happy on February 03, 2013, 08:07:37 PM
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกับเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ
และโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ คัดสรร 7 ภาพยนตร์จากแดนอาทิตย์อุทัย
เตรียมเปิดฉากเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2556(Japanese Film Festival 2013)

               สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกับเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ และโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จัด “เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2556 (Japanese Film Festival 2013)” โดยคัดสรรภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวความบันเทิงผ่านวัฒนธรรมการทำอาหารจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ได้รับการการันตีว่าเป็นอาหารยอดนิยมอันดับหนึ่งของโลกทั้งสิ้น 7 เรื่อง 7 ความอร่อย เสิร์ฟให้ชมฟรี!!! พร้อมบทบรรยายอังกฤษ ทุกเรื่องทุกรอบ ระหว่างวันที่ 15 – 17 กุมภาพันธ์ ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ เทอร์มินอล 21

               นางสุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด กล่าวว่า “เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่คอหนังชาวไทย ส่วนสำคัญน่าจะเป็นเรื่องของความใกล้เคียงกันทางด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิต โดยการันตีได้จากการจัดเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่นเมื่อปี 2554 ซึ่งถือเป็นการร่วมฉลองครบรอบวันเกิด 100 ปี ของคุโรซาวะ อากิระ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังจากแดนอาทิตย์อุทัยก็ได้รับกระแสการตอบรับอย่างท้วมท้นทั้งจากชาวไทย และชาวต่างชาติ จนมาในปีนี้ทางเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ภายใต้การสนับสนุนของสถานเอกอัครราชฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้ร่วมกับโรงภาพยนตร์ เอส เอส ซีเนม่า ซิตี้ ก็เตรียมพร้อมกลับมามอบประสบการณ์ความบันเทิงอีกครั้งกับ “เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2556 (Japanese Film Festival 2013)” โดยปีนี้ได้คัดเลือกภาพยนตร์คุณภาพ 7 เรื่อง ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการทำอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของชนชาติ รวมไปถึงการใช้อาหารญี่ปุ่นเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเรื่องราวความอบอุ่น และความสนุกสนานในภาพยนตร์ ซึ่งจะทำให้เรามองภาพวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น”

               “ภาพยนตร์ในเทศกาลฯ นี้ มีความน่าสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์รอบเปิดเทศกาลเรื่อง Éclair ที่ได้ โยชิ ฮาจิเมะ นักแสดงรุ่นเด็กมากความสามารถที่มาถ่ายทอดเรื่องราวแสนสะเทือนใจของผู้คนที่รอดชีวิตจากช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านชีวิตเด็กชายกำพร้าผู้หลงใหลในขนมหวาน เมื่อชีวิตพลิกผันทำให้ถูกส่งตัวไปยังสถานควบคุมความประพฤติ แต่เมื่อได้เรียนรู้ถึงความอ่อนโยนจากเพื่อนมนุษย์ และการปลอบโยนด้วยเพลงแสนไพเราะ “ขนมหวานกับเด็กผู้หญิง” จากครูผู้ดูแล ทำให้สามารถกล่อมเกลา และช่วยให้เขามีพลังในการมีชีวิตได้อย่างน่าประหลาด ด้วยบทบาทที่โดดเด่นทำให้ โยชิ ฮาจิเมะ ได้รับรางวัล Best male actor at the Golden Rooster International Film Show 2011 จากสาธารณรัฐประชาชนจีนในที่สุด หรือแม้แต่เรื่อง Patisserie Coin De Rue ที่ได้นักแสดงนำชั้นนำอย่าง อาโออิ ยู ที่โด่งดังมากในประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย รวมถึงอีกหลายๆ เรื่องที่เชื่อว่าจะทำให้คอหนังได้ทั้งเต็ม ทั้งอิ่ม ไปกับภาพยนตร์อาหารญี่ปุ่นที่พร้อมเสริฟ์มากมาย” สุวรรณีกล่าวทิ้งท้าย

