งาน The 34th Bangkok International Motor Show

งานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 งาน The 34th Bangkok International Motor Show งาน Motor Show 2013 บางกอก อินเตอร์เนชัลแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 34

อิมแพ็ค จับมือ กรังด์ปรีซ์ฯ เตรียมพร้อมรับคลื่นมหาชน 1.9 ล้านคน หลั่งไหลชมงานมอเตอร์โชว์

          อิม แพ็ค เตรียมแผนจราจรรับคลื่นมหาชนที่คาดว่าจะหลั่งไหลมาชมงานมอเตอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 27 มี.ค. ถึง 7 เม.ย. 2556 รวมกว่า 1.9 ล้านคน พร้อมจับมือ กรังด์ปรีซ์ฯ ผู้จัดงานเสริมบริการรถรับ-ส่งฟรี ทั้งในและนอกพื้นที่รวม 65 คัน โดยมี 2 จุดสำคัญ ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต อีกทั้งได้ประสานงานหน่วยงานจราจร รถบริการสาธารณะ รถตู้ รถแท็กซี่ ฯลฯ อำนวยความสะดวกสร้างความรวดเร็วและปลอดภัยให้กับประชาชนผู้มาชมงาน

          นาย พอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้จัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 34 ได้ประกาศยอดคาดการณ์จำนวนผู้มาชมงานระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2556 รวมถึงรอบสื่อมวลชน รอบวีไอพีด้วยไม่ต่ำกว่า 1.9 ล้านคน ถือเป็นยอดผู้ชมงานที่สูงมาก ทาง อิมเพ็ค ในฐานะสถานที่จัดงานจึงเตรียมแผนการจราจรเพื่อรองรับกับจำนวนประชาชนที่ หลั่งไหลมาชมงานจำนวนมากครั้งนี้

          โดยตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา อิมแพ็ค ได้ดำเนินการปรับปรุงถนนทางเข้าจากแจ้งวัฒนะและติวานนท์ พร้อมขยายพื้นที่ถนนจาก 4 เลน เพิ่มเป็น 6 เลน รวมถึงลงทุนติดตั้งระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะสัญญานไฟแสดงจุดจอดว่าง บริเวณลาดจอดใต้ถุนอาคารชาเลนเจอร์ ซึ่งรองรับรถได้กว่า 2,000 คัน เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการปล่อยรถเข้าออกยังจุดจอด และได้สำรองที่จอดรถสำหรับลูกค้าทั้งอาคารจอดในร่มและพื้นที่กลางแจ้งรวม 15,000 คัน อีกทั้งได้ตั้งทีมจราจรประสานหน่วยงานและเจ้าหน้าที่จราจรในพื้นที่นนทบุรี กว่า 30 นายร่วมอำนวยความสะดวกและรายงานสภาพการจราจรต่อ จส.100

          นาย พอลล์ กล่าวเสริมว่า ทางบริษัทกรังด์ปรีซ์ฯ ผู้จัดงานได้จัดเตรียมการบริการลูกค้าจัดรถรับ-ส่งมายังสถานที่จัดงานฟรี ใน 2 จุดสำคัญ คือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลราชวิถี จำนวน 25 คัน และศูนย์สรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต บริเวณด้านหน้าบิ๊กซี ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 25 คัน โดยทั้งสองเส้นทางจะให้บริการด้วยรถปรับอากาศ 45 ที่นั่ง ออกเดินทางทุก 30 นาที และเริ่มให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00-22.20 น. ทุกวันของจัดงาน ส่วนในพื้นที่ศูนย์ฯ อิมแพ็ค ก็ได้เตรียมรถชัตเติ้ลบัสหรือรถเวียนรวม 12 คัน ทั้งธรรมดาและปรับอากาศ คอยอำนวยความสะดวกการเดินทางในพื้นที่ศูนย์ฯ แก่ลูกค้า

          สำหรับลูกค้าที่สนใจไปทดลองขับหรือชมกิจกรรม ณ ลานกิจกรรมกลางแจ้ง ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี ทางผู้จัดงานได้เตรียมรถไมโครบัส 20 ที่นั่ง จำนวน 3 คัน เพื่อให้บริการด้วย ทั้งนี้ หากระหว่างการจัดงานการจราจรในพื้นที่เกิดติดขัดหรือหนาแน่นทางส่วนงานจราจร ได้เตรียมแผนรับมือที่เหมาะสมและสามารถปรับเปลี่ยนตามสภาพการจราจรไว้ถึง 5 รูปแบบ พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังชุมชนเมืองทองธานีงดกิจกรรม เช่น ตลาดนัดวันอาทิตย์ เพื่อช่วยลดปัญหาการจราจรหนาแน่น อีกทั้งได้ทำการประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้มาชมงานใช้รถบริการสาธารณะที่มีให้ เลือกหลากหลายเส้นทางทั้งในพื้นที่กรุงเทพและจังหวัดอื่นๆ

          อาทิ อิมแพ็ค ลิ้งค์ บริการรถมินิบัส รับ-ส่ง อิมแพ็ค เมืองทองธานี – รถไฟฟ้า (BTS) สถานีหมอชิต, บริการรถตู้จากอิมแพ็คถึงอนุสาวรีย์ชัย, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, เดอะมอลล์ รามคำแหง, สนามหลวง, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต, สีลม, เพลินจิต รถสาธารณะสาย166 เส้นทางเมืองทองธานี-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, รถสองแถวสู่ทางออกถนนแจ้งวัฒนะและติวานนท์ รถมินิบัสเมืองทองธานี-ลาดหลุมแก้ว รถแท็กซี่ และรถตู้บริการสู่ต่างจังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ พิษณุโลก นครราชสีมา ปราจีนบุรี สระแก้ว (อรัญประเทศ) และกาญจนบุรี โดยจอดให้บริการใกล้กับเอาท์เล็ตเมืองทองธานีและตลาดสดรวมใจ ซึ่งพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาชมงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ร่วมกันอย่างดีที่ สุด

รถยนต์นั่งอเนกประสงค์เพื่อการขับขี่ในเมือง ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ เผยโฉมในอาเซียน
   


          ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ ที่หลายคนตั้งตาคอยเผยโฉมครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน ณ งานมหกรรมยานยนต์บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 พร้อมรุกตลาดรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ (เอสยูวี) เพื่อการขับขี่ในเมืองซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้ ด้วยตัวเลือกที่เพียบพร้อมทั้งด้านความคล่องตัวในการขับขี่ อัตราการประหยัดน้ำมันเทียบได้กับรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค มีความยืดหยุ่นและให้พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางแบบรถเอสยูวีในราคาที่คุณเป็น เจ้าของได้

          ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ ได้รับการพัฒนาขึ้นบนโครงสร้างตัวถังของรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับโลก (บีคาร์ แพลตฟอร์ม) เพื่อมอบตัวเลือกอันเร้าใจให้แก่ผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ขนาดคอมแพ็คซึ่ง กว้างขวางพอที่จะรองรับผู้ใหญ่ 5 คนและบรรทุกสัมภาระต่างๆ อย่างสะดวกสบาย ผสานการใช้งานแบบอเนกประสงค์และการเชื่อมต่ออย่างเหนือชั้นทำให้ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต เป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับกลุ่มลูกค้าที่รักความอิสระ ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และรักการเดินทางเพื่อเปิดโลกกว้าง ด้วยการปรับตำแหน่งผู้ขับขี่ให้อยู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น เพื่อทัศนะวิสัยที่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้รถรุ่นนี้พร้อมสำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและพาคุณลุยไปได้ทุกแห่ง
 
          คำบรรยายภาพ: (จากซ้าย) มร. เกรแฮม เพียร์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายสายการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นางสาว ยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย และ มร. แมท แบรดลีย์ ประธาน ฟอร์ด อาเซียน ร่วมเปิดตัวฟอร์ด เอคโคสปอร์ต ใหม่ ณ งานมหกรรมยานยนต์บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ในประเทศไทย

เปิดตัวครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย All New VIOS…Have it all พร้อมส่งออกกว่า 80 ประเทศทั่วโลก



          มร.เคียว อิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด / กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชียแปซิฟิค / เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย มร.ทาเคชิ มัตซึดะ หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และ นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวแนะนำรถยนต์ “วีออส” ใหม่ ภายใต้แนวคิด All New VIOS…Have it all เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2556 ที่ บูธโตโยต้า ภายในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ อิมแพค เมืองทองธานี

          วีออส ถือเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มรถยนต์นั่งของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ใช้ชื่อรุ่นในเจนเนอเรชั่นที่ 1 ว่า “โซลูน่า” โดยเป็นรถที่เกิดจากการร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาของวิศวกรชาวไทยและชาว ญี่ปุ่นเพื่อตลาดรถยนต์เมืองไทยโดยเฉพาะ จนกระทั่งได้รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีความประหยัด คุ้มค่าสูงสุดในการเป็นเจ้าของ ได้รับการแนะนำเข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ ในปี พ.ศ. 2540 พร้อมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทย และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

          ต่อ มา ในปี พ.ศ. 2545 โตโยต้า สร้างปรากฏการณ์ ให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทยอีกครั้ง ด้วยการแนะนำเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของ “โซลูน่า” ที่ปรับปรุงใหม่หมดรอบคัน ให้เป็นรถยนต์สปอร์ต ซีดาน โดยใช้ชื่อรุ่น “โซลูน่า วีออส” ที่สามารถตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า และได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทยอย่างล้นหลามเช่นเคย และยิ่งไปกว่านั้นยังขยายความนิยมด้วยการส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดในแถบอา เซียนอีกด้วย

