FB on January 13, 2012, 02:55:57 PM
“ไอซ์ อามีนา กูล” มิสมอเตอร์โชว์ นางเอก “รักสุดทีน” ตัวเลือกเดียวที่ผู้ชายทุกคนต้องหันขวับ ที่สำคัญต้องนุ่งยีนส์สวย



          มีพระเอกที่หล่อขั้นเทพระดับ “มาริโอ้ เมาเร่อ” แถมในบทจะต้องเป็น ผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้หนุ่มโอ้ที่ทั้งชีวิต จริงใจเป็นรายวันกับหญิงสาวทุกคนที่ผ่านเข้ามา จะต้องตะลึงและหันขวับ และหยุดความเจ้าชู้ ขี้หลี กะล่อน เพียงแค่ได้สบตา ที่สำคัญถ้าได้พระเอกหล่อกระชากใจสาวขนาดนี้ บท “มินท์ หรือมินตรา” นางเอกสาวที่เป็นนางฟ้าหรือเนื้อคู่ที่สวรรค์ส่งมา ยิ่งต้องสวยสะกดตายิ่งๆกว่าหญิงสาวทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของ “มาริโอ้” อย่างแน่นอน ถึงขนาดที่ว่ากว่า โต๊ะ-ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ หัวหน้าทีมพากย์ ผู้อยู่เบื้องหลังสารพัดความฮา หลายมุกของหนังทุกเรื่องที่ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร ซึ่งโดดมาเขียนบท กำกับและบรรเลงไอเดียความสนุกสนานเกิดเป็น “รักสุดทีน” หนังรักปนฮาเรื่องใหม่ล่าสุดในสไตล์พันธมิตรให้กับค่ายสหมงคลฟิล์มนธมิตร จะได้ตัว น้องไอซ์ อามีนา กูล สาวสวยหน้าคม ที่มีดีกรีเป็นถึงมิสมอเตอร์โชว์ 2010 มารับบทนางเอกเลือดตาแทบกระเด็น โดยเฉพาะโจทย์ง่ายๆ ที่ดูเหมือนไม่ยากจากตัวผกก.ที่เจ้าตัวระบุอย่างชัดเจนว่า “นางเอกของมาริโอ้เรื่องนี้ต้องใหม่สด ที่สำคัญต้องสวยชนิดที่ว่าทำให้ผู้ชายทุกคนต้องหันขวับ รวมทั้งต้องดูดีอย่างยิ่งเวลานุ่งกางเกงยีนส์”

          “มันต้องหน้าใหม่ๆ จริงๆ ตั้งใจว่าต้องหน้าสดๆ เลย แล้วบอกโปรดิวเซอร์ ทีมงานทุกคนว่าต้องเป็นคนที่เห็นแล้วต้องหันขวับเลยนะ ถ้าไม่ขวับไม่ใช่นะ คือตอนแคสท์ติ้งเราดูกันไปหลายคนมาก หลายคนไม่ขวับ แต่พอไอซ์มาแคสท์วันแรกผมอยู่ในห้องพากย์ น้องทีมงานบอก พี่คนนี้มานี่หันขวับเลย แล้วผมเน้นเลยว่าหนังผมขอให้นุ่งกางเกงยีนส์แล้วสวย ผู้หญิงนุ่งยีนส์ต้องสวย เพราะพระเอกอยู่กับยีนส์มาค่อนชีวิต เพราะมาริโอ้เป็น CEO เจ้าของร้านขายยีนส์ ถ้านุ่งยีนส์ไม่สวยไม่เอา พระเอกอยู่กับยีนส์ รักยีนส์ บ้ายีนส์ เพราะฉะนั้นผมเลยขอให้ทุกคนที่มา นุ่งยีนส์มาให้ดู แล้วพอไอซ์มาวันแรก โอ้โหหันขวับเลย เห็นตัวเขาวันแรก นุ่งยีนส์เข้ารูปดูดีมาก แล้วเป็นผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์ แล้วยิ่งพอได้คุย ได้สัมผัสแล้วรู้สึกว่า เออเขาก็มีความคิดอะไรดีๆ อยู่ในตัว ไม่ใช่ผู้หญิงวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กตามผับทั่วไป มีความคิดความอ่าน ดูนิ่งได้ แล้วในเรื่องมีซึ้ง ผมก็ให้เขาแสดงฉากซึ้งก่อนเลย ขอดูฉากซึ้งฉากร้องไห้ก่อน ดูจังหวะมือไม้ กิริยาร่างกายเขา ภาษากายเขา ก็รู้ว่าเขาใหม่ แต่ผมคิดอย่างนี้นะ ว่าถ้าหน้าตาได้ บุคลิกได้แล้ว มีความตั้งใจจริง บางสิ่งบางอย่างเราเติมให้เขาได้ อย่างเล่นวันแรก พอจัดแสง เข้ากล้อง โอ้โห โอ้พร้อมที่จะทำอะไรให้กับผู้หญิงคนนี้ในสิ่งที่โอ้ไม่เคยทำ สิ่งที่โอ้ไม่เคยเป็น พร้อมที่จะเป็นให้กับผู้หญิงคนนี้ได้เลย แล้วพอมาดูเต็มเรื่อง น้องเขามีเสน่ห์จริงๆ ยิ่งนุ่งยีนส์นะ ดูดีมาก แล้วบทนี้คือจุดศูนย์กลางของหนังเลย พระเอกหล่อขนาดนี้ แล้วถ้านางเอกไม่สวยขนาดนั้น มันเป็นไปไม่ได้ คนขนาดนี้ผ่านผู้หญิงมาทุกวัน เจอทุกเกรด เจอทุกดีกรีมาหมด แล้วมาตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้คนเดียว เพราะฉะนั้นตัวคาแรคเตอร์นี้จะต้องเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลเลย ทำให้คนๆ หนึ่งซึ่งหล่อขั้นเทพ มีอะไรต่ออะไรมากมายในชีวิต จะเอาอะไรก็ได้ มาหยุดที่เธอคนๆ นี้คนเดียว ต้องไม่ธรรมดา”