               “เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2556 (Japanese Film Festival 2013)” จัดโปรแกรมฉายเพื่อเอาใจคนรักหนังโดยเฉพาะให้ได้ชมภาพยนตร์คุณภาพกันแบบฟรีๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมบทบรรยายอังกฤษ ทุกเรื่องทุกรอบ ระหว่างวันที่ 15 – 17 กุมภาพันธ์ 2556 นี้ สำหรับผู้สนใจร่วมชมภาพยนตร์ในเทศกาลนี้สามารถติดต่อรับบัตรชมภาพยนตร์ได้ที่บูธเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2556 ก่อนรอบฉายจริง 30 นาที ที่ชั้น 6 โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ เทอร์มินอล 21 เพียงแห่งเดียวเท่านั้น!!! โดยเริ่มต้นเทศกาลฯ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 จัดฉาย 1 เรื่องเวลา 20.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ จัดฉายทั้งสิ้น 3 เรื่องตั้งแต่เวลา 14.00 – 19.00 น. สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรอบฉายภาพยนตร์ หรือรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมที่ SF Call Center  และ  www.sfcinemacity.com หรือเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่หน้าโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ เทอร์มินอล 21



Japanese Film Festival 2013

Catalogue

Éclair エクレール~お菓子放浪記 (Ekureru: OkashiHourouki)


Dir. KONDO Akio |2011|105 min

Cast:     YOSHII Hajime    /โยชิ ฮาจิเมะ
Saori         /ซาโอริ
ISHIDA Ayumi      /อิชิดะ อายูมิ

Crew :   Original Story   NISHIMURA Shigeru
   Planning       ONODERA Tsutomu
   Screenplay    NISHII Fumiko, IZUMI Etsuko
   Cinematography    KUBOTA Etsuro
เรื่องเดิมโดย      นิชิมูระชิเงรุ
วางแผน      โอโนะเดระทสึโทมุ
บท      นิชิฟูมิโกะ , อิซึมิเอทสึโกะ
กำกับภาพ      คุโบตะเอทสึโระ

Synopsis :

(fromunijapan)
An emotional drama based on an autobiographical novel by Nishimura Shigeru. The resilience of ordinary people who survived the turbulent period during and after World War II is warmly depicted from the perspective of an orphaned boy named Akio who is obsessed with sweets. In early spring of 1943, Akio (Yoshii Hajime) is caught for stealing a bag of sweets out of hunger. He is given a sweet bun by police detective Toyama (Endo Kenichi), and experiences its deliciousness and human kindness for the first time in his life. He is eventually sent to a reformatory and goes through a tough time, but finds solace in the song "Okashi to Musume" (sweets and a girl) sung by one of the teachers, Yoko (Saori).

(from JFHQ)
Losing his parents at very early age, Akio was sent to an orphanage.
He is a quitter, never be able to stay in one place, attempts to escape so many times and finally he ends up being sent to a reformatory.
It was 1943 when the dark shadow of the war was sneaking up and about to change everything and lead him to such a vagrant life.
Many encounters throughout the difficult time, likes of detective Toyama who saved him from hunger by giving a sweet pastry, the White Satan at the reformatory, his forester mother Fusano, Tomiko from the cinema and people from the itinerant company…. but the only thing keep him going amongst the everything was "Sweets & Girls (お菓子と娘)", the song Yoko, who was a teacher of the orphanage, sang to him.
No matter what happens to him, thinking about sweets and singing the song somehow give him the power to live...

เรื่องย่อ

(fromunijapan)
เรื่องราวสะเทือนใจที่สร้างขึ้นจากนวนิยายกึ่งอัตตชีวประวัติโดยนิชิมูระชิเงรุว่าด้วยความพยายามในการกลับคืนสู่สภาวะปกติของผู้คนทั่วไปที่รอดชีวิตจากช่วงเวลาที่สับสนอลหม่านระหว่างและหลังสงครามโลกครั้งที่สองได้ถูกถ่ายทอดอย่างอบอุ่นโดยผ่านมุมมองของอาคิโอะเด็กชายกำพร้าผู้หลงใหลในขนมหวานต้นฤดูใบไม้ผลิในปี 1943 อาคิโอะ (โยชิฮาจิเมะ) ถูกจับได้ว่าขโมยขนมเพราะความอดอยากแต่แล้วตำรวจนักสืบโทยามะ (เอ็นโดเคนอิจิ) กลับหยิบยื่นขนมปังหวานแก่เขาอาคิโอะได้สัมผัสถึงความอร่อยและเรียนรู้ถึงความอ่อนโยนจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาในเวลาต่อมาเขาถูกส่งไปยังสถานควบคุมความประพฤติและต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากแต่ความทุกข์ของเด็กน้อยกลับเบาบางลงทั้งนี้เพราะจิตใจของเขาได้รับการปลอบโยนด้วยเพลงโอคาชิโต๊ะมุสึเมะ (ขนมหวานกับเด็กผู้หญิง) ซึ่งขับร้องโดยโยโกะ (ซาโอริ) ซึ่งเป็นครูที่นั่น