          จากนั้นในปี พ.ศ. 2550 โตโยต้าได้ต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการแนะนำเจนเนอเรชั่นที่ 3 ในชื่อรุ่น “วีออส” ซึ่งกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้น ภายใต้แนวคิดที่รวบรวมคุณสมบัติของความคุ้มค่า ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำให้ “วีออส” เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ก้าวล้ำเหนือชั้นกว่ารถระดับเดียวกัน นับว่า “วีออส” เป็นรถยนต์รุ่นสำคัญ ที่ผลักดันให้ โตโยต้า ครองอันดับ 1 ทั้งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก และตลาดรถยนต์รวมของไทย ด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 656,811 คัน* และยังได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้าต่างชาติในแถบอาเซียน โดยมียอดการส่งออกรวมทั้งสิ้น 186,761 คัน* จากการประสบความสำเร็จทางด้านการขายมากมายเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า “วีออส” ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี จากคุณภาพมาตรฐานระดับโลก และสามารถครองใจลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้อย่างเต็มภาคภูมิ

          มร.เคียว อิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “วันนี้เรามีความภูมิใจและยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้แนะนำรถยนต์ วีออส ใหม่ สู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยแห่งนี้ โดย วีออส ใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้เป็นสุดยอดยนตรกรรมคุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่ เหนือทุกความคาดหมายและตอบสนองต่อทุกความต้องการ ซึ่งนอกเหนือจากความคุ้มค่าซึ่งเป็นเอกลักษณ์และจุดแข็งของวีออสอยู่แล้ว วีออสรุ่นนี้ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบเป็นอย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน พื้นที่กว้างขวางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมสมรรถนะการขับขี่และความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า วีออส ใหม่ จะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ของโตโยต้าในปีนี้ และสามารถครองความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งเมืองไทยได้อย่างแน่นอน”

          มร.ทา เคชิ มัตซึดะ หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า “ทีมวิศวกรโตโยต้าได้สร้างสรรค์ วีออส ใหม่ โดยมีแรงบันดาลใจในการพัฒนาเพื่อให้เป็นรถยนต์ที่มีความคุ้มค่าเหนือราคา สร้างความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ ภายใต้แนวคิด “Value Beyond Belief” ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด และเป็นดีไซน์ที่ดูสปอร์ตหรูมากยิ่งขึ้น ทั้งภายนอกและภายใน ห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่าเดิมและห้องเก็บสัมภาระที่ใหญ่มากขึ้น สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น พร้อมช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ยังช่วยเพิ่มความสุขในการขับ ขี่ เกาะถนนดียิ่งขึ้น ตลอดจนประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันที่ได้มาตรฐานระดับโลก ด้วยคุณสมบัติต่างๆเหล่านี้เชื่อว่า วีออส ใหม่ จะสามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ซึ่งเมื่อทุกคนได้สัมผัส วีออส ใหม่ จะรู้สึกถึงความพึงพอใจและได้รับในสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า วีออส ใหม่ จะเป็นรถซีดานขนาดเล็ก ที่ตรงใจไม่เพียงแต่สำหรับลูกค้าชาวไทย แต่ยังเป็นรถยนต์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระดับสากล”

          นาย วิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ด้วยคุณสมบัติของ วีออส ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 4 ของตลาดเมืองไทย ซึ่งมีจุดขายใหม่หลักๆที่ถูกเติมเต็มเข้ามา ตามที่คุณมัตซึดะ หัวหน้าวิศวกรได้ให้ข้อมูลไปแล้วนั้น ผนวกกับจุดแข็งเดิมที่วีออสมีอยู่แล้ว ทำให้ วีออส ใหม่ นี้มาพร้อมกับความหลากหลายที่ครบครัน พร้อมตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์ โดยเราได้ใช้แนวความคิดในการโฆษณา วีออส ใหม่ นี้ว่า “All New VIOS, Have it all” ซึ่งจะเริ่มโฆษณาผ่านสื่อต่างๆให้ลูกค้าได้รับทราบอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ วันนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถรับชมและสัมผัสกับ วีออส ใหม่ ได้ทุกมุมในแบบ 360 องศา ผ่านสื่อดิจิตอลในเว็บไซต์อีกด้วย นอกจากนี้ เรายังมีการจัดกิจกรรมการเปิดตัววีออสใหม่อย่างเป็นทางการที่โชว์รูมโตโยต้า ทั่วประเทศในวันที่ 10 – 12 พฤษภาคมนี้ รวมถึงกิจกรรมโร้ดโชว์ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งเราได้จัดเตรียมรถทดลองขับไว้ให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์ขับ ขี่กันอย่างทั่วถึง โดยวีออสใหม่นี้ จะมีให้เลือกถึง 6 รุ่น 7 สี ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 559,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มค่าอย่างมาก”

          มร.เคียว อิจิ ทานาดะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดภายในประเทศแล้ว ประเทศไทยยังถือเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับการส่งออก วีออส ใหม่ ไปจำหน่ายในทวีปต่างๆ อีกกว่า 80 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย ถือเป็นการขยายตลาดการส่งออก รวมถึงเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมภาคการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่นเดียวกับการส่งออกรถกระบะในโครงการ IMV โดยได้ตั้งเป้าหมายการส่งออก วีออส ใหม่ ภายในปีนี้ไว้ที่ 45,000 คัน ดังนั้น วีออส ใหม่ จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ความภาคภูมิใจของ โตโยต้า เท่านั้น แต่ยังถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยด้วยเช่นกัน”

          “ปีนี้ ถือเป็นปีแรกของการก้าวสู่ 50 ปีต่อไป ของโตโยต้าประเทศไทยที่เราตั้งใจที่จะ “ขับเคลื่อนความสุข” หรือ Mobility of Happiness ให้กับลูกค้าและสังคมไทย ซึ่งเราหวังว่า วีออส ใหม่ นี้จะประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมทั้งสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าโตโยต้าทุกคน ในฐานะ “ความสุข” จากโตโยต้า ที่เราตั้งใจมอบให้แก่ทุกคน” มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กล่าวในที่สุด

          พบกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ All New VIOS…Have it all
          ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34
          วันที่ 26 มีนาคม – 7 เมษายน 2556
          ณ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ อิมแพค เมืองทองธานี
          พร้อมสอบถามรายละเอียด และสั่งจองได้ที่โชว์รูมโตโยต้า 364 แห่งทั่วประเทศ
          ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
 
          * ยอดขายถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2556

เปอร์เช่ขนทัพรถหรูร่วมโชว์ในงานมอเตอร์โชว์ 2013

          เคย์แมน ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ งานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2013
           บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวใน ประเทศไทย ขนทัพรถสปอร์ตหรูเข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 พร้อมประกาศและตอกย้ำความเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว ในประเทศไทย โดยภายในงานท่านจะมีโอกาสได้สัมผัสสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกอย่างใกล้ ชิด ประกอบด้วย ปอร์เช่ เคย์แมน เอส ใหม่ (New Cayman S), บ็อกซ์เตอร์ (Boxster), 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4), 911 คาร์เรร่า (911 Carrera), 911 คาร์เรร่า เอส คาบริโอเลต (911 Carrera S Cabriolet), พานาเมร่า เอส ไฮบริด (Panamera S Hybrid), คาเยนน์ เอส ไฮบริด (Cayenne S Hybrid)

          นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษอีกมากมายที่ทางเอเอ เอสฯ ได้จัดเตรียมให้ทุกท่านร่วมสัมผัสและค้นหา ความสุนทรีย์ของสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์กันอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถยนต์ไฮไลท์ประจำบูธที่จะสะกดสายตาคุณให้หลงใหลไปกับสมรรถนะอันลือ เลื่องที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และมี Accessories ต่างๆ ของปอร์เช่มาให้ท่านเลือกสรรมากมายในราคาพิเศษ ภายในงาน Motor Show 2013 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร ชาเลนเจอร์ 1-3 ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. - 7 เม.ย. 2556 นี้

          สอบ ถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ ได้ที่ แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th

 “Volkswagen” มอบแพ็คเก็จ Thaiyarnyon Privilege รับทอง 10 บ.พร้อม Warrantty ฟรี ในงานมอเตอร์โชว์



          Volkswagen มอบแพ็คเก็จ Thaiyarnyon Privilege ในงาน Motor Show 2013 เลือกจอง VW GTIรับทอง 10 บ.+ ฟรี Warrantty 3 ปี, เลือกจอง Caravell หรือ Multivan รับเอกสิทธิ์พิเศษ Worry Free 5 Years หรือจอง Scirocco รับชุดแต่งสปอร์ต R-Line + Warranty 3 ปี จำกัดเฉพาะในช่วงงานนี้เท่านั้น

