happy on March 12, 2013, 03:50:05 PM
[/
แผนบุกยึดทำเนียบขาว
เมื่อฟูกัวและที่ปรึกษาของเขากำหนดแผนการจู่โจมทำเนียบขาวเรียบร้อยแล้ว ผู้กำกับก็ได้ตัดสินใจอย่างท้าทาย แทนที่เขาจะใช้เทคโนโลยี CGI ในการจำลองสถานที่สำคัญในกรุงวอชิงตัน, ดี.ซี. แห่งนี้ขึ้นมา พวกเขากลับสร้างทำเนียบขาวจำลองขึ้นมา และจัดฉากการบุกทำเนียบขาวโดยใช้เพียงสเปเชียล เอฟเฟ็กต์คอยเสริมเท่านั้น
“เราถล่มทำเนียบขาวในหนังเรื่องนี้ครับ มันเป็นเรื่องใหญ่มากครับ เรารู้ว่าถ้าเราจะทำแบบนี้ เราจะต้องทำให้มันยิ่งใหญ่ ให้มันตระการตา”
แต่ฟูกัวคิดเอาไว้ว่าเขาจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ในบริเวณของดี.ซี. และเขาก็ตกใจเมื่อได้ยินว่าผู้อำนวยการสร้างวางแผนที่จะสร้างทำเนียบขาวจำลองขึ้นมาในเชรฟพอร์ต, หลุยส์เซียนา “ผมถามว่าคุณจะทำได้ยังไง แต่เราก็ได้ตัวผู้ออกแบบงานสร้างที่เพอร์เฟ็กต์ ดีเรค ฮิลเคยสร้างทำเนียบขาวมาแล้วครั้งหนึ่งสำหรับโอลิเวอร์ สโตนในเรื่อง W ผมรู้ว่าถ้ามีใครทำแบบนี้ได้ล่ะก็ ก็คงต้องเป็นดีเรคแหละครับ”
ฮิลได้สร้างฉากขนาดใหญ่ที่มีรายละเอียดสูงให้กับฉากที่กว้างใหญ่ที่สุดของเรื่อง “ผมคิดว่าช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผมในการถ่ายทำทั้งหมดคือการได้เดินเข้าไปในฉากนั้นเป็นครั้งแรก เราได้สร้างทำเนียบขาวขึ้นมาจริงๆ ในหลุยส์เซียนา เราสร้างเพนซิลวานีย อะเวนิวขึ้นมา เราสร้างน้ำพุ เราสร้างส่วนด้านหน้าและภายในของล็อบบี้ด้านหน้าขึ้นมา ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาสร้างกันได้เร็วมาก”
ในวันแรกของการถ่ายทำฉากการต่อสู้ระดับอีพิค ฟูกัวชื่นชมกับความสำเร็จของฮิล ขณะที่เขามองกลุ่มคนที่รับบทผู้ก่อการร้าย เจ้าหน้าที่สายลับและผู้เห็นเหตุการณ์กระจายตัวทั่วฉาก “มันเป็นเรื่องน่าประทับใจที่ได้เห็นครับ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กที่ได้ดูหนังของเดวิด ลีน ฉากนั้นมีสโคปกว้างใหญ่มาก เรายกเครนขึ้นและสงครามครั้งใหญ่ก็กำลังเกิดขึ้น ผมคิดว่า นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากสร้างหนังเรื่องนี้”
สำหรับผู้ที่ช่วยเขาออกแบบฉากแอ็กชัน ฟูกัวได้เลือกคีธ วูลาร์ด อดีตนาวีซีล ผู้เคยร่วมงานกับผู้กำกับผู้นี้มาก่อนใน Tears of a Sun “ผมรูว่าคีธสามารถทำให้มันน่าตื่นเต้นและสมจริงได้ ความสมจริงดูสมจริงมากจนมันสั่นประสาท เราออกแบบการต่อสู้โดยอ้างอิงจากสิ่งที่หน่วยซีลจะทำจริงๆ ในสถานการณ์นั้น และเราก็ค่อยปรับเปลี่ยนให้มันเหมาะกับหนังยิ่งขึ้นครับ”
