ในปี 1952 ฟิลิป เค. ดิ๊ค (ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องสั้น We Can Remember It for You Wholesale โดย) เริ่มต้นเขียนงานเป็นอาชีพ และท้ายที่สุด เขาก็ได้ตีพิมพ์นิยาย 45 เรื่อง และเรื่องสั้นกว่า 120 เรื่อง
เขาได้รับรางวัลมากมายจากผลงานของเขา ซึ่งรวมถึงรางวัลฮิวโก้ อวอร์ดสาขานิยายยอดเยี่ยมในปี 1962 จาก The Man in the High Castle และรางวัลจอห์น ดับบลิว. แคมป์เบล เมโมเรียล อวอร์ดสาขานิยายไซไฟยอดเยี่ยมในปี 1974 จาก Flow My Tears, the Policeman Said ผลงานของเขาได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อดังมากมายเช่น Blade Runner, Total Recall (1990), Minority Report, A Scanner Darkly และ The Adjustment Bureau อีเลคทริค เชพเพิร์ด โปรดักชันส์ ซึ่งเป็นแผนกด้านบันเทิงของบริษัทที่ดูแลทรัพย์สินของฟิลิป เค. ดิ๊ค ยังคงเดินหน้าพัฒนาโปรเจ็กต์ภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่สร้างขึ้นจากผลงานของเขาอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่ที่เขาเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 53 ปี เขาก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเขียนไซไฟที่ได้รับการยกย่องและทรงอิทธิพลสูงสุดของอเมริกา ในปี 2007 ฟิลิป เค. ดิ๊คได้กลายเป็นนักเขียนไซไฟคนแรกที่ถูกบรรจุชื่ออยู่ในหอสมุดแห่งอเมริกา
นีล เอช. มอริทซ์(ผู้อำนวยการสร้าง) ผู้ก่อตั้งออริจินอลอำนวยการสร้างงานภาพยนตร์และโทรทัศน์มากว่าสามทศวรรษ ผลงานล่าสุดของเขาแอ็กชันคอเมดีโดยโคลัมเบียเรื่อง 21 Jump Street เปิดตัวในเดือนมีนาคม และทำรายได้ถล่มทลายในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว ก่อนหน้านั้น ผลงานเรื่อง Fast 5 ซึ่งเป็นภาคห้าของแฟรนไชส์ The Fast and the Furious ได้เป็นการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของวิน ดีเซล, พอล วอล์คเกอร์, จอร์แดนา บรูว์สเตอร์และไทริสและได้เพิ่มดเวย์น “เดอะ ร็อค” จอห์นสันเข้ามา ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวด้วยรายได้ 86 ล้านเหรียญและทำรไปกว่า 626 ล้านเหรียญทั่วโลก ปัจจุบัน มอริทซ์กำลังอยู่ระหว่างการทำงานขั้นตอนโพสต์โปรดักชันในภาพยนตร์โดยวอร์เนอร์ บรอส. เรื่อง Jack the Giant Killer ที่กำกับโดยไบรอัน ซิงเกอร์และภาพยนตร์โดยยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สเรื่อง R.I.P.D. ที่นำแสดงโดยไรอัน เรย์โนลด์ส, เจฟฟ์ บริดเจสและเควิน เบคอน
2012 จะเป็นปีที่งานชุมสำหรับออริจินอล ฟิล์ม งานถ่ายทำภาคที่หกและเจ็ดของแฟรนไชส์ Fast and Furious จะเริ่มต้นขึ้นในซัมเมอร์นี้รวมถึงภาพยนตร์ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากไอเอ็ม โกลบอลเรื่อง Dead Man Down ที่นำแสดงโดยโคลิน ฟาร์เรลและนูมี ราเพซ และกำกับโดยนีลส์ อาร์เดน ออพเวล (ไตรภาคThe Girl With the Dragon Tattoo ของสวีเดน) นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนที่จะสร้างรีเมกเรื่อง Highlander โดยซัมมิท เอนเตอร์เทนเมนต์ในปีนี้ โดยมีฮวน คาร์ลอส เฟรสนาดิลโลเป็นผู้กำกับอีกด้วย
ความสำเร็จของมอริทซ์ซึ่งมีผลงานภาพยนตร์กว่า 40 เรื่องของเขารวมถึงThe Change-Up, Battle: Los Angeles, The Green Hornet, The Fast and Furious series, I Am Legend, XXX, S.W.A.T., Made of Honor, Gridiron Gang, Bounty Hunter, Evan Almighty, Sweet Home Alabama, Click, Vantage Point, Out of Time, Blue Streak, Cruel Intentions, I Know What You Did Last Summer, The Skulls, Volcano, Urban Legend และ Juice ผลงานของออริจินอล ฟิล์มทำรายได้กว่าสองพันล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก
ผลงานจอแก้วของมอริทซ์รวมถึงภาพยนตร์เอชบีโอเรื่อง The Rat Pack ที่ได้รับการเสนอชื่อชิง 11 รางวัลเอ็มมี, ดรามาเรื่อง Prison Breakโดยทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์และซีรีส์ชื่อดังโชว์ไทม์เรื่อง The Big C ที่นำแสดงโดยลอราลินนีย์ผู้ซึ่งได้รับรางวัลลูกโลกทองคำในปี 2011 จากบทเคธีของเธอ มอริทซ์สำเร็จการศึกษาสาขาเศรษฐศาสตร์จากยูซีแอลเอก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทในหลักสูตรปีเตอร์สตาร์คโมชัน พิคเจอร์ส โปรดิวซิงโปรแกรมจากมหาวิทยาลัยเซาเธิร์นแคลิฟอร์เนีย
โทบี้ แจฟฟ์ (ผู้อำนวยการสร้าง) ปัจจุบัน ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างที่ออริจินอล ฟิล์ม หนึ่งในผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีผลงานหลากหลายที่สุดในวงการปัจจุบัน บริษัทแห่งนี้ได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ยอดนิยมมากมายเช่นแฟรนไชส์ The Fast and The Furious, I Know What You Did Last Summer, Sweet Home Alabama, Vantage Point, Prom Night, The Green Hornet, Battle Los Angeles และล่าสุด 21 Jump Street ในปี 2012 พวกเขาจะส่ง Total Recall และ RIPD เข้าฉายในโรงภาพยนตร์
ก่อนหน้าที่จะได้เข้าทำงานที่ออริจินอล แจฟฟ์ได้ทำงานอยู่ที่เอ็มจีเอ็มในฐานะรองประธานบริหารฝ่ายโปรดักชันนานสามปี ระหว่างที่เขาทำงานอยู่ที่เอ็มจีเอ็ม เขาได้ดูแลงานสร้างภาพยนตร์หลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ฮิตเรื่อง The Pink Panther ที่นำแสดงโดยสตีฟ มาร์ติน, Walking Tallที่นำแสดงโดยดเวย์น “เดอะ ร็อค” จอห์นสันและ The Amityville Horror ก่อนหน้าที่จะเข้าทำงานที่เอ็มจีเอ็ม แจฟฟ์ได้บริหารงานบริษัทโปรดักชันอิสระของตัวเองและได้ร่วมงานกับนักแสดงที่มีพรสวรรค์สูงสุดของฮอลลีวูดหลายคน อาทิแองเจลินา โจลี, มาร์ค วอห์ลเบิร์กและมาร์ติน ลอว์เรนซ์ ด้วยการอำนวยการสร้างภาพยนตร์ที่โด่งดังอย่าง Rock Star, Life of Something Like It และภาพยนตร์คอเมดีฮิตเรื่อง Blue Streak ก่อนหน้านั้น เขาได้ดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายโปรดักชันให้กับเดอะ อินดี้พร็อด คัมปะนี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างโซนี พิคเจอร์ส เอนเตอร์เทนเมนต์และแจแปน แซทเทิลไลท์ บรอดคาสท์ติ้ง ระหว่างนั้น เขาได้ร่วมงานกับคนดังมากมายเช่นลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, รัสเซล โครว์, เคนเนธ บรานาห์และแซม ไรมี ในช่วงที่เขาได้ดูแลภาพยนตร์ชื่อดังมากมายเช่น The Quick and the Dead, Mary Shelley’s Frankenstein และ Universal Soldier
แจฟฟ์เริ่มต้นทำงานในแวดวงบันเทิงด้วยการเป็นเอเจนท์ที่เดอะ ลีดดิ้ง อาร์ติสท์ เอเจนซี หลังจากที่บริษัทแห่งนั้นได้ควบกิจการกลายเป็นยูไนเต็ด ทาเลนท์ เอเจนซี เขาก็ขยับไปเป็นหัวหน้าแผนกวรรณกรรมภาพยนตร์และทำหน้าที่ตัวแทนของนักเขียน ผู้อำนวยการสร้าง และผู้กำกับ ซึ่งในจำนวนนั้นก็รวมถึงแบร์รี ซอนเนนเฟลด์, เคอร์ติส แฮนสัน, ร็อบ โคเฮน, โบแฮซ ยากิน, แฟรงค์ ดาราบองท์และจอส วีดอน หน้าที่ในตำแหน่งนั้นของเขายังรวมถึงการรวมองค์ประกอบด้านความคิดสร้างสรรค์และการเงินต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จของภาพยนตร์มากมายเช่น Twins, Point Break, Class Action, The Rookie และ Buffy The Vampire Slayer แจฟฟ์สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและใช้ชีวิตอยู่ในซานต้า มอนิก้ากับภรรยาและลูกๆ สองคน
“ACADEMY AWARD®” และ “OSCAR®” เป็นเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการจดทะเบียนของสถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์