          นาย สมรรถ รอบบรรเจิด ผู้จัดการฝ่ายการตลาดรถยนต์โฟล์คสวาเกน บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Volkswagen ในเครือ “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ มีนโยบายในการเข้าร่วมแสดงรถยนต์ Volkswagen ในงาน Bangkok International Motor Show 2013 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพ และเทคโนโลยีให้แก่ผู้บริโภคคนไทยได้มีโอกาสสัมผัสอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญ ในช่วงเวลาดังกล่าวนับเป็นวาระที่พิเศษสุดสำหรับในปีนี้ที่จะมอบโอกาสแห่ง ความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับการเป็นเจ้าของยนตรกรรมระดับ Premium จาก Volkswagen
          ด้วยแพ็คเก็จพิเศษ “Thaiyarnyon Privilege” สำหรับลูกค้าที่สั่งจองเป็นเจ้าของรถยนต์ Volkswagen รุ่น GTI รถแฮทซ์แบค 5 ประตู สุนทรีย์ภาพในการขับขี่ที่แตกต่างและเร้าใจ รับทองคำแท่ง หนัก 10 บาท มูลค่ารวม 230,000 บาท พร้อมบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร หรือเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ Volkswagen รุ่น Scirocco สปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 2.0 TSI รับชุดตกแต่งสปอร์ต R-Line เพิ่มความหรูหรา สง่างามสไตล์สปอร์ต พร้อมบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร
และครั้งแรกกับ เอกสิทธิ์พิเศษสุดที่มอบให้แก่ลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของยนตรกรรมระดับ Premium สำหรับรถยนต์ Volkswagen รุ่น The New Caravelle Touring, รุ่น The New Caravelle Businessline และรุ่น The New Multivan รถยนต์เอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง รับเอกสิทธิ์พิเศษในโปรแกรม Worry Free 5 Years ที่มอบทุกความคุ้มครอง และครอบคลุมทุกค่าใช้จ่ายในส่วนของการบำรุงรักษา การรับประกันคุณภาพ และการซ่อมบำรุง ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมทั้งการเปลี่ยนอะไหล่แท้ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพจาก Volkswagen โดยการเปลี่ยนอะไหล่แท้จะครอบคลุมในส่วนของแบตเตอรี่ และใบปัดน้ำฝนด้วยเช่นกัน
          ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความสุขในการขับขี่รถยนต์โฟล์คสวาเกน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพ และสมรรถนะของโฟล์คสวาเกน
          นาย สมรรถ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการร่วมแสดงรถยนต์ในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร และผลิตภัณฑ์ Volkswagen ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายแก่ผู้บริโภคคนไทย ดังนั้น จึงได้ออกแบบและตกแต่งบู๊ธ ภายใต้แนวคิด A Perfect Blend – การผสมผสานอย่างลงตัว
          “จากการผสมผสานความโดดเด่น และรูปลักษณ์ที่หลากหลายสไตล์ของรถยนต์ในแต่ละรุ่นระหว่างความเป็นรถสปอร์ต ขับขี่สนุกสนาน เร้าใจ กับรถระดับ Premium ที่นำมาประสานความเป็นหนึ่ง ด้วยบู๊ธสีขาว เน้นความเรียบ หรู พร้อมสร้างสีสันความเป็นสปอร์ตแฟชั่น ด้วยลวดลายธงหมากรุกสีแดง เพิ่มความโดดเด่น และสดใสได้อย่างลงตัว”
          ดัง นั้น จึงอยากเชิญชวนผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสนวตกรรมยานยนตร์ของ Volkswagen ได้ที่บู๊ธ Volkswagen A14 ในงาน Bangkok International Motor Show 2013 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-2 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 มี.ค. – 7 เม.ย. ศกนี้

เชฟโรเลต เตรียมอวดโฉมรถต้นแบบ โค๊ด 130อาร์ และทรู 140 เอส ที่งานมอเตอร์โชว์







          บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมนำสองรถคูเป้ต้นแบบ โค๊ด 130 อาร์ (Code 130R) และทรู 140 เอส (Tru 140S) ออกอวดโฉมที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2013 ซึ่งนับเป็นการโชว์ตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีที่งานดีทรอยท์ ออโต้โชว์ สองรถต้นแบบดังกล่าวได้รับการออกแบบเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กลุ่มผู้ ซื้อรถคนรุ่นใหม่และสามารถแบ่งปันความคิดเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์รถแห่งอนาคต ได้
          “เราตัดสินใจนำรถต้นแบบทั้งสองรุ่นมาจัดแสดงที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของเราให้ลูกค้าในประเทศไทยได้สัมผัส” มร. กุสตาโว โคลอซซี รองประธานฝ่ายการขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “รถต้นแบบสุดพิเศษสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเชฟโรเลต ในการรับฟังเสียงของลูกค้าของเราและพัฒนาแนวคิดที่สามารถเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมยานยนต์ในอีกหลายปีข้างหน้า”
          โค๊ด 130 อาร์ เป็นรถคูเป้แบบสี่ที่นั่ง มีเส้นสายการออกแบบที่เรียบง่าย ตัวถังใช้สีแดงเมทัลลิกสลับด้วยล้อสีทองอโนไดซ์แบบด้าน มาพร้อมสไตล์ที่ตกทอดมาจากอดีตโดยเน้นสมรรถนะการขับขี่และใช้ระบบขับเคลื่อน ล้อหลัง ด้านหน้าเปี่ยมด้วยความดุดัน ซุ้มล้อมีขนาดใหญ่สไตล์เชฟโรเลต ตัวถังด้านข้างดีไซน์แนวตรงและประทับตาธงไขว้เอกลักษณ์ของเชฟวี่ ทั้งนี้ โค๊ด 130 อาร์ เน้นการเชื่อมโยงกับสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยมของเชฟโรเลต ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
          ทีมนักออกแบบคิดว่าขุมพลังขับเคลื่อน ที่เหมาะสมกับโค๊ด 130 อาร์ คือเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จที่ถูกปรับแต่งให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอีแอ สซิสต์ (eAssist) รถต้นแบบรุ่นนี้ยกระดับยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ก้าวไปอีกระดับ ด้วยการติดตั้งระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อรถหยุดนิ่ง ระบบคืนพลังงานขณะเบรกและมีแรงบิดที่ไหลลื่นต่อเนื่องเมื่อเหยียบคันเร่ง ขณะเดียวกัน ยังรักษาสมดุลของพละกำลังจากเทอร์โบและอัตราความประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่าง ลงตัว
          ทรู 140 เอส รถต้นแบบอีกหนึ่งรุ่นของเชฟโรเลต เป็นรถสไตล์แฮทช์แบ็กสามประตูสี่ที่นั่งใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า รังสรรค์ด้วยแนวคิด “รถสุดสปอร์ตที่ใครก็เป็นเจ้าของได้” มาพร้อมตัวถังสีขาวแบบด้าน ล้อโครเมียมประทับตราธงไขว้ของเชฟวี่เช่นกัน ทรู 140 เอส ได้รับการออกแบบให้อัดแน่นด้วยความมั่นใจ มีความสปอร์ตเต็มพิกัด ดูดีมีราคาและพร้อมทะยานไปด้วยความเร็ว โดยพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับเชฟโรเลต ครูซและเชฟโรเลต โวลต์ รถพลังงานไฟฟ้าขยายระยะทางขับเคลื่อนอันล้ำสมัย
          นักออกแบบของ ทรู 140 เอส ต้องการแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีที่พบได้เฉพาะในรถราคาแพง ไม่ว่าจะเป็นระบบหัวฉีดไดเรคอินเจคชั่นและเทคโนโลยีสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ ที่ใช้ตัวสตาร์ทเตอร์ ระบบสันดาปภายในที่สมดุล รวมถึงระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่มอบความคุ้มค่าและประหยัดเชื้อเพลิง
          รถต้นแบบทั้งสองรุ่นพัฒนาจากความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อรถที่มีอายุน้อย ดังนี้
          รถคูเป้สมรรถนะสูงรองรับผู้โดยสารสี่ที่นั่ง ตอบสนองการใช้งานเหมือนกับรถซีดาน
          มี ระบบเชื่อมต่อและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างหน่วยความจำ ไวไฟ รองรับสมาร์ทโฟนผ่านอินโฟเทนเมนท์เชฟโรเลต มายลิงค์ (Chevrolet MyLink) และการแสดงผลขึ้นบนกระจกหน้า
          เครื่องยนต์อีโคเทค (Ecotec) ความจุ 1.4 ลิตร เทอร์โบ มีพละกำลังสูงสุดราว 150 แรงม้า
          “กลุ่ม ลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีอายุน้อยให้ข้อมูลกับเราว่า พวกเขาต้องการรถที่สะดุดตาแบบคูเป้ที่รองรับการใช้งานได้ดี ซึ่งสไตล์ตัวถังของทั้งโค๊ด และทรู ตอบสนองลูกค้ากลุ่มนี้” มร. แฟรงก์ เซาเซโด ผู้อำนวยการศูนย์การออกแบบ แอดวานซ์ ดีไซน์ สตูดิโอของจีเอ็ม อเมริกาเหนือ (GM North America Advanced Design studio) ในนครลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการพัฒนารถต้นแบบทั้งสองรุ่น กล่าว
          ภาย ในห้องโดยสารของรถต้นแบบทั้งสองรุ่น มีระบบการเชื่อมต่อและการตกแต่งที่สามารถปรับให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า แต่ละคนได้ ซึ่งลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ย้ำว่ามีความสำคัญเช่นกัน
          “ลูกค้า กลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับระบบการเชื่อมต่อ ซึ่งจะเอื้อให้พวกเขาสามารถเชื่อมอุปกรณ์พกพาต่างๆ ผ่านทางมายลิงค์และไวไฟ ทำให้รถยนต์กลายเป็นสถานีส่วนตัวของพวกเขา” มร. เซาเซโด กล่าว “เวลานี้ในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้เป็นแบบสองมิติเท่านั้น จึงมีความยืดหยุ่นสำหรับการหารือและสนับสนุนให้เกิดการสนทนาเพื่อที่เราจะ สามารถพัฒนารถต้นแบบเหล่านี้ต่อไปได้”

สตาเลียนจัดเต็มขนทัพมินิไบค์หลากรุ่น ลงสู้ศึกมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34