(from JFHQ)

หนูน้อยกำพร้าอาคิโอะถูกส่งตัวไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเขาไม่สามารถทนอยู่ที่เดียวเป็นเวลานานๆได้จึงพยายามหนีออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าสุดท้ายก็จบลงด้วยการถูกส่งตัวไปยังสถานควบคุมความประพฤติย้อนไปในปี 1943 เมื่อเงามืดของสงครามโผล่ขึ้นมาและค่อยๆเปลี่ยนแปลงทุกอย่างและส่งผลให้เขาต้องใช้ชีวิตเยี่ยงคนพเนจรอาคิโอะได้พบผู้คนมากมายในช่วงเวลายากลำบากในชีวิตเช่นนักสืบโทยามะซึ่งช่วยเขาให้รอดพ้นจากความหิวโหยด้วยการมอบขนมปังหวานให้เขาปีศาจสีขาวแห่งสถานควบคุมความประพฤติฟุซาโนะแม่บุญธรรมโทมิโกะจากโรงภาพยนตร์และอีกมากมายจากคณะละครเร่ทว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ผลักดันให้เขาก้าวเดินต่อไปได้นั่นก็คือบทเพลงที่ชื่อ "Sweets & Girls (お菓子と娘)" ที่ครูโยโกะครูที่เคยสอนอยู่สถานควบคุมความประพฤติเคยร้องให้เขาฟังไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาเพียงแค่นึกถึงขนมรสหวานหรือได้ร้องเพลงเพลงนั้นก็ช่วยให้เขามีพลังในการมีชีวิตได้อย่างน่าประหลาด




A Boy and His Samurai       ちょんまげぷりん(ChonmagePurin)


Dir. NAKAMURA Yoshihiro |2010| 108 min

Cast:     NISHIKIDO Ryo    /นิชิคิโดเรียว
TOMOSAKA Rie                   /โทโมซากะริเอะ
KONNO Hiroki       /คอนโนะฮิโรกิ
SUZUKI Fuku      /ซูซูกิ ฟุคุ

Crew :   Original Story      NISHIMURA Shigeru
   Planning       ONODERA Tsutomu
   Screenplay    NISHII Fumiko, IZUMI Etsuko
   Cinematography    KUBOTA Etsuro
เรื่องเดิมโดย      นิชิมูระชิเงรุ
วางแผน      โอโนะเดระทสึโทมุ
บท      นิชิฟูมิโกะ , อิซึมิเอทสึโกะ
กำกับภาพ      คุโบตะเอทสึโระ

Synopsis :

This heartwarming story is based on the comic of the same name by manga artist Araki Gen. Directed by Nakamura Yoshihiro, who recently has had a succession of major hits in the Japanese film world. Kijima Yasube (Nishikido Ryo) is an Edo Period samurai who has entered a timeslip and found himself lost in present day. With nowhere to go, he has a chance meeting with single mother Yusa Hiroko (TomosakaRie) who allows him to stay at her house for free. Gradually, he discovers the art of making sweets and his talent soon begins to blossom.