วูลาร์ดและทีมงานของเขาได้จำลองระเบียงทางเดินของทำเนียบขาวด้วยการใช้กระดาษลัง เพื่อวางผังทุกอย่างด้วยกล้องวิดีโอสำหรับฟูกัว “ผมเลยสามารถเตรียมทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วครับ ผมไม่มีเวลามาเขียนสตอรีบอร์ดทุกอย่างอย่างที่ผมมักจะทำ พวกเขาสร้างสรรค์มากๆ ในการใช้สิ่งต่างๆ ที่คุณอาจจะพบได้จริงในทำเนียบขาวมาเป็นอาวุธครับ พวกเขาทำให้มันสมจริงและสนุกมากๆ แต่ก็ดิบเถื่อน ร้ายกาจอีกด้วย เพราะมันน่าจะเป็นแบบนั้นครับ”
วูลาร์ด ผู้เคยทำงานในภาพยนตร์แอ็กชันบล็อกบัสเตอร์เรื่องอื่นๆ ซึ่งรวมถึง Black Hawk Down (สำหรับผู้กำกับริดลีย์ สก็อต), Iron Man (สำหรับจอน แฟฟโร) และ GI Joe: Rise of the Cobra (สตีเฟน ซอมเมอร์ส) ถูกสั่งให้ทำทุกอย่าให้สมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “อังตวนเจาะจงเป็นพิเศษเกี่ยวกับการทำให้สิ่งต่างๆ ดูสมจริงครับ เขาไม่ชอบการต่อสู้แบบหลอกๆ เราร่วมงานกับนักศิลปะต่อสู้ ผู้เชี่ยวชาญด้านงานรับแรงกระแทก พวกเขาก็เลยสามารถต่อยกันจริงๆ ได้ ซึ่งก็ทำให้มันดูดียิ่งขึ้นไปอีกครับ”
ทีมงานสตันท์มีจำนวนมหาศาล ซึ่งรวมแล้วประมาณ 130 คน “มันเป็นทีมใหญ่ทีเดียวครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน ดังนั้น เขาก็ต้องรับมือกับผู้คนมากมาย มันน่าตื่นตาตื่นใจทีเดียวที่ได้เห็นคอมมานโดชาวเกาหลีบุกยึดทำเนียบขาว ผมภูมิใจในการได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างหนังเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นได้ครับ”
นักสู้ของฝ่ายศัตรูในเรื่องมีส่วนหนึ่งเป็นผู้หญิงด้วย ซึ่งฟูกัวบอกว่าสะท้อนถึงความจริงของการสู้รบในปัจจุบัน “ผมไม่ได้ปฏิบัติต่อผู้หญิงเหมือนพวกเธอเป็นเหยื่อหรือคนที่รอคอยความช่วยเหลือ พวกเธอต่อสู้ พวกเธอเป็นส่วนหนึ่งของสงครามนี้ เมื่อพวกเธอถูกลักพาตัว พวกเธอก็ถูกซ้อมเหมือนผู้ชาย ผู้ก่อการร้ายจะไม่อ่อนโยนเพียงเพราะตัวประกันเป็นผู้หญิงหรอกนะครับ”
และตัวละครของเมลิสซ่า ลีโอก็เป็นกรณีตัวอย่าง ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เธอมีข้อมูลที่จำเป็นต่อผู้ก่อการร้ายและพวกเขาก็ใช้ทุกวิธีที่จำเป็นเพื่อรีดความจริงจากเธอ “เราไม่ปรานีเมลิสซา ลีโอเลยครับ เธอโดนซ้อมน่วมเลย แต่เธอก็เข้มแข็ง เธอยืนหยัดต่อต้านผู้ที่จับตัวเธอมาอย่างกล้าหาญพอๆ กับผู้ชาย พอพวกเขาถูกลักพาตัว พวกเขาก็ถูกบั่นทอนกำลังใจเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ เพื่อที่พวกเขาจะไม่คิดถึงการหลบหนี ในตอนที่เราได้เข้าไปในพีอีโอซี เรื่องก็เข้มข้นขึ้น บางคนอาจพบว่ามันเป็นเรื่องน่าตกใจ แต่ในตอนที่เราทดสอบฉายหนังเรื่องนี้ดู มีผู้หญิงมาขอบคุณผมที่ไม่ทำให้ตัวละครตัวนี้เป็นแค่เหยื่อด้วยครับ”
