FB on June 17, 2012, 02:50:57 PM




ตัวอย่างหนัง Total Recall คนทะลุโลก [Sub.Thai, HD]
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=8LmJkK4LFxg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=8LmJkK4LFxg</a>

ตัวอย่างหนัง Total Recall [ซับไทย]2 สิงหาคม 2012
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=uTQiFe2h-wU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=uTQiFe2h-wU</a>

Total Recall Official International Trailer [HD]: Colin Farrell, Kate Beckinsale & Jessica Biel
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ih2dyZ_tgdg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ih2dyZ_tgdg</a>

Total Recall Official Featurette [HD]: Colin Farrell & Kate Beckinsale Behind The Scenes
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=V9Cd5kGocPw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=V9Cd5kGocPw</a>

Total Recall Official Trailer 2 [HD]: New Scenes, Colin Farrell, Bryan Cranston & Jessica Biel
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=XG5SK-P2h5o" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=XG5SK-P2h5o</a>
« Last Edit: July 29, 2012, 03:04:12 PM by FB »

FB on July 19, 2012, 04:53:47 PM
“โคลิน ฟาร์เรล” เทียบชั้นพระเอกรุ่นพี่ “อาร์โนลด์” เตรียมพาบู๊ระห่ำ ในหนังแอ็กชั่นไซไฟฟอร์มยักษ์ ทะลุจินตนาการ “โททอล รีคอล”



ตัวอย่างหนัง Total Recall ฅนทะลุโลก [Sub.Thai, HD]

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=8LmJkK4LFxg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=8LmJkK4LFxg</a>   

กลับมาลงโรงให้คอหนังแอ็กชั่นไซไฟได้ลุ้นระทึกกันอีกครั้งกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “โททอล รีคอล...  ฅนทะลุโลก” (Total Recall) ที่นำกลับมาสร้างใหม่ หลังเคยกวาดรายได้ทั่วโลกมาได้ถล่มทลายกว่า 261 ล้านเหรียญเมื่อปี 1990 โดยในฉบับปี 2012 ได้พระเอกหนุ่มหล่อมาดแบดบอย “โคลิน ฟาร์เรล” มารับบท “ดักลาส เควด” พระเอกของเรื่อง ที่เคยสร้างชื่อให้พระเอกกล้ามโต “อาร์โนลด์ ชวากเสนกเกอร์” มาแล้ว

“โคลิน ฟาร์เรล” พระเอกของเรื่องเล่าว่า “ผมว่าสนุกดีนะครับ ถ้าวันนึงคุณตื่นขึ้นมา และดำเนินชีวิตไปตามปกติ แต่คนรอบข้างกลับบอกว่าคุณเป็นคนเลว คุณจะทำยังไงละครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของผู้ชายคนนึง ที่รู้สึกไม่พอใจกับสิ่งต่างๆ ในชีวิต เขาจึงพยายามทุกวิถีทาง ที่จะใช้ชีวิตอย่างที่เค้าฝัน แต่แล้ววันนึงเขากลับไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน นอกเหนือจากร่างกายและอารมณ์ของตัวเอง คนดูจึงมีส่วนร่วมในการหาคำตอบว่าเควดตัวจริงเป็นใคร สำหรับแฟนๆ ที่เคยดูฉบับปี 1990 ผมอยากให้ลองมาดูเวอร์ชั่นนี้ เพราะถึงแม้จะมีเค้าโครงเหมือนเดิม แต่รายละเอียดจะไม่ซ้ำเดิมแน่นอนครับ ผมก็จะแสดงเป็นเควด ตามการตีความในสไตล์ของผม องค์ประกอบ ฉากทั้งหมดในหนังก็ไม่เหมือนเดิมเลย แต่จะสมจริง และชวนให้ติดตามมากขึ้น”  

   “โททอล รีคอล...ฅนทะลุโลก” เรื่องราวเกี่ยวกับความจริง และความทรงจำของ “ดักลาส เควด” คนงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ที่มักฝันถึงการเป็นสายลับทุกค่ำคืน แต่ภรรยาคนสวยของเขา “ลอรี่” (เคท เบคคินเซล) กลับคิดว่ามันเป็นแค่จินตนาการที่เขาสร้างขึ้น เพื่อหลีกหนีจากชีวิตจริงอันแสนน่าเบื่อ แต่แล้ววันหนึ่งความฝันของเขาก็ทำท่าจะกลายเป็นจริง เมื่อ บริษัท รีคอล เสนอบริการทำฝันให้เป็นจริง จนเขาได้เป็นสายลับสมใจ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อกระบวนการสร้างความทรงจำผิดพลาด ทำให้เขาถูกตามล่าจากตำรวจ ก่อนที่เขาจะได้รับการช่วยเหลือจากสาวปริศนา “เมลินา” (เจสสิก้า บีล) “ดักลาส” จึงต้องค้นหาคำตอบให้ได้ ว่าระหว่างโลกในจินตนาการ และความจริง เขาเป็นใครกันแน่ และเขาจะทวงความทรงจำกลับคืนมาสำเร็จหรือไม่

พบการเดินทางสู่จอเงินครั้งใหม่ ของ “โททอล รีคอล...ฅนทะลุโลก” (Total Recall) สิ่งใดจริง สิ่งใดลวง พิสูจน์ด้วยตาคุณเอง ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม 2555 ในโรงภาพยนตร์ พร้อมกันทั่วโลก!!!
« Last Edit: July 26, 2012, 06:50:40 AM by FB »

FB on July 19, 2012, 04:54:56 PM













FB on July 19, 2012, 04:56:52 PM
TOTAL RECALL

ข้อมูลงานสร้างเบื้องต้น
สำหรับฤดูร้อนปี 2012 ของโซนี่ พิคเจอร์ส

   Total Recall เป็นภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์เกี่ยวกับความจริงและความทรงจำ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องสั้นที่โด่งดังเรื่องWe Can Remember It For You Wholesale โดยฟิลิป เค. ดิ๊ค เวลคัม ทู รีคอล เป็นบริษัทที่สามารถเปลี่ยนความฝันของคุณให้กลายเป็นความทรงจำที่แท้จริงได้ สำหรับหนุ่มโรงงานที่ชื่อดักกลาส เควด (โคลิน ฟาร์เรล) แม้ว่าเขาจะมีภรรยาสาวสวย (เคท เบคคินเซล) ผู้ที่เขารัก การปล่อยจิตใจให้เตลิดไปฟังดูเหมือนการพักผ่อนที่แสนเฟอร์เฟ็กต์จากชีวิตที่น่าหงุดหงิดของเขา ความทรงจำที่กลายเป็นจริงของชีวิตในฐานะสุดยอดสายลับอาจเป็นสิ่งที่เขาต้องการก็ได้ แต่เมื่อกระบวนการผิดพลาดอย่างมหันต์ เควดก็กลายเป็นชายผู้ถูกตามล่า เมื่อเขาพบว่าตัวเองต้องหลบหนีการไล่ล่าจากตำรวจ ที่ถูกสั่งการโดยผู้ว่าการโคฮาเกน (ไบรอัน แครนสตัน) ก็ไม่มีใครที่เควดสามารถไว้วางใจได้เลย อาจจะเว้นแต่เพียงนักสู้หัวขบถ (เจสสิก้า บีล) ที่ทำงานให้กับหัวหน้ากลุ่มต่อต้านใต้ดิน (บิล ไนฮีย์) เท่านั้น เส้นแบ่งระหว่างความฝันและความจริงกลายเป็นภาพเลือนรางและชะตากรรมของโลกใบนี้อยู่บนขอบเหวเมื่อเควดค้นพบตัวตนที่แท้จริง รักแท้จริงและชะตากรรมที่แท้จริงของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยเลน ไวส์แมน บทภาพยนตร์โดยเคิร์ท วิมเมอร์และมาร์ค บอมแบ็ค และเรื่องราวภาพยนตร์โดยโรนัลด์ ชูเซ็ทท์และแดน โอ’ แบนนอน ร่วมด้วยจอน โพวิล ผู้อำนวยการสร้างคือนีล เอช. มอริทซ์และโทบี้ แจฟฟ์