เรื่องย่อ

เรื่องราวที่ทำให้หัวใจอบอุ่นเรื่องนี้สร้างจากการ์ตูนชื่อเดียวกันโดยนักวาดการ์ตูนอารากิเก็นกำกับโดยนาคามูระโยชิฮิโระผู้ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้คิจิมะยาสุเบะ (นิชิคิโดเรียว) ซามูไรจากยุคเอโดะผู้ซึ่งข้ามมิติเวลามาพบว่าตัวเขากำลังหลงทางอยู่ในสมัยปัจจุบันระหว่างที่กำลังอับจนหนทางไม่มีที่ไปนั้นเขาก็พบกับยุสะฮิโรโกะ (โทโมซากะริเอะ) คุณแม่ลูกติดกับบุตรชายของเธอเธอยอมให้เขาพักอยู่ด้วยโดยไม่คิดเงินซามูไรหนุ่มค่อยๆค้นพบศิลปะการทำขนมหวานและในไม่ช้าพรสวรรค์ของเขาก็เบ่งบานเต็มที่




Kamome Dinerかもめ食堂(KamomeShokudo)


Dir. OGIGAMI Naoko|2006| 102 min

Cast:     KOBAYASHI Satomi    /โคบายาชิซาโตมิ
   KATAGIRI Hairi   /คาตากิริไฮริ   
MOTAI Masako       /โมทาอิมาซาโกะ

Crew :   Original Story      MURE Yoko
Screenplay         OGIGAMI Naoko
Director of Photography      Tuomo VIRTANEN
Editing                         FUSHIMA Shinichi   
Music            KONDO Tatsuo
Production Design         Annika BJORKMAN

เรื่องเดิมโดย      มุเระ โยโกะ
บท      โอกิงามิ นาโอโกะ
กำกับภาพ      ทัวโม เวอร์ทาเน็น
ตัดต่อ      ฟุชิมะ ชินอิจิ
ดนตรี      คอนโด ทัตสึโอะ
ออกแบบการผลิต   แอนนิก้า ปีเยิร์กแมน

Synopsis :

Author, Mure Yoko, writes this film adaptation of the similarly titled novel, directed by Ogigami Naoko of Yoshino's Barber Shop (Barber Yoshino). This is a heart-warming, human drama that portrays the interaction between a restaurant owner and the people who gather there.
Sachie (Kobayashi Satomi), from Japan, opens the "Kamome Diner" in Helsinki. The specialty menu is Onigiri rice ball. However, day after day the only customer is a geeky Japan enthusiast, Tommi (JarkkoNiemi). One day, two Japanese ladies, each with some personal issues, come to help at Sachie's diner. The number of customers gradually increases, but the diner seems to attract only those with problems. Conversation with Sachie and the tasty food seem to resolve people's concerns.
The film was shot entirely on location in Helsinki through full cooperation from Finland. Famed Finnish actor, MarkkuPeltola (The Man Without a Past), appears in a key role.

เรื่องย่อ

ผู้เขียนมุเระโยโกะเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นจากการดัดแปลงเค้าโครงเรื่องเดิมของนวนิยายชื่อเดียวกันกำกับโดยโอกิงามินาโอโกะซึ่งกำกับYoshino's Barber Shop (Barber Yoshino)  Kamome Diner เป็นเรื่องราวที่ทำให้หัวใจอบอุ่นเกี่ยวกับชีวิตของผู้คนบอกเล่าการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของร้านอาหารกับบรรดาผู้คนที่รวมตัวกันที่นั่นซาจิเอะ (โคบายาชิซาโตมิ) จากญี่ปุ่นมาเปิดร้านKamome Diner ที่เฮลซิงกิเมนูพิเศษของร้านคือข้าวปั้นมีเพียงทอมมี่ (JarkkoNiemi) ฝรั่งผู้คลั่งไคล้ญี่ปุ่นเป็นขาประจำของร้านเพียงรายเดียวเท่านั้นวันหนึ่งหญิงชาวญี่ปุ่นสองคนแต่ละคนต่างมีปัญหาส่วนตัวที่ต่างกันออกไปมาช่วยงานที่ร้านของซาจิเอะจำนวนลูกค้าค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่ดูเหมือนว่าร้านแห่งนี้จะดึงดูดเพียงแค่เหล่าคนที่มีปัญหาชีวิตคล้ายกับว่าบทสนทนากับซาจิเอะและอาหารรสเยี่ยมจะช่วยบรรเทาความกังวลของผู้คนลงไปได้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่เฮลซิงกิโดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากรัฐบาลฟินแลนด์และนักแสดงชื่อดังชาวฟินแลนด์MarkkuPeltola (The Man Without a Past) ที่มารับบทสำคัญในเรื่อง
« Last Edit: February 03, 2013, 08:33:01 PM by happy »

happy on February 03, 2013, 08:25:21 PM
Rinco's Restaurant食堂かたつむり (ShokudoKatatsumuri) 