          แหมฟังมุมมองของ “พี่โต๊ะพันธมิตร” แล้วยิ่งอยากเห็นภาพเคลื่อนไหวของน้องไอซ์นางเอกใหม่มาริโอ้บนจอเร็วๆ ซะแล้ว อดใจรออีกนิดกับ “รักสุดทีน” หนังรัก สนุกสนานเบิกบานฮาในสไตล์พันธมิตร 1 มี.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์

FB on January 13, 2012, 02:57:09 PM
สกู๊ป: พันธมิตรจัดเต็ม “รักสุดทีน” จับตา “โอ้ซิงฉือ” เข้าผับแดนซ์กระจายทะเล้นฮา “อวดสาว” น่ารัก…อ๊ะ







           เป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ที่รับประกันว่า นี่คือการเปิดซิงทางด้านการแสดงของ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ในแบบที่รับรองว่าไม่เคยปรากฎในหนังเรื่องไหนมาก่อน งานนี้เหมือนโดนแจ็คพ็อท2เด้งแถมเฮงสุดขีดยิ่งกว่ารายการฝันที่เป็นจริง ทันทีที่โดดมาเขียนบท-กำกับหนังเรื่องแรกตามคำชวนของเสี่ยเจียง ณ สหมงคลฟิล์มฯ โต๊ะปริภัณฑ์ วัชรานนท์ ผู้อยู่เบื้องหลังไอเดียและเป็นเจ้าของสโลแกน “ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร” วาดฝันว่าอยากทำหนังไทยสนุกสนานเน้นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะคลุกเคล้าด้วยเรื่องราวความรักซึ้งๆ ในแบบฉบับพันธมิตร ถึงขนาดลงทุนเขียนบทให้ “หนุ่มหล่อมาริโอ้” ซุป’ตาร์สุดฮอตแถวหน้าฝ่ายชายพลิกบทบาทเป็นหนุ่มหล่อขั้นเทพ สุดทะเล้น แถมจีบหญิงเป็นว่าเล่น เจ้าของฉายา “ถึงใจ” มาพร้อมสโลแกนที่ว่า “หล่อเหลือล้น ทนยิ่งนัก รักใครไม่เป็น” คือหล่อขั้นเทพ สามารถทนได้ทุกสภาวะ ไม่ว่าจะมีหญิงเข้ามากี่คนในชีวิตล้วนรับได้หมด เพียงแต่ว่ารักใครไม่เป็น ไม่เคยรักใคร ไม่รู้ว่ารักคืออะไร แต่พร้อมจริงใจกับสาวทุกคน

