FANCLUBENJOYJAM on January 11, 2013, 05:27:22 PM
เรื่องย่อ : มณีสวาท






   
บทประพันธ์โดย : จินตวีร์ วิวัธน์

บทโทรทัศน์โดย : ณัฐวัฒน์ (ประไพรศรี ศรีนาทม)

กำกับการแสดงโดย : วรวิทย์ ศรีสุภาพ

ผลิตโดย : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด

ควบคุมการผลิตโดย : สมจริง ศรีสุภาพ

ออกอากาศทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

รายชื่อนักแสดงนำ

วิทยา วสุไกรไพศาล รับบท ม.ร.ว.ภุชคินทร์
ศรีริต้า เจนเซ่น รับบท เจ้าอุรคา
ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท รมต.สุบรรณ
โทนี่ รากแก่น รับบท ร.ต.อ.ไพศิษฐ์
เจสสิกา ภาสะพันธุ์ รับบท นาถสุดา
ชล วจนานนท์ รับบท เฟื่องวลี
ปัญญาพล เดชสงค์ รับบท ยมนา
สุปราณี เจริญผล รับบท เฟื่องฟ้า
กมล ศิริธรานนท์ รับบท ภิงคาร
สาวิตรี สามิภักดิ์ รับบท หม่อมภาณี
อารดา อารยวุฒิ รับบท นารีวรรณ
ปิยะ วิมุกตายน รับบท อำนาจ
ศานติ สันติเวชกุล รับบท พอ.นรินทร์
อริญรดา ปิติมารัชต์ รับบท พะนอฤดี
อุษณีย์ พึ่งป่า รับบท ชรายุ
กลศ อัทธเสรี รับบท ทรงยศ
น้ำเงิน บุญหนัก รับบท อติศรี
กมล ทองพลับ รับบท ดร.วิชัยสิงห์
ฐิติอานันท์ พัทธไพสิฐ รับบท สุรินทร์