Dir. TOMINAGA Mai |2010| 119 min

Cast:     SHIBASAKI Kou    /ชิบาซากิ โค
YO Kimiko      /โย คิมิโกะ
Brother Tom    /บราเธอร์ ทอม
TANAKA Tetsushi   /ทานากะ เทสึชิ
SHIDA Mirai   /ชิดะ มิรัย

Crew :   Original Story         OGAWA Ito
Screenplay         TAKAI Hiroko
Cinematography         KITA Nobuyasu
Lighting            WATABE Yoshimi
Sound Recording         HASHIMOTO Yasuo

เรื่องเดิม            โอกาว่า อิโตะ
บท            ทาคาอิ ฮิโรโกะ
กำกับภาพ            คิตะ โนบุยาสึ
แสง            วาตาเบะ โยชิมิ
บันทึกเสียง            ฮาชิโมโตะ ยาสึโอะ      

Synopsis :

A heartwarming human drama based on lyricist Ogawa Ito's debut novel. Using CG animation and musical scenes, this fantastical film shows us the small miracles a little heartfelt cooking can bring. In shock from a bad breakup, Rinco (Shibasaki Kou) has lost her voice. She reluctantly moves in with her whimsical mother Ruriko (YoKimiko), but trying to find a way to provide for herself, she decides to convert the guest house into a restaurant, where she serves only one pair of guests a day with carefully cooked meals. Soon word spreads that "dining there will bring you happiness."

เรื่องย่อ

เรื่องราวชีวิตอันอบอุ่นที่สร้างจากนวนิยายชิ้นแรกของโองาว่าอิโตะนักแต่งเพลงโดยใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคอนิเมชั่นและฉากรูปแบบละครเพลงภาพยนตร์เรื่องนี้จึงกลายเป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซีถ่ายทอดปาฏิหาริย์เล็กๆและการทำอาหารจากหัวใจหลังจากเลิกรากับแฟนหนุ่มรินโกะ (โคชิบาซากิ) สูญเสียเสียงของเธอและย้ายกลับไปอยู่บ้านกับรูริโกะ (คิมิโกะโย) แม่ผู้มีนิสัยแปลกประหลาดด้วยความลังเลใจแต่รินโกะก็พยายามที่จะหาหนทางสำหรับตัวเองเธอตัดสินใจเปลี่ยนบ้านพักตากอากาศให้เป็นร้านอาหารซึ่งเธอต้อนรับลูกค้าแค่เพียงหนึ่งกลุ่มต่อวันเท่านั้นโดยเสิร์ฟอาหารที่ทำขึ้นพิเศษอย่างพิถีพิถันในไม่ช้าร้านของเธอก็ค่อยๆเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายลูกค้าทุกคนเชื่อว่าอาหารที่นั่นนำความสุขมาให้




Patisserie Coin De Rue洋菓子店コアンドル(YougashitenKoandoru)


Dir. FUKAGAWA Yoshihiro |2011| 115 min

Cast:     EGUCHI Yosuke    /เอกุจิ โยสุเกะ
AOI Yu          /อาโออิ ยู
TODA Keiko       /โทดะ เคอิโกะ

Crew :   Screenplay      INAGAKI Kiyotaka, FUKAGAWA Yoshihiro, MAEDA Koko
Music            HIRAI Mamiko
Theme Song         MOMOCHI Hiroko
Line Producer         HOSHINO Hideki
Cinematography          YASUDA Hikaru
บท            อินากาคิ คิโยทากะ , ฟุคากาว่า โยชิฮิโระ , มาเอดะ โคโคะ
ดนตรี            ฮิราอิ มามิโกะ
เพลงประกอบหลัก         โมโมจิ ฮิโรโกะ
ไลน์ โปรดิวเซอร์         โฮชิโนะ ฮิเดกิ
กำกับภาพ            ยาสุดะ ฮิคารุ         

