FB on May 10, 2012, 03:23:07 PM
















          ลองของครั้งไหน ก็ไม่ใกล้ความตายเท่าครั้งนี้ เตรียมตัวพบกับ ทริปสยอง แบบไม่มีใครเคยกล้า! CHERNOBYL DIARIES (เชอร์โนบิล ไดอารี่ส์) โดยผู้สร้าง Paranormal Activity ที่สร้างปรากฏการณ์มาแล้วทั่วโลก

          Chernobyl Diaries เชอร์โนบิล ไดอารี่ส์ อำนวยการสร้างโดย ออเรน เพลี ผู้ให้กำเนิดหนังสยองขวัญ Paranormal Activity ที่สร้างปรากฏการณ์มาตลอดสามภาค เรื่องราวของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันหกคนที่เดินทางเที่ยวทั่วยุโรป ก่อนที่ความคึกคะนองจะทำให้พวกเขาจ้างไกด์เถื่อนให้พาเข้าไปในเขตหวงห้าม โดยพวกเขาเดินทางเข้าไปในพริเพียตเมืองของคนงานโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลอันโด่งดัง ที่กลายเป็นเมืองร้างตั้งแต่เกิดหายนะเชอร์โนบิลอุบัติเหตุของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อ 25 ปีก่อน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย พวกเขาได้สำรวจเมืองร้างแห่งนี้ และพบว่าตัวเองกำลังถูกจับตามอง จากบางสิ่งบางอย่างที่นำมาซึ่งความสยองที่ไม่มีใครเคยล่วงรู้มาก่อน

          ออเรน เพลี คือผู้สร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการหนังสยองขวัญ ด้วยการกำกับ/อำนวยการสร้างและเขียนบท Paranormal Activity ในปี 2007 ด้วยทุนสร้างเพียง 15,000 เหรียญ ก่อนที่จะทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 193 ล้านเหรียญ และทำให้มีภาคต่อมาอีก 2 ภาคในปี 2010 และ 2011 ที่ทำเงินในระดับ 100 ล้านเหรียญขึ้นเช่นเดียวกัน โดยครั้งนี้เขารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างและเขียนบทให้กับ Chernobyl Diaries และได้พูดถึงโปรเจ็คนี้ว่า "ผมสนใจในหายนะที่เกิดขึ้นในเชอร์โนบิล นอกจากที่มันจะสร้างควาามสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรงงานพลังนิวเคลียร์แล้ว มันมีเรื่องเล่ามากมายที่พูดถึงความอาถรรพ์ของสถานที่แห่งนี้ ผมจึงเขียนเรื่องราวขึ้นมาที่จะทำให้คนดูต้องขนหัวลุก"

          พิสูจน์ความกล้า ท้าความตาย          
          CHERNOBYL DIARIES
          14 มิถุนายน นี้

ตัวอย่าง "Chernobyl Diaries" sub-Thai [Official TR]
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=xRtejgfXatk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=xRtejgfXatk</a>
« Last Edit: May 25, 2012, 03:55:13 PM by FB »

FB on May 26, 2012, 02:55:27 PM
CHERNOBYL DIARIES เชอร์โนบิล ไดอารีส์ เผย 4 ความจริง สุดช็อค! ที่ทำให้ “เชอร์โนบิล” กลายเป็นสถานที่ “ห้ามเข้า” ที่น่ากลัวที่สุดในโลก

   
 
          Chernobyl Diaries เชอร์โนบิล ไดอารี่ส์ หนังสยองขวัญที่จะพาคุณไปร่วมลองของ ณ สถานที่ได้ชื่อว่า “น่ากลัวที่สุดในโลก” บนดินแดนแห่งหายนะที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากเกิดอุบัติเหตุของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เมื่อ 26 ปีก่อน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย และอีกนับแสนคนได้รับผลกระทบ จากผลงานการอำนวยการสร้างของ ออเรน เพลี ผู้ให้กำเนิดหนังสุดหลอนอย่าง Paranormal Activity ที่สร้างปรากฏการณ์กวาดรายได้ถล่มทะลายมาแล้วทั่วโลก ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาเขียนบทขึ้นมา มาจากเรื่องจริงสุดสะพรึงจากเชอร์โนบิล อาทิ

          (1) ผลจากการระเบิดของโรงงานนิวเคลียร์แห่งนี้ ทำให้กว่า 4,000 ชีวิต ต้องเสียชีวิต กว่า 300,000 ชีวิต ต้องอพยพไปตั้งรกรากที่อื่น และอีกกว่า 600,000 ชีวิต มีสารกัมมันตภาพรังสีในร่างกาย และส่งผลให้รูปร่างผิดปกติ พิกลพิการ จนแทบจะไม่เหลือเค้ามนุษย์

          (2) ปริมาณกัมมันตภาพรังสีที่ระเบิดออกมาของเชอร์โนบิล รุนแรงกว่าระเบิดปรมาณูที่ถล่มเกาะฮิโรชิม่าในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง 4 เท่า! และอาจต้องใช้เวลาถึง 24,000 ปี กว่าที่ผู้คนจะกลับมาอาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัย

          (3) กัมมันตภาพรังสีส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตที่เหลือเชื่อ อย่างที่เคยมีผู้พบเห็นนกสายพันธุ์ประหลาดในเขตใกล้กับเชอร์โนบิล หรือที่เรียกว่า “Black Bird of Chernobyl” นกขนสีดำสนิทขนาดยักษ์ มีรัศมีของปีกกว้างถึง 20 ฟุต ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครเห็นนกสายพันธุ์นี้มาก่อน