   โคลัมเบีย พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างของออริจินอล ฟิล์ม ภาพยนตร์โดยเลน ไวส์แมน Total Recall นำแสดงโดยโคลิน ฟาร์เรล, เคท เบคคินเซล, เจสสิก้า บีล, ไบรอัน แครนสตัน, จอห์น โชและบิล ไนฮีย์ กำกับโดยเลน ไวส์แมน อำนวยการสร้างโดยนีล เอช. มอริทซ์และโทบี้ แจฟฟ์ บทภาพยนตร์โดยเคิร์ท วิมเมอร์และมาร์ค บอมแบ็ค และเรื่องราวภาพยนตร์โดยโรนัลด์ ชูเซ็ทท์และแดน โอ’ แบนนอน ร่วมด้วยจอน โพวิล ด้วยแรงบันดาลใจจากเรื่องสั้น We Can Remember It for You Wholesaleโดยฟิลิป เค. ดิ๊ค ผู้ควบคุมงานสร้างคือริค คิดนีย์และเลน ไวส์แมน ผู้กำกับภาพคือพอล คาเมรอน, เอเอสซี ผู้ออกแบบงานสร้างคือแพทริค ทาทูปูลอส มือลำดับภาพคือคริสเตียน แว็กเนอร์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายคือซันยา มิลโควิค เฮย์ส ดนตรีโดยแฮร์รี เกร็กสัน-วิลเลียมส์ เครดิตอาจมีการปรับเปลี่ยนภายหลัง