FANCLUBENJOYJAM on January 11, 2013, 05:29:30 PM
เรื่องย่อ

          ม.ร.ว. ภุชคินทร์ นาเคนทร์ ทายาทแห่งวังนาเคนทร์ ถูกเรียกตัวกลับจากต่างประเทศ เพื่อรับหน้าที่เป็นเลขานุการให้กับ ภิงคาร รมช.ต่างประเทศผู้เป็นน้าชาย ด้วยรูปลักษณ์ที่เลิศล้ำ ร่ำรวยทรัพย์สมบัติทั้งชาติกำเนิดอันสูงส่ง ทำให้คุณชายภุชคินทร์กลายเป็นชายที่สาวไฮโซทั้งสังคมให้ความสนใจมากที่สุด รวมไปถึงไฮโซสาวสังคมหน้าใหม่อย่าง เจ้าอุรคา ณ เชียงตุง
          ใน งานเลี้ยงรับรองระดับชาติซึ่งแขกคนสำคัญระดับนักการเมือง ทูตานุทูต และชาวสังคมชั้นสูงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งนั้น ภุชคินทร์ได้พบกับเจ้าหญิงสูงศักดิ์เลอโฉมนามเจ้าอุรคา ที่มาปรากฎตัวพร้อมกับเครื่องแต่งกายสีเขียวโดดเด่นเป็นสง่ากับดวงหน้างดงาม ประดับรอยยิ้มลึกลับและอัญมณีรูปหยดน้ำสีเขียวเข้มแปลกตาที่เรียกว่า มณีนาคสวาท
          เจ้าอุรคาก้าวเข้ามาเป็นดาวดวงใหม่ของสังคมไฮโซ อย่างลึกลับไม่มีใครรู้เบื้องลึกเบื้องหลังที่แท้จริงของเจ้าหญิงคนนี้ รู้กันแต่เพียงว่านอกจากความงามเจิดจรัสและฐานะอันร่ำรวย เธอยังมีความสามารถในการพยากรณ์แม่นระดับหาตัวจับยาก
          คุณชาย ภุชคินทร์รู้สึกสะดุดตาสะดุดใจในบุคลิกงามสง่าท่าทีอันเปี่ยมไปด้วยปริศนา และคำพูดคำจาที่ลึกลับกำกวมของเจ้าอุรคา ในขณะเดียวกันที่ความงามของเจ้าอุรคาไปโดนใจรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุค เข้าอย่างจัง สุบรรณ ครุฑไพทูรย์ หรือที่นักข่าวเรียกกันว่า "รัฐมนตรีที่ถูกปองร้ายมากที่สุด" เขาก้าวขึ้นมาจากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งงานถูกและผิดกฎหมาย ทำให้มีศัตรูมากมายถึงกับมีการโดนลอบปองร้ายอยู่หลายครั้งหลายครา และทุกครั้งเขาก็รอดชีวิตมาได้อย่างปาฎิหาริย์ จนได้สมญานามจากบรรดานักข่าวว่า "แมวเก้าชีวิต" เพราะถูกปองร้ายอยู่บ่อย ๆ สุบรรณจึงต้องมีนายตำรวจและมือปืนมือดีติดตามตลอดเวลา
          สุบรรณ พยายามหาทางเข้าไปตีสนิทกับเจ้าอุรคาทุกวิถีทางตามงานสังคม และด้วยความดูไม่น่าไว้วางใจของเจ้าอุรคา ทำให้คนใกล้ชิดของสุบรรณอย่าง ร.ต.อ.ไพศิษฐ์ ซึ่งเป็นตำรวจติดตาม เพื่อนรักของภุชคินทร์ และ อำนาจ สมุนมือขวาที่ดูแลธุรกิจด้านมืดให้รมต.สุบรรณนั้น ต่างเกิดความหวาดระแวงและจับตามองเจ้าอุรคาอยู่เงียบ ๆ
          ในคืน งานเลี้ยงงานหนึ่ง ตำรวจจับกุมตัวชายคนขับรถของเจ้าอุรคาพร้อมอุปกรณ์วางระเบิดได้ที่ใกล้กับรถ ของรมต.สุบรรณ แต่เจ้าอุรคากลับให้การปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับชายชาวต่างด้าวผู้ นั้น บอกแต่เพียงว่าชายคนนั้นเป็นญาติห่าง ๆ ของแม่บ้านและเธอไหว้วานให้ช่วยขับรถมางานเลี้ยงเท่านั้น ที่น่าประหลาดใจที่สุด คือในทันทีที่ตำรวจนำตัวชายมือระเบิดเข้าห้องขัง ชายต่างด้าวคนนั้นกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เล่นเอาตำรวจทั้งโรงพักงงเป็นไก่ตาแตก ร.ต.อ.ไพศิษฐ์สงสัยว่า เจ้าอุรคาและพรรคพวกน่าจะอยู่ในขบวนการอะไรสักอย่าง
          ผู้กองไพ ศิษฐ์หอบเอาความขุ่นข้องใจไปขอให้คุณชายภุชคินทร์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่ทำ งานอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ ให้ช่วยหาข่าวเกี่ยวกับเจ้าหญิงผู้ลึกลับคนนี้ เนื่องจากลำพังตัวเขาเองนั้นไม่สามารถเข้าถึงตัวเจ้าอุรคาได้เพราะเจ้าอุรคา ประกาศอย่างชัดเจนว่าเธอไม่สนใจเรื่องการเมืองและยังแสดงท่าทีไม่ให้ความ ร่วมมือกับตำรวจในทุกกรณี
          แต่ภุชคินทร์กลับมิต้องใช้ความ พยายามในการเข้าใกล้เจ้าอุรคาเท่าใดนัก เพราะเธอได้พาตัวเข้ามาวนเวียนอยู่ในชีวิตของเขา ด้วยการเข้ามาทำงานการกุศลร่วมกับหม่อมภาณี มารดาของภุชคินทร์ ประกอบกับเจ้าอุรคาเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร้านเพชรพลอยของเจ้าประกายคำ ซึ่งเป็นร้านเพชรประจำของหม่อมภาณี ภุชคินทร์จึงมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับเจ้าอุรคาบ่อยครั้ง
          วัน หนึ่ง หม่อมภาณีได้สร้อยพร้อมจี้พลอยล้อมเพชรเก่าแก่มาจากร้านของเจ้าอุรคาในราคา ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ พอภุชคินทร์เห็นก็สะดุดตาทันที เพราะจำได้ว่าเหมือนสร้อยที่เจ้าอุรคาห้อยติดตัวเป็นประจำ หม่อมภาณีบอกว่าพลอยสีเขียวเข้มจัดนั้นคือ พลอยนาคสวาท พลอยในตำนานเก่าแก่ ตำนานเล่าถึงพญานาคกับพญาครุฑ สองเผ่าพันธุ์กึ่งเทพกึ่งอมนุษย์อันเป็นอริศัตรูกันมาแต่โบราณ พญานาคมีที่อยู่ในนครใต้บาดาลที่เรียกว่า โภควดี ส่วนพญาครุฑนั้นอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์
          ครั้งหนึ่งพญานาคกับ พญาครุฑเกิดการต่อสู้กันและพญานาคเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ขณะที่ใกล้จะตาย พญานาคกระอักเลือดออกมา 3 ครั้ง เลือดที่ออกมาครั้งแรกกลายเป็นพลอยสีเขียวเข้มจัด นั่นคือ นาคสวาท ส่วนเลือดที่กระอักออกมาครั้งที่ 2 นั้นได้กลายเป็น มรกต ส่วนครั้งสุดท้ายที่เลือดใกล้หมดปนกับน้ำลายจึงกลายเป็นพลอยสีเขียวอ่อนจาง มีเส้นสีแดงเจืออยู่ เรียกว่า ครุฑธิการ