   
          “สตาเลียน” จัดเต็มขนทัพมินิไบค์หลากรุ่น มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Stallions to AEC ต้อนรับการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ลงสู้ศึกมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 คาดหวังยอดขายไม่น้อยกว่า 300 คัน เตรียมแคมเปญเด็ดไว้สร้างแรงจูงใจสาวกแมงกะไซค์เต็มพิกัด
นายเกรียงไกร ลาภจตุรพิธ กรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท พาวเวอร์ สตาเลียน จำกัด ผู้จัดจำหน่ายมอเตอร์ไซด์ สตาเลียน มินิ Stallions MiNi สายพันธุ์ไทยหนึ่งในธุรกิจ SME ตีแตก และเป็นผู้จัดการแข่งขันครั้งแรกของโลก WORLD RECORDS “Stallions Mini Ride Up baiyok tower2 84 Floor (Tallest in Thailand )” ขี่ขึ้นฟ้า ท้า บันทึกโลก ชิงถ้วยพระราชทาน จากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร โดยในปี 2556 สำหรับงานบางกอกอินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34นี้ บริษัทฯพร้อมแนะนำมอเตอร์ไซค์ มินิไบค์หลายรุ่น เพื่ออวดโฉมให้นัดบิดหรือนักสะสมได้สัมผัสรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น
          สำหรับคอนเซ็ปต์ของบูธสตาเลียนในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้คือ Stallions to AEC ทั้งนี้เพื่อเป็นการต้อนรับการรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ของประเทศสมาชิกในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากบริษัทฯมีแผนที่จะส่งสตาเลียนไปจำหน่ายยังประเทศ พม่า กัมพูชา และเวียดนามฯ ในปีนี้
          นายเกรียงไกรกล่าวว่า ตนได้พัฒนามินิไบค์ใหม่ๆขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้รักและชื่นชอบ มอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กซึ่งสามารถจดทะเบียนได้ ขับขี่บนท้องถนนได้อย่างปลอดภัยไร้ข้อจำกัด ผู้ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์มินิสามารถเลือกซื้อและสัมผัสในทุกรุ่นได้อย่างจุใจ ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์นี้ ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2556 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอล์ 1 บูธ C5 ในงานนี้ตนคาดว่าจะทำยอดขายไม่น้อยกว่า 300 คัน ทั้งนี้ตนได้จัดเตรียมแคมเปญพิเศษอีกมากมาย ไว้รองรับความต้องการของผู้สนใจ พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์ใหม่และกิจกรรมความสนุกตลอดปีที่ www.powerstallions.com หรือ www.facebook.com/power.stallions

น้ำมันหล่อลื่น เปิดตัว คาสตรอลเอจ 5W30 เป็นครั้งแรกในงานมอเตอร์โชว์



          บริษัท บีพี-คาสตรอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นคาสตรอล ชวนคนรักรถ ร่วมสัมผัสนวัตกรรมน้ำมันหล่อลื่นเพื่อที่สุดแห่งยานยนต์กับการเปิดตัว น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ “คาสตรอลเอจ 5W30” เป็นครั้งแรก ตอบสนองยานยนต์ที่ต้องการความหนืดต่ำ ทำงานภายใต้ความกดอัดและแรงเสียดสีที่สูง มลภาวะจากไอเสียน้อย ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพต่างๆ มากมายจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ

          พร้อม ร่วมสัมผัสประสิทธิภาพ Fluid Strength Technology ที่มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนฟิล์มน้ำมัน ตอบสนองต่อการขับขี่ทุกสภาวะ เพิ่มสมรรถภาพเครื่องยนต์สูงสุดในทุกสไตล์การขับขี่ ณ บูธคาสตรอล ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชัลแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 34 ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม - 7 เมษายน 2556

          พิเศษ สุด!!! กับโปรโมชั่นพิเศษจำนวนจำกัด ภายในงานเท่านั้น ชุดผลิตภัณฑ์ คาสตรอลเอจ 5W30 และ 0W40 สำหรับรถเก๋ง (5 ลิตร) และคาสตรอลเอจ ปิกอัพ 5W30 (7 ลิตร) พร้อมบรรจุลงในกระเป๋าเดินทางอเนกประสงค์ ลากสะดวกตลอดงานและลุ้นโชครับของรางวัลมากมาย อาทิ ของลิขสิทธิ์ลัมโบร์กินี ฟุตบอล และเสื้อโปโลลายเซ็นต์ โรนัลโด

จากัวร์ และ แลนด์โรเวอร์ ยกทัพรถพรีเมี่ยมอวดโฉมในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34



          พบข้อเสนอสุดคุ้มและของที่ระลึกสุดพิเศษในงาน ระหว่าง 26 มีนาคม – 7 เมษายน 2556 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
 
          บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เตรียมยกขบวนรถยนต์ลักชัวรี่ที่กวาดรางวัลยนตกรรมระดับโลกทั้งจากแบ รนด์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ นำเสนอแก่ผู้บริโภคในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ที่บูธหมายเลข A19/1 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 7 เมษายน 2556 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อผู้ที่รักรถได้สัมผัสกับเทคโนโลยีและวิศวกรรมยานยนต์ใหม่ล่าสุดอย่าง ใกล้ชิด พบกับข้อเสนอพิเศษและของระลึกสำหรับผู้สั่งจองรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ ภายในงานเท่านั้น อาทิ รถยนต์แลนด์โรเวอร์ รุ่นดีเฟนเดอร์, ฟรีแลนเดอร์, ดิสคัฟเวอรี่, เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต, และ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค มาพร้อมบริการบำรุงรักษามาตรฐานฟรี 3 ปี และพิเศษสุดสำหรับผู้สั่งจองรถยนต์รุ่นอีโวคภายในงาน วางเงินดาวน์เพียง 25% เท่านั้น (เงินดาวน์รุ่นอื่นๆ 35%) สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่นพิเศษนี้ สอบถามได้ที่บูธจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ภายในงาน

          นายดนัย จันทร์งาม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากสามารถทำยอดขายอย่างถล่มทลายหลังการเปิดตัวรถยนต์ทั้งรุ่น เรนจ์โรเวอร์ อีโวค และ ดิ ออล นิว เรนจ์โรเวอร์ เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้บริษัทซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ได้รับความไว้วางใจและแต่งตั้งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์แลนด์โรเวอร์ในประเทศ ไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อนำเสนอยานยนต์ระดับโลกที่สมบูรณ์แบบด้วยสไตล์ที่หรูหรา สมรรถนะที่เหนือชั้น และภาพลักษณ์ที่สะท้อนความโดดเด่นของผู้ขับขี่ ให้เป็นที่แพร่หลายในตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมของเมืองไทย” จึงขอเชิญชวนผู้เข้าชมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 สัมผัสกับยานยนต์ระดับโลกจากสองแบรนด์ดังอย่างใกล้ชิด ซึ่งล้วนเป็นยานยนต์รุ่นที่คว้ารางวัลจากสถาบันยานยนต์ชั้นนำและได้รับเสียง ชื่นชมจากสื่อยานยนต์ระดับโลกมาแล้วหลายสำนัก พบกับข้อเสนอพิเศษดังกล่าวสำหรับผู้สั่งจองรถภายในงานนี้เท่านั้น

          หาก ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ถนนวิทยุ โทรศัพท์ 02 651 4545 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com

เชฟโรเลต ครูซ พร้อมเผยโฉม ที่งานบางกอก มอเตอร์โชว์



          เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85 สอดคล้องกับแผนงานของเชฟโรเลต ในการขยายรถพลังงานทางเลือกให้แก่ลูกค้า
          ครูซ โฉมใหม่ ได้รับการปรับรูปลักษณ์ด้านหน้าและด้านท้าย พร้อมการตกแต่งในห้องโดยสารด้วยวัสดุและสีสันเพิ่มความสดใหม่
          ระบบ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด GF6 เจนเนอเรชั่นใหม่ ให้ความแม่นยำและนุ่มนวล ในการเปลี่ยนเกียร์ พร้อมตอบสนองอัตราเร่งได้ดียิ่งขึ้น
          มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถ่ายภาพพร้อมกับคุณชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในงานเปิดตัว นิว เชฟโรเลต ครูซ

          บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะทำการเปิดตัวครูซ เวอร์ชั่นเฟล็กซ์ฟิวโฉมใหม่ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ยกระดับความโดดเด่นด้วยการปรับรูปลักษณ์ให้สะดุดตายิ่งขึ้น พร้อมเสริมสมรรถนะและรองรับเชื้อเพลิงได้หลากหลายรูปแบบ ตอกย้ำความเป็นยนตรกรรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเชฟโรเลต
          ครู ซ ซึ่งเปิดตัวออกสู่ตลาดประเทศไทยครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 สร้างความประทับใจให้ลูกค้าชาวไทยด้วยยอดขายมากกว่า 20,000 คัน มาพร้อมการออกแบบที่ร่วมสมัยและสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ครูซ จึงเป็นรถยนต์สำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่และสำหรับครอบครัว โดยคอมแพ็คต์ซีดานคันนี้นำยอดขายเชฟโรเลต ในระดับโลกในปี 2555 ด้วยตัวเลขมากกว่า 755,00 คัน ครูซ ยังเป็นรถเชฟโรเลตที่มียอดขายสูงที่สุดในโลกโดยมีตัวเลขสะสมเกือบ 1.9 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2552
          “ครูซ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในตลาดเมืองไทยเช่นกัน ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและการออกแบบอันหรูหรา ทำให้รถคอมแพ็คต์ซีดานคันนี้มีความโดดเด่นที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดรถซีดาน เมืองไทย ครูซ โฉมใหม่รองรับเชื้อเพลิง E85 จึงเป็นรถเฟล็กซ์ฟิว (Flex-Fuel Vehicle – FFV) ที่สอดคล้องกับกลยุทธของเชฟโรเลต ในการขยายศักยภาพพลังงานทางเลือกให้ครอบคลุมรถทุกรุ่นที่เราจัดจำหน่าย” มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
          “ปัจจุบัน มีสถานีบริการน้ำมันที่มีเชื้อเพลิง E85 มากกว่า 100 แห่งในประเทศไทย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากลูกค้ารับรู้ถึงประโยชน์ของเชื้อเพลิงประเภทนี้ เอทานอลเป็นพลังงานหมุนเวียนและมีความสำคัญต่อประเทศที่ต้องนำเข้าน้ำมัน” มร. แอพเฟล กล่าวเพิ่มเติมช
          ปรับรูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสารเพิ่มความสดใหม่
          ครู ซ รุ่นปรับโฉมได้รับการยกระดับสุนทรียภาพขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกันชนด้านหน้าดีไซน์ใหม่คู่กับไฟตัดหมอกรูปทรงโฉบเฉี่ยว พร้อมกับการปรับการออกแบบทั้งกรอบไฟหน้ามุมโครเมียมและกระจังหน้าใหม่ที่ทำ ให้โลโก้เชฟวี่ โบว์ไท มีความสะดุดตายิ่งขึ้น ขณะที่กันชนหลังดีไซน์ใหม่ให้ความสปอร์ตกว่าเดิม เข้ากับกรอบไฟท้ายใหม่อย่างลงตัว ครูซ โฉมใหม่ ยังมาพร้อมล้ออัลลอยแบบห้าก้านที่แต่งเติมความหรูหราให้แก่ตัวรถมากยิ่ง ขึ้น
          ภายในห้องโดยสารของครูซ LTZ รุ่นปรับโฉม ดึงดูดทุกสายตาด้วยการตกแต่งสีน้ำตาลแดง (brown stone) แบบใหม่ พร้อมการแต่งเติมรายละเอียดและพื้นผิวสัมผัสบริเวณคอนโซลกลางให้ความรู้สึก หรูหรายิ่งขึ้น สำหรับปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นทรงกลมเพื่อ รองรับการใช้งานได้สะดวกสบายกว่าเดิม
          เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร รองรับ E85 ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์รุ่นใหม่
          การ เปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญที่สุดของครูซ โฉมใหม่ คือเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E85 ทำให้ครูซ เป็นรถเฟล็กซ์ฟิว หรือรถที่รองรับเชื้อเพลิงได้หลากหลายอีกหนึ่งรุ่นของเชฟโรเลต โดยสามารถเติมได้ทั้งน้ำมันเบนซินทั่วไปจนถึงน้ำมัน E85 ที่มีส่วนผสมของเอทานอล 85 เปอร์เซ็นต์ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ECOTEC บล็อก 4 สูบ เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) ของครูซ ยังมาพร้อมระบบหัวฉีดมัลติพอยท์ (Multi-point Injection) และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double Continuous Variable Cam Phasing) ทำงานร่วมกับท่อร่วมไอดีแปรผัน (Variable Intake Manifold) ไอดีและไอเสียทำงานอย่างสัมพันธ์กันในทุกรอบเครื่องยนต์
          ระบบ อันทันสมัยดังกล่าวในเครื่องยนต์ของครูซ โฉมใหม่ช่วยเพิ่มสมรรถนะ ลดปริมาณไอเสียและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้พละกำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที
          ครู ซ ยังมาพร้อมกับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รหัส GF6 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ความแม่นยำยิ่งขึ้นและมอบความนุ่มนวลมากกว่าเดิมในการเปลี่ยนเกียร์ ขณะเดียวกันยังตอบสนองด้านอัตราเร่งได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย ครูซ ยังใช้ระบบการจัดการเครื่องยนต์แบบใหม่ที่ให้ความยืดหยุ่นในด้านการไหลเวียน เชื้อเพลิง ระยะเวลาการจุดระเบิดและการเร่งไฟจุดระเบิดล่วงหน้า ขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันทั้งเบนซินทั่วไป E10 E20 หรือ E85 ตามมาตรฐานของรถเฟล็กซ์ฟิว ขณะเดียวกัน รถที่รองรับเชื้อเพลิง E85 ยังมีชิ้นส่วนภายในที่แตกต่างเพื่อรองรับคุณสมบัติพิเศษของเชื้อเพลิง E85
          มร. คิม ชานจู ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายพัฒนาวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รถที่มีศักยภาพรองรับเชื้อเพลิง E85 ทำให้ค่าใช้จ่ายของลูกค้าลดลง เอทานอลเป็นเชื้อเพลิงหมุนเวียนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานอันยั่งยืน”
          “เชื้อ เพลิง E85 ผลิตจากพืชหมุนเวียน ช่วยลดแก๊สเรือนกระจกและลดการบริโภคเชื้อเพลิงปิโตรเลียมลงได้ หากพิจารณาในด้านความมั่นคงด้านพลังงานแล้ว เชื้อเพลิง E85 สามารถผลิตได้ในประเทศ เป็นพลังงานหมุนเวียนและมีความยั่งยืน รวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถ้าใช้กันอย่างแพร่หลายจะช่วยประหยัดงบประมาณของประเทศในด้านพลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงฟอสซิลลงได้”
          ศักยภาพการ รองรับ E85 ของครูซ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธสำคัญของเชฟโรเลต ในการขยายยานยนต์พลังงานทางเลือกให้แก่ลูกค้า โดยก่อนหน้านี้ เชฟโรเลต ได้เปิดตัวแคปติวา รถเอสยูวีเฟล็กซ์ฟิวที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร E85 ไปแล้ว รวมถึงการเปิดตัวโซนิค ขุมพลัง 1.4 ลิตรที่รองรับ E20 เมื่อไม่นานมานี้
          ครูซ โฉมใหม่ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ผลิตพละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว ให้พละกำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร
          ความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย
          เทคโนโลยี และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยอัดแน่นอยู่ในครูซ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Passive Entry Passive Start เข้าออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นควบคุมครูสคอนโทรลและเครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อครบครันทั้ง Auxiliary USB และ Bluetooth ครูซ ยังติดตั้งระบบปรับน้ำฝนอัตโนมัติและไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
          เชฟ โรเลต ครูซ ไม่ได้มีแต่รูปลักษณ์และการขับขี่ที่โดดเด่นเท่านั้น หากยังเพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยทั้งแบบป้องกันและเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก (EBD) ระบบรักษาเสภียรภาพการทรงตัว (ESP) ระบบป้องกันการลื่นไถล (Traction Control) และกุญแจนิรภัย (Key Immobilizer) ขณะที่ระบบความปลอดภัยแบบเตรียมพร้อมประกอบด้วยโครงเหล็กนิรภัยและคานกัน กระแทกด้านข้างที่ทนทานต่อแรงอัดสูง
          เชฟโรเลต ครูซ พร้อมให้ลูกค้าได้ทดลองขับที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคมถึง 7 เมษายนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชฟโรเลต ครูซและกิจกรรมภายในงานสามารถเข้าชมได้ที่ www.chevrolet.co.th หรือโทร. 1734

พสิษฐ์ วราห์บัณฑูรวิทย์ แห่งคาร์ลอฟท์ เตรียมรับมอเตอร์โชว์ สอยรถหรูมาให้เลือกเพียบ



           เตรียมรับฤดูกาลมอเตอร์โชว์ พสิษฐ์ วราห์บัณฑูรวิทย์ แห่งคาร์ลอฟท์ ออโต้ อิมพอร์ต ทะยอยสอยรถหรูจากค่ายรถยุโรปและเอเชียหลากหลายแบรนด์ดังมาเสนอให้บรรดา ลูกค้ารสนิยมดีกระเป๋าหนักได้เลือกกัน ข่าวว่าตอนนี้มี ยนตรกรรมยอดนิยมจากยุโรป “Porsche New Carrera 991” สีดำ สปอร์ตหรูฟูลออฟชั่นในราคาพิเศษ มาโชว์โฉมโดดเด่น ณโชว์รูมคาร์ลอฟท์ ออโต้ อิมพอร์ต ศรีนครินทร์ เรียบร้อยแล้ว สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.02-720-2177 อย่าลืมแวะเวียนไปชมกันด้วยนะคะ

มาสด้าเตรียมจัดเต็มงานมอเตอร์โชว์ทั้งรถใหม่และรุ่นพิเศษ เจาะตลาดยังเจนดึงสาวน้อยวัยใสร่วมทีมประชาสัมพันธ์แบรนด์










   
          บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นค่ายรถยนต์สำหรับคนรุ่นใหม่ไปแล้วหลังจากออกมาสร้างกระแสให้กับรถ ยนต์ทุกรุ่นจนประสบความสำเร็จอย่างงดงามพร้อมทั้งสร้างสีสันให้กับตลาดรถ ยนต์เมืองไทยให้คึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานมอเตอร์โชว์ที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ นอกจากจะนำเอาขบวนยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตทุกรุ่นที่ยกมากันครบทีมแล้ว ในงานปีนี้มาสด้ายังเตรียมเปิดให้ยลโฉมเป็นครั้งแรกสำหรับรถต้นแบบ Mazda CX-5 Prototype ที่กำลังจะถูกเผยโฉมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มาสด้าเพิ่งเริ่มทดลองผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในภารกิจนี้โดย เฉพาะ เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสสัมผัสตัวจริงเสียงจริงเป็นครั้งแรก ที่สำคัญมาสด้ายังเอาใจสาวกสายพันธุ์สปอร์ตด้วยการเตรียมเปิดตัวมาสด้า2 รุ่นพิเศษ Limited Edition ที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งแท้จากโรงงาน ดีไซน์ใหม่เน้นความเป็นสปอร์ต ที่ใส่อุปกรณ์เสริมพิเศษรอบคัน โดยเฉพาะไฟหน้าแบบ LED ให้ความเป็นสปอร์ตหนึ่งเดียวในคลาส

          และ ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับงานมอเตอร์โชว์ นั่นคือบรรดาสาวงาม เอวบางร่างน้อย น้องๆ วัยสดใส น่ารัก ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ที่จะมาคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์มาสด้า และทุกๆ ครั้ง ต่างได้รับความสนใจจากบรรดาผู้ชมงานไม่น้อยไปกว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จัดแสดง และก็เป็นที่น่าจับตามองเหมือนเช่นทุกๆ ปี โดยเฉพาะที่บูธมาสด้านั้นต้องแวะเวียนไปชมไปสัมผัส นอกจากจะมีรถยนต์รุ่นใหม่แล้ว การได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยทีมประชาสัมพันธ์พิเศษที่เฟ้นหามาจาก ทั่วประเทศเพื่อทำหน้าที่คอยให้ข้อมูลของรถยนต์มาสด้าในแต่ละรุ่นอย่าง ละเอียด

          นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บุคคลสำคัญในการสรรหาน้องๆ เหล่านี้เข้ามาร่วมทีม กล่าวว่า สำหรับมาสด้า สวีท จะเข้ามาทำหน้าที่เพื่อเป็นตัวแทนของแบรนด์ โดยมาสด้าจะเฟ้นหา และรับสมัครเพื่อคัดเลือกเข้ามาทำหน้าที่ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งในแต่ละครั้งก็จะมีน้องๆ จากทั่วประเทศ และมีจำนวนมากกว่า 300 คน ในแต่ละครั้งที่เข้ามา ซึ่งทางเราก็จะมีเกณฑ์ในการคัดเลือกที่หลากหลาย เพื่อให้ได้เพียง 6 คนเท่านั้นที่จะได้รับหน้าที่อันสำคัญนี้ ซึ่งน้องๆ ที่ผ่านเข้ามาร่วมงานกับมาสด้าสามารถนำไปต่อยอดสร้างอนาคตในวงการบันเทิง หรือสายอื่นๆ โดยเฉพาะน้องๆ ที่เข้ามาส่วนใหญ่จะยังไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน ซึ่งเราต้องฝึกอบรมในทุกๆ ด้าน ทั้งการให้รายละเอียดข้อมูลของผลิตภัณฑ์ ลักษณะท่าทาง บุคลิกภาพ ความรอบรู้ ปฏิภาณไหวพริบ เพื่อให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างชัดเจน และมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น

          มาสด้า สวีท ทั้ง 6 คน ประกอบด้วย

          มาสด้าสวีท_1
          น้อง น้ำตาล นางสาวพรปวีณ์ เทพมงคล คู่กับรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 สปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู สาวน้อยนัยน์ตาคม ที่ผ่านการแสดงละครมาแล้วหลายเรื่อง ทั้งเรื่องนางสาวรักดี ธิดาวานร ไข่ลูกเขย ทางช่อง 7 สี ด้วยความสามารถพิเศษมากมาย บวกกับเป็นคนที่ใฝ่ศึกษาหาความรู้ และเพิ่งคว้าปริญญาตรีจบการศึกษาจากรั้วราชัฎสวนดุสิต คณะธุรกิจการโรงแรม ด้วยอายุเพียง 22 ปี กับบุคลิกที่สดใสร่าเริงเข้ากับคนง่าย อัธยาศัยดี ช่างพูดช่างเจรจา น่าจับตามองไม่ใช่เล่น อนาคตอาจเห็นสาวน้อยคนนี้โลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกหลายๆ เรื่องก็เป็นได้

          มาสด้าสวีท_2
          น้อง กวาง นางสาวเปรมกมล ไทยทอง คู่กับรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 เอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู สาวน้อยขี้เล่น สนุกสนาน อารมณ์แจ่มใส คนที่หากอยู่ใกล้มีหวังหลงเสน่ห์เอาง่ายๆ ไม่แพ้กับความเก่งกล้าสามารถที่พกเอาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระ จอมเกล้าธนบุรี คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ อยากรู้อะไรเกี่ยวอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ รวมทั้งเทคนิคด้านรถยนต์สามารถสนทนาอธิบายได้เป็นฉากๆ

          มาสด้าสวีท_3
          น้อง ส้มโอ นางสาวศุภดา สายทุ้ม คู่กับรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 รุ่นพิเศษ S+ สาวสวยหน้าหวานคนนี้ เพียบพร้อมด้วยรอยยิ้มอันแสนหวาน ใบหน้าที่อิ่มเอิบ ผนวกกับความเซ็กซี่เล็กๆ แถมพกพาความสามารถพิเศษด้านเสียงเพลงที่ขับกล่อมบรรเลงคราใดสามารถสะกดคนฟัง ให้เคลิบเคลิ้มชะงักงัน แถมพกพาดีกรีปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ สายสื่อมวลชน จากรั้วลูกพ่อขุนรามคำแหง

          มาสด้าสวีท_4
          น้อง แพท นางสาวลักขณา พิพัฒน์เพชรภูมิ กับรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 1.6L และ 2.0L สาวสวย เข้มแบบมีสไตล์ พกเอารอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ คุยเก่ง อารมณ์ดี มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ แถมคว้าปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ความฝันคือ อยากเปิดบริษัททำธุรกิจเป็นของตัวเอง เป็นสาวน้อยอีกคนที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากงานเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยความสามารถที่ล้นหลาม สามารถบอกเล่ารายละเอียดอธิบายรถยนต์มาสด้าได้เป็นฉากๆ ครั้งนี้เลยต้องมารับหน้าที่เป็นเดอะเทรนเนอร์ให้กับน้องๆ อีกครั้ง

          มาสด้าสวีท_5
          น้อง กิปเก๋ นางสาวภัควลัญชน์ สุทธิวารี คู่กับรถสปอร์ตโรดสเตอร์ Mazda MX-5 สาวน้องจากเมืองเหนือ ที่พกพาผิวขาวๆ เนียนๆ ตามสไตล์ล้านนา ยิ้มง่าย สดใส ร่าเริง ที่เพิ่งเข้ามาร่วมสัมผัสประสบการด้านการประชาสัมพันธ์ ด้วยการเป็นพริตตี้ได้ไม่นาน แต่ด้วยใจรักและความมุ่งมั่นที่มีอยู่เต็มเปี่ยม แถมพกพาดีกรีปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง คณะบริหารธุรกิจ น่าจะทำหน้าที่นี้แบบผ่านฉลุย

          มาสด้าสวีท_6
          น้อง บุ๋ม นางสาวลลิตา ฉิมภารส คู่กับรถสปอร์ตปิกอัพสไตล์เก๋ง มาสด้า บีที-50 โปร สาวหวานสุดมั่น ยิ้มเก่งและมากความสามารถอีกคน ที่พกพาไอเดียสุดบรรเจิด หลายๆ คนอาจคุ้นหน้าคุ้นตากกันมาบ้างจากผลงานโฆษณาหลายๆ ชิ้น ที่สาวน้อยคนนี้ผ่านการเป็นพรีเซนเตอร์มาแล้ว เหล่าดาราดังๆ หลายคนอาจต้องอิจฉา เนื่องจากเคยถ่ายภาพยนตร์โฆษณามาแล้วเป็น 10 ชิ้น การันตีความสวยบวกกับความสามารถด้วยใบปริญญาบัตรโดยตรงจากคณะนิเทศศาสตร์ โฆษณา มหาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

          เตรียมพบกับความน่ารัก สดใส ของสาวๆ มาสด้า สวีท มีทั้ง 6 คนได้ ที่บูธมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 วันที่ 27 มีนาคมถึงวันที่ 7 เมษายนนี้ได้ที่เมืองทองธานี งานนี้พลาดแล้วจะเสียใจ

 
มาสด้าเผยทีเด็ด 4 ไฮไลท์พาเหรดรถสปอร์ตลุยงานมอเตอร์โชว์





          - เผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทยกับ Mazda CX-5 Prototype
          - เปิดตัวสปอร์ตพรีเมี่ยมรุ่นพิเศษ Mazda2 Limited Edition
          - ออกแคมเปญดาวน์ 22,000 ดอกเบี้ยเพียง 33 สตางค์ ฟรีประชันชั้นหนึ่ง ฟรีค่าบำรุงรักษา
          - ครั้งแรกกับออกแบบดีไซน์บูธใหม่หมดสไตล์ ซูม-ซูม

          บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเกมส์บุกหนักตลาดรถยนต์ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ เตรียมสร้างความแปลกใหม่เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นผู้นำด้านความ แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ เริ่มจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบบูธจัดแสดงรถในงานมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ ด้วยดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เพื่อสื่อสารแนวคิด ซูม-ซูม ใช้ชัดเจนยิ่งขึ้น และแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของมาสด้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งลูกค้าเองก็จะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆในการเข้าชมรถยนต์ยนต์มาสด้าสาย พันธุ์สปอร์ต

          นอกจากนี้ยังมี ไฮไลท์เด็ดที่สอง นั่นคือการจัดแสดงรถยนต์ Prototype ของ Mazda CX-5 ซึ่งเป็นรถยนต์ของมาสด้ารุ่นแรกในโลกที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยได้ชมโฉมรถสปอร์ตครอสโอเวอร์แนวใหม่ที่รูปลักษณ์สวยงาม ที่สุด เนื่องจากถูกถ่ายทอดความงดงามหมดจดของ โคโดะ ดีไซน์ “KODO DESIGN” มาจากรถต้นแบบ Mazda SHINARI คอนเซ็ปต์คาร์ตัวแม่ ที่สามารถบ่งบอกว่านี่คือนวัตกรรมใหม่แห่งอนาคตในโลกยานยนต์ที่สร้างความฮือ ฮามาแล้วในทุกตลาดทั่วโลก ซึ่งลูกค้าชาวไทยจะได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดในงานมอเตอร์โชว์แห่งนี้ และไฮไลท์ที่สามที่ตรงใจสาวกชาว ซูม-ซูม นั่นคือ การเปิดตัวรถมาสด้า2 รุ่นพิเศษ ลิมิเต็ด เอดิชั่น รุ่นพิเศษที่พัฒนามาด้วยคอนเซ็ปต์แบบสปอร์ตพรีเมี่ยม ซึ่งทั้งสามไฮไลท์นี้มาสด้าพร้อมแล้วที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ เข้าชมงานมอเตอร์โชว์ที่เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมศกนี้เป็นต้นไป

          สำหรับรถต้นแบบ Mazda CX-5 กำลังจะถูกเผยโฉมเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มาสด้าเพิ่งเริ่มทดลองผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในภารกิจนี้โดย เฉพาะ เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสสัมผัสตัวจริงเสียงจริงเป็นครั้งแรก ที่สำคัญ Mazda CX-5 ถูกพัฒนามาจากรถต้นแบบที่มาสด้าเคยนำมาจัดแสดงในงานเดียวกันนี้เมื่อปีที่ ผ่านมานั่นคือ Mazda MINAGI สีแดงเพลิง ซึ่งเป็นการเปิดเผยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด และเป็นแนวทางหรือภาษาของการออกแบบรถยนต์ใหม่ ที่เรียกว่า "โคโดะ ดีไซน์" ถือว่าเป็นรถที่แสดงถึงรถมาสด้าเจนเนอเรชั่นถัดไปอย่างสมบูรณ์แบบ ในฐานะรถต้นแบบมาสด้ารุ่นแรก ภายใต้แนวการออกแบบโคโดะ ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติการออกแบบด้วยการนำเสนอรูปแบบของการออกแบบที่แสดงออก ถึงอารมณ์ และสมรรถนะการ ขับขี่ที่สนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจ ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมากและสร้างความฮือฮามาแล้วทั่วโลก