เกี่ยวกับภาพยนตร์
   การเดินทางสู่จอเงินครั้งใหม่ของ Total Recall เริ่มต้นขึ้นในปี 2008 ในตอนที่ผู้อำนวยการสร้างโทบี้ แจฟฟ์กำลังเดินดูชั้นหนังสือไซไฟในร้านหนังสือ “ผมเดินดูหนังสือที่ผมเคยอ่านสมัยเป็นวัยรุ่น และผมก็หยิบรวมนิยายของฟิลิป เค. ดิ๊คขึ้นมาและอ่านเรื่องสั้นเรื่อง We Can Remember It for You Wholesale ครับ” เขาเล่า “ผมจำได้ว่ามันเป็นเหมือนความฝันที่ถูกเติมเต็มน่ะ”
   แน่นอนว่าเรื่องราวของดิ๊คถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาก่อนในปี 1990 ภายใต้ชื่อ Total Recall แจฟฟ์เริ่มคิดว่าน่าจะถึงเวลาอันสมควรแล้วสำหรับการนำเรื่องราวนี้ของดิ๊คขึ้นสู่จอเงินอีกครั้ง เขาก็เลยนำไอเดียนี้ไปเสนอให้กับมอริทซ์ ผู้อ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้และได้ดูภาพยนตร์ฉบับปี 1990 ซ้ำอีกครั้ง
   “เรารู้สึกเหมือนว่าเราสามารถสร้างเวอร์ชันใหม่ของเรื่องราวดั้งเดิมขึ้นมาได้” มอริทซ์บอก “ด้วยการตีความเรื่องราวนี้ใหม่ เราคิดว่าเราน่าจะล้วงลึกลงไปในตัวละครและเรื่องราวได้มากขึ้น และมันก็ให้ความรู้สึกสดใหม่สำหรับเราครับ”
   เหตุผลก็คือเรื่องราวของดิ๊คให้ความรู้สึกแปลกใหม่ไม่ต่างอะไรกับตอนที่มันถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในยุค 60s “ความอัจฉริยะของเรื่องราวนี้ก็คือไอเดียที่ว่าคุณสามารถปลูกฝังความทรงจำลงไปในหัวของใครบางคน และเมื่อพวกเขาฟื้นขึ้นมา พวกเขาก็จะรู้สึกเหมือนว่าเคยใช้ชีวิตแบบนั้นจริงๆ” แจฟฟ์เล่า ประเด็นนี้เป็นตัวเปิดทางไปสู่คำถามมากมาย อะไรคือความทรงจำ? เราจะรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ในอดีต?
   “คอนเซ็ปต์นั้นของRecall ตามที่ฟิลิป เค. ดิ๊คได้สร้างขึ้นมาในเรื่องราวของเขา คือสิ่งที่ทำให้ผมอยากจะกำกับหนังเรื่องนี้” เลน ไวส์แมน ผู้เป็นที่รู้จักดีที่สุดจากการกำกับ Underworld สองภาคแรกรวมถึง Live Free and Die Hard กล่าว นอกจากนี้ เขายังมีแบ็คกราวน์ในแผนกศิลป์ ด้วยการได้ทำงานในภาพยนตร์ไซไฟฮิตทุนหนาอย่าง Independence Day และStargate ด้วย มุมมองของไวส์แมนคือการเจาะลึกลงไปในตัวละครหลักด้วยการสร้างลูกผสมของทริลเลอร์จิตวิทยาและแอ็กชันที่บังเอิญมีเรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้นเอง
   “เลนเข้าใจหนังประเภทนี้ดีกว่าผู้กำกับคนไหนๆ ที่ยังทำงานอยู่ในปัจจุบันครับ” มอริทซ์บอก “เราโชคดีที่เขาอยากจะกำกับเรื่องนี้ และเราก็โลดแล่นไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วเมื่อทำงานกับเขาครับ”
   แทนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นบนดาวอังคาร์ ไวส์แมนจำกัดเหตุการณ์ให้อยู่บนโลกในอนาคตไกลโพ้น ที่ถูกแบ่งออกเป็นสองประเทศ นั่นคือสหพันธรัฐบริเทนและนิวเอเชีย เช่นเดียวกับเรื่องราวของดิ๊ค ไวส์แมนกล่าวว่า “ยังมีประสบการณ์อีกแบบหนึ่งบนโลกที่เราจะพาตัวละครตัวนี้ไปครับ”
   สำหรับผู้ที่จะมารับบท เควด ตัวละครเอกของเรื่อง ไวส์แมนได้เลือกโคลิน ฟาร์เรล “มันสำคัญมากที่เควดเป็นแค่คนธรรมดา” แจฟฟ์กล่าว “โคลินดึงเอาความอัจฉริยะมาใช้ในฐานะนักแสดง บนหน้าจอ เขามีเสน่ห์น่าชื่นชอบบางอย่างที่คุณจะรู้สึกว่าเขาเป็นคนจริงๆ ที่อาจจะเป็นหนุ่มโรงงานจริงๆ ได้ครับ”
   “มันเป็นเรื่องราวธรรมดาๆ ของผู้ชายที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ควร เป็นคนที่รู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่เขามีอยู่ในชีวิต” ฟาร์เรลกล่าว “แต่เมื่อเขาถูกปลุกให้ตื่นอย่างรุนแรง ซึ่งก็คือการที่เขาไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เขาควรจะเป็นจริงๆ เควดไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร นอกเหนือไปจากร่างกายหรืออารมณ์ของตัวเอง หนังทั้งเรื่องเป็นเรื่องของเขาที่พยายามจะหาคำตอบว่าเควดตัวจริงคือใคร”
   “ผมอยากจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของเควดให้มากขึ้นอีก” ไวส์แมนอธิบาย “ผมหมายถึง ลองนึกดูสิครับ พอคุณตื่นขึ้นมา คุณใช้ชีวิตไปตาปกติ คุณรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนดี...แต่จู่ๆ ทุกคนรอบตัวคุณก็เริ่มบอกว่าคุณเป็นคนเลว คุณจะทำยังไงล่ะครับ?”
   เมื่อคำนึงถึงเรื่องนั้น ฟาร์เรลก็มองบทนี้ว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างอารมณ์และความคิดและพยายามที่จะคงสมดุลนั้นไว้ “มันนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับอัตลักษณ์ อีโก้ และซูเปอร์อีโก้ครับ และการดำดิ่งเข้าไปในเรื่องจิตวิทยาแบบนั้นก็สนุกดีเหมือนกัน”เขากล่าว
   หลังจากนั้น ทีมผู้สร้างก็ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการคัดเลือกนักแสดงสำหรับบทหญิงแกร่งสองคน ลอรี่และเมลินา
   สำหรับบท ลอรี่ ภรรยาของเควด ภรรยาที่ดูเหมือนรักใคร่ ผู้พลิกผันกลายเป็นนักฆ่าเลือดเย็น ทีมผู้สร้างได้เลือกเคท เบคคินเซล ภรรยาเจ็ดปีในชีวิตจริงของไวส์แมน ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน Underworld
   เบคคินเซลกล่าวว่า เธอรู้สึกสนใจโปรเจ็กต์นี้เป็นพิเศษเพราะธรรมชาติสองด้านของบทนี้ “ฉันไม่เคยเล่นบทร้ายมาก่อน ฉันมักจะอยู่ข้างของความจริงและความยุติธรรมมาโดยตลอด” เธอกล่าว “แต่ความจริงคือ ตัวละครของฉันคิดว่าเธออยู่ข้างของความจริงและความยุติธรรมค่ะ แล้วมันก็มีด้านที่บ้าหน่อยๆ ของเธอ เธอออกจะอยู่นอกเหนือการควบคุมนิดๆ และนั่นก็เป็นเรื่องสนุกเสมอสำหรับนักแสดงค่ะ”
   เมลินา ผู้หญิงอีกคนหนึ่งในชีวิตของเควด ปรากฏตัวครั้งแรกในฝันร้ายที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ของเขา และหลังจากนั้น เธอก็ปรากฏตัวขึ้นจริงๆ เพื่อช่วยให้เขาค้นพบชีวิตเดิมของเขา ที่ถูกลบหายไป
   สำหรับบทเมลินานี้ ทีมผู้สร้างต้องการนักแสดงหญิง ที่สามารถรับมือความยุ่งยากทางกายภาพของบทนี้ และมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับเบคคินเซลด้วย และไวส์แมนก็ได้เลือกนักแสดงหญิงมากความสามารถ เจสสิก้า บีลมารับบทนี้
   บีลสนใจบทนี้เพราะธีมของเรื่อง “เราต่างก็สนใจในประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในเรื่องราวของฟิลิป เค. ดิ๊ค ทั้งเรื่องอัตลักษณ์และความสัมพันธ์ค่ะ” บีลกล่าว “มันเป็นเรื่องโศกนาฏกรรมรักระหว่างเมลินาและเควดค่ะ เขาจำเธอไม่ได้...เขาจำไม่ได้ว่าพวกเขารักกันและกัน ว่าพวกเขามีความผูกพันกันอย่างดูดดื่ม นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันสนใจค่ะ”
   สำหรับบทโคฮาเกน ผู้ว่าการไร้ปรานีแห่งสหพันธรัฐบริเทน ทีมผู้สร้างได้เลือกไบรอัน แครนสตัน ผู้ได้รับสามรางวัลเอ็มมี อวอร์ด และได้รับการเสนอชื่อชิงสามรางวัลลูกโลกทองคำจากการแสดงนำของเขาในซีรีส์ Breaking Bad
   “ไบรอันมีความจริงจัง ความสง่างามและมีความอันตราย ในแบบที่ปรากฏบนหน้าจอ” แจฟฟ์กล่าว “มันเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นนักแสดงที่เป็นที่ต้องการตัวสูงครับ”
   แครนสตันอธิบายว่าเขาไม่เคยมองตัวละครตัวนี้ว่าเป็น “วายร้ายกระดิกหนวด สำหรับผมแล้ว ตัวละคร โคฮาเกน เป็นบทที่น่าสนใจก็เพราะผมอยากจะนำเสนอคนที่มีความต้องการ ความปรารถนาและความกระหายที่จะได้ควบคุม” เขากล่าว “ในขณะเดียวกัน เขาก็ชื่นชอบตัวละครของโคลิน ฟาร์เรลอย่างมาก และผมก็อยากจะถ่ายทอดบทเขาออกมาเป็นเหมือนพ่อ ที่จะปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน ที่ต้องการความรักบ้างน่ะครับ”
   นักแสดงเจ้าของรางวัล บิล ไนฮีย์ ร่วมทีมนักแสดงในบท แมทเธียส หัวหน้ากลุ่มต่อต้านสหพันธรัฐบริเทน ไนฮีย์ ผู้ทำงานร่วมกับไวส์แมนใน Underworld ทั้งสี่ภาค กล่าวว่าตัวผู้กำกับเป็นคนแรกที่ทำให้เขาสนใจภาพยนตร์เรื่องนี้
   “ผมชอบเขามากครับ” ไนฮีย์กล่าว “เขามักจะสร้างหนังเยี่ยมๆ เสมอ และผมก็ชอบ Die Hard ของเขาด้วย แต่พอผมได้อ่านบท ผมก็เลิกอ่านไม่ได้เลย ผมอ่านไซไฟมาเยอะ และผมก็ชอบไอเดียที่เกี่ยวข้องกับโปรเจ็กต์นี้ครับ”
   ระหว่างที่การถ่ายทำเดินหน้า วิสัยทัศน์ของไวส์แมนสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้คือการสร้างสิ่งแวดล้อมที่สมจริงในกองถ่าย “เขาอยากจะสร้างให้มันสมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะเขารู้สึกว่ามันดูดีกว่าครับ” แจฟฟ์กล่าว “นักแสดงจะแสดงได้ดีกว่าในตอนที่พวกเขากระโดดลงจากรถ แทนที่จะเป็นกระโดดลจากบล็อคบนสเตจ เราได้สร้างรถในอนาคตสำหรับการถ่ายทำขึ้นมา เพื่อถ่ายทำในโลเกชันจริงๆ ครับ”

FB on July 19, 2012, 04:57:42 PM
   ด้วยความที่เขาเองก็มีแบ็คกราวน์ด้านฉากจริงๆ สิ่งสำคัญสำหรับไวส์แมนคือการสร้างฉากให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แทนที่จะสร้างมันขึ้นมาในคอมพิวเตอร์ “คนคิดเอาเองว่าคุณจะต้องเลือกใช้ CG แน่ๆ” เขาบอก “มี CG ในหนังเรื่องนี้เยอะแยะ เพราะมีบางสิ่งที่คุณทำไม่ได้ แต่ถ้าสามารถทำให้มันเป็นจริงได้ ผมก็พยายามจะทำมัน ผมรักการสร้างฉาก การวาดภาพ การสร้างสรรค์และการถ่ายทำ เมื่อมันเป็นของจริง คนก็จะตื่นเต้นครับ”
   ตัวอย่างที่ดีคือฉากไชนา ฟอล ซึ่งเป็นลิฟท์ขนาดใหญ่ ที่ดิ่งลงไปใต้ผิวโลก ผู้ออกแบบงานสร้าง แพทริค ทาทูปูลอสได้ออกแบบฉากดังกล่าว “ผมไม่เคยเห็นคอนเซ็ปต์แบบนั้นในหนังมาก่อน ลิฟท์ขนาดยักษ์ที่ทะลุลงไปใต้ดิน” เขาอธิบาย “มันทำให้ผมได้ทำสิ่งแปลกใหม่ครับ จริงๆ แล้ว มันถูกออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ของเครื่องบิน 747 ซึ่งมันก็ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยหรือสมจริงสำหรับคนที่ดูหนังเรื่องนี้ ในตอนที่คุณดูหนังเรื่องนี้ ผมอยากให้มันให้ความรู้สึกเข้าถึงได้ ที่ไม่ได้เหมือนกับว่าคุณกำลังดูหนังอยู่น่ะครับ"
   แจฟฟ์ทึ่งเมื่อเขาได้เห็นภาพยนตร์ฉบับสมบูรณ์ “ผมจำได้ว่าผมได้อ่านบทหนังเรื่องนี้แล้วคิดว่า ‘พระเจ้า! มีลิฟท์ที่ลงไปถึงแก่นโลกด้วย! เราจะสร้างมันขึ้นมาได้ยังไงเนี่ย’” แจฟฟ์บอก “แต่พอเลนและแพทริคเข้ามาเกี่ยวข้องและเราก็ได้เห็นภาพวาด มันก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น แต่จนกระทั่งเราได้ไปยืนอยู่บนสเตจและได้เห็นฉากที่เหลือเชื่อนี้ เราถึงจะเชื่อจริงๆ พวกมันมหัศจรรย์มากครับ”
   แม้กระทั่งในตอนที่ต้องใช้วิชวล เอฟเฟ็กต์ เช่นเดียวกับโฮเวอร์คราฟท์ ไวส์แมนก็ได้ผสมผสานของจริงๆ เข้ากับของเสมือนจริงทุกเมื่อที่เขาทำได้ “เราได้สร้างรถโฮเวอร์ขึ้นมาแล้วก็ตั้งมันอยู่เหนือรถซิ่ง นักแสดงจะนั่งอยู่ชั้นบน ส่วนนักซิ่งจะอยู่คันล่าง” แจฟฟ์อธิบาย “ผมชอบแบบนี้มากกว่าให้นักแสดงนั่งอยู่ในเกราะกำบังบนจอกรีนสกรีน จริงๆ แล้ว เราให้พวกเขาซิ่งมาตามถนนครับ คุณจะได้เห็นแรงสะเทือน และคุณก็จะมีการแสดงของนักแสดงที่สะท้อนถึงความสมจริงในทุกการหักเลี้ยวครับ”
   ฟาร์เรลเล่าถึงประสบการณ์นั้นว่า “เรามีรถสองคันชนประสานงากันและผมก็คงต้องบอกว่า ช่วงนั้น ผมไม่ได้อยู่ในสภาพที่ฟิตที่สุดซะด้วยสิ” เขากล่าวติดตลก “แต่ผมก็ดีใจที่พวกเขาทำแบบนี้ มันสนุกมาก และพวกเขาก็ได้กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาจริงๆ ให้เกิดขึ้นมาได้ มันมีส่วนผสมของความจริง เสียงและท้องฟ้า ในแบบที่พวกเขาไม่สามารถใส่เพิ่มเติมทีหลังได้น่ะครับ”

ประวัตินักแสดง
   โคลิน ฟาร์เรล (เควด) ชาวไอร์แลนด์ ยังคงเป็นที่จับตามองในแวดวงฮอลลีวูด ในปี 2009 เขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากการแสดงของเขาใน In Bruges และปัจจุบัน เขาก็ได้กลับไปร่วมงานกับผู้กำกับมาร์ติน แม็คโดนัฟในภาพยนตร์ซีบีเอสเรื่อง Seven Psychopaths ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของมือเขียนบท (ฟาร์เรล) ผู้ดิ้นรนที่จะหาทางจัดการกับบทภาพยนตร์ของเขาที่มีชื่อว่า Seven Psychopaths เขารู้สึกถูกดึงดูดเข้าหาการขโมยสุนัขของเพื่อนเขา (ที่รับบทโดยแซม ร็อคเวลและคริสโตเฟอร์ วอลเคน) เมื่อชิสุห์ของแก๊งสเตอร์โรคจิตหายตัวไป เขาก็พบว่าตัวเองเจอกับเรื่องดรามามากเกินพอสำหรับบทภาพยนตร์ของเขา ถ้าเพียงแต่เขาจะมีชีวิตรอดนานพอที่จะเขียนทุกอย่างได้น่ะนะ
   ในฤดูใบไม้ผลิปี 2012 เขาจะเริ่มต้นถ่ายทำภาพยนตร์อินดีเรื่อง Dead Man Down ที่เขาแสดงประกบนูมี ราเพซ ให้กับผู้กำกับนีลส์ อาร์เดน ภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องนี้จะอำนวยการสร้างโดยนีล เอช. มอริทซ์และวางแผนที่จะถ่ายทำในนิวยอร์ก
   เมื่อเร็วๆ นี้ เขาเพิ่งจะปิดกล้องภาพยนตร์โดยปีเตอร์ เวียร์เรื่อง The Way Back ที่แสดงประกบเอ็ด แฮร์ริสและจิม สเตอร์เจส ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มทหารที่วางแผนการหลบหนีหฤโหดจากค่ายกักกันไซบีเรียน ในปี 1942 นอกจากนี้ เขาเพิ่งเสร็จสิ้นจากการถ่ายทำภาพยนตร์โดยวิลเลียม โมนาฮันเรื่อง London Boulevard ที่สร้างจากหนังสือขายดีโดยเคน บรูเอน เกี่ยวกับอาชญากรทางตอนใต้ของลอนดอน ที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจากคุก และห้ามใจตัวเองที่จะไม่กลับไปใช้ชีวิตในโลกมืดอีก ด้วยการรับงานดูแลนักแสดงหญิงผู้รักสันโดษ ที่รับบทโดยเคียรา ไนท์ลีย์
   เมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้แสดงใน Fright Night, คอเมดีโดยวอร์เนอร์ บรอส. เรื่อง Horrible Bosses และOndineโดยผู้กำกับชาวไอริช นีล จอร์แดน ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชาวประมงชาวไอริช ผู้พบหญิงสาวที่เขาคิดว่าเป็นนางเงือก ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขาได้แก่ ภาพยนตร์โดยกาวิน โอ’ คอนเนอร์เรื่องPride and Glory, ภาพยนตร์โดยวู้ดดี้ อัลเลนเรื่อง Cassandra’s Dream, Miami Vice, ภาพยนตร์โดยโอลิเวอร์ สโตนเรื่อง Alexander, ภาพยนตร์โดยเทอร์เรนซ์ มาลิคเรื่อง The New World, Ask the Dust ที่สร้างจากนิยายโดยจอห์น แฟนเต้, การแสดงประกบอัล ปาชิโนในThe Recruit, A Home at the End of the World ที่สร้างขึ้นจากนิยายโดยไมเคิล คันนิงแฮม และการแสดงในภาพยนตร์โดยโจเอล ชูมัคเกอร์สองเรื่องได้แก่ Phone Booth และTigerlandผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ได้แก่ Minority Report, Daredevil, American Outlaws, SWAT และ Intermission
   โคลินเกิดและเติบโตในคาสเทิลน็อคในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เขาเป็นลูกชายของอีมอน ฟาร์เรล อดีตนักฟุตบอลและหลานชายของทอมมี ฟาร์เรล ทั้งทอมมีและอีมอนต่างก็เล่นให้กับแชมร็อค โรเวอร์ส สโมสรฟุตบอลของไอร์แลนด์ในยุค 60s
   ความใฝ่ฝันสมัยวันรุ่นของฟาร์เรลคือการเจริญรอยตามรอยเท้าของพ่อและลุงของเขา แต่ไม่นานนัก เขาก็หันไปสนใจการแสดงและเขาก็ได้เข้าเรียนที่เกตี้ สคูล ออฟ ดรามาในดับลิน ก่อนที่จะเรียนจบคอร์ส โคลินได้รับบทในมินิซีรีส์โดยเดียร์ดี้ เพอร์เซลเรื่อง Falling for a Dancer, บทนำในซีรีส์บีบีซีเรื่อง Ballykissangel และบทนำใน The War Zone ผลงานการกำกับเรื่องแรกของทิม ร็อธ
   ปัจจุบัน เขาใช้ชีวิตอยู่ในลอสแองเจลิส
   
นักแสดงหญิงชาวอังกฤษ เคท เบคคินเซล (ลอรี่)กำลังเปิดเผยตัวเองในฐานะหนึ่งในนักแสดงหญิงที่มากความสามารถที่สุดและทรงเสน่ห์ที่สุดของโลกภาพยนตร์ เธอได้รับความสนใจครั้งแรกจากภาพยนตร์โดยเคนเนธ บรานาห์เรื่อง Much Ado About Nothing ก่อนที่เธอจะรับบทนางเอกในภาพยนตร์โดยจอห์น ชเลสซิงเกอร์เรื่อง Cold Comfort Farm, ภาพยนตร์โดยวิท สติลแมนเรื่อง The Last Days of Disco ประกบโคลอี้ เซวิญญี, ภาพยนตร์โดยโจนาธาน แคปแลนเรื่องBrokedown Palace ประกบแคลร์ เดนส์และในคอเมดีสัญชาติอังกฤษเรื่อง Shooting Fish ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ได้แก่ Haunted ประกบเอเดน ควินน์และภาพยนตร์โดยมานูเอล เฟลชเรื่อง Mary Louise ou la permission
ในปี 2001 เบคคินเซลได้แสดงประกบเบน แอฟเฟล็คและจอช ฮาร์ทเน็ทท์ในอีพิคดิสนีย์เรื่อง Pearl Harbor เธอได้แสดงประกบจอห์น คูแซ็คใน Serendipity ได้แสดงประกบแมทธิว แม็คคอนนาเฮย์และแกรี โอลด์แฮมใน Tiptoes และประกบคริสเตียน เบลและฟรานซิส แม็คดอร์มานด์ในดรามารวมดาราเรื่อง Laurel Canyon ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเธอได้แก่การแสดงประกบฮิวจ์ แจ็คแมนใน Van Helsingและการนำแสดงในภาพยนตร์แวมไพร์ยอดนิยม Underworld และซีเควล Underworld: Evolution สำหรับโซนี สกรีน เจม นอกจากนี้ เธอยังรับบท ‘เอวา การ์ดเนอร์’ ตำนานแห่งโลกภาพยนตร์ในภาพยนตร์โดยมาร์ติน สกอร์เซซีเรื่อง The Aviator, ประกบลุค วิลสันในทริลเลอร์โดยสกรีน เจมส์เรื่อง Vacancy และประกบอดัม แซนด์เลอร์ในคอเมดีบล็อกบัสเตอร์เรื่อง Click ผลงานล่าสุดของเธอได้แก่ดรามาอินดีเรื่อง Snow Angels ประกบแซม ร็อคเวล ภายใต้การกำกับโดยเดวิด กอร์ดอน กรีนและดรามาอินดีเรื่อง Fragments (หรือ Winged Creatures) ประกบฟอเรสต์ วิทเทคเกอร์และดาโกตา แฟนนิง
ผลงานจอแก้วของเธอได้แก่บทนำในซีรีส์โดยเอแอนด์อีเรื่อง Emma และใน One Against the Wind สำหรับฮอลมาร์ค ฟิล์มส์ ด้านละครเวที เธอได้แสดงใน Clocks & Whistles, Sweetheart และละครโปรดักชันของบริติช เนชันแนล ทัวริงเรื่อง The Seagull
ในปี 2009 เบคคินเซลได้แสดงในคอเมดีตลกร้ายเรื่อง Everybody’s Fine ประกบโรเบิร์ต เดอนีโรและดรูว์ แบร์รีมอร์และในปีเดียวกัน เธอยังได้แสดงประกบอลัน อัลดาและแมทท์ ดิลลอนในดรามาอินดีการเมืองเรื่อง Nothing But The Truth ซึ่งทำให้เธอได้รับการยกย่องอย่างสูง ล่าสุด เธอได้แสดงในภาพยนตร์ฮิตสองเรื่องทริลเลอร์ลุ้นระทึกเรื่อง Contraband ประกบมาร์ค วอห์ลเบิร์กและ Underworld Awakening ภาคที่สี่ของแฟรนไชส์จากสกรีน เจมส์

เจสสิก้า บีล (เมลินา) ล่าสุดได้แสดงในโรแมนติกคอเมดีโดยแกร์รี มาร์แชลเรื่อง New Year’s Eve และ Valentine’s Day และในแอ็กชันผจญภัยเรื่อง The A-Team หลังจากนี้ เธอจะได้แสดงในทริลเลอร์เรื่อง The Tall Man และคอเมดีเกี่ยวกับกีฬาเรื่อง Playing the Field นอกจากนี้ เธอยังจะได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง Alfred Hitchcock and the Making of Psycho ประกบแอนโธนี ฮ็อปกินส์, เฮเลน เมอร์เรนและสการ์เล็ตต์ โยฮันสันอีกด้วย
   ก่อนหน้านี้ บีลได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมอย่างล้นหลามจากการแสดงของเธอในทริลเลอร์เรื่อง The Illusionist ผลงานของเธอในเรื่องนั้นทำให้เธอได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์มากมาย ซึ่งรวมถึงรางวัลการแสดงยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์นิวพอร์ท บีช, รางวัลไชนิง สตาร์ อวอร์ดจากงานเทศกาลภาพยนตร์มาวีและรางวัลดาราดาวรุ่งจากงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปาล์ม สปริงส์
   นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ เธอยังได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์อินดีเรื่อง Easy Virtue ที่เปิดตัวท่ามกลางเสียงวิจารณ์แง่บวกในงานเทศกาลภาพยนตร์โตรอนโตปี 2008 ก่อนที่จะเข้าฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์กรุงโรม ลอนดอนและไทรเบกา นอกจากนี้ เธอยังได้แสดงในคอเมดีที่ฮิตทั่วโลกอย่าง I Now Pronounce You Chuck & Larry อีกด้วย
   ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของบีลได้แก่ภาพยนตร์โดยลี ทามาโฮรีเรื่อง Next, Elizabethtown ที่เขียนบทและกำกับโดยคาเมรอน โครว์, ภาพยนตร์โดยร็อบ โคเฮนเรื่อง Stealth, Blade: Trinity,รีเมกยอดนิยม The Texas Chainsaw Massacre และ Summer Catch

FB on July 19, 2012, 04:58:17 PM
ประวัติทีมผู้สร้าง
เลน ไวส์แมน (ผู้กำกับ/ผู้ควบคุมงานสร้าง)เริ่มต้นทำงานในแผนกศิลป์ในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์สเปเชียล เอฟเฟ็กต์หลายเรื่องเช่น Godzilla, Men in Black และ Independence Day เขาเขียนบทและกำกับทั้ง Underworld และ Underworld Evolution และกำกับบรูซ วิลลิสในภาพยนตร์แอ็กชันเรื่อง Live Free or Die Hard
ไวส์แมนรับหน้าที่ผู้กำกับในตอนไพลอทของ Hawaii Five-0 และได้อำนวยการสร้าง Underworld: Awakening ภาคล่าสุดของแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเรื่องหนึ่ง

เคิร์ท วิมเมอร์ (บทภาพยนตร์โดย)เป็นมือเขียนบทและผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกัน วิมเมอร์เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซาธ์ ฟลอริดาและสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาประวัติศาสตร์ศิลป์ เขาย้ายไปลอสแองเจลิส ที่ซึ่งเขาทำงานเป็นเวลาสิบสองปีในฐานะมือเขียนบท ด้วยการดัดแปลงผลงานต่างๆ เช่น Sphereที่นำแสดงโดยดัสติน ฮอฟแมนและ The Thomas Crowne Affairที่นำแสดงโดยเพียร์ซ บรอสแนน
ในปี 2002 วิมเมอร์ได้เปิดตัวผลงานการกำกับเรื่องแรกของเขา Equilibriumที่นำแสดงโดยคริสเตียน เบลและเอมิลี วัตสัน นอกจากนี้ วิมเมอร์ยังได้เขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่อง Ultraviolet ที่นำแสดงโดยมิลลา โจโววิชและได้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Street Kings ที่นำแสดงโดยคีอานู รีฟส์และฟอเรสต์ วิทเทคเกอร์ บทภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาคือ Law Abiding Citizen ที่นำแสดงโดยเจอราร์ด บัตเลอร์และเจมี ฟ็อกซ์ ให้กับผู้กำกับเอฟ. แกรี เกรย์และ Salt ที่นำแสดงโดยแองเจลินา โจลี

นอกเหนือจาก Total Recall แล้วมาร์ค บอมแบ็ค (บทภาพยนตร์โดย) ยังได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Unstoppable, Race to Witch Mountain, Live Free or Die Hard, Deception และ Godsend เมื่อเร็วๆ นี้ เขาเพิ่งเสร็จสิ้นจากการเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง The Art of Racing in the Rain (ยูนิเวอร์แซล) และ Shadow Divers (ทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์) รวมไปถึงการปรับแก้บทภาพยนตร์เรื่อง The Wolverine ให้กับผู้กำกับเจมส์ แมนโกลด์ นอกจากนี้ มาร์คยังได้สอนคอร์สการเขียนบทที่มหาวิทยาลัยเวสเลยัน ที่เขาจบมา เขาใช้ชีวิตในนิวยอร์กกับภรรยาและลูกๆ สี่คน

ผลงานภาพยนตร์ไซไฟ แอ็กชันและสยองขวัญของโรนัลด์ ชูเซ็ทท์ (เรื่องราวโดย) ได้ทำรายได้ถล่มทลายทั่วโลกไปกว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญ เขาได้ควบคุมงานสร้างภาพยนตร์โดยสตีเวน สปีลเบิร์กและทอม ครูซเรื่อง Minority Report ซึ่งทำรายได้กว่า 358 ล้านเหรียญทั่วโลก นอกจากนี้ เขายังได้รับตำแหน่งผู้ร่วมสนับสนุนในเรื่องนี้อีกด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากเรื่องสั้นโดยฟิลิป เค. ดิ๊ค ผู้ซึ่งผลงานของเขาเป็นที่มาของภาพยนตร์ฮิตถล่มทลายที่เป็นตัวสร้างเทรนด์ของชูเซ็ทท์เรื่องTotal Recall (1990) ที่นำแสดงโดยอาร์โนลด์ ชวอร์ซเนกเกอร์และชารอน สโตน และเขาเป็นผู้อำนวยการสร้างและร่วมเขียนบทภาพยนตร์ ซึ่งทำให้เขาได้รับตำแหน่งผู้ร่วมสนับสนุนของเรื่อง นอกจากนี้ ชูเซ็ทท์ยังได้ร่วมเขียนเรื่องราวออริจินอล ควบคุมงานสร้างและได้รับตำแหน่งผู้ร่วมสนับสนุนภาพยนตร์โดยริดลีย์ สก็อตต์เรื่อง Alien อีกด้วย
นอกเหนือจากการได้รับรางวัลออสการ์จากสเปเชียล เอฟเฟ็กต์แปลกใหม่ในAlien และ Total Recall (1990) ภาพยนตร์ของชูเซ็ทท์ยังได้รับการยกย่องจากสถาบันไซไฟ สยองขวัญและแฟนตาซี ซึ่งตัวชูเซ็ทท์เองนั้นได้รับรางวัลแซทเทิร์น อวอร์ดสาขาภาพยนตร์สยองขวัญยอดเยี่ยม (Alien) และได้รับรางวัลแซทเทิร์น อวอร์ดในอีกหลายปีให้หลังสาขาภาพยนตร์ไซไฟยอดเยี่ยม (Total Recall (1990))
นอกเหนือจากริดลีย์ สก็อตและสตีเวน สปีลเบิร์กแล้ว ชูเซ็ทท์ยังได้ร่วมงานกับผู้กำกับศิลป์และผู้กำกับที่สร้างรายได้มากมายในบ็อกซ์ออฟฟิศในยุคนี้ ซึ่งรวมถึงพอล เวอร์โฮเฟน, เดวิด โครเนนเบิร์กและแอนดรูว์ เดวิส
ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่เขาควบคุมงานสร้างหรืออำนวยการสร้าง และร่วมเขียนบทด้วยได้แก่Freejackที่นำแสดงโดยแอนโธนี ฮ็อปกินส์และมิค แจ็กเกอร์, King Kong Lives (ซีเควลของต้นฉบับ) และ  Dead and Buried ซึ่งกลายเป็นภาพยนตร์คัลท์คลาสสิกในแนวภาพยนตร์สยองขวัญร่วมสมัยทั่วโลก ใน Alien Vs. Predator (2004) ซึ่งเป็นซีเควลภาคที่ห้าของ Alien ชูเซ็ทท์ได้ร่วมรับเครดิตเรื่องราวโดยเพิ่มเติมจากเครดิต “ตัวละครเอเลียนสร้างสรรค์โดย” Alien Vs. Predator (2004)ทำรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศไป 170 ล้านเหรียญทั่วโลกและได้จัดจำหน่ายในรูปแบบดีวีดีในเดือนมกราคม ปี 2005

ผลงานของแดน โอ’ แบนนอน (เรื่องราวโดย) ได้แก่ Dark Star (1974) (เรื่องราวภาพยนตร์/บทภาพยนตร์), Alien (1979) (บทภาพยนตร์/เรื่องราว), Dead & Buried (1981) (บทภาพยนตร์), Blue Thunder (1983) (บทภาพยนตร์), The Return of the Living Dead (1985) (ผู้กำกับ/ บทภาพยนตร์), Lifeforce (1985)(บทภาพยนตร์), Invaders from Mars (1986) (บทภาพยนตร์),Total Recall (1990) (เรื่องราวภาพยนตร์/ บทภาพยนตร์), The Resurrected (1992) (ผู้กำกับ),Screamers (1995) (บทภาพยนตร์) และ Alien Vs. Predator (2004) (เรื่องราวภาพยนตร์) หนังสือเรื่องDan O’Bannon’s Guide to Screenplay Structureของเขาจะได้รับการตีพิมพ์ในฤดูใบไม้ผลิปี 2013 โอ’ แบนนอน เสียชีวิตในปี 2009

จอห์น โพวิล (เรื่องราวโดย) ที่เป็นที่รู้จักอย่างดีจากผลงานของเขาใน Star Trek – The Motion Picture และ Total Recall (1990) ได้เขียนบทภาพยนตร์สำหรับยูนิเวอร์แซลและอัลลายด์ อาร์ติสท์ พิคเจอร์ส รวมถึงโปรเจ็กต์สำหรับ หรือร่วมกับคนดังของวงการหลายคน ซึ่งรวมถึงเจ้าของสี่รางวัลออสการ์ โรเบิร์ต ไวส์, เอ็มมานูเอล แอล. วูลฟ์, โรเบิร์ต วัตส์และยีน ร็อดเดนเบอร์รี เขาได้เขียนบทเอพิโซดซีรีส์โทรทัศน์หลายเรื่องและได้พัฒนาตอนไพล็อตกับฟ็อกซ์, คุชเนอร์-ล็อคและผู้อำนวยการสร้างทีวีในตำนานอย่างเฟร็ด ซิลเวอร์แมนและลี ริชด้วย
โพวิลได้เข้าสู่วงการนี้หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจากยูซีแอลเอไม่นาน โดยเขาได้รับตำแหน่งบรรณาธิการเรื่องราวในซีรีส์ Star Trek Phase II ซึ่งท้ายที่สุดก็นำไปสู่ Star Trek – The Motion Picture ซึ่งเขารับหน้าที่ผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้างด้วย นอกจากนี้ เขายังได้รับเครดิตเรื่องราวสำหรับ Total Recall (1990) และมีบทบาทสำคัญในซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Sliders โดยเขาได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษฝ่ายบทภาพยนตร์สำหรับซีซันแรกและตำแหน่งมือเขียนบทและผู้อำนวยการสร้างสำหรับซีซันที่สอง

FB on August 01, 2012, 08:46:52 AM
ในปี 1952 ฟิลิป เค. ดิ๊ค (ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องสั้น We Can Remember It for You Wholesale โดย) เริ่มต้นเขียนงานเป็นอาชีพ และท้ายที่สุด เขาก็ได้ตีพิมพ์นิยาย 45 เรื่อง และเรื่องสั้นกว่า 120 เรื่อง
เขาได้รับรางวัลมากมายจากผลงานของเขา ซึ่งรวมถึงรางวัลฮิวโก้ อวอร์ดสาขานิยายยอดเยี่ยมในปี 1962 จาก The Man in the High Castle และรางวัลจอห์น ดับบลิว. แคมป์เบล เมโมเรียล อวอร์ดสาขานิยายไซไฟยอดเยี่ยมในปี 1974 จาก Flow My Tears, the Policeman Said ผลงานของเขาได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อดังมากมายเช่น Blade Runner, Total Recall (1990), Minority Report, A Scanner Darkly และ The Adjustment Bureau อีเลคทริค เชพเพิร์ด โปรดักชันส์ ซึ่งเป็นแผนกด้านบันเทิงของบริษัทที่ดูแลทรัพย์สินของฟิลิป เค. ดิ๊ค ยังคงเดินหน้าพัฒนาโปรเจ็กต์ภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่สร้างขึ้นจากผลงานของเขาอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่ที่เขาเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 53 ปี เขาก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเขียนไซไฟที่ได้รับการยกย่องและทรงอิทธิพลสูงสุดของอเมริกา ในปี 2007 ฟิลิป เค. ดิ๊คได้กลายเป็นนักเขียนไซไฟคนแรกที่ถูกบรรจุชื่ออยู่ในหอสมุดแห่งอเมริกา

