happy on August 05, 2012, 07:08:59 PM
BAIT 3D
จัดจำหน่ายโดย เอ็ม พิคเจอร์ส
ชื่อภาษาไทย “โคตรฉลามคลั่ง”
ภาพยนตร์แนว แอ็คชั่น – ทริลเลอร์
จากประเทศ ออสเตเลีย
กำหนดฉาย 20 กันยายน 2555
ณ โรงภาพยนตร์ ในโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับ Kimble Rendall (คิมเบิล เรนดัลล์)
อำนวยการสร้าง Gary Hamilton (แกรี แฮมิลตัน), Peter Barber (ปีเตอร์ บาร์เบอร์)
นักแสดง Xavier Samuel (ซาเวียร์ ซามวล) จาก Sanctuary, A Few Best Men, Anonymous, The Twilight Saga
Julian McMahon (จูเลียน แม็คมาฮอน) จาก Faces in the Crowd, Red, Fantastic Four
Sharni Vinson (ชาร์นี วินสัน) จาก You’re Next, Blue Crush2, Step Up 3D
Phoebe Tonkin (ฟีบี้ ทอนคิน) จาก The Secret Circle, Home and Away, Packed to the Rafters
Martin Sacks (มาร์ติน แซ็คส์) จาก Blackvuster, The cup, Encounters
Alice Parkinson (อลิซ พาร์กินสัน) จาก Not Suitable for children, The cup, Sanctum
จุดเด่น Bait 3D ภาพยนตร์แอ็คชั่น-ทริลเลอร์ โดยเป็นผลงานการสร้างเรื่องแรกระหว่างออสเตรเลียและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคลื่นสึนามิมฤตยู ที่มาในรูปแบบของฉลามขาวยักษ์ที่หิวกระหายที่ไม่มีผู้เชื้อเชิญขึ้นมาจากท้องทะเลลึก ไม่เพียงแต่พวกเขาจะต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากภัยสึนามิ และผู้ร้ายที่อยู่ในกลุ่มพวกเขาเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องเจอกับภัยคุกคามที่อันตรายยิ่งกว่า ดุร้ายยิ่งกว่าและกระหายเลือดยิ่งกว่า
เรื่องย่อ
จอช (ซามวล) และทีนา (วินสัน) เป็นคู่หมั้นที่มีความสุขดี และพวกเขาก็กำลังจะย้ายไปอยู่สิงคโปร์ในตอนที่ รอรี (ริชาร์ด) เพื่อนสนิทของจอช และยังผู้เป็นพี่ชายของทีนา เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่โดนฉลามจู่โจมอย่างน่าเศร้า ซึ่งจอชอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยแต่ไม่สามารถช่วยชีวิต รอรี ให้รอดพ้นจากฉลามได้ จากเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้ความสัมพันธ์ของจอชและทีนาดิ่งลงเหว
หนึ่งปีให้หลัง จอชยังไม่อาจทำใจได้กับการจากไปของรอรี เขาจำใจทำงานที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในท้องถิ่น แต่แล้วชีวิตของเขาก็กำลัง พลิกผันชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อเหตุการณ์เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เหมือนโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมาต่อหน้าต่อตาเขา
ทีนากลับมาเยือนเมืองแห่งนี้และเจอกับจอชโดยบังเอิญที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แต่เธอมาพร้อมกับเพื่อนใหม่ สตีเวน .(หยู่หวู) ช่วงเวลาน่าอึดอัดถูกขัดจังหวะเมื่อมือปืนสองคนพยายามจะใช้อาวุธเข้าปล้นร้าน ทุกคนต่างทำอะไรไม่ถูก จนกระทั่งจู่ๆ คลื่นสึนามิยักษ์ได้พัดถาโถมเข้าหาชายฝั่งอย่างบ้าคลั่ง และพลังทลายทุกสิ่งทุกอย่างจนราบเป็นหน้ากอง
