happy on February 03, 2013, 08:07:37 PM
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกับเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ
และโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ คัดสรร 7 ภาพยนตร์จากแดนอาทิตย์อุทัย
เตรียมเปิดฉากเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2556(Japanese Film Festival 2013)
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกับเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ และโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จัด “เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2556 (Japanese Film Festival 2013)” โดยคัดสรรภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวความบันเทิงผ่านวัฒนธรรมการทำอาหารจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ได้รับการการันตีว่าเป็นอาหารยอดนิยมอันดับหนึ่งของโลกทั้งสิ้น 7 เรื่อง 7 ความอร่อย เสิร์ฟให้ชมฟรี!!! พร้อมบทบรรยายอังกฤษ ทุกเรื่องทุกรอบ ระหว่างวันที่ 15 – 17 กุมภาพันธ์ ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ เทอร์มินอล 21 นางสุวรรณี ชินเชี่ยวชาญ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด กล่าวว่า “เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่คอหนังชาวไทย ส่วนสำคัญน่าจะเป็นเรื่องของความใกล้เคียงกันทางด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิต โดยการันตีได้จากการจัดเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่นเมื่อปี 2554 ซึ่งถือเป็นการร่วมฉลองครบรอบวันเกิด 100 ปี ของคุโรซาวะ อากิระ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังจากแดนอาทิตย์อุทัยก็ได้รับกระแสการตอบรับอย่างท้วมท้นทั้งจากชาวไทย และชาวต่างชาติ จนมาในปีนี้ทางเจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ ภายใต้การสนับสนุนของสถานเอกอัครราชฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้ร่วมกับโรงภาพยนตร์ เอส เอส ซีเนม่า ซิตี้ ก็เตรียมพร้อมกลับมามอบประสบการณ์ความบันเทิงอีกครั้งกับ “เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2556 (Japanese Film Festival 2013)” โดยปีนี้ได้คัดเลือกภาพยนตร์คุณภาพ 7 เรื่อง ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการทำอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของชนชาติ รวมไปถึงการใช้อาหารญี่ปุ่นเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเรื่องราวความอบอุ่น และความสนุกสนานในภาพยนตร์ ซึ่งจะทำให้เรามองภาพวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น” “ภาพยนตร์ในเทศกาลฯ นี้ มีความน่าสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์รอบเปิดเทศกาลเรื่อง Éclair ที่ได้ โยชิ ฮาจิเมะ นักแสดงรุ่นเด็กมากความสามารถที่มาถ่ายทอดเรื่องราวแสนสะเทือนใจของผู้คนที่รอดชีวิตจากช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านชีวิตเด็กชายกำพร้าผู้หลงใหลในขนมหวาน เมื่อชีวิตพลิกผันทำให้ถูกส่งตัวไปยังสถานควบคุมความประพฤติ แต่เมื่อได้เรียนรู้ถึงความอ่อนโยนจากเพื่อนมนุษย์ และการปลอบโยนด้วยเพลงแสนไพเราะ “ขนมหวานกับเด็กผู้หญิง” จากครูผู้ดูแล ทำให้สามารถกล่อมเกลา และช่วยให้เขามีพลังในการมีชีวิตได้อย่างน่าประหลาด ด้วยบทบาทที่โดดเด่นทำให้ โยชิ ฮาจิเมะ ได้รับรางวัล Best male actor at the Golden Rooster International Film Show 2011 จากสาธารณรัฐประชาชนจีนในที่สุด หรือแม้แต่เรื่อง Patisserie Coin De Rue ที่ได้นักแสดงนำชั้นนำอย่าง อาโออิ ยู ที่โด่งดังมากในประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย รวมถึงอีกหลายๆ เรื่องที่เชื่อว่าจะทำให้คอหนังได้ทั้งเต็ม