          ทั้งที่ไม่เคยสนใจ เรื่องเพชรพลอยมาก่อน แต่คุณชายภุชคินทร์รู้สึกสนใจพลอยและตำนานพญาครุฑและนาคเป็นอันมาก และเมื่อเขาสัมผัสกับพลอยนาคสวาท เขาถึงกับหน้ามืดซวนเซเกือบจะล้มลง ความรู้สึกเจ็บปวดแปลบเกิดขึ้นทั่วร่างกาย ภาพแปลกประหลาดแว่บเข้ามาในหัวสมองอย่างรวดเร็ว ไม่ปะติดปะต่อ จับใจความไม่ได้ แต่ด้วยความเป็นคนสมัยใหม่ ภุชคินทร์เชื่อว่าคงเกิดจากการแพ้สารบางอย่างในพลอยมากกว่าจะเป็นเรื่องลึก ลับที่หาคำตอบไม่ได้
          ขณะเดียวกัน รมต.สุบรรณซึ่งเป็นม่ายมานานกว่า 3 ปี แม้ว่าเขาจะมีผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่เขาไม่เคยยกย่องใครขึ้นมาแทนที่คุณหญิงนันทกาคุณหญิงคนเดิมที่เสียชีวิต ไป แต่เมื่อได้รู้จักกับเจ้าอุรคาทำให้ความรู้สึกของสุบรรณเปลี่ยนไป เจ้าหญิงสูงศักดิ์คนนี้แหละที่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ของเขาอย่างแท้จริง! นั่นเป็นแค่ความรู้สึกของสุบรรณ หากแต่คนอื่นเมื่อมองผ่านความงามของเจ้าอุรคาเข้าไป สิ่งที่สัมผัสได้นั้นคือความลึกลับและน่าสะพรึงกลัวที่มีกลิ่นอายแห่งความ ตายปะปน มีคนเห็นเธอและเพื่อนชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตางดงามราวรูปสลักในชุดดำชื่อ ยมนา ซึ่งบังเอิญเข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุโศกนาฎกรรมอยู่เป็นประจำ
          วัน หนึ่งภุชคินทร์พา ฟีบี้ หรือ เฟื่องวลี หลานภริยาของรมต.ภิงคารไปทานอาหารทีร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งและได้เจอเจ้าอุร คาที่นั่น เจ้าอุรคาแนะนำให้ภุชคินทร์รู้จักกับเพื่อนชายที่มาด้วยกันที่ชื่อยมนา ซึ่งภุชคินทร์รู้สึกว่าชายเงียบขรึมคนนี้มีลักษณะบางอย่างที่ชวนให้นึกถึง ความตาย
          ฟีบี้ซึ่งเรียนและเติบโตที่เมืองนอกจนมีนิสัยเอาแต่ใจ ตัวเอง เธออาศัยความเป็นญาติห่าง ๆ ยึดเอาภุชคินทร์เป็นคู่ควง ฟีบี้หลงไปว่าความอ่อนโยนของภุชคินทร์ที่มีให้กับเธอคือความรัก เธอมั่นใจสุด ๆ ว่าตำแหน่งคุณผู้หญิงของวังนาเคนทร์จะตกเป็นของเธออย่างแน่นอน แต่พอได้เจอกับเจ้าอุรคา ความมั่นใจของฟีบี้เริ่มสั่นคลอนทันที เพราะเธอสังเกตว่าภุชคินทร์ให้ความสนใจกับเจ้าอุรคามากกว่าหญิงสาวทั่วไป ฟีบี้จึงแสดงอาการไม่ชอบเจ้าอุรคาออกหน้าออกตา
          หลังจากรับ ประทานอาหารเสร็จ ภุชคินทร์และฟีบี้เดินออกจากร้านอาหารไปยังไม่ทันถึงรถ ก็มีคนบ้าถืออาวุธสงครามเข้าไปบุกยิง เสี่ยปิง และสมุนตายคาที เมื่อได้ยินเสียงปืนภุชคินทร์รู้สึกเป็นห่วงเจ้าอุรคาจึงย้อนกลับเข้าไปดู แต่กลับพบว่าเจ้าอุรคาออกมาจากภัตตาคาร ไม่มีความหวาดกลัวหรือตกใจใด ๆ ส่วนยมนาเพื่อนของเจ้าอุรคาหายตัวไปเสียแล้ว
          วันรุ่งขึ้นข่าว เสี่ยปิงเจ้าของร้านอาหารหรูที่รู้กันว่าประกอบอาชีพไม่สุจริตและสมุนโดนยิง ถล่มตายคาที่ดังไปทั่ว ตำรวจสรุปว่าเป็นการฆ่าเนื่องจากการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่สำคัญเสี่ยปิงที่ตายนั้นมีความเกี่ยวพันโยงใยกับรมต.สุบรรณ เพราะเสี่ยปิงเป็นหนึ่งในลูกน้องคนสำคัญของนายอำนาจซึ่งดูแลธุรกิจทั้งถูก และผิดกฎหมายของรมต.สุบรรณ สงสัยว่าการฆาตกรรมครั้งนี้เป็นฝีมือของเสี่ยทรงยศ ซึ่งเป็นอดีตคู่แข่งทางการค้าคนสำคัญของรมต.สุบรรณ ที่ถูกกลั่นแกล้งจนธุรกิจล้มละลาย ในขณะที่ร.ต.อ.ไพศิษฐ์ตั้งข้อสงสัยว่าเจ้าอุรคาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการ ตายของเสี่ยปิง เพราะเจ้าอุรคาและเพื่อนชายนั่งติดกับโต๊ะที่เกิดเหตุ แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ อีกทั้งยมนาเพื่อนชายที่ไปด้วยกันก็หายไปจากที่เกิดเหตุอย่างไร้ร่องรอย
          วัน หนึ่งผู้กองไพศิษฐ์ไปหาเจ้าอุรคาที่บ้าน เพื่อซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์วันเกิดเหตุ แต่เจ้าอุรคาปฏิเสธบอกว่าเธอไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ขณะที่ผู้กองไพศิษฐ์ขับรถกลับจากบ้านของเจ้าอุรคาถึงสี่แยกเขาพบว่ามี อุบัติเหตุ สัญชาตญาณของตำรวจ ผู้กองไพศิษฐ์รีบจอดรถและตรงเข้าไปช่วยเหลือ ข้าง ๆ ที่เกิดเหตุนั้นไพศิษฐ์พบเจ้าอุรคากับยมนายืนดูอยู่ เจ้าอุรคาบอกไพศิษฐ์ว่าชายผู้ตายเป็นนายแพทย์ใหญ่ที่มีฉากหน้าเป็นคนใจบุญ ชอบบริจาคเงินหลายล้านเข้าการกุศล แต่เบื้องหลังนั้นเป็นใจบาปหยาบช้าค้าแม้กระทั่งอวัยวะมนุษย์ ไพศิษฐ์งุนงงว่าเจ้าอุรคารู้ได้อย่างไรว่าผู้ตายเป็นคนอย่างนั้น ก่อนจะซักถามเจ้าอุรคาและยมนาก็หายไปเสียแล้ว
          หลังจากคืนนั้น ผู้กองไพศิษฐ์เก็บเอาข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับเจ้าอุรคาและยมนามาขบคิด เขาไม่สามารถนำเรื่องที่พบเจอไปเล่าให้ใครฟังได้เลยนอกจากภุชคินทร์ เพราะข้อสงสัยของเขายืนยันไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ แต่เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่ว่า ที่ไหนมีคนตายจะต้องเจอยมนาที่นั่นทุกครั้งไป!
