัวถังนิรภัยและคานนิรภัยกันกระแทกด้านข้าง และโครงคุ้มกันนิรภัย (roll-over bars) เฉพาะรุ่นเปิดประทุน ซึ่งช่วยเสริมการปกป้องให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนั้นยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light) ระบบรักษาระดับความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTROMIC) และระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist)

          ระบบขับเคลื่อนทรงพลัง ให้สมรรถนะและประสิทธิภาพเหนือระดับ
          The new E-Class Coupé และ Cabriolet มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินใหม่แบบ BlueDIRECT แถวเรียง 4 สูบ ที่ทรงพลังเต็มไปด้วยสมรรถนะและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยมีหัวฉีดชนิด piezo ซึ่งฉีดเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้โดยตรง และเป็นเทคโนโลยีแบบเดียวกันที่ใช้กับเครื่องยนต์ V6 และ V8 รุ่นใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยได้นำมาใช้กับเครื่องยนต์ 4 สูบเป็นครั้งแรก นอกจากนี้เทคโนโลยีที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่นี้รวมถึงจังหวะการฉีดเชื้อ เพลิงและจุดระเบิดแบบหลายครั้งติดต่อกันตรงสู่ห้องเผาไหม้ทำให้การเผาไหม้ สมบูรณ์ขึ้น ระบบช่วยประจุอากาศด้วยเทอร์โบชาร์ทเจอร์ ส่งผลให้เครื่องยนต์ใหม่มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นโดยจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน เชื้อเพลิงอยู่ที่ 18 กม./ลิตร สำหรับ E-Class Coupé และ 16 กม./ลิตร สำหรับ E-Class Cabriolet นอกจากนั้นเครื่องยนต์ทุกรุ่นมาพร้อมกับฟังก์ชัน ECO Start/Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) อันทรงประสิทธิภาพ

MSN on June 29, 2013, 03:07:32 PM
          เมอร์เซเดส-เบนซ์โมเดลใหม่
 
รุ่น   เครื่องยนต์   ปริมาตรกระบอกสูบ
(ซีซี)   แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที)   แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที)   อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.   ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.)   อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย (กม./ลิตร)
E 200 Coupé Sport   เบนซิน แถวเรียง
4 สูบ เทอร์โบ พร้อม อินเตอร์คูลเลอร์   1,991   184 / 5,500   300 /
1,200-4,000   7.8   240   18
E 200 Coupé AMG Dynamic   เบนซิน แถวเรียง
4 สูบ เทอร์โบ พร้อม อินเตอร์คูลเลอร์   1,991   184 / 5,500   300 /
1,200-4,000   7.8   240   18
E 200 Cabriolet AMG Dynamic   เบนซิน แถวเรียง
4 สูบ เทอร์โบ พร้อม อินเตอร์คูลเลอร์   1,991   184 / 5,500   300 /
1,200-4,000   8.2   235   16
 
          โครงสร้างตัวถังและระบบกันสะเทือน พื้นฐานสำคัญของการขับขี่ที่เหนือกว่า
          เมอร์ เซเดส-เบนซ์ The new E-Class Coupé และ Cabriolet ใช้ระบบกันสะเทือนแบบ AGILITY CONTROL Sports ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างสปอร์ตปราดเปรียว พร้อมโช้คอัพที่ปรับสภาพเองได้อย่างอิสระ ระบบนี้จะช่วยให้โช้คอัพสามารถปรับสภาพให้เหมาะสมกับสภาพถนนได้โดยอัตโนมัติ ตามสถานการณ์การขับขี่และสภาพของถนนที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกเพลินเพลิดและนุ่มนวลที่สุดขณะขับ ขี่ รวมถึงช่วยสร้างความรู้สึกแบบสปอร์ตแต่ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลขณะเดินทางใน ระยะไกลอันเป็นชื่อเสียงที่เมอร์เซเดส-เบนซ์สั่งสมมาอย่างยาวนานได้อีกด้วย