นีล เอช. มอริทซ์(ผู้อำนวยการสร้าง) ผู้ก่อตั้งออริจินอลอำนวยการสร้างงานภาพยนตร์และโทรทัศน์มากว่าสามทศวรรษ ผลงานล่าสุดของเขาแอ็กชันคอเมดีโดยโคลัมเบียเรื่อง 21 Jump Street เปิดตัวในเดือนมีนาคม และทำรายได้ถล่มทลายในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว ก่อนหน้านั้น ผลงานเรื่อง Fast 5 ซึ่งเป็นภาคห้าของแฟรนไชส์ The Fast and the Furious ได้เป็นการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของวิน ดีเซล, พอล วอล์คเกอร์, จอร์แดนา บรูว์สเตอร์และไทริสและได้เพิ่มดเวย์น “เดอะ ร็อค” จอห์นสันเข้ามา ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวด้วยรายได้ 86 ล้านเหรียญและทำรไปกว่า 626 ล้านเหรียญทั่วโลก ปัจจุบัน มอริทซ์กำลังอยู่ระหว่างการทำงานขั้นตอนโพสต์โปรดักชันในภาพยนตร์โดยวอร์เนอร์ บรอส. เรื่อง Jack the Giant Killer ที่กำกับโดยไบรอัน ซิงเกอร์และภาพยนตร์โดยยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สเรื่อง R.I.P.D. ที่นำแสดงโดยไรอัน เรย์โนลด์ส, เจฟฟ์ บริดเจสและเควิน เบคอน
   2012 จะเป็นปีที่งานชุมสำหรับออริจินอล ฟิล์ม งานถ่ายทำภาคที่หกและเจ็ดของแฟรนไชส์ Fast and Furious จะเริ่มต้นขึ้นในซัมเมอร์นี้รวมถึงภาพยนตร์ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากไอเอ็ม โกลบอลเรื่อง Dead Man Down ที่นำแสดงโดยโคลิน ฟาร์เรลและนูมี ราเพซ และกำกับโดยนีลส์ อาร์เดน ออพเวล (ไตรภาคThe Girl With the Dragon Tattoo ของสวีเดน) นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนที่จะสร้างรีเมกเรื่อง Highlander โดยซัมมิท เอนเตอร์เทนเมนต์ในปีนี้ โดยมีฮวน คาร์ลอส เฟรสนาดิลโลเป็นผู้กำกับอีกด้วย
ความสำเร็จของมอริทซ์ซึ่งมีผลงานภาพยนตร์กว่า 40 เรื่องของเขารวมถึงThe Change-Up, Battle: Los Angeles, The Green Hornet, The Fast and Furious series, I Am Legend, XXX, S.W.A.T., Made of Honor, Gridiron Gang, Bounty Hunter, Evan Almighty, Sweet Home Alabama, Click, Vantage Point, Out of Time, Blue Streak, Cruel Intentions, I Know What You Did Last Summer, The Skulls, Volcano, Urban Legend และ Juice ผลงานของออริจินอล ฟิล์มทำรายได้กว่าสองพันล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก
ผลงานจอแก้วของมอริทซ์รวมถึงภาพยนตร์เอชบีโอเรื่อง The Rat Pack ที่ได้รับการเสนอชื่อชิง 11 รางวัลเอ็มมี, ดรามาเรื่อง Prison Breakโดยทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์และซีรีส์ชื่อดังโชว์ไทม์เรื่อง The Big C ที่นำแสดงโดยลอราลินนีย์ผู้ซึ่งได้รับรางวัลลูกโลกทองคำในปี 2011 จากบทเคธีของเธอ มอริทซ์สำเร็จการศึกษาสาขาเศรษฐศาสตร์จากยูซีแอลเอก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทในหลักสูตรปีเตอร์สตาร์คโมชัน พิคเจอร์ส โปรดิวซิงโปรแกรมจากมหาวิทยาลัยเซาเธิร์นแคลิฟอร์เนีย

โทบี้ แจฟฟ์ (ผู้อำนวยการสร้าง) ปัจจุบัน ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างที่ออริจินอล ฟิล์ม หนึ่งในผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีผลงานหลากหลายที่สุดในวงการปัจจุบัน บริษัทแห่งนี้ได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ยอดนิยมมากมายเช่นแฟรนไชส์ The Fast and The Furious, I Know What You Did Last Summer, Sweet Home Alabama, Vantage Point, Prom Night, The Green Hornet, Battle Los Angeles และล่าสุด 21 Jump Street ในปี 2012 พวกเขาจะส่ง Total Recall และ RIPD เข้าฉายในโรงภาพยนตร์
   ก่อนหน้าที่จะได้เข้าทำงานที่ออริจินอล แจฟฟ์ได้ทำงานอยู่ที่เอ็มจีเอ็มในฐานะรองประธานบริหารฝ่ายโปรดักชันนานสามปี ระหว่างที่เขาทำงานอยู่ที่เอ็มจีเอ็ม เขาได้ดูแลงานสร้างภาพยนตร์หลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ฮิตเรื่อง The Pink Panther ที่นำแสดงโดยสตีฟ มาร์ติน, Walking Tallที่นำแสดงโดยดเวย์น “เดอะ ร็อค” จอห์นสันและ The Amityville Horror ก่อนหน้าที่จะเข้าทำงานที่เอ็มจีเอ็ม แจฟฟ์ได้บริหารงานบริษัทโปรดักชันอิสระของตัวเองและได้ร่วมงานกับนักแสดงที่มีพรสวรรค์สูงสุดของฮอลลีวูดหลายคน อาทิแองเจลินา โจลี, มาร์ค วอห์ลเบิร์กและมาร์ติน ลอว์เรนซ์ ด้วยการอำนวยการสร้างภาพยนตร์ที่โด่งดังอย่าง Rock Star, Life of Something Like It และภาพยนตร์คอเมดีฮิตเรื่อง Blue Streak ก่อนหน้านั้น เขาได้ดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายโปรดักชันให้กับเดอะ อินดี้พร็อด คัมปะนี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างโซนี พิคเจอร์ส เอนเตอร์เทนเมนต์และแจแปน แซทเทิลไลท์ บรอดคาสท์ติ้ง ระหว่างนั้น เขาได้ร่วมงานกับคนดังมากมายเช่นลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, รัสเซล โครว์, เคนเนธ บรานาห์และแซม ไรมี ในช่วงที่เขาได้ดูแลภาพยนตร์ชื่อดังมากมายเช่น The Quick and the Dead, Mary Shelley’s Frankenstein และ Universal Soldier
   แจฟฟ์เริ่มต้นทำงานในแวดวงบันเทิงด้วยการเป็นเอเจนท์ที่เดอะ ลีดดิ้ง อาร์ติสท์ เอเจนซี หลังจากที่บริษัทแห่งนั้นได้ควบกิจการกลายเป็นยูไนเต็ด ทาเลนท์ เอเจนซี เขาก็ขยับไปเป็นหัวหน้าแผนกวรรณกรรมภาพยนตร์และทำหน้าที่ตัวแทนของนักเขียน ผู้อำนวยการสร้าง และผู้กำกับ ซึ่งในจำนวนนั้นก็รวมถึงแบร์รี ซอนเนนเฟลด์, เคอร์ติส แฮนสัน, ร็อบ โคเฮน, โบแฮซ ยากิน, แฟรงค์ ดาราบองท์และจอส วีดอน หน้าที่ในตำแหน่งนั้นของเขายังรวมถึงการรวมองค์ประกอบด้านความคิดสร้างสรรค์และการเงินต่างๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จของภาพยนตร์มากมายเช่น Twins, Point Break, Class Action, The Rookie และ Buffy The Vampire Slayer แจฟฟ์สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและใช้ชีวิตอยู่ในซานต้า มอนิก้ากับภรรยาและลูกๆ สองคน

“ACADEMY AWARD®” และ “OSCAR®” เป็นเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการจดทะเบียนของสถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์