          นาย โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ด้วยเสียงเรียกร้องจากลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างกึกก้อง ทำให้เราไม่สามารถที่จะเก็บสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้ได้นานที่สุดตามกำหนดการ ที่เราได้วางไว้ตั้งแต่ต้น วันนี้

เราทนกับเสียงเรียกร้องเหล่านั้นไว้ไม่ไหว เราจึงตัดสินใจที่ขอนำเสนอสุดยอดขอเทคโนโลยีในวันหน้า ให้ทุกท่านได้สัมผัสในวันนี้ ด้วยการเผยโฉมเป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับรถต้นแบบที่ทดลองผลิตขึ้นเพียงแค่ คันเดียวเท่านั้น เพื่อให้ชาวไทยทุกท่านได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงของ Mazda CX-5 Prototype ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีการออกแบบแห่งทศวรรษใหม่ของมาสด้า เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำอนาคต ที่พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในปีนี้อย่างแน่นอน

          ทางด้าน แม่ทัพฝ่ายการตลาด นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า นอกจากจะนำเอารถต้นแบบมาจัดแสดงเพื่อให้คนไทยได้สัมผัสและเข้าถึงเทคโนโลยี แห่งอนาคตแล้ว มาสด้ายังเอาใจสาวกสายพันธุ์สปอร์ตด้วยการเตรียมเปิดตัวมาสด้า2 รุ่นพิเศษ Limited Edition ที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งแท้จากโรงงาน ดีไซน์ใหม่เน้นความเป็นสปอร์ต ที่ใส่อุปกรณ์เสริมพิเศษรอบคัน โดยเฉพาะไฟหน้าแบบ LED ให้ความเป็นสปอร์ตหนึ่งเดียวในคลาส เสริมด้วยชุดคิ้วขอบกระจังหน้าใหม่ ชุดสเกิร์ตหลัง พร้อมดิฟิวเซอร์ มือจับประตูโครเมี่ยม เติมดีกรีด้วยสติ๊กเกอร์ออกแบบพิเศษลายกราฟฟิก Limited Edition ปลายท่อสเตนเลสสุดเท่ เสาอากาศแบบสั้น มาพร้อมล้ออัลลอย์ขนาด 16 นิ้ว พร้อมสีพิเศษ Polished Silver ภายในยังตกแต่งเสริมความเป็นสปอร์ตดุดันมากยิ่งขึ้นด้วยเบาะผ้าสีดำ แต่งด้วยด้ายสีแดงพร้อมโลโก้ Mazda2 พวงมาลัยหนังสีดำแต่งด้วยด้ายสีแดง มีให้เลือกถึง 3 สี ประกอบด้วย สีพิเศษ สีแดง ซีลเรด ไมก้า Zeal Red Mica สีขาวอาคตอชิค ไวท์ และสีดำ แบล็กไมก้า ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบสปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู ราคาเพียง 691,000 บาท และเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู ราคาเพียง 686,000 บาท และมีจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น

          นอก จากนี้ มาสด้ายังใจปล้ำเอาใจลูกค้าผู้หลงใหลความเป็นสปอร์ตของรถยนต์มาสด้า ด้วยการมอบข้อเสนอสุดพิเศษ โดยเฉพาะรถปิกอัพที่กำลังฮ็อตโดนใจที่สุดในยุคนี้ มาสด้า บีที-50 โปรใหม่ ปิกอัพฮีโร่ขวัญใจมหาชน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 589,000 บาทเท่านั้น ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.99% พร้อมแพ็กเกจบำรุงรักษานาน 1 ปี พร้อมรับฟรีทันทีประกันภัยชั้น 1 ในส่วนของรถยนต์นั่งมาสด้า2 เงินดาวน์เริ่มต้นเพียง 22,000 บาท หรือเลือกรับดอกเบี้ยเพียง 1.79% และมาสด้า3 สามารถรับข้อเสนอพิเศษเช่นเดียวกัน เงินดาวน์เริ่มต้นเพียง 33,000 บาท หรือเลือกรับดอกเบี้ยต่ำเพียง 33 สตางค์ พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง สำหรับรถยนต์ประเภทพรีเมี่ยมคาร์ ทั้งสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 และสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู 7 ที่นั่ง มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 รับดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 2.45% แถมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งแล้ว มาสด้ายังมอบข้อเสนอสุดพิเศษเพิ่มขึ้นไปอีกด้วยการมอบแพ็กเกจบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ซึ่งลูกค้าที่สนใจสำหรับข้อเสนอสุดพิเศษนี้จะมีถึงเพียงวันที่ 7 เมษายนศกนี้เท่านั้น

มาสด้าแนะนำมาสด้า2 รุ่นพิเศษ “ลิมิเต็ด เอดิชั่น” รับมอเตอร์โชว์ แถมโปรโมชั่นเด็ดดาวน์ 2 หมื่น ดอกเบี้ย 33 สตางค์






   
           บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ที่พุ่งทะลุเกิน 35% เดินหน้ากระตุ้นตลาดรถยนต์เมืองไทยต่อทันที ด้วยการการงัดกลยุทธ์เด็ดออกแคมเปญต้อนรับมอเตอร์โชว์ "Mazda Hot Deal" ให้ลูกค้าไม่พลาดโอกาสเป็นเจ้าของสายพันธุ์สปอร์ตเร้าใจจากมาสด้า ให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์และรถปิกอัพมาสด้าทุกรุ่นได้ง่าย ออกรถวันนี้รับโปรโมชั่นเดียวกันกับงานมอเตอร์โชว์ ด้วยเงินดาวน์เริ่มต้นเพียง 22,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำสุดๆ เริ่มต้นถูกกว่าดอกเบี้ยเงินฝากเพียง 33 สตางค์เท่านั้น แถมใจดีให้ฟรีประกันชั้นหนึ่งทุกรุ่น เริ่มแล้ววันนี้ไม่ต้องรอถึงงานมอเตอร์โชว์ หมดเขตถึง 7 เมษายนนี้เท่านั้น

          นาย โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับตลาดรถยนต์ในช่วงเดือนสองเดือนแรกที่ผ่านมานั้น เริ่มส่งสัญญาณถึงสถานการณ์และทิศทางที่เปลี่ยนไป แม้ว่าหลายๆ ค่ายจะกำยอดจองสะสมอยู่ในมือจำนวนมากก็ตามที แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ กำหนดการรับรถของลูกค้าที่ยังไม่ระบุชัดเจน รวมถึงการชะลอการออกรถของลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการรถยนต์คันแรก ยังไม่ได้รีบเร่งออกรถใหม่ เนื่องจากเหตุผลที่หลากหลายทางด้านความพร้อม ทำให้ความคึกคักของตลาดในช่วงแรกไม่เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา ในขณะที่มาสด้ามียอดจองสะสมอยู่ตั้งแต่ปีที่แล้วประมาณ 20,000 คัน ยอดจองสูงสุดคือรถมาสด้า2 ตามมาด้วยมาสด้า บีที-50 โปร ตั้งแต่ต้นปีได้ทยอยส่งมอบรถใหม่ให้กับลูกค้ารวมทุกรุ่นเฉลี่ยเดือนละ 6,000 คัน และนับแต่เปิดปีศักราชใหม่มานี้ มาสด้าได้ออกกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ ออกรถของลูกค้าให้เร็วขึ้น และเพื่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการซื้อรถในปีนี้ ส่งผลให้ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ยังคงแรงทะลุเป้าเกิน 6,000 คัน

          ยอด จำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำเดือนกุมภาพันธ์พุ่งโตสูงสุดถึง 35% จากยอดการจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 6,024 คัน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ได้รับความนิยมสูงสุดสามารถทำลายสถิติสูงสุดอีกครั้งด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้น 3,219 คัน รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 เครื่องยนต์ 1.6 และ 2.0 ลิตรใหม่ มีจำนวนทั้งสิ้น 411 คัน มีอัตราการเติมโตเพิ่มสูงขึ้นถึง 53% รถปิกอัพสไตล์เก๋งมาสด้า บีที-50 โปรใหม่ มีจำนวนทั้งสิ้น 2,392 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสูงถึง 181% นอกจากนี้รถยนต์ประเภทพรีเมี่ยมคาร์ รถสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 และรถสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 มียอดขายรวมกันอีก 2 คัน

          นอกจากแคม เปญรับมอเตอร์โชว์แล้ว มาสด้ายังมุ่งไปที่การสร้างความต้องการเป็นเจ้าของรถมาสด้าจากแนวทางของตัว สินค้าเป็นหลัก ด้วยการส่งมาสด้า2 รุ่นพิเศษ ลิมิเต็ด เอดิชั่น สปอร์ตพรีเมี่ยมใหม่ กับไฟหน้า LED ออพชั่นหนึ่งเดียวในคลาส เสริมความสปอร์ตแบบพรีเมี่ยมขึ้นอีกระดับ และยังมีสีพิเศษ สีแดง ซีลเรด ไมก้า (Zeal Red Mica) ที่มีความเข้มและความเงาของสีพิเศษกว่าสีอื่นทั่วไป รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น นี้ลงตลาดพร้อมชุดแต่งสปอร์ตแพ็กเก็จ ซึ่งจะเปิดตัวสู่ตลาดคนรักรถสปอร์ตในอีก 2 สัปดาห์นี้ ทั้งนี้ กลยุทธ์ออกรถยนต์รุ่นใหม่และรุ่นพิเศษ นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์รุกตลาดที่สำคัญของมาสด้าที่ช่วยสร้างความตื่นเต้นให้ กับตลาด และทำให้แบรนด์มาสด้ามีความสดใหม่อยู่เสมอ

