happy on February 03, 2012, 03:10:28 PM



22 มีนาคมนี้...SF MOVIE EXCLUSIVE

               เบนจามิน เมีย (แมท เดมอน) คือนักหนังสือพิมพ์ และนักเขียนเรื่องผจญภัย ผู้ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการเลี้ยงดูลูกสองคน ด้วยความหวังที่จะกอบกู้ความเป็นครอบครัวคืนมา  เมีย ตัดสินใจลาออกจากงาน และไปซื้อบ้านบนเนื้อที่ 18 เอเคอร์ ที่ตั้งอยู่นอกเมือง ซึ่งมาพร้อมกับของแถมสุดพิเศษ คือสวนสัตว์เก่าที่มีสาวสวยชื่อเคลลี ฟอสเตอร์ (สคาร์เล็ทท์ โยฮันส์สัน)และทีมงานของเธอเป็นผู้ดูแล แม้จะไม่มีประสบการณ์เรื่องการบริหารสวนสัตว์ อีกทั้งเวลาและเงินทุนที่มีก็จำกัดจำเขี่ย แต่ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ บวกแรงสนับสนุนของคนในครอบครัวและชุมชนท้องถิ่น เมียตกลงใจเปิดสวนสัตว์ให้คนเข้าชมอีกครั้ง ซึ่งทำให้เขาพบว่า ไม่จำเป็นต้องไปเสาะหาการผจญภัยที่ไหนอีกแล้ว ในเมื่อมีเรื่องน่าตื่นเต้นที่สุดรออยู่ในสวนหลังบ้านของตัวเอง






               แคทาลิสท์ อัลลายแอนซ์ภูมิใจเสนอ WE BOUGHT A ZOOเรื่องจริงที่สนุกสนาน และแสนประทับใจ เกี่ยวกับพลังมหัศจรรย์ของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งต้องบากบั่นต่อสู้กับความท้าทายครั้งสำคัญในชีวิต ที่นำไปสู่การบรรลุความฝันอันยิ่งใหญ่ ผลงานภาพยนตร์สำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัยเรื่องแรกของผู้กำกับคาเมรอน โครว์ (จาก Jerry Maguire, Almost Famous, Vanilla Sky)นำแสดงโดยแมท เดมอน (จาก Bourne Identity, Contagion, Good Will Hunting), สคาร์เล็ทท์ โยฮันส์สัน (จาก Iron Man 2, Vicky Cristina Barcelona) และ โทมัส เฮเดน เชิร์ช (Sideways, Easy A)เดมอน รับบท เบนจามิน เมีย คุณพ่อลูกสอง ผู้พาครอบครัวของเขาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ณ บ้านหลังใหม่ที่อยู่ในสวนสัตว์ที่ปิดตัวลงแล้ว ซึ่งเขาและลูกๆ หวังจะใช้สวนสัตว์แห่งนี้เป็นเครื่องมือเรียกความคึกคักให้กลับมาสู่เมืองของพวกเขาอีกครั้ง

