happy on June 28, 2012, 07:31:30 PM

จัดจำหน่ายโดย      เอ็ม พิคเจอร์ส  
ภาพยนตร์เรื่อง      To Rome With Love
ชื่อภาษาไทย         “รักกระจายใจกลางโรม”   
 ภาพยนตร์แนว       โรแมนติก-คอเมดี้  
จากประเทศ        สหรัฐอเมริกา
กำหนดฉาย        26 กรกฎาคม 2555
ผู้กำกับ              Woody Allen (วู้ดดี้ อัลเลน)
อำนวยการสร้าง   Letty Aronson (เล็ตตี้ อารอนสัน),
                           Stephen Tenenbaum (สตีเฟน เทเนบอม)

นักแสดง   Alec Baldwin (อเล็กซ์ บัลด์วิน) จาก Rock of Ages, It’s Complicated

Roberto Benigni (โรเบอร์โต้ เบนิญี)จาก Life is Beautyful
    
Judy Davis (จูดี้ เดวิส) จาก The Eye of the storm, Hard Chic

Woody Allen (วูดดี้ อัลเลน) ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง Midnight in Paris,Vicky Cristina Barcelona,You will meet a talk Dark Stranger

Jesse Eisenberg (เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก) จาก The Social Network , Zombieland, Free Samples, Predisposed, 30 Minutes or Less

Penelope Cruz (เพเนโลเป้ ครูซ)  จาก Pirates of the Caribbean : on Strangen Tides,Vanilla Sky,Volver

Greta Gerwig (เกรต้า เกอร์วิก)จาก The Corrections, China, Damsels in Distress

GreEllen Page (เอลเลน เพจ) จาก Family Guy, Tilda, Super, Inception, Peacock




จุดเด่น   TO ROME WITH LOVE ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้หลากมุมมอง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คนและการผจญภัยที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา และเกิดขึ้นในเมื่องที่มีเสน่ห์ที่สุดของโลก ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบทและกำกับโดยผู้กำกับลายคามมากฝีมืออย่าง Woody Allen (วู้ดดี้ อัลเลน) ที่จะทำให้คุณหลงใหลไปกับอารยธรรมของกรุงโรม[/size][/color][/b]

เรื่องย่อ

               TO ROME WITH LOVE ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นในหนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดของโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเราไปพบกับสถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน ผู้กำลังหวนกลับไปสู่การใช้ชีวิตแบบวัยหนุ่มอีกครั้ง, ลีโอโปลโด้ หนุ่มวัยกลางคนที่แสนธรรมดาจู่ๆ ก็พบว่าตัวเองกลายเป็นเซเล็บที่  โด่งดังที่สุดในกรุงโรม, คู่สามีภรรยาหนุ่มสาวที่ถูกดึงดูดไปพบความรักที่แสนโรแมนติกกับคนที่ไม่ใช่คู่ของตัวเองและผู้กำกับละครโอเปราชาวอเมริกัน ที่ใฝ่ฝันจะผลักดันสัปเหร่อที่ร้องเพลงได้ให้ขึ้นไปยืนบนเวที
            จอห์น (อเล็กซ์ บัลด์วิน) สถาปนิกชื่อดังกำลังใช้เวลาช่วงวันหยุดพักผ่อนในกรุงโรม ที่ซึ่งเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ในวัยหนุ่ม ระหว่างที่เขาเดินอยู่ในย่านเดิมที่เขาเคยพักอาศัย เขาก็ได้พบกับแจ็ค (เจสซี ไอเซนเบิร์ก) ชายหนุ่มที่คล้ายกับตัวเขา ขณะที่เขามองแจ็คตกหลุมรักโมนิก้า(เอลเลน เพจ) เพื่อนสาวคนสวยที่ชื่นชอบการหว่านเสน่ห์ของแซลลี่ (เกรต้า เกอร์วิก) แฟนสาวของเขา จอห์นก็นึกถึงหนึ่งในช่วงเวลาที่เขาเจ็บปวดหัวใจเรื่องความรักที่สุดในชีวิตของเขาเอง
            ในเวลาเดียวกัน เจอร์รี่ (วู้ดดี้ อัลเลน) ผู้กำกับละครโอเปราที่เกษียณการทำงานแล้ว ได้บินไปกรุงโรมกับฟิลลิส (จูดี้ เดวิส) ภรรยาของเขา เพื่อพบกับมิเกลันเจโล (ฟลาวิโอ พาเรนติ) คู่หมั้นชาวอิตาลีของเฮย์เลย์ (อลิสัน พิลล์) ลูกสาวของทั้งคู่ เจอร์รี่แปลกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องเพลงของจิอันคาร์โล (ฟาบิโอ อาร์มิลิอาโต้ นักร้องเทเนอร์ชื่อดัง) พ่อผู้ทำงานเป็นสัปเหร่อของมิเกลันเจโล ที่ไพเราะคู่ควรกับเวทีลา สกาล่า ระหว่างที่เขาอาบน้ำ ด้วยความเชื่อว่าพรสวรรค์ที่โดดเด่นเช่นนี้ไม่ควรจะถูกเก็บงำไว้ เจอร์รี่ก็ฉวยโอกาสที่จะสนับสนุนจิอันคาร์โลและปลุกไ ฟการทำงานของตัวเองให้ลุกโชนขึ้นมาใหม่
            ในทางกลับกัน ลีโอโปลโด้ พิซาเนลโล (โรแบร์โต้ เบนิญี่) เป็นผู้ชายที่น่าเบื่อสุดๆ เขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งและพบว่าตัวเองกลายเป็นหนึ่งในคนที่โด่งดังที่สุดในอิตาลี โดยมีคำถามมากมายที่เขาไม่ได้รับคำตอบ ไม่นานนัก ปาปารัสซีก็คอยเกาะติดทุกการเคลื่อนไหวของเขาและตั้งคำถามทุกการกระทำของเขา ขณะที่ที่ลีโอโปลโด้เริ่มชินกับเสน่ห์เย้ายวนของความโด่งดัง เขาก็เริ่มตระหนักถึงค่าตอบแทนที่แพงระยับของความโด่งดังนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ
            ในขณะเดียวกัน แอนโตนิโอ (อเลสซันโดร ทิเบรี่) เพิ่งเดินทางจากชนบทเข้ามายังกรุงโรมด้วยความหวังที่จะทำให้ญาติผู้เคร่งขรึมของเขาประทับใจในตัว มิลลี่ ภรรยาใหม่ผู้น่ารักของเขา (อเลสซานดรา มาสโทรนาร์ดี้) เพื่อที่เขาจะได้งานในเมืองใหญ่กับเค้าบ้าง การเข้าใจผิดที่น่าขบขันและความบังเอิญทำให้ทั้งคู่พลัดหลงกันในวันนั้น แอนโตนิโอลงเอยด้วยการนำตัวสาวแปลกหน้า (เพเนโลเป้ ครูซ) มาสวมบทบาทภรรยาของเขา ในขณะที่มิลลี่ก็ถูกตามจีบโดยลูก้า ซัลต้า ดาราภาพยนตร์ในตำนาน (แอนโตนิโอ อัลบานิส)
« Last Edit: June 28, 2012, 07:38:30 PM by happy »

happy on June 28, 2012, 07:43:58 PM



เกี่ยวกับงานสร้าง

                โรมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนเมืองอื่นใดในโลก การอยู่ในกรุงโรมคือการถูกห้อมล้อมไปด้วยอนุสรณ์สถานที่เงียบงันของอารยธรรมโบราณพร้อมไปกับการได้สัมผัสความอึกทึกครึกโครมของนครหลวงสมัยใหม่ ที่อุดมไปด้วยชีวิตชีวา โรมเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของอดีตและปัจจุบัน เป็นศูนย์รวมที่น่าตื่นเต้นของวัฒนธรรม ศิลปะและอาหารที่พิเศษสุด “การเคลื่อนไหวและกิจกรรมโดยมากในกรุงโรมเกิดขึ้นกลางแจ้งในร้านอาหารเล็กๆ และท้องถนนครับ” วู้ดดี้ อัลเลนกล่าว “มันเป็นเมืองที่แค่ได้เดินเข้าไปก็น่าทึ่งแล้ว ตัวเมืองนี้เองเป็นงานศิลปะโดยแท้ครับ” โรมเป็นเมืองของคนชั้นสูงและทันสมัย รวมไปถึงคนที่อนุรักษ์นิยมมากๆ ด้วย มันดึงดูดนักท่องเที่ยวหลากหลายประเภท ตั้งแต่นักธุรกิจไปจนถึงนักท่องเที่ยว ซึ่งทุกคนผ่านเข้าออกกรุงโรม พร้อมไปกับการดื่มด่ำกับความหฤหรรษ์ของเมืองแห่งนี้ สำหรับอัลเลน มันเป็นสถานที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าจะมีพล็อตเกิดขึ้นเพียงหนึ่งเรื่องได้ “ผมรู้สึกว่ากรุงโรมเป็นสถานที่สำหรับเรื่องราวที่หลากหลาย” เขากล่าว “มันเต็มไปด้วยความเป็นไปได้มากมาย ถ้าคุณหยุดคุยกับคนโรมซักร้อยคน พวกเขาก็จะบอกคุณว่า 'ผมมาจากในเมือง ผมรู้จักเมืองนี้ดี ผมเล่าเรื่องให้คุณฟังได้เป็นล้านๆ เรื่องเลย' น่ะครับ”
            ลีโอโปลโด้ พิซาเนลโล (โรเบอร์โต้ เบนิญี่) เป็นชาวกรุงโรมธรรมดาๆ ผู้จู่ๆ ก็พบว่าตัวเองกลายเป็นหนึ่งในคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโรมไปอย่างหาสาเหตุไม่ได้ “ลีโอโปลโด้ไม่มีพรสวรรค์ใดๆ เลย เขาเป็นคนธรรมดาๆ นี่เอง” อัลเลนกล่าว “เขาไม่รู้เลยว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นคนดัง เขารู้ดีทีเดียวว่าเขาไม่ใช่คนดัง ตอนแรก ลีโอโปลโด้รู้สึกงุนงงและรำคาญความสนใจที่เขาได้รับ ก่อนที่เขาจะเริ่มชอบสิ่งเหล่านี้ โดยที่เขาเองก็ไม่ทันรู้ตัวด้วซ้ำ” เบนิญี่กล่าว “ก่อนหน้าที่เขาจะดัง ลีโอโปลโด้ก็แฮปปี้ มีความสุขดี เขาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข แต่เมื่อความปกตินั้นถูกรบกวน เขาก็สับสนงุนงง และพยายามทำความเข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่” อย่างไรก็ดี มันก็มีรอยร้าวในโลกที่ดูเหมือนจะสงบสุขของลีโอโปลโด้ก่อนหน้าที่ความโด่งดังจะก้าวเข้าสู่ชีวิตเขา ซึ่งที่ชัดเจนที่สุดคือตอนที่เขามองสาวสวยในออฟฟิศของเขาอย่างโหยหา “เขาไม่มีโอกาสได้ควงผู้หญิงระดับนั้นหรอกครับและเขาก็รู้ตัวดี” อัลเลนบอก “ไม่มีแคร์ว่าเขาจะพูดอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนังที่เขาไปดู หรือว่าเขาคิดว่าชาวจีนจะยึดครองโลกรึเปล่า แน่นอนว่าสาวสวยแบบนั้นเกินเอื้อมสำหรับเขาอยู่แล้ว จนกระทั่งจู่ๆ ทุกอย่างก็เป็นไปได้” เมื่อปาปารัสซี่เริ่มสะกดรอยตามเขา ไม่นานนัก ลีโอโปลโด้ก็ตระหนักว่าทุกอย่างที่เขาปรารถนาพร้อมรอเขาอยู่แล้ว “คุณจะถูกยั่วยวนโดยชื่อเสียงครับ” อัลเลนบอก “มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป ชื่อเสียงทำให้คุณมีโอกาสมากมายที่คนทั่วไปไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัส ดังนั้น ชื่อเสียงก็เหมือนยาเสพติดที่เย้ายวน และมันก็เวิร์คสำหรับเขาครับ” ขณะที่ลีโอโปลโด้มีความสุขกับการเป็นจุดสนใจและสาวงามมากหน้าหลายตาที่สยบแทบเท้าเขา เขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องอื่นๆ ที่มาพร้อมกับชื่อเสียงที่ไม่ทันตั้งตัวของเขาด้วย “คุณจะต้องปล่อยวางจากความเป็นส่วนตัว คุณจะถูกติดตามเสมอและทุกอย่างที่คุณทำก็จะถูกพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนครับ” อัลเลนกล่าว โรเบอร์โต้ เบนิญี่ ซูเปอร์สตาร์ตัวจริงในอิตาลี เข้าใจดีว่าประสบการณ์ที่ลีโอโปลโด้ได้เจอนั้นเป็นอย่างไร “ความฝันของผมคือการได้เดินตามท้องถนนตามปกติ ได้ดูผู้คน ได้ดื่มกาแฟ กินพิซซ่า คุยกับเพื่อนๆ ผมสูญเสียส่วนนั้นของชีวิตไปและผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้ แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ผมก็คงต้องกังวลแน่ๆ...มันเป็นความรู้สึกขัดแย้งน่ะครับ” อัลเลนกล่าวว่า “แม้ว่าการเป็นคนดังจะมีข้อเสียมากมาย ผมคงต้องบอกว่าข้อดีมันมากกว่าข้อเสียครับ คุณสามารถใช้ชีวิตกับเรื่องพวกนั้นได้เพราะสิ่งที่คุณได้รับมาเป็นการแลกเปลี่ยนคือสิ่งดีๆ มากมายครับ”
            ผู้ที่ตรงข้ามกับลีโอโปลโด้อย่างสิ้นเชิงคือจิอันคาร์โล (ฟาบิโอ อาร์มิลิอาโต้ นักร้องเทเนอร์ชื่อดัง) ชายผู้มีพรสวรรค์ แต่กลับไม่มีใครรู้จักเขา จิอันคาร์โล ผู้เป็นนักร้องโอเปราเสียงทอง ร้องเพลงเพื่อความสุขของตัวเองเท่านั้น เขาไม่เคยลองร้องเพลงท่ามกลางสาธารณชนมาก่อน “เราไม่รู้หรอกครับว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นศิลปิน” อัลเลนกล่าว ถ้าเพียงแต่สถานที่เดียวที่เชคสเปียร์สามารถเขียนงานได้คือการนั่งอยู่บนเก้าอี้กลางถนนสายที่ 42 ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเข้าใจได้ จิอันคาร์โลสามารถร้องเพลงได้ภายใต้สถานการณ์ที่พิเศษมากๆ เท่านั้น”
            จิอันคาร์โลดูเหมือนจะไม่แคร์ชื่อเสียง แต่การได้พบกับเจอร์รี่ (วู้ดดี้ อัลเลน) พ่อตาในอนาคตของลูกสาวเขา ก็เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เจอร์รี่ อดีตผู้กำกับละครโอเปรา ผู้รู้สึกอึดอัดกับการใช้ชีวิตหลังเกษียณ รู้สึกว่าเขาไม่เคยสร้างผลงานที่โดดเด่นจริงๆ ให้กับโลกใบนี้เลย “เขาทดลองสิ่งแปลกใหม่ แต่มันก็ไม่เวิร์ค และเขาก็ไม่เคยได้รับชื่อเสียงหรือการยอมรับอย่างที่เขาต้องการเลยล่ะครับ” อัลเลนกล่าว “เขาหงุดหงิด และเมื่อเขามีโอกาสจะหาประโยชน์จากพรสวรรค์ของจิอันคาร์โลได้ เขาก็ฉวยมันไว้ครับ” ในตอนแรก เจอร์รี่จะต้องเอาฝ่าฟันอุปสรรคในรูปแบบของ มิเกลันเจโล (ฟลาวิโอ พาเรนติ) ลูกชายซ้ายจัดของจิอันคาร์โลและลูกเขยในอนาคตของเขา ผู้ค้านไอเดียของการที่พ่อผู้ถ่อมตัวของเขาจะถูกผลักดันโดยเจอร์รี่เข้าสู่โลกของความบันเทิงสาธารณะอย่างรุนแรง มิเกอันเจโลที่เป็นห่วงพ่อ ไม่ทันนึกถึงความต้องการที่แท้จริงของพ่อเขาเลย อัลเลนกล่าวว่า “ผมคิดว่าคนที่มีพรสวรรค์จริงๆ ก็ต้องได้รับการปลดปล่อยออกมา ไม่ช้าก็เร็ว คุณก็อยากจะถ่ายทอดมันออกมา ผมมั่นใจว่าจิอันคาร์โลก็เหมือนกับทุกคน เขาอยากให้คนอื่นได้ยินเสียงของเขาและได้สัมผัสกับช่วงเวลาแห่งการเปิดเผย ที่เขาร้องเพลงและคนจะประทับใจไปกับเพลงของเขาน่ะครับ”
            ในขณะที่ มิลลี่ (อเลสซานดรา มาสโทรนาร์ดี้) อีกหนึ่งตัวละครใน  TO ROME WITH LOVE แม้จะไม่มีพรสวรรค์พิเศษอะไร แต่เธอก็ได้พบกับนักแสดงผู้มีพรสวรรค์ มิลลี่มาจากเมืองในชนบท เดินทางเข้ามาในกรุงโรมพร้อมกับสามีที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ ของเธอ แอนโตนิโอ (อเลสซานโดร ทิเบรี่) เพื่อค้นหาชีวิตใหม่ในเมืองใหญ่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความประทับใจที่พวกเขาสามารถสร้างให้กับญาติผู้ร่ำรวยของแอนโตนิโอ ผู้สามารถมอบงานระดับสูงให้กับเขาได้ ด้วยความพยายามที่จะทำตัวให้ดูดีที่สุด มิลลี่ก็เลยไปหาช่างทำผม แต่เธอกลับหลงทางในถนนที่วกวนราวเขาวงกตในกรุงโรม ในขณะเดียวกัน แอนโตนิโอที่อยู่ในห้องโรงแรมก็ต้องตกใจกับการปรากฏกายของแอนนา (เพเนโลเป้ ครูซ) นางโทรศัพท์ผู้หลงผิดคิดว่าเธอถูกจ้างมาให้มีเซ็กส์กับเขา แอนโตนิโอ ที่ปฏิเสธอย่างหัวเด็ดตีนขาด จู่ๆ ก็พบว่าตัวเองถูกดันลงบนเตียง และในตอนที่พวกเขากำลังมีท่าทางเหมือนเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่นี้นี่เองที่ญาติของเขาเดินเข้ามาในห้องโรงแรม คำอธิบายเดียวที่แอนโตนิโอสามารถคิดขึ้นได้ในตอนนั้นคือแอนนาคือมิลลี่ ภรรยาของเขา ด้วยความสงสารเขาและค่าตัวเธอก็ถูกจ่ายมาแล้วสำหรับทั้งวัน แอนนาตกลงที่จะรับมุขไปกับเรื่องราวของเขา และญาติของเขา แม้ว่าจะแปลกใจที่แอนโตนิโอแต่งงานกับสาวเซ็กส์บอมบ์ ก็ดูเหมือนจะเชื่อคำโกหกนี้ แม้ว่าแอนนาจะเต็มใจพูดว่าเธอเป็นภรรยาของแอนโตนิโอ แต่ก็ไม่ได้หมายควาว่าเธอจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ซึ่งนำมาสู่สถานการณ์น่าขบขันมากมาย ครูซกล่าวว่า “แอนนาเป็นคนทำอะไรตามใจตัวเองมากๆ ค่ะ เธอไม่ได้มีตัวกรองพฤติกรรมทางด้านสังคมในความคิดเลย ดังนั้น เธอก็เลยพูดทุกอย่างตามที่เธอรู้สึกโดยไม่กังวลถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาเลย”
            ในขณะเดียวกัน ในขณะที่มิลลี่กำลังพยายามหาทางกลับโรงแรม เธอก็พบกับดาราภาพยนตร์สองคน เพีย ฟูซารี่ (ออร์เนลลา มูตี้) และไอดอลของเธอ ลูก้า ซัลต้า (แอนโตนิโอ อัลบานิส) มิลลี่อึ้งไปเลยเมื่อซัลต้าชวนเธอไปรับประทานอาหารมื้อเที่ยงด้วยกัน ก่อนจะชวนเธอไปห้องในโรงแรมของเขา “เมื่อเด็กสาวสวยไปหาดาราหนังซักคนแล้วบอกว่า 'ฉันดูหนังทุกเรื่องของคุณและฉันก็คลั่งไคล้คุณมาก' เขาก็มีแนวโน้มสูงมากๆ ที่จะสามารถพาเด็กสาวคนนั้นขึ้นเตียงได้เพราะงานเสร็จไปสามในสี่ส่วนแล้วครับ” อัลเลนบอก เมื่อแอนโตนิโอออกไปรับประทานอาหารเที่ยงกับแอนนาและครอบครัวของเขา เขาก็ตะลึงเมื่อเห็นมิลลี่นั่งอยู่ที่โต๊ะอีกตัวหนึ่ง และถูกจีบโดยซัลต้า ซึ่งมันก็เปลี่ยนภาพลักษณ์ของเธอที่เขามองว่าเธอเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาไป หลังจากนั้น ในงานปาร์ตี้สำหรับสังคมชั้นสูงในโรม แอนโตนิโอพบว่าแอนนาเองก็มีความดังอยู่ในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้เลิศหรูเท่ากับลูก้า ซัลต้า นักธุรกิจระดับแนวหน้าของกรุงโรมหลายคนดูเหมือนจะรู้จักเธอดี และเรียงแถวกันเข้ามานัดหมายกับเธอ ภายหลัง ระหว่างเดินเล่นอยู่ในสวนที่กว้างขวางระหว่างงานปาร์ตี้ แอนนาก็ถามแอนโตนิโอถึงการแต่งงานของเขา เธอเย้ยหยันคำอธิบายของเขาที่ว่ามิลลี่เป็นเหมือน “แม่พระ” และบอกว่าแอนโตนิโอต่างหากที่เป็นคนไร้เดียงสาตัวจริง ด้วยวิธีเฉพาะตัวของเธอเอง แอนนาได้ช่วยให้แอนโตนิโอได้ตระหนักถึงตัวตนของเขามากขึ้น “แอนนามองงานของเธออย่างซีเรียสและหยิ่งทะนงกับงานนี้ด้วยค่ะ” ครูซบอก “เธอเชื่อว่าบริการของเธอเป็นการบำบัดและเธอก็ได้ทำความดีเพื่อสังคมอย่างมากด้วย”
            ระหว่างที่เขามาพักผ่อนในกรุงโรม จอห์น (อเล็กซ์ บัลด์วิน) สถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน ได้สำรวจถิ่นเดิมที่เขาเคยพักอาศัยสมัยที่เขาเป็นนักศึกษาอยู่ ณ ที่นั้น เขาได้พบกับแจ็ค (เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก) นักศึกษาสถาปัตย์ฯหนุ่ม ผู้จำจอห์นได้จากภาพถ่ายในหนังสือพิมพ์และเชิญเขาไปอพาร์ทเมนต์เพื่อดื่มกาแฟกับแซลลี่ (เกรต้า เกอร์วิก) แฟนสาวของเขา ไม่นานนัก จอห์นก็ตระหนักว่าเขาอาจจะเคยอยู่ในอาคารหลังเดียวกับที่แจ็คอยู่ก็เป็นได้ แซลลี่เล่าให้แจ็คฟังว่า โมนิก้า (เอลเลน เพจ) เพื่อนนักแสดงของเธอ เพิ่งเลิกกับแฟน และกำลังมาที่โรมเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แซลีพูดถึงโมนิก้าว่าเป็นคนเซ็กซี่ ฉลาด เจ้าอารมณ์และตลก เป็นคนที่หนุ่มๆ รุมตอม เกอร์วิกเล่าว่า “ฉันคิดว่าแซลลี่วิตกเรื่อง โมนิก้า แต่เธอคิดว่าถ้าเธอเผยความกลัวทั้งหมดของเธอตั้งแต่ต้น 'ฉันอยากจะพูดทุกเรื่องที่ฉันกังวล' มันก็จะเป็นเหมือนเครื่องราง ที่จะทำให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น” จอห์นเตือนแจ็คไม่ให้ตกหลุมรักโมนิก้า “เขาอาจรู้ว่าแจ็คจะไม่ฟังเขาหรอก” บัลด์วินบอก “แต่เขาก็ยังพยายาม แจ็คกำลังมุ่งหน้าสู่เส้นทางหายนะ มันเหมือนกับแจ็คกำลังขับรถ และจอห์นก็อยากให้เขาไปให้พ้นจากถนนเส้นนั้นน่ะครับ” ไอเซนเบิร์กกล่าวว่า “การที่จอห์นให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แบบคนอาบน้ำร้อนมาก่อนกลับทำให้แจ็คยิ่งมีความกล้ามากขึ้น มันทำให้เขามีความตั้งใจแรงกล้าขึ้นที่จะไขว่คว้าโมนิก้าน่ะครับ”
            แน่นอนว่ามันมีเรื่องของการที่จอห์นมองเห็นแจ็คเป็นตัวเองสมัยหนุ่มๆ ในกรุงโรม และเรื่องราวของแจ็คก็เป็นเหมือนประสบการณ์ของจอห์นในอดีต ที่ตอนนี้เขามองเห็นและเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาเคยโง่มากแค่ไหนและความรักที่เขาต่อโมนิก้าช่างตื้นเขินและไร้ค่าแค่ไหน แต่ความต้องตาพึงใจก็มีชัยเหนือเหตุผล
            โมนิก้าไม่รีรอที่จะรักษาชื่อเสียงของตัวเองด้วยการหว่านเสน่ห์ใส่แจ็คด้วยการเผยรายละเอียดเรื่องเซ็กส์ที่สุดเหวี่ยงและไม่ธรรมดา รวมถึงความรู้ด้านศิลปะที่ดูเหมือนจะกว้างขวางของเธอให้เขาฟัง “โมนิก้าเป็นอิสระ และไร้พันธะในตอนนี้ และฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์มากๆ สำหรับหลายๆ คน” เพจกล่าว “บางที อาจเป็นเพราะเราต่างก็อยากจะรู้สึกเป็นอิสระ แต่ท้ายที่สุดแล้ว คนอย่างเธอก็ไม่ได้เป็นคู่ชีวิตที่ดีเสมอไปเพราะมันไม่ได้มีความมั่นคงนักน่ะค่ะ” อัลเลนกล่าวว่า “คุณไม่สามารถล่ามโซ่คนอย่างโมนิก้าไว้ได้หรอกครับ พวกเขามีเสน่ห์เกินไป ทุกคนต้องการพวกเขาและพวกเขาก็รู้เรื่องนั้นตั้งแต่แรกแล้ว การมีความสัมพันธ์มั่นคงระยะยาวกับคนแบบนั้นเป็นเรื่องยากมากๆ” แม้ว่าจอห์นพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อเตือนแจ็ค แต่สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ก็เกิดขึ้นและเขาก็ยอมจำนนให้กับเสน่ห์ของโมนิก้า “เขาอยู่ในฟองสบู่ของความรักหนุ่มสาวครับ ดังนั้นเขาก็เลยถูกดึงดูดเข้าหาเธอ” ไอเซนเบิร์กกล่าว “เธอสนใจเรื่องตัวเองมากๆ และความสนใจตัวเองของเธอก็ทำให้เธอน่าสนใจมากๆ จนเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอฉายแสงเจิดจรัสใกล้ๆ เขา เขาจะรู้สึกตื่นเต้นทันทีอย่างที่ไม่ควรจะเป็นครับ”
            ระหว่างนั้น จอห์นวนเวียนอยู่ใกล้ๆ แจ็ค (แต่จอห์นกำลังมองดูตัวเองสมัยเป็นหนุ่มอยู่รึเปล่านะ?) ไปๆ มาๆ เพื่อพูดถึงโมนิก้าและแซลลี่ราวกับพวกเธอไม่อยู่ตรงนั้น ทิ้งคำถามที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ให้เปิดกว้าง นี่เป็นสิ่งที่อัลเลนตั้งใจทำ “คุณสามารถมองได้สองทางครับ” เขาบอก “แต่ทางที่ปลอดภัยที่สุดคืออเล็กซ์เดินตามรอยความทรงจำของตัวเองและเขาได้พบกับวัยหนุ่มของตัวเอง เขาจดจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้สึกอย่างไร เขาทำพลาดไปอย่างไร ความสิ้นหวังเป็นอย่างไร และความทรงจำนั้นก็เป็นความทรงจำที่เขาไม่อาจลบเลือนไปได้เลย แจ็คเป็นวัยหนุ่มของจอห์นโดยที่เขาไม่ได้เป็นจอห์นวัยหนุ่มในแฟลชแบ็คน่ะครับ” เพจกล่าวว่า “คนแต่ละคนจะมองมันไปคนละทาง คนที่อายุมากหน่อยอาจมองมันในมุมมองของจอห์น และคนที่อายุน้อยหน่อยอาจจะสนใจกับความฉับพลันของปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมนิก้า, แจ็คและแซลลี่ และจอห์นก็จะดูเหมือนคนนอกน่ะค่ะ” ไม่ว่าเราจะตีความเรื่องราวอย่างไร หัวใจสำคัญของเรื่องนี้คือความเฉลียวฉลาดที่เกิดขึ้นพร้อมวัย ทีได้มองย้อนกลับไปสู่ความอ่อนหัดของวัยหนุ่มสาว บัลด์วินกล่าวว่า “ในความคิดของผมและจากประสบการณ์ของผมเอง การมองย้อนกลับไปที่ตัวเราที่อายุน้อยกว่านี้ หรือที่หนุ่มสาวโดยทั่วๆ ไปเป็นเรื่องที่น่าประทับใจและน่าขนลุก พอเรามองเห็นคนหนุ่มสาว เราก็จะคิดว่า 'ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันเคยทำแบบนั้นหรือพูดแบบนั้น' แต่ส่วนหนึ่งของชีวิตคือการเติบโตและเปลี่ยนแปลง บางทีอาจจะช้า และบางทีก็อาจจะเร็วน่ะครับ”
            ตัวละครหลายตัวใน  TO ROME WITH LOVE ก็มีความปรารถนาที่จะเป็นที่ชื่นชมเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขาเป็นคนที่ค่อนข้างธรรมดาอยู่แล้ว ความต้องการนี้ถูกนำเสนอในเรื่องราวของเจอร์รี่และลีโอโปลโด้ รวมไปถึงในกลยุทธที่ลูก้า ซัลต้าใช้จีบมิลลี่ด้วย เขาบอกเธอว่าเขาเห็นคุณค่าความเห็นของเธอที่มีต่อเรื่องทางวัฒนธรรม มันเป็นการยอมรับที่สามีเธอไม่เคยให้กับเธอ มิเกลันเจโล ลูกเขยในอนาคตของเจอร์รี่ พูดถึงแต่ตัวเองและมุมมองที่สูงส่งของเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกพิเศษและสำคัญ เช่นเดียวกัน ความมั่นใจในตัวเองของแจ็คพองโตขึ้นเมื่อเขาเชื่อว่าผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างโมนิก้าจะเลือกเขาเป็นคนรัก “ผู้หญิงที่มีพันธะก็เหมือนแคทนิปสำหรับผู้ชายางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่พวกเขายังอายุน้อยกันอยู่น่ะครับ” บัลด์วินบอก “คุณไม่ได้อยากได้พวกเธอจริงๆ หรอก คุณก็แค่อยากเอาชนะ มันเป็นเรื่องของอีโก้ครับ” เพจคิดว่าโมนิก้าเองก็มักต้องการที่จะถูกประเมินค่าจากคนอื่นอยู่เสมอๆ “ในตอนที่โมนิก้ามีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น เธอมักจะให้ความรู้สึกของคนที่อยากจะเป็นนักวิชาการผู้ทรงภูมิ ฉันคิดว่ามันอาจจะเกิดจากความไม่มั่นใจของเธอและความต้องการจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ ทำนองว่า 'ชอบฉันเถอะ! ฉันฉลาดและฉันก็รู้จักโควทเก๋ๆ นะ' น่ะค่ะ”
            ความต้องการพื้นฐานในจิตใจมนุษย์ในการเป็นที่ยอมรับอาจเป็นพื้นฐานที่ทำให้คนใฝ่ฝันอยากมีชื่อเสียงก็เป็นได้ “เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่ชื่อเสียงเป็นสิ่งที่ได้รับการยกย่อง เทิดทูนค่ะ” เพจกล่าว “แม้ว่าเรามักจะรู้ว่ามันไม่ใช่วิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพซักเท่าไหร่ และอาจทำลายชีวิตคนได้ด้วยซ้ำ คนหมกมุ่นอยู่กับไอเดียที่ว่า 'มันจะต้องทำให้ฉันมีควาสุข มันจะทำให้ฉันรู้สึกเป็นคนสำคัญ มันจะทำให้ฉันรู้สึกมั่นคง ปลอดภัยและทรงพลัง' สิ่งน่าขันก็คือสิ่งที่ผู้คนคาดหวังว่าจะเติมเต็มชีวิตเขาคือสิ่งที่ท้ายที่สุดแล้วก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าว่างเปล่าน่ะค่ะ” อัลเลนกล่าวว่า “คนปรารถนาชื่อเสียงด้วยเหตุผลเดียวกับที่พวกเขาต้องการสิ่งอื่นๆ ทุกอย่างที่เราไขว่คว้า ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง เงินทอง เสื้อผ้าสวยๆ ทรัพย์สมบัติ ความสามารถด้านศิลปะหรือกีฬา ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม สิ่งที่คุณพยายามทำก็คือพยายามดึงดูดเพศตรงข้าม แม้ว่าคุณจะอำพรางมันด้วยการกระทำอย่างไรก็ตามครับ”
            เรื่องราวที่พบใน  TO ROME WITH LOVE ได้ล้วงลึกถึงการไขว่คว้าความรักและเซ็กส์ในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การหมั้นหมายและการฮันนีมูนผ่านทางการนอกใจสารพัดแบบ ตั้งแต่การร่วมรักที่อ่อนละมุนไปจนถึงสัมพันธ์สวาทฉาบฉวย ตั้งแต่เรื่องน่าขบขัน ไร้สาระไปจนถึงเรื่องที่ลึกซึ้ง ดื่มด่ำ ตั้งแต่ความตื่นเต้นของรักครั้งใหม่ไปจนถึงการอกหักและผลที่ตามมาหลังจากนั้น เรื่องราวสลับฉากเกี่ยวกับความรักเหล่านี้ได้ดำเนินไปพร้อมๆ กันในเมืองเก่าแก่ที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน ในทุกส่วนของเมือง ในอดีตและในปัจุบัน และมันก็จะดำเนินต่อไปในอนาคต ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนได้พบรักบนท้องถนนในกรุงโรม และผู้คนในเรื่องก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น