กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ผนึกกำลังภาครัฐและเอกชน ร่วมจัดงานTechnoMart&InnMart 2012

happy on October 07, 2012, 05:20:10 PM

กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ผนึกกำลังภาครัฐและเอกชน ร่วมจัดงาน
“เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ประจำปี ๒๕๕๕” TechnoMart&InnMart2012

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประกาศความพร้อมแถลงข่าวเปิดตัวงาน“เทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ประจำปี ๒๕๕๕”TechnoMartInnoMart2012 อย่างยิ่งใหญ่ ภายในงานเน้นโชว์เทคโนโลยีที่จับต้องได้และจำเป็นในชีวิตประจำวัน พร้อมแจกอุปกรณ์เกาะติดสถานการณ์น้ำ Media Box ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 100 ชุด เพื่อประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และบริการตรวจสุขภาพฟันฟรี สนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภายใต้โครงการรากฟันเทียม "ข่าวอร่อย"
ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีด้วยการจับมือบริษัทยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย และต่างประเทศร่วมแสดงศักยภาพเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น เทคโนโลยี Hybrid / นวัตกรรมบ้านเย็น /เทคโนโลยี ไฮเทค ระบบประมวลผลความเร็วสูง A6 / จอแสดงผลความละเอียดสูง Retina Display / และจอภาพแสดงผล การแจ้ง เป็น เทคโนโลยี จอมัลติมีเดีย รูปแบบใหม่ ที่จะนำเข้ามาเปิดตัวในงาน และนวัตกรรมด้านสมุนไพรและความงาม โชว์การสกัดสมุนไพรล้ำยุค และทดลองใช้ สมุนไพร “ไพล” สินค้าตนแบบ พร้อมดึงบริษัทเอกชนชั้นนำของไทยเข้าร่วมงาน ผนึกความร่วมมืออวดเทคโนโลยีกว่า 300 ผลงาน บนเนื้อที่กว่าหนึ่งหมื่นตารางเมตร ระหว่างวันที่ 25-28 ตุลาคม 2555ณ อาคาร EH 101-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา

ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า “ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เตรียมจัดงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ประจำปี๒๕๕๕ “TechnoMart InnoMart 2012” ที่มานั้นมาจากมติรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ตุลาคม ๒๕๔๓เห็นชอบให้จัดเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็น “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และกำหนดให้วันที่ ๑๙ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันเทคโนโลยีของไทย” นับเป็นการเทิดพระเกียรติพระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย พร้อมตระหนักถึงพระราชกรณียกิจที่ทรงแก้ไขปัญหาให้แก่พสกนิกร โดยนำหลักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ ก่อให้เกิดพัฒนาการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย มาเป็นลำดับและเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของคนไทย ตลอดจนการพัฒนาประเทศจนถึงปัจจุบัน

“วัตถุประสงค์ของการจัดงานนอกเหนือจากการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้ว กระทรวงยังต้องการเผยแพร่ผลงานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของคนไทย ภายใต้การดำเนินงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชนไทย สถาบันการศึกษา รวมทั้งองค์กรสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณะชนทั้งชาวไทยและ ต่างประเทศ อีกทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนองค์วามรู้ทางธุรกิจ การซื้อขายและบริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาและสร้างความเชื่อมันให้กับประเทศไทย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าว

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผยว่า “นอกจากนี้นโยบายด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศอย่างมั่นคงตลอดจนสนับสนุนการลงทุนและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งเพื่อเตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนต้องเร่งเพิ่มศักยภาพ ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศอย่างจริงจัง โดยจะแบ่งเป็นโซนต่างๆ ดังนี้

1) โซนนิทรรศการเทิดพระเกียรติ จะจัดแสดงด้านหน้าอาคารแสดงสินค้า โดย 80% ของโซนนี้จะแสดงผลงานการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ ผ่านโครงการสำคัญต่างๆ เช่น ฝนหลวง ฝายชะลอน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ คลองลัดโพธิ์ เป็นต้น ซึ่งจุดนี้สามารถเปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพร

2) โซนผลงานเด่น จากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่จะคัดเลือกผลงานเด่นๆ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ทั้ง 14 หน่วยงาน เช่น เครื่อง CT สแกนสำหรับงานทันตกรรม / ข้อเขาเทียม ฝีมือคนไทย/ โครงการพัฒนาเรดาห์เตือนภัยทางบก และ ทางทะเล / พลาสติกชีวภาพ เป็นต้น โดยนำเสนอสาระความรู้และการทำงานที่ผ่านมาของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมให้คำปรึกษาในส่วนของบริการต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้นเพื่อประชาชาชน

3)โซนเทคโนโลยีและนวัตกรรมเด่น เป็นโซนที่นำเสนอเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับการดำเนินชีวิตในอนาคต ทั้งของไทยและต่างประเทศ อาทิ หุ่นยนต์เลี้ยงไก่ ที่สามารถเข้าไปทำงานแทนคนได้ และ สามารถวัดอุณหภูมิของเชื้อโรคได้/อุปกรณ์ต่อพวงเครื่องซักผ้าจากนาซ่า จากเทคโนโลยี RCI ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในการซักผ้าอีกเลย/นวัตกรรมพลังงานสะอาด Hybrid ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และ นวัตกรรมสมาร์ทโมบาย และ เกตเจตใหม่ ด้วย ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ จาก Apple

4) โซนเอกชนรายใหญ่ ในปีนี้ทางกระทรวงได้รับความร่วมมือจาก5 บริษัทเอกชนรายใหญ่ เชิญเข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการภายในงาน อาทิ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)จัดแสดงเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม สำหรับการดำรงชีวิต ในโครงการบ้านเย็น ที่มีความสะดวกสบายและช่วยแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม/บริษัท เอสพีวีไอ จำกัด (iStudio) นำเสนอแนวความคิดด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Apple พร้อมเปิดทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ /สมาพันธ์สมุนไพรไทย นำเสนอเทคโนโลยีสมุนไพรและความงาม/บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แสดงความก้าวหน้านวัตกรรมยานยนต์ระบบไฮบริดจ์ ในสมรรถนะที่สะดวกและใช้งานได้จริง

5)โซนเครื่องจักรกลและอุตสาหกรรม เป็นพื้นที่ของบริษัทเอกชนไทยภายใต้สมาคมเครื่องจักรกลไทย โดยนำผลงานเครื่องจักร เครื่องมือที่ใช้ในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และขนาดย่อม

6)โซนเทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวอย่างนิทรรศการ เช่น อากาศยานไร้คนขับแบบปีกตรึง (จากสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ(องค์การมหาชน) กระทรวงกลาโหมใช้ในภารกิจลาดตระเวนหาข่าว เฝ้าตรวจสนามรบ ค้นหาและกำหนดที่ตั้งเป้าหมาย ปรับการยิงปืนใหญ่ และตรวจสอบความเสียหายของเป้าหมาย โดยไม่ใช้คนขับ เป็นต้น

7)โซนเทคโนโลยีและนวัตกรรมสร้างสรรค์ เช่นการเลี้ยงเซลล์สาหร่ายบนชิพ โดยเทคนิคโครงสร้างจุลภาครังสีเอ็กซ์

โซนเทคโนโลยีเกษตรและอาหาร ได้แก่ การบริการวัดรังสีในสินค้าส่งออก / เครื่องตรวจวินิจฉัยใส้เดือนฝอย / เครื่องตัดกล้วยกวน / เทอร์โมฟอร์มมิ่งผลิตภาชนะบรรจุข้าวแต๋น

9)โซนเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ เครื่องรีไซเคิลน้ำยาล้างคราบไขมันแบบไอระเหย /เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กอเนกประสงค์ /การเตรียมสารละลายมาตรฐานรังสี / เครื่องวัดวิเคราะห์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ

10)โซนเทคโนโลยีการแพทย์และสมุนไพร การพัฒนาตรวจวิเคราะห์เพื่อคัดกรองการเกิดดาวน์ซินโดรมของเด็กทารก

11)โซนเทคโนโลยีเพื่อชุมชน เน้นจัดแสดงผลงานจากโครงการคลินิกเทคโนโลยี และหมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

12)การโชว์ผลงาน ที่ได้รับรางวัล ชนะเลิศการประกวดเทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้แก่ ผลรางวัลจากการประกวดเทคโนโลยีเครื่องจักรกลยอดเยี่ยม จำนวน 9 ผลงาน โดยผลงานเด่นในโซนนี้ได้แก่ กังหันลมแกนแนวตั้งเพื่อการผลิตการแสไฟฟ้าในชนบท ชนะเลิศสาขาพลังงานและสิ่งแวดล้อม และยังได้รับรางวัล Best of the Best ประจำปี 2555อีกด้วย และ ผลงานรางวัลชนะเลิศการประกวดสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 4 ผลงาน ซึ่งกระทรวงดำเนินโครงการ ร่วมกับ มูลนิธิธนาคารกรุงเทพ

และโซนจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยจัดพื้นที่ในรูปแบบ Technology Market ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาชมและเลือกซื้อสินค้าในพื้นที่ เป็นต้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวย้ำว่า “ ประโยชน์จากการเข้าร่วมงานนี้จะได้รับองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากเจ้าของผลงานโดยตรงหรือนักวิชาการ รวมถึงโอกาสทางการเจรจาซื้อขาย แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีสามารถต่อยอดทางธุรกิจ การสร้างเครือข่ายการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่างคนไทย เพื่อให้เกิดกลุ่มความเข้มแข็งและแข่งขันในระดับสากลต่อไป

ดร.ปลอดประสพ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ หน่วยงานกระทรวงได้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ สำหรับการแจ้งข่าว “Media Box” เพื่อเป็นการเกาะติดสถานการณ์เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งในประเทศไทย ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิต ทรัพย์สิน เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ตลอดจนผลกระทบทางด้านจิตใจ ที่ต้องใช้เวลาในการเยียวยา ทางสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สสนก. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เล็งเห็นถึงความจำเป็นของการติดตามสถานการณ์น้ำจากข้อมูลรอบด้าน เพื่อการเฝ้าระวัง เตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น ประชาชนทั่วไปจึงควรเข้าใจวิธีการดูข้อมูลเพื่อติดตามสภาพอากาศในปัจจุบัน และข้อมูลคาดการณ์สภาพอากาศล่วงหน้าได้โดยง่าย ด้วยเทคโนโลยี RSS News Feedผ่านอุปกรณ์แจ้งข่าว Media Box ที่สามารถติดตั้งเองได้ง่าย และราคาถูก ซึ่งได้วิจัยและพัฒนาขึ้นเพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างทันเหตุการณ์”โดยภายในงานได้ทำการแจกให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลประชาชน 131หน่วยงาน

อย่างไรก็ตามการจัดงานงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทยประจำปี 2555 ทุกวันจะมีกิจกรรมฟรีมากมาย ประกอบด้วย การสัมมนาทางวิชาการ , การฝึกอบรมอาชีพเพื่อสร้างรายได้กว่า 20อาชีพ และการประกวดแข่งขันระดับเยาวชน โดยมีเวทีกลางจัดเตรียมเพื่อแจกของรางวัลแก่ผู้ร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ทันสมัยและเพื่อสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยบริการตรวจสุขภาพฟันฟรี วันละ 4รอบ นอกจากนี้ยังพบกับการแสดงของศิลปิน ดาราร่วมสร้างสีสันภายในงานอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.techonomart2012.comหรือ call Center 1313