ทองคำหลังตรุษจีนเติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ
คลาสสิก โกลด์ เผยนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในช่วงราคาอ่อนตัว โดยราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ ด้านราคาทองคำมีแนวโน้มระยะสั้นอยู่ในกรอบ 1,6400 – 1,700 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,644 – 1,700 แนะนักลงทุนที่เปิด Long ถือต่อ รอการ break ขึ้นผ่าน 1,670 – 1,675 แต่ถ้าไม่ผ่าน ให้ปิดทำกำไร ส่วนแนวโน้มระยะยาวอยู่ในกรอบ 1,550 - 1920
นางสาวณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า “ราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,667 USDต่อออนซ์ โดยเมื่อวันศุกร์ราคาสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,644 ได้และราคาปรับสูงขึ้น เมื่อนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในกรณีของกรีซที่อาจจะเจรจาลดยอดหนี้กับธนาคารเจ้าหนี้ และการ swap พันธบัตรได้สำเร็จ และมีโอกาส break แนวต้านสำคัญบริเวณ 1,670 – 1,75 เป็นเส้น down trend line ในระยะกลาง ซึ่งถ้าผ่านได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อบริเวณ 1,700 – 1,750 USDต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนที่เปิด long ไว้ในช่วงราคาอ่อนตัวถือต่อ เพื่อรอดูการ break ขึ้นของราคา แต่ถ้าไม่สามารถผ่านไปได้ มีแนวโน้มอ่อนค่าลงมาที่บริเวณ 1,644 และสร้างฐานก่อนขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,670 – 1,700 อีกครั้ง ดังนั้นถ้าราคาไม่สามารถผ่านไปได้ แนะนำนักลงทุนปิดทำกำไรบริเวณ 1,670 – 1,675 ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์คาดว่ามีแนวรับบริเวณ 1,630 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,700 ค่าเงินยูโรในสัปดาห์ก่อนปรับขึ้นประมาณ 2% ซึ่งเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ในวันศุกร์อ่อนค่าลง ซึ่งการที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้น เป็นเพราะการประมูลขายพันธบัตรรัฐบาลของฝรั่งเศสและสเปนในวันพฤหัสประสบความสำเร็จ และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการ swap พันธบัตรรัฐบาลของกรีซจะประสบความสำเร็จ
ด้านราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับลดลง 2.08 USDต่อบาร์เรล ปิดที่ 98.46 USDต่อบาร์เรลเนื่องจากการประกาศตัวเลขภาคการผลิตของจีนมีสัญญาณที่อ่อนแอลง และชาติตะวันตกกำลังกำหนดใหอิหร่านเข้าสู่เงื่อนไขการเจรจา ตลาดหุ้นสหรัฐปรับบวกขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัท IBM และบ.Intel
โดยในระยะสัปดาห์มีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น เมื่อราคาทองคำยืนเหนือเส้น MA 200 วันได้ และยืนเหนือ 1,650 USDต่ออออนซ์ได้ ขณะที่แรงขายทำกำไรที่แนวต้านมีไม่มากนัก และนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในช่วงราคาอ่อนตัว และราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ โดยมีแรงขายทำกำไรเป็นระยะๆ ด้านปัจจัยพื้นฐานเริ่มดีขึ้น เมื่อค่าเงิน USD เริ่มอ่อนค่าลง การประมูลพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในยุโรปประสบความสำเร็จ และการประกาศการให้ความช่วยเหลือทางเงินเพิ่มขึ้นของ IMF อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นสู่แนวต้านของราคาทองคำในแต่ละรอบจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ เนื่องจาก ภาพทางเทคนิคในระยะกลางยังถูกกดด้วยเส้น Down Trend Line และรอการ break ขึ้นหรือ break ลง แต่แนวโน้มมีโอกาส break ขึ้นมากกว่า ส่วนข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรปยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตามต่อไป
ส่วนปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำและต้องติดตามในขณะนี้ ได้แก่ การเข้าอัดฉีดเงินของธนาคารกลางยุโรป การประชุม FOMC หรือการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐในวันที่ 24 – 25 ม.ค. ส่วนปัจจัยลบในขณะนี้คือ ราคาน้ำมันที่กลับมาอ่อนค่าลง
ราคาโลหะเงินปิดที่ 31.68 USDต่อออนซ์ ปิดเพิ่มขึ้น 1.17 USDต่อออนซ์โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 30.28 – 32.21 ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,516.75 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 31.2/30.5 แนวต้านบริเวณ 33.0/33.5 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 30.5 – 33.5 SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,255.67 ตัน
กลุ่มบริษัท คลาสสิก โกลด์ ผู้ที่ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในทองคำอย่างครบวงจรมายาวนาน ทั้งมีเจ้าหน้าที่การตลาด และนักวิจัยที่มีประสบการณ์ พร้อมที่จะให้คำปรึกษา และเพิ่มโอกาสในการลงทุน รวมไปถึงการจัดสัมมนาฟรี!! ทุกวันอังคาร และพฤหัสบดี ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2618-0808 หรือทาง
www.classicgoldfutures.go.th “กลุ่มบริษัท คลาสสิก โกลด์ .... อนาคตทอง เรามองขาด”