          ระบบมัลติมีเดีย เพื่อความบันเทิงภายในห้องโดยสารชั้นเลิศ
          เมอร์ เซเดส-เบนซ์ The new E-Class Coupé และ Cabriolet มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำหน้าและคุณภาพสูงเพื่อความรื่นรมณ์ตลอดการเดินทาง หลากหลายรูปแบบการบันเทิง ได้แก่ ระบบCOMAND Online ควบคุมการทำงานของวิทยุและดีวีดี สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต พร้อม controller และระบบนำทาง (navigation system) รวมทั้งยังมีระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) ระบบเชื่อมต่อสื่อบันเทิง (media interface) เพื่อให้ความเพลิดเพลินบันเทิงใจขณะขับขี่ รวมทั้งระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผ่านบลูทูธ เพื่อให้ความสะดวกสบายในการสื่อสารมากยิ่งขึ้น

          ชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG และสีภายนอกให้เลือกตามความต้องการ
          สำหรับ รุ่น E 200 Coupé AMG Dynamic และ E 200 Cabriolet AMG Dynamic จะมาพร้อมกับชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG ซึ่งประกอบไปด้วย กันชนหน้า-หลังดีไซน์สปอร์ต พร้อมตกแต่งด้วยโครเมียม, สเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ต, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต และพรมรองพื้นสีดำ พร้อมสัญลักษณ์ AMG นอกจากนี้สำหรับ The new E-Class Coupé และ Cabriolet ยังมีเฉดสีภายนอกให้เลือกตามความต้องการถึง 12 สี ได้แก่ black (non-metallic), polar white (non-metallic), fire opal (non-metallic), obsidian black, aragonite silver, dolomite brown, tenorite grey, iridium silver, palladium silver, cavansite blue, diamond silver และ diamond white BRIGHT ซึ่งเป็นสีสั่งทำพิเศษ

          ราคาสุดเร้าใจ
          - E 200 Coupé Sport 3,790,000 บาท
          - E 200 Coupé AMG Dynamic 3,790,000 บาท
          - E 200 Cabriolet AMG Dynamic 3,990,000 บาท

MSN on July 09, 2013, 09:01:28 AM
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ต้อนรับประธานบริหารคนใหม่
 
 

          มร. ไมเคิล เกรเว่ เข้ารับตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แทน ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ซึ่งหมดวาระการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป

          มร. เกรเว่ มีประสบการณ์ด้านการขายและการตลาดมากว่า 26 ปี โดยได้เริ่มงานกับเดมเลอร์ เอจี ครั้งแรกที่สำนักงานใหญ่ เมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 โดยมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการขายและการตลาดทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและเพื่อการพาณิชย์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในหลากหลายตลาด ไม่ว่าจะเป็นยุโรปตะวันออก ยุโรปกลาง เอเชียแปซิฟิก เอเชียใต้ จีนแผ่นดินใหญ่ ออสเตรเลีย ในปีพ.ศ. 2549 ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งประธานบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประจำประเทศโรมาเนียควบกับกำกับดูแลสำนักงานผู้แทนบริษัท เดมเลอร์ เอจี ก่อนหน้าเข้ามารับตำแหน่งประธานบริหารที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ประเทศไทย

          มร. เกรเว่ กล่าวถึงการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ปัจจุบันตลาดรถยนต์หรูในไทยมีการแข่งขันทางธุรกิจกันมากซึ่งนับเป็นตลาดที่น่าสนใจ โดยผมคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ตลาดรถหรูยังเติบโตต่อเนื่อง โดยผมจะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผมช่วยพัฒนาบริษัทฯ ให้เติบโตต่อไป ซึ่งเรายังคงตั้งเป้าครองความเป็นผู้นำตลาดรถหรูเป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน รวมทั้งเน้นการทำตลาดเชิงรุก และเดินหน้าขยายพอร์ต ฟอลิโอด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่เหมาะกับตลาดประเทศไทยและความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นยังก์เจเนอเรชั่น นอกจากนั้นเรายังคงเน้นการรักษาฐานลูกค้าและแสวงหาลูกค้ากลุ่มใหม่ รวมทั้งการพัฒนาเครือข่ายระบบการบริหารจัดการในส่วนของศูนย์บริการและโชว์รูมของผู้จำหน่าย เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานเดียวกัน รวมถึงการจัดกิจกรรมตอบแทนลูกค้า เพื่อการสร้างความสัมพันธ์อันดีร่วมกัน และทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด”