งาน The 34th Bangkok International Motor Show

ดูคาติเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ตระกูล Multistrada ครั้งแรกในงานมอร์เตอร์โชว์ พร้อมรับเงื่อนไขสุดพิเศษ กับแคมเปญดาว์นเริ่มต้น15% รวมประกันภัยชั้น1 พร้อมจดทะเบียน


   
          ดูคาติไทยแลนด์มาแรงฉลองครบรอบ 10 ปี เปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุด จากตระกูล Multistrada “ดูคาติ มัลติ-สตราด้า 1200 ในงานมอเตอร์โชว์ 2556 ปฎิวัติแนวคิดทางนวัตกรรม ชูจุดเด่นเทคโนโลยี 4 bikes in 1 เลือกโหมดการขับขี่ได้ พร้อมออกแคมเปญดาว์นต่ำ 15 % และเงื่อนไขสุดพิเศษเฉพาะในงาน
          นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด เปิดเผยว่า ดูคาติไทยแลนด์ฉลองครบรอบ 10 ปี เปิดตัวรถรุ่นใหม่ “Ducati Multistrada 1200” ใหม่ล่าสุดจากตระกูล Multistrada ทัวริ่งไบค์ที่เคยปฏิวัติแนวคิดทางนวัตกรรมทางเทคโนโลยีการออกแบบจนได้รับ รางวัลมาแล้วมากมาย พร้อมจัดแคมเปญสุดพิเศษดาว์นเริ่มต้น 15% หรือ 119,000 บาท ในงานมหกรรมยานยนต์ “มอเตอร์โชว์ 2556 ครั้งที่ 34” (The 34th Bangkok International MOTOR SHOW) เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของบิ๊กไบค์ในฝันได้สะดวกขึ้น พร้อมจัดแคมเปญพิเศษเฉพาะรุ่นอีกมากมาย
          โดยในปีนี้ Multistrada ยังคงเอกลักษณ์ “New Granturismo” ด้วยเทคโนโลยีใหม่ระบบ “Ducati Skyhook Suspension ” หรือ ระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะที่ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบกันสะเทือนไปตาม สภาพถนนหลากหลายแบบ ช่วยให้การเดินทางของคุณมีอิสระ และมีสุทรียภาพตามแรงบันดาลใจด้วยพิสัยการเดินทางใหม่, การปรับปรุงระบบการทำงานต่างๆ ได้ตามใจผู้ขับขี่, และสอดแทรกคุณลักษณะใหม่ๆจากเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น เครื่องยนต์แบบ Testastretta 11° DS ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนามาถึง Generation ที่ 2, ระบบเบรก ABS ใหม่จาก Bosch รุ่น 9ME ทำงานร่วมกันอย่างสมบรูณ์กับโหมดการขับขี่ที่ผู้ขับขี่เลือก และสามารถปรับเปลี่ยนค่าต่างๆ ได้ตามใจผู้ขับขี่, ไฟหน้าใหม่แบบ LED (ไฟต่ำ) ใหม่ให้ความสว่างสดใสและปลอดภัยทุกเส้นทาง
          รวมทั้ง เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ เช่น “4 bikes in 1” ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 โหมดการใช้งาน คือ Sport, Touring, Urban และ Enduro ทำให้ Multistrada มีลักษณะของรถ 4 แบบภายในคันเดียวโดยสั่งงานได้จากปลายนิ้วของผู้ขับขี่ได้ทันทีตามต้องการ ในระหว่างการขับขี่ซึ่งแต่ละโหมด ที่ผู้ขับขี่เลือก หลังจากนั้นระบบอิเล็กทรอนิกส์จะทำการปรับตั้งช๊อกอัพ การตอบสนองจากเครื่องยนต์ แรงบิด รวมไปถึงระบบความปลอดภัยอย่าง DTC ที่ป้องกันการหมุนฟรีของล้อ ระบบเบรก ABS และระบบ Ducati Skyhook Suspension ที่ให้ความแม่นยำและเหมาะสมกับทุกสภาพถนน
          ด้วยพละ กำลังล่าสุดจากเครื่องยนต์ถึง 150 แรงม้าจากเครื่อง Testastretta 11° DS ควบคุมโดยตรงผ่านข้อมือของผู้ขับขี่ ด้วยคันเร่งอิเลคทรอนิก Ride-By-Wire ที่ให้ความแม่นยำสูงสุด พร้อมกับน้ำหนักเปล่าที่ลดลงเหลือ 194 กิโลกรัม (สำหรับรุ่น Multistrada 1200 S Pikes Peak) ในด้านความปลอดภัย Multistrada ยังมีระบบ Ducati Safety Pack (DSP) จากแนวคิดประสานระบบความปลอดภัยบนตัวรถ ให้ทำงานอย่างสัมพันธ์กันของ ระบบเบรก ABS กับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี DTC ที่ปรับแต่งได้ถึง 8 ระดับ
          นอก จากคุณสมบัติต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น คุณยังสามารถเลือกรุ่น Multistrada 1200 ได้ตรงใจคุณมากขึ้น ด้วยรุ่นต่างๆ ดังนี้ 1. Multistrada 1200 ABS ที่ยังครบเครื่องระบบ DTC, ระบบ ABS ใหม่ คันเร่งแบบ Ride-By-Wire ในราคาพิเศษสุดเฉพาะช่วงเปิดตัวในระหว่างงานมอเตอร์โชว์ราคา 838,000 บาท จากปกติ 858,000 บาท
          2. Multistrada 1200 S Touring เพิ่มเติมอุปกรณ์จากรุ่นพื้นฐานประกอบด้วยระบบ DSS, กระเป๋าสัมภาระด้านข้าง, ขาตั้งคู่และกริปปลอกแฮนด์ที่ปรับอุณหภูมิได้ ในราคาพิเศษสุดเฉพาะช่วงเปิดตัวในระหว่างงานมอเตร์โชว์นราคา 998,000 บาท จากปกติ 1,029,000 บาท
          3. Multistrada 1200 S Pikes Peak เวอร์ชั่นฉลองแชมป์ 3 ปีซ้อนในการแข่งขันเดิร์ทแทรก (Dirt track) ขึ้นยอดเขา Pikes Peak สำหรับนักขับขี่คอสปอร์ต โดยการตกแต่งโทนสีจำลองลวดลายรถแข่งของทีม Ducati ในราคาพิเศษสุดเฉพาะช่วงเปิดตัวในระหว่างงานมอเตอร์โชว์ 1,099,990 บาท จากปกติ 1,169,000 บาท
          นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับแคมเปญพิเศษเฉพาะรุ่น ประกอบด้วย 1. ดูคาติรุ่น Monster 795 ABS ซึ่งถือเป็นรถที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชีวิตอิสระแนวสปอร์ต Naked ในราคา 439,500 บาท โดยเริ่มต้นดาว์นเพียง 65,925 บาท และสำหรับลูกค้าที่จองในงานมอเตอร์โชว์ จะรับสิทธิพิเศษในการซื้อDucati Maintenance Package สำหรับการตรวจเช็คสภาพและการซ่อมบำรุงจนถึงระยะ 12,000 กิโลเมตร ในราคา 9,900 บาท จากปกติ 18,900 บาท
          2. ดูคาติรุ่น Diavel ABS Black ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตครูสเซอร์ ขนาด 1,200 ซีซี ด้วยเงื่อนไขพิเศษดาว์น 139,000 บาท รวมประกันภัยชั้น 1 และจดทะเบียน ผ่อน 13,900 บาท จำนวน 48 เดือน และงวดสุดท้าย 239,000 บาท 3. ดูคาติรุ่น 848EVO หรือรถจักรยานยนต์ Superbike ที่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว ด้วยเงื่อนไขพิเศษ ดาว์น 178,480 บาท รวมประกันภัยชั้น 1 และจดทะเบียน ผ่อน 13,280 บาท จำนวน 48 งวด และงวดสุดท้าย 284,800 บาท
          4. ดูคาติรุ่น Multistrada 1200 ABS ที่นอกเหนือจากราคาพิเศษช่วงเปิดตัว 838,000 บาท ดูคาติไทยแลนด์ยังมอบเงื่อนไขพิเศษ ด้วยเงินดาว์น 119,000 บาท รวมประกันภัยชั้น 1 และจดทะเบียน โดยผ่อน 13,900 บาท จำนวน 48 งวด และงวดสุดท้าย 225,000 บาท
          นอกจากนี้ ในงานมหกรรมยานยนต์มอเตอร์โชว์ครั้งนี้ บูธดูคาติจะมี Ducati Apparel Outlet ซึ่งเป็นการนำเสื้อผ้า หมวกกันน๊อค และอุปกรณ์ต่างๆ ของดูคาติมาจำหน่ายในข้อเสนอพิเศษส่วนลดสูงสุด 50%
          ทั้งนี้ สำหรับยุทธศาสตร์การตลาดปี 2556 ดูคาติไทยแลนด์ มุ่งเน้นที่บริการหลังการขายเป็นหลัก และตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า โดยบริษัทมีแผนเปิดศูนย์บริการและโชว์รูม เพื่อขยายเครือข่ายให้สามารถรองรับบริการรถเข้าซ่อมได้กว่า 100 คัน ต่อวัน ครอบคลุมทุกหัวเมืองสำคัญทั้งประเทศ
          โดยปัจจุบันที่เปิดทำการ แล้วจำนวน 8 แห่ง ประกอบด้วย ทองหล่อ พระราม 3 สยามพารากอน พัทยา อุดรธานี โคราช ภูเก็ต และเชียงใหม่ และมีแผนเปิดใหม่อีก 4 แห่ง รวมเป็น 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 2 แห่ง คือ ถนนวิภาวดี และ ถนนราชพฤกษ์ สำหรับต่างจังหวัด 2 แห่ง คือ อ.หัวหิน จ.เพชรบุรี (หัวหิน) และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเฉพาะถนนวิภาวดีจะเป็นโชว์รูมครบวงจรที่มีพื้นที่กว่า 5,000 ตร. ม. ซึ่งจะถือเป็นโชว์รูมดูคาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย
          นอก จากนี้ยังเพิ่มบริการและสิทธิพิเศษต่างๆ หลังการขายให้แก่ลูกค้ามากมาย อาทิ Ducati Maintenance Package ซึ่งจะทำให้การตรวจเช็คสภาพและการซ่อมบำรุงตามระยะที่กำหนดถูกลงอย่างมาก Ducati Roadside Assistance 24 Hours ซึ่งเป็นบริการซ่อมแซมเบื้องต้นข้างทาง หรือการยกรถกลับศูนย์บริการดูคาติโดยไม่จำกัดระยะทาง เป็นต้น รวมทั้งยังเร่งพัฒนาบุคลากร โดยจัดอบรมช่างเทคนิค ดูคาติ ไทยแลนด์ร่วมกับดูคาติ อิตาลีตลอดทั้งปี เพื่อให้ได้มาตรฐานการบริการ Premium สูงสุด
          สำหรับจุดเด่นของดูคาติที่แตกต่างจากบริษัท อื่น คือถือเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่เพียงบริษัทเดียวในยุโรปที่ชนะการ แข่งขันระดับโลกมากที่สุด และรถจักรยานยนต์ดูคาติทุกคันล้วนพัฒนามาจากนวัตกรรมในสนามแข่ง ผลิตขึ้นด้วยความประณีต รูปลักษณ์และดีไซน์ที่สวยงานในไสตล์อิตาเลี่ยน จึงทำให้ดูคาติเป็นจักรยานยนต์ที่นิยมทั่วโลก โดยสามารถตอบโจทย์การใช้ไลฟ์ไสตล์ของลูกค้าได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่เพื่อท่องเที่ยว การขับขี่อย่างคล่องตัวเพื่อชีวิตในเมือง หรือการใช้ความเร็วแนวสปอร์ทในสนามแข่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี

          ติดต่อ:
          บริษัท แบงค์คอก ไรเตอร์ จำกัด
          ฝ่ายประชาสัมพันธ์
          โทร.085-918-1117

“THE WAVE” การจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกจากโตโยต้า ในงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34
   
          นาย วิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดบูธโตโยต้า ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 34 นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ยานยนต์ต้นแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมพร้อมด้วยรถยนต์รุ่นล่าสุด All New Vios เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย และรถยนต์รุ่นพิเศษหลากหลายรุ่นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2556 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติอิมแพค เมืองทองธานี

          บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมจัดแสดงรถยนต์อย่างยิ่งใหญ่บนพื้นที่ 2,052 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด “THE WAVE” ซึ่งเป็นการจัดแสดงที่จะเป็นรูปแบบเดียวกันของโตโยต้าทั่วโลก โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะการพับกระดาษญี่ปุ่นดั้งเดิม“โอริกามิ” ซึ่งมองดูเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยเส้นสายที่ปราดเปรียวแสดงถึงความแข็ง แกร่งและมีชีวิตชีวา โดยใช้โครงสร้างสถาปัตยกรรมรูปแบบ 3 มิติที่แตกต่างจากการจัดแสดงทั่วไปในงานมอเตอร์โชว์ เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกถึงความตื่นเต้นและดึงดูดผู้ชมให้มีความสนใจเกี่ยว กับ “โตโยต้า” มากยิ่งขึ้น พร้อมนำรถยนต์ต้นแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถยนต์รุ่นล่าสุด และรถยนต์รุ่นพิเศษต่างๆ มาจัดแสดงเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าทุกระดับ
 
          ยานยนต์ต้นแบบ ที่สะท้อนถึงปรัชญาของโตโยต้า เพื่อโลกอนาคต
          FCV-R
          รถต้นแบบรถยนต์ซีดานแห่งอนาคตที่ใช้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิงคันนี้ใช้ แหล่งพลังงานจากไฮโดรเจนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะอาดปราศจากการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์และสามารถผลิตได้จากหลากหลายแหล่ง ทั้งยังง่ายต่อการจัดเก็บและขนย้าย โดยรถต้นแบบนี้เป็นรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง (FCV:Fuel Cell Vehicle) ที่ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งจะเปิดตัวประมาณปี 2558 ด้วยแท่งเซลล์เชื้อเพลิงใต้ตัวถังรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ รถยนต์รุ่นนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงสี่คนพร้อมกับเนื้อที่ห้องสัมภาระ ขนาดใหญ่ แท่งเซลล์เชื้อเพลิงที่ประกอบด้วยถังใส่ไฮโดรเจนแรงดันสูง 70 เมกะปาสคาล (MPa) ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ได้ระยะทางวิ่งมากกว่า 700 กิโลเมตร
 
 
รถยนต์   ความยาว   ความกว้าง   ความสูง   ฐานล้อ   ที่นั่ง
เอฟซีวี-อาร์   4,745 มม.   1,790 มม.   1,510 มม.   2,700 มม.   4
         
          Toyota Fun – Vii
          ยานยนต์ต้นแบบที่สื่อถึงนิยามของอนาคตโดยการเชื่อมต่อผู้คน ยานยนต์ และสังคมเข้าไว้ด้วยกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตอินเทอร์แอคทีฟ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเปิดประสบการณ์ความสนุกสนานรูปแบบใหม่ให้แก่ผู้ขับขี่ ผ่านฟังก์ชั่นการตอบสนองแก่ผู้ขับขี่ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยตัวรถมีลักษณะเป็นจอภาพที่สามารถปรับแต่งสีสัน แสดงภาพเคลื่อนไหวรวมถึงใส่ข้อความได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ ภายในห้องโดยสารสามารถปรับเปลี่ยนสีสันได้ตามอารมณ์ Fun-Vii ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยใช้เทคโนโลยีในการชาร์จพลังงานแบบไร้สาย เพียงเข้าจอดในบริเวณที่กำหนดและสามารถชาร์จพลังงานได้อย่างรวดเร็ว
 
 
รถยนต์   ความยาว   ความกว้าง   ความสูง   ฐานล้อ   ที่นั่ง
โตโยต้า ฟัน-วี   4,020 มม.   1,745 มม.   1,451 มม.   2,750 มม.   3

          เผยโฉมรถยนต์โตโยต้ารุ่นล่าสุด
          All New VIOS…Have it all
          เผย โฉม วีออส ใหม่ สู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 34 โดย วีออส ใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาด้วยแนวความคิด "Value Beyond Belief"ให้เป็นสุดยอดยนตรกรรมคุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่เหนือทุกความคาดหมาย ซึ่งนอกเหนือจากความคุ้มค่าซึ่งเป็นเอกลักษณ์และจุดแข็งของวีออสแล้ว วีออสรุ่นนี้ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบเป็นอย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน พื้นที่กว้างขวางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมสมรรถนะการขับขี่และความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม ตอบสนองต่อทุกความต้องการ

          สัมผัส และเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นพิเศษ

          New Corolla Altis TRD Sportivo
          รถ ยนต์นั่งรุ่นยอดนิยม โคโรลล่า อัลติส ทีอาร์ดี สปอร์ติโว ใหม่ มีพื้นฐานมาจาก โคโรลล่า อัลติส รุ่น 1.8E โดยนำมาติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งในสไตล์สปอร์ต เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบดีไซน์ที่โดดเด่น เร้าใจ ไม่เหมือนใคร ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 3,200 คัน เท่านั้น

          Camry 2.0G Extremo
          ทางเลือก สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบ การตกแต่งรถสไตล์สปอร์ตแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราภูมิฐานในแบบโตโยต้า คัมรี่ โดยมีสีภายนอกให้เลือก 2 สี สีขาวมุกและสีดำ สีภายในมี 2 โทนสีให้เลือกทั้งสีเบจและสีดำ

          Hilux Vigo TRD Sportivo
          สุด ยอดรถกระบะยอดนิยมที่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันทั้งภายนอกและ ภายในรวมถึงระบบกันสะเทือนด้านหน้าเเละหลัง ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น

          โตโยต้า...มอบของขวัญแทนคำขอบคุณ

          ใน ปีนี้เป็นปีแรกของการก้าวเข้าสู่ 50 ปีต่อไปของโตโยต้าในประเทศไทย โตโยต้ามุ่งมั่นที่จะ “ขับเคลื่อนความสุข” หรือ Mobility of Happiness เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับลูกค้าและสังคมไทย
          โตโยต้า จึงขอมอบของขวัญแทนคำขอบคุณ สำหรับผู้ที่จองและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 7 เมษายน 2556 รับ Samsung Galaxy Tab 2 (7.0) พร้อมใช้บริการ Toyota New Smart G-Book นาน 1 ปี มูลค่ารวม 12,890 บาท โดยรถยนต์นั่งโตโยต้า 10 รุ่น ที่ได้รับสิทธิ์มีดังนี้

          - โตโยต้า คัมรี่
          - โตโยต้า พริอุส
          - โตโยต้า พริอุส ซี
          - โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส(เฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติ)
          - โตโยต้า วีออส (เฉพาะรุ่นปรับปรุงโฉมปี 2553)
          - โตโยต้า ยาริส
          - โตโยต้า อแวนซา
          - โตโยต้า อินโนวา
          - โตโยต้า อัลฟาร์ด
          - โตโยต้า 86

          สำหรับ ไฮลักซ์ วีโก้ ทุกรุ่น รับบัตรเติมเชื้อเพลิงมูลค่า 10,000 บาท พิเศษสำหรับ ไฮลักซ์ วีโก้ CNG ทุกรุ่น รับเพิ่ม โปรแกรมเลื่อนระยะเวลาชำระค่างวดเป็น 90 วัน

          พร้อมกันนี้ ได้จัดแสดง “โครงการถนนสีขาว” หรือ White Road ที่เป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักในการส่งเสริมให้ทุกชีวิตในสังคมไทยมีความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน ภายใต้แนวคิด “วินัยและน้ำใจ สู่วัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนน” เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีส่วนร่วมด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี และตระหนักถึงการใช้รถใช้ถนนอย่างมีวินัยและน้ำใจ

          พบกับรูปแบบการจัดแสดงระดับโลก“ THE WAVE ” จากโตโยต้า
          ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34
          ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน นี้
          ที่ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

“Creating Amazing” สัมผัสความล้ำหน้าแห่งยนตรกรรมที่บูธเลกซัส พบกับ เลกซัส IS300h สปอร์ตซีดานไฮบริด สุดหรู ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค

           นาย ศิตชัย จีระธัญญาสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดบูธ เลกซัส ภายใต้แนวคิด “Creating Amazing” ที่แสดงถึงความล้ำสมัยแห่งยนตรกรรมจากเลกซัสพบกับรถยนต์ไฮบริดสุดหรูสไตล์ สปอร์ต Lexus IS300h เเละรถยนต์เลกซัส หลากหลายรุ่นในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 34 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2556 ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ฮอลล์ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติอิมแพค เมืองทองธานี

          “เลกซัสกรุ๊ป” เข้าร่วมแสดงยานยนต์ระดับหรูในนาม เลกซัส ภายใต้แนวคิด “Creating Amazing” ที่สะท้อนถึงความมหัศจรรย์แห่งยนตรกรรม อันเกิดจากการผสมผสานระหว่างความล้ำหน้าของเทคโนโลยีและวิศวกรรม ความโดดเด่นในด้านการออกแบบ และความประณีตของช่างฝีมือชั้นครู ประกอบกันจนเกิดเป็นยนตรกรรมชั้นเลิศของเลกซัส

          เพื่อให้ ผู้เข้าร่วมงานสัมผัสความล้ำสมัยได้อย่างเต็มอิ่ม จึงได้ทำการแบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 3 โซน โดยโซนแรกได้จัดแสดงรุ่นที่เป็นไฮไลท์ของงาน Lexus IS300h รถยนต์ไฮบริด สไตล์สปอร์ตสุดหรู โซนที่สองจัดแสดงรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่นของ เลกซัส อาทิ LS600h CT200h และโซนที่สามจัดแสดงรถยนต์ ที่ใช้เครื่องยนต์แก๊สโซลีน อาทิ RX270 RX350 GS250 GS350

          เลกซัส IS300h
 
          สัมผัสมิติใหม่แห่งไฮบริดสปอร์ตซีดานเหนือระดับ เลกซัส IS300h เผยเสน่ห์สไตล์สปอร์ตดึงดูดทุกสายตา ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นดุดัน ผสานเส้นสายคมกริบปราดเปรียวพร้อมกระจังหน้า Spindle Grille อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเลกซัส ภายในได้รับการออกแบบโดยการคำนึงถึงอรรถประโยชน์ใช้สอยและความสะดวกสบายภาย ใต้หลักการ HMI “Human-Machine Interface” โดยการแบ่งพื้นที่การใช้งานอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของการควบคุมและการแสดงผล ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากการมองเส้นทาง ทำให้เกิดความสะดวกสบาย และความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง ผสานทุกประโยชน์ใช้สอยกับสุนทรียภาพของงานศิลป์อย่างลงตัว เหนือชั้นทุกการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 2.5 ลิตร พร้อมระบบการทำงานไฮบริด ที่ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ตอบสนองทุกความต้องการอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการผสานความสปอร์ตเข้ากับเทคโนโลยีล้ำหน้า

          พร้อมสัมผัสความสมบูรณ์แบบของยานยนต์ เลกซัส ทุกรุ่น
          IS
          - IS250 (F Sport) 3,990,000 บาท
          - IS300h (Premium package) 3,490,000 บาท
          - IS300h (Luxury package) 2,990,000 บาท

          LS
          - LS600hL (Long Wheelbase / 5 seater) 13,580,000 บาท
          - LS460L (Long Wheelbase /4 seater) 11,780,000 บาท
          - LS460L (Long Wheelbase /5 seater) 11,680,000 บาท
          - LS460 (F Sport / 5 seater) 9,990,000 บาท
          - LS460 (5 seater) 9,850,000 บาท

          GS
          - GS450h (Premium package with Moon Roof) 7,790,000 บาท
          - GS350 (F-Sport with Moon Roof) 6,690,000 บาท
          - GS250 (Premium package) 5,090,000 บาท
          - GS250 (F-sport with Moon Roof) 4,990,000 บาท
          - GS250 (Luxury package) 4,590,000 บาท

          CT
          - CT200h (F-Sport Navi with Moon Roof) 2,920,000 บาท
          - CT200h (Premium package Navi with Moon Roof) 2,720,000 บาท
          - CT200h (Premium package Navi) 2,620,000 บาท
          - CT200h (F-Sport package) 2,420,000 บาท
          - CT200h (Luxury package) 2,215,000 บาท

          RX
          - RX450h (Premium package with Moon Roof) 7,040,000 บาท
          - RX350 (Premium package with Moon Roof) 6,040,000 บาท
          - RX270 (Premium package with Moon Roof) 4,440,000 บาท
          - RX270 (Premium package) 4,140,000 บาท

          เลือกเป็นเจ้าของ...ยนตรกรรมชั้นเลิศ
          จากผู้แทนจำหน่าย เลกซัส อย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่ง ได้แก่
          - บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด (พระราม 9) โทรศัพท์ 0 2716 8999
          - บริษัท เลกซัส สุขุมวิท จำกัด (สุขุมวิท 18) โทรศัพท์ 0 2260 8123
          - บริษัท เลกซัส ออโต้ซิตี้ จำกัด (รามอินทรา กม. 2) โทรศัพท์ 0 2521 1111

          รถ ยนต์เลกซัสทุกรุ่นที่ซื้อจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการจะได้รับการ รับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมรับสิทธิ์เป็นสมาชิก Lexus Club พร้อมเพิ่มความอุ่นใจในทุกการเดินทางด้วย เลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ทั้ง 10 แห่ง ทั่วประเทศ

ฟอร์ด เปิดตัวเอคโคสปอร์ต ใหม่ ครั้งแรกในอาเซียน ณ งานมหกรรมยานยนต์ บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 เดินหน้ากลยุทธ์ขยายตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่



          ฟอร์ดจัดแสดงสุดยอดรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ๆ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการรุกตลาดรถยนต์ขนาดเล็กที่ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วตามแผนเดินหน้าสร้างความเติบโตอย่างรวดเร็วใน ภูมิภาคอาเซียน

          โดดเด่นที่สุดที่บูธฟอร์ด สำหรับงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ในครั้งนี้ คือการเปิดตัวครั้งแรกของ ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ รถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็คสไตล์สปอร์ต ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน Ti-VCT ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมมอบความประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้นเช่นเดียวกับรถยนต์ยอดนิยมฟอร์ด เฟียสต้า

          ผู้สื่อข่าวที่มาร่วมงานในรอบสื่อมวลชนยังได้ รับโอกาสพิเศษในการยลโฉมรถฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ซึ่งเป็นผลงานการปรับโฉมสุดยอดรถยนต์นั่งขนาดเล็กของฟอร์ด โดยเฟียสต้า ใหม่ ยังคงมาพร้อมกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีมากมาย ที่ทั้งชาญฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ 1.0 ลิตร เจ้าของรางวัลมากมายอีกด้วย

          การที่ฟอร์ด ให้ความสำคัญอย่างมากต่อรถยนต์ขนาดเล็กถือเป็นการเน้นย้ำถึงแผนงานของบริษัท ที่ต้องการเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่องด้วยการรุกเข้าสู่เซกเม้นต์ที่กำลังได้ รับความนิยมอย่างสูงทั่วทั้งภูมิภาค

          นอกจากนี้ ฟอร์ดยังคาดหวังว่า 60-70 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงทศวรรษนี้จะมาจากภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก โดยมีอาเซียนเป็นตลาดหลักที่สำคัญในการขยายการเติบโตของบริษัทอย่างต่อ เนื่อง

          “อาเซียนเป็นตลาดที่มีโอกาสในการเติบโตอย่างมาก สำหรับธุรกิจของฟอร์ดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” มร. อลัน มูลัลลี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว “แผนงานและการพลิกโฉมทางธุรกิจโดยใช้รถรุ่นใหม่ในการเบิกทางนั้นช่วยให้เรา นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เป็นผู้นำในแต่ละเซกเม้นต์ได้มากขึ้น อย่างเช่น เอคโคสปอร์ต ใหม่ และเฟียสต้า ใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าด้วย การนำเสนอรถยนต์และรถกระบะที่พวกเขาต้องการและตระหนักถึงความคุ้มค่าจริงๆ”
 
          คำบรรยายภาพ: มร. อลัน มูลัลลี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี มร. เดฟ ช็อก ประธาน ฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมเปิดตัว ฟอร์ด เอคโคสปอร์ตใหม่ ในวันสื่อมวลชน ณ งานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ในประเทศไทย ทั้งนี้ มร. มูลัลลี ได้เข้าร่วมงานเมื่อวันอังคาร (26 มีนาคม) ที่ผ่านมาเป็นโอกาสพิเศษเพื่อตอกย้ำกลยุทธ์การเติบโตของฟอร์ด ในภูมิภาคอาเซียนและ เอเชีย แปซิฟิค