มาร่วมค้นหาความรักของครอบครัวพร้อมกัน22 มีนาคมนี้ เฉพาะเครือ เอสเอฟ

เกี่ยวกับงานสร้าง
เบนจามิน เมีย - เรื่องจริงสุดประทับใจ

               ปี 2006 เบนจามิน เมีย นักเขียนชาวอังกฤษของหนังสือพิมพ์ การ์เดียน อพยพครอบครัวตัวเองจากภาคใต้ของฝรั่งเศส ไปอยู่ในสวนสัตว์ดาร์ทมัวร์ ที่เดวอน ชนบทของประเทศอังกฤษ ครอบครัวของเมียประกอบด้วย มารดา, ตัวเขา, แคทเธอรีน ภรรยา, ลูกเล็กสองคน เอลลา กับไมโล และสุดท้าย ดันแคน ผู้เป็นพี่ชาย “มันกินเวลาราว 18 เดือน ระหว่างปี 2006-2007 ที่ครอบครัวเราคิดจะซื้อสวนสัตว์แห่งหนึ่ง” เมียเล่า “ผมมองหาบ้านหลังใหญ่ ที่ทุกคนในครอบครัวจะอยู่ด้วยกันได้หลังจากพ่อตาย ตัวแทนขายบ้านส่งรายละเอียดเกี่ยวกับบ้านสารพัดแบบมาให้ผม และมีหลังหนึ่งโดนใจ” เมียเล่าต่อ                  
              “มันเป็นบ้านขนาด 12 ห้องนอนหลังใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนสวนกว้าง 30 เอเคอร์ ในทำเลอันสวยงามของเมือง แต่ในสวนนั้น ก็มีสิงสาราสัตว์จำนวน 250 ตัว อาศัยอยู่ด้วย พวกมันเข้ามาเพ่นพ่านทั้งในครัว, ห้องน้ำ และห้องนอน ตอนแรกเราก็ขำ แต่อีกใจก็อยากไปดูให้เห็นกับตา ครอบครัวเราเป็นพวกรักสัตว์ และเราก็หลงรักสัตว์พวกนั้น จนรู้สึกว่าต้องซื้อบ้านหลังนี้ สวนสัตว์ต้องถูกปิดถ้าไม่มีคนมาดำเนินงานต่อ และสัตว์กว่าครึ่งหนึ่งจะถูกกำจัด เพราะมันยากมากที่จะย้ายพวกมันไปอยู่ที่อื่น เราจึงตัดสินใจได้ทันที ว่าเราต้องรับช่วงดูแลสวนสัตว์นี้ต่อไป และเราต้องมั่นใจว่า จะทำให้มันอยู่รอดจนสามารถเปิดให้คนเข้าชมได้อีก”
              ภายหลังเป็นเจ้าของสวนสัตว์ได้ไม่นาน แคทเธอรีน ภรรยาของเมียผู้อยู่ระหว่างการต่อสู้กับโรคมะเร็ง ก็มีอาการทรุดหนักและเสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 40 ปี สามเดือนต่อมา เมียเปิดสวนสัตว์ได้สำเร็จ ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี เนื่องจากการเปิดสวนสัตว์ช่วงนี้ จะช่วยให้ทุกคนในครอบครัวคลายความโศกเศร้าจากการสูญเสียแคทเธอรีนไป “มันเป็นสิ่งบริสุทธิ์มาก เมื่อต้องทำงานใกล้ชิดกับบรรดาสัตว์ที่ต้องพึ่งพาเรา เพื่อให้พวกมันมีชีวิตรอดในแต่ละวัน ขณะที่ทำเรื่องนี้ ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง และเห็นชีวิตดำเนินไป คนงานให้อาหารสัตว์ คอยดูแลพวกมัน ผมสัมผัสวงจรชีวิตทั้งหมดได้ มันช่างดีจริงๆ ที่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมอันสวยงามแบบนี้”
              ในฐานะอดีตนักเขียน เมียรู้ว่าเขาสามารถเขียนหนังสือสักเล่ม เพื่อบอกเล่าประสบการณ์สุดพิเศษของตัวเอง แต่ก่อนที่จะเป็นหนังสือ เขาก็ลงมือเขียนมันในรูปแบบคอลัมน์หนังสือพิมพ์ “ผมว่าเรื่องนี้น่าสนใจ แต่เมื่อฮอลลีวูดซื้อลิขสิทธิ์ไป ผมก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาไปสร้างเป็นหนังจริงๆ หรอก พอมันถูกทำเป็นหนัง ผมก็ไม่คิดอีกว่า มันจะกลายเป็นหนังที่มีนักแสดงและผู้กำกับชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้”
              ฤดูใบไม้ร่วง ปี 2007 ก่อนที่หนังสือของเมียจะออกวางจำหน่าย เรื่องราวของเขาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดีความยาว 4 ตอน ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์บีบีซี หลังจากนั้น เขาก็ต้องแบ่งเวลาจากการดูแลสวนสัตว์ ไปตระเวนพูดให้คนที่สนใจฟัง ในเรื่องของความกล้าที่จะทำตามความฝันตัวเอง “ผมเป็นคนหัวรั้น ผู้ไม่ยอมจำนนต่อคำพูดของคนอื่น ที่บอกว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ไม่มีทางสำเร็จ คุณจะแพ้ทันทีเมื่อคุณหยุด แต่ถ้าคุณสู้ต่อ คุณยังมีโอกาส แม้ว่าโอกาสนั้นจะเหลือน้อยแค่ไหนก็ตาม ถ้าเรื่องราวของผมสร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครได้ ผมก็รู้สึกดี ยิ่งผมสามารถกระตุ้นให้พวกเขามองข้ามอุปสรรค และออกไล่ล่าความฝันของตัวเองได้ล่ะก็ ผมจะมีความสุขมากๆ เลย”


« Last Edit: February 05, 2012, 04:20:40 PM by happy »

happy on February 03, 2012, 03:19:26 PM





ข้อมูลนักแสดง

แมท เดมอน  (เบนจามิน เมีย)

               เดมอนโตที่บอสตัน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และเริ่มต้นอาชีพนักแสดงที่โรงละคร อเมริกัน รีเพอร์ทอรี ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือ Mystic Pizza (1988) ตามด้วย School Ties (1992), Geronimo: An American Legend (1993), The Good Old Boys (TV movie 1995), Glory Daze (1995) แล้วจึงเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากการแสดงอันยอดเยี่ยมใน Courage Under Fire (1996)
              เดมอนก้าวสู่ความสำเร็จครั้งแรก เมื่อเขาและเพื่อนสนิท เบ็น แอฟเฟล็ค ร่วมกันเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Good Will Hunting ซึ่งสามารถพิชิตรางวัลออสการ์ และรางวัลลูกโลกทองคำ สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 1997 อีกทั้งตัวเดมอนเอง ก็ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์, ลูกโลกทองคำ และ SAG Awards สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในบทวิล ฮันติง ตัวเอกของเรื่องด้วย
              ภาพยนตร์เด่นเรื่องอื่นของเขามีอีกนับไม่ถ้วน อาทิ The Rainmaker (1997), Saving Private Ryan (1998), Rounders (1998), The Talented Mr. Ripley (1999), The Legend of Bagger Vance (2000), All the Pretty Horses (2000), Ocean’s Eleven (2001), The Bourne Identity (2002), Stuck on You (2003),  The Bourne Supremacy (2004), Ocean’s Twelve (2004), The Brothers Grimm (2005), Syriana (2005), The Departed (2006), The Good Shepherd (2006), Ocean’s Thirteen (2007), The Bourne Ultimatum (2007), Che: Part Two (2008), The Informant! (2009), Invictus (2009 - ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม), Hereafter (2010), True Grit (2010), The Adjustment Bureau (2011) และ Contagion (2011)


สคาร์เล็ทท์ โยฮันส์สัน  (เคลลี ฟอสเตอร์)

               นักแสดงสาวชาวนิวยอร์ค ผู้มีประสบการณ์ด้านการแสดงระดับอาชีพครั้งแรก บนเวทีละคร ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ อีกสี่ปีต่อมา โยฮันส์สันก็เป็นที่รู้จักของแฟนภาพยนตร์ทั่วโลก เมื่อรับบทเป็นเกรซ แมคลีน ใน The Horse Whisperer ผลงานกำกับของโรเบิร์ต เรดฟอร์ด จากนั้นเธอก็ปรากฏตัวในภาพยนตร์ชั้นดีอีกมากมาย เช่น The Man Who Wasn’t There (2001), An American Rhapsody (2001), Lost in Translation (2003 - ได้รับรางวัล BAFTA สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม), Girl with a Pearl Earring (2003 - ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม), The Perfect Score (2004), A Love Song for Bobby Long (2004 - ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม), A Good Woman (2004), In Good Company (2004), Match Point (2005 - ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม), Scoop (2006), The Prestige (2006), The Nanny Diaries (2007), The Other Boleyn Girl (2008), Vicky Cristina Barcelona (2008), He’s Just Not That Into You (2009) และ Iron Man 2 (2010)

โทมัส เฮเดน เชิร์ช  (ดันแคน เมีย)

               ภาพยนตร์เรื่องแรกของโทมัส เฮเดน เชิร์ช คือ Tombstone (1993) ตามด้วยผลงานเรื่องดังอย่าง Tales from the Crypt: Demon Knight (1995), George of the Jungle (1997), One Night Stand (1997) จนกระทั่งมาพบความสำเร็จจาก Sideways ภาพยนตร์เบาสมองเรื่องเยี่ยมที่ส่งให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์, Broadcast Film Critics และ Independent Spirit Awards สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมประจำปี 2004 ตามด้วยความสำเร็จอีกครั้งในปี 2006 กับรางวัลเอ็มมี สาขานักแสดงสมทบชายชายยอดเยี่ยม จากซีรีส์เรื่องดัง Broken Trail ผลงานลำดับต่อมาที่ช่วยเพิ่มเครดิตให้เขาได้แก่ Charlotte’s Web (voice 2006), Spider-Man 3 (2007), Smart People (2008), All About Steve (2009), Easy A (2010) และ Killer Joe (2011)

แพทริค ฟูจิท  (โรบิน โจนส์)

               แพทริค ฟูจิท กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับ คาเมรอน โครว์ อีกครั้ง หลังจากที่เขาแจ้งเกิดด้วยบทนักข่าววัยรุ่นของนิตยสารโรลลิง สโตน ในภาพยนตร์ของโครว์เรื่อง Almost Famous (2000) ฟูจิทเกิดที่ซอลท์ เลค ซิตี้ รัฐยูทาห์ โดยในวัยเด็ก คนที่สอนให้เขารักการละคร และอยากเป็นนักแสดง ก็คือแจน มารดาผู้มีอาชีพเป็นครูสอนเต้นรำนั่นเอง ผลงานเด่นเรื่องอื่นของเขา ได้แก่ Spun (2002), White Orleander (2002), ER (TV series 2003), Saved! (2004), The Amateurs (2005), Wristcutters: A Love Story (2006), House M.D. (TV series 2006), The Good Life (2007), Horsemen (2009) และ Cirque du Freak: The Vampire’s Assistant (2009)

แอล แฟนนิง  (ลิลี มิสคา)

               เริ่มแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกใน I Am Sam (2001) เมื่ออายุเพียง 2 ขวบ จนถึงปัจจุบัน ด้วยวัย 14 ปี แอล แฟนนิงแสดงภาพยนตร์รวมกันทั้งจอแก้วและจอเงินเป็นจำนวนมากกว่า 30 เรื่อง โดยมีผลงานเรื่องเด่น ดังนี้ Daddy Day Care (2003), CSI: Miami (TV series 2003), The Door in the Floor (2004), CSI: NY (TV series 2004), Because of Winn-Dixie (2005), House M.D. (TV series 2006), Babel (2006), Déjà vu (2006), The Lost Room (TV mini-series 2006), Criminal Minds (TV series 2006-2007), Reservation Road (2007), Phoebe in Wonderland (2008), The Curious Case of Benjamin Button (2008), Astro Boy (voice 2009), The Nutcracker in 3D (2010), Somewhere (2010) และ Super 8 (2011)

จอห์น ไมเคิล ฮิกกินส์  (วอลเทอร์ เฟอร์ริส)

               นักแสดงชายผู้ชอบสร้างความประหลาดใจให้ผู้ชม ด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้ากับบทได้อย่างแนบเนียนและไร้ที่ติ ในจำนวนผลงานกว่า 80 เรื่องของฮิกกินส์ มีงานซึ่งเป็นที่จดจำของคนดู ดังนี้  The Last Shift (TV movie 1996), G.I. Jane (1997), Wag the Dog (1997), Bicentennial Man (1999), Best in Show (2000), Ally McBeal (TV series 2000-2002), Blade: Trinity (2004), Fun with Dick and Jane (2005), Arrested Development (TV series 2003-2006), The Break-Up (2006), For Your Consideration (2006), Evan Almighty (2007), Fred Clause (2007), Yes Man (2008), Fired Up! (2009), The Ugly Truth (2009), Couple Retreat (2009), Numb3rs (TV series 2009), Community (TV series 2009-2010), Glory Daze (TV series 2010-2011), Bad Teacher (2011), Happily Divorced (TV series 2011), Wilfred (TV series 2011) และ The Good Wife (TV series 2011)

