ช่อง 3 จับมือ กรุ๊ปเอ็ม, ไชน์ อินเตอร์เนชั่นแนล และ มายน์แอทเวิร์คส์ เปิดสตูดิโอแถลงข่าวเปิดตัวรายการระดับโลก “จูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์”
รายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ พร้อมเผยโฉมแล้วด้วยความร่วมมือจาก 4 องค์กรชั้นนำ ประกอบด้วย สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย, ไชน์ อินเตอร์เนชั่นเนล และ มายน์แอทเวิร์คส์ โดยรายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ถือเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยอายุระหว่าง 8-12 ปี ได้ร่วมแสดงพรสวรรค์ ด้านการทำอาหาร โดยได้ทำการคัดเลือก 50 เชฟรุ่นจิ๋ว จากทั่วประเทศที่จะเข้ามาแข่งขันเพื่อแสดงความสามารถในรายการ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กำหนดออกอากาศครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ศกนี้ รวม 17 ตอนทางไทยทีวีสีช่อง 3 เวลา 17.45-19.15 น. (ทุกวันอาทิตย์) โดยมีเหล่าผู้สนับสนุนรายการ ประกอบด้วย เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (เอพี), สายการบินบางกอกแอร์เวย์, คาร์เนชั่น, แม็กกี้, สก๊อตต์®, ทีฟาล์ว, ไทยประกันชีวิต และ ท็อปส์ มาร์เก็ต
ราย การจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ (Junior MasterChef Thailand) ถือเป็นรายการซีรี่ส์บันเทิง ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อค้นหาสุดยอดเชฟรุ่นจิ๋วมือสมัครเล่น โดยรายการจะเปิดโอกาสให้เด็กอายุระหว่าง 8-12 ปี ที่ชื่นชอบการทำอาหาร มาร่วมแสดงความสามารถเพื่อก้าวสู่ความเป็นหนึ่ง ซึ่งตลอดทั้งซีรี่ส์จะผสานไปด้วยความตื่นเต้น ความสนุกสนาน และสร้างแรงบันดาลใจแก่เหล่าเชฟตัวน้อยทั้งหลายและพวกเขายังต้องเผชิญกับ ความท้าทายต่างๆ ทั้งในเชิงเทคนิคการทำอาหาร และความสวยงามในการจัดความสวยงามแก่เมนู เพื่อพิสูจน์ว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคต่อการทำอาหาร โดยรูปแบบของรายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ จะเป็นรูปแบบเดียวกับ รายการจูเนียร์ มาสเตอรเชฟ ที่โด่งดังมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย อิสราเอล เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ กรีส ฟิลิปปินส์ เดนมาร์ก และฟินแลนด์ และล่าสุด ที่เมืองไทย ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอีกหลายประเทศ
ทั้งนี้ รายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ได้สร้างสรรค์รูปแบบรายการให้สะท้อนภาพรายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ต้นฉบับ ที่เป็นการประชันฝีมือในระดับผู้ใหญ่ โดยมุ่งเน้นให้เด็กๆ ที่สนใจในการทำอาหาร พร้อมจะเอาชนะ ความกลัวและปัญหาต่างๆ รวมถึงการเรียนรู้ที่จะสนุกกับการเรียนทักษะใหม่ๆ ในการทำอาหารและทราบถึงประโยชน์ ของอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อพัฒนาตนเองสู่ความสามารถอันเป็นเลิศ นอกจากนี้ รายการยังสะท้อนให้เห็นถึงความรู้ ความเข้าใจของเด็กๆ ที่มีต่อโลก จากการทำอาหารที่มาจากที่ต่างๆ ไปจนถึงการให้เด็กๆ ได้สะท้อนความแตกต่าง ด้านความรู้สึกนึกคิด เพื่อนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเปิดรับความคิดของผู้อื่นด้วย หากพิจารณารูปแบบเนื้อหาของรายการอาจมีความแตกต่างกันบ้างในแต่ละประเทศ แต่คุณค่าหลักและส่วนประกอบพื้นฐานของรายการนั้นมีความ เป็นสากล ซึ่งรายการที่ผู้ชมได้ชมผ่านจอโทรทัศน์อาจจะมีการนำเสนอเนื้อหาที่สนุกสนาน และสะท้อนความพยายามที่จะก้าวสู่ความเป็นเลิศในการทำอาหาร แต่รายการ จูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ จะเป็นการแสดงความสามารถในการทำอาหารที่เต็มไปด้วยพลังความยิ่งใหญ่ จากคนตัวเล็กๆ ที่แฝงหัวใจหลักในการนำเสนอรายการ อันประกอบไปด้วย
