ไบโอคอส กรุ๊ป เปิดมุมมองปี 56 ปีทองธุรกิจความงามทุกระดับ เสนอภาครัฐและเอกชนเตรียมพร้อมยกระดับคุณภาพบุคลากร
ไบโอคอส กรุ๊ป เปิดมุมมองปี 56 ปีทองธุรกิจความงามทุกระดับ เสนอภาครัฐและเอกชนเตรียมพร้อมยกระดับคุณภาพบุคลากรรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน และนำเสนอนวัตกรรมความงามใหม่ทั้งนำเข้าและส่งออก
ไบโอคอส กรุ๊ป ชี้ปี 2556 ธุรกิจความงามและสุขภาพยังครองแชมป์ธุรกิจดาวรุ่ง หลังกระแสความต้องการขยายตัวสูงขึ้นทั้งระดับประเทศและภูมิภาค คาดมูลค่าตลาดรวมจะมีอัตราเติบโตสูงขึ้น กว่า 1 เท่าตัวในปีนี้ วางหมากพัฒนาบุคลากรซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวจัยหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ พร้อมเปิดวิสัยทัศน์เชิงมหภาคขยายศูนย์กลางธุรกิจสู่อาเซียน กระเทาะพฤติกรรมผู้บริโภคคาดอิทธิพล ไอทีจะเป็นประตูสู่การแลกเปลี่ยนนวัตกรรมความงาม และสุขภาพ แนะรัฐและเอกชนไม่มองแค่นำเข้า แต่ต้องเตรียมทีมสร้างความพร้อมสู่การส่งออก ขยายฐานลูกค้าในระดับสากล
นางสาวสิเรียม ภักดีดำรงค์ฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอคอส กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพและความงามครบวงจร ร่วมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับภาพรวมธุรกิจความงาม และสุขภาพของไทยในปี 2556 ว่า จากแผนแม่บทในการพัฒนาเศรฐกิจประเทศ ที่พร้อมผลักดันให้ไทยก้าวสู่ การเป็น “ศูนย์กลางธุรกิจด้านสุขภาพและความงามของอาเซียน” นั้น ส่งผลให้ธุรกิจดังกล่าวเกิดการขยายตัว อย่างรวดเร็ว โดยการขยายตัวได้เกิดขึ้นในทุกกลุ่มกำลังซื้อ นอกจากนี้การที่รายได้ต่อคนเพิ่มขึ้นทำให้เกิดความคล่องตัวในการจับจ่ายใช้สอย และเริ่มที่จะหันมาดูแลสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้นเช่นกัน ที่สำคัญความเจริญของธุรกิจความงามของไทยยังขยายศูนย์กลางจากกทม.และปริมณฑลสู่หัวเมืองเศรษฐกิจ ทั่วประเทศส่งผลให้การเข้าถึงบริการสะดวกมากขึ้นกว่าในอดีต และยังคงมีแนวโน้มในการเติบโตแบบ ก้าวกระโดดต่อเนื่องในปีนี้
“ธุรกิจความงามและสุขภาพยังมีโอกาสที่จะเติบโตอีกมากไม่เพียงแค่งานด้านบริการ แต่โอกาสในการขายสินค้า ก็เติบโตด้วยเช่นกัน ปัจจุบันพัฒนาการในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์มีความก้าวหน้ากว่าอดีตมาก แนวโน้มการพัฒนาสินค้าจะเริ่มเป็นแบบเฉพาะจุดมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ตรงมากขึ้น และที่สำคัญการพัฒนาสินค้าในแนวทางดังกล่าว ยังก่อให้เกิดปริมาณการซื้อที่เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองในแต่ละความต้องการในเวลาเดียวกัน” นางสาวสิเรียม ภักดีดำรงค์ฤทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้หากวิเคราะห์ถึงการพัฒนากลยุทธ์ของผู้ประกอบธุรกิจความงามและสุขภาพ พบว่า ผู้ประกอบธุรกิจ ในกลุ่มนี้จะมีแนวทางหลักอยู่ 2 ทิศทาง ประกอบด้วย การพัฒนาธุรกิจแบบคล้อยตามแบรนด์หลักในตลาด เพื่อแบ่งส่วนแบ่งทางการตลาดที่เติบโตอยู่แล้ว โดยอาศัยการแข่งขันในด้านราคาเป็นหัวใจในการดึงกำลังซื้อ และอีกกลุ่มคือการพัฒนาจุดขายของตนเองอย่างเป็นเอกลักษณ์และสานต่อการตอบโจทย์ความต้องการที่มีอยู่ในตลาดด้วยนวัตกรรมบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนนี้มักพบในกลุ่มของบริษัทระดับใหญ่ที่มีความพร้อมทั้งด้านงบประมาณและความเชี่ยวชาญของบุคลากร “อีกปัจจัยที่ผู้ประกอบธุรกิจความงามและสุขภาพไม่สามารถมองข้ามได้คือ การพัฒนาบุคลากรด้านบริการเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ปัจจุบันบุคลากรด้านงานบริการของไทยถือเป็นแรงงานระดับฝีมือที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และธุรกิจความงามและสุขภาพหัวใจสำคัญคือบุคลากรในกลุ่มดังกล่าว จึงอยากให้ภาครัฐและเอกชนเห็นความสำคัญและร่วมขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาอาชีพในด้านนี้เพิ่มขึ้น หรือเปิดหลักสูตรอาชีพระยะสั้นและระยะยาวเกี่ยวกับการบริการธุรกิจความงามตลอดจนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งหากประเทศไทยทำได้สำเร็จ เราจะสามารถส่งบุคลากรเข้าไปเติมเต็มในส่วนธุรกิจดังกล่าวได้สอดรับกับ ACE ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2558” สิเรียม ภักดีดำรงค์ฤทธิ์ กล่าวแสดงความเห็น
“ไบโอคอส กรุ๊ป" ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการที่มี คุณภาพและมีมาตรฐานระดับสากล ตั้งแต่การพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการให้บริการกับลูกค้าและรับมือ AEC โดยมีศูนย์เทรนนิ่งเซ็นเตอร์เพื่ออบรมพนักงานก่อนปฎิบัติงานจริงกว่า 3,000 ชั่วโมง/ปี ให้มีความรู้เพียงพอที่จะ ให้คำปรึกษาด้านความงามกับลูกค้าได้อย่างถูกวิธี และการฝึกอบรมเรื่องการทำทรีทเม้นท์ต่างๆ รวมถึงการฝึกอบรมทักษะด้านการให้บริการลูกค้า โดยมีการทดสอบมาตรฐานความรู้ของพนักงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้นำเข้าอุปกรณ์และนวัตกรรมใหม่ๆ จากยุโรป ที่ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในการดูแลรูปร่างและผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพและคัดสรรผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลรูปร่างและผิวพรรณที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจากประเทศฝรั่งเศสแบรนด์อัลโกเธิร์ม (Algotherm) ที่จะมาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อจัดจำหน่ายให้กับสถาบันเสริมความงามและสปาชั้นนำทั่วประเทศ ทั้งยังเน้นเรื่องการสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าอย่างดีเยี่ยม โดยมีการกิจกรรม CRM (Customer Relationship Management) เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าต่อเนื่องตลอดทั้งปีส่งผลให้เรา สามารถรักษาและขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีศักยภาพ
ด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคนั้น นางสาวสิเรียม กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันคนไทยให้ความสำคัญ เรื่องสุขภาพและความงามมาก ไม่เพียงแต่กลุ่มกำลังซื้อระดับบนเท่านั้นที่เติบโต แต่สามารถสร้างการเติบโตได้ ในทุกกลุ่ม สืบเนื่องจากการร่วมกันจุดกระแสตลาดให้ผู้บริโภคเห็นถึงปัจจัยที่ 5 ของการดำเนินชีวิต นั่นก็คือ “สุขภาพและความงาม” ที่แฝงอยู่ในแก่นพฤติกรรมของคนไทยอยู่แล้ว โดยผู้บริโภคสนใจเรื่องความรู้ ในด้านความงามมากขึ้น และมีการสืบค้นข้อมูลผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตมากขึ้นการสร้างความเข้าใจและเสนอแนวทางที่ตอบโจทย์ จึงเป็นอีกแนวทางที่จะทำให้ผู้บริโภคทราบถึงพัฒนาการในการบริการซึ่งเป็นทางเลือกที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายในราคาที่เหมาะสมยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องสร้างความรู้ที่ชัดเจนว่าวิธีการเลือกใช้บริการที่ถูกต้องว่าควรเลือกอย่างไร นอกจากนี้การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคต้องมีการสำรวจให้บ่อยและลึกยิ่งขึ้น เพื่อหาช่องว่างที่จะเข้าไปเติมเต็ม โดยส่วนตัวคิดว่าธุรกิจความงามและสุขภาพยังมีช่องว่างอีกมาก ความพร้อมทั้งด้านคุณภาพ บุคลากรและนวัตกรรมอันทันสมัยของ ไบโอคอส กรุ๊ป ที่ทำให้ผู้หญิงสวยเพอร์เฟคแบบปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความพร้อมในการขยายธุรกิจรับ AEC ซึ่งจะทำให้บริษัทเติบโตอีกหลายเท่าตัว”
ทั้งนี้ ในปี 2555 ที่ผ่านมา บริษัท ไบโอคอส กรุ๊ป จำกัด สามารถสร้างยอดขายรวมได้กว่า 700 ล้านบาท เน้นบริการด้านสุขภาพและความงามครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มและให้บริการที่ครบวงจร โดยมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 400% โดยมีกลุ่มธุรกิจสำคัญ ประกอบด้วย บริษัท สลิมมิ่งพลัส จำกัด ดำเนินธุรกิจการให้บริการ ในรูปแบบสถาบันดูแลรูปร่างและผิวพรรณครบวงจร สร้างรายได้สูงสุดถึง 60% ของรายได้รวม ตามมาด้วยมี บริษัท ไบโอคอส โปรเฟสชั่นแนล จำกัด นำเข้าผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูงจากยุโรป จำหน่ายในรูปแบบซาลอนและรีเทลให้กับโรงแรม สปาและสถาบันความงามชั้นนำทั่วประเทศสร้างรายได้ 30% และ 10% จากธุรกิจบริการอื่นๆ ในเครือ และพร้อมรุกตลาดปี 2556 ด้วยการขยายไลน์ธุรกิจความงามสู่กลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมและเปิดแบรนด์ใหม่รองรับความต้องการลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น โดยจะเปิดตัวคลับสุขภาพ และความงามระดับพรีเมี่ยมใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อบริษัท อาเมทิส บอดี้ แอนด์ บิวตี้ คลับ จำกัด อย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกและเตรียมขยายสาขาธุรกิจเดิมของสลิมมิ่งพลัสครบ 30 สาขาทั่วประเทศ พร้อมบุกตลาดความงามในกลุ่มอาเซี่ยนตั้งเป้าเติบโตเพิ่ม 30% หรือสร้างรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท และมุ่งเป็นเจ้าตลาดสุขภาพและความงามครบวงจรในอีก 3 ปีข้างหน้า
