Autodesk Design and Creation Suites ใหม่
ผนึกการใช้งานเดสก์ท็อปและคลาวด์ เพิ่มสมรรถนะให้ทุกงานสร้างสรรค์
กรุงเทพฯ-ออโตเดสก์, อิงค์ (NASDAQ: ADSK) เปิดตัว Autodesk Design and Creation Suite ชุดซอฟต์แวร์เพื่อการออกแบบ ที่นำเสนอการใช้งานซอฟต์แวร์ต่างๆ จากออโตเดสก์ อย่างครบวงจร ทั้งการใช้งานเดสก์ท็อปและระบบคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์สำหรับงานออกแบบตึก ผลิตภัณฑ์ โรงงาน หรืองานด้านวิศวกรรมก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนงานสร้างสรรค์ในสื่อบันเทิง และนับเป็นครั้งแรกที่ชุดซอฟต์แวร์ Design and Creation Suite ได้รวมเอาซอฟต์แวร์และเซอร์วิสฟังก์ชั่น “reality capture” เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้การนำไฟล์จากเลเซอร์สแกนและภาพถ่ายดิจิตอลจากโลกรอบตัวเรามาแปลงเป็นงานดีไซน์และวิศวกรรม 3D ได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วชุดซอฟต์แวร์ ออโตเดสก์ ที่ประหยัดและยืดหยุ่นทั้งหมดนี้จะช่วยให้ทั้งดีไซเนอร์และวิศวกรมีเครื่องมือใช้งานให้เลือกมากกว่าเดิม โดยสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับงานที่กำลังทำอยู่ และปรับให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงตามความจำเป็นทางธุรกิจ นอกจากนี้ผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ผ่านบริการ Autodesk Subscription สามารถเข้าใช้งานบริการคลาวด์ Autodesk 360 ที่จะช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ที่กว้างขึ้นในการทำงาน ประสานงาน หรือใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยลูกค้าที่สมัครใช้บริการยังสามารถซื้อความจุคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นตามต้องการได้อีกด้วย/size]
“ชุดซอฟต์แวร์ใหม่นี้ จะเปลี่ยนการทำงานของทั้งบริษัทเล็กและใหญ่ในวงการให้สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ออกมาได้มากขึ้น” แอนดรูว์ อแน็กโนสต์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดและยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม บริษัท ออโตเดสก์ กล่าว “Autodesk จะเดินหน้าต่อไปเพื่อให้ซอฟต์แวร์งานออกแบบดีไซน์ 3D งานวิศวกรรม และบันเทิง เข้าถึงมือลูกค้าผู้ใช้งานอย่างกว้างขวางและเชื่อมโยงเข้ากับเซอร์วิสเสริมอื่นๆ เช่น การใช้งานคลาวด์”
“เราดีใจและภูมิใจที่ได้เปิดตัว Autodesk 2014 Design and Creation Suite ในกลุ่มประเทศภูมิภาค ASEAN โดยชุดซอฟต์แวร์สำหรับปี 2014 จะเป็นโซลูชั่นที่ครบเครื่องครอบคลุมและเข้าใช้งานได้จากทั้งเดสก์ท็อปและคลาวด์” วี อาร์ ศรีวัตศาน กรรมการประจำภูมิภาคอาเซียน ออโตเดสก์ กล่าว พร้อมเสริมว่า “เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มชาติ ASEAN และมุ่งมั่นที่จะนำเสนอซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้ลูกค้าของเราได้ออกแบบ จำลองสร้างงานดีไซน์ออกมาได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ”
ชุดซอฟต์แวร์ Autodesk Design and Creation Suites ที่จะออกมาในปี 2014 จะประกอบไปด้วยซอฟต์แวร์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ :
Autodesk AutoCAD Design Suite
Autodesk Building Design Suite
Autodesk Entertainment Creation Suite
Autodesk Factory Design Suite
Autodesk Infrastructure Design Suite
Autodesk Plant Design Suite
Autodesk Product Design Suite
เพิ่มประสิทธิภาพใช้งานฟังก์ชั่น Reality Capture
ในชุดซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุดของปี 2014 นี้มีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ซอฟต์แวร์ Autodesk ReCap ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่แคปเจอร์งานพร้อมบริการคลาวด์ที่ช่วยทำให้งานสร้างแบบ 3D ของวัตถุจริง หรือสภาพแวดล้อมสามารถทำได้ง่ายโดยใช้เลเซอร์สแกนและภาพ ช่วยให้เก็บภาพบริเวณไซต์งานจริง หรือวัตถุ วัสดุจริงรวมเข้าไว้ในงานดีไซน์และวิศวกรรมได้อย่างสะดวกและง่ายดาย