แต่บัตเลอร์คือคนที่ต้องเจอเรื่องหนักที่สุดในบทที่ทำให้เขาเสี่ยงอันตรายอยู่เกือบตลอดเวลา “เขาคล่องแคล่วทีเดียวและไม่ปริปากบ่นเรื่องไหนเลย เขาแค่พุ่งใส่มันและเขาก็เป็นเพอร์เฟ็กชันนิสต์ครับ เขาไม่อยากจะพลาดซักการเคลื่อนไหวเดียว พอเขาก้าวเท้าเข้าไปในฉาก เขาก็พร้อมจะเริ่มต้นเสมอครับ”
ฟูกัวกล่าวว่าบัตเลอร์อาจจะใช้สตันท์ดับเบิลได้ในหลายๆ ฉาก แต่เขายินดีที่จะแสดงฉากเหล่านั้นด้วยตัวเอง “เขาเป็นคนทุ่มเทสุดๆ เราอาจจะถ่ายทำไวด์ช็อตแล้วปล่อยให้สตันท์แมนแสดงแทน แต่เขาอยากแสดงมันเอง เขามีรอยฟกช้ำบ้างเพราะเขาและริค ยูนปะทะกันจริงๆ และกระแทกอีกฝ่ายเข้ากับกำแพง และด้วยความที่กำแพงพวกนั้นไม่ใช่ของจริง เราก็เลยต้องหยุดถ่ายเพื่อซ่อมกำแพงกันอยู่เรื่อยครับ!”
ในฐานะผู้กำกับ ฟูกัวกล่าวว่าเขาพยายามจะสร้างภาพยนตร์ที่ตัวเขาเองอยากจะดูเสมอ “ผมสร้างหนังเรื่องนี้เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมอยากจะดูครับ มันจะทำให้ผู้ชมแปลกใจอยู่เรื่อง มันมีแง่มุมหลากหลายมากมายให้ได้เพลิดเพลินกับมัน มันสะเทือนอารมณ์มากๆ และมันก็เข้าถึงอารมณ์ส่วนตัวในหลายๆ ตอนด้วย มันมีตัวละครเยี่ยมๆ และความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันมากมาย”
แต่เขาก็บอกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันเต็มไปด้วยแอ็กชันสุดโต่ง ความเสี่ยงสูง ที่เขาหวังว่าจะทำให้ผู้ชมตื่นเต้น “ผมรักหนังครับผมชื่นชอบการผลักดันเรื่องราวให้ไปไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมคิดว่าหนังควรจะอยู่ตรงชายขอบ ที่ตัวละครและเหตุการณ์จะยิ่งใหญ่กว่าความเป็นจริง การดูหนังจอใหญ่จะทำให้คุณสามารถกลืนหายไปกับอีกโลกหนึ่งได้”
“ทุกครั้งที่เราต้องเผชิญหน้ากับอันตราย มันมีอะไรบางอย่างที่น่าตื่นเต้น การนำตัวเองเข้าไปเสี่ยงจะกระตุ้นให้เกิดอะดรีนาลิน อะดรีนาลินทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น หนังอย่าง Olympus Has Fallen ทำให้คุณนึกถึงชีวิตและอันตรายที่เกิดขึ้น ในกรณีนี้ มันเป็นไปได้ที่ทำเนียบขาวจะถูกยึด ที่ตัวประกันจะถูกจับตัว และที่โลกถูกเรียกค่าไถ่ มันเป็นเรื่องน่าตื่นตะลึงก็จริงแต่ก็ไม่ได้ห่างไกลจากความเป็นจริงขนาดนั้นหรอกครับ”
« Last Edit: March 12, 2013, 03:51:58 PM by happy »
Logged