          (4) คนที่เคยลักลอบเข้าไปสำรวจซากพื้นที่ส่วนต่างๆ ของเชอร์โนบิล ต่างเคยเจอประสบการณ์เหนือธรรมชาติที่ชวนขนลุกในหลายระดับ เช่น ความรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองตลอดเวลา ได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือที่ไร้ที่มา พบเห็นเงาของชายลึกลับที่หลายคนพบเห็น และพูดถึงรูปร่างลักษณะตรงกัน จนถูกเรียกว่า “Slender Man” บ้างก็พบซากตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่ตั้งอยู่ในส่วนต่างๆ ของเชอร์โนบิลอย่างตั้งใจราวกับมีคนมาจัดวางไว้

          เรื่องเล่าขานและตำนานแห่งเชอร์โนบิลยังมีอีกมากมาย หากคุณกล้าพอเราขอชวนมาลองของกันกับ Chernobyl Diaries เชอร์โนบิล ไดอารี่ส์ ซึ่งเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่เดินทางเที่ยวทั่วยุโรป ก่อนที่ความคึกคะนองจะทำให้พวกเขาจ้างไกด์เถื่อนให้พาเข้าไปในพริเพียตเมืองที่เป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ซึ่งกลายเป็นเขตหวงห้ามหลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อ 26 ปีก่อน หลังจากพวกเขาได้สำรวจเมืองร้างแห่งนี้ ทั้งหมดก็พบว่าตัวเองกำลังถูกจับตามอง และค้นพบว่าพวกเขาอาจจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้

          พิสูจน์ความกล้า ท้าความตาย
          CHERNOBYL DIARIES
          14 มิถุนายน นี้

FB on May 31, 2012, 09:47:03 AM
CHERNOBYL DIARIES เชอร์โนบิล เมืองร้าง มหันตภัยหลอน พาลุย 5 สุดยอดเมืองหลอน “ห้ามเข้า” ที่น่ากลัวที่สุดในโลก แจ้งเกิดกลุ่มนักแสดงวัยรุ่นกล้าลองดี
 


          หลายครั้งที่เรามักจะต้องสงสัยว่าทำไมเมืองบางเมือง หรือเขตบางเขตในประเทศต่างๆ มักมาพร้อมคำเตือนว่าเป็นสถานที่ “ต้องห้าม” หรือ “ห้ามเข้า” ซึ่งเชอร์โนบิล ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในห้าพื้นที่ห้ามเข้าที่น่ากลัวที่สุดในโลกด้วย มาทำความรู้จักกับทั้ง “สถานที่ร้างห้ามเข้า” ทั้ง 5 ที่ติดอันดับเสียงร่ำลือว่าน่ากลัวที่สุดในโลกจนไม่มีใครคิดไปเหยียบ!

          อันดับ 5 เมือง ออราดูร์ -ซู-แกลน ประเทศฝรั่งเศส
 
          เมืองร้างที่โดนทำลายย่อยยับโดยกองทัพของเยอรมนีในปี ค.ศ.1944 มีชาวบ้านถูกฆ่าตายที่นี่อย่าง โหดเหี้ยมไปถึง 642 ศพ แม้ปัจจุบันจะมีการสร้างเมืองนี้ขึ้นมาใหม่ แต่ที่นี่ก็ยังคงขึ้นชื่อเรื่องของอาถรรพ์ความเฮี้ยนจนไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไป

          อันดับ 4 เมืองเซ็นทราเลีย ประเทศ สหรัฐอเมริกา
 
          เมืองที่เคยได้ชื่อว่าอุดมไปด้วยเหมืองแร่ถ่านหิน แต่หลังจากที่ในปี 1962 ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดเมื่อจู่ๆ เปลวไฟเกิดประทุขึ้นมาจากเหมืองที่อยู่ใต้ดินอย่างรุนแรง จนทำให้สภาพอากาศของเมืองนี้ร้อนระอุ และถูกปกคลุมด้วยหมอกควันอยู่ตลอดเวลา และจนถึงปัจจุบันเปลวไฟจากใต้ดินก็ยังคงปะทุอยู่อย่างต่อเนื่อง

          อันดับ 3 เมืองคราโค่ ประเทศ อิตาลี
 
          เมืองในยุคกลางของอิตาลีที่สร้างขึ้นบนเนินเขา ในฐานะเมืองหน้าด่านสำคัญ แต่เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่หลายครั้งติดกัน ทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปมากมาย และเสียหายเกินกว่าที่จะได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่

          อันดับ 2 เมือง ซางจี ประเทศ ไต้หวัน
 
          ดีไซน์การออกแบบอันสุดพิลึกพิลั่นซึ่งเกิดอุบัติเหตุระหว่างก่อสร้างที่คร่าชีวิตคนงานไปหลายคนจนถึงกับต้องหยุดการก่อสร้างไปหลายครั้ง หรือกระทั่ง เหตุการณ์สุดประหลาดที่มีคนอ้างว่าเห็นส่วนต่างๆ ของบ้านเคลื่อนไหวไปมาได้เองชวนขนลุก

          อันดับ 1 เมืองพริเพียต ประเทศ ยูเครน (รัสเซีย ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์)  
 
          นี่คือเมืองที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมช็อคโลกที่เรียกได้ว่า รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งใน ประวัติศาสตร์โลก นั่นคือการระเบิดของ “เชอร์โนบิล” โรงงานนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ ที่นำหายนะครั้งใหญ่มาสู่สิ่งมีชีวิตที่ตกป็นเหยื่อทั้งสังเวยชีวิต ป่วยเป็นโรคมะเร็ง กลายพันธุ์ผ่าเหล่า หรือพิการเพราะอวัยวะที่ใหญ่ผิดขนาด และไม่ใช่เพียงแค่ผลกระทบทางชีวภาพ แต่ยังมีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่เล่าต่อกันมา ทั้งความรู้สึกที่เหมือนถูกจ้องมองตลอดเวลา เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลืออย่างไร้ที่มาที่ไป เงาของชายลึกลับที่หลายคนพบเห็น

          เมืองสยองคงจะไร้ความหมายหากขาดผู้กล้าที่จะเข้าไปลองดี CHERNOBYL DIARIES เชอร์โนบิล เมืองร้าง มหันตภัยหลอน เรื่องราวของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันหกคนที่เดินทางเที่ยวทั่วยุโรป ก่อนที่ความคึกคะนองจะทำให้พวกเขาจ้างไกด์เถื่อนให้พาเข้าไปในเขตหวงห้าม โดยพวกเขาเดินทางเข้าไปในพริเพียตเมืองที่เป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลอันโด่งดัง และพบว่าตัวเองกำลังถูกจับตามอง จากบางสิ่งบางอย่างที่นำมาซึ่งความสยองที่ไม่มีใครเคยล่วงรู้มาก่อนพร้อมแจ้งเกิด กลุ่มนักแสดงวัยรุ่น

          นำทีมโดย เจสซี่ย์ แม็คคาร์ทนี่ย์ นักร้องป็อปชื่อดัง, โอลิเวีย ดัดลี่ย์ (ซีรี่ย์ CSI: Miami), โจนาธาน ซาโดวสกี้ (Friday the 13th, Live Free or Die Hard) และ นาธาน ฟิลลิปส์ (Snakes on a Plane, Wolf Creek)

          พิสูจน์ความกล้า ท้าความตาย
          CHERNOBYL DIARIES
          14 มิถุนายน นี้
« Last Edit: June 01, 2012, 03:13:22 PM by FB »

FB on May 31, 2012, 09:47:55 AM
หายนะในอดีตที่กำลังจะกลับมาอีกครั้ง กับ “โลงศพโบราณ” และ “เตาปฎิกรณ์หน่วยที่ 4” และภาพยนตร์เรื่อง Chernobyl Diaries เชอร์โนบิลเมืองร้าง มหันตภัยหลอน



          จากโศกนาฏกรรมเมื่อ 26 ปีก่อน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย และอีกนับแสนคนได้รับผลกระทบจากหายนะครั้งนี้ สู่หนังสยองขวัญที่ทุกคนทั้งโลกรอคอย Chernobyl Diaries เชอร์โนบิลเมืองร้าง มหันตภัยหลอน ผลงานการสร้างของ ออเรน เพลี ผู้ให้กำเนิดหนังสุดหลอนอย่าง Paranormal Activity ที่สร้างปรากฏการณ์กวาดรายได้ถล่มทะลายมาแล้วทั่วโลก 14 มิถุนายนนี้ ประเทศไทยจะได้หวนรำลึก ระทึกขวัญ กับโศกนาฏกรรมช็อคโลก หายนะในอดีตมันกำลังจะกลับมา

          หากย้อนกลับไปเมื่อ 26 เมษายน 2529 ได้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ขึ้นที่หน่วยที่ 4 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ประเทศยูเครน จนเวลาล่วงไปกว่า 240 ชั่วโมง ไฟที่ลุกไหม้และการปล่อยกัมมันตภาพรังสีไม่สามารถถูกควบคุมได้ จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2529 หลังเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว รัฐบาลมีคำสั่งให้ดำเนินการสร้าง "โลงศพโบราณ" สิ่งห่อหุ้มขนาดใหญ่ที่ทำด้วยคอนกรีตเพื่อปกคลุมเครื่องปฏิกรณ์หน่วยที่ 4 ที่ถูกทำลาย

          โลงศพนี้ถูกออกแบบมาเพื่อหยุดการปล่อยรังสีที่มหาศาลที่เพิ่มขึ้นสู่บรรยากาศและภายในเดือนพฤศจิกายน 2529 โลงศพโบราณที่ห่อหุ้มเครื่องปฏิกรณ์ได้สร้างเสร็จสิ้น โดยใช้เหล็กกล้ามากกว่า 7,000 ตัน และคอนกรีต 410,000 ลูกบาศก์เมตร โลงศพโบราณถูกออกแบบมาให้มีอายุ 20-30 ปี (ผ่านมากว่า 26 ปีแล้ว) ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือความไม่มั่นคง เพราะมันถูกสร้างอย่างรีบเร่ง เหล็กที่เป็นคานหนุนถูกกัดกร่อน ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อของโครงสร้างทั้งหมด น้ำได้รั่วซึมเข้าไปในโลงศพผ่านทางรูบนหลังคาและถูกปนเปื้อนด้วยกัมมันตภาพรังสี จากนั้นจึงไหลซึมผ่านพื้นเครื่องปฏิกรณ์ลงสู่ดินข้างใต้

          ผลวิจัยบางสำนักคาดการณ์ว่าหายนะจากนิวเคลียร์ครั้งต่อไปในระดับความรุนแรงเท่ากับที่เชอร์โนบิลจะเกิดขึ้นอีกที่เชอร์โนบิล เนื่องจากมีเกราะป้องกันที่บอบบางและยังคงมีสารตกค้างมากกว่า 95 % ภายในสิ่งห่อหุ้มนั้น ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกหากโลกศพโบราณทลายลง ความสุญเสียจะหวนกลับมาอีกครั้งหรือไม่ ส่วนจะมีแผนเตรียมรับมมือ ป้องกันอย่างไรนั้น ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ...