โคลิน ฟอร์ด  (ไดแลน เมีย)

               เกิดเมื่อ 12 กันยายน 1996 ที่แนชวิลล์ เขาใช้เวลาอยู่ที่นั่นแค่ 24 ชั่วโมง ก็ต้องย้ายบ้านไปอยู่ที่แอตแลนตา เมื่ออายุ 5 ขวบ ฟอร์ดก็ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ Sweet Home Alabama (2002) ซึ่งทำให้เขาตกหลุมรักอาชีพนักแสดงตั้งแต่นั้นมา ผลงานเรื่องเด่นของเขามีดังนี้ Smallville (TV series 2005), In the Name of the King: A Dungeon Siege Tale (2007), Lake City (2008), Push (2009), Jack and the Beanstalk (2010), CSI: Miami (TV series 2010), Family Guy (TV series 2010-2011), Supernatural (TV series 2007-2011) และ Jack and the Never Land Pirates (TV series 2011)

แม็กกี เอลิซาเบธ โจนส์  (โรซี เมีย)

               เกิดเมื่อเดือนตุลาคม 2003 และเริ่มทำงานเป็นนางแบบโฆษณาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ในปี 2011 โจนส์ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ Footloose และ We Bought a Zoo คือผลงานเรื่องที่สองของเธอ

แองกัส แมคฟาเด็น  (ปีเตอร์ แมคครีดี)

               นักแสดงชายชาวสก็อต ผู้มาจากเมืองกลาสโกว เขาจบการศึกษาจาก Central School of Speech and Drama ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้น แมคฟาเด็นก็ได้แสดงละครเวทีและภาพยนตร์ ก่อนที่จะโด่งดังขึ้นมาจากบทโรเบิร์ต เดอะ บรูซ ในภาพยนตร์รางวัลออสการ์เรื่อง Braveheart (1995) ตลอดระยะเวลา 20 ปีของการเป็นนักแสดง เขามีผลงานชั้นดีมากมายทั้งทางจอแก้วและจอเงิน โดยมีเรื่องเด่นดังต่อไปนี้ Warriors of Virtue (1997), Cradle Will Rock (1999), Titus (1999), Jason and the Argonauts (TV movie 2000), Divine Secrets of the Ya-Ya Sisterhood (2002), Equilibrium (2002), Miracles (TV series 2003), Spartacus (TV movie 2004), Alias (TV series 2005-2006), Blackbeard (TV movie 2006), Saw III (2006), Saw IV (2007), Californication (TV series 2008) และ Criminal Minds (TV series 2011)
« Last Edit: February 05, 2012, 04:22:59 PM by happy »

happy on February 03, 2012, 03:37:17 PM





ข้อมูลทีมงานสร้าง

คาเมรอน โครว์  (ผู้อำนวยการสร้าง/ ผู้เขียนบท/ ผู้กำกับภาพยนตร์)

               เกิดปี 1957 ในปาล์มสปริงส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากจบไฮสคูลเมื่ออายุ 15 ปี โครว์ก็ไปทำงานเป็นสตาฟฟ์ของนิตยสารดนตรี โรลลิง สโตน ในปี 1979 เขาปลอมตัวเข้าไปเรียนในไฮสคูลอีกครั้ง เพื่อหาข้อมูลมาเขียนหนังสือเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่น ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนังสือขายดี จนถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Fast Times at Ridgemont High ซึ่งโครว์รับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมประจำปี 1982 จากชมรมนักเขียนบทแห่งอเมริกา
              ในปี 1989 เขาได้กำกับภาพยนตร์ครั้งแรกคือเรื่อง Say Anything ตามด้วย Singles (1992) และ Jerry Maguire (1996) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 5 สาขา รวมสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย ผลงานเรื่องต่อมา Almost Famous (2000) ทำให้โครว์ได้รับรางวัลออสการ์ และ BAFTA เป็นครั้งแรก ในสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
              ผลงานเขียนบท/กำกับเรื่องอื่นของเขาคือ Vanilla Sky (2001), Elizabeth Town (2005), The Union (documentary 2011) และ Pearl Jam Twenty (documentary 2011)