Synopsis :

An emotional drama involving delicious desserts. A cake maker's daughter from Kagoshima travels to Tokyo to find her boyfriend and take him back with her, but begins to look at herself in a new light when she meets a legendary former patissier. The numerous, colorful western-style confections delightfully sweeten the screen. Natsume (Aoi Yu) makes her way to a famous Tokyo patisserie to see her boyfriend, but is stunned to learn that he has quit. Left without a place to stay, she attempts to become a live-in employee at the patisserie, but the cakes she makes are given an emphatic thumbs-down by the owner Yoriko (Toda Keiko) and critic Tomura (Eguchi Yosuke).

เรื่องย่อ

เรื่องราวสะเทือนอารมณ์ที่มีขนมหวานรสอร่อยเข้ามาเกี่ยวข้องลูกสาวคนทำเค้กจากคาโงชิม่าเดินทางมาโตเกียวเพื่อตามหาแฟนหนุ่มและพาเขากลับไปพร้อมกับเธอแต่แล้วเธอเริ่มที่จะมองเห็นอนาคตของตัวในรูปแบบใหม่เมื่อได้พบกับอดีตคนทำขนมในตำนานขนมหวานสไตล์ยุโรปมากมายหลากหลายสีสันช่วยเพิ่มความหวานให้ภาพบนจอนัทสึเมะ (ยูอิอาโออิ) ได้พบกับคนทำขนมผู้โด่งดังแห่งโตเกียวแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าเขาได้เลิกอาชีพนั้นไปแล้วเมื่อไม่มีที่ไปเธอจึงตัดสินใจที่จะทำงานและอาศัยอยู่ในร้านขนมแห่งหนึ่งแต่เค้กที่เธอทำนั้นถูกโยริโกะ (เคอิโกะโทดะ) เจ้าของร้านและโทมูระ (เอกุจิโยสุเกะ) นักวิจารณ์ตำหนิเสมอ



The Chef of South Polar南極料理人(NankyokuRyorinin)


Dir. OKITA Shuichi |2009|125 min

Cast:     SAKAI Masato    /ซาคาอิ มาซาโตะ
NAMASE Katsuhisa                   /นามาเสะ คัทสึฮิสะ
Kitaro         /คิทาโร่

Crew :   Original Story         NISHIMURA Jun
Screenplay         OKITA Shuichi
Cinematography          ASHIZAWA Akiko
Music            ABE Yoshiharu
Art Director         ATAKA Norifumi
เรื่องเดิมโดย            นิชิมูระ จุน
บท            โอคิตะ ชูอิจิ
กำกับภาพ            อะชิซาว่า อะคิโกะ
ดนตรี            อาเบะ โยชิฮารุ
กำกับศิลป์            อาทากะ โนริฟูมิ


Synopsis :

(fromunijapan)
A heart-warming comedy, based on the poignant essays of Nishimura Jun, who in real life served as a Japan Coast Guard cook for an Antarctic scientific observation team. The film depicts with humor the extreme isolation of eight men, living apart from their families in the severe cold at the South Pole, where it is even too cold for viruses to survive. From full-course French cuisine to hand-made "ramen" noodles, the meals that fill the team members’ bellies and hearts are unforgettable.
The average temperature is minus 54º C. An 8-member team is dispatched to the Dome Fuji Station, far from the Japanese base at Showa Station. Meals are the only source of pleasure in their lives, so the responsibility of the cook, Nishimura (Sakai Masato), is a heavy one. He pours his heart into his meals to support his mates, including the glaciologist Moto-san (NamaseKatsuhisa) and meteorologist Captain (Kitaro). But, without being able to procure fresh supplies, maintaining variety in the daily menu is a herculean task. While longing for his wife Miyuki (Nishida Naomi) and two children back in Japan, Nishimura goes to great lengths to keep the table filled with delectable meals.