          จับตาดูให้ดีเพราะนี่คือฉากไฮไลท์สำคัญที่บ่งบอกสรรพคุณคาแรคเตอร์ในความเป็น “ถึงใจ” ของหนุ่มโอ้ โดยในฉากเขาพร้อมสมาชิกเพื่อนเลิฟในแก๊งรักสุดทีนซึ่งประกอบไปด้วย จัดให้ (รับบทโดยจั๊ดธีมะ กาญจนไพริน) และ เต็มสูบ(รับบทโดยพล่ากุ้งมาเจนต้า (วรชาติ ธรรมวิจินต์) ออกตะลุยผับเพื่อจีบหญิง ใครจะไปคิดว่า สุดหล่ออย่างมาริโอ้จะโชว์ศักยภาพการแสดงด้วยการออกท่าทางวาดลีลาแด๊นซ์กระจายได้อย่างถึงใจขนาดนี้ มาชนิดที่ว่าจัดหนัก จัดเต็ม แถมเกทับ2ดีเจมืออาชีพอย่างดีเจจั๊ดและพล่ากุ้งมาเจนต้าศิลปินนักร้องสุดแนวชิดซ้ายชิดขวาตกขอบในฉากนี้ไปเลย เมื่อเจอกับ “ท่วงท่ามาริโอ้แดนซ์” จนผู้กำกับโต๊ะพันธมิตร ถึงกับถูกอกถูกใจเป็นพิเศษ จนแทบตั้งตัวไม่ติด ไม่คิดว่าจะได้เห็นสปิริทการแสดงจากหนุ่มโอ้แบบเกินร้อยขนาดนี้ ทำให้การถ่ายฉากในผับตลอด 12 ชม.ตั้งแต่ 6-7 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น เหล่าบรรดานักแสดงสมทบวัยรุ่นนับร้อยชีวิต ต่างพลอยสนุกสนานและปล่อยลีลากันอย่างสุดชีวิตไปกับพระเอกหนุ่มด้วยเลย

          “ก็รับประกันว่าภาพที่คุณได้เห็นมาริโอ้แดนซ์กระจายในผับเนี่ยะ ในหนังเรื่องไหนไม่มีแน่ คิดดูละกันว่าพล่าเอยและจั๊ดเนี่ยะดีเจนะเปิดเพลงมาตลอด หงอยเลยๆ มาเจอโอ้แดนซ์กระจายในท่าเต้นที่ออกมา ทั้งสองคนบอกเลยว่าเฮ้ยโอ้ทำได้ยังไง ทุกคนงงกันทั้งกอง ยอมรับตอนแรกผมไม่ได้มองฉากนี้เลยนะ กะว่าถ่ายซีนนี้เสร็จก็จะเตรียมงานถ่ายทำในซีนต่อไป ทีนี้พอผู้ช่วยเปิดเพลงแล้วก็ให้นักแสดงแดนซ์กระจายไป ผมก็มายืนๆ ดู ผู้กำกับภาพเขาก็กวาดกล้องไปทั่วทั้งผับเลยนะ ผมรีบบอกเลยว่าให้จับไปที่โอ้อย่างเดียวเลยกับจั๊ดและพล่ากุ้ง ชี้ไปเลย ไม่ต้องแพนไปที่อื่นแล้ว เอาตรงนั้นอย่างเดียว เห็นแล้วน่ารักมาก สนุกมาก ให้ดีเจเปิดเพลงเหมือนในผับเลย เปลี่ยนจังหวะไปเรื่อย แล้วให้มาริโอ้เขาเต้นยาวไปเลย เต้นยาวมาก ทะเล้น ทะลึ่ง มีท่ามีทาง เหมือนกับ ถ้าคุณเคยเห็นโจวซิงฉือรุ่นแรกๆ ทะเล้นๆ ผมอยากให้โอ้ออกมาประมาณนั้น เอากลิ่นๆ ของโจวซิงฉือมานิดนึง ซึ่งโอ้ก็ทำได้ แล้วโอ้แดนซ์กระจาย น่ารักมาก ทีแรกยังสงสัยเลยว่าเฮ้ยมาริโอ้เต้นแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ว่าลึกๆ เขาเป็นคนที่สนุกมาก พอเข้าผับก็เหมือนกับเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไปคนหนึ่งซึ่งมีท่าของเขาเอง เป็นท่าร่วมสมัยมาก เป็นท่าที่เด็กวัยรุ่นเขาเต้นกันในยุคนี้ ยังถามโอ้เลยว่าโอ้ไปเที่ยวผับบ่อยเปล่าเนี่ยะ โอ้ตอบไม่ได้เที่ยวเลยพี่ไม่มีเวลาไปเที่ยวไหนเลยทำงาน 7 วัน แต่อันนี้เขาคิดของเขาออกมาเอง พอเพลงมาเขาก็แดนซ์กระจาย เราก็เลยให