Art idol
อยากให้รู้ว่ากูติสท์
ใครๆก็มีไอดอล แต่คุณเคยคิดบ้างไหม?
วันหนึ่ง คุณก็เป็นไอดอลได้เหมือนกัน
ไอดอล (Idol) n. อ่านว่า ไอ-ด้อล หมายถึง บุคคลที่แฟนคลับ บูชาดั่งบร๊ะเจ้าใครลบหลู่ท่านไอดอลจะโกรธแค้นมากๆ จริงๆแล้วไอดอลก็คือบุคคลตัวอย่างนั่นเองไอดอลต้องหยิ่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะแฟนคลับจะวุ่นวายกับชีวิตมาก จนน่าตกใจ
ข้อเสียของไอดอลที่ควรรู้ โดนคนแอบอ้างบ่อย นี่คือชะตากรรมอันแรกที่คุณต้องทำใจเมื่อคุณได้รับตำแหน่งเป็นไอดอล เพราะคุณเป็นคนหน้าตาดีที่สังคมอยากจะเป็นเหมือนคุณ
แต่หากปล่อยให้มีคนมาแอบอ้างคุณไปเรื่อยๆ เป็นภัยร้ายต่อคุณได้แน่ๆ เพราะคนพวกนี้ไม่ได้แค่แอบอ้างเท่านั้น ยังเอาหน้าของคุณมาจีบเพศตรงข้ามอีก!! สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือ ใส่ watermark ในรูปของคุณทุกรูป
ตกเป็นข่าวในนิตยสารกอสซิปได้ง่าย ก็อย่างที่บอกว่าไอดอลเป็นคนของสังคมใครๆ ก็รู้จัก โดยเฉพาะพวกบก.นิตยสารกอสซิปทั้งหลายต้องดิ้นรน พยายามหาจุดด้อย ของไอดอลแต่ละคนมาทำข่าว
มีคนหมั่นไส้เพราะเด่นเกินหน้าเกินตาในรุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะเพื่อนที่ไม่สนิทในสถานศึกษาทั้งหลาย
เรื่องของ “อาร์ท” หนุ่มน้อยหน้าใสวัย 18 ปี ผู้ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีอะไรดีเริ่มตั้งแต่ เล่นกล้องโลโม่ ประกวดฮูล่าฮูป เดาะบอล โดยหวังว่าจะได้เป็นคนมีชื่อเสียง มีสาวๆ รุมกรี๊ด เหมือนเหล่าคนดังมากมายที่เขาเครซี่ แต่สุดท้ายอาร์ทก็เป็นแค่เจ้าพ่อโปรเจ็คท์ แถมล่าสุดยังเอ็นท์ไม่ติด ต่างจาก “ฝุ่น” เพื่อนสนิทวัยเด็กของอาร์ท ฝุ่นเป็นคนที่รู้จุดหมายและเส้นทางชีวิตของตัวเอง ชัดเจน สามารถอธิบายและยกตรรกะ หลักฐานมายืนยันความคิดความเชื่อของเธอได้เสมอ มีก็แต่เรื่องหัวใจ ที่เธอยังไม่แน่ชัด ว่าความรู้สึกห่วงใยมากเข้าขั้นผิดปกติที่เธอมีให้อาร์ทเป็นแค่ความคุ้นชิน ผูกพัน หรือความรัก บ้านของอาร์ท เป็นโรงงานเย็บเสื้อโหลแต่ก่อนที่กิจการจะเติบโตจนมียอดออเดอร์จากทั่วสารพัดทิศในเอเชียอาคเนย์อาร์ทและแม่เคยเป็นแรงงานหลักที่ช่วยป๋า อัตราการถีบ ฝีจักรของอาร์ทอยู่ที่ 300 ตัวต่อชั่วโมง อาร์ทเรียกพรสวรรค์ด้านนี้ของตัวเองว่าความสามารถกากๆ
ขณะที่ฝุ่นเฝ้าชื่นชมมันอย่างจริงใจ และเก็บผลงานของอาร์ทไว้เสมอ หลังจากที่อาร์ททิ้งจักรไปตั้งแต่ 9 ขวบ ทำไมน่ะเหรอ ก็ไอ้พรสวรรค์ข้อนี่แหละ ที่ทำให้เขาโดนล้อจากเพื่อนๆ ว่า..ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด และเพราะคำว่า..ศิลปะมันเท่ห์ดีนะ...คำเดียว ที่อาร์ทบังเอิญได้ยินจาก “หมี่” สาวสวยสุดชิค ที่เขาบังเอิญไปเจอที่หอศิลป์ อาร์ทก็รู้แล้วว่า จากนี้เขาจะเดินหน้าไปทางไหนดี และราวกับสวรรค์มีตา เมื่อฟ้าส่ง “พี่โม่” ไอดอลของคนทำงานศิลปะทั่วฟ้าเมืองไทย แถมยังเป็นพี่ชายของหมี่ ที่กำลังบังเอิญติดพัน “หิ่น” สาวใช้พม่าของบ้านฝุ่น ที่หน้าตาผิวพรรณดีเสียจนพี่โม่หลงผิด คิดว่าเป็นลูกสาวไฮโซ ความสัมพันธ์ของ “อาร์ท” กับ “พี่โม่” จึงเริ่มต้นอย่างง่ายดายพี่โม่หวังใช้อาร์ทเป็นสะพานจีบหิ่น ขณะที่อาร์ทหวังจะได้กลายเป็นศิลปินทับรอยเท้าพี่โม่ รักครั้งแรกที่ “ฝุ่น” มีให้ “อาร์ท” จะสู้รักแรกพบที่อาร์ท มีให้กับ “หมี่” สาวสุดชิคได้หรือไม่ เส้นทางสู่ไอดอลของอาร์ทจะไปถึงฝั่งฝัน เทียบชั้น “พี่โม่” และลบเลือนความสามารเย็บจักรกากๆ ที่เขาเคยมีได้หรือไม่อาร์ท...Idol…พร้อมดอลลลลล...ทั่วประเทศ เร็วๆนี้
Producerศิริ เหลืองสวัสดิ์ หรือ “แก้ว พรีเมียร์” เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการมายาไทย สายตาคมกริบของเขาได้ปั้นดาวดวงเด่นประดับวงการบันเทิงมานักต่อนักแล้ว หลังประสบความสำเร็จกับการสร้างดาวหลายดวงแล้ว แก้ว พรีเมียร์ ก็หันมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับแผงนิตยสารบันเทิงไทยด้วยการเปิดตัว Gossip Star นิตยสารบันเทิงแนวปาปารัซซี่ ที่ยังไม่เคยมีใครในเมืองไทยทำมาก่อนต่อด้วยการขยับขยายไปสู่การบริหารสายงาน Publishing ของ Mono Group ทั้งหมดด้วยฝีไม้ลายมือและวิสัยทัศน์ในการบริหารงานของเขา ทำให้เขาคือหนึ่งในผู้บริหารที่ขับเคลื่อน Mono Group ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่แม้จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจบันเทิงหลากหลายแขนงมาแล้ว ชีวิตของ แก้ว พรีเมียร์ ก็ไม่เคยหยุดนิ่งเพราะถือคติว่า “ชีวิตคนเรามันสั้น หากมีโอกาสได้ทำอะไรให้รีบทำ” วันนี้ เขากำลังจะก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ในอีกหนึ่งเส้นทางของแวดวงบันเทิง นั่นคืองาน “ภาพยนตร์”
Mono Group ภูมิใจเสนอ Mono Picture ค่ายหนังทางเลือกใหม่สำหรับคนรักหนัง ซึ่งได้ แก้ว พรีเมียร์ มาเป็นหัวเรือใหญ่ทำหน้าที่ Producer ของหนังเรื่องนี้ โดยประเดิมเปิดตัวด้วย “Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์” ภาพยนตร์แนว Romantic Comedy จากฝีมือของ 3 ผู้กำกับเลือดใหม่ เด็กสร้างของ Mono Group เก่ง,ยีนส์ และณอง พร้อมนักแสดงนำใหม่ใสกิ๊กที่ผ่านการคัดสรรค์อย่างเข็มข้นซึ่งจะกลายป็นขวัญใจมหาชนคนต่อไปของวงการ
“ตั้งใจว่าจะปั้นนักแสดงหน้าใหม่และก็ผู้กำกับรุ่นใหม่ๆขึ้นมา น่าจะดีที่คนดูจะได้ดูเด็กหน้าใหม่ๆ ฝีมือหรือกลิ่นไอใหม่ๆบ้าง”
ด้วยบุคลิกที่ออกแนวติสท์ๆ ชอบอะไรที่เป็นอาร์ทๆ อยู่แล้ว ทำให้ Plot เรื่องของ Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์ ที่ทั้ง 3 ผู้กำกับส่งมานำเสนอ โดนใจ แก้ว พรีเมียร์ ตั้งแต่ได้อ่านครั้งแรก
“ผมชอบไอเดีย อ่านแล้วก็ขำออกมาไม่รู้ตัว มันธรรมชาติดี ส่วน Plot เรื่องเกี่ยวกับศิลปะที่เข้าจับมาเล่าก็สนุกใกล้ตัว เข้าถึงได้ง่ายแล้วมันก็อะไรเท่ๆ อยู่ในนั้นเยอะ ที่นี้ น้องๆ เขามีความฝันอยากทำหนัง และก็ “มีของ” กันอยู่พอสมควรในเมื่อเขากล้าเดินเข้ามาขอ ผมก็กล้าให้”
แก้ว พรีเมียร์ เชื่อว่าการให้ “โอกาศ” เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะสร้างคนคุณภาพใหม่ๆ ขึ้นมาผลักดันให้วงการบันเทิงก้าวหน้าต่อๆ ไป Mono Picture จึงเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ๆ ที่มีความฝันและความคิดสร้างสรรค์ ลองเข้ามานำเสนอโปรเจคหนังกับทางค่ายได้รวมทั้งถ้า ใครสนใจนด้านการแสดงก็สามารถ Cast ตัวแสดงกับ Mono Picture ได้ด้วยเช่นกัน
Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์ ผลงานแรกจาก Mono Picture จึงเรียกได้ว่าเป็นหนังที่เต็มไปด้วย โอกาส
โอกาสของผู้กำกับหน้าใหม่ เก่ง ยีนส์ ณอง ที่ได้ก้าวตามความฝัน
โอกาสในการพิสูจน์ฝีมือการทำงานก้าวใหม่ในฐานะ Producer ภาพยนตร์ของ แก้ว พรีเมียร์
โอกาศของคนรักหนัง ที่จะได้สัมผัสสีสันความสนุกใหม่ๆ
“คนดูจะได้ยิ้ม ได้ขำฮาไปกับเรื่องราวของมันแน่ แต่ไม่ใช่ตลกกลวงๆมันมีแง่คิดดีๆ ในนั้นค่อนข้างชัดเจน ไม่ต้องตีความ ตรงมาตรงไป .. ผมเชื่อว่าคนดูจะไม่ผิดหวัง”
บางที หนังเรื่องนี้อาจจะเข้าไปนั่งอยู่ในใจคุณก็ได้Directorsนั่งขรึม มันซ่า ฮาแซ่บ
ชายหนุ่ม 3 คน กับบุคลิกที่แตกต่าง หากคล้ายกันที่มีใจรักทางศิลปะและดนตรี มีความฝันเหมือนๆ กันที่จะสร้างชื่อและปรากฏการณ์สนุกใหม่ๆ ให้กับวงการ ภาพยนตร์ไทยเก่ง / ยีนส์ /ณอง
[ฟังชื่ออาจไม่คุ้นหู ดูหน้าอาจไม่คุ้นเคย แน่ล่ะ เพราะพวกเขาคือ “หน้าใหม่” ในฐานะผู้กำกับหนัง แต่ในฐานะนักคิด-นักสร้างสรรค์ พวกเขาคือมืออาชีพทุ่มเท พร้อมไอเดีย”สดใหม่” ที่น่าลองสัมผัส จากความรัก ความถนัดที่ได้คลุกคลีอยู่กับศิลปะมาตั้งแต่เด็กเรียนรู้ฝึกฝนจนกลายเป็นอาชีพ จากประสบการ์ณอาร์ทๆ เรื่องราวมันๆ ระหว่างเส้นทางชีวิตที่เก็บเกี่ยวติดไม้ติดมือ ไว้มากมาย จากที่ได้ร่วมทำทั้งงานหลัก งานรอง งานเล่น ผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมาหลายปี บัดนี้ ได้เวลาที่ความฝันจะเป็นจริง สิ่งที่สั่งสมมาทั้งหมดได้ผสมผสานคลุกเคล้าเข้ากัน จนลงตัวเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของพวกเขา “Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์” ภาพยนตร์แนว Comedy Romantic ที่จะช่วยเสริมสร้างแรงบันดาลใจ และทำให้คนดูอิ่ม...กับความรู้สึกดีดี/size]
ก่อนจะเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ พวกเขามีที่มาอย่างไร
เส้นทางชีวิตของแต่ละคนจะ “ติสท์” มากน้อยแค่ไหน
ลองมาทำความรู้จักกับผู้ชาย 3 คนนี้
กับเรื่องราวชีวิตที่ต่างก็เขียนบทเอง เส้นเอง กำกับเอง
ณอง – เอกสิทธิ์ สมเพ็ชร“คนอย่างข้า เกิดมาให้โลกจำ ทำไม” โนนเหลี่ยม 82
เด็กชายตัวเล็กๆ จากบ้านโนนเหลี่ยม จ.ขอนแก่น คนนี้ เป็นนักเรียนดีเด่นที่ได้รับทุนการศึกษามาตลอดช่วงชีวิตการเรียน ระดับประถม แต่เมื่อออกสู่โลกกว้างไปพบผู้คนมากมายที่ “เรียนเก่งกว่า” จึงเบนเข็มไปเอาดี ด้านกีฬาเพื่อว่าจะได้เก่งกว่าคนที่เรียนเก่งพร้อมๆกันก็บ่ายหน้าไปจับทางดนตรีเพื่อที่ จะได้เก่งกว่าคนที่เล่นกีฬา เป้าหมายสำคัญในทีแรกเพื่อจีบหญิง แต่เมื่อได้สัมผัสกับกีต้าร์ที่หัดเล่นเองกับมือจนเก่งก็ลืมเรื่องจีบหญิงเสียสนิท เพราะดันไปหลงรักดนตรีเข้าแล้ว จนทุกวันนี้ณองเล่นเครื่องดนตรีได้เกือบทุกชนิดทั้งดีด สี ตี เป่า เพลงสากลและพื้นบ้าน ทั้งเล่น ทั้งร้อง ทั้งแต่งทำนองและเขียนเพลง ยังไม่หยุดแค่นั้น เขายังหัดวาดรูปทำงานศิลปะไปด้วย เรียกว่าอะไรที่สามารถฉกฉวยมาทำให้ตัวเองเด่นดังได้ ณองเอาหมด และยัง”เอาอยู่” อีกต่างหาก เพราะทั้งการเรียน กีฬา ดนตรี ศิลปะ รวมถึงด้านมนุษย์สัมพันธ์ ณองมีรางวัลเกียรติยศเป็นเครื่องการันตีติดเต็มฝาบ้าน
อยากเป็นพระเอกหนัง ก็ต้องทำหนังของตัวเอง
บท “ยาม” ตัวประกอบเล็กๆในหนังสั้นของรุ่นพี่ ได้พาณองก้าวสู่โลกภาพยนตร์อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก และเขาก็ตกหลุมรักมันในทันทีทันใด จากวันนั้น ไอ้หนุ่มจากบ้านโนนเหลี่ยมก็กระโจนเข้าสู่ถนนสายภาพยนตร์พร้อมความฝันอันยิ่งใหญ่
“อยากเป็นพระเอกหนัง ก็ต้องทำหนังของตัวเอง” ไม่ใช่แค่อยากเด่นอยากดัง แต่ยังมีความอยากรู้อยากเห็นอยากเป็นส่วนสำคัญของวงการด้วย ณองใช้พรแสวงเป็นเครื่องนำทางหาความรู้ในทุกขั้นตอนการทำหนัง จนได้ลองทำหนังสั้นของตัวเองออกมาและส่งประกวดในเวทีต่างๆอย่างสม่ำเสมอ นับถึงวันนี้เกือบ 10 เรื่องแล้ว ในจำนวนนั้นเคยได้รับคัดเลือกให้ฉายในงานเทศการลหนังสั้นครั้งที่12 ปี 2551 ที่ หอศิลป์กรุงเทพ จากเรื่อง “ไหมฟ้า” ส่วนเรื่อง “พุบ่าวเกิบคืบ” ก็คว้ารางวัลชมเชยจากโครงการพระในบ้าน ของยุวพุทธิสมาคม มาได้ และเรื่อง “ดงกระแป้ง” ที่ทำร่วมกับ เก่งและยีนส์ได้รับรางวัลชมเชยจากเวที ประกวดหนังสั้น “THE SECRET HEART” ของมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี 2551
เว่อร์ๆ ฮาๆ แต่น่ารัก