วอลโว่ V40 ใหม่เปิดจองราคาโดนใจ เริ่มต้น 1.68 ล้านบาท ขึ้นแท่นเจ้าตลาดแฮทช์แบค 5 ประตูระดับพรีเมี่ยม



          วอ ลโว่ร่วมกระแสแฟชั่นแห่งยนตรกรรม คัดรถยนต์สุดหรูดีไซน์ล้ำสมัยครบทุกรุ่นร่วมโชว์โฉม พร้อม เปิดจองในมอเตอร์โชว์ 27 มีนาคม - 8 เมษายนนี้ และเปิดตัว “วอลโว่ V40 รุ่นใหม่ล่าสุด” อย่างเป็นทางการชิงเจ้าตลาดรถ 5 ประตูแฮทช์แบคระดับพรีเมี่ยม ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นปราดเปรียวแบบรถ 5 ประตูซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติและบุคลิกรถหรูรุ่นใหญ่ ออกแบบตามแนวคิด “Designed Around You” ในราคา 1.68 ล้านบาทสำหรับรุ่น B และ 1.79 ล้านบาทสำหรับรุ่น S รวมทั้งมอบข้อเสนอพิเศษมากมาย ทั้งดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นที่ 0.6% และเลือกรับของสมนาคุณมากมาย อาทิ แพ็คเกจทัวร์ฮ่องกง Mac Book Air และเพชรน้ำงาม

          นางฉันทนา วัฒนารมย์ ประธานบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ธีมการจัดงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ คือ Street of Automotive Fashion หรือแฟชั่นแห่งโลกยนตรกรรม นั้น มีความสอดคล้องกับแนวคิดในการออกแบบรถยนต์ของวอลโว่ภายใต้ “Designed Around You” ซึ่งหมายถึงการออกแบบ ยานยนต์ที่ให้ “คน” เป็นจุดศูนย์กลางในการออกแบบ จึงทำให้รถยนต์ทุกคันของวอลโว่สามารถตอบสนองความต้องการทุกด้านของลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟังชั่นส์การใช้งาน เทคโนโลยีความปลอดภัย รูปลักษณ์ที่ โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว ตลอดจนดีไซน์ทันสมัย ที่สามารถสร้างความโดดเด่นบนเวทีแฟชั่นยานยนต์ได้อย่างเหนือระดับ สะท้อนความสำเร็จผ่านยอดขายในปี 2555 ที่ 1,854 คัน เติบโตขึ้น 55% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 ที่ผ่านมา”

          ในงานนี้ วอลโว่ได้นำรถยนต์ครบทุกรุ่นมาโชว์ โดยเฉพาะการเปิดตัววอลโว่ V40 รุ่นใหม่ รถ 5 ประตูแฮทช์แบคระดับพรีเมี่ยมที่เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ครบครันเหมือนในรถขนาด ใหญ่ ออกแบบมาให้ปรับตัวเข้ากับคนขับ แทนที่จะให้คนขับปรับตัวเข้ากับรถ และให้ผู้ขับได้ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแนวคิด “Designed around You” จึงโดดเด่นมากใน 3 ด้าน ได้แก่ รูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวมีสไตล์สะดุดตา การสร้างประสบการณ์ใหม่โดยให้อิสระกับผู้ขับขี่ในการเลือกสร้างบรรยากาศและ แสดงข้อมูลตามอารมณ์ในการขับขี่ เช่น ไฟ LED การจัดแสงภายในห้องโดยสารแบบเดียวกับในโรงละคร สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 7 โทนสีตามอารมณ์ ฯลฯ และความเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือกว่า ซึ่งทำให้ วอลโว่ V40 ใหม่เป็นรถ IntelliSafe หรือรถอัจฉริยะและปลอดภัยที่สุดในตลาดเดียวกัน ทั้งยังเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อมโดยผ่านมาตรฐานยูโร 5

          วอลโว่ V40 ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน T5 แบบ 5 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้พลังแรง 213 แรงม้า และแรงบิด 300 นิวตันเมตร ติดตั้งเกียร์ออโตเมติก 6 สปีด ที่ตอบสนองทันใจเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวล รองรับน้ำมันได้หลากหลายทั้งเบนซิน 95, E10 และ E20 ได้

          ใน ด้านการออกแบบ วอลโว่ V40 ใหม่ พรีเมี่ยมแฮทช์แบค 5 ประตู มีรูปลักษณ์หรูหราสง่างาม ด้วยการผสานความกะทัดรัดและปราดเปรียวของรถยนต์คอมแพคกับคุณสมบัติและบุคลิก ของรถหรูรุ่นใหญ่ บุคลิกโดดเด่นมีสไตล์ ภายในติดตั้งเบาะนั่งที่โอบอุ้มรับสรีระผู้นั่งในทุกที่นั่ง กระจกมองหลังแบบไร้กรอบสุดเท่ สามารถปรับหน้าจอข้อมูลให้เป็นสไตล์ของตัวเอง เพียงโยกคันบังคับที่อยู่หลังพวงมาลัย หน้าปัดแบบดิจิตอลของวอลโว่ V40 แสดงผลได้ถึง 3 แบบตามอารมณ์ในการขับขี่ คือ แบบ Elegance ที่มาพร้อมหน้าปัดแบบธรรมดา, Performance แสดงผลหน้าจอเพื่อการขับขี่ที่เร้าใจ และ Eco เพื่อการขับขี่ สุดประหยัด

          ใน ด้านความปลอดภัย วอลโว่ V40 ใหม่ให้การปกป้องที่เหนือกว่า จนได้รับการจัดอันดับระดับ 5 ดาวในการทดสอบการชนของ Euro NCAP ที่เข้มข้น สามารถทำคะแนนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในทุกหัวข้อทั้งการทดสอบการปกป้อง ผู้ใหญ่ (Adult Protection) ด้านระบบเพิ่มความปลอดภัย (Safety Assist) และด้านการปกป้องคนเดินถนน เนื่องจากวอลโว่ V40 มีเทคโนโลยีทันสมัยมากมาย อาทิ ระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ (City Safety) ที่ปรับปรุงใหม่ให้ทำงานครอบคลุมถึงความเร็วไม่เกิน 50 กม./ช.ม. (จากเดิม 30 กม./ช.ม.) โดยหยุดรถให้เองหากคนขับไม่แตะเบรกขณะที่รถคันหน้าชะลอความเร็วหรือหยุด หรือเมื่อรถพุ่งเข้าหารถคันหน้าที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ด้วยความเร็วสูงเกินไป ระบบ Lane Keeping Aid ช่วยให้รถอยู่ในเลนของตัวเอง หากหัวรถเบนออกนอกแนวที่ควรจะเป็น ระบบจะส่งสัญญาณทำให้พวงมาลัยสั่น

          เพื่อ เตือนให้คนขับดึงให้รถกลับเข้ามาในแนวที่ควรจะเป็น ระบบนี้ทำงานในขณะที่รถใช้ความเร็วระหว่าง 65-200 กม./ช.ม. ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Park Assist Pilot) ช่วยให้จอดแบบขนานขอบทางได้อย่างง่ายดาย โดยที่ระบบอัจฉริยะจะควบคุมการบังคับเลี้ยวของรถเอง ผู้ขับขี่เพียงกำหนดความเร็วและเกียร์เท่านั้น ระบบกล้องและสัญญาณเตือนมุมอับสายตารุ่นใหม่ (BLIS) ที่ใช้เรดาร์ช่วยในการติดตามและแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถขับมาทางด้าน หลังในจุดที่อับสายตาทั้งด้านซ้ายและขวาห่างไปในระยะ 70 เมตร ช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนเลน และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด (Cross Traffic Alert) เมื่อถอยรถออกจากช่องจอดรถ เรดาร์จะส่งเสียงและแสดงภาพเตือนหากมีรถวิ่งอยู่ในระยะ 30 เมตรทั้งสองด้าน

          โปรโมชั่นโดนใจในมอเตอร์โชว์
          นอกจากนี้ วอลโว่ยังจะนำรถยนต์รุ่นอื่นๆ มาโชว์และเปิดจองในงาน โดยมอบข้อเสนอพิเศษ เริ่ม 8 มีนาคม – 30 เมษายน 2556
          - รุ่น S60 รับข้อเสนอดอกเบี้ยต่ำ 0.6% พร้อมรับทันที iPad Mini 32 GB Wifi
          - รุ่น XC90 รับข้อเสนอดอกเบี้ยต่ำ 0.9% พร้อมรับทันที iPad Mini 32 GB Wifi
          - รุ่น S80 รับข้อเสนอดอกเบี้ยต่ำ 0.8% พร้อมรับทันที iPad Mini 32 GB Wifi พร้อมเลือกรับ 1 จาก 6 รายการ ได้แก่ การขยายเวลารับประกันเพิ่มอีก 2 ปีจากเดิม 3 ปี รวมเป็น 5 ปี / บัตรของขวัญจากเซ็นทรัล / บัตรเติมน้ำมัน Fleet Shell Card / เพชรน้ำงาม / แพ็คเกจทัวร์ฮ่องกง / รับ Mac Book Air
          - รุ่น V60 และ XC60 พร้อมรับทันที iPad Mini 32 GB Wifi พร้อมเลือกรับ 1 จาก 6 รายการ ได้แก่ การขยายเวลารับประกันเพิ่มอีก 2 ปีจากเดิม 3 ปี รวมเป็น 5 ปี / บัตรของขวัญจากเซ็นทรัล / บัตรเติมน้ำมัน Fleet Shell Card / เพชรน้ำงาม / แพ็คเกจทัวร์ฮ่องกง / รับ Mac Book Air

          ผู้ ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์วอลโว่ทุกรุ่นได้ทางทวิตเตอร์ @VOLVOCARTH หรือทางอินสตาแกรม @VOLVOCARTH หรือทาง YouTube ได้ที่ VOLVOCARSTHAILAND และทางเฟสบุ๊ค http://www.facebook.com/volvoTH

          พบกับรถยนต์เหนือระดับและข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้จากวอลโว่ 25 มีนาคม – 7 เมษายนนี้ 2556 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ภาพข่าว: Miss Motor Show2013



          ปิ ยาภรณ์ สามประทีป ผู้จัดการส่วนการตลาดเครื่องสำอาง KMA (เค เอ็ม เอ) บมจ.โอซีซี ร่วมเป็นกรรมการตัดสินการประกวด “Miss Motor show 2013” ที่จัดขึ้นเพื่อค้นหาสาวงามที่มีความโดดเด่น และกล้าแสดงออก สำหรับตำแหน่งมิสมอเตอร์โชว์ในปีนี้ ได้แก่ น้องปอปลา ปาริชาติ บุญยืนพร้อม โดย เครื่องสำอาง KMA (เค เอ็ม เอ) ร่วมแต่งหน้าให้กับสาวงามผู้เข้าประกวด ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเร็ว ๆนี้
   
   

ปอร์เช่ขนทัพรถหรูร่วมโชว์ในงานมอเตอร์โชว์ 2013











          บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวใน ประเทศไทย เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 เพื่อเป็นการประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียง ผู้เดียวในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะมีโอกาสได้สัมผัสสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกอย่างใกล้ ชิด ประกอบด้วย ปอร์เช่ เคย์แมน เอส ใหม่ (New Cayman S), บ็อกซ์เตอร์ (Boxster), 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4), 911 คาร์เรร่า (911 Carrera), 911 คาร์เรร่า เอส คาบริโอเลต (911 Carrera S Cabriolet), พานาเมร่า เอส ไฮบริด (Panamera S Hybrid), คาเยนน์ เอส ไฮบริด (Cayenne S Hybrid)

          เอเอเอสฯ ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้ เดียวในประเทศไทย ให้ความมั่นใจว่ารถยนต์ทุกคันที่ทางเอเอเอสฯ นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ผ่านการทดสอบโฮโมโลเกชั่น (Homologation) ของประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและครบทุกกระบวนการที่จำเป็นและสำคัญ สำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ระบบจัดการของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับ กฎระเบียบและสภาพ ภูมิประเทศของประเทศไทยอย่างดีที่สุด รวมถึงยังมีศูนย์บริการของรถยนต์ปอร์เช่ที่ได้มาตรฐานตามโรงงานปอร์เช่ ประเทศเยอรมนีกำหนดไว้ พร้อมทั้งมีทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานโดยตรง พร้อมให้การดูแลและบริการรถยนต์ปอร์เช่ของท่าน โดยลูกค้าสามารถมั่นใจในบริการที่จะได้รับ หากซื้อรถยนต์กับทางเอเอเอสฯ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการบริการหลังการขายที่ได้คุณภาพโดยตรงจากโรงงานปอร์เช่ประเทศ เยอรมนี ราคาที่เสียภาษีนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคุณภาพของรถยนต์ปอร์เช่ที่ได้มาตรฐาน ไม่เพียงเท่านั้นทางเอเอเอสฯ ยังได้จัดแคมเปญสุดพิเศษมามอบให้ท่านลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์ปอร์เช่ภายในงาน นี้

          - รับข้อเสนอพิเศษ ผ่อน 0% นาน 36 เดือน* พร้อมรับประกันจากโรงงานปอร์เช่เยอรมนีนาน 9 ปี และ Service Package นาน 4 ปี*
          - ซื้อรถยนต์ปอร์เช่ เคย์แมน (Cayman) ภายในงานนี้ รับข้อเสนอราคาพิเศษเพียง 8.99 ล้านบาท

          นอก จากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่ทางเอเอเอสฯ ได้จัดเตรียมให้ทุกท่านร่วมสัมผัสและค้นหา ความสุนทรีย์ของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กันอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถยนต์ไฮไลท์ประจำบูธที่จะสะกดสายตาคุณให้หลงใหลไปกับสมรรถนะอันลือ เลื่องที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมี Accessories ต่างๆ ของปอร์เช่มาให้ท่านเลือกสรรมากมายในราคาพิเศษ ภายในงาน Motor Show 2013 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. - 7 เม.ย. 2556 นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ ได้ที่ แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

รถยนต์นั่งอเนกประสงค์เพื่อการขับขี่ในเมือง ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ เผยโฉมในอาเซียน



          - ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ ได้รับการออกแบบเพื่อการขับขี่ในเมืองเพียบพร้อมด้วยดีไซน์อันโดดเด่น พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ตอบสนองต่อการใช้งานแบบอเนกประสงค์ คล่องตัว และประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
          - ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ มีทัศนะวิสัยในการขับขี่ที่เหนือกว่า สามารถลุยน้ำได้อย่างเหนือชั้น และติดตั้งอุปกรณ์อันชาญฉลาดมากมาย อาทิ ระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร ฟอร์ด ซิงค์ นำเสนอความสมบูรณ์แบบที่เหมาะทั้งสำหรับการขับขี่ในเมืองและเดินทางท่อง เที่ยว
          - ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตรที่ทันสมัย พร้อมระบบวาล์วแปรผันแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ (Ti-VCT) ช่วยเพิ่มแรงบิดที่รอบต่ำและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

          ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ ที่หลายคนตั้งตาคอยเผยโฉมครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน ณ งานมหกรรมยานยนต์บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 พร้อมรุกตลาดรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ (เอสยูวี) เพื่อการขับขี่ในเมืองซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้ ด้วยตัวเลือกที่เพียบพร้อมทั้งด้านความคล่องตัวในการขับขี่ อัตราการประหยัดน้ำมันเทียบได้กับรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค มีความยืดหยุ่นและให้พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางแบบรถเอสยูวีในราคาที่คุณเป็น เจ้าของได้

          ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ ได้รับการพัฒนาขึ้นบนโครงสร้างตัวถังของรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับโลก (บีคาร์ แพลตฟอร์ม) เพื่อมอบตัวเลือกอันเร้าใจให้แก่ผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ขนาดคอมแพ็คซึ่ง กว้างขวางพอที่จะรองรับผู้ใหญ่ 5 คนและบรรทุกสัมภาระต่างๆ อย่างสะดวกสบาย ผสานการใช้งานแบบอเนกประสงค์และการเชื่อมต่ออย่างเหนือชั้นทำให้ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต เป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับกลุ่มลูกค้าที่รักความอิสระ ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และรักการเดินทางเพื่อเปิดโลกกว้าง ด้วยการปรับตำแหน่งผู้ขับขี่ให้อยู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น เพื่อทัศนะวิสัยที่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้รถรุ่นนี้พร้อมสำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและพาคุณลุยไปได้ทุกแห่ง

          ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ มอบความสะดวกสบายในการขับขี่ แม้ว่าคุณจะต้องขับลุยน้ำที่ความสูง 550 มิลลิเมตร เพราะคุณจะสามารถสนุกสนานกับความบันเทิงภายในรถไม่ว่าจะเป็นการโทรออกและรับ สายโทรศัพท์ รวมทั้งการเลือกเพลงต่างๆ แบบ hands-free ผ่านระบบการสั่งงานด้วยเสียง ฟอร์ด ซิงค์ นอกจากนี้ คุณยังสดชื่นกับการจิบเครื่องดื่มได้ตลอดทางด้วยกล่องเก็บของแบบรักษาความ เย็นที่จุเครื่องดื่มได้ถึง 6 กระป๋อง

          ฟอร์ดจัดแสดงรถ รุ่นท็อป ‘ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ไทเทเนียม’ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ โดยเอคโคสปอร์ต ไทเทเนียม สีแดง (Mars Red) ติดตั้งหลังคาซันรูฟ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และกระจังหน้าแบบโครเมี่ยม

          ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ จะผลิตที่โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง ซึ่งเป็นโรงงานแห่งใหม่อันทันสมัยของฟอร์ดในจังหวัดระยอง เพื่อวางจำหน่ายทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งตลาดส่งออกอื่นๆ นอกจากนี้ ฟอร์ดยังผลิตเอคโคสปอร์ตในอีกหลายประเทศ อาทิ ประเทศจีน อินเดีย และในทวีปอเมริกาใต้ โดยรถเอสยูวีสุดทันสมัยคันนี้จะวางจำหน่ายในเกือบ 100 ประเทศทั่วโลก

          “ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ คือพัฒนาการก้าวสำคัญในการพลิกโฉมทางธุรกิจของเราด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ ดีเยี่ยมในภูมิภาคนี้” มร. แมท แบรดลีย์ ประธานฟอร์ด อาเซียน กล่าว “รถคันนี้คือส่วนผสมของสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งความคล่องตัวและการประหยัดน้ำมันแบบรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค และยังตอบสนองต่อการใช้งานที่ทนทานแบบรถเอสยูวี ภายใต้ตัวถังที่ดูทันสมัยอีกด้วย”

          ความงามจากภายในจรดภายนอก
          จาก ครั้งแรกที่ได้เห็น รูปลักษณ์อันโดดเด่นและความลู่ลมของฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ ให้ความรู้สึกราวกับรถคันนี้อยู่ในท่าเตรียมพร้อมที่จะพุ่งไปข้างหน้า กระโปรงหน้ารถกว้างเชื่อมต่อกับเส้นด้านข้างตัวถังสะท้อนถึงพลังแห่งการ เคลื่อนไหว ไฟหน้าเรียวบางทอดตัวยาวเป็นกรอบด้านบนของกระจังหน้ารูปสี่เหลี่ยมคางหมู สะท้อนเอกลักษณ์ในการออกแบบของฟอร์ด

          เสากลางได้รับการออก แบบให้เป็นสีดำทำให้กระจกด้านข้างทั้งหมดของรถผสานกันเป็นชิ้นเดียวช่วย เพิ่มความหรูหรา เส้นสายด้านข้างตัวถังซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างแนวกระจกและขอบประตูทอดตัวใน แนวเฉียงขึ้นจากด้านหน้าจรดท้าย ด้านหลังของรถได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่นด้วยกระจกขนาดใหญ่ที่โอบรอบจาก ด้านหนึ่งไปยังอีกด้านพร้อมไฟท้ายที่โฉบเฉี่ยว และเพื่อเพิ่มความเรียบหรู มือจับที่เปิดประตูท้ายรถจึงได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับไฟท้าย

          ยาง อะไหล่และฝาครอบได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ติดตั้งอยู่บนฝาประตูท้ายสะท้อนเอกลักษณ์ของรถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์ และตอบสนองต่อการใช้งานจริง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของท้ายรถและทำให้การขนของหนักๆ ใส่ท้ายรถเป็นเรื่องง่ายขึ้นเนื่องจากกันชนท้ายที่อยู่ต่ำลงมา

          ภาย ในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุที่ให้ความรู้สึกนุ่มเมื่อสัมผัส การประกอบแต่ละชิ้นส่วนเข้าด้วยกันอย่างประณีต และไฟส่องสว่างบริเวณแผงหน้าปัดสีฟ้า (Ice Blue) ล้วนแสดงให้เห็นถึงคุณภาพและความประณีตของรถ ปุ่มควบคุมต่างๆ วางอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย ส่วนเบาะนั่งออกแบบมาให้นั่งสบายแต่ไม่นิ่มเกินไปเหมาะสำหรับการเดินทางไกล

          ชาญฉลาดในมาดสุดเท่
          ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัยมากมายที่ช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจไขเพื่อเปิดล็อกหรือสตาร์ทรถอีกต่อไป เพียงเก็บกุญแจไว้ในกระเป๋า กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) จะเปิดล็อกประตูให้แบบอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่ดึงมือจับประตู นับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งในเวลาเร่งรีบหรือขณะถือของหนักๆ เมื่อเข้ามานั่งในรถ เพียงกดปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ (Ford Power Start) ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากกีฬามอเตอร์สปอร์ต เครื่องยนต์ก็จะทำงานทันที หมดปัญหาความรำคาญกับการมีพวงกุญแจระโยงระยางบริเวณหัวเข่าขณะขับรถอีกต่อ ไป

          อีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญในฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ คือระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร ฟอร์ด ซิงค์ ที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมายจากการช่วยให้ผู้ขับขี่โทรออกและรับสายโทรศัพท์ รวมทั้งเลือกฟังเพลงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อกับรถผ่านบลูทู ธหรือช่องเสียบยูเอสบีได้โดยใช้การสั่งงานด้วยเสียง

          เพื่อ ลดความเครียดในการขับขี่ ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ยังติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อีกมากมาย อาทิ เซ็นเซอร์สำหรับการถอยจอดช่วยเตือนเมื่อมีวัตถุที่มองไม่เห็นอยู่บริเวณท้าย รถ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) ช่วยให้ออกตัวได้อย่างมั่นใจเมื่อจอดบนทางลาดชั้นทั้งขาขึ้นและขาลงด้วยการ หยุดรถได้สูงสุด 2.5 วินาที ไม่ให้รถไหลขณะผู้ขับขี่เปลี่ยนเท้าจากเบรกมาเหยียบคันเร่ง

          โครง สร้างส่วนล่างของรถหรือแชสซีมอบความคล่องตัวและช่วยให้ควบคุมทิศทางของรถได้ อย่างง่ายดาย ทั้งยังตอบสนองต่อผู้ขับขี่และช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วยระบบระบบพวง มาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า (EPAS) รถเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดของฟอร์ดยังมอบอุปกรณ์ปกป้องความปลอดภัยอย่างเหนือ ชั้นด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้าและม่านถุงลมนิรภัย รวมทั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (เอบีเอส) และระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีเอสพี)

          “เรา คัดสรรอุปกรณ์ที่ทั้งชาญฉลาดและใช้งานง่ายมากมายมารวมไว้ในเอคโคสปอร์ต ใหม่ คันนี้เพื่อช่วยผู้ขับขี่ลดความเครียดจากการเดินทางในเมืองที่อาจต้องเผชิญ กับการจราจรหนาแน่น” มร. เกรแฮม เพียร์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายสายการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย พร้อมช่วยเล่นเพลงโปรดให้คุณฟังได้ง่ายๆ ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง ไปจนถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยให้คุณควบคุมรถเอสยูวีคันนี้ได้อย่างดี เยี่ยม ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ จึงมอบความผ่อนคลายสำหรับทุกการเดินทาง”

          พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์
          ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ เปิดตัวพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ระดับโลกของฟอร์ดที่ให้กำลัง 108 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 138 นิวตันเมตร พร้อมรองรับทั้งระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีดที่ช่วยประหยัดน้ำมัน และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศที่วางจำหน่าย

          เครื่องยนต์รุ่นนี้ มาพร้อมระบบวาล์วแปรผันแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ (Ti-VCT) ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมจังหวะการทำงานแบบแปรผันของวาล์วโอเวอร์แล็ป (Valve overlap) ซึ่งเป็นช่วงที่วาล์วไอดีและวาล์วไอเสียเปิดซ้อนเหลื่อมกัน สำหรับผู้ขับขี่ ระบบดังกล่าวมีประโยชน์ในการช่วยเพิ่มแรงบิดที่รอบต่ำและทำให้ีประหยัด น้ำมันยิ่งขึ้น

          นอกจากเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันที่พร้อม พาผู้ขับขี่ไปยังทุกสถานที่ที่ต้องการแล้ว ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ ยังมีห้องโดยสารกว้างขวางพร้อมที่ว่างเหนือศีรษะและที่วางขาเพียงพอสำหรับ ผู้โดยสารทุกที่นั่ง

          เบาะด้านหลังสามารถปรับเอนไปด้าน หลังเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายหรือพับลงมาเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกของท้ายรถ เมื่อพับเบาะหลังมาชนกับเบาะหน้า พื้นที่เก็บของท้ายรถจะมีความจุถึง 705 ลิตร หรือใหญ่พอสำหรับบรรทุกเครื่องซักผ้าได้เลยทีเดียว และเมื่อต้องขนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นยาว เบาะด้านหลังยังแยกพับได้แบบ 60/40 เพื่อใช้บรรทุกกล่องยาวๆ และยังเผื่อที่นั่งอีกฝั่งไว้รองรับผู้โดยสารได้อีกด้วย

          ผลักดันการเติบโตในอาเซียน
          ฟอร์ด เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคอาเซียนด้วยยอดค้าปลีกตลอดทั้งปีพ.ศ. 2555 เพิ่มขึ้น 27 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่ 87,623 คัน นับเป็นยอดขายต่อปีที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท โดยเมื่อปีที่แล้ว ฟอร์ด ประเทศไทย มียอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 88 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีพ.ศ. 2554 ที่ 54,865 คัน นับเป็นยอดขายตลอดทั้งปีในระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของฟอร์ด ประเทศไทย และทำให้ฟอร์ดเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดรายหนึ่งในประเทศไทยต่อ เนื่องกัน 2 ปีซ้อน

          การเติบโตอย่างรวดเร็วดังกล่าวเป็นผล จากการนำเสนอรถยนต์ระดับโลกที่มีคุณภาพสูงและเป็นผู้นำในแต่ละเซกเม้นต์ อย่างต่อเนื่อง ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ จึงคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายรถฟอร์ดในภูมิภาคนี้ให้เติบโตอย่างรวดเร็วยิ่ง ขึ้นไปอีก

          “ฟอร์ดมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในภูมิภาคอาเซียน จากการนำเสนอรถยนต์ที่เหนือชั้นซึ่งได้รับการผลิตขึ้นภายใต้แผน One Ford” มร. แบรดลีย์ กล่าว “เรามั่นใจว่าฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ จะทำให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ สนใจเป็นเจ้าของรถฟอร์ดเพิ่มมากขึ้น”

          ทั้ง นี้ ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต รุ่นแรกเปิดตัวในทวีปอเมริกาใต้เมื่อปีพ.ศ. 2546 พร้อมกับการสร้างเซกเม้นต์ใหม่ให้แก่ตลาดรถยนต์ในอเมริกาใต้และทำยอดขายได้ กว่า 700,000 คันนับตั้งแต่นั้น โครงการนี้ได้รับการออกแบบโดยทีมงานจากศูนย์การออกแบบของฟอร์ดในประเทศ บราซิล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญสูงสุดในการพัฒนารถยนต์ขนาดคอมแพ็ค ทีมงานจากศูนย์ฯ ดังกล่าวได้นำเอาจุดแข็งทางด้านวิศวกรรมและความเชี่ยวชาญในการออกแบบรถยนต์ นั่งแบบอเนกประสงค์ของฟอร์ดจากทั่วโลกมาใช้ในการสร้างสรรค์เอคโคสปอร์ต ใหม่ เพื่อผลักดันให้ฟอร์ดเติบโตมากยิ่งขึ้นทั่วโลก
 

ความเร้าใจจากรถยนต์ฮุนได ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34










   
          ข้อมูลรถยนต์รุ่นใหม่
          All-New Hyundai Veloster และ Veloster Sport Turbo
          All-New Hyundai Veloster และ Veloster Sport Turbo เปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ด้วยราคาแนะนำตัวสุดพิเศษคือ 1,299,000 บาท สำหรับรุ่น Veloster และ 1,739,000 บาท สำหรับรุ่น Veloster Sport Turbo โดยทั้ง 2 รุ่นนี้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างอย่างเร้าใจ มาพร้อมขุมพลังทางเลือกคือ เครื่องยนต์ DOHC 16V D-CVVT MPi 130 แรงม้า ในรุ่น Veloster และ เครื่องยนต์ DOHC 16V D-CVVT T-GDi 186 แรงม้า ในรุ่น Veloster Sport Turbo ซึ่งในทั้ง 2 รุ่น ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift

          ภาย ใต้นโยบาย “Hyundai Everywhere” ที่ประกาศเป็นแนวทางในปีนี้ เพื่อขยายขอบเขตความนิยมในรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทยให้แพร่หลายเพิ่มขึ้น บริษัทฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่เป็น ‘เอกลักษณ์นวัตกรรม’ เช่น Veloster ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยเพิ่มความหลากหลาย และความน่าตื่นเต้นให้กับรถยนต์ฮุนได จนลูกค้าสามารถสัมผัสได้ โดยเฉพาะผู้บริโภคที่เน้นรถยนต์ที่แตกต่าง และมีบุคลิก จนทำให้จำนวนรถยนต์ฮุนไดเพิ่มมากขึ้นในทุกๆที่ที่เราเดินทางไป

          คำ ว่า “Veloster” (มาจากคำว่า Velocity หมายถึงความเร็ว และคำว่า Roadster หมายถึง รถสปอร์ต 2 ที่นั่ง) และเมื่อรวมกันแล้ว ย่อมมีความหมายว่า “ความสนุกเร้าใจและการขับขี่ที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล” โดยเฉพาะกับการออกแบบประตู แบบ 2 + 1 (ประตู 2 บานในด้านหน้า และพิเศษ 1 บานด้านใน) และเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวรอบคันก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำแนวคิด “New Thinking. New Possibilities.” หรือ “คิดใหม่เพื่อสิ่งที่เหนือกว่า”
          All-New Hyundai Veloster คือผลงานที่ต่อยอดมาจาก Concept Car ที่มีชื่อว่า Hyundai HND-3 ที่เผยโฉมในงาน Seoul Motor Show ปี 2007 ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์นวัตกรรมครั้งแรกของโลกที่ประสานความเป็นรถสปอร์ตและ ความสะดวกสบายสไตล์รถซีดานเป็นหนึ่งเดียวด้วยรูปแบบประตู 2 + 1
          All-New Hyundai Veloster สปอร์ตแฮทช์แบ็กมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเน้นการออกแบบที่โดดเด่น ประกอบกับความสวยงามที่ลงตัว ด้วยขนาดมิติ 4,220 มม (ยาว) x 1,790 มม (กว้าง) (1,805 มม. สำหรับ Veloster Sport Turbo) x 1,399 มม (สูง) โดย Veloster ทั้ง 2 รุ่น ยังเป็นเลิศในด้านความสะดวกสบาย และการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเบาะนั่งโดยสารด้านหลัง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งบริเวณห้องเก็บสัมภาระสามารถจุของได้มากถึง 320 ลิตร และสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ด้วยการพับเบาะหลังลงทั้งหมด หรือแบบ 60:40 ก็สามารถทำได้ อีกทั้งสะดวกสบายไปอีกขั้นกับพื้นที่วางขาในด้านหน้าและด้านหลังมากถึง 1,072 มม. และ 870 มม. ตามลำดับ พื้นที่เหนือศรีษะด้านหน้า 945 มม. และด้านหลัง 896 มม. และพื้นที่ช่วงไหล่ที่กว้างถึง 1,412 มม. ในด้านหน้า และ 1,371 มม. ในด้านหลัง พื้นที่โดยสารมักจะเป็นปัญหาเสมอสำหรับรถสปอร์ต แต่ไม่ใช่กับ Veloster ที่สามารถเติมเต็มความสะดวกสบาย และการใช้งานได้อย่างแท้จริง
          ด้วยแรงบันดาลใจจากรูปลักษณ์ที่ ดุดันของรถ Superbike ผสมผสานกับแนวคิด Fluidic Sculpture Design อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮุนได จึงทำให้ All-New Hyundai Veloster ถูกสรรสร้างขึ้นมา เพื่อเติมเต็มเอกลักษณ์ให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งนอกจากจะรวมไปถึงกลุ่ม Generation Y แล้ว รถยนต์สปอร์ต 2+1คันนี้ยังโดนใจกลุ่มลูกค้าที่หลงใหลในความเป็นรถมีระดับซึ่งจากการทำการ สำรวจเบื้องต้น ลูกค้าไฮเอนด์กลุ่มนี้มีความเข้าใจในความเป็น “เอกลักษณ์นวัตกรรม” ที่สามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนผ่านยานยนต์คู่ใจได้อย่างแท้จริง
          All-New Hyundai Veloster และ Veloster Sport Turbo คือทางเลือกที่ลงตัว ทั้งผู้ขับขี่ผู้ชายและผู้หญิง เพราะความเพียบพร้อมในเรื่องของการออกแบบที่ล้ำสมัยไปในอนาคตและสมรรถนะที่ ขับขี่สนุกและเร้าใจ จะสามารถสะกดทุกสายตาทุกครั้งที่แหวกฝ่าการจราจรที่แออัด หรือจะใช้ความเร็วอย่างมั่นใจบนถนนไฮเวย์
          All-New Hyundai Veloster และ Veloster Sport Turbo มีคุณสมบัติพิเศษดังนี้
          ข้อมูลจำเพาะ Hyundai Veloster
          - สปอร์ต แฮทช์แบ็ก ดีไซน์ประตูแบบ 2 + 1 โดดเด่นด้วยประตูที่ 3 ทางด้านหลังซ้าย ประตูอัจฉริยะที่มาพร้อมกับมือจับประตูแบบ Integrated ที่ซ่อนอย่างกลมกลืนที่กรอบกระจกคงรูปลักษณ์ของรถสปอร์ต 2 ประตูอย่างลงตัว
          - เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 130 แรงม้า (PS) ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 157 นิวตัน-เมตร ที่ 4,850 รอบต่อนาที (มาตรฐานไอเสีย ยูโร 4)
          - เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift
          - ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 11.5 วินาที (ข้อมูลจากโรงงานผู้ผลิต)
          - ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.32
          - ระบบช่วงล่างหน้า – หลัง แบบ แมคเฟอร์สันสตรัท และ ทอร์ชั่นบีม CTBA
          - ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key และระบบ Button Start
          - พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า
          - ระบบเบรค ABS ระบบเพิ่มแรงเบรคในภาวะฉุกเฉิน BA และระบบกระจายแรงเบรค EBD
          - ดิสก์เบรค 4 ล้อ
          - พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง และระบบควบคุมโทรศัพท์และเครื่องเสียง พร้อมกับ Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัย
          - ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/45 R 17
          - กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ต
          - ปลายท่อไอเสียคู่
          - เบาะหลังพับได้แบบ 60:40
          - สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
          - จอ LCD แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
          - แป้นคันเร่งแบบสปอร์ต
          - ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
          - ไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างนำทางเมื่อดับเครื่อง (escort lamp)
          - ไฟตัดหมอกคู่หน้า
          - ระบบ Bluetooth
          - กุญแจ Immobilizer
          - โครงสร้างนิรภัยแบบ High – Tensile Steel สำหรับเสากลางและจุดสำคัญต่างๆทั่วตัวรถ

          ข้อมูลจำเพาะ Hyundai Veloster Sport Turbo
          - สปอร์ต แฮทช์แบ็ก ดีไซน์ประตูแบบ 2 + 1 โดดเด่นด้วยประตูที่ 3 ทางด้านหลังซ้าย ประตูอัจฉริยะที่มาพร้อมกับมือจับประตูแบบ Integrated ที่ซ่อนอย่างกลมกลืนที่กรอบกระจกคงรูปลักษณ์ของรถสปอร์ต 2 ประตูอย่างลงตัว
          - กำลังสูงสุด 186 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 265 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 4,500 รอบต่อนาที (มาตรฐานไอเสีย ยูโร 5)
          - ระบบเทอร์โบอัดอากาศแบบ Twin-Scroll Turbocharger (ประสิทธิภาพดีขึ้น 7 – 8% และประหยัดเชื้อเพลิงดีขึ้นกว่าธรรมดาถึง 5% )
          - กระจังหน้าดีไซน์พิเศษขนาดใหญ่ 6 เหลี่ยม พร้อมกันชนหน้าดุดัน ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบใหม่ กันชนหลัง ปลายท่อไอเสียคู่ใหม่ และดิสก์เบรคขนาดใหญ่ด้านหน้า
          - ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.32
          - เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift
          - ความเร็วสูงสุด 214 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.1 วินาที (ข้อมูลจากโรงงานผู้ผลิต)
          - ระบบช่วงล่างหน้า –หลัง แบบแมคเฟอร์สันสตรัท และ ทอร์ชั่นบีม CTBA
          - หลังคาแก้ว Panoramic Sunroof
          - ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
          - มาตรวัดเรืองแสง Super Vision
          - เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบดันหลัง Lumbar Support
          - ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Key และระบบ Button Start
          - พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า
          - ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP ระบบเสริมสมรรถนะการควบคุมพวงมาลัย VSM และระบบแทรคชั่นคอนโทรล TCS
          - ระบบเบรค ABS ระบบเพิ่มแรงเบรคในภาวะฉุกเฉิน BA และระบบกระจายแรงเบรค EBD
          - ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
          - ดิสก์เบรค 4 ล้อ
          - พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง และระบบควบคุมโทรศัพท์และเครื่องเสียง
          - Paddle Shift สามารถเปลี่ยนเกียร์ด้านหลังพวงมาลัย
          - ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/40 R 18
          - เบาะหลังพับได้แบบ 60:40
          - สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
          - จอ LCD แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
          - แป้นคันเร่งแบบสปอร์ต
          - ถุงลมนิรภัยคู่หน้า + ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
          - ไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างนำทางเมื่อดับเครื่อง (escort lamp)
          - ระบบ Bluetooth
          - กุญแจ Immobilizer
          - ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor
          - ระบบไล่ฝ่าที่กระจกมองข้าง
          - ระบบปรับความร้อนที่เบาะหน้า
          - โครงสร้างนิรภัยแบบ High – Tensile Steel สำหรับเสากลางและจุดสำคัญต่างๆทั่วตัวรถ

          All-New Hyundai Veloster และ Veloster Sport Turbo มีให้เลือกถึง 7 สี ที่มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นเฉพาะตัว อันได้แก่สีส้ม Vitamin C สีเหลือง Sunflower สีเขียว Green Apple สีเงิน Sonic Silver สีแดง Veloster Red สีน้ำเงิน Ocean Blue สีขาว White Crystal และ สีพิเศษ “เทาด้าน” หรือ Petrol Grey ซึ่งมีให้เลือกเฉพาะในรุ่น Turbo เท่านั้น

          The New Hyundai H-1 Series Minor Change (รุ่น Deluxe และ Executive)
          The New Hyundai H-1 Deluxe Minor Change ได้มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของกระจังหน้าให้โดดเด่นและมีบุคลิกมากขึ้น กันชนหน้ามาพร้อมเส้นสายใหม่ และไฟตัดหมอกที่เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต และความหรูหรามีระดับ กาบข้างและล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ด้านหลังมาพร้อมกันชน และที่จับฝาท้ายใหม่แบบโครเมี่ยม อุปกรณ์ภายในมาพร้อมด้วยระบบเครื่องเสียงแบบใหม่และระบบนำทาง คอนโซลตกแต่งด้วยลายไม้บ่งบอกถึงรสนิยม และเพิ่มความหรูหราด้วยเบาะหุ้มหนังแท้ลายใหม่ ในราคา 1,599,000 บาท ซึ่งรายละเอียดอื่นๆของ The New Hyundai H-1 Series Minor Change มีดังต่อไปนี้
          ข้อมูลจำเพาะ The All-New Hyundai H-1 Deluxe Minor Change
          - เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรลเทอร์โบแบบใหม่ 2.5 ลิตร ด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน (VGT) พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ มาตรฐานการควบคุมมลพิษ EURO4 ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 441 นิวตัน-เมตร ถ่ายทอดลงถนนด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
          - เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential Mode
          - ระบบมัลติฟังค์ชั่นที่พวงมาลัย
          - เครื่องเล่น DVD และจอภาพ LCD ขนาด 10.1 นิ้ว
          - เบาะนั่งในห้องโดยสาร 12 ที่นั่ง บนรางเลื่อนนิรภัย และเบาะ VIP ที่หมุนได้ 180 องศา ที่เปิดกว้าง จินตนาการในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเบาะให้ลงตัวในทุกความต้องการ
          - กระจกประตูห้องโดยสารแบบเลื่อนได้
          - ดิสก์เบรค 4 ล้อ และระบบ ABS
          - ระบบช่วงล่างหน้า-หลัง: แมคเฟอร์สันสตรัท และ คอยล์สปริงพร้อมแขนยึด 5 จุด
          - ประตูห้องโดยสารเปิดสไลด์ 2 ข้าง
          - ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
          The New Hyundai H-1 Executive Minor Change มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ซึ่งในรุ่น Executive นี้จะไม่มี อุปกรณ์ความบันเทิงและเบาะหนัง ในราคา 1,489,000 บาท
          รถยนต์รุ่นอื่นๆที่จัดแสดง
          The New Grand Starex Premium
          รถ ยนต์ Luxury MPV แบบ 7 ที่นั่งแท้ๆจากโรงงานที่บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นทางเลือกใหม่ของครอบครัว ระดับไฮเอนด์ที่ต้องการความ “เหนือกว่า” ของพื้นที่ใช้สอยและความสบายส่วนตัวในรูปแบบ 7 ที่นั่งซึ่งไร้เคาท์เตอร์กั้นกลางห้องโดยสาร แต่ทดแทนด้วยระบบความบันเทิงแนวใหม่ซึ่งประกอบไปด้วย จอ LCD แบบพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้าติดเพดานขนาด 10.2 นิ้ว ต่อเชื่อมกับเครื่องเล่น DVD head unit ด้านหน้า ซึ่งสิ่งที่ผู้ใช้ได้รับคือที่นั่งแถวหน้าด้านคนขับที่มีอิสระในการปรับ ตำแหน่ง และความสบายบนที่นั่ง Double Super VIP Seats ที่ปรับจังหวะล็อกเลือกตำแหน่งบนรางเลื่อนนิรภัยคู่ได้มากกว่าเดิม ทำให้ความสบายส่วนตัวของผู้โดยสารบนเบาะนั่ง Double Super VIP Seats เหนือกว่ารถยนต์ Luxury MPV ขนาด 7 ที่นั่งรุ่นอื่นอย่างสัมผัสได้
          ข้อมูลจำเพาะ The New Grand Starex Premium
          - เครื่องยนต์ 2500 ซีซี เทอร์โบดีเซลคอมมอนเรลรุ่นใหม่ “แรงบิดสูง” มาตรฐานยูโร 4 ให้กำลังสูงสุดที่ 175 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 441 นิวตันเมตร ที่ 2000 – 2250 รอบต่อนาที
          - เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล สร้าง engine brake ในยามที่ต้องการ และเพิ่ม traction ยามเข้าโค้งในรูปแบบที่รถ Luxury MPV ขนาดใหญ่ต้องการ
          - เบาะนั่ง Double Super VIP Seats ให้ความสบายที่พิเศษกว่า ปรับเอนนอนและที่รองรับต้นขาด้วยไฟฟ้า และปรับเลื่อนตำแหน่งบนรางเลื่อนนิรภัยได้มากกว่าเดิม เพื่อความลงตัวของการใช้พื้นที่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
          - พวงมาลัยแบบ Multi-function ปรับเครื่องเสียงให้ความสะดวกสูงสุด
          - กระจกมองข้างซ้ายขวาปรับ และพับด้วยไฟฟ้า
          - กล้องส่องหลังช่วยให้การจอดรถปลอดภัยไร้กังวล
          - พื้นที่เก็บสัมภาระตอนหลังสามารถปรับขยายให้รองรับการใช้งานได้เพียงการเลื่อนเบาะเท่านั้น สะดวกสบายเหนือความคาดหมาย
          - ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และยางขนาด 235/60 R17
          - ระบบเบรค ABS
          - กุญแจรีโมท พร้อมระบบเซ็นทรัลล็อกและสัญญาณกันขโมย
          - ตกแต่งภายในด้วยลายไม้มีระดับ
          - ไฟตัดหมอก เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

          The New Hyundai Grand Starex VIP
          รถ ยนต์ระดับ Super Luxury MPV แบบ 7 ที่นั่งแท้ๆ จากโรงงาน ที่เหนือกว่าในทุกการเดินทาง ด้วยระบบอำนวยความสะดวกเพิ่มความบันเทิงอย่างครบครัน ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบดีเซลรุ่นใหม่ เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด พร้อมโหมดแมนนวลให้กำลังสูงสุดที่ 175 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 441 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 2,250 รอบต่อนาที

          ข้อมูลจำเพาะ The New Hyundai Grand Starex VIP
          - เบาะ Double VIP Seats ที่ปรับเอนนอน และปรับระดับที่วางขาด้วยไฟฟ้า บนรางเลื่อนที่สะดวกสบายและ ปลอดภัยภายใต้มาตรฐานโรงงาน
          - ระบบ Entertainment Dashboard - จอ LCD ขนาด 19 นิ้ว เลื่อนขึ้น-ลงได้ด้วยไฟฟ้า เครื่องเล่น DVD และลำโพงระดับไฮเอ็นด์
          - พวงมาลัย multi-function
          - กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว LED แบบใหม่ ปรับและพับด้วยไฟฟ้า
          - ล้ออัลลอยด์ลายพิเศษ ขนาด 17 นิ้ว

          ซึ่ง ทั้งหมดนี้ คือความ “ลงตัว” ที่บุคคลระดับ VIP ให้ความเชื่อมั่นและใว้ใจในความสบาย ที่คุ้มค่า และเหนือกว่าในทุกการใช้งาน

          The New Hyundai Tuscon Series
          The New Tucson NAVI Series มาพร้อมกับจอแสดงข้อมูลการเดินทาง ของ Speed Navi พร้อมอุปกรณ์นำทาง Navigator และจอสัมผัส LCD ขนาด 6.9 นิ้ว ที่มีเครื่องเล่น DVD ในตัว โดยจะมีให้เลือกทั้งรุ่น 2.0S ด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์เบนซิน ให้กำลังสูงสุด 166 แรงม้า และในรุ่น 2.0D มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า
          The New Tucson NAVI Series มาในราคาพิเศษ และข้อเสนอโดนใจผ่อนสบายๆ 48 เดือน ด้วยดอกเบี้ย 1.79% โดยลิสซิ่งกสิกรไทย เฉพาะในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 เท่านั้น
          ข้อมูลจำเพาะ The New Hyundai Tuscon Series
          - หลังคาโลหะ
          - เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมหมวด Manual
          - ระบบป้องกันการลื่นไหล, ระบบช่วยในการลง-ขึ้นทางลาดชัน, ระบบป้องกันล้อล็อก, ระบบกระจายแรงเบรค และระบบช่วยเบรค
          - ระบบมัลติฟังค์ชั่นที่พวงมาลัย
          - ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว
          - ตกแต่งภายในแบบ X-Shape ด้วยโทนสีดำ ตัดกับเบาะหุ้มหนังสีน้ำตาลแดง
          - พนักพิงศีรษะปรับขึ้น-ลง และเลื่อนหน้า-หลังได้ (คู่หน้า)
          - ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ
          - ระบบ Button Start
          - กุญแจอัจฉริยะ
          - ช่องต่อ AUX, USB และสายเชื่อมต่อ Ipod
          - สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
         
          All-New Hyundai Elantra
          คอม แพ็คคาร์มาตรฐาน “รถนำเข้า” มีระดับจากประเทศเกาหลีที่มีรางวัล 2012 North American Car of the Year Award เป็นประกัน มี 3 รุ่นให้เลือก ได้แก่ All-New Hyundai Elantra รุ่น 1.8G AT , 1.8S AT และ 1.8E MT ซึ่งในรุ่น 1.8G AT มาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กโทรนิกส์ ESP ระบบจัดการเสถียรภาพรถยนต์ VSM ระบบช่วยขึ้นทางลาดชัน HAC เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า, ล้ออัลลอยด์17 นิ้วและยางขนาด 215/45/R17, เบาะนั่งด้านล่างแบบพับได้ 60:40, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟเลี้ยว LED ที่กระจกมองข้าง และระบบมัลติฟังค์ชั่นที่พวงมาลัย
          All-New Hyundai Elantra ทุกรุ่น มาพร้อมกับ Modern Premium Satisfaction Package ที่ประกอบด้วย การรับประกัน 4 ปี หรือ 120,000 กม. ฟรีค่าบำรุงรักษา 4 ปี หรือ 80,000 กม. และบริการฉุกเฉิน 24 ชม. 4 ปี พร้อมแคมเปญสุดพิเศษ ที่ให้คุณเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นแล้ววันนี้ ด้วยดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน โดยลิสซิ่งกสิกรไทย
          ข้อมูลจำเพาะ All-New Hyundai Elantra
          - เครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียงขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิด 178 นิวตันเมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที
          - ระบบเกียร์ 6 สปีด ทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติพร้อมสเตปเกท ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างมั่นใจ และยังจัดโหมดสปอร์ตให้ความเร้าใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
          - ช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท มาให้ทางด้านหน้า ส่วนด้านหลัง ใช้ระบบทอร์ชั่นบีม
          - ระบบเบรค ABS และเสริมแรงเบรก BA
          - โครงสร้างนิรภัยแบบ High – Tensile Steel สำหรับเสากลางและจุดสำคัญต่างๆทั่วตัวรถ
          - ระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน eco guide

          All-New Hyundai Sonata Sport
          รถ ยนต์ในสไตล์ 4 ประตู คูเป้ เจ้าของฉายา Call Me Coupe ออกทำตลาดด้วยกันถึง 2 รุ่น คือ รุ่น 2.0S และรุ่น 2.0G นำเข้าทั้งคันจากประเทศเกาหลี เหนือกว่าด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีและดีไซน์สปอร์ตแห่งอนาคต เปี่ยมบุคลิก ภายใต้แนวคิด Fluidic Sculpture Design ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮุนได

          ข้อมูลจำเพาะ All-New Sonata Sport
          - เครื่องยนต์ ขนาด 2 ลิตร 165 แรงม้า ที่มาพร้อมที่พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ (D-CVVT) และ ระบบ
          - ปรับระยะทางเดินไอดี (VIS) เพิ่มประสิทธิภาพให้ทุกช่วงความเร็ว
          - เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ gate type พร้อม Paddle Shifts เปลี่ยนเกียร์ได้ทุกระดับความเร็วที่พวงมาลัย
          - ช่วงล่างแบบ Sport Suspension จากโรงงานให้ประสิทธิภาพที่มั่นใจ
          - หลังคาแก้ว Panoramic Sunroof สร้างพลังแห่งบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร
          - กุญแจรีโมทแบบ Smart Entry
          - ระบบ Button Start ทันสมัย
          - มาตรวัดแบบ Super Vision และคอมพิวเตอร์แสดงข้อมูลการเดินทาง
          - ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟท้าย LED ล้ำสมัย
          - ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
          - เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ และเบาะปรับไฟฟ้าด้านคนขับ
          - พวงมาลัย Multi-function
          - Parking Brake แบบ Foot Brake
          - กระจายแรงเบรก EBD ระบบป้องกันล้อล็อค ABS และเฉพาะในรุ่น 2.0G เพิ่มเติมด้วย
          - เบาะไฟฟ้าหนังแท้คู่หน้า พร้อมหน่วยความจำ ด้านคนขับ
          - ล้ออัลลอยสปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว
          - ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว ESP
          - ระบบตั้งความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
          - เครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม พร้อม External Amplifier และลำโพง 7 ตำแหน่ง

          พบ กับทัพรถยนต์ฮุนไดได้ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ที่บู๊ธ A15 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2556

สกล ชีวมงคล ส่งเลกซัส IS300h ไฮบริดบุกมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 34

           ช่วงนี้ค่ายรถคึกคักเตรียมนำรถรุ่นใหม่โชว์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชัลแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 งานนี้ สกล ชีวมงคล กรรมการผู้จัดการ เล็กซ์ซัส กรุงเทพ (พระรามเก้า) ก็ไม่พลาดเตรียมรถเลกซัส All NEW IS300h ระบบเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี แบบ D4S และระบบไฮบริดสมบูรณ์แบบที่ช่วยในการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันสูงสุดมาให้ ลูกค้ายลโฉมเช่นกัน จะสวย หรู สมรรถนะแรงขนาดไหน เจอกันได้ที่บูธเลกซัสห้ามพลาดตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.-7 เม.ษ 56 นี้ งานเดียวที่จะทำให้คุณสัมผัสรถใหม่แบบจุใจ

นิสสัน นำเสนอนวัตกรรมและความเร้าใจที่พลาดไม่ได้ในงานมอเตอร์โชว์










   
          - นำเสนอรถยนต์ต้นแบบที่ดึงดูดใจ นิสสัน เอลลัวร์ เผยโฉมครั้งแรกในเอเชีย
          - นำเสนอขบวนรถยนต์รุ่นใหม่ นิสสัน พัลซาร์ มาร์ชและเออร์แวน
 
          นิสสัน เอลลัวร์ รถยนต์ต้นแบบ ที่จะมารังสรรค์จินตนาการใหม่ เผยโฉมครั้งแรกในเอเชียในงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 นี้ พร้อมกับรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด 3 รุ่นนิสสัน พัลซาร์ ใหม่ รถยนต์แฮทช์แบคระดับพรีเมี่ยมอารมณ์สปอร์ต นิสสัน มาร์ช ใหม่ รถยนต์อีโค คาร์ คันแรกในประเทศไทย และนิสสัน เออร์แวน ใหม่ รถตู้อเนกประสงค์ มาร่วมขบวนเอลลัวร์ สะท้อนวิสัยทัศน์ของความล้ำหน้า และความเร้าใจของแบรนด์นิสสัน
          "เรายังคงมอบรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวนิสสัน ซิลฟี รถยนต์ซีดาน ในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่งระดับกลางหรือนิสสัน พัลซาร์ แฮทช์แบคระดับพรีเมี่ยม" นาย ทาคายูกิ คิมูระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษั นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
          "เรายังได้ต่อยอดกลยุทธ์สินค้า ด้วยการส่งนิสสัน มาร์ช ใหม่ ที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ และเพิ่มมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้น ยกระดับมาตรฐานรถยนต์อีโค คาร์ในประเทศไทย" นายคิมูระ เสริม "ทุกท่านจะได้เห็นความมุ่งมั่นในอนาคตของรถยนต์ซีดานของนิสสันจากรถยนต์ต้น แบบเอลลัวร์ และรถยนต์ทุกรุ่นที่จัดแสดงในวันนี้ก็เป็นการแสดงถึงพันธสัญญาที่เรามีต่อ ตลาดเมืองไทยเช่นกัน"
         
          นิสสัน เอลลัวร์(Nissan Ellure)
          นิสสัน เอลลัวร์ รถยนต์ต้นแบบที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการบุกตลาดรถยนต์ประเภทซีดานของนิสสัน การออกแบบภายนอกสะท้อนองค์ประกอบด้านการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างรูปลักษณ์ และมิติภายนอกเช่นเดียวกับรถซีดานขนาดกลางแบบดั้งเดิม กับจุดเด่นของรถยนต์คอมแพ็คที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบลูกผสม หรือระบบไฮบริด ทำให้นิสสัน เอลลัวร์ มีฐานล้อมีกว้าง ส่งผลให้มีการทรงตัวที่ดี มีพื้นที่ใช้สอยภายในและพื้นที่สัมภาระด้านหลังที่กว้างขวาง แตยังคุณสมบัติแอโรไดมานิคได้เป็นอย่างดี
         
          "จุดเด่นหลัก" ของงานออกแบบภายในคือ คอนโซลกลางแบบ "ลอยตัว" ที่ดูเหมือนงานประติมากรรมโปร่งแสง ห่อหุ้มด้วยหนังสีขาว และยังไม่ไฟเรืองแดงยามค่ำคืน คอนโซลกลางได้รับการติดตั้งปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง ระบบนำทาง และระบบอื่นๆ ภายในรถ นอกจากนี้หลังคากระจกยังได้รับการติดตั้งไฟเรืองแสงสีแดงเพื่อเพิ่ม สุนทรียภาพของการขับขี่อีกด้วย
 
          นิสสัน เอลลัวร์มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริด รุ่นใหม่ ซูเปอร์ชาร์จ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ที่มาพร้อมระบบควบคุมคลัทช์คู่อัจฉริยะ (มอเตอร์หนึ่งตัว ต่อคลัทช์ 2 ตัว พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-อิออน) พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 25 กิโลวัตต์ ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยระบบเกียร์อัจฉริยะ XTRONIC CVT นอกจากนี้ นิสสัน เอลลัวร์ ยังมีระบบช่วงล่างแบบอิสระ ระบบเบรกแบบรีเจเนเรทีฟ หรือการนำพลังงานจากการเบรกกลับมาใช้ใหม่ และเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยคันเร่งไฟฟ้าสลับไฮดรอลิก เพื่อให้ประสบการณ์การขับขี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นสนุกสนาน เช่นเดียวกับงานออกแบบของตัวรถ
 
          นิสสัน พัลซาร์
          และที่เปิดตัวไปไม่นานมานี้ นิสสัน พัลซาร์ ใหม่ รถยนต์แฮทช์แบค ระดับพรีเมี่ยม ปราดเปรียวทุกมุมมอง มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1.8 ลิตร และขนาด 1.6 ลิตร ระบบส่งกำลัง XTRONIC CVT (Continuous Variable Transmission) ช่วยให้ทุกการขับขี่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นภายในกล้างขวาง สะดวกสบาย สำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และกล้าที่จะเติมสไตล์ให้ชีวิต
 
          นิสสัน มาร์ช ใหม่
          นิสสัน มาร์ช ใหม่ ได้สอบแทรกความมีมิติและความทันสมัยผ่านรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นมากขึ้น ด้วยกระจังหน้าใหม่โครเมียม ล้ออัลลอยลายใหม่ 15 นิ้ว เพิ่มความมีสไตล์ด้วยไฟตัดหมอกและไฟท้ายแบบ LED ระบบขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ รหัส HR12DE ระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT ให้ความนุ่มนวลตอบสนองทุกการขับขี่ และประหยัดน้ำมัน
          ส่วนมาตรฐานความปลอดภัย นิสสัน มาร์ช ทุกรุ่นด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า และระบบเบรก ABS EDB BA (ตั้งแต่รุ่น E เป็นต้นไป)
 
          นิสสัน เออร์แวน ใหม่
          ขบวนรถรุ่นใหม่ของนิสสัน ยังรวมถึง รถตู้เออร์แวน ใหม่ รุ่นตัวถังกว้างหรือ Wide body ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล รหัส YD25DDTi ให้แรงม้าสูงสุด 129 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 356 นิวตันเมตร ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แรงจริง ทนทานและประหยัดน้ำมัน
          ส่วนภายใน ให้ความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยช่องแอร์ที่มากถึง 18 จุด หน้าจอแสดงผลแบบ Multi-Information Display ทันสมัย สีภายในแบบทูโทน ดำ-เทา 16 ที่นั่ง เหมาะสำหรับทุกการใช้งาน
 
          ผู้มาร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ นิสสันยังได้จัดเตรียมรถยนต์รุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น นิสสัน อัลเมร่า รถยนต์อีโค คาร์ ซีดาน ที่มียอดขายดีที่สุด นิสสัน ซิลฟี นิสสัน เทียน่า นิสสัน เอ็กซ์เทรล และนิสสัน นาวารา ลูกค้าที่สนใจสามารถมาเยี่ยมชมและรับขอเสนอพิเศษได้ที่บูธนิสสัน

“THE WAVE” การจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกจากโตโยต้า ในงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34
   
          นาย วิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดบูธโตโยต้า ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 34 นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ยานยนต์ต้นแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมพร้อมด้วยรถยนต์รุ่นล่าสุด All New Vios เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย และรถยนต์รุ่นพิเศษหลากหลายรุ่นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2556 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติอิมแพค เมืองทองธานี

          บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าร่วมจัดแสดงรถยนต์อย่างยิ่งใหญ่บนพื้นที่ 2,052 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด “THE WAVE” ซึ่งเป็นการจัดแสดงที่จะเป็นรูปแบบเดียวกันของโตโยต้าทั่วโลก โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะการพับกระดาษญี่ปุ่นดั้งเดิม“โอริกามิ” ซึ่งมองดูเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยเส้นสายที่ปราดเปรียวแสดงถึงความแข็ง แกร่งและมีชีวิตชีวา โดยใช้โครงสร้างสถาปัตยกรรมรูปแบบ 3 มิติที่แตกต่างจากการจัดแสดงทั่วไปในงานมอเตอร์โชว์ เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกถึงความตื่นเต้นและดึงดูดผู้ชมให้มีความสนใจเกี่ยว กับ “โตโยต้า” มากยิ่งขึ้น พร้อมนำรถยนต์ต้นแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถยนต์รุ่นล่าสุด และรถยนต์รุ่นพิเศษต่างๆ มาจัดแสดงเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าทุกระดับ
 
          ยานยนต์ต้นแบบ ที่สะท้อนถึงปรัชญาของโตโยต้า เพื่อโลกอนาคต
          FCV-R
          รถต้นแบบรถยนต์ซีดานแห่งอนาคตที่ใช้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิงคันนี้ใช้ แหล่งพลังงานจากไฮโดรเจนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะอาดปราศจากการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์และสามารถผลิตได้จากหลากหลายแหล่ง ทั้งยังง่ายต่อการจัดเก็บและขนย้าย โดยรถต้นแบบนี้เป็นรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง (FCV:Fuel Cell Vehicle) ที่ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งจะเปิดตัวประมาณปี 2558 ด้วยแท่งเซลล์เชื้อเพลิงใต้ตัวถังรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ รถยนต์รุ่นนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงสี่คนพร้อมกับเนื้อที่ห้องสัมภาระ ขนาดใหญ่ แท่งเซลล์เชื้อเพลิงที่ประกอบด้วยถังใส่ไฮโดรเจนแรงดันสูง 70 เมกะปาสคาล (MPa) ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ได้ระยะทางวิ่งมากกว่า 700 กิโลเมตร
 
 
รถยนต์   ความยาว   ความกว้าง   ความสูง   ฐานล้อ   ที่นั่ง
เอฟซีวี-อาร์   4,745 มม.   1,790 มม.   1,510 มม.   2,700 มม.   4
         
          Toyota Fun – Vii
          ยานยนต์ต้นแบบที่สื่อถึงนิยามของอนาคตโดยการเชื่อมต่อผู้คน ยานยนต์ และสังคมเข้าไว้ด้วยกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตอินเทอร์แอคทีฟ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเปิดประสบการณ์ความสนุกสนานรูปแบบใหม่ให้แก่ผู้ขับขี่ ผ่านฟังก์ชั่นการตอบสนองแก่ผู้ขับขี่ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยตัวรถมีลักษณะเป็นจอภาพที่สามารถปรับแต่งสีสัน แสดงภาพเคลื่อนไหวรวมถึงใส่ข้อความได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ ภายในห้องโดยสารสามารถปรับเปลี่ยนสีสันได้ตามอารมณ์ Fun-Vii ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยใช้เทคโนโลยีในการชาร์จพลังงานแบบไร้สาย เพียงเข้าจอดในบริเวณที่กำหนดและสามารถชาร์จพลังงานได้อย่างรวดเร็ว
 
 
รถยนต์   ความยาว   ความกว้าง   ความสูง   ฐานล้อ   ที่นั่ง
โตโยต้า ฟัน-วี   4,020 มม.   1,745 มม.   1,451 มม.   2,750 มม.   3

          เผยโฉมรถยนต์โตโยต้ารุ่นล่าสุด
          All New VIOS…Have it all
          เผย โฉม วีออส ใหม่ สู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 34 โดย วีออส ใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาด้วยแนวความคิด "Value Beyond Belief"ให้เป็นสุดยอดยนตรกรรมคุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่เหนือทุกความคาดหมาย ซึ่งนอกเหนือจากความคุ้มค่าซึ่งเป็นเอกลักษณ์และจุดแข็งของวีออสแล้ว วีออสรุ่นนี้ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบเป็นอย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน พื้นที่กว้างขวางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมสมรรถนะการขับขี่และความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม ตอบสนองต่อทุกความต้องการ

          สัมผัส และเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นพิเศษ

          New Corolla Altis TRD Sportivo
          รถ ยนต์นั่งรุ่นยอดนิยม โคโรลล่า อัลติส ทีอาร์ดี สปอร์ติโว ใหม่ มีพื้นฐานมาจาก โคโรลล่า อัลติส รุ่น 1.8E โดยนำมาติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งในสไตล์สปอร์ต เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบดีไซน์ที่โดดเด่น เร้าใจ ไม่เหมือนใคร ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 3,200 คัน เท่านั้น

          Camry 2.0G Extremo
          ทางเลือก สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบ การตกแต่งรถสไตล์สปอร์ตแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราภูมิฐานในแบบโตโยต้า คัมรี่ โดยมีสีภายนอกให้เลือก 2 สี สีขาวมุกและสีดำ สีภายในมี 2 โทนสีให้เลือกทั้งสีเบจและสีดำ

          Hilux Vigo TRD Sportivo
          สุด ยอดรถกระบะยอดนิยมที่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันทั้งภายนอกและ ภายในรวมถึงระบบกันสะเทือนด้านหน้าเเละหลัง ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น

          โตโยต้า...มอบของขวัญแทนคำขอบคุณ

          ใน ปีนี้เป็นปีแรกของการก้าวเข้าสู่ 50 ปีต่อไปของโตโยต้าในประเทศไทย โตโยต้ามุ่งมั่นที่จะ “ขับเคลื่อนความสุข” หรือ Mobility of Happiness เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับลูกค้าและสังคมไทย
          โตโยต้า จึงขอมอบของขวัญแทนคำขอบคุณ สำหรับผู้ที่จองและรับรถยนต์ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 7 เมษายน 2556 รับ Samsung Galaxy Tab 2 (7.0) พร้อมใช้บริการ Toyota New Smart G-Book นาน 1 ปี มูลค่ารวม 12,890 บาท โดยรถยนต์นั่งโตโยต้า 10 รุ่น ที่ได้รับสิทธิ์มีดังนี้

          - โตโยต้า คัมรี่
          - โตโยต้า พริอุส
          - โตโยต้า พริอุส ซี
          - โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส(เฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติ)
          - โตโยต้า วีออส (เฉพาะรุ่นปรับปรุงโฉมปี 2553)
          - โตโยต้า ยาริส
          - โตโยต้า อแวนซา
          - โตโยต้า อินโนวา
          - โตโยต้า อัลฟาร์ด
          - โตโยต้า 86

          สำหรับ ไฮลักซ์ วีโก้ ทุกรุ่น รับบัตรเติมเชื้อเพลิงมูลค่า 10,000 บาท พิเศษสำหรับ ไฮลักซ์ วีโก้ CNG ทุกรุ่น รับเพิ่ม โปรแกรมเลื่อนระยะเวลาชำระค่างวดเป็น 90 วัน

          พร้อมกันนี้ ได้จัดแสดง “โครงการถนนสีขาว” หรือ White Road ที่เป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักในการส่งเสริมให้ทุกชีวิตในสังคมไทยมีความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน ภายใต้แนวคิด “วินัยและน้ำใจ สู่วัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนน” เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีส่วนร่วมด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี และตระหนักถึงการใช้รถใช้ถนนอย่างมีวินัยและน้ำใจ

          พบกับรูปแบบการจัดแสดงระดับโลก“ THE WAVE ” จากโตโยต้า
          ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34
          ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน นี้
          ที่ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

“Creating Amazing” สัมผัสความล้ำหน้าแห่งยนตรกรรมที่บูธเลกซัส พบกับ เลกซัส IS300h สปอร์ตซีดานไฮบริด สุดหรู ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค

          นาย ศิตชัย จีระธัญญาสกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดบูธ เลกซัส ภายใต้แนวคิด “Creating Amazing” ที่แสดงถึงความล้ำสมัยแห่งยนตรกรรมจากเลกซัสพบกับรถยนต์ไฮบริดสุดหรูสไตล์ สปอร์ต Lexus IS300h เเละรถยนต์เลกซัส หลากหลายรุ่นในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 34 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2556 ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ฮอลล์ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติอิมแพค เมืองทองธานี

          “เลกซัสกรุ๊ป” เข้าร่วมแสดงยานยนต์ระดับหรูในนาม เลกซัส ภายใต้แนวคิด “Creating Amazing” ที่สะท้อนถึงความมหัศจรรย์แห่งยนตรกรรม อันเกิดจากการผสมผสานระหว่างความล้ำหน้าของเทคโนโลยีและวิศวกรรม ความโดดเด่นในด้านการออกแบบ และความประณีตของช่างฝีมือชั้นครู ประกอบกันจนเกิดเป็นยนตรกรรมชั้นเลิศของเลกซัส

          เพื่อให้ ผู้เข้าร่วมงานสัมผัสความล้ำสมัยได้อย่างเต็มอิ่ม จึงได้ทำการแบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 3 โซน โดยโซนแรกได้จัดแสดงรุ่นที่เป็นไฮไลท์ของงาน Lexus IS300h รถยนต์ไฮบริด สไตล์สปอร์ตสุดหรู โซนที่สองจัดแสดงรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่นของ เลกซัส อาทิ LS600h CT200h และโซนที่สามจัดแสดงรถยนต์ ที่ใช้เครื่องยนต์แก๊สโซลีน อาทิ RX270 RX350 GS250 GS350

          เลกซัส IS300h
 
          สัมผัสมิติใหม่แห่งไฮบริดสปอร์ตซีดานเหนือระดับ เลกซัส IS300h เผยเสน่ห์สไตล์สปอร์ตดึงดูดทุกสายตา ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นดุดัน ผสานเส้นสายคมกริบปราดเปรียวพร้อมกระจังหน้า Spindle Grille อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเลกซัส ภายในได้รับการออกแบบโดยการคำนึงถึงอรรถประโยชน์ใช้สอยและความสะดวกสบายภาย ใต้หลักการ HMI “Human-Machine Interface” โดยการแบ่งพื้นที่การใช้งานอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของการควบคุมและการแสดงผล ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากการมองเส้นทาง ทำให้เกิดความสะดวกสบาย และความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง ผสานทุกประโยชน์ใช้สอยกับสุนทรียภาพของงานศิลป์อย่างลงตัว เหนือชั้นทุกการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 2.5 ลิตร พร้อมระบบการทำงานไฮบริด ที่ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ตอบสนองทุกความต้องการอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการผสานความสปอร์ตเข้ากับเทคโนโลยีล้ำหน้า