          เจ้าอุรคาเคย พูดล้อเล่นบอกภุชคินทร์และผู้กองไพศิษฐ์ว่า เธอสามารถเป็นได้หลายอย่างทั้งหมอดู ทั้งนักเล่นกล ทั้งนักสะกดจิต แต่ความลับของเจ้าอุรคาที่ไม่มีใครรู้เลยนั่นคือร่างเนรมิตของ อุรคาเทวี นางพญานาคีผู้เป็นธิดาครองโภควดีนครใต้บาดาล เธอจึงมีอิทธิฤทธิ์เหนือมนุษย์ทั่วไป ส่วนยมนาที่เจ้าอุรคาบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทของเธอนั้น คือ ยมทูตหรือทูตแห่งความตายมารอรับวิญญาณเพื่อนำไปยังปรโลกเพื่อฟังคำพิพากษา ว่าประกอบกรรมดีกรรมชั่วอะไรบ้าง ยามมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์! เจ้าอุรคาเองก็ขึ้นมาเยือนโลกมนุษย์เพราะมีภารกิจความรัก ความแค้นในอดีตฝังลึกอยู่ในหัวใจที่รอคอยการสะสาง
          เมื่อครั้ง หนึ่งที่พญาครุฑที่ชื่อพญาสุบรรณ บุกเข้ามาถึงเมืองโภควดีซึ่งเป็นนครใต้บาดาลและได้จับตัว ภุชเคนทร์ เจ้าชายพญานาคที่เป็นที่สนิทเสน่หากับอุรคาเทวีไปเป็นอาหารต่อหน้าต่อตา เธอตามไปช่วยภุชเคนทร์และเกิดการต่อสู้กับพญาสุบรรณจนเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส และกระอักเลือดออกมาเป็นมณีนาคสวาท ส่วนภุชเคนทร์ถึงแก่ความตายอย่างทรมาน ก่อนตายได้สัจจะอธิษฐานไว้ว่าเกิดชาติหน้าชาติใดจะไม่ขอกลับมาเกิดเป็นพญา นาคอีก เจ้าอุรคาโกรธแค้นพญาสุบรรณมากจนปฏิญาณกับตนเองว่าจะตามจองเวรพญาสุบรรณ เจ้าอุรคาเฝ้ารอคอยจนพญาครุฑเวียนว่ายตายเกิดวัฎสงสาร จนภพนี้มาเกิดบนโลกมนุษย์เป็นบุรุษผู้มีบุญวาสนามีอำนาจใหญ่โตด้วยบุญบารมี จากชาติในอดีตซึ่งก็คือรมต.สุบรรณ!
          ด้วยความที่เป็นกัลยาณมิตร ยมนารู้ว่าเจ้าอุรคาเต็มไปด้วยความแค้นต้องการจองเวรรมต.สุบรรณ ยมนาจึงคอยขัดขวางไม่ให้เจ้าอุรคาทำการสิ่งใดที่ขัดต่อกฎแห่งกรรม เพราะเวลาของรมต.สุบรรณบนโลกมนุษย์ยังไม่หมด บุญเก่าที่สั่งสมมาแต่ชาติปางก่อนทำให้เจ้าอุรคาไม่สามารถทำอันตรายต่อ สุบรรณได้เลย ส่วนพญานาคภุชเคนทร์ที่ถูกพญาสุบรรณทำร้ายจนตาย ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ที่มีชาติกำเนิดสูงส่งก็คือ ม.ร.ว.ภุชคินทร์ นาเคนทร์ นั่นเอง!
          เจ้าอุรคาบอกกับยมนาว่า เธอยังคงมีความรักมั่นคงให้กับภุชคินทร์ไม่เสื่อมคลาย หากแต่ว่าชาติภพนี้เป็นอุปสรรคความรักของเธอกับภุชคินทร์ การมาเยือนโลกมนุษย์ของเธอจึงเพียงต้องการให้ภุชคินทร์รำลึกได้ว่าภพหนึ่ง เขาเคยเป็นพญานาคภุชเคนทร์ที่ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานที่จะไม่ขอเกิดเป็นพญานาค อีก เจ้าอุรคาต้องการเพียงให้ภุชคินทร์ถอนคำสัตย์นั้นเพื่อว่าสักวันหนึ่งทั้ง สองจะได้ครองคู่กันในภพภูมิเดียวกันอีกครั้ง
          เจ้าอุรคาคอยเป็น ห่วงเป็นใยในทุกเรื่องของคุณชายภุชคินทร์ มีคนเห็นร่องรอยของพญานาคแถวกำแพงรั้ววังนาเคนทร์จนกลายเป็นข่าวในหน้า หนังสือพิมพ์ใหญ่โต หรือมีคนเห็นงูใหญ่ว่ายอยู่ในคลองใกล้วัดแถววังนาเคนทร์ หญิงสาวคนใดที่เข้ามาในชีวิตของภุชคินทร์ไม่ว่าจะเป็น ฟีบี้ หรือ พนอฤดี เพื่อนรุ่นพี่ของ นารีวรรณ ซึ่งเป็นน้องสาวบุญธรรมของภุชคินทร์ ต่างก็โดนเจ้าอุรคากลั่นแกล้งให้เห็นภาพหลอนจนแทบเสียสติไปทุกคน ครั้งหนึ่งเจ้าอุรคามอบแหวนที่มีหัวเป็นพลอยครุฑธิการให้กับภุชคินทร์ใส่ติด ตัว ทันทีที่ฟีบี้เห็นแหวนพลอยครุฑธิการ เธออ้อนวอนขอจนภุชคินทร์ยอมใจอ่อนยกให้ ฟีบี้ดีใจมาก รีบนำกลับไปอวดเฟื่องฟ้า ผู้เป็นมารดา สองแม่ลูกดีอกดีใจนึกว่าเป็นแหวนหมั้นหมายจากคุณชายภุชคินทร์ ต่างฝันเฟื่องถึงงานวิวาห์ใหญ่โตแห่งปี หารู้ไม่ว่าความน่าสะพรึงกลัวได้มารออยู่ตรงหน้า
          ในคืนนั้น ฟีบี้เข้านอนไปพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความหวังบนใบหน้า เธอฝันว่าตัวเองไปอยู่ในที่รกร้างว่างเปล่า จู่ ๆ ก็มีร่างพญานาคใหญ่โตน่าหวาดกลัวเลื้อยไล่เธอพร้อมแยกเขี้ยวยาวเตรียมทำร้าย ฟีบี้วิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานไปจนในที่สุดพญานาคก็ตามทัน พญานาคก้มลงมาจนใกล้ใบหน้าฟีบี้ น้ำลายของพญานาคหยดออกมาจากเขี้ยวยาวและกลายเป็นพลอยใสสีเขียวอ่อนเหมือน แหวนพลอยที่เธอเพิ่งได้จากภุชคินทร์ไม่มีผิด เมื่อฟีบี้ตื่นจากความฝันอันสยดสยอง เธอกรีดร้องโวยวายอาละวาดราวกับเสียสติ เฟื่องฟ้าซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้การนรินทร์ บิดาของนาถสุดา แฟนสาวของผู้กองไพศิษฐ์ซึ่งเป็นผู้สนใจธรรมะและปฎิบัติธรรมจนมีณาณระดับ หนึ่ง ได้นั่งสมาธิและรู้ว่าแหวนนั้นมีอาถรรพ์ติดมาจึงรีบให้เฟื่องฟ้านำแหวนไปคืน ให้กับภุชคินทร์ทันที หลังจากวันนั้นฟีบี้แทบจะกลายเป็นคนเสียสติ เห็นภาพหลอนคนศีรษะเป็นงูอยู่เรื่อยจนเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอยู่นานนับเดือน ยิ่งวันไหนที่ภุชคินทร์เดินทางไปเยี่ยม ฟีบี้ที่อาการดีขึ้นแล้วจะเกิดเห็นภาพหลอนขึ้นมาอีกครั้งจนอาการกลับแย่ลงไป อีก