          ตามติดประสบการณ์ลองของ 6 คนกล้า ท้าลองดี บุกเมืองร้างที่คนทั้งโลก “ห้ามเข้า” Chernobyl Diaries เชอร์โนบิลเมืองร้าง มหันตภัยหลอน 14 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

          พิสูจน์ความกล้า ท้าความตาย          
          CHERNOBYL DIARIES
          14 มิถุนายน นี้
« Last Edit: June 01, 2012, 03:12:55 PM by FB »

FB on June 01, 2012, 03:19:32 PM
Movie: Chernobyl Diaries เมืองร้าง มหันตภัยหลอน
 
Chernobyl Diaries เมืองร้าง มหันตภัยหลอน
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=adGqpYYWKtA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=adGqpYYWKtA</a>





          ประเภท Horror
          กำหนดฉาย 14 มิถุนายน 2012
          บริษัทจัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
          อำนวยการสร้าง/เขียนบท ออเรน เพลี (Paranormal Activity 1-3, Insidious)
          กำกับ แบรดลี่ย์ พาร์คเกอร์ (มือเอฟเฟ็ค Let Me In, Willard)
          นำแสดง เจสซี่ย์ แม็คคาร์ทนี่ย์ (นักร้องป็อปชื่อดัง, ให้เสียงใน Horton Hears a Who!)
          โอลิเวีย ดัดลี่ย์ (ซีรี่ย์ CSI: Miami)
          โจนาธาน ซาโดวสกี้ (Friday the 13th, Live Free or Die Hard)
          นาธาน ฟิลลิปส์ (Snakes on a Plane, Wolf Creek)

เนื้อเรื่อง
          Chernobyl Diaries ภาพยนตร์โดย ออเรน เพลี ผู้ให้กำเนิดหนังสยองขวัญ Paranormal Activity ที่สร้างปรากฏการณ์มาตลอดสามภาค
          เรื่องราวของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันหกคนที่เดินทางเที่ยวทั่วยุโรป ก่อนที่ความคึกคะนองจะทำให้พวกเขาจ้างไกด์เถื่อนให้พาเข้าไปในเขตหวงห้าม โดยพวกเขาเดินทางเข้าไปในพริเพียต ซึ่งเป็นเมืองของคนงานในโรงงานกัมมันตภาพรังสีเชอร์โนบิลอันโด่งดัง ซึ่งกลายเป็นเมืองร้างนับตั้งแต่เกิดหายนะเมื่อ 25 ปีก่อน หลังจากพวกเขาได้สำรวจเมืองร้างแห่งนี้ ทั้งเจ็ดคนก็พบว่าตัวเองกำลังถูกจับตามอง และค้นพบว่าพวกเขาอาจจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้
          ภาพยนตร์กำกับโดย แบร็ด พาร์คเกอร์ มือเอฟเฟ็คจาก Let Me In อำนวยการสร้างและเขียนบทโดย ออเรน เพลี และร่วมเขียนบทโดย แครี่ แวน ไดค์ และ เชน แวน ไดค์ นำแสดงโดยทีมนักแสดงวัยรุ่น เจสซี่ย์ แม็คคาร์ทนี่ย์ นักร้องป็อปชื่อดัง, โอลิเวีย ดัดลี่ย์ (ซีรี่ย์ CSI: Miami), โจนาธาน ซาโดวสกี้ (Friday the 13th, Live Free or Die Hard) และ นาธาน ฟิลลิปส์ (Snakes on a Plane, Wolf Creek)
          ทีมงานของ Chernobyl Diaries ยังประกอบไปด้วยผู้กำกับภาพ มอร์เท็น โซเบิร์ก (After the Wedding, Vahalla Rising), ผู้ออกแบบงานสร้าง อเล็กซานดาร์ เดนิค (Deathwatch, Cat Run), ผู้ดูแลเอฟเฟ็ค มาร์ค ฟอร์เกอร์ (The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring, Titanic), และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย โมเมอร์ก้า ไบโลวิค (Lockout, The Brothers Bloom)

จุดเริ่มต้น “ขอต้อนรับสู่ทัวร์สุดเอ็กสตรีม”
          ที่ประเทศยูเครน วันที่ 26 เมษายน ปี 1986 โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิล เตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 เกิดระเบิดขึ้น ทำให้กัมมันตภาพรังสีรั่วไหลขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ที่มีความรุนแรงเท่ากับระเบิดปรมาณู 400 ลูก นี่ถือเป็นหายนะที่เกิดกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
          เมืองพริเพียต ที่อยู่อาศัยสำหรับคนงานโรงงานนิวเคลียร์และครอบครัว ต้องอพยพภายในเพียงชั่วข้ามคืน สิ่งของทุกอย่างถูกทิ้งเอาไว้ภายในบ้าน ทั้งโรงงาน สวนสาธารณะ โรงเรียน และร้านค้า และประชากรทั้งหมดประมาณ 50,000 หลังคาเรือน ทั้งหมดคิดว่านี่เป็นเพียงแค่การอพยพชั่วคราว... แต่มันไม่ใช่เช่นนั้น เมื่อเวลาผ่านมากว่า 26 ปี เมืองพริเพียตก็ยังคงเป็นที่ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตเข้าอาศัยอยู่ได้
ปี 2012 นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน 6 คนออกเดินทางไปท่องยุโรปตะวันออกแบบเอ็กสตรีม โดยเข้าไปในเมืองร้างพริเพียตที่ยูเครน โดย ยูริ ไกด์เถื่อนของพวกเขา ก็ได้พาข้ามเขตแดนที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ และพาพวกเขาเข้าไปในเมืองที่เคยเกิดหายนะกัมมันภาพรังสี
Chernobyl Diaries เป็นหนังที่เกิดจากไอเดียของ ออเรน เพลี ที่ทั้งเขียนบทและอำนวยการสร้าง โดยเขาประสบความสำเร็จมาจากหนังสยองขวัญเรียลลิตี้ Paranormal Activity ซึ่งเกิดขึ้นด้วยความรู้สึกอยากสำรวจสิ่งที่ผิดปกติในบ้านของตัวเอง จนนำมาสร้างเป็นหนังที่ประสบความสำเร็ตถล่มทลาย และมีมาถึงสามภาคแล้ว
          เพลี เล่าถึงจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ว่า "ไอเดียของเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ผมดูบล็อคภาพถ่ายของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ท่องไปในเมืองพริเพียตด้วยมอเตอร์ไซด์ นั่นคือครั้งแรกที่ผมรู้จักเมืองนี้ ที่ถูกทิ้งภายในระยะเวลาแค่คืนเดียว เป็นเหมือนเมืองร้างที่ยังมีร่องรอยของการอยู่อาศัยครบถ้วน ไม่แปรเปลี่ยนมากนักนอกเหนือจากกาลเวลาและสัตว์ป่า ผมคิดว่าที่นี่มันช่างดูน่าสะพรึงกลัวและงดงาม และมันก็น่าจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับหนังสยองขวัญที่สุด"
          เพลี เล่าถึงการค้นคว้าหาข้อมูลว่า "การค้นคว้าของผมพบเรื่องราวของกลุ่มคนบางกลุ่มที่ปฏิเสธที่จะอพยพ และพยายามใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ถึงแม้จะมีกัมมันตภาพรังสีที่อันตรายถึงชีวิต ด้วยเรื่องเล่าที่นั้น บวกกับสัตว์ป่าที่ครองเมืองโดยไม่มีมนุษย์เข้ามาวุ่นวาย มันทำให้ผมรู้สึกสงสัยว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีกลุ่มคนภายนอกอาศัยอยู่ในนี้"
          การท่องเที่ยวแบบเอ็กซ์สตรีม เป็นช่องทางการตลาดที่มีอยู่จริง ซึ่งเป็นการเที่ยวแบบเสี่ยงตาย ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขามือเปล่า การท่องไปในทะเลทราย หรือการสำรวจถ้ำใต้น้ำ โดยยังเกี่ยวกับกิจกรรมเสี่ยงๆอีก ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำกับฉลาม หรือกระโดดลงมาจากน้ำตก ยิ่งความเสี่ยงมีมากเท่าไหร่ อะดรินาลีนก็จะหลั่งออกมา และทำให้มีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
          เพลี เล่าต่อถึงการท่องเที่ยวที่มีอยู่จริงว่า "มันสำหรับคนที่ไม่ต้องการไปนั่งชิลตามทะเล หรือว่าเดินเล่นในพิพิธพันธ์ พวกเขาต้องการความตื่นเต้นในชีวิต พวกเขาต้องการเสี่ยงและทำเรื่องบ้าระห่ำ ผมเชื่อว่าคนอีก 99% บนโลกคิดว่าโชคดีที่ตัวเองไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นในชีวิต"
          เพลี พูดถึงทัวร์ที่มีอยู่จริงว่า "พริเพียตถือว่าเป็นเมืองที่อยู่ใกล้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โชบิลมากที่สุด และถือว่าเป็นสถานที่ในฝันของพวกชอบเสี่ยงตาย ถ้าคุณอยากเข้าไป คุณก็ต้องไปกับทัวร์ที่มีใบอนุญาต พวกเขาจะขับพาคุณเข้าไป ให้คุณเดินดูสภาพแวดล้อมสักสองสามชั่วโมง พวกไกด์จะรู้ว่าตรงไหนเป็นพื้นที่ปลอดภันย และตรงไหนเป็นพื้นที่หวงห้าม และก็จะถือเครื่องวัดไกเกอร์ตลอดเวลา เพื่อทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้าไปในพื้นที่ที่มีกัมมันตภาพรังสีสูง"