ทั้งอิ่ม ไปกับภาพยนตร์อาหารญี่ปุ่นที่พร้อมเสริฟ์มากมาย” สุวรรณีกล่าวทิ้งท้าย “เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2556 (Japanese Film Festival 2013)” จัดโปรแกรมฉายเพื่อเอาใจคนรักหนังโดยเฉพาะให้ได้ชมภาพยนตร์คุณภาพกันแบบฟรีๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมบทบรรยายอังกฤษ ทุกเรื่องทุกรอบ ระหว่างวันที่ 15 – 17 กุมภาพันธ์ 2556 นี้ สำหรับผู้สนใจร่วมชมภาพยนตร์ในเทศกาลนี้สามารถติดต่อรับบัตรชมภาพยนตร์ได้ที่บูธเทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2556 ก่อนรอบฉายจริง 30 นาที ที่ชั้น 6 โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ เทอร์มินอล 21 เพียงแห่งเดียวเท่านั้น!!! โดยเริ่มต้นเทศกาลฯ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 จัดฉาย 1 เรื่องเวลา 20.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ จัดฉายทั้งสิ้น 3 เรื่องตั้งแต่เวลา 14.00 – 19.00 น. สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรอบฉายภาพยนตร์ หรือรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมที่ SF Call Center และ www.sfcinemacity.com หรือเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่หน้าโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ เทอร์มินอล 21
Japanese Film Festival 2013CatalogueÉclair エクレール~お菓子放浪記 (Ekureru: OkashiHourouki) Dir. KONDO Akio |2011|105 min
Cast: YOSHII Hajime /โยชิ ฮาจิเมะ
Saori /ซาโอริ
ISHIDA Ayumi /อิชิดะ อายูมิ
Crew : Original Story NISHIMURA Shigeru
Planning ONODERA Tsutomu
Screenplay NISHII Fumiko, IZUMI Etsuko
Cinematography KUBOTA Etsuro
เรื่องเดิมโดย นิชิมูระชิเงรุ
วางแผน โอโนะเดระทสึโทมุ
บท นิชิฟูมิโกะ , อิซึมิเอทสึโกะ
กำกับภาพ คุโบตะเอทสึโระ
Synopsis :
(fromunijapan)
An emotional drama based on an autobiographical novel by Nishimura Shigeru. The resilience of ordinary people who survived the turbulent period during and after World War II is warmly depicted from the perspective of an orphaned boy named Akio who is obsessed with sweets. In early spring of 1943, Akio (Yoshii Hajime) is caught for stealing a bag of sweets out of hunger. He is given a sweet bun by police detective Toyama (Endo Kenichi), and experiences its deliciousness and human kindness for the first time in his life. He is eventually sent to a reformatory and goes through a tough time, but finds solace in the song "Okashi to Musume" (sweets and a girl) sung by one of the teachers, Yoko (Saori).
(from JFHQ)
Losing his parents at very early age, Akio was sent to an orphanage.
He is a quitter, never be able to stay in one place, attempts to escape so many times and finally he ends up being sent to a reformatory.
It was 1943 when the dark shadow of the war was sneaking up and about to change everything and lead him to such a vagrant life.
Many encounters throughout the difficult time, likes of detective Toyama who saved him from hunger by giving a sweet pastry, the White Satan at the reformatory, his forester mother Fusano, Tomiko from the cinema and people from the itinerant company…. but the only thing keep him going amongst the everything was "Sweets & Girls (お菓子と娘)", the song Yoko, who was a teacher of the orphanage, sang to him.
No matter what happens to him, thinking about sweets and singing the song somehow give him the power to live...
