MSN on January 09, 2013, 05:11:54 PM
KTAMประเดิมจ่ายปันผลKTSE-TOFกว่า163ล้าน พร้อมเปิดขายตราสารหนี้ตปท.6เดือนชู2.95%   
                             
            นายสมชัย  บุญนำศิริ  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า   ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุน มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล 2 กองทุน  มูลค่ากว่า  163  ล้านบาท  ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยซีเล็คทีฟ อิควิตี้ ฟันด์  ( KTSE)  ประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งที่ 6/2555  สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2555  ในอัตรา 1.25 บาทต่อหน่วย  ปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 9 มกราคม 2556  และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 16 มกราคม 2556     จากผลการดำเนินงานในปี 2555  รวมจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น  5.05 บาทต่อหน่วย   สำหรับผลตอบแทน ณ วันที่ 28  ธันวาคม 2555     ย้อนหลัง  6  เดือน  อยู่ที่ 19.75%     และ ย้อนหลัง1 ปี อยู่ที่  38.19%   สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานAIMC ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่  18.75%  และ1 ปี อยู่ที่ 35.76%      นอกจากนี้  ที่ประชุมยังพิจารณาจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดไทยสร้างโอกาส ( TOF )   ครั้งที่ 3/2555   สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ 1 มกราคม -31 ธันวาคม 2555   ในอัตรา 2.00 บาทต่อหน่วย  ปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 9 มกราคม 2556 และจ่ายเงินปันผลในวันที่  16 มกราคม 2556

                  นายสมชัย  กล่าวต่อไปว่า   ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไว้ที่ 1,475 จุด   และคาดว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยจะเริ่มชะลอตัวลดความร้อนแรงลงจากปีที่ผ่านมา  และมีความผันผวนมากขึ้น  โดยมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศ  ทั้งในสหรัฐ  ยูโรโซน  จีน   และแนวโน้มนโยบายการเงินการคลัง ส่วนปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ   ได้แก่  ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ว่า จะมีส่วนช่วยผลักดันการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นได้หรือไม่    นอกจากนี้  นักลงทุนยังคาดหวังว่าจะเป็นปีของ New Investment cycle ผ่านการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชน   ซึ่งราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่มีการปรับตัวขึ้นมารับข่าวดังกล่าวบ้าง

                  สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในกองทุนหุ้นของบริษัทในปีนี้    หากเทียบกับระดับ SET  Index ในระดับปัจจุบัน ถือว่ามีโอกาสในการปรับตัวขึ้นไม่มากนัก  ดังนั้นการเลือกหุ้นเพื่อลงทุน ในช่วงต่อจากนี้ไป จะเป็นงานที่ยากและท้าทายมากยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะการเลือกหุ้นภายหลังจากที่หุ้นมีการปรับตัวมามากพอสมควร  การที่จะหาหุ้นที่ถูกมองข้าม และราคายังไม่ค่อยมีการปรับตัวขึ้น นับว่าหาได้ยาก  ดังนั้น จึงจะกำหนดกลยุทธ์ในการลงทุน โดยมีการกำหนดกรอบการคัดสรรหุ้นให้สอดคล้องกับแนวโน้มและทิศทางการลงทุน  ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า   เช่น การเข้าสู่ช่วงวัฎจักรการลงทุนรอบใหม่ ของเศรษฐกิจไทย   การเดินหน้าผลักดันการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ   ขณะเดียวกันต้องเลือกหุ้นให้สอดรับกับแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น  เช่น การขยายตัวของตลาดจากการเปิดเขตการค้าเสรี     การเพิ่มปริมาณการท่องเที่ยวของนักลงทุนในภูมิภาค   การเคลื่อนย้ายทุน  ทรัพยากร และแรงงานที่เปิดกว้างขึ้น    บทบาทของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนกับเศรษฐกิจโลกที่ทวีความสำคัญ   และกำลังเป็นจุดสนใจของนักลงทุนทั่วโลก  การเข้าสู่สังคมเมืองของประชากรโลก    นโยบายรัฐบาลในหลายประเทศ  ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนของการบริโภคภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการส่งออก   โครงสร้างประชากรไทยที่เข้าสู่สังคมของคนสูงวัย  และอิทธิพลของเทคโนโลยีการสื่อสาร  โซเซียลเน็ตเวิร์ค  ดังนั้น  กลยุทธ์การเลือกหุ้นสำหรับลงทุนปี 2556   คาดว่าหุ้นที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ ได้แก่  กลุ่มวัสดุก่อสร้าง  กลุ่มอสังหาริมทรัพย์   กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร   กลุ่มธนาคารพาณิชย์    ธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง   กลุ่มโรงพยาบาล  กลุ่มบรรจุภัณฑ์   กลุ่มอาหาร  และกลุ่มธุรกิจประกัน

 นายสมชัย  กล่าวต่อไปว่า  ในสัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย ธนทรัพย์ บี 71 (KTSUPB71) อายุโครงการประมาณ 6 เดือน โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.95% ต่อปี  ซึ่งจะเน้นลงทุนในเงินฝากของสถาบันการเงินใน UAE/ สิงคโปร์  อินโดนีเซีย ประมาณ 44% และตราสารหนี้ของสถาบันการเงินชั้นนำในรัสเซีย และบราซิลประมาณ 33%  ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารการเงินของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชนไทยที่มีอันดับเครดิต BBB ขึ้นไป