(from JFHQ)
In 1997, an 8 men research team arrived at Dome Fuji Station in Antarctica . The station is 1,000km away from the Antarctic coast. No animals, and no virus can live there... Mr. Nishimura is a chef of the team. He misses his family in Japan, but he tries to make a delicious meal to make the members happy every day. The Captain of the team is addicted to ramen, the doctor tries to train to participate in a triathlon when he returns to Japan, and the young support member likes a telephone operator whom he has never met before... Various unique people have to live together for one and a half years. What will their curious lives be going in the South Pole?

เรื่องย่อ

(fromunijapan)
เรื่องตลกอบอุ่นใจเรื่องนี้สร้างจากบทความสะเทือนอารมณ์ของนิชิมูระจุนซึ่งเป็นพ่อครัวประจำทีมสังเกตการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่แอนตาร์กติกภาพยนตร์ถ่ายทอดอารมณ์ขันที่เกิดขึ้นในสถานที่อันไกลโพ้นของชาย 8 คนที่ใช้ชีวิตห่างจากครอบครัวท่ามกลางความหนาวเหน็บที่ขั้วโลกใต้เป็นความหนาวที่แม้แต่เชื้อไวรัสก็ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยซ้ำจากอาหารฝรั่งเศสหรูหราครบสูตรจนถึงราเมนที่ทำเส้นเองทุกเมนูที่เติมเต็มท้องและหัวใจของเพื่อนร่วมทีมจนเต็มอิ่มทุกมื้อล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่น่าจดจำ
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ -54 องศาเซลเซียสทีมนักวิจัย 8 คนถูกส่งไปยังสถานีโดมฟูจิไกลจากฐานญี่ปุ่นที่สถานีโชวะอาหารเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขามีความสุขดังนั้นความรับผิดชอบของนิชิมูระ (มาซาโตะซาคาอิ) จึงกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งเขาใส่หัวใจลงไปในอาหารทุกมื้อที่เขาทำเพื่อเพื่อนร่วมทีมที่รวมถึงโมโตะซัง (คัทสึฮิสะนามาเสะ) ผู้เชี่ยวชาญด้านธารน้ำแข็งและกัปตัน (คิทาโร่) นักอุตุนิยมวิทยาด้วยแต่เนื่องจากไม่สามารถจัดหาและรักษาวัตถุดิบให้สดใหม่อยู่เสมอได้การทำให้เมนูอาหารหลากหลายอยู่ตลอดเวลานั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความพยายามมากในขณะที่คิดถึงมิยูกิภรรยาของเขา (นาโอมินิชิดะ) และลูกอีกสองคนในญี่ปุ่นนิชิมูระพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อจะจัดเตรียมอาหารรสเลิศให้เต็มโต๊ะ

(from JFHQ)
ในปี 1997 คณะวิจัยซึ่งประกอบด้วยชาย 8 คนเดินทางไปถึงยังสถานีโดมฟูจิที่แอนตาร์กติกาสถานีอยู่ห่างจากชายฝั่งแอนตาร์กติก 1,000 กิโลเมตรไม่มีสัตว์หรือแม้กระทั่งไวรัสอาศัยอยู่ที่นั่นนิชิมูระเป็นพ่อครัวที่มาทำอาหารให้คณะวิจัยเขาคิดถึงครอบครัวที่อยู่ญี่ปุ่นแต่ก็พยายามทำอาหารอร่อยๆเพื่อให้ทุกคนมีความสุขทุกวันกัปตันหรือหัวหน้าคณะวิจัยเป็นคนติดราเมนหมอผู้มุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมไตรกีฬาเมื่อกลับญี่ปุ่นและสมาชิกสนับสนุนวัยเยาว์ที่ตกหลุมรักโอเปอเรเตอร์ทั้งๆที่ไม่เคยพบเธอมาก่อนเมื่อผู้คนที่มีความแตกต่างเฉพาะตัวมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งชีวิตของพวกเขาที่ขั้วโลกใต้จะเป็นอย่างไร



Udonうどん(Udon)


Dir. MOTOHIRO Katsuyuki|2006| 134 min

Cast:     Yusuke SANTAMARIA /ยูสุเกะซานตามาเรีย
KONISHI Manami      /โคนิชิ มานามิ
Tortoise MATSUMOTO    /เทอร์ทอยส์มัทสึโมโตะ