FANCLUBENJOYJAM on January 11, 2013, 05:30:31 PM
          ในงานราตรีเมตตามหากุศล ซึ่งมีหม่อมภาณีเป็นโต้โผใหญ่ เจ้าอุรคารับอาสาจัดการแสดงโชว์บนเวทีทั้งหมด ทุกคนในงานต่างตะลึงงันกับการแสดงโชว์หุ่นพญานาคที่เคลื่อนไหวได้ราวกับของ จริง พร้อมกับการเต้นที่อ่อนพริ้วราวกับงูจริงของนักแสดงที่ไม่มีใครเห็นว่าเข้า มาในงานตอนไหนและเมื่อแสดงเสร็จก็หายตัวไปอย่างลึกลับ จากนั้นเจ้าอุรคาได้ขึ้นไปแสดงมายากลบนเวทีโดยเชิญภุชคินทร์ขึ้นมาเป็นผู้ ช่วยโดยมีภาพมัลติวิชชั่นสวยงามบรรยายให้เห็นถึงเมือง ๆ หนึ่งชื่อ โภควดี จากนั้นก็เห็นงูใหญ่ (พญานาค) ตัวหนึ่งกำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนานก่อนโดนนกยักษ์ (พญาครุฑ) ตรงเข้าทำร้าย ถึงฉากนั้นภุชคินทร์เกิดความรู้สึกประหลาดคือเจ็บปวดแปลบไปทั้งตัวจนแทบจะทน ไม่ได้ ในที่สุดภาพมัลติวิชชั่นก็จบลงท่ามกลางความตะลึงพรึงเพริศของทุกคนว่ามัน เหมือนจริงมากเสียจนเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง คนดูปรบมือสนั่นหวั่นไหว ยังไม่ทันสิ้นเสียงปรบมือ….เจ้าอุรคาก็ยิงธนูใส่ ชรายุ สาวใช้คนสนิทและลูกธนูได้กลายเป็นงูยักษ์มีชีวิตพุ่งเข้ารัดร่างของชรายุจน นอนแน่นิ่งไป แต่เมื่อเจ้าอุรคาใช้พัดขนนกโบกเบาๆ งูยักษ์ก็หายวับไปกับตา ชรายุก็ลุกขึ้นมาได้ดังเดิม เรียกเสียงปรบมือกึกก้องจากแขกทุกคนในงาน
          ขณะ ที่ยืนดูการแสดงอย่างใกล้ชิดในฐานะผู้ช่วยนักมายากลของเจ้าอุรคา ภุชคินทร์รู้สึกทึ่งมาก เพราะมายากลของเจ้าอุรคานั้นแนบเนียนมากจนจับผิดอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะโชว์ชุดสุดท้ายที่เจ้าอุรคาเล่นนอกบทด้วยการเสกเชือกให้กลายเป็นงู แล้วขว้างลงไปที่รมต.สุบรรณที่นั่งอยู่ด้านล่างทันที! ทุกคนในงานหวีดร้องด้วยความตกใจ แต่รมต.สุบรรณเป็นคนเดียวที่นิ่งเยือกเย็นไม่มีอาการสะทกสะท้าน เขาคว้าหมับเข้าที่กลางตัวงูเมื่อพลิกมาดูก็พบว่าเป็นงูยาง ไม่ใช่งูมีชีวิตอย่างที่เห็นบนเวที บรรดาลิ่วล้อต่างโกธรที่เจ้าอุรคาเล่นแรง แต่ตรงกันข้ามสุบรรณกลับรู้สึกสนุกสนานไปกับการแสดงของเจ้าอุรคาเป็นอย่าง มาก
          ในคืนนั้น รมต.สุบรรณชวนเจ้าอุรคาไปที่บ้าน อ้างว่ามีเครื่องเพชรเก่าแก่จะขายให้เจ้าอุรคา ขณะที่เดินออกจากงานเลี้ยง มีชายลึกลับบุกเข้ามายิงรมต.สุบรรณอย่างอุกอาจ โชคดีที่ อากร มือปืนคุ้มกันรีบพาตัวเองเข้ามาบังเจ้านายไว้ได้ทัน นายสุบรรณจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่อากรได้รับบาดเจ็บหนัก เจ้าอุรคาขัดอกขัดใจมากที่ทำร้ายนายสุบรรณไม่สำเร็จ ยมนาปรากฏตัวขึ้นมาต่อว่าเจ้าอุรคาที่กระทำการรุนแรงฝ่าฝืนกฎแห่งกรรม เจ้าอุรคาจึงรู้ว่าที่สุบรรณไม่เป็นอะไรก็เพราะยมนาขัดขวางไว้นั่นเอง ขณะที่เจ้าอุรคากับยมนายืนถกเถียงกัน คนอื่น ๆ ไม่มีใครเห็นยมนา แต่อากรซึ่งกำลังบาดเจ็บสาหัสจนใกล้ตายกลับมองเห็นยมนาจึงร้องขอชีวิตด้วย ความกลัว ซึ่งหลังจากนายอากรรอดชีวิตออกจากโรงพยาบาล เขากลับใจละทิ้งอาชีพมือปืนแล้วตัดสินใจบวชตลอดชีวิตเพื่อไถ่บาปกรรมที่ก่อ มาตลอดชีวิต เจ้าอุรคามีศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก ดั่งเช่นพญานาคพระญาติในสมัยพุทธกาลที่เคยขอบวชกับพระพุทธเจ้าซึ่งแม้ไม่ได้ รับอนุญาตแต่ก็มีจิตศรัทธาคอยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเรื่อยมา เมื่ออากรมือปืนของนายอำนาจมาบวชที่วัดใกล้บ้าน เจ้าอุรคาจึงถือโอกาสตามไปทำบุญกับพระอากรที่วัดเป็นประจำ จึงมีโอกาสได้พบกับผู้การนรินทร์และเฟื่องฟ้าซึ่งมาทำบุญสะเดาะเคราะห์ให้ฟี บี้ที่ยังป่วยอยู่ในโรงพยาบาล
          เจ้าอุรคาบอกเฟื่องฟ้าให้เลิก หวังในสิ่งสูงค่าเกินเอื้อมแล้วฟีบี้จะหายจากอาการป่วยและได้พบกับเนื้อคู่ แท้ครองรักมีความสุขตลอดชีวิต ผู้การนรินทร์ซึ่งมีความสามารถพิเศษมองเห็นร่างจริงของเจ้าอุรคา รีบแสดงความเคารพสูงสุด เจ้าอุรคากำชับผู้การว่าอย่าได้บอกความลับนั้นกับใครเด็ดขาด พอ.นรินทร์เป็นทหารเกษียณราชการที่ใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ปฏิบัติธรรม นั่งวิปัสนากรรมฐานจนสามารถนั่งทางในเห็นอะไรที่คนทั่วไปมองไม่เห็น เขาเป็นพี่ชายของคุณหญิงนันทกาภริยาของรมต.สุบรรณ ซึ่งรมต.สุบรรณพยายามเชื้อเชิญผู้การมาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวหลายครั้ง แต่ได้รับคำปฏิเสธจากผู้การทุกครั้งไป ยิ่งหลังจากคุณหญิงของรมต.สุบรรณเสียชีวิต ผู้การนรินทร์ซึ่งมีนิสัยรักสันโดษและสมถะก็ยิ่งเหินห่างจากน้องเขย แต่รมต.สุบรรณยังคงตามตื้อผู้การผ่านทางนาถสุดาเสมอ