เรื่องย่อ
(fromunijapan)
เรื่องราวสะเทือนใจที่สร้างขึ้นจากนวนิยายกึ่งอัตตชีวประวัติโดยนิชิมูระชิเงรุว่าด้วยความพยายามในการกลับคืนสู่สภาวะปกติของผู้คนทั่วไปที่รอดชีวิตจากช่วงเวลาที่สับสนอลหม่านระหว่างและหลังสงครามโลกครั้งที่สองได้ถูกถ่ายทอดอย่างอบอุ่นโดยผ่านมุมมองของอาคิโอะเด็กชายกำพร้าผู้หลงใหลในขนมหวานต้นฤดูใบไม้ผลิในปี 1943 อาคิโอะ (โยชิฮาจิเมะ) ถูกจับได้ว่าขโมยขนมเพราะความอดอยากแต่แล้วตำรวจนักสืบโทยามะ (เอ็นโดเคนอิจิ) กลับหยิบยื่นขนมปังหวานแก่เขาอาคิโอะได้สัมผัสถึงความอร่อยและเรียนรู้ถึงความอ่อนโยนจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาในเวลาต่อมาเขาถูกส่งไปยังสถานควบคุมความประพฤติและต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากแต่ความทุกข์ของเด็กน้อยกลับเบาบางลงทั้งนี้เพราะจิตใจของเขาได้รับการปลอบโยนด้วยเพลงโอคาชิโต๊ะมุสึเมะ (ขนมหวานกับเด็กผู้หญิง) ซึ่งขับร้องโดยโยโกะ (ซาโอริ) ซึ่งเป็นครูที่นั่น
(from JFHQ)
หนูน้อยกำพร้าอาคิโอะถูกส่งตัวไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเขาไม่สามารถทนอยู่ที่เดียวเป็นเวลานานๆได้จึงพยายามหนีออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าสุดท้ายก็จบลงด้วยการถูกส่งตัวไปยังสถานควบคุมความประพฤติย้อนไปในปี 1943 เมื่อเงามืดของสงครามโผล่ขึ้นมาและค่อยๆเปลี่ยนแปลงทุกอย่างและส่งผลให้เขาต้องใช้ชีวิตเยี่ยงคนพเนจรอาคิโอะได้พบผู้คนมากมายในช่วงเวลายากลำบากในชีวิตเช่นนักสืบโทยามะซึ่งช่วยเขาให้รอดพ้นจากความหิวโหยด้วยการมอบขนมปังหวานให้เขาปีศาจสีขาวแห่งสถานควบคุมความประพฤติฟุซาโนะแม่บุญธรรมโทมิโกะจากโรงภาพยนตร์และอีกมากมายจากคณะละครเร่ทว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ผลักดันให้เขาก้าวเดินต่อไปได้นั่นก็คือบทเพลงที่ชื่อ "Sweets & Girls (お菓子と娘)" ที่ครูโยโกะครูที่เคยสอนอยู่สถานควบคุมความประพฤติเคยร้องให้เขาฟังไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาเพียงแค่นึกถึงขนมรสหวานหรือได้ร้องเพลงเพลงนั้นก็ช่วยให้เขามีพลังในการมีชีวิตได้อย่างน่าประหลาดA Boy and His Samurai ちょんまげぷりん(ChonmagePurin) Dir. NAKAMURA Yoshihiro |2010| 108 min
Cast: NISHIKIDO Ryo /นิชิคิโดเรียว
TOMOSAKA Rie /โทโมซากะริเอะ
KONNO Hiroki /คอนโนะฮิโรกิ
SUZUKI Fuku /ซูซูกิ ฟุคุ
Crew : Original Story NISHIMURA Shigeru
Planning ONODERA Tsutomu
Screenplay NISHII Fumiko, IZUMI Etsuko
Cinematography KUBOTA Etsuro
เรื่องเดิมโดย นิชิมูระชิเงรุ
วางแผน โอโนะเดระทสึโทมุ
บท นิชิฟูมิโกะ , อิซึมิเอทสึโกะ
กำกับภาพ คุโบตะเอทสึโระ
Synopsis :
This heartwarming story is based on the comic of the same name by manga artist Araki Gen. Directed by Nakamura Yoshihiro, who recently has had a succession of major hits in the Japanese film world. Kijima Yasube (Nishikido Ryo) is an Edo Period samurai who has entered a timeslip and found himself lost in present day. With nowhere to go, he has a chance meeting with single mother Yusa Hiroko (TomosakaRie) who allows him to stay at her house for free. Gradually, he discovers the art of making sweets and his talent soon begins to blossom.