การเตรียมงานและแนวทางการสร้าง “นายแน่ใจเหรอว่ามีเพียงแค่พวกเรา"
          เรื่องราวใน Chernobyl Diaries เริ่มต้นเมื่อกลุ่มนักท่องเที่ยวถูกยามรักษาความปลอดภัยท้องถิ่นบอกว่า ห้ามผ่านเนื่องจากเมืองพริเพียตปิดซ่อมแซม แต่ด้วยความมุ่งมั่นของไกด์ ที่อยากได้ค่าแรงโดยไม่ต้องคืน เขาก็พาทั้งหกคนไปในเส้นทางอีกทางที่ไม่มีด่าน หลังจากใช้เวลาทั้งวันในสำรวจเมืองที่ถูกทิ้งร้าง แต่แล้วพวกเขาก็พบว่ารถแวนที่ขับมาสตาร์ทไม่ติด ทำให้ไม่สามารถออกจากเมืองได้ และเมื่อความมืดเข้ามาแทนที่แสงสว่าง มันก็เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดว่ามีบางคน.. หรือบางสิ่งกำลังจับตาดูพวกเขา
          เมื่อผู้เขียนบทและอำนวยการสร้าง ออเรน เพลี มีไอเดียที่ชัดเจนแล้ว เขาและผู้อำนวยการสร้าง ไบรอัน วิทเท็น ก็นำเอา แบร็ด พาร์คเกอร์ เข้ามารับหน้าที่กำกับ พร้อมกับทีมนักเขียนบท แคร์รี่ แวน ไดค์ และ เชน แวน ไดค์ เข้ามาช่วย เพลี ในการสร้างเรื่องราว
ผู้กำกับ พาร์คเกอร์ เล่าถึงการตัดสินใจเข้ามากำกับว่า "เมื่อ ออเรน อธิบายถึงไอเดียของเรื่อง Chernobyl Diaries ให้กับผม ผมก็รู้เลยว่านี้เป็นโปรเจ็คที่ผมต้องการทำ เพราะผมเองก็มีรูปภาพสถานที่มากมาย ที่ใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งจะได้ไปถ่ายทำหนัง และเมืองพริเพียตก็เป็นอันดับต้นๆ พวกเราได้พูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น การกำหนดมู้ดและโทนของหนัง ซึ่งน่ายินดีที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมและ เพลี คิดเอาไว้"
พาร์คเกอร์ เล่าถึงแนวทางที่ต้องการทำว่า "ผมต้องการทำหนังที่จับความสนใจของคนดูตั้งแต่ต้นจบจบ เมืองพริเพียตในหนังของเราคือสถานที่ที่สยองที่สุด การอยู่ที่นี่คนเดียวตอนกลางคืนเป็นอะไรที่น่ากลัว แต่การพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ก็น่าจะเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวจนคุณไม่อยากจินตนาการถึง"
          เพลี เป็นที่รู้จักจากการทำหนังสไตล์เรียลลิตี้ ทำให้เขาต้องการที่จะจับความสมจริงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่ลืมเสริมสร้างแนวทางอื่นๆเข้ามาอีกด้วย เขาอธิบายว่า "พวกเราตัดสินใจที่จะทำมันให้เหมือนวิดีโอล็อคของกลุ่มนักท่องเที่ยว ผมอยากให้ทีมนักแสดงคิดประโยคพูดกันสดๆตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งบทสนทนาในหนังโดยส่วนมากแล้ว เกิดขึ้นจากการซักซ้อมก่อนหน้าถ่ายทำ ผมต้องการมันเกิดความรู้สึกสมจริง"
          เพลี พูดถึงความตั้งใจในการทำให้สมจริงว่า "เพราะหนังเรื่องนี้พูดถึงหายนะที่เกิดขึ้นจริง ความสมจริงก็ถึงเป็นเรื่องที่สำคัญ แม้กระทั่งรถที่ขับไปในตัวเมือง มันเป็นรถสไตล์รัสเซีย มันเป็นรถเก่าจริง ที่มืเครื่องยนต์อยู่ระหว่างคนขับกับคนนั่งหน้า ซึ่งคุณก็จะได้กลิ่นน้ำมันก๊าซตลอดเวลา ซึ่งก็ทำให้คุณรู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในโลกที่ตัวเองรู้จักอีกแล้ว"
          นอกจากนั้น ทีมงานก็ยังสร้างความแปลกใจ ด้วยการให้ทีมนักแสดงไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในหลายๆฉาก เพื่อที่จะได้จับเอาปฏิกิริยาตอบสนองจริงๆ ที่ช่วยเสริมสร้างความน่ากลัวให้กับเหตุการณ์ โดยเทคนิกแบบนี้ผสมผสานกับตัวละครที่อยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ความกลัวถูกผลักดันจนสูงสุด และจะทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเอง เป็นอีกหนึ่งนักท่องเที่ยวที่กำลังอยู่ในเหตุการณ์

