ปิดกล้อง ภาพยนตร์เรื่อง "กรรไกร - ไข่ - ผ้าไหม สองบาทห้าสิบ"

ปิดกล้อง ภาพยนตร์เรื่อง "กรรไกร - ไข่ - ผ้าไหม สองบาทห้าสิบ"

               ปิดกล้องเรียบร้อยแล้วกับภาพยนตร์เรื่อง “กรรไกร – ไข่ – ผ้าไหม สองบาทห้าสิบ” ค่าย บิณฑ์  บูม  บิสซิเนส จำกัด เขียนบท และกำกับการแสดงโดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กับฉากใหญ่การแข่งขันลีลาศระดับอาเซียน  รวมทีมงานและนักแสดงเข้าฉากกว่าพันคน

               โดยฉากนี้เป็นการแข่งขันลีลาศระดับอาเซียน จึงต้องปิดอาคารเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญีปุ่น ดินแดง เพื่อถ่ายทำฉากนี้โดยเฉพาะ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ให้ทีมงานเซ็ทฉากนำนักแสดงอาทิ สมเล็ก- สมชาย ศักดิกุล, ฟร้อน-วิรากร คิ้วศุภกร, เบนซ์ จูเนียร์-ข้าวขวัญ กฤษณโสภา , ชิซูกะ - ชนันท์กาญต์ เถาว์พัน , อิณฐ์-ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี, ปุยฝ้าย-ชุติรดา จันทิตย์ ,เบสท์ – ภัทรารวีย์ เบ้าสุวรรณ,ไข่มุก-พิมพ์ลดา ลภัสกุลวรวัฒน์,วิว-ณัฐริกา เฝ้าด่าน, หยก-ยุวธน ไอยเรศกร ,โฟร์- ศุภกฤต คิ้วศุภกร ,เบนซ์-ตรีภพ ภาสดา และนักแสดงจากภาพยนตร์ ปัญญา เรณู น้ำขิง-สุทธิดา หงษา, มิว–ธฤศวรรณ กาหาวงษ์ , แซ๊กกี้-พงษ์สิทธิ์       นาเวียง, เปเล่-บุญฤทธิ์ จันทร์แก้ว, ชิต-วิชิต สมดี นักกีฬาลีลาศกว่า 50 คู่ วงโยธวาทิตจากโรงเรียนวัดเขมภิรตาราม และนักแสดงประกอบ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ได้รับความกรุณาจากโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว รวมทั้งหมดกว่าพันชีวิตเข้าฉากพร้อมกัน  ทั้งหมดตั้งหลักถ่ายทำกับฉากการแข่งขันลีลาศระดับอาเซียนนี้เป็นเวลา 2 วันเต็มๆซึ่งก็ได้รับความกรุณาจาก สมภาน สุขวัฒนกูล  ผู้อำนวยการสนามกีฬาไทย-ญีปุ่น ดินแดง เป็นอย่างดีที่ให้ถ่ายทำกันจนเกือบถึงเช้า งานนี้ตกหนักอยู่ที่นักกีฬาลีลาศทั้งหมดที่อดทนเต้นกันตั้งแต่เช้า จนค่ำ แต่ทั้งหมดก็ไม่ย่อท้อเพราะได้รับการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่างดี และทำหมดก็เป็นนักกีฬาลีลาศระดับประเทศทั้งนั้น การถ่ายทำจึงผ่านไปได้ด้วยดี

               บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า “โดยเรื่องนี้มีฉากใหญ่เยอะและฉากนี้ก็รวมนักกีฬาลีลาศแชมป์ประเทศไทย รวมเด็กๆ ทุกรุ่น เพราะว่าผมอยากให้ทุกๆ คนเห็นการเต้นลีลาศ เพราะการเต้นลีลาศเป็นการออกกำลังกายได้ดีมากๆ ผมอยากจะให้เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เอากีฬาการเต้นลีลาศมาทำหนัง และหนังทุกเรื่องที่กำกับฯผมจะสอดแทรกเรื่องความสามัคคีด้วย สำหรับชื่อเรื่อง กรรไกร-ไข่-ผ้าไหม สองบาทห้าสิบ ผมได้มาจากการที่ไปเห็นเด็กๆ เล่นกัน ซึ่งมันรวมหมดไม่ว่าจะเด็กเล็กเด็กโตต้องเคยเล่น และมันก็สื่อถึงความวุ่นวายของเด็ก ซึ่งถ้านึกถึงการเล่นนี้ก็สื่อถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเลย   การทำภาพยนตร์เกี่ยวกับเด็กๆ ก็ยุ่งเหมือนเดิมครับ แต่ก็สนุกดีก็เป็นสีสันอย่างหนึ่ง สำหรับน้ำขิง (สุธิดา หงษ์สา) ก็ยังเล่นเรื่องนี้อยู่ครับ เขาก็ทุกข์สุขกับเรามาตั้งแต่เรื่องแรกเราไม่ทิ้งกันครับ แต่ว่าก็มีน้องๆ หน้าใหม่หลายคน ซึ่งแต่ละคนก็มีตำแหน่งและมีดีกรีทุกคนครับ”   

               ติดตามชมความภาพยนตร์“กรรไกร – ไข่ – ผ้าไหม สองบาทห้าสิบ” ปลายปีนี้