          นางสาวสุรี ทิพย์ ละอองทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นอกจากการเปิดตัวรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่มาพร้อมชุดแต่งและอุปกรณ์ความเป็นสปอร์ตรอบคัน ในจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น มาสด้าได้ออกแคมเปญพิเศษ Mazda Hot Deal ถือเป็นโปรโมชั่นที่คุ้มค่าที่สุดในรอบ 2 ปี โดยมาสด้าได้รับการสนับสนุนทางด้านการปล่อยสินเชื่อรายใหม่เป็นอย่างดีจาก มาสด้าลิสซิ่งของเรา เนื่องที่ผ่านมาลูกค้าของมาสด้าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีโปรไฟล์ที่ดีและมีฐานะ ทางการเงินที่มั่นคง นอกจากเงินดาวน์ที่ต่ำแล้ว ดอกเบี้ยยังต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการให้ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟรี 1 ปี

          มาสด้าออ อกโปรโมชั่นสุดพิเศษรับข้อเสนอสุดฮ็อต "Mazda Hot Deal" เตรียมสตาร์ทความสปอร์ตเร้าใจ...กับข้อเสนอสุดเช่นเดียวกันกับงานมอเตอร์ โชว์ ลูกค้าสามารถตัดสินใจเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าทุกรุ่น ทุกสี ทุกคัน ด้วยเงื่อนไขสุดพิเศษ ที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันงานจริง โดยเฉพาะลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์นั่งสปอร์ตที่ขับสนุก ด้วยเงินดาวน์เริ่มต้นเพียง 22,000 บาทเท่านั้น หรือเลือกรับดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพียง 1.79% รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 เครื่องยนต์ 1.6L และเครื่องยนต์ 2.0L เงินดาวน์เริ่มต้นเพียง 33,000 บาท หรือเลือกรับดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 0.33% เท่านั้น และสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหารถปิคอัพสไตล์เก๋งเสริมความภูมิฐาน มาสด้า บีที-50 โปร ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.99% พร้อมรับฟรีแพ็กเกจค่าบำรุงรักษา 1 ปีเต็ม รถยนต์ประเภทพรีเมี่ยมคาร์ รถสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 และรถสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 อัตราดอกเบี้ยเพียง 2.45% และแถมฟรีแพ็กเกจค่าบำรุงรักษาฟรีนาน 3 ปี พร้อมกันนี้รถยนต์มาสด้าทุกรุ่นยังแถมฟรีประกันชั้นหนึ่ง
 
ยอดขายรถยนต์มาสด้า เดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2556
 
Model   กุมภาพันธ์ 56   กุมภาพันธ์ 55   เปลี่ยนแปลง%
Mazda2   3,219   3,327   - 3
Mazda3   411   269   + 53
Mazda BT-50 PRO   2,392   851   + 181
Premium Car   2   4   - 50
ยอดรวม   6,024   4,451   + 35

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด BMW ActiveHybrid ที่มาพร้อมชุดแต่ง M Sport ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34









          ไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ
          BMW ActiveHybrid 3
          BMW ActiveHybrid 5
          BMW ActiveHybrid 7 L
          BMW 730Li และ 730Ld รุ่นปรับโฉมใหม่
          BMW 525d และ 528i พร้อมระบบ Rear Seat Entertainment
          BMW 116i M Sport
          MINI Cooper S Paceman ALL4
          BMW Motorrad : HP4 และ F700 GS & F800 GS

          บี เอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศความเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับพรีเมี่ยมอีกครั้งในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ซึ่งในงานนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด BMW ActiveHybrid จะมีให้เลือกมากถึง 8 รุ่นด้วยกัน รวมรุ่นพิเศษที่มาพร้อมชุดแต่ง M Sport นอกจากนี้แล้ว ทุกรุ่นของ BMW ActiveHybrid มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ที่ได้รับรางวัล “Engine of the year” ถึง 2 ปีซ้อน นอกจากนี้ มินิ ประเทศไทยยังได้เปิดตัว MINI Paceman เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นมินิรุ่นที่ 7 ที่มาพร้อมกับรูปแบบของ Sport Activity Coupe
          BMW ActiveHybrid 3 (ราคา 4,199,000 บาท)
          BMW ActiveHybrid 3 M Sport (ราคา 4,399,000 บาท)
          BMW ActiveHybrid 3 M Sport (ราคา 4,499,000 บาท) พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19” และ ช่วงล่าง M แบบปรับตั้งได้
- จัดเป็น full hybrid รุ่นแรกของโลกในกลุ่มของรถสปอร์ตคอมแพ็คซีดานระดับหรู
- เทคโนโลยี hybrid อัจฉริยะ พร้อมประสิทธิภาพแห่งการประหยัด แต่คงไว้ซึ่งขุมกำลังอันเต็มเปี่ยม ที่ประกอบไปด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า, เครื่องยนต์เบนซิน BMW TwinPower Turbo 6 สูบ, และแบตเตอร์รี่ลิเทียมไอออน ประสิทธิภาพสูง
- พละกำลังแห่งการขับเคลื่อนถึง 340 แรงม้าโดยรวมทั้งหมดและมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที
- สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลถึง 4 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- พื้นที่เก็บสัมภาระด้วยท้ายถูกออกแบบมาเพื่อเก็บแบตเตอรรี่ลิเทียมไอออนไว้อย่างมิดชิด

          ข้อมูลทางด้านเทคนิค
เครื่องยนต์ เบนซิน 6 สูบ 24 วาวล์ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 2,979
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) 306 / 5,800-6,000
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) 400/1,200-5,000
กำลังรวมสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) 340 / 5,800-6,000
แรงบิดรวมสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) 450/1,200-5,000
ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตร /ชั่วโมง) 250
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร /ชั่วโมง (วินาที) 5.3
อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย
(กิโลเมตร / ลิตร) 16.9
ระดับการปล่อย CO2 (กรัม / กิโลเมตร) 139

BMW ActiveHybrid 5 (ราคา 5,399,000 บาท)
BMW ActiveHybrid 5 M Sport (ราคา 5,599,000 บาท)

- เปี่ยมด้วยความสมดุลย์ของขุมกำลังที่ 340 แรงม้า และระดับการปล่อย CO2 เพียง 149 กรัม/กม.
- สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลถึง 4 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- Coasting mode ตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ ได้จนถึงขีดความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
- ระบบบริหารการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด intelligent energy management
- E-boost function ช่วยเพิ่มอัตราการเร่งได้อย่างคล่องตัว

          ข้อมูลทางด้านเทคนิค
เครื่องยนต์ เบนซิน 6 สูบ 24 วาวล์ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 2,979
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) 306 / 5,800
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) 400/1,200-5,000
กำลังรวมสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) 340 / 5,800
แรงบิดรวมสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) 450/1,200-5,000
ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตร /ชั่วโมง) 250
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร /ชั่วโมง (วินาที) 5.9
อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย
(กิโลเมตร / ลิตร) 15.6
ระดับการปล่อย CO2 (กรัม / กิโลเมตร) 149

BMW ActiveHybrid 7 L (ราคา 8,299,000 บาท)
BMW ActiveHybrid 7 L M Sport (ราคา 8,899,000 บาท)
BMW ActiveHybrid 7 L Highline (ราคา 8,999,000 บาท)

- บีเอ็มดับเบิลยู ActiveHybrid 7 L สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลถึง 4 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- มอเตอร์ไฟฟ้าสั่งงานฟังก์ชั่น Boost เมื่อต้องการพลังงานสำหรับการออกตัว หรือเมื่อต้องการเร่งแซง ซึ่งสามารถให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.7 วินาที
- ระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติ (Brake Energy Regeneration), ระบบ Hybrid Start/Stop และโหมดการขับขี่แบบ ECO PRO ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
- อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 14.7 กิโลเมตร/ลิตร (ระดับการปล่อย CO2 เพียง 158 กรัม/กิโลเมตร)

          ข้อมูลทางด้านเทคนิค
เครื่องยนต์ เบนซิน 6 สูบ 24 วาวล์ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 2,979
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) 320 / 5,800
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) 450/1,300-4,500
กำลังรวมสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) 354 / 5,800
แรงบิดรวมสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) 500/1,300-4,500
ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตร /ชั่วโมง) 250
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร /ชั่วโมง (วินาที) 5.7
อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย
(กิโลเมตร / ลิตร) 14.7
ระดับการปล่อย CO2 (กรัม / กิโลเมตร) 158

บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 รุ่นปรับโฉมใหม่
BMW 730Li (ราคา 7,299,000 บาท)
BMW 730Ld (ราคา 7,599,000 บาท)

- ไฟหน้าแบบ LED แบบปรับอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ยามค่ำคืนโดยไม่รบกวนสายตาของผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่น
- ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยม
- หน้าจอแสดงผลขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อแสดงผลในการขับขี่ด้วยโหมดต่างๆที่เลือกได้ ทั้ง ECO PRO Comfort, Comfort+, Sport และ Sport+
- เข็มวัดความเร็วและมาตรวัดต่างๆบนหน้าจอสามารถปรับเปลี่ยนเป็นดิจิตอลกราฟฟิคด้วยสีเฉพาะโหมดการขับขี่นั้นๆ

          ข้อมูลทางด้านเทคนิค
BMW 730Li
เครื่องยนต์ เบนซิน 6 สูบ 24 วาวล์ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 2,996
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) 218 / 6,600
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร / รอบต่อนาที) 300/2,600-3,000
ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตร /ชั่วโมง) 240
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร /ชั่วโมง (วินาที) 8.1
อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย
(กิโลเมตร / ลิตร) 11.5
ระดับการปล่อย CO2 (กรัม / กิโลเมตร) 202