KTAMตั้งเป้าโตอีก20%รักษาฐานอันดับ1กองอสังหาริมทรัพย์
พร้อมเปิดขายทริกเกอร์9อายุ8เดือน8%ขยับเป้าดัชนีปีนี้1,575
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2556 บริษัทตั้งเป้าขยายมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น516,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20%จากปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ บริษัทจะยังคงออกกองทุนประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เพื่อรองรับเงินลงทุนของลูกค้าที่จะครบอายุ โดยจะมองหาตลาดการเงินใหม่ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี บนพื้นฐานความเสี่ยงที่ลูกค้าในแต่ละกลุ่มยอมรับได้
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดจำหน่ายกองทุนอีทีเอฟ ที่อิงกับกลุ่มหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แก่ กองทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน , กลุ่มอาหาร , กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกลุ่มพาณิชย์ รวมทั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน การขยายฐานลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนหุ้นประเภททริกเกอร์ฟันด์ ในช่วงจังหวะและเวลาที่เหมาะสม
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า แผนกลยุทธ์ในปี 2556 สำหรับกองทุนรวมตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งการตลาดให้อยู่ใน 3 อันดับแรกของอุตสาหกรรม กองทุนส่วนบุคคล จะขยายฐานลูกค้าให้เข้าถึงภาคเอกชน และกลุ่มลูกค้าของธนาคารมากขึ้น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะรักษาฐานลูกค้าเดิมร่วมกับการเพิ่มสัดส่วนกองทุน Pool Fund และพัฒนาระบบทะเบียนของกองทุน ซึ่งในปัจจุบันบริษัทได้จัดตั้งฝ่ายทะเบียนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขึ้นใหม่ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ จะคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดอันดับ1 ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภท 1 และเป็นผู้นำการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2555 ที่ผ่านมา บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 428,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19% จากการเพิ่มขึ้นของกองทุนรวมประเภทกำหนดอายุ กองทุนรวมตลาดเงิน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท เป็นหลัก ทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 12% เป็นอันดับที่ 3 ของอุตสาหกรรม
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย8%ทริกเกอร์ ฟันด์ 9 ( KT-TRIGGER9) ในวันที่ 31 มกราคม -11 กุมภาพันธ์ 2556 มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท กองทุนจะกระจายเงินลงทุนในตราสารทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารหนี้ เงินฝาก และ /หรือ ลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างได้ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนด หรือให้ความเห็นชอบให้ลงทุนได้ โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนได้ในสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะการณ์ในแต่ละขณะ
ทั้งนี้ กองทุนจะมี อายุโครงการประมาณ 8 เดือน นับแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม หรืออายุโครงการอาจต่ำกว่า 8 เดือน เมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 11.1000 บาทขึ้นไป ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท ) เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป และทรัพย์สินของกองทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติจะต้องเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด หรือเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 111 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด ณ วันทำการใด โดยบริษัทจัดการจะทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายไปยังกองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ ภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 108 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท )
ส่วนในกรณีครบกำหนดอายุกองทุน บริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้ผู้ถือหน่วยลงทุน โดยจะทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ณ วันสิ้นสุดอายุโครงการ ไปยังกองทุนเปิดผสมที่มีนโยบายการลงทุนเหมือนกับกองทุนเปิดกรุงไทย8%ทริกเกอร์ ฟันด์ 9 และเปิดซื้อ-ขายหน่วยลงทุนทุกวันทำการ
โดยแนวทางการบริหารกองทุนจะใช้กลยุทธ์ ในการคัดสรรหลักทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ตามปัจจัยพื้นฐาน มีศักยภาพในการเติบโตที่มั่นคง และสามารถสร้างอัตราการเติบโตของกำไร ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน และได้รับประโยชน์จากการบริโภคและการลงทุนในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยร่วมมือกับฝ่ายวิจัยของบริษัทอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ผลการดำเนินงานของกองทุนถึงเป้าหมายตามที่ได้คาดการณ์ไว้ และบริษัทตั้งเป้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปีนี้ไว้ที่ 1,575 จุด นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับรางวัลบริษัทจัดการกองทุนที่ดีที่สุดในประเทศไทย ( Best Fund House ) ในปี 2012 จากนิตยสาร Asia Asset Management