ซีพีเอฟ ตอกย้ำผู้นำระบบตรวจสอบย้อนกลับเนื้อสัตว์คุณภาพปลอดภัยตราซีพี ร่วมโครงการ “ระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าปศุสัตว์ และระบบการบริการ E-service”
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ตอกย้ำบริษัทผู้นำระบบตรวจสอบย้อนกลับเนื้อสัตว์คุณภาพปลอดภัยตราซีพี เข้าร่วมโครงการ “ระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าปศุสัตว์ และระบบการบริการ E-service” กับกรมปศุสัตว์ ที่มีนายนิกร จำนง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการฯ เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริโภคเนื้อสัตว์แก่ผู้บริโภค และอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ตราซีพี โดยมีนายธีรศักดิ์ อุรุนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ซีพีเอฟ เข้าร่วม
นายธีรศักดิ์ เปิดเผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของซีพีเอฟที่มุ่งสู่การเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) จึงให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนการผลิตที่ต้องได้มาตรฐานระดับสากล และให้ความสำคัญในมาตรฐานการผลิตอาหาร บนหลักการของอาหารปลอดภัยหรือ Food Safety ซึ่งความร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นยิ่งขึ้นว่าได้เลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง โดยตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ ซีพีเอฟไม่เคยหยุดนิ่งในการนำวิทยาการและเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในการผลิตสินค้า เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภคทั่วโลก ด้วยระบบ Traceability Online หรือระบบการตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งสามารถนำมาใช้บริหารจัดการได้ครอบคลุมทุกหน่วยการผลิต ตั้งแต่เทคโนโลยีการผลิตอาหารสัตว์ การจัดการฟาร์มที่ทันสมัยผสานกับข้อมูลการผลิต และคุณภาพจากโรงงานผลิตอาหารแปรรูปที่ได้มาตรฐาน ทำให้สามารถสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนการผลิต ส่งผลให้มั่นใจได้ว่าประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และตรงจุด ทั้งด้านชีวภาพ คุณภาพ และความปลอดภัยอาหาร ทั้งสามารถติดตามสถานภาพผลิตภัณฑ์ แต่ละจุดในห่วงโซ่อาหารได้เป็นอย่างดี กระทั่งสิ้นสุดปลายทางที่ส่งถึงมือผู้บริโภค
“การเชื่อมโยง Traceability Online เข้าสู่ระบบ E - Service ของกรมปศุสัตว์ จึงเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างซีพีเอฟผู้ผลิตอาหารปลอดภัย ไปสู่กรมปศุสัตว์ หน่วยงานของภาครัฐ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการตรวจสอบข้อมูล ติดตามปัญหา พร้อมกับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว นับเป็นการสร้างจุดแข็งร่วมกันในการพัฒนาด้านความปลอดภัยอาหารให้แก่ผู้บริโภค ความร่วมมือในการมุ่งมั่นพัฒนา และสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในครั้งนี้ นับเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ของไทยสู่ตลาดโลกให้แข็งแกร่งต่อไป” นายธีรศักดิ์ กล่าว
นายธีรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ซีพีเอฟเป็นผู้ผลิตอาหารคุณภาพ ซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยในทุกกระบวนการผลิต โดยควบคุมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ด้วยการเลี้ยงในระบบโรงเรือนแบบปิดปรับอากาศทั้ง 100% และมีการควบคุมการเข้าออกอย่างเข้มงวด และเป็นบริษัทแรกนอกเขตยุโรป ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Animal Welfare (ACP) จากประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีห้องแล็ปสำหรับตรวจสอบวัตถุดิบทั้งก่อนและหลังกระบวนการผลิต ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ขณะเดียวกัน องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศหรือ OIE และกรมปศุสัตว์ ยังเลือกฟาร์มไก่เนื้อของซีพีเอฟ เป็นโครงการนำร่องแห่งแรกของโลก เพื่อศึกษาระบบ Compartment สำหรับอุตสาหกรรมสัตว์ปีก หลังจากที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่มีการนำระบบ Compartment ของ OIE มาประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ โรงงานทุกแห่งของซีพีเอฟผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตในระดับสากล อาทิ GMP, HACCP, ISO 9001, IFS, BRC Global Standard-Food, HALAL, ISO 14001-Environment Management System, Social Accountability (SA 8000), รวมถึง Thai Labor Standard (มาตรฐานแรงงานไทย-มรท), OHSAS 18001 (Occupational Health and Safety System) หรือ ACC (Aquaculture Facility Certification) และทุกแห่งจะปฏิบัติตามกฏหมายแรงงานอย่างเคร่งครัด./