คุณมักจะคิดเสมอว่า ผู้หญิงทุกคนในโลกล้วนแต่สวยๆและดูดีทั้งนั้น มีแต่คุณคนเดียวที่พุงป่อง อ้วนก็อ้วน ดำก็ดำ แถมหน้ายังเป็นสิวอีก อย่างนี้เข้าข่ายว่าคุณกำลังโดนพิษร้ายจากโรคคิดมาก (Overthinking) เข้าแล้วล่ะค่ะ เจ้าโรคนี้โดยมากจะเป็นในกลุ่มผู้หญิง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความสุขในชีวิต ตลอดจนความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
ทำอย่างไรเมื่อคิดมาก
เพื่อให้เราหลุดพ้นจากอาการ "วิตกจริต" ลองพยายามสักนิด เพื่อชีวิตที่สวยงามของเรานะคะ
บอกกับตัวเองให้ชัดว่าโลกไม่ได้แตกซะหน่อย
เมื่อผู้หญิงเริ่มเข้าสู่วงจรความวิตกจริต ส่วนใหญ่จะคิดว่าเรื่องราวหรือปัญหาที่เผชิญอยู่นั้น ยิ่งใหญ่ยังกับวันโลกแตก เมื่อความคิดมากเริ่มก่อตัว ก็ไม่ได้โฟกัสเฉพาะปัญหาปัจจุบันเท่านั้น จะคิดวกกลับไปถึงอดีต และก้าวข้ามไปยังอนาคต ในครั้งต่อไป เมื่อ "เจ้าความคิดมาก" เริ่มคืบคลานเข้ามาเยือน บอกตัวเองดังๆเลยว่า "ไม่ฉันจะไม่คิดมากแล้ว คิดให้ตาย โลกก็ยังไม่แตกดับไปไหนเสียหน่อย"
เบนความสนใจของตัวเอง
พอรู้ตัวว่าเริ่มคิดมาก รีบเชิดใส่แล้วหันไปคว้ากิจกรรมมาทำ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าครัว จัดสวน หรือนัดเพื่อนไปเต้นแอโรบิค เป็นวิธีประกาศสงครามกับ "ความคิดมาก" ได้อย่างชะงัด
จัดเวลาให้อาการคิดมาก
มาเยือนได้แค่ 5-10 นาทีหรือหนึ่งชั่วโมงเต็มในแต่ละวัน หากคุณมีเวลาว่างพอก็จัดเวลาที่อยากฟุ้งซ่าน วิกลจริต สติแตก และทำเสียให้พอ เมื่อทำบ่อยครั้งเข้าแล้วคุณจะพบว่าความกระวนกระวายใจที่บั่นทอนคุณมาโดยตลอดนั้น ไม่ใช่สาระสำคัญใดๆกับชีวิตคุณเลยแม้ซักนิด
ยึดหลัก กอดรัดขจัดปัญหา
บางครั้งการบังคับให้ตัวเองหยุดคิดไม่ใช่ทางออกที่ดี ตราบใดที่ต้นตอของความกระวนกระวายใจยังไม่ดับมอด ปัญหาก็จะหวนคืนกลับมาอีก จะดีกว่ามั้ยที่จะเรียนรู้การโอบรัด "เจ้าตัวปัญหา" ไว้ในอ้อมแขน เพื่อสกัดจุดอ่อนไม่ให้หวนคืนมาอีก โดยลองเทคนิคง่ายๆเหล่านี้ค่ะ
ปล่อยความรู้สึกให้เต็มที่
ถ้าเศร้าก็เศร้าให้สุดๆ หรือโกรธก็กรี๊ดออกมาบ้าง เมื่อพายุอารมณ์พัดผ่านไป หลังจากที่ได้ซึมซับและปลดปล่อยทุกความรู้สึกให้ถึงที่สุดไปแล้ว คุณอาจจะมีสติมองเห็นทางแก้ปัญหาได้ชัดเจนขึ้น
ลดความคาดหวังลงบ้าง
กดมันไว้ให้ต่ำลงก่อน โดยเฉพาะคาดหวังให้คนนั้นคนนี้ได้ดั่งใจเรา ต้องยอมรับว่า อุปนิสัยของเราบางครั้งก็ไปขัดอารมณ์คนอื่นเขาเหมือนกัน ทำใจยอมรับให้ได้ว่า ทุกคนมีความแตกต่าง หันมาเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่ร่วมกับสังคมหมู่มาก ดีกว่ามานั่งสติแตกถามตัวเองว่า "ทำไมฉันเข้ากับคนอื่นไม่ได้"
รู้จักให้อภัยทั้งตัวเองและผู้อื่น
การเอ่ยคำขอโทษไม่ได้หมายความว่าศักศรีความเป็นสาวสวยจะถูกลดลง หันมาทำความเข้าใจเสียใหม่ว่าการขอโทษนั้นบางครั้งก็เอ่ยขึ้นเพื่อให้อภัยตัวเอง เพื่อปลดปล่อยความโกรธ ความรู้สึกผิด ความละอายออกไปจากหัวใจ
หากฟุ้งซ่านเรื่องความก้าวหน้าในออฟฟิศ
ลองเปลี่ยนพฤติกรรมจากการจับกลุ่มเม้ามาระดมสมอง เสนอไอเดียอันบรรเจิดของคุณ เมื่อผองเพื่อนสรุปว่าไอเดียไหนเจ๋งก็บันทึกไว้ และหาทางสร้างฝันให้เป็นจริง
ใส่ใจกับสุขภาพให้มากขึ้น
ความวิตกล้วนเป็นมลพิษกระตุ้นริ้วรอยเพิ่มบนใบหน้า และเซลลูไลต์ใต้ผิวหนัง หันมาปฎิบัติใส่ใจสุขภาพและปรับปรุงพัฒนาสัมพันธภาพกับสิ่งแวดล้อมรอบข้างดีกว่า
ถ้าหากยังคิดมากอีก ลองมาฝึกให้รู้จักมองโลกในด้านดีเข้าไว้กันดีกว่าค่ะกับบทความคิดในแง่บวก
ขอบคุณ : pooyingnaka.com