เอลีน บรอช แมคเคนนา  (ผู้เขียบทภาพยนตร์)

               เอลีน บรอช แมคเคนนา เป็นลูกสาวของผู้อพยพรุ่นแรกที่เข้ามาอาศัยในประเทศสหรัฐอเมริกา พ่อของเธอเป็นชาวอิสราเอล ส่วนแม่มีเชื้อสายฝรั่งเศส พวกเขาพาแมคเคนนาย้ายมาอยู่ที่นิวเจอร์ซีย์ ตอนที่เธออายุเพียง 6 เดือน
              แมคเคนนาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และเริ่มทำงานด้วยการเป็นนักเขียนหนังสือพ็อคเกตบุ๊ค ก่อนที่ลงมือเขียนบทภาพยนตร์เรื่องแรก ขณะลงเรียนภาคฤดูร้อนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค ผลงานที่ผ่านมาของเธอคือ All-American Girl (TV series 1995), Three to Tango (1999), Laws of Attraction (2004), Drive/II (TV movie 2006), The Devil Wears Prada (2006 - ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA และรางวัลชมรมผู้เขียนบทอเมริกัน สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม), 27 Dresses (2008), Morning Glory (2010) และ I Don’t Know How She Does It (2011)


จูลี ยอร์น  (ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์)

               ชาวนิวยอร์คผู้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทูเลน เธอมีประสบการณ์ด้านการอำนวยการสร้างภาพยนตร์มาเกือบ 20 ปี ด้วยผลงานชั้นดีอย่าง Trees Lounge (1996), Wonderland (2003), The Devil’s Rejects (2005), The Exorcism of Emily Rose (2005), Come Early Morning (2006), Cleaner (2007), First Sunday (2008), Max Payne (2008), Bride Wars (2009), Unstoppable (2010) และ Red Riding Hood (2011)

ริค ยอร์น  (ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์)

               ญาติของจูลี ยอร์น ผู้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์ในปี 2008 และมีผลงานอย่าง Max Payne (2008), The Wolfman (2010), Unstoppable (2010), Broadwalk Empire (TV series 2010-2011) นอกจากนี้เขายังเป็นผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารให้ภาพยนตร์ของผู้กำกับ มาร์ติน สกอร์เซซี อีกสองเรื่องคือ Gangs of New York (2002) และ The Aviator (2004)

ไอโลนา แฮร์ซเบิร์ก  (ผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร)

               ผู้อำนวยการสร้างคู่บุญของโจนาธาน เด็มมี ผู้กำกับรางวัลออสการ์ โดยเธอเป็นผู้อำนวยการสร้างให้ผลงานของเขาเรื่อง The Manchurian Candidate (2004) กับ Neil Young: Heart of Gold (documentary 2006) และเป็นผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารในเรื่อง The Truth About Charlie (2002) กับ Rachel Getting Married (2008) ส่วนภาพยนตร์เรื่องดังที่เธอร่วมงานกับผู้กำกับคนอื่น ได้แก่ The River Wild (1994), Waterworld (1995), Dante’s Peak (1997), Thirteen Days (2000), Evan Almighty (2007) และ It’s Complicated (2009)

โรดริโก พริเอโต  (ผู้กำกับภาพ)

