เปิดใจนักแสดงนำ...
เจ้าหน้าที่ตำรวจ
“เรายืนหยัดด้วยกัน เป็นเส้นบางๆ สีฟ้า ที่คอยคุ้มครองเหยื่อจากผู้ล่า คนดีจากคนเลว เราคือตำรวจ”
“คุณสามารถสร้างหนังที่ใช้เทคนิคเลิศหรูอลังการมากๆ และถ่ายทำมันอย่างสวยงามได้ แต่ถ้าคุณไม่ได้นักแสดงที่ใช่ คุณก็ไม่สามารถสร้างหัวใจของหนังขึ้นมาได้หรอกครับ” เอเยอร์กล่าว “เราได้ตัวนักแสดงพรสวรรค์ ผู้เต็มใจทุ่มสุดตัวเพื่อหนังเรื่องนี้จริงๆ ครับ”
เจค จิลเลนฮัลเป็นนักแสดงคนแรกที่ร่วมทีมนักแสดงของ END OF WATCH จิลเลนฮัลพูดถึงบทภาพยนตร์ของเอเยอร์ว่า “ผมคิดว่าในตอนแรกผมประทับใจว่าผมพลิกแต่ละหน้าเร็วแค่ไหน หนังเรื่องนี้มีโครงสร้างเรื่องราวที่คลาสสิก แต่มันถูกซ่อนไว้ภายใต้การเล่าเรื่องที่แปลกใหม่และน่าทึ่ง ในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนครับ”
จิลเลนฮัล ผู้ทำหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้างของเรื่องด้วย มุ่งมั่นทำงานในโปรเจ็กต์นี้นานห้าเดือน ซึ่งในช่วงเวลานั้น เขาก็ได้เข้ารับการฝึกตำรวจอย่างเข้มข้นและเตรียมตัวสำหรับบทนี้ “เจคเป็นนักแสดงที่เหลือเชื่อ และมุ่งมั่นอย่างน่าทึ่งครับ” เลเชอร์กล่าว “เขาแข็งแกร่ง แต่ก็อ่อนไหวได้ในตอนที่จำเป็น เขาพัฒนาตัวเองขึ้นมาสำหรับหนังเรื่องนี้จริงๆ เขาเป็นกัปตันของทีมนักแสดง ที่ดึงทุกคนมาร่วมงานและซ้อมกับทีมนักแสดงอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ เขายังเป็นหุ้นส่วนที่ยอดเยี่ยมในฐานะผู้อำนวยการสร้างด้วย และเขาก็ทุ่มให้กับงาน 150% เลย เขาสามารถเข้าถึงผู้คนและสิ่งต่างๆ ได้อย่างเหลือเชื่อครับ”
“หลังจากที่ผมอ่านบท ผมก็คิดว่าเอเยอร์ได้ยกระดับความเสี่ยงสูงสุดสำหรับหนังแนวนี้” จิลเลนฮัลกล่าว “มันเป็นเส้นแบ่งบางๆ ว่าคุณจะสามารถสร้างสิ่งที่เหมือนคลิป YouTube ให้เป็นประสบการณ์ภาพยนตร์ได้รึเปล่า และเอเยอร์ก็ทำได้ ผมเริ่มนึกว่าทำไมไม่มีคนสร้างหนังแบบนี้มาก่อนล่ะน่ะครับ”
หลังจากจิลเลนฮัลแล้ว ไมเคิล เพนยาก็ถูกนำตัวเข้ามา หลังจากที่เอเยอร์และผู้อำนวยการสร้างได้พิจารณานักแสดงคนอื่นๆ สำหรับบทนี้ “เราชื่นชมผลงานของไมเคิลมาโดยตลอดครับ” เลเชอร์กล่าว “และเราก็พิจารณาเขาหลายรอบ จนกระทั่งเราได้เห็นเขาใน Lincoln Lawyer ซึ่งทำให้เราเชื่อในการแสดงของเขาครับ”
“End of Watch จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีสายสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่เทย์เลอร์และซาวาลา และเมื่อคุณอ่านบท คุณจะรู้สึกทันทีเลยว่า เรื่องราวนี้จะไม่เวิร์คหรือดินไปข้างหน้าได้ถ้าไม่มีแง่มุมสำคัญนั้นน่ะครับ” จิลเลนฮัลกล่าว “ไมค์เป็นอีกครึ่งหนึ่งของผม และเขาก็สวมบทบาทนั้นได้อย่างพิเศษสุด ผมเคยเล่นหนังที่ตัวละครของผมเป็นตัวเดินเรื่องทั้งหมด และจะต้องแบกรับน้ำหนักของทุกฉากเอาไว้ แต่หนังเรื่องนี้ไม่เหมือนกัน เราเป็นครึ่งหนึ่งของมัน มันจะไม่เวิร์คถ้าขาดพวกเราคนใดคนหนึ่งครับ”