Crew :   Executive Producer      KAMEYAMA Chihiro   
Screenplay         TODAYAMA Masashi
Director of Photography      SAKO Akira
Editing             TAGUCHI Takuya
Music            WATANABE Toshiyuki
Production Design         SOMA Naoki
ผู้อำนวยการสร้างบริหาร         คาเมยามะ จิฮิโระ
บท            โทดายามะ มาซาชิ
กำกับภาพ            ซาโกะ อาคิระ
ดนตรี            วาตานาเบะ โทชิยูกิ
ออกแบบการผลิต         โซมะ นาโอกิ

Synopsis :

Producer KameyamaChihiro and director MotohiroKatsuyuki, the pair who created the popular Bayside Shakedown (OdoruDaisousasenThe Movie) series, have come together again to portray the spiritual interaction among people who love "udon" - Japanese wheat noodles. The film introduces a gastronomic culture unique to Japan through the medium of udon.
Matsui Kosuke (Yusuke Santamaria) goes to New York, dreaming to become a first-class comedian. However, his dream ends up falling by the wayside, and he returns to his hometown in Kagawa Prefecture laden with debts. As he rebelled against his father, claiming that a country town holds no dreams for him and struck out to travel abroad, Kosuke is ashamed to show his face to his father who has carried on making udon diligently at his udon factory. Kosuke's best friend, Shosuke (Tortoise Matsumoto), introduces him to a job at the town's information magazine, and Kosuke takes it up in order to clear his debts. He puts together a column for SanukiUdon, a specialty in Kagawa Prefecture, and this triggers an unprecedented udon craze. The festive excitement dies down after a while and people go back to their usual routines. Kosuke, however, regains his confidence from the boom, and leaves for America, chasing his dream once more.

เรื่องย่อ

จิฮิโระคาเมยามะผู้ดำเนินงานสร้างและคัทสึยูกิโมโตะฮิโระคู่หูที่ร่วมกันสร้างซีรี่ส์Bayside Shakedown (OdoruDaisousasen) กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวการรวมตัวของผู้คนที่รักอุด้งภาพยนตร์ทำให้เรารู้จักวัฒนธรรมการทำอาหารที่ไม่เหมือนใครของญี่ปุ่นผ่านทางอุด้งนี่เอง
โคสุเกะมัทสึอิ (ยูสุเกะซานตามาเรีย)  เดินทางไปนิวยอร์กพร้อมความฝันที่จะเป็นนักแสดงตลกชั้นหนึ่งแต่แล้วความฝันของเขาก็พังทลายลงและจำต้องเดินทางกลับบ้านเกิดในจังหวัดคางาว่าพร้อมกับหนี้สินติดตัวเขาต่อต้านพ่อมาตลอดโดยกล่าวว่าบ้านนอกไม่มีอะไรให้ฝันถึงจึงพยายามตะเกียกตะกายไปต่างประเทศโคสุเกะละอายใจที่จะโผล่หน้าไปให้พ่อซึ่งยังคงทำอุด้งอย่างพิถีพิถันที่โรงงานอุด้งของพวกเขาเห็นโชสุเกะ (เทอร์ทอยส์มัทสึโมโตะ) เพื่อนสนิทของโคสุเกะแนะนำงานที่นิตยสารของเมืองให้เขาตัดสินใจลองทำดูเพื่อจะได้สะสางหนี้ที่ค้างอยู่ให้หมดโคสุเกะสร้างสรรค์ซานุขิอุด้งขึ้นมาเพื่อให้เป็นอุด้งแบบพิเศษของจังหวัดคางาว่าเท่านั้นส่งผลให้เกิดความนิยมในอุด้งอย่างสูงแบบไม่เคยมีมาก่อนความคลั่งไคล้เพียงชั่วครู่ค่อยๆมอดดับลงในไม่ช้าผู้คนเริ่มกลับไปใช้ชีวิตตามปกติอย่างไรก็ตามโคสุเกะค่อยๆฟื้นความมั่นใจขึ้นมาและตัดสินใจเดินทางไปอเมริกาเพื่อตามหาความฝันของเขาอีกครั้ง