          พร้อมสัมผัสความสมบูรณ์แบบของยานยนต์ เลกซัส ทุกรุ่น
          IS
          - IS250 (F Sport) 3,990,000 บาท
          - IS300h (Premium package) 3,490,000 บาท
          - IS300h (Luxury package) 2,990,000 บาท

          LS
          - LS600hL (Long Wheelbase / 5 seater) 13,580,000 บาท
          - LS460L (Long Wheelbase /4 seater) 11,780,000 บาท
          - LS460L (Long Wheelbase /5 seater) 11,680,000 บาท
          - LS460 (F Sport / 5 seater) 9,990,000 บาท
          - LS460 (5 seater) 9,850,000 บาท

          GS
          - GS450h (Premium package with Moon Roof) 7,790,000 บาท
          - GS350 (F-Sport with Moon Roof) 6,690,000 บาท
          - GS250 (Premium package) 5,090,000 บาท
          - GS250 (F-sport with Moon Roof) 4,990,000 บาท
          - GS250 (Luxury package) 4,590,000 บาท

          CT
          - CT200h (F-Sport Navi with Moon Roof) 2,920,000 บาท
          - CT200h (Premium package Navi with Moon Roof) 2,720,000 บาท
          - CT200h (Premium package Navi) 2,620,000 บาท
          - CT200h (F-Sport package) 2,420,000 บาท
          - CT200h (Luxury package) 2,215,000 บาท

          RX
          - RX450h (Premium package with Moon Roof) 7,040,000 บาท
          - RX350 (Premium package with Moon Roof) 6,040,000 บาท
          - RX270 (Premium package with Moon Roof) 4,440,000 บาท
          - RX270 (Premium package) 4,140,000 บาท

          เลือกเป็นเจ้าของ...ยนตรกรรมชั้นเลิศ
          จากผู้แทนจำหน่าย เลกซัส อย่างเป็นทางการทั้ง 3 แห่ง ได้แก่
          - บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด (พระราม 9) โทรศัพท์ 0 2716 8999
          - บริษัท เลกซัส สุขุมวิท จำกัด (สุขุมวิท 18) โทรศัพท์ 0 2260 8123
          - บริษัท เลกซัส ออโต้ซิตี้ จำกัด (รามอินทรา กม. 2) โทรศัพท์ 0 2521 1111

          รถ ยนต์เลกซัสทุกรุ่นที่ซื้อจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการจะได้รับการ รับประกัน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมรับสิทธิ์เป็นสมาชิก Lexus Club พร้อมเพิ่มความอุ่นใจในทุกการเดินทางด้วย เลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ทั้ง 10 แห่ง ทั่วประเทศ

เชฟโรเลต นำเสนอรถรุ่นใหม่และเปิดตัวแคมเปญแบรนด์ล่าสุดของปี 2556 ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34








          - เชฟโรเลต แนะนำสปิน รถอเนกประสงค์เอ็มพีวีรุ่นใหม่ล่าสุด และครูซ โฉมใหม่ รองรับเชื้อเพลิง E85 พร้อมสะดุดตาด้วยดีไซน์อันโฉบเฉี่ยว
          - เปิดตัวแบรนด์แคมเปญ ‘Find New Roads’ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
          - อวดโฉมสองรถต้นแบบสุดปราดเปรียวครั้งแรกในภูมิภาคนี้
          - ลูกค้าที่จับจองรถภายในงานมอเตอร์โชว์ รับสิทธิลุ้นรางวัลใหญ่ทองคำมูลค่า 1 ล้านบาท และทองคำมูลค่า 100,000 บาทเป็นประจำทุกวัน

          เชฟ โรเลต สานต่อเส้นทางสู่ความสำเร็จครั้งประวัติการณ์ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ที่มา พร้อมการออกแบบอันโดดเด่นสำหรับตลาดเมืองไทย พร้อมอวดโฉมรถต้นแบบเทคโนโลยีก้าวล้ำเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่บูธเชฟโรเลต ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34
          ภาย ในบูธเชฟโรเลต ที่งานมอเตอร์โชว์ประจำปีนี้ จะมีการแสดงแฟชั่นโชว์ในชื่อคอลเลกชั่น ‘Your stylish road’ ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกับคลอเซ็ท แบรนด์แฟชั่นชั้นนำในประเทศไทย ตอกย้ำความสำคัญของงานดีไซน์อันเป็นหนึ่งในรากฐานของเชฟโรเลต ผ่านทางงานแฟชั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการแสดงออกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของคนไทย
          นอก จากการจัดแสดงรถยนต์และรถกระบะมากมายหลายรุ่น เชฟโรเลต ยังเปิดตัว ‘Find New Roads’ ทิศทางแบรนด์ใหม่ในระดับโลกที่จะกำหนดหลักการดำเนินงานของเชฟโรเลต มุ่งสืบสานการพัฒนานวัตกรรมและความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับ ลูกค้า โดยวิสัยทัศน์หนึ่งเดียวทั่วโลกจะขับเคลื่อนไปพร้อมกับรากฐานของแบรนด์เชฟโร เลต คือ เทคโนโลยี การออกแบบ สมรรถนะ และคุณค่า
          “‘Find New Roads’ เป็นคำมั่นสัญญาของแบรนด์เชฟโรเลต ที่จะขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกด้านของเชฟโรเลต ตั้งแต่การออกแบบ การพัฒนาวิศวกรรมไปจนถึงการตลาดและการสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้ลูกค้า ทั่วโลก” มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

          เชฟโรเลต สปิน รุ่นใหม่ล่าสุด
          เชฟ โรเลต สปิน สมาชิกรุ่นล่าสุดของครอบครัวเชฟโรเลต ประเทศไทย เป็นรถอเนกประสงค์เอ็มพีวีเจ็ดที่นั่ง มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดรุ่นแรกในรถระดับเดียวกัน โดดเด่นด้วยดีไซน์กระจังหน้าดูอัลพอร์ทเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต ช่วยเสริมความร่วมสมัยและเน้นย้ำว่ารถเอ็มพีวีไม่จำเป็นต้องมีรูปลักษณ์แบบ ดั้งเดิมเสมอไป สปิน เหมาะสำหรับคอรถยนต์ที่มองหารถที่มีเนื้อที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ทันสมัยด้วยหน้าตาที่ปราดเปรียวและมีเอกลักษณ์ พร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น
          สปิน จะออกจำหน่ายในรุ่น LTZ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร DOHC (เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ) 16 วาล์ว พ่วงระบบ Dual-VVT (วาล์วแปรผันคู่) หัวฉีดเชื้อเพลิงมัลติพอยท์ ผลิตพละกำลังสูงสุด 107 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที
          ถ่าย พละกำลังลงพื้นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบ Driver Shift Control ให้ผู้ขับขี่ปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดาซึ่งเป็นครั้งแรกของรถ ระดับนี้ โดยมีอัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายที่ปรับตั้งมาให้ทำงานเข้ากับเครื่องยนต์ เพื่อสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันสูงสุด สปิน LTZ มีราคาจำหน่ายที่ 762,000 บาท
เชฟโรเลต ครูซ โฉมใหม่
          อีกหนึ่งยนตรกรรมที่อวดความหล่อ เหลาบนเวทีคือเชฟโรเลต ครูซ หนึ่งในรถที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเชฟโรเลต ซึ่งครูซ โฉมใหม่ได้รับการแต่งเติมดีไซน์ที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิม มาพร้อมสุนทรียภาพและสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการรองรับเชื้อเพลิงเฟล็กซ์ฟิว E85
          ครูซ รุ่นปรับโฉมได้รับการยกระดับสุนทรียภาพขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกันชนด้านหน้าดีไซน์ใหม่คู่กับไฟตัดหมอกรูปทรงโฉบเฉี่ยว พร้อมกับการปรับการออกแบบทั้งกรอบไฟหน้ามุมโครเมียมและกระจังหน้าใหม่ที่ทำ ให้ โลโก้เชฟวี่ โบว์ไท มีความสะดุดตายิ่งขึ้น ครูซ โฉมใหม่ ยังมาพร้อมล้ออัลลอยแบบห้าก้านที่แต่งเติมความหรูหราให้แก่ตัวรถมากยิ่งขึ้น
          ภาย ในห้องโดยสารของครูซ LTZ รุ่นปรับโฉม ดึงดูดทุกสายตาด้วยการตกแต่งสีน้ำตาลแดง (brown stone) แบบใหม่ พร้อมการแต่งเติมรายละเอียดและพื้นผิวสัมผัสบริเวณคอนโซลกลางให้ความรู้สึก หรูหรายิ่งขึ้น สำหรับปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นทรงกลมเพื่อ รองรับการใช้งานได้สะดวกสบายกว่าเดิม
          การเปลี่ยนแปลงที่มีความ สำคัญที่สุดของครูซ โฉมใหม่ คือเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85 ทำให้ครูซ เป็นรถเฟล็กซ์ฟิว หรือรถที่รองรับเชื้อเพลิงได้หลากหลายอีกหนึ่งรุ่นของเชฟโรเลต โดยสามารถเติมได้ทั้งน้ำมันเบนซินทั่วไปจนถึงน้ำมัน E85 ที่มีส่วนผสมของเอทานอล 85 เปอร์เซ็นต์ ช่วยเพิ่มสมรรถนะ ลดปริมาณไอเสียและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เครื่องยนต์ผลิตพละกำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที สำหรับราคาจำหน่ายไม่มีการเปลี่ยนแปลง
รถต้นแบบ โค๊ด 130อาร์ และ ทรู 140เอส
          ความน่าตื่นตา ตื่นใจที่สุดของบูธเชฟโรเลต ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 อยู่ที่สองรถต้นแบบของเชฟโรเลต ที่ออกอวดโฉมให้สื่อมวลชนและสาธารณชนในประเทศไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก
          โค๊ด 130 อาร์ เป็นรถคูเป้แบบสี่ที่นั่ง มีเส้นสายการออกแบบที่เรียบง่าย มาพร้อมสไตล์ที่ตกทอดมาจากอดีตโดยเน้นสมรรถนะการขับขี่และใช้ระบบขับเคลื่อน ล้อหลัง ด้านหน้าเปี่ยมด้วยความดุดัน ซุ้มล้อมีขนาดใหญ่สไตล์เชฟโรเลต ตัวถังด้านข้างดีไซน์แนวตรงและประทับตาธงไขว้เอกลักษณ์ของเชฟวี่ ทั้งนี้ โค๊ด 130 อาร์ เน้นการเชื่อมโยงกับสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยมของเชฟโรเลต ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
          ทรู 140 เอส รถต้นแบบอีกหนึ่งรุ่นของเชฟโรเลต เป็นรถสไตล์แฮทช์แบ็กสามประตูสี่ที่นั่งใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า รังสรรค์ด้วยแนวคิด “รถสุดสปอร์ตที่ใครก็เป็นเจ้าของได้” มาพร้อมตัวถังสีขาวแบบด้าน ล้อโครเมียมประทับตราธงไขว้ของเชฟวี่เช่นกัน ทรู 140 เอส ได้รับการออกแบบให้อัดแน่นด้วยความมั่นใจ มีความสปอร์ตเต็มพิกัด ดูดีมีราคาและพร้อมทะยานไปด้วยความเร็ว โดยพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับเชฟโรเลต ครูซและเชฟโรเลต โวลต์ รถพลังงานไฟฟ้าขยายระยะทางขับเคลื่อนอันล้ำสมัย
จับรางวัลพิเศษ ลุ้นรับทองคำมูลค่า 1 ล้านบาท
          ลูกค้าที่ จับจองรถเชฟโรเลต ภายในงานบางกอก มอเตอร์โชว์จะได้รับสิทธิลุ้นรับรางวัลพิเศษทองคำมูลค่า 1 ล้านบาทในวันสุดท้าย พร้อมกับการลุ้นรับรางวัลทองคำมูลค่า 100,000 บาทเป็นประจำทุกวัน ผลรางวัลจะประกาศทางโทรทัศน์ในวันถัดไปหลังจากการจับรางวัลแต่ละครั้ง ลูกค้าที่จองรถโซนิค ครูซ โคโลราโด สปิน เทรลเบลเซอร์ และแคปติวา จะได้รับสิทธิลุ้นรับรางวัลในการจับฉลากดังกล่าว

          รับทองคำ เมื่อซื้อโคโลราโด ครูซ แคปติวาและเทรลเบลเซอร์
          ลูกค้า ที่ซื้อรถเชฟโรเลต ทั้งภายในงานมอเตอร์โชว์และในศูนย์ผู้แทนจำหน่ายเชฟโรเลต ทั่วประเทศจะได้รับทองคำ โดยมีรายละเอียดดังนี้
          - เชฟโรเลต โคโลราโด รับทองคำ 1 บาท
          - เชฟโรเลต แคปติวา รับทองคำ 2 บาท
          - เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ รับทองคำ 2 บาท
          - เชฟโรเลต ครูซ รับทองคำ 3 บาท (ยกเว้นครูซ โฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว)

          ภาย ในบูธเชฟโรเลต ยังเปิดให้ผู้เยี่ยมชมได้ถ่ายภาพเบาะในซุ้มม้านั่งนักกีฬาเสมือนจริงร่วมกับ นักฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล ภาพถ่ายดังกล่าวสามารถอัพโหลดขึ้นโดยตรงสู่เฟซบุ๊คหรือส่งทางอีเมล์ นอกจากนี้ยังมีมุมกิจกรรมเพื่อสังคมในโครงการวัน เวิลด์ ฟุตบอล ซึ่งเชฟโรเลต มีส่วนร่วมขับเคลื่อนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาภายใต้แผนการมอบลูกฟุตบอลความทน ทานสูง 5,400 ลูกให้แก่เด็กที่ขาดแคลนโอกาสทั่วประเทศไทย

          พบ กับความตื่นตาตื่นใจภายในบูธเชฟโรเลต A12 ชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ณ อิมแพค ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 25 มีนาคมถึง 7 เมษายน 2556