          วันหนึ่ง ผู้การนรินทร์นั่งทางในและเห็นลางบอกเหตุภิบัติภัยร้ายที่จะมาถึงตัวรมต .สุบรรณ ผู้การจึงรีบมาเตือนให้อดีตน้องเขยระวังตัวและหมั่นทำบุญสร้างกุศลเพื่อให้ กรรมหนักผ่อนเป็นเบา แต่รมต.สุบรรณไม่สนใจ ยังคงก่อกรรมขยายอำนาจของตัวและกอบโกยทรัพย์สมบัติด้วยความโลภอย่างไม่มีที่ สิ้นสุด นายอำนาจเชื่อว่าเหตุการณ์ร้าย ๆ รวมกับที่อากรสมุนมือขวาคนสำคัญของเขาหนีไปบวชนั้นเป็นฝีมือของเจ้าอุรคา นายอำนาจส่งลูกสมุน ปัญญา และสมศักดิ์ ไปทำร้ายเจ้าอุรคาถึงบ้าน
          ปัญญา ใช้วิชาอาคมที่ร่ำเรียนมาจากทางเหนือเข้าต่อกรกับเจ้าอุรคา แต่คนธรรมดาฤาจะสู้พญานาคีอันมีฤทธิ์แก่กล้าได้ ปัญญาสิ้นชีวิตภายใต้คมเขี้ยวพญานาคของชรายุ ส่วนสมศักดิ์นั้นเจ้าอุรคาส่งกลับไปเตือนนายอำนาจว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร??? สมศักดิ์ในสภาพไร้สติเหนี่ยวไกปืนใส่นายอำนาจก่อนจะปลิดชีพตัวเอง โชคยังดีที่นายอำนาจยังไม่ถึงที่ตาย เขาจึงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้นต่อเจ้าอุรคา พร้อมทั้งประกาศว่าจะต้องเอาชีวิตสตรีผู้นี้ให้จงได้ นายอำนาจสบโอกาสเหมาะเมื่อเจ้าอุรคาเชิญรมต.สุบรรณไปรับประทานอาหารที่บ้าน เขาวางแผนร้ายจะลอบวางระเบิดบ้านของเจ้าอุรคา ระเบิดจะทำงานทันทีที่รมต.สุบรรณและนายอำนาจพ้นไปจากบ้านเจ้าอุรคา แต่เขากลับไม่รู้ว่าวันนั้นคือวันสุดท้ายที่เขาจะมีโอกาสทำชั่วต่อไปบนโลก!!
          เจ้า อุรคาต้อนรับรมต.สุบรรณด้วยอาหารเลิศรสตกแต่งอย่างสวยสดงดงาม จนรมต.สุบรรณลิ้มลองแล้วต้องชมไม่ขาดปาก โดยเฉพาะเมนูพิเศษอย่างงูเห่าผัดเผ็ดนั้น รมต.สุบรรณกินอย่างเอร็ดอร่อยในขณะที่นายอำนาจกลับเห็นเป็นภาพงูเห่ามีชีวิต เลื้อยอยู่บนจาน นายอำนาจร้องตกใจและรีบขอตัวออกไปข้างนอกเพื่อสงบสติอารมณ์ แต่สายตาของเขากลับยิ่งพบภาพน่ากลัวมากขึ้น นายอำนาจเห็นภาพอสรุกายร่างกายอัปลักษณ์มีศีรษะเป็นงูเข้ามารุมทำร้ายจนนาย อำนาจหัวใจวายตายในสวนของบ้านเจ้าอุรคานั่นเอง
          เจ้าอุรคาฉาย สไลด์ชุดพิเศษที่รมต.สุบรรณชมแล้วเกิดอาการเคลิ้มกึ่งฝันเห็นดินแดนโภควดี และในขณะที่เจ้าอุรคากำลังจะย้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์นองเลือดในอดีต ยมนาซึ่งมารับวิญญาณของนายอำนาจได้เข้ามาขัดจังหวะขัดขวางการกระทำของเจ้า อุรคาไว้ได้ทันพอดี ทำให้เจ้าอุรคาโกรธยมนาเป็นอันมาก แต่ยมนาได้ตักเตือนด้วยสุรเสียงเกรี้ยวกราดของอำนาจแห่งยมทูต สั่งมิให้เจ้าอุรคาทำร้ายรมต.สุบรรณอีกต่อไปมิฉะนั้นเขาจะลงโทษเจ้าอุรคา เจ้าอุรคาหวาดกลัวจึงรับปากว่าจะไม่ทำอันตรายต่อชีวิตนายสุบรรณอีก แต่จะขอรอเวลาให้ได้ชมความย่อยยับของนายสุบรรณแล้วจะยอมกลับนครใต้บาดาลแต่ โดยดี
          เจ้าอุรคาพยายามรื้อฟื้นความทรงจำของภุชคินทร์ด้วยหลาย วิธีการ แต่ภุชคินทร์ได้ลืมชาติในอดีตไปจนหมดสิ้นจนเจ้าอุรคาทดท้อใจ ภุชคินทร์รู้สึกว่าเจ้าอุรคามักจะพูดจาแปลก ๆ และกำกวม มีหลายครั้งที่เธอพยายามพูดถึงอดีตที่เขาไม่เข้าใจและจำไม่ได้ ต่อเมื่อเขาได้เจอกับ ดร.วิชัยสิงห์ นักเทววิทยาชาวอินเดียแห่งมหาวิทยาลัยพาราณสี ที่เดินทางมาเพราะได้ข่าวว่ามีคนเห็นพลอยนาคสวาทที่เมืองไทย ดร.วิชัยสิงห์ตามหาพลอยนาคสวาทเพราะเชื่อเรื่องตำนานของพญานาคและเขากำลัง เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่
          วันหนึ่งดร.วิชัยสิงห์ได้ มีโอกาสรู้จักกับเจ้าอุรคา เจ้าอุรคารับรู้การมาของดร.วิชัยสิงห์จึงเตือนให้ดร.วิชัยสิงห์ล้มเลิกความ ตั้งใจที่จะเขียนเรื่องราวของตำนานพญานาคและพลอยนาคสวาทเสีย ดร.วิชัยสิงห์สัญญากับเจ้าอุรคาว่าจะไม่นำไปเรื่องราวไปเขียน ถ้าเขาผิดคำสัญญาขอให้เขาตายอย่างทุกข์ทรมาน ดร.วิชัยสิงห์ก็แค่รับปากส่ง ๆ ไปอย่างงั้นเองเพราะเห็นว่าเจ้าอุรคาดูเอาจริงเอาจัง เขาหวังว่าเมื่อตำราที่เขาค้นคว้าได้ตีพิมพ์มันจะนำมาซึ่งชื่อเสียง เกียรติยศ
          ดร.วิชัยสิงห์ได้สะกดจิตช่วยให้ภุชคินทร์รื้อฟื้น ความทรงจำในชาติภพที่เป็นภุชเคนท์เป็นพญานาคได้ นั่นทำให้ดร.วิชัยสิงห์ตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ความเชื่อเรื่องพญานาคของเขา มีจริง เพราะความละโมบโลภมาก ดร.วิชัยสิงห์หมายมั่นว่าจะเอาเทปที่บันทึกการสะกดจิตและเรื่องการระลึกชาติ ของภุชคินทร์ไปหาผลประโยชน์โดยลืมคำสัญญาที่ให้กับเจ้าอุรคาไว้เสียสิ้น เจ้าอุรคาแค้นดร.วิชัยสิงห์ที่จะเอาเรื่องของภุชคินทร์ไปเขียนหนังสือจึงส่ง อหิเหร รูปสลักงูบนแผ่นศิลาให้ดร.วิชัยสิงห์ คืนวันนั้นดร.วิชัยสิงห์ถูกฆาตกรรมอย่างลึกลับ