               เกิดที่กรุงเม็กซิโก ซิตี ในปี 1965 โดยมีพ่อเป็นคนเม็กซิโก และแม่เป็นชาวอเมริกัน เขาศึกษาวิชาการถ่ายภาพสำหรับภาพยนตร์ที่สถาบัน Centro de Capacitacion Cinematografica (CCC) ที่บ้านเกิด พริเอโตเริ่มต้นอาชีพผู้กำกับภาพในวงการโทรทัศน์ ตั้งแต่เขาอายุ 22 ปี ก่อนจะพัฒนามาสู่ภาพยนตร์ขนาดสั้น และขนาดยาวตามลำดับ สไตล์การกำกับภาพอันละเอียดประณีต และเต็มไปด้วยอารมณ์ ทำให้เขาได้รับรางวัล Mexico’s Ariel (Mexico’s Academy Award) ประจำปี 1996 จากภาพยนตร์เรื่อง Sobrenatural และผลงานต่อมา Un Embrujo (Under a Spell) ก็ทำให้เขาพิชิตรางวัล Mexico’s Ariel ครั้งที่สอง และรางวัล Concha de Plata สาขาผู้กำกับภาพยอดเยี่ยมประจำปี 1998 จากเทศกาลภาพยนตร์ ซาน เซบาสเตียน
         พริเอโตเป็นผู้กำกับภาพให้ Amores Perros ภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของผู้กำกับ อเลฮานโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู ที่ทำให้เขาได้รับรางวัล Mexico’s Ariel เป็นครั้งที่สาม และรางวัล Golden Frog จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Camerimage ในปี 2000 ผลงานเด่นชิ้นอื่นของเขาได้แก่ การกำกับภาพในภาพยนตร์เรื่อง Original Sin (2001), Frida (ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลสมาคมผู้กำกับภาพอเมริกัน ประจำปี 2002), 8 Mile (2002), 25TH Hour (2002), 21 Grams (2003), Alexander (พิชิตรางวัล Golden Frog จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Camerimage ประจำปี 2004), Brokeback Mountain (ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์, BAFTA และรางวัลสมาคมผู้กำกับภาพอเมริกัน ประจำปี 2005), Babel (ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัล BAFTA ประจำปี 2006), Lust Caution (พิชิตรางวัล Golden Osella ประจำปี 2007 จากเทศกาลภาพยนตร์เวนิซ), Broken Embraces (2009), State of Play (2009),Wall Street: Money Never Sleeps (2010), Biutiful (2010) และล่าสุด Water for Elephants (2011) ปัจจุบันพริเอโตอาศัยอยู่กับภรรยา โมนิกา และลูกสาวสามคน ที่นครลอส แองเจลิส


เคลย์ กริฟฟิธ  (ผู้ออกแบบงานสร้าง)

               เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้ตกแต่งฉากในภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง Dirty Dancing (1987), Mystic Pizza (1988), Pacific Heights (1990), Singles (1992), Sleepless in Seattle (1993), Grumpy Old Men (1993), City Slickers II: The Legend of Curly’s Gold (1994), Junior (1994), Se7en (1995), Jerry Maguire (1996), As Good as It Gets (1997) และ Stuart Little (1999) แล้วจึงก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้กำกับศิลป์ในภาพยนตร์ของคาเมรอน โครว์เรื่อง Almost Famous (2000) ตามด้วยผู้ออกแบบงานสร้างเป็นครั้งแรกใน Prozac nation (2001) ผลงานเรื่องต่อมาของกริฟฟิธ ได้แก่ Domestic Disturbance (2001), Sweet Home Alabama (2002), Radio (2003),  Elizabethtown (2005), Norbit (2007), Lucky You (2007) และ Meet Dave (2008)

มาร์ค ลิวอลซี  (ผู้ลำดับภาพ)

               หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเป็นผู้ช่วยผู้ลำดับภาพมานานกว่าสิบปี โดยมีผลงานเกือบ 20 เรื่อง Vanilla Sky (2001) คือภาพยนตร์เรื่องแรกที่ลิวอลซีรับตำแหน่งผู้ลำดับภาพมือหนึ่ง ตามด้วย Pieces of April (2003), The Girl Next Door (2004), Crazy for Love (2005), Wedding Crashers (2005 - ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ๊ดดี จากสมาคมผู้ลำดับภาพอเมริกัน), The Devil Wears Prada (2006 - ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ๊ดดี จากสมาคมผู้ลำดับภาพอเมริกัน), Fred Clause (2007), Marley & Me (2008), The Blind Side (2009) และ The Big Year (2011)

พอล เดียสัน  (ผู้ร่วมอำนวยการสร้าง)