ผลงานของณองก็เหมือนกับตัวเขา กับบุคลิกแอบฮาๆแต่น่ารัก “มันธรรมดาไม่ได้” ดังนั้นเอกลักษณ์ของงานแบบณองจึงต้องครบสูตร Action Comedy Romantic Musical ต้องสนุกขำฮา แต่ซุกซ่อนแง่คิดให้ต้องขบบ้าง ที่มหาวิทยาลัย
ออฟฟิศ ชีวิตจริงในการทำงานกับ Mono Film ในตำแหน่ง Creative ณองได้จับงาน หลายรูปแบบ ทั้งภาพยนตร์ ดนตรี รายการทีวี และ Digital Content ระหว่างทางที่เก็บประสบการณ์ก็มีบ้างที่ท้อ เพราะยังไปไม่ถึงเป้าหมายที่จะทำภาพยนตร์สักเรื่องของตัวเองสักที และแล้วฟ้าก็เป็นใจ เมื่อผู้บริหาร ของกลุ่มบริษัทโมโนมองเห็นความสามารถของลูกหม้อทั้ง 3 คนนี้ และเปิดโอกาสให้ณอง เก่ง และยีนส์ ร่วมกันนำเสนอโปรเจคหนังที่กลายมาเป็น “Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์” ในที่สุดเก่ง – อนิวรรต กรกำแหง“ผมไม่อยากให้เราดูถูกตัวเอง เห็นคนอื่นเป็น Idol ไปหมดเลย จริงๆแล้วเราทุกคนก็เป็น Idol ได้...”
นิ่ง ขรึม ขลัง...แต่ถ้าได้นั่งคุยด้วยจะรู้ว่าเขาเป็นคนง่ายๆสบายๆ สัมผัสได้ว่าเขาคือผู้ชายธรรมดา หากแต่มีรังสีออร่าบางอย่างแผ่ออกมาผ่านคำพูดแฝงแง่คิดกับแววตาจริงจังของเขาเส้นทางชีวิตของเก่งอาจไม่หวือหวานัก แต่ระหว่างทางชีวิตที่เรียบง่ายนี้ก็ใช่ว่าจืดชืดไร้ชีวิตชีวาเพราะสีสันจัดจ้านต่างๆ นั้นไปปรากฎอยู่ในผลงานจากไอเดียเด็ดๆของเขาที่มีอยู่เหลือเฟือเริ่มจากเป็นนักศึกษาฝึกงานแล้วมีผลงานเข้าตา จนผันตัวเป็นพนักงาน Graphic Design ในที่สุด เมื่อแรกเข้ามาได้พบกับ Graphic designer ฝีมือขั้นเทพ ที่ฝากผลงานไว้ในโปสเตอร์หนัง นางนาค,บางระจัน,สุริโยทัย ฯลฯ ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจในโลกภาพยนตร์ของเก่ง “ตอนที่ผมเห็นโปสเตอร์ของเขาครั้งแรก ผมเหมือนสว่างเลยนะมันสวยมากกกกกวันรุ่งขึ้นผมไปหาตำรา Photoshop มานั่งศึกษาเองเลยคิดว่าจะ ต้องทำงานให้สวยอย่างพี่เขาให้ได้ พี่เขาเป็น Idol คนหนึ่งของผม”
ฝืมือด้านการออกแบบโปสเตอร์และคิดแนวทาง Promote หนังพัฒนาก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ มีผลงานเท่ๆสวยๆที่เกิดจากการรวมหัวลงมือกับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่บริษัทมากมาย อาทิโหมโรง / องค์บาก๑ / The Letter / ต้มยำกุ้ง ฯลฯ พกประสบการณ์และวิทยายุทธล้ำลึกเข้ามาที่ Mono Music ในตำแหน่ง Graphic Design Supervisor ที่ดูแลงาน Design พร้อมทำหน้าที่ Creative และ Copy Writer ให้กับชิ้นงาน Promote เกือบทั้งหมด อาทิ โปสเตอร์หนัง , Logo , Banner รวมถึงออกแบบ booth ที่ใช้จัดแสดงในงานเทศกาลภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศด้วยย้อนกลับไป เก่งในวัยรุ่นก็เคยตั้งคำถามยากๆให้กับตัวเองเหมือนกับวัยรุ่นทุกยุคทุกสมัยว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร ชีวิตจะไปทางไหน” แต่เพราะเก่งไม่ได้นั่งรอให้คำตอบวิ่งเข้ามาหา จากที่ไม่รู้ก็ได้รู้ จากที่รู้น้อยก็พยายามค้นหาจนได้รู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแม้ในวันนี้เขาก็ยังไม่หยุดถามคำถามยากๆนั้นกับตัวเองและคำตอบล่าสุด ณ ห้วงเวลานี้ของเขาคือ “ผู้กำกับภาพยนตร์”ยีนส์ – สาธิต แก้วรุ่ง“ผมเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งที่ช่วยให้ครบสมบูรณ์ เป็นรอยต่อที่เชื่อมให้งานสำเร็จ เป็นส่วนเติมเต็มความสุขให้กับคนอื่นๆ...ผมชอบเห็นเวลามีคนมีความสุข”
ภายนอกที่เห็นอาจไม่เหมือนกับที่เป็น เห็นหน้าตาท่าทางของผู้ชายคนนี้ครั้งแรกบางคนบอกหน้าโหดๆ ดูนิ่งๆ แบบนี้ท่าจะแรงเอาเรื่องแต่ทุกคนที่รู้จักยีนส์จะบอกว่าเขาเป็นคนยิ้มง่าย สนุกสนานเฮฮา สุภาพ ใจดี และ...มีเสน่ห์ส่วนคนสนิทระดับรู้ใจจะบอกเพิ่มให้อีกคำว่า โรแมนติก
ก้าวแรกของยีนส์ที่ได้คลุกคลีเรื่องอาร์ตๆ อย่างจริงจังเมื่อได้เรียนนิเทศศิลป์ ศิลปะการถ่ายภาพที่เพราะช่าง ยีนส์ทำกิจกรรมสารพัด ทั้งออกค่ายอาสา เล่นดนตรีกับเพื่อน เป็นประธานแผนก ชีวิตลงตัวทุกอย่างทั้งเรียน เล่น กิจกรรม และความสัมพันธ์กับเพื่อน ที่สำคัญได้ค้นพบทางถนัดและวิชาที่ชอบคือการได้คิดนอกกรอบเพื่อออกแบบงานพาณิชย์ศิลป์ ขณะที่วิชาภาพยนตร์เป็นแค่วิชาย่อยเท่านั้น ความสนใจในเรื่องหนังเลยยังไม่แตกหน่อ จึงมุ่งหน้าสู่เส้นทางสายโฆษณา ออกแบบสิ่งพิมพ์ให้กับผลิตภัณฑ์ใน Graphic House ก้าวเข้าสู่โลกเซลลูลอยด์ครั้งแรก เปิดประสบการณ์ใหม่ในโลกภาพยนตร์ในฐานะ Graphic Designer ของบริษัท ปั่น กัมปะนี เข้าไปคลุกคลีตีโมงเกือบทุกขั้นตอน โดยเฉพาะงานออกแบบโปสเตอร์ สื่อสิ่งพิมพ์ และ Promote หนัง จากที่ไม่ค่อยสนใจภาพยนตร์ กลับรู้สึกเหมือนค้นพบความฝันอีกอย่างขึ้นมา
“ผมชอบ Forrest Gump มันทำให้ผมเปิดโลกทัศน์ตัวเอง ไม่ใช่แค่ 1-10 มันมีชั้นเชิงแต่ดูรู้เรื่อง ผมไม่ชอบหนังที่ดูไม่รู้เรื่อง”
หลังได้ร่วมงานกับ เก่ง ที่ ปั่น กัมปะนี ต่อมาก็ได้ร่วมงานกันอีกที่ Mono Film ดูแลงาน Graphic Design ของภาพยนตร์ในสังกัด และยังมี ณอง มาเสริมทัพทำงานร่วมกันจนรู้ทาง ทำหนังสั้นร่วมกันทั้งสองคนส่งประกวด ดงกะแป้ง ได้รางวัลชมเชยจาก มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมท์ ปี 2551 ติดไม้ติดมือมาด้วยเมื่อเวลามาถึงฟ้าก็เปิด ผู้บริหาร Mono Group มองเห็นความสามารถของลูกหม้อทั้ง 3 คนนี้ และเปิดโอกาศให้ ณอง เก่ง และยีนส์ ร่วมกันนำเสนอโปรเจคหนังที่กลายมาเป็น “Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์” ในที่สุด