          เมื่อภุชคินทร์ รู้ว่าตัวเองเป็นพญานาคภุชเคนทร์ คนรักเก่าของเจ้าอุรคาในภพภูมิเดิมและก็ได้รู้อีกว่าแม้กาลเวลาจะผ่านมากี่ ภพกี่ชาติความรักที่เจ้าอุรคามีต่อเขามิได้ลดน้อยลงเลย อีกทั้งยังเข้าใจสาเหตุของการตามล้างแค้นของเจ้าอุรคา เขาจึงรีบไปหาเจ้าอุรคาเพื่อบอกว่าเขาขอโทษที่ก่อนหน้าลืมเรื่องราวต่าง ๆ จนหมดสิ้น เขาขอให้เจ้าอุรคาอโหสิกรรมให้รมต.สุบรรณและกลับไปยังนครใต้บาดาล เพราะเขาไม่ต้องการเห็นคนที่เขารักต้องก่อกรรมทำเข็ญให้หนี้กรรมติดตามไปอีก กี่ชาติกี่ภพ!
          รมต.สุบรรณเห็นว่าเจ้าอุรคาสนิทสนมใกล้ชิดกับ คุณชายภุชคินทร์มาก จนเกิดเป็น ความหึงหวง เขาสั่งให้ สุรินทร์ ซึ่งเป็นมือปืนคนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ไปจัดการกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจของเขา เสีย สุรินทร์จับตัวภุชคินทร์ไปขังไว้เตรียมสังหาร แต่เจ้าอุรคาซึ่งรับรู้ได้เธอจึงบอกให้ไพศิษฐ์ตามไปช่วยภุชคินทร์ไว้ได้ทัน เวลา สุรินทร์ซึ่งหนีรอดกลับมารายงานความล้มเหลวต่อรมต.สุบรรณ รมต.สุบรรณปลิดชีวิตสุรินทร์อย่างเลือดเย็น ภุชคินทร์และไพศิษฐ์ติดตามสุรินทร์มาถึงบ้านรมต.สุบรรณ เขาประหลาดใจมากที่ผู้คนหายไปจากบ้านรมต.สุบรรณจนหมดสิ้น ทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านที่เคยมีการอารักขาสูงสุดได้อย่างง่ายดาย เมื่อเข้าไปถึงในบ้าน เขาทั้งสองพบกับหมอกควันสีเขียวลอยละล่องทั่วไปหมดจนแทบมองไม่เห็นทาง ภุชคินทร์ได้ยินเสียงกราดเกรี้ยวของเจ้าอุรคาจึงเดินตามเสียงไปจนถึงห้อง หนึ่งที่มีประตูเปิดออกไปเป็นสถานที่ ๆ ทั้งเขาและไพศิษฐ์ไม่คาดคิดว่าจะมาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ เพราะเมื่อเปิดประตูออกไป…เขาพบว่ากำลังยืนอยู่ในถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวย งาม แสงภายในถ้ำมืดสลัวมีเพียงแสงสว่างอยู่ตรงกลางถ้ำ และตรงกลางนั้น รมต.สุบรรณถูกพันธนาการมตัวไว้อย่างแน่นหนา ไพศิษฐ์แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเห็นว่าเจ้าอุรคานั้นได้กลับไปอยู่ในร่างของอุรคาเทวี พญานาคีผู้มีร่างท่อนบนเป็นมนุษย์และท่อนล่างเป็นหางพญานาคขดเป็นบัลลังก์ สูง กำลังโกธรเกรี้ยวที่รมต.สุบรรณลงมือทำร้ายชายอันเป็นที่รักของเธอเป็นครั้ง ที่สอง
          เจ้าอุรคาย้อนภาพให้ทั้งภุชคินทร์ รมต.สุบรรณและไพศิษฐ์ได้เห็นเรื่องราวในอดีตชาติที่พญาสุบรรณทำร้ายเจ้าชาย ภุชเคนทร์จนเสียชีวิตและทำร้ายเจ้าอุรคาบาดเจ็บสาหัสจนถึงกับกระอักเลือดออก มาเป็น มณีนาคสวาท เมื่อรมต.สุบรรณเห็นอดีตชาติของตัวเองก็ไม่ได้แสดงอาการหวาดหวั่นต่อวิบาก กรรมที่กำลังจะได้รับ เขารู้สึกผิดที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญกับภุชเคนทร์และอุรคา โดยขอขมาและขออโหสิกรรมต่อภุชคินทร์และเจ้าอุรคาเพื่อให้ความแค้นจบลงที่ ชาตินี้ ทีแรกเจ้าอุรคาไม่ยอมแต่ยมนาปรากฎตัว เตือนสติเจ้าอุรคาให้หยุดวงล้อของกรรมเสีย จนเจ้าอุรคายอมให้อภัยและอโหสิกรรมให้กับรมต.สุบรรณในที่สุด รวมทั้งภุชคินทร์ด้วยเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
          ขณะเดียว กันบุญเก่าที่สะสมมาของรมต.สุบรรณก็หมดลง กงกรรมที่รมต.สุบรรณได้ทำไว้ได้ย้อนกลับมาหาเขาเหมือนรอยเกวียน เสี่ยทรงยศที่ขณะนี้ไม่ต่างกับหมาจนตรอกได้บุกเข้ามาในบ้านแล้วเอาปืน กระหน่ำยิงรมต.สุบรรณจนบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งยังโรงพยาบาล หมอได้ทำการช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถแต่ในที่สุดก็ไม่อาจหยุดยื้อชีวิต ของรมต.สุบรรณไว้ได้ ก่อนตายวิญญาณละจากร่างรมต.สุบรรณเห็นยมนามายืนรอรับเขาอยู่ หลังจากรมต.สุบรรณได้ตายลง ก็ไม่มีใครได้พบเห็นเจ้าอุรคาอีกเลย
          ภุช คินทร์อยู่ในอาการเศร้าซึมเมื่อต้องจากพรากหญิงอันเป็นที่รักไปตลอดกาล เหลือเพียงมณีนาคสวาทที่เป็นตัวแทนแห่งความรักระหว่างเขากับเจ้าอุรคา จนวันหนึ่งเจ้าอุรคาที่ยังคอยติดตามความเป็นอยู่ของภุชคินทร์ด้วยความเป็น ห่วงตัดสินใจหนีขึ้นมาบนโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อพบภุชคินทร์เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อบอกให้เขาหมั่นทำบุญสร้างกุศล ตั้งจิตอธิษฐานให้ได้กลับไปเกิดในชาติภพภูมิเดิมอีกครั้ง และเมื่อนั้น เธอและเขาก็จะได้พบและรักกันอีก