               เดียสันจบการศึกษาจากโรงเรียนภาพยนตร์ของ UCLA แล้วจึงออกไปใช้ชีวิตผจญภัยทั่วโลก ด้วยการทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคในการผลิตภาพยนตร์สารคดีของ National Geographic และ Survival Anglia หลังจากนั้น เขาก็ไปรับหน้าที่เป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต และผู้ช่วยผู้กำกับในซีรีส์โทรทัศน์สุดฮิตอย่าง Hill Street Blues (1981), Me and Mom (1985), The Twilight Zone (1985-1986) และ Beauty and the Beast (1987)
              ผลงานภาพยนตร์เรื่องดังที่เดียสันรับหน้าที่อำนวยการสร้าง ได้แก่ Casper (1995), Congo (1995), Mars Attacks! (1996), Amistad (1997), Small Soldiers (1998), End of Days (1999), Thirteen Days (2000), Evolution (2001), Old School (2003), Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl (2003), Rebound (2005), Neil Young: Heart of Gold (documentary 2006) และ Aliens vs. Predator - Requiem (2007)


อัลดริค ลอลิพอร์เตอร์  (ผู้ร่วมอำนวยการสร้าง)

               เครดิตผลงานของลอลิพอร์เตอร์ มีดังต่อไปนี้ The Paper (1994), Apollo 13 (1995), Ransom (1996), As Good As It Gets (1997), Dance with Me (1998), Edtv (1999), How the Grinch Stole Christmas (2000), Dr. Dolittle 2 (2001), A Beautiful Mind (2001), Dr. Seuss’ The Cat in the Hat (2003), The Missing (2003), Spanglish (2004), A House Divided (2008), You Don’t Mess with the Zohan (2008), The Secret Life of Bees (2008) และ How Do You Know (2010)

มาร์ค อาร์. กอร์ดอน  (ผู้ร่วมอำนวยการสร้าง)

               ผู้อำนวยการสร้างมือใหม่ไฟแรง เจ้าของผลงานเรื่อง Campus Confidential (TV movie 2005), Thomas Kinkade’s Christmas Cottage (2008) และ We Bought a Zoo เป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุด

เดบราห์ แอล. สก็อตต์  (ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย)

               จากการได้รับโอกาสให้ทำหน้าที่ออกแบบเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์เรื่อง E.T.: The Extra-Terrestrial โดยผู้กำกับ สตีเวน สปีลเบิร์ก ที่ออกฉายเมื่อปี 1982 ทำให้ปัจจุบัน เดบราห์ แอล. สก็อตต์ กลายเป็นหนึ่งในนักออกแบบเครื่องแต่งกายผู้โด่งดังที่สุดของวงการภาพยนตร์ เธอได้รับรางวัลออสการ์ สาขาผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมประจำปี 1997 จากภาพยนตร์เรื่อง Titanic ของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน ผลงานเด่นเรื่องอื่นของเธอมีดังนี้ Twilight Zone: The Movie (1983), Street of Fire (1984), Back to the Future (1985), Legends of the Fall (1994), Heat (1995), Looking for Richard (1996), Wild Wild West (1999), The Patriot (2000), Minority Report (2002), The Upside of Anger (2005), The Island (2005), The Lost City (2005), Reign Over Me (2007), Transformers (2007), Get Smart (2008), Avatar (2009), Love and Other Drugs (2010) และ Transformers: Dark of the Moon (2011)

ยอนซี  (ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบ)

               นักดนตรีชาวไอซ์แลนด์ผู้มีชื่อจริงว่า ยอน ธอร์ เบอร์กิซสัน เขาเป็นอดีตนักร้องนำของ Sigur Ros วงดนตรีที่เขาร่วมก่อตั้งเมื่อตอนอายุ 16 ปี ด้วยอัลบั้มชั้นเยี่ยม 5 ชุด ทำให้ Sigur Ros ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในวงดนตรีอันเดอร์กราวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เพลงของวงถูกนำไปประกอบภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง Vanilla Sky (2001), Mysterious Skin (2004), The Life Aquatic with Steve Zissou (2004), Breaking and Entering (2006) และ 127 Hours (2010)
« Last Edit: February 05, 2012, 04:24:50 PM by happy »