นอกจากนี้ เพนยายังสนใจบทของเอเยอร์ ซึ่งไม่ได้มีการเล่าเรื่องแบบทั่วๆ ไปด้วย เรื่องราวเกี่ยวกับคู่หูสองคนกระทบใจเพนยาและเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ “แง่มุมความเป็นพี่น้องของเรื่อง ว่ามันสมจริงขนาดไหน โดนใจผมอย่างจังครับ” เพนยาบอก “ฉากแอ็กชันบางฉากพออ่านแล้วตื่นเต้นมาก แต่มันก็มีบางฉากที่ตัวละครสองตัวนี้พูดคุยกันเฉยๆ ซึ่งมันน่าสนใจในแบบเดียวกับละครของเดวิด มาเม็ตเลยล่ะครับ”
เพนยาเข้าใจดีว่าการเล่นเป็นเพื่อนสนิทกันในภาพยนตร์คงไม่ใช่เรื่องง่าย “มันค่อนข้างยากเพราะคุณต้องทำตัวเหมือนพี่น้องกันครับ” เพนยากล่าว “คุณต้องแสดงความสนิทสนมในแบบที่เสแสร้งไม่ได้ คุณจะต้องมีความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ”
ทั้งคู่ใช้เวลาห้าเดือนในการฝึกฝนแบบตำรวจ การฝึกการต่อสู้และการฝึกกลยุทธ รวมทั้งการนั่งรถไปกับตำรวจด้วย จิลเลนฮัลและเพนยาได้สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันผ่านทางประสบการณ์ที่หาได้ยากนี้ ทั้งคู่ได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการผูกสัมพันธ์และซักซ้อมการแสดงเพื่อที่พวกเขาจะได้รู้จักกันและกันอย่างลึกซึ้ง และเอเยอร์ก็ผลักดันพวกเขาอย่างไม่ปรานีปราศรัย
“เจคและไมเคิลให้เวลากับผมมากกว่าที่พวกเขาอาจจะให้กับหนังเรื่องอื่นๆ ในชีวิตนักแสดงของพวกเขาเลยก็ได้ครับ” เอเยอร์กล่าว “ผมได้เวลาพวกเขามาห้าเดือนและในช่วงหลายเดือนนั้น คุณก็จะเริ่มเชื่อในมิตรภาพระหว่างพวกเขาและเชื่อจริงๆ ว่าพวกเขาเป็นตำรวจคู่หูกันจริงๆ พวกเขาคือหนังเรื่องนี้ครับ”
ระหว่างการเตรียมตัวสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ในช่วงเวลาหลายเดือนนี้เองที่จิลเลนฮัลและเพนยาได้สานมิตรภาพที่แท้จริงขึ้นมา ซึ่งทำให้ปฏิกิริยาเคมีระหว่างทั้งคู่บนหน้าจอดูเป็นเรื่องธรรมชาติ “ทุกอย่างที่คุณต้องเจอในตอนที่คุณเป็นเพื่อนกับใครซักคน เป็นเพื่อนสนิทใครซักคน เรื่องพวกนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาห้าเดือนครับ” จิลเลนฮัลบอก “ความไว้วางใจที่เกิดขึ้นจากการผ่านการฝึกอาวุธด้วยกันทำให้เราเข้าใจว่าการไว้วางใจอีกฝ่ายด้วยชีวิตเป็นอย่างไร และท้ายที่สุดแล้ว มิตรภาพนั้นก็กลายเป็นของจริงครับ”
แอนนา เคนดริค ผู้รับบทคนรักของเทย์เลอร์ในเรื่อง สังเกตเห็นถึงมิตรภาพที่ดูเป็นธรรมชาตินั้นทันที “พวกเขาเยี่ยมมากเพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนช่วงเวลาที่เส้นแบ่งระหว่างความจริงและหนังเลือนลางไป จนถึงขั้นที่ฉันไม่แน่ใจเลยว่าเทย์เลอร์และซาวาลาหรือเจคและไมเคิลกันแน่ที่เป็นคนพูดอยู่น่ะค่ะ”
ในฐานะตัวละคร เจ้าหน้าที่ไบรอัน เทย์เลอร์และเจ้าหน้าที่ไมค์ ซาวาลาเป็นคนที่แตกต่างกันอย่างมาก พวกเขาโตขึ้นมาในโลกที่แตกต่างกันและมาเป็นคู่หูกันในกรมตำรวจ ผู้ซึ่งไม่เพียงแต่คุ้มครองคนอื่นๆ เท่านั้น แต่ยังคุ้มครองกันและกันด้วย ไบรอัน เทย์เลอร์ ตัวละครของจิลเลนฮัลมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยในดาเวนพอร์ต, ไอโอวา เขาสมัครเข้ากองทัพเรือเพื่อต่อต้านพ่อแม่ตัวเองและหลังจากนั้น เขาก็ตัดสินใจมาแอลเอเพื่อเป็นตำรวจ ที่นี่เองที่เขาได้พบกับซาวาลาที่โรงเรียนตำรวจ ซาวาลามาจากท้องถนนอีสต์แอลเอ เขาเป็นนักมวยสมัครเล่น ผู้เต่งงานกับหวานใจสมัยเรียน แก็บบี้ ตั้งแต่ตอนอายุ 18 ปี
“ไบรอัน เทย์เลอร์ เป็นคนที่เติบโตมาในครอบครัวที่เย็นชาครับ” เอเยอร์กล่าว “เขาพบกับซาวาลาที่มีชีวิตครอบครัวอบอุ่นและโลกที่อึกทึกครึกโครม มันเต็มไปด้วยความรัก อาหารและผู้คนดีๆ และเทย์เลอร์ก็รู้สึกถูกดึงดูดเข้าหามันในทันทีครับ”
“คนพวกนี้เป็นคู่หูและเพื่อนรักกันในชีวิตของกันและกันครับ” เพนยากล่าว “ตอนที่ผมอ่านบทครั้งแรก ผมมองเห็นเรื่องราวที่เป็นสากลของคนสองคนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่กลายเป็นเหมือนพี่น้องกัน และหลายครั้ง เรื่องแบบนั้นก็เกิดขึ้นในกองทัพและกรมตำรวจเพราะธรรมชาติของเนื้องานน่ะครับ”
“พวกเขาเป็นคนสองคนที่เต็มใจจะสละชีวิตเพื่อกันและกัน” จิลเลนฮัลกล่าว “แค่นั้นเลยจริงๆ และสิ่งที่น่าขันก็คือพวกเขาพบมิตรภาพนี้ในสถานที่ที่อันตรายที่สุดและมิตรภาพนั้นก็อาจถูกคุกคามและสูญหายไปได้ตลอดเวลา”
ตามที่ฟิทซ์ไซมอนส์อธิบาย สิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอสะท้อนถึงสายสัมพันธ์ที่มักจะปรากฏในกรมตำรวจจริงๆ “เมื่อคุณใกล้ชิดกันอย่างเจ้าหน้าที่เทย์เลอร์และซาวาลา คุณอาจจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าที่คุณได้ใช้เวลาอยู่กับภรรยาตัวเองเสียอีก มันเป็นสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขนาดนั้นเลยล่ะครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณก็จะทำให้แน่ใจว่าคู่หูของคุณจะได้กลับบ้านไปในตอนเลิกกะน่ะครับ”
ตัวละครสองตัวที่คงอยู่ตลอดทั้งเรื่องแม้กระทั่งในตอนที่พวกเขาไม่ได้อยู่บนหน้าจอคือเจเน็ต (แอนนา เคนดริค) และแก็บบี้ (นาตาลี มาร์ติเนซ) หญิงคนรักของเจ้าหน้าที่เทย์เลอร์และซาวาลา นอกจากความกดดันพิเศษที่เกิดขึ้นกับงานประจำวันของพวกเขาแล้ว ชายทั้งคู่ยังต้องรับมือกับปัญหาความสัมพันธ์ที่แสนธรรมดาด้วย ตัวละครของจิลเลนฮัลมาถึงจุดในชีวิตที่เขาพร้อมจะลงหลักปักฐานแล้ว และเขาก็ได้พบกับเจเน็ต หญิงสาวฉลาดเซ็กซี ผู้ซึ่งแตกต่างจากบรรดาผู้หญิง (เช่นพวกคลั่งตำรวจ) ในอดีตของเขา เจเน็ตเป็นนักศึกษาและพวกเขาก็ได้พบกันระหว่างการศึกษาเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่เทย์เลอร์ สำหรับบทเจเน็ต ผู้กำกับเดวิด เอเยอร์เลือกแอนนา เคนดริค (Up in the Air, The Twilight Films)
“แอนนาเยี่ยมมาก เธอมีชีวิตชีวาและน่าสนใจในทุกเทค” เอเยอร์กล่าว “เธอเข้าคู่กันได้ดีกับเจค ที่เป็นคนฉลาดเหมือนกัน เธอทำให้เขาตื่นตัวอยู่เสมอ และมีคุณสมบัติที่น่าเห็นใจแต่เกือบจะน่าขบขัน เธอทั้งน่าเอ็นดูและสดใส และมันก็มีเรื่องฮาร์ดคอร์บางอย่างในหนังเรื่องนี้ด้วย ดังนั้น โอกาสในการได้แสดงให้เห็นถึงความอบอุ่นหัวใจและความรักเล็กๆ ความสดใสและความอ่อนโยนเล็กๆ ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ ครับ”
“เจเน็ตไม่รู้หรอกค่ะว่าเธอไปพัวพันกับอะไร” เคนดริคบอก “เธอจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสายสัมพันธ์แบบพี่น้องนี้ และสานสายสัมพันธ์ในแวดวงที่สนิทสนมกลมเกลียวกัน ฉันไม่แน่ใจว่าเธอจะยอมคบกับเขารึเปล่าถ้าเขาสวมยูนิฟอร์มในครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกัน ฉันคิดว่ามันคงทำให้เธอสติแตกนิดๆ น่ะค่ะ”
“เหมือนคำที่คนเค้าพูดกันแหละครับว่าเขารักเธอมากจนปวดหัวใจ” จิลเลนฮัลบอก “แอนนาเป็นคนน่ารักและเซ็กซีในแบบที่คุณไม่เคยเห็นเธอมาก่อน สำหรับไบรอัน เทย์เลอร์ เจเน็ตเป็นตัวแทนของความสงบที่เขาไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต”
“ไบรอันเป็นคนฉลาด เจเน็ตเป็นผู้หญิงฉลาด และฉันก็คิดว่าทั้งคู่ต่างก็มีบาดแผลที่พวกเขาไม่อยากแสดงให้คนอื่นเห็น” เคนดริคกล่าว “แต่พวกเขารู้สึกกล้าพอที่จะแสดงให้กันและกันเห็นและความซื่อสัตย์แบบนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา มันหมายถึงความเข้าใจความนึกคิดและความกลัวของอีกคน การให้อภัยอดีตของใครซักคนเป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะคะ”
เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ความสัมพันธ์ระหว่างเจเน็ตและเจ้าหน้าที่เทย์เลอร์ก็พัฒนาขึ้น และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ระบุเวลาตามหลักไมล์ในความสัมพันธ์ของพวกเขา พวกเขาไปดื่มกาแฟกันที่สตาร์บัคส์ พวกเขาเดทกัน มันพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและเธอก็ได้พบกับซาวาลาและแก็บบี้ ภรรยาของเขา มีค่ำคืนที่อ่อนโยนที่ห้องของเขา ที่ตัวละครของเคนดริคเก็บกล้องวิดีโอในตอนเช้าและเล่าความรู้สึกของเธอให้เขารู้ ในช่วงท้ายเรื่อง มันมีฉากงานเลี้ยงแต่งงานที่แสนสุข ที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเต้นรำแบบช้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นภาพน่าประหลาดใจที่พวกเขาเริ่มวาดลวดลายเต้นแบบสุดเหวี่ยง เหมือนวิดีโอยอดนิยมทั้งหลายที่ส่งต่อๆ กัน
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่เทย์เลอร์และเจเน็ตผลิบาน ความสัมพันธ์ที่น่าสนใจก็เกิดขึ้นระหว่างเทย์เลอร์และซาวาลา ซาวาลา ที่ใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงคนเดียวมาตั้งแต่ไฮสคูล เริ่มสอนเทย์เลอร์เกี่ยวกับความรักในแบบพี่ชายสอนน้องชาย เขาอยากเห็นน้องชายของเขามีความสุขและเป็นที่รักเหมือนเวลาเขาอยู่กับแก็บบี้
สำหรับแก็บบี้ เอเยอร์เลือกนาตาลี มาร์ติเนซ (Death Race, Detroit 1-8-7) มารับบทนี้ “นาตาลีวิเศษสุดครับ” เอเยอร์กล่าว “ผมมองว่าแก็บบี้เป็นคนเข้มแข็ง เห็นได้ชัดว่าเธอรักเขาอย่างสุดซึ้ง แต่เธอก็เป็นคนมีอำนาจภายในบ้าน ผมชอบไอเดียของตำรวจผู้แข็งแกร่ง ที่ไล่ปราบเหล่าร้าย แต่พอกลับไปบ้าน เขาก็แบบ ‘ได้จ้ะ ที่รัก’ เขายอมเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขารู้สึกร่วมกันครับ”
“นาตาลีมีพลังงานที่มหัศจรรย์ครับ” เพนยากล่าว “การรักเธอเป็นเรื่องง่าย ตัวละครของเรารู้จักกันมาเกือบทั้งชีวิต และผมกับนาตาลีก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ เพื่อสร้างความรู้สึกสบายใจนั้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาครับ”
ความสัมพันธ์ของซาวาลาเริ่มขั้นตั้งแต่ตอนที่พวกเขาคบกันในสมัยเรียน เขาเรียนตำรวจส่วนเธอก็เป็นครู “พวกเขาอยากจะสร้างชีวิต เป็นครอบครัวเดียวกันค่ะ” มาร์ติเนซบอก ในเรื่อง แก็บบี้ตั้งครรภ์ได้หกเดือน และเมื่อเรื่องราวดำเนินไป เธอก็ให้กำเนิดลูก ซึ่งมันก็ก่อให้เกิดความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นจากอาชีพของสามีเธอด้วย
“ฉันคิดว่ามันเป็นอาจเป็นหนึ่งในเรื่องที่น่ากลัวที่สุดของการเป็นภรรยาตำรวจก็ได้ การที่คุณไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะกลับบ้าน” มาร์ติเนซบอก และเหนือสิ่งอื่นใด ในตอนที่พวกเขากลับบ้านพร้อมด้วยอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจ คุณก็จะต้องต้อนรับเขากลับบ้านด้วยความรักและพาสามีของคุณออกห่างจากโลกภายนอกนั่น และเมื่อพวกเขาเดินออกจากบ้านอีกครั้ง คุณก็ต้องรู้ว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ที่คุณจะได้พูดว่า ‘ไปดีนะคะ’ ค่ะ”