FANCLUBENJOYJAM on February 18, 2013, 06:23:30 PM
“ไอซ์” ดีใจ “อยากหายใจ” โดนใจแฟนละคร “มณีสวาท”



          “ไอซ์-ศรัณยู” จาก “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ทยอยปล่อยเพลงจากอัลบั้มชุดที่ 5 “รักกันนะ” ออกมาอย่างต่อเนื่อง จากเพลง “ดับเบิ้ล เลิฟ” มาถึงเพลงฮิตติดชาร์ต “อย่าไว้ใจความเหงา” เพลงจังหวะสนุกสนาน “รักกันนะ” เพลงน่ารักๆ “ปากว่าง” ล่าสุดส่ง “อยากหายใจ” เพลงประกอบละคร “มณีสวาท” มาให้แฟนละครได้ฟัง เป็นที่ถูกอกถูกใจกันไปแล้ว

          “ไอซ์” เล่าว่า “สำหรับเพลง “อยากหายใจ” อยู่ในอัลบั้ม “รักกันนะ” และเป็นเพลงประกอบละครเรื่อง “มณีสวาท” ด้วยครับ คนเขียนเนื้อร้องคือ “พี่ตุ๊ก มณฑวรรณ ศรีวิเชียร” แต่งทำนองคือ “พี่เหวิน เรืองกิจ ยงปิยะกุล” ซึ่งเคยร่วมงานกันมาแล้วในเพลง “Perhaps Love” ประกอบซีรี่ย์ “Princess Hours เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา” ไอซ์รู้สึกเป็นเกียรติครับ ที่มีส่วนร่วมในละครเรื่องนี้ ฟีดแบ็กก็ดีมากๆ ดีใจครับ ละครเพิ่งออกอากาศไปไม่กี่ตอน แต่เสียงตอบรับที่ได้ยินจากหลายๆ คนก็จะชมว่าเพลงเพราะดี ส่วนเรื่องเล่นละคร ก็มีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ครับ ไอซ์สนใจทุกบทอยู่แล้ว ผู้จัดส่งตัวละครแบบไหนมาให้ ก็คงเห็นว่าเราเหมาะ เพียงแต่เรื่องเวลายังไม่ลงตัวเท่านั้นเอง แต่ถ้ามีผลงานเมื่อไร ก็อยากให้แฟนๆ ติดตามชมและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ”

          รับชมและรับฟังเพลง “อยากหายใจ” จากเสียงร้องของ “ไอซ์-ศรัณยู” ได้แล้ววันนี้ ทางรายการเครือ “จีเอ็มเอ็ม ทีวี” และ “แบง แชนแนล” ช่องของคุณ ใจรุ่นเจนเนอเรชั่น หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/icesarunyu หรือจะโหลดไว้เป็นเสียงรอสายได้ที่ *123 0014