ชุดซอฟต์แวร์ปี 2014 นี้ยังมีเวิร์กโฟลว์ของกระบวนการทำงานที่ออกแบบมาให้ตรงกับความต้องการใช้งานเฉพาะทางของยูสเซอร์ และยังเพิ่มขีดความสามารถในการใช้งานร่วมกันของแต่ละซอฟต์แวร์ ตัวอย่างเช่น ชุดซอฟต์แวร์ที่มีโปรแกรม Autodesk Revit และ Autodesk AutoCAD ก็จะทำงานร่วมกันได้มากขึ้น เวลาที่จะต้องอิมพอร์ตฟอร์มที่สร้างมาจาก AutoCAD มาลงใน Revit ได้สะดวกและเมื่อจะต้องเปลี่ยนงานที่ทำให้กลับมาเป็น AutoCAD อีกครั้งยูสเซอร์ก็สามารถสร้างเอกสาร 2D ได้จากในตัวซอฟต์แวร์ Revit ได้เลย หรือในกรณีของซอฟต์แวร์ Autodesk Revit และ Autodesk Inventor ก็จะได้ประโยชน์จากสมรรถนะการทำงานร่วมกันที่สูงขึ้น โดยจะช่วยให้ลูกค้าผู้ใช้งานสามารถเอ็กพอร์ตไฟล์โมเดลใน Inventor ลงในฟอร์แมตของซอฟต์แวร์ Revit สำหรับงานก่อสร้างได้เลย โดยไม่ต้องประสบปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
ประหยัดค่าใช้จ่าย
ชุดซอฟต์แวร์แต่ละชุดจะมีนำเสนอทั้งในแบบประหยัดสำหรับลูกค้าที่ต้องการเข้าใช้ซอฟต์แวร์ดีไซน์หลักๆ และซอฟต์แวร์เสริมรวมทั้งเซอร์วิสคลาวด์ สำหรับงานออกแบบที่ต้องการความสมบูรณ์ของงานที่มากขึ้นรวมทั้งงานวิศวกรรมและงานออกแบบในสื่อบันเทิง โดยชุดซอฟต์แวร์ปี 2014 นี้จะนำเสนอในแบบ Standard, Premium และ Ultimate ที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณค่าในการใช้งานดังนี้
เวอร์ชั่น Standard ของทุกชุดซอฟต์แวร์ที่มี AutoCAD จะมีซอฟต์แวร์ AutoCAD Raster Design เพิ่มมาให้
ผู้สมัครใช้งานเซอร์วิส Autodesk Building Design Suite จะสามารถเข้าใช้งาน Autodesk Green Building Studio และบริการคลาวด์ ระบบการวิเคราะห์การใช้พลังงานได้ ในเวอร์ชั่นแบบมาตรฐาน ส่วนการใช้งานในแบบUltimate จะสามารถเข้าใช้งาน InfraWorks 2014 และ Optimization for Inventor ได้ด้วย
สำหรับลูกค้าที่ใช้งาน Autodesk Entertainment Creation Suite จะได้ประโยชน์จากเวิร์กโฟล์วใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา เช่น การสร้างภาพกลุ่มคนที่ยืนอยู่เฉยๆ หรือกำลังเคลื่อนที่ ปรับปรุงเพิ่มมุมมองการแสดง แสงและเงา รวมทั้งฟังก์ชั่นการนำฟอร์มจากสื่ออื่นมาซ้อนลงในโครงงานใหม่ล่าสุดเพื่องานเมชโปรดักชั่นการถ่ายทำระดับมาตฐาน
ชุดซอฟต์แวร์ Autodesk Factory Design Suite จะมีแอสเส็ทใหม่ๆ ของโรงงาน เพิ่มเติมเข้ามามากกว่า 300 รายการ
Autodesk Infrastructure Design Suite เวอร์ชั่น Premium จะมีซอฟต์แวร์ Autodesk InfraWorks 2014, Autodesk Roads and Highways Module for InfraWorks, Autodesk AutoCAD Utility Design และยังมีการรวมเอาซอฟต์แวร์ Autodesk Revit แบบครบเครื่องเข้าไว้เป็นครั้งแรก นับเป็นชุดผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่รวมเครื่องมือต่างๆ ไว้ครบครันสำหรับการออกแบบทางสถาปัตยกรรม เครื่องกล ไฟฟ้า และระบบท่อตลอดจนงานวิศวกรรมโครงสร้างต่างๆ
Autodesk Plant Design Suite เวอร์ชั่น Ultimate มีเพิ่มเติมซอฟต์แวร์คือ Autodesk Inventor พร้อมด้วย Routed Systems ในขณะที่ Plant Design Suite เวอร์ชั่น Premium จะมีซอฟต์แวร์ Autodesk 3ds Max Design รวมเข้าไว้ด้วย
Autodesk Product Design Suite เวอร์ชั่น Premium ได้รวมเอาซอฟต์แวร์ Autodesk Inventor Professional เข้าไว้ และในส่วนเวอร์ชั่น Ultimate ได้รวมเอาซอฟต์แวร์ Autodesk Navisworks Manage เข้าไว้ โดยลูกค้าของทั้ง Product Design Suite เวอร์ชั่น Ultimate และ Premium ที่ใช้บริการ Autodesk Subscription จะสามารถเข้าใช้งานบริการคลาวด์ Optimization for Inventor ได้
กำหนดการวางตลาด
กำหนดการวางตลาดจะต่างกันออกไปตามแต่ละประเทศ โดยลูกค้าที่ใช้บริการ Autodesk Suites และ Autodesk Subscription จะได้เข้าใช้งาน Autodesk 360 ในบางส่วน โดยผู้สมัครใช้บริการดังกล่าวสามารถเลือกซื้อ 100 เครดิตในระบบคลาวด์ได้ด้วยราคาเพียง 100 เหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 3,000 บาท) รายละเอียดและข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมที่เว็บไซต์ http://www.autodesk.com/purchaseoptions