1. การเรียนรู้ : เราได้เห็นผู้ร่วมรายการที่เป็นเด็กเรียนรู้ และพัฒนาตนเองตลอดรายการ จากจุดเริ่มต้นไป จนถึงตอนจบของซีรีส์
2. ความสนุกสนาน : หัวใจของรายการคือความสนุกในการทำอาหารและการทดลองและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับอาหาร
3. การให้คำแนะนำ และการสอนของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารอย่างเอาใจใส่ : รายการต้องการให้เด็กที่เข้าร่วมรายการได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ และกรรมการจะมีการตัดสินอย่างยุติธรรมและดีที่สุด
4. ความสามารถของเด็กๆ ที่เข้าร่วมรายการต้องมีฝีมือในการทำอาหารอย่างยอดเยี่ยม : ซึ่งทักษะชั้นเลิศ เหล่านี้คือแม่เหล็กดึงดูดผู้ชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้ติดตามพัฒนาการเด็กๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้และเติบโตและยิ่งรัก ในการสร้างสรรค์อาหารและการทำครัวมากยิ่งขึ้น
โดยรายการจูเนีย ร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ได้เฟ้นหา 3 ผู้มีชื่อเสียงที่คร่ำหวอดด้านอาหารร่วมเป็นคณะกรรมการที่จะคัดเลือกว่าใคร เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟคนแรกของเมืองไทย โดยทั้ง 3 ท่าน ประกอบด้วย ซุปเปอร์สตาร์นักชิม มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์, เชฟหนุ่มอินดี้ อิ๊ก บรรณ บริบูรณ์ และครูใหญ่ใจดี ครูบิ๊บ ชัชชญา รักตะกนิษฐ ผู้อำนวยการโรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต
“ช่อง 3 ยังคงมุ่งเน้นที่จะสร้างสรรค์รายการที่เหมาะสมกับกลุ่มครอบครัว ซึ่งรายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ นอกจากจะตอบโจทย์ในเรื่องดังกล่าว เนื้อหารายการยังส่งเสริมให้เด็กๆ ทั้งที่เข้าร่วมรายการและรับชม ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในเมืองไทย ที่ผสานความท้าทาย ความสนุกสนาน ส่งเสริมความคิด สร้างสรรค์ให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่ในการแสดงพรสวรรค์ด้านการทำอาหารได้ตามแรงบันดาลใจ ซึ่งรายการนี้จะถือเป็นจุดพลิกโฉมและเป็นแรงผลักดันในเด็กไทยหันมา รักการทำอาหารและเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาใน อนาคต” คุณสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ ไทยทีวีสี ช่อง 3 กล่าว
ด้าน มร.เควิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย กล่าวแสดงความเห็นว่า “รายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ถือเป็นความภาคภูมิใจล่าสุดของกรุ๊ปเอ็ม ในฐานะผู้จุดประกายกลยุทธ์ Branded Content ในเมืองไทย โดยในปีนี้ เรายังคงตั้งเป้าที่จะนำเสนอ Content ที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล สู่ตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า รายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ จะเป็นแรงกระตุ้นให้วงการบันเทิงเมืองไทยหันมาสร้างสรรค์รายการเพื่อเยาวชน และครอบครัวมากยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันเมืองไทยยังมีรายการในลักษณะนี้ค่อนข้างน้อยและด้วยเนื้อหาของ รายการที่น่าติดตาม ตลอดจนพรสวรรค์ที่เด็กๆ ทั้ง 50 คน ได้แสดงให้ผู้ชมเห็นจะเป็นตัวจุดประกายพลังความคิดสร้างสรรค์ให้แก่เด็กไทย ได้อย่างแน่นอน”
รายการจูเนียร์ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ (Junior MasterChef Thailand) จะเป็นอีกหนึ่งรายการซีรี่ย์ เพื่อความบันเทิงของครอบครัวที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กตัวเล็กๆ ที่หัวใจใหญ่เกินตัว