การถ่ายทำและเบื้องหลังการสร้าง
          เพื่อพิ่มความสมจริง ทีมงานก็ได้ไปถ่ายทำกันในประเทศแถบยุโรปตะวันออก ที่กรุงเบลเกรด เซอร์เบีย และนอกเมืองบูดาเปส ฮังการี โดยผู้ออกแบบงานสร้าง อเล็กซานดาร์ เดนิค ก็เผยว่า "มันสำคัญในการสร้างความแตกต่างของสองโลก ทั้งในโลกปัจจุบันที่กลุ่มนักท่องเที่ยวเริ่มออกเดินทาง และโลกที่ถูกแช่แข็งเอาไว้เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ถูกทิ้งร้างไว้รอให้ย่อยสลาย มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ทุกอย่างสมจริงที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้คุณหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง เมื่อเดินทางไปถึงเมืองพริเพียต"
          ผู้กำกับ แบรดลี่ย์ พาร์คเกอร์ พูดถึงงานสร้างว่า "อเล็กซานดาร์ ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาทำให้โรงงานแทร็คเตอร์ที่เซอร์เบีย และฐานทัพอากาศเก่าที่ฮังการี กลายเป็นเมืองพริเพียตได้อย่างน่าทึ่ง มันอาจทำให้ผู้ชมหลายคนเชื่อจริงๆว่าพวกเราไปถ่ายทำกันในเมืองพริเพียตและเชอร์โนบิลจริงๆ"
          การค้นคว้าของ เดนิค ทำให้เขาค้นพบหลักฐานของการใช้ชีวิตสมัยก่อน ที่ช่วยให้เขาสามารถสร้างภาพที่น่าทึ่งและน่ากลัวให้กับเรื่องราว เขาอธิบายว่า "อารมณ์ที่สร้างผลกระทบให้กับทุกคนมักมีรากฐานมาจากเด็ก ดังนั้นเพื่อที่จะกระตุ้นความรู้สึกเหล่านั้นในใจของเรา พวกเราจึงใส่พวกของเล่นและตุ๊กตาที่เน่าเปื่อย เสื้อผ้าเด็ก รถบั้มที่จอดนิ่ง และชิงช้าสวรรค์ที่ผุผังที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ มันเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งโศกนาฏกรรมที่ทุกคนจะไม่มีวันลืม"
          เพื่อส่งเสริมงานสร้างและสถานที่ที่น่าทึ่ง ทีมงานเอฟเฟ็คและเมคอัพก็ยังช่วยเพิ่มความน่ากลัวขึ้นไปอีก มาร์ค ฟอร์เกอร์ ผู้ควบคุมเอฟเฟ็คเล่าว่า "โดยไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์ มันยังมีสัตว์ป่าอย่างเช่นสุนัข ที่ประทังชีวิตด้วยการกินทุกอย่างที่หาได้ในเมือง ซึ่งแน่นอนก็รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวอีกด้วย พวกเราใช้เอฟเฟ็คเพื่อทำให้พวกมันดูแปลกประหลาดจากสุนัขทั่วไป"
          ออเรน เพลี พูดถึงงสุนัขที่ใช้ในเรื่องว่า "พวกเรามีสุนัขที่ถูกฝึกโดยหน่วยพิเศษของเซอร์เบีย ถึงแม้พวกมันจะมีผู้ดูแลที่เชี่ยวชาญ แต่พวกเราก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดี พวกมันดูโหด ไม่ขี้เล่น และสามารถเข้าทำร้ายคุณได้ทุกเมื่อที่ต้องการ"
          ฝูงสุนัขโหดไม่ใช่องค์ประกอบเดียวที่น่ากลัวในกองถ่าย เมื่อการถ่ายทำเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หนาวที่สุด เพลี เล่าว่า "อากาศแทบทำให้ทุกอย่างเป็นน้ำแข็ง ทุกคนในกองพยายามรวมกลุ่มและอยู่รอบฮีตเตอร์ อย่างไรก็ตามทีมนักแสดงก็ต้องนอนอยู่บนพื้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในอุณหภูมิที่ต่ำเหลือเลขตัวเดียว พวกเขามีความตั้งใจมาก”
          หน้าที่ในการจับภาพตกเป็นของผู้กำกับภาพ มอร์เท็น โซเบิร์ก ที่ผู้กำกับ พาร์คเกอร์ กล่าวชื่นชมว่า "เขาถือเป็นศิลปินในการถ่ายทำด้วยกล้องแฮนด์เฮลอย่างแท้จริง ผมไม่แน่ใจว่าใครจะสามารถถ่ายทำฉากลองเทคในสถานที่ที่ลำบากและงดงามอย่างเช่นเขาได้อีกแล้ว"
เพลี ได้กล่าวชื่นชมทีมงานและทีมนักแสดงที่รวบรวมมาว่า "แบร็ด และ มอร์เท็น รวมถึงทีมงานทุกคนน่าทึ่งมาก พวกเขาเข้าใจถึงภาพและความรู้สึกที่เราต้องการ จากช่วงเวลาที่กลุ่มนักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปในพริเพียต พวกเราได้เห็นเท่ากับที่พวกเขาเห็น รู้เท่ากับที่พวกเขารู้ พวกเราเป็นเหมือนสมาชิกอีกหนึ่งคน และเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ แบร็ด เข้าใจถึงความรู้สึกสมจริงที่เราต้องการ และผมคิดว่าผู้ชมจะได้รับประสบการณ์ความสยองอย่างที่ตัวละครต้องเจอ"
          เพลี กล่าวสรุปว่า "ความรู้สึกของความวิตกที่เกิดขึ้น เริ่มที่จะจมลงเข้าไปในหัวใจเมื่อพวกเขาพบว่าต้องติดอยู่ที่นี่ และไม่มีใครเข้ามาช่วยได้นอกจากต้องช่วยตัวเอง มันมีบางอย่างที่ต้องการตามล่าพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าอะไรหรือจะต้องกันตัวจากมันยังไง ทุกสิ่งทุกอย่างย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งผมก็คิดว่าในฐานะผู้ชม ความสนุกของมันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ"

          ทีมผู้สร้าง
          ออเรน เพลี (ผู้อำนวยการสร้าง / เขียนบท)
          เขาคือผู้ให้กำเนิด Paranormal Activity หนังสยองขวัญเรียลลิตี้ ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการหนังสยองขวัญ โดยทั้งสามภาคก็ทำเงินรวมกันกว่า 576 ล้านเหรียญทั่วโลก โดยในภาคแรกนั้นเขาก็เป็นทั้งผู้กำกับ/อำนวยการสร้างและเขียนบท จากนั้นเขาก็ได้เขียนบทและอำนวยการสร้างให้กับภาค 2 และ 3
          ผลงานของ เพลี ก็ยังมีการจับมือกับทีมงาน Saw ในการสร้างหนังสยองขวัญเรื่อง Insidious ที่กลายเป็นหนังที่ทำกำไรได้มากที่สุดในปี 2011 โดยในปี 2012 เขาก็ยังมีผลงานการกำกับอีกสองเรื่อง นั้นก็คือ Area 51 และ Paranormal Activity 4 รวมถึงการอำนวยการสร้างหนังสยองขวัญเรื่อง The Bay ของผู้กำกับ แบร์รี่ เลวินสัน และ Lords of Salem ของผู้กำกับ ร็อบ ซอมบี้
เขาเกิดในประเทศอิสราเอล ก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานมายังอเมริกาตั้งแต่อายุ 19 เขาเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นผู้ออกแบบโปรแกรม ใช้ความสามารถในการสร้างแอนิเมชั่นและพัฒนาเกมส์ โดยมีผลงานอย่าง Mortal Kombat 3 ก่อนที่จะก้าวเข้ามาสู่วงการภาพยนตร์ โดยมีผลงานการสร้างซีรี่ย์เรื่องแรกอย่าง The River ที่อำนวยการสร้างโดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก

          แบรดลี่ย์ พาร์คเกอร์ (ผู้กำกับ)
          ผลงาน>>> มือเอฟเฟ็ค Let Me In, Willard

          มอร์เท็น โซเบิร์ก (ผู้กำกับภาพ)
          ผลงาน >>> After the Wedding, Valhalla Rising

          อเล็กซานดาร์ เดนิค (ผู้ออกแบบงานสร้าง)
          ผลงาน >>> Deathwatch, Cat Run

          มาร์ค ฟอร์เกอร์ (ผู้ดูแลเอฟเฟ็ค)
          ผลงาน >>> The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring, Titanic

          โมเมอร์ก้า ไบโลวิค (ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย)
          ผลงาน >>> Lockout, The Brothers Bloom

          ทีมนักแสดง
          เจสซี่ย์ แม็คคาร์ทนี่ย์ (รับบทเป็น คริส)
          ผลงาน >>> นักร้องป็อปชื่อดัง, ให้เสียงใน Horton Hears a Who!, Alvin and the Chipmunks

          โอลิเวีย ดัดลี่ย์ (รับบทเป็น นาตาลี)
          ผลงาน >>> ซีรี่ย์ CSI: Miami, Moneyball, Just Go With It

          โจนาธาน ซาโดวสกี้ (รับบทเป็น พอล)
          ผลงาน >>> Friday the 13th, Live Free or Die Hard, She's the Man

          นาธาน ฟิลลิปส์ (รับบทเป็น ไมเคิล)
          ผลงาน >>> Snakes on a Plane, Wolf Creek, Surfer Dude
« Last Edit: June 07, 2012, 05:19:39 PM by FB »

FB on June 14, 2012, 04:59:10 PM
คนดังลองของ CHERNOBYL DIARIES เมืองร้าง มหันตภัยหลอน การันตี เฮี้ยนจนขนหัวลุก กระตุกต่อมสยองถึงใจ









          ผ่านไปแล้วกับการฉายรอบสื่อมวลชนของภาพยนตร์เรื่อง CHERNOBYL DIARIES เมืองร้าง มหันตภัยหลอน เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์ เอสเอฟเวิลด์ซีเนม่า ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ เต็มไปด้วยเหล่าเซเลบผู้กล้าที่ขอลองความสยองก่อนใคร อาทิ ภัทร จึงกานต์กุล (ผู้ประกาศข่าวช่อง 7), กอล์ฟ ปวีณ (ผู้กำกับบอดี้ศพ19,ห้าแพร่ง), ดีเจกัน EFM, ดีเจกัญ Cool FM , และ พีเค-ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร (ดีเจ, นักแสดงและพิธีกร) โดยทุกเสียงขอคอนเฟิร์มว่า CHERNOBYL DIARIES เมืองร้าง มหันตภัยหลอน เป็นหนังสยองขวัญที่คอหนังสยองต้องลองให้ได้เพราะ หลอน ระทึก ชวนลุ้นให้หายใจไม่ทั่วท้องได้ตลอดทั้งเรื่อง

          โดยเฉพาะผู้ประกาศข่าวหนุ่มตี๋หล่อ ภัทร จึงกานต์กุล ขอคอนเฟิร์มว่า “ หลอนมากครับ หนังมีฉากระทึกให้ได้ลุ้นตลอดเวลา” CHERNOBYL DIARIES เมืองร้าง มหันตภัยหลอน อำนวยการสร้างโดย ออเรน เพลี ผู้ให้กำเนิดหนังสยองขวัญ Paranormal Activity (พารานอมอล แอคทิวิตี้) ที่สร้างปรากฏการณ์มาตลอดสามภาค เรื่องราวของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันหกคนที่เดินทางเที่ยวทั่วยุโรป ก่อนที่ความคึกคะนองจะทำให้พวกเขาจ้างไกด์เถื่อนให้พาเข้าไปในเขตหวงห้าม โดยพวกเขาเดินทางเข้าไปในพริเพียตเมืองของคนงานโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลอันโด่งดัง ที่กลายเป็นเมืองร้างตั้งแต่เกิดหายนะเชอร์โนบิลอุบัติเหตุของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อ 26 ปีก่อน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย พวกเขาได้สำรวจเมืองร้างแห่งนี้ และพบว่าตัวเองกำลังถูกจับตามอง จากบางสิ่งบางอย่างที่นำมาซึ่งความสยองที่ไม่มีใครเคยล่วงรู้มาก่อน

          พิสูจน์ความกล้า ท้าความตาย
          CHERNOBYL DIARIES เชอร์โนบิล เมืองร้าง มหันตภัยหลอน
          14 มิถุนายน นี้
« Last Edit: June 15, 2012, 06:55:59 AM by FB »