เรื่องย่อ
เรื่องราวที่ทำให้หัวใจอบอุ่นเรื่องนี้สร้างจากการ์ตูนชื่อเดียวกันโดยนักวาดการ์ตูนอารากิเก็นกำกับโดยนาคามูระโยชิฮิโระผู้ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้คิจิมะยาสุเบะ (นิชิคิโดเรียว) ซามูไรจากยุคเอโดะผู้ซึ่งข้ามมิติเวลามาพบว่าตัวเขากำลังหลงทางอยู่ในสมัยปัจจุบันระหว่างที่กำลังอับจนหนทางไม่มีที่ไปนั้นเขาก็พบกับยุสะฮิโรโกะ (โทโมซากะริเอะ) คุณแม่ลูกติดกับบุตรชายของเธอเธอยอมให้เขาพักอยู่ด้วยโดยไม่คิดเงินซามูไรหนุ่มค่อยๆค้นพบศิลปะการทำขนมหวานและในไม่ช้าพรสวรรค์ของเขาก็เบ่งบานเต็มที่Kamome Dinerかもめ食堂(KamomeShokudo) Dir. OGIGAMI Naoko|2006| 102 min
Cast: KOBAYASHI Satomi /โคบายาชิซาโตมิ
KATAGIRI Hairi /คาตากิริไฮริ
MOTAI Masako /โมทาอิมาซาโกะ
Crew : Original Story MURE Yoko
Screenplay OGIGAMI Naoko
Director of Photography Tuomo VIRTANEN
Editing FUSHIMA Shinichi
Music KONDO Tatsuo
Production Design Annika BJORKMAN
เรื่องเดิมโดย มุเระ โยโกะ
บท โอกิงามิ นาโอโกะ
กำกับภาพ ทัวโม เวอร์ทาเน็น
ตัดต่อ ฟุชิมะ ชินอิจิ
ดนตรี คอนโด ทัตสึโอะ
ออกแบบการผลิต แอนนิก้า ปีเยิร์กแมน
Synopsis :
Author, Mure Yoko, writes this film adaptation of the similarly titled novel, directed by Ogigami Naoko of Yoshino's Barber Shop (Barber Yoshino). This is a heart-warming, human drama that portrays the interaction between a restaurant owner and the people who gather there.
Sachie (Kobayashi Satomi), from Japan, opens the "Kamome Diner" in Helsinki. The specialty menu is Onigiri rice ball. However, day after day the only customer is a geeky Japan enthusiast, Tommi (JarkkoNiemi). One day, two Japanese ladies, each with some personal issues, come to help at Sachie's diner. The number of customers gradually increases, but the diner seems to attract only those with problems. Conversation with Sachie and the tasty food seem to resolve people's concerns.
The film was shot entirely on location in Helsinki through full cooperation from Finland. Famed Finnish actor, MarkkuPeltola (The Man Without a Past), appears in a key role.
เรื่องย่อ
ผู้เขียนมุเระโยโกะเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นจากการดัดแปลงเค้าโครงเรื่องเดิมของนวนิยายชื่อเดียวกันกำกับโดยโอกิงามินาโอโกะซึ่งกำกับYoshino's Barber Shop (Barber Yoshino) Kamome Diner เป็นเรื่องราวที่ทำให้หัวใจอบอุ่นเกี่ยวกับชีวิตของผู้คนบอกเล่าการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของร้านอาหารกับบรรดาผู้คนที่รวมตัวกันที่นั่นซาจิเอะ (โคบายาชิซาโตมิ) จากญี่ปุ่นมาเปิดร้านKamome Diner ที่เฮลซิงกิเมนูพิเศษของร้านคือข้าวปั้นมีเพียงทอมมี่ (JarkkoNiemi) ฝรั่งผู้คลั่งไคล้ญี่ปุ่นเป็นขาประจำของร้านเพียงรายเดียวเท่านั้นวันหนึ่งหญิงชาวญี่ปุ่นสองคนแต่ละคนต่างมีปัญหาส่วนตัวที่ต่างกันออกไปมาช่วยงานที่ร้านของซาจิเอะจำนวนลูกค้าค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่ดูเหมือนว่าร้านแห่งนี้จะดึงดูดเพียงแค่เหล่าคนที่มีปัญหาชีวิตคล้ายกับว่าบทสนทนากับซาจิเอะและอาหารรสเยี่ยมจะช่วยบรรเทาความกังวลของผู้คนลงไปได้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่เฮลซิงกิโดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากรัฐบาลฟินแลนด์และนักแสดงชื่อดังชาวฟินแลนด์MarkkuPeltola (The Man Without a Past) ที่มารับบทสำคัญในเรื่อง
« Last Edit: February 03, 2013, 08:33:01 PM by happy »
Logged