เมื่อผู้รอดชีวิตเริ่มปรากฏตัวขึ้นมาจากสายน้ำทีละคนๆ และปีนหนีขึ้นไปตามชั้นวางของของซูเปอร์มาร์เก็ต พวกเขาก็สะพรึงกลัวกับสิ่งที่พวกเขาเห็น ผืนน้ำเบื้องหน้า ที่เต็มไปด้วยเศษข้าวของและร่างผู้เสียชีวิต เพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสายไฟเปลือยที่ระโยงระยางใกล้กับผิวน้ำ ไม่นานนัก พวกเขาก็ตระหนักว่ามีสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าอยู่ข้างล่างนั้นก็คือ ฝูงฉลามค่อยๆออกล่าเหยื่ออย่างหิวโซ งานนี้ผู้รอดชีวิตที่เหลือก็เริ่มตระหนักว่าพวกเขาจะต้องร่วมมือกันเพื่อหาทางรอดชีวิตไปจากที่นี่ให้ได้
ทีมนักแสดงชั้นเยี่ยมของเรื่องได้แก่ ซาเวียร์ ซามวล (Sanctuary, A Few Best Men, The Twilight Saga; Eclipse), จูเลียน แม็คมาฮอน (Fire with Fire, Nip/Tuck, Fantastic Four), ชาร์นี วินสัน (You’re Next, Blue Crush 2, Step Up 3D), ฟีบี้ ทอนกิน (Secret Circle, Tomorrow When the War Began), มาร์ติน แซ็คส์ (The Cup, Underbelly), อลิซ พาร์กินสัน (The Cup, Sanctum), แดน วิลลีย์ (The Hunter, Animal Kingdom), อเล็กซ์ รัสเซล (Chronicle, Wasted on the Young), ลินคอล์น ลูอิส (Underbelly, Tomorrow When the War Began), คาริบา ไฮน์ (Blood Brothers, The Pacific) และนักแสดงชื่อดังชาวสิงคโปร์ ฉี หยู่หวู (The Home Song Stories, Founding Of A Party) และเอเดรียน แพงค์ (Holiday, I Do I Do)เกี่ยวกับงานสร้าง
ข้อมูลโดยรวม BAIT 3D เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่น 3D จากออสเตรเลียเรื่องแรก และเป็นผลงานการสร้างเรื่องแรกระหว่างออสเตรเลียและสิงคโปร์ด้วยเช่นกัน บริษัทโปรดักชั่นสัญชาติออสเตรเลีย อาร์คไลท์ ฟิล์มส์, พิคเจอร์ส อิน พาราไดส์และสตอรี่ บริดจ์ ฟิล์มส์ได้ร่วมมือกับแบล็คเมจิค ดีไซน์จากสิงคโปร์ ทุนสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนจากมีเดีย ดีเวลอปเมนท์ ออโตริตี้และแบล็คเมจิค ดีไซน์จากสิงคโปร์ รวมถึงสกรีน ออสเตรเลียและสกรีน ควีนส์แลนด์ BAIT 3D กำกับโดยคิมเบิล เรนดัลล์ เขียนบทโดยรัสเซล มัลคาฮีย์และจอห์น คิม อำนวยการสร้างโดยแกรี แฮมิลตัน, ท็อดด์ เฟลแมนและปีเตอร์ บาร์เบอร์ ผู้ควบคุมงานสร้างคือคริส บราวน์, เอียน เมย์ค็อก, ไมค์ กาบรอว์อี้, หยิง เย่และรัสเซล มัลคาฮีจุดเริ่มต้น BAIT 3D พัฒนาขึ้นโดยรัสเซล มัลคาฮีย์และแกรี แฮมิลตัน เพื่อเป็นภาพยนตร์แนวไฮคอนเซ็ปต์ เป็นภาพยนตร์การจู่โจมของฉลาม มีการยอมรับถึงความท้าทายในการหาเงินทุนสนับสนุนภาพยนตร์แบบนี้ในออสเตรเลีย ด้วยความที่ภาพยนตร์ฉลาม 3D จะต้องใช้ทุนมหาศาลและทีมงานที่มีความชำนาญพิเศษ
แกรีได้ทาบทามผู้อำนวยการสร้างท็อดด์ เฟลแมนและคริส บราวน์ให้มาร่วมสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ในปี 2009 และทำให้พวกเขาสนใจตั้งแต่เริ่มต้นด้วยประโยคเด็ดที่ว่า ‘ฉลามในห้าง’ “พอมีคนพูดแบบนั้น คุณจะพูดอะไรได้อีกล่ะครับ เว้นแต่ว่า ฉันจะต้องสร้างหนังเรื่องนี้ให้ได้ มันเป็นไอเดียไฮคอนเซ็ปต์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมอยากจะสร้างหนังฉลามมาโดยตลอด เราทุกคนต่างก็เติบโตขึ้นมากับ Jaws หนังเรื่องนั้นเป็นหนังที่ทุกคนต่างจดจำได้ การสร้างหนังฉลาม ที่เดินตามรอย Jaws เป็นเหมือนฝันที่เป็นจริงครับ” บราวน์กล่าว
นอกจากนี้ เฟลแมนยังสนใจสิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็นไฮคอนเซ็ปต์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก “มันไม่ได้เป็นบทหนังสยองขวัญมาตรฐาน ที่มีตัวละครแบนราบ และมีเนื้อเรื่องเดียว แต่นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอด ธรรมชาติของมนุษย์ เกี่ยวกับกลุ่มคนที่บังเอิญมารวมตัวกันในประสบการณ์ที่สยดสยองที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้และเราก็ได้เห็นความสัมพันธ์ของพวกเขาพัฒนาและร้าวฉาน มันเป็นการผจญภัยที่สุดเหวี่ยงจริงๆ ครับ”
หลังจากพัฒนาบทขึ้นกับรัสเซล มัลคาฮีย์ อาร์คไลท์ก็นำโปรเจ็กต์นี้ออกสู่ตลาดและได้รับปฏิกิริยาตอบรับที่ฮือฮามาก อาร์คไลท์ได้รับยอดขายพรีเซลมากพอควรจากทั่วโลก ทำให้โปรเจ็กต์นี้น่าสนใจมากสำหรับนักลงทุนออสเตรเลียและสิงคโปร์ ทำให้ผู้อำนวยการสร้างได้ร่วมงานกับสกรีน ออสเตรเลีย, สกรีน ควีนส์แลนด์, เดอะ โปรดิวเซอร์ ออฟเซ็ทและมีเดีย ดีเวลอปเมนท์ ออโตริตี้ของสิงคโปร์เพื่อหาทุนสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ และทำให้ BAIT 3D กลายเป็นผลงานสร้างเรื่องแรกระหว่างออสเตรเลียและสิงคโปร์ฉลาม หนึ่งในดาราสำคัญของเรื่องหนีไม่พ้นฉลาม ทีมงานต้องการสร้างสัตว์ร้ายที่สะพรึงกลัวอย่างสมจริง ที่จะร้อยเรียงภาพยนตร์ทั้งเรื่องเข้าด้วยกันได้
บราวน์และเฟลแมนได้ร่วมงานกับแกรนท์ เลห์แมน (ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายอนิเมโทรนิคส์) และสตีฟ บอยล์ (ดีไซเนอร์ฉลามและเมคอัพ เอฟเฟ็กต์) มาก่อนในภาพยนตร์เรื่อง Daybreakersและได้ทาบทามพวกเขาก่อนหน้าการถ่ายทำจะเริ่มต้นขึ้นหกเดือนเพื่อเดินหน้าสร้างฉลาม
การพูดคุยกันในช่วงแรกให้ความสำคัญกับความท้าทายหลายอย่าง นั่นคือฉลามจะต้องสามารถถูกควบคุมทั้งในและรอบๆ ทางเดินระหว่างชั้นวางของได้ กระโจนขึ้นจากน้ำได้ และกัดคนได้ และมันก็จะต้องดูน่าสะพรึงกลัวด้วย
ในบทภาพยนตร์ดั้งเดิม ฉลามจะเป็นฉลามเสือ แต่คริสก็โล่งอกเมื่อแบบดีไซน์ถูกพัฒนากลายเป็นฉลามขาว “มันมีฉลามพันธุ์เดียวสำหรับผม มันจะต้องเป็นฉลามขาวครับ ในตอนที่เขา (สตีฟ) ได้สร้างโมเดลฉลามเสือขึ้นมาในตอนแรก มันดูเป็นมิตรครับ มันมีปากเหมือนกับ ตัวตลก เลยดูเหมือนว่ามันกำลังยิ้มอยู่! แต่ด้วยความที่ฉลามต้องมีลำตัวยาวประมาณหนึ่งเพื่อเคลื่อนตัวผ่านทางเดินระหว่างชั้นวางของได้ พวกเขาก็เลยสร้างฉลามพันธุ์ผสมขึ้นมา มันมีหน้าตาแบบฉลามขาวก็จริง แต่มีขนาดเท่ากับฉลามเสือครับ”
หน้าที่ของแกรนท์คือการพัฒนากลไกของฉลามในขณะที่สตีฟมีหน้าที่รับผิดชอบด้านสุนทรียศาสตร์งานออกแบบ ทีมงานได้ออกแบบโมเดลฉลามขึ้นมาหลายแบบ เพื่อใช้สำหรับช็อตต่างๆ “เรารู้แน่ชัดว่าเราต้องใช้ฉลามหลายตัวเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ต่างๆ กัน ตัวแรกคือฉลาม ว่ายน้ำที่เราต้องทำให้เห็นครีบฉลามแหวกผ่านน้ำ ตัวที่สองจะเป็นเหมือนฉลามฮีโร ซึ่งมีกลไกปากที่ซับซ้อน เพื่อใช้ถ่ายทำช็อตตอนกัดและฉาก จู่โจม ตัวที่สามที่เราสร้างขึ้นคือฉลามพุ่งชน ซึ่งสามารถพุ่งตัวผ่านน้ำเข้าสู่รถและชั้นวางของได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในฐานะส่วนหนึ่งของสตอรี่บอร์ดครับ” แกรนท์กล่าว
แน่นอนว่าหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทีมงานคือการสร้างสิ่งที่ดูสมจริง “ช่างเทคนิคอนิเมโทรนิคส์ต่างก็ต้องการที่จะลองสร้างสิ่งมีชีวิต สัตว์หรือคนที่สมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายใต้กรอบเวลาและทักษะของทีมงาน เราต้องคำนึงถึงระดับการเคลื่อนไหวของขากรรไกรฉลาม มันไม่ได้มีแกนหมุนอันเดียว แต่มีหลายแกน และมีส่วนที่งอได้ด้วย นอกจากนี้ เราต้องให้ความใส่ใจกับดวงตาและความหนาของผิวเพื่อสร้างลุคของสิ่งมีชีวิตที่สมจริง”แกรนท์กล่าว
การสร้างการเคลื่อนไหวของฉลามเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่เป็นลำดับถัดมา ไม่ใช่เพราะมันต้องแหวกว่ายในน้ำเท่านั้น แกรนท์อธิบายว่า “ในตอนแรกที่เรานั่งลงคุยกัน เราคุยกันถึงระบบที่ดีที่สุดที่จะเนรมิตชีวิตให้กับฉลาม เราได้เห็นพ้องกันว่าระบบนิวแมติกส์เป็นระบบที่ดีที่สุด เพราะถ้าใช้ระบบไฮดรอลิคส์ ก็อาจเกิดรอยรั่วได้ และการใช้น้ำกับไฟฟ้าร่วมกันอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก เราก็เลยคิดระบบนิวแมติกส์ขึ้นมา และเราก็ คิดกันว่า ‘เราจะควบคุมมันอย่างไร’ เพราะมันต้องใช้ลมปริมาณมากทีเดียวในการเดินเครื่อง เราก็เลยคิดว่าจะควบคุมระบบนี้ด้วยการใช้แผงควบคุม ในตอนที่คุณควบคุมมัน แผงควบคุมจะดันลมเข้าไปในด้านหนึ่งของฉลาม และออกทางอีกด้านหนึ่ง และนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้ฉลามเคลื่อนไหวได้ครับ”
นอกจากต้องคิดหาวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ฉลามแหวกว่ายผ่านผืนน้ำได้ พวกเขายังต้องทำให้มันเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติด้วย เช่นการที่กล้ามเนื้อของฉลามจะหดตัวเมื่อมันแล่นผ่านน้ำ ทีมงานได้พบผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่ากล้ามเนื้อพลิ้วไหวเฟสโต้ ซึ่งทำให้ฉลามสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างพลิ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลที่ได้จากการที่ทีมงานอนิเมโทรนิคส์ใช้เวลาพัฒนางานนาน 6 เดือน นับว่าคุ้มค่าและท็อดด์ก็มั่นใจในผลงานของทีมงานอย่างแท้จริง “ท้ายที่สุดแล้ว เราก็ได้ฉลามที่สามารถแหวกว่ายในน้ำได้อย่างเต็มที่ มันสามารถเคลื่อนไหวในน้ำได้ถึงขั้นที่ว่าผู้กำกับภาพใต้น้ำของเราพอลงไปดูผ่านเลนส์ก็ต้องสะดุ้งในวันแรกที่ถ่ายทำ ฉลามสามารถทะยานออกจากน้ำและขยับคมเขี้ยวได้ ตาของมันสามารถกลอกกลับไปมาและเหงือกก็ขยับด้วย มันสามารถสร้างการแสดงที่ยอดเยี่ยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านักแสดงคนอื่นๆ เลย ฉลามที่มีหัวสำหรับพุ่งชนก็เหลือเชื่อในเรื่องการเคลื่อนไหวที่หลากหลายและความเร็วที่มันสามารถเคลื่อนไหวได้ใต้น้ำด้วยครับ”
ในกองถ่าย การเซ็ทและเปลี่ยนแปลงระหว่างโมเดลฉลามแต่ละตัวเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และทีมนักแสดงทุกคนต่างก็ให้ความเห็นว่า การมีฉลามที่สมจริงขนาดนี้อยู่ในน้ำทำให้การสวมบทบาทของพวกเขาง่ายดายขึ้นการจู่โจมของฉลาม หลังจากที่ฉลามกลไกเสร็จสมบูรณ์ แบล็คเมจิค ดีไซน์ก็ได้รับมอบหมายให้สร้างเวอร์ชั่นดิจิตอลของฉลามขึ้นมาเพื่อเติมเต็มการเคลื่อนไหวในช็อต ฉลาม CG ที่มีฉลามกลไกเป็นข้อมูลอ้างอิงเบื้องต้น ถูกออกแบบเพื่อรองรับกับงานหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ช็อตว่ายน้ำง่ายๆ ไปจนถึงช็อตการแหวกตัวผ่านน้ำในซีเควนซ์จู่โจมบางซีเควนซ์ ฉลามขาวดิจิตอล ที่ถูกออกแบบและติดกลไกตามความต้องการของซูเปอร์ไวซิ่ง อนิเมเตอร์ ต้องผ่านการทดสอบเบื้องต้นเพื่อวัดระดับขีดจำกัดของการเคลื่อนไหวและตัดสินใจว่าขากรรไกรและตัวควบคุมรอบด้านจะสามารถขยับกล้ามเนื้อและมวลสารในส่วนขากรรไกรล่างของฉลามได้อย่างเหมาะสมรึเปล่า นอกจากนี้ แบล็คเมจิค ดีไซน์ยังต้องคำนึงถึงด้านในของปากจากตำแหน่งในการว่ายน้ำ ที่ปากจะปิดและภายในปากและลำคอจะหย่อนลง เปิดช่องทางเล็กๆ ไปยังเหงือก ไปจนถึงตำแหน่งที่มันอ้าปากกว้างเต็มที่ ซึ่งขากรรไกรจะยื่นไปด้านหน้า ริมฝีปากจะม้วนเผยให้เห็นด้านในเหงือก ด้านในปากจะเปิดกว้างอย่างเต็มที่เพื่อให้มีพื้นที่รองรับเหยื่อ ให้มากที่สุด การทดสอบเรนเดอร์สองสามครั้งแรกที่แบล็คเมจิคได้ทดลองทำให้ผู้กำกับคิมเบิล เรนดัลล์ ตื่นเต้นไปกับการเดินหน้าสร้างช็อตฉลาม CG อีกกว่า 40 ช็อต
ฉลามไม่ได้เป็นแค่เรื่องของเทคโนโลยีดิจิตอลเท่านั้น เพราะอย่างที่ไมค์ พาร์สันส์ หัวหน้าแผนกวิชวล เอฟเฟ็กต์ของแบล็ค เมจิคได้อธิบายไว้ว่า งานหนักที่สุดที่พวกเขาต้องเจอในภาพยนตร์เรื่องนี้คือการสร้างบุคลิกให้กับฉลาม สำหรับทีมงานวิชวล เอฟเฟ็กต์ ความท้าทายกลายเป็นเรื่องของการแสดงคุณลักษณะเหล่านี้ให้ปรากฏออกมา ทั้งด้วยอนิเมชั่นหยาบๆ และสีหน้าท่าทางแบบอนิเมชั่น ในแง่ของอนิเมชั่นหยาบๆ นั้น พวกเขาตระหนักว่าเคล็ดลับก็คือความกระหายเลือด ฉลามจะต้องทำตัวเหมือนนักล่าเหยื่อตลอดเวลา พวกมันจะต้องแสดงทีท่าว่าต้องการล่าเหยื่ออยู่เสมอ ฉลามเป็นนักจู่โจมแบบไม่ทันให้ตั้งตัว มันจะสอดแนมเหยื่อด้วยการว่ายวนและคิดวางแผน และอย่างที่คิมเบิลและไมค์ พาร์สันส์คุยกัน ฉลามมักจะว่ายน้ำผ่านคน 30-40 คนก่อนที่จะเลือกเหยื่อ ซึ่งบางที มันอาจเลือกเหยื่อที่อ่อนแอที่สุดหรือง่ายที่สุด เหมือนกับที่สิงโตจะขย้ำละมั่งที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้น ลักษณะเด่นของการเคลื่อนไหวของมันคือ ‘การให้ความสำคัญเฉพาะอย่าง’ ไมค์บอก ลักษณะสำคัญอย่างที่สองของนักล่าเหยื่อทุกตัวคือการเก็บพลังงานหรือการจำกัดการเคลื่อนไหว การขจัดความรู้สึกไขว้เขวออกจากการเคลื่อนไหวอย่างมีจุดประสงค์บ่งบอกชัดเจนว่า นักฆ่าตัวนี้มีวัตถุประสงค์ที่เด็ดเดี่ยวและรู้ว่ามันต้องการอะไร ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งแวดล้อม CG จะเป็นตัวสร้างอารมณ์ ไมค์กล่าวว่า ความมืดเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่เมื่อฉลามพ้นน้ำไปแล้ว เราก็สามารถสร้างความรู้สึกของพลังและการเคลื่อนไหวผ่านทางแรงกระเพื่อมของน้ำและการเผยระบบกล้ามเนื้อ ตามหลักจิตวิทยาแล้วการถูกจู่โจมบนบกหรือบนเรือเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเพราะมันขจัดสิ่งขวางกั้นระหว่างโลกมนุษย์ ที่เราเป็นผู้ปกครอง และเขตแดนของฉลามพลังชีวิตของฉลาม หลายครั้งที่ผู้รอดชีวิตจากการโจมตีของฉลามเปรียบเทียบประสบการณ์ระทึกขวัญของพวกเขากลับความรู้สึกที่ผสมปนเประหว่างความตกใจอย่างไม่คาดฝัน ความสะพรึงกลัวและอะดรีนาลินพลุ่งพล่าน ซึ่งมักถูกนำไปเชื่อมโยงกับอุบัติเหตุร้ายแรงทางรถยนต์ ซาวน์ดีไซเนอร์ โรเบิร์ต แม็คเคนซี ได้สร้างซาวน์แทร็คที่น่าขนลุกสุดๆ ที่ทำให้ผู้ชมเชื่อยิ่งกว่าเชื่อว่า มีฉลามกำลังแหวกว่ายและเลียริมฝีปากตัวเองห่างจากที่ที่พวกเขานั่งไปเพียงไม่เท่าไหร่
สิ่งที่น่าสนใจก็คือในความจริงแล้ว ฉลามไม่ได้มีกล่องเสียง ดังนั้น มันก็เลยไม่มีการส่งเสียงคุกคามเหยื่อออกมาเลย ฉลามจะถ่ายทอดพลังคลื่นพลังชีวิตออกมาในตอนที่มันโจมตี อย่างไรก็ดี ซาวน์แทร็ค ที่รังสรรค์โดยทีมซาวน์ดีไซน์ของ Bait ที่ซาวน์เฟิร์ม ออสเตรเลีย และผสมเสียงที่เยลโลว์ บ็อกซ์ สตูดิโอส์ ซึ่งเป็นสตูดิโอบันทึกเสียงที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษในสิงคโปร์ ก็สมจริงอย่างมากจนมันดูเป็นธรรมชาติและน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งในตอนที่เราได้เห็นฉลามแหวกว่ายผ่านผืนน้ำเพื่อ “ล่ามนุษย์”
« Last Edit: September 09, 2012, 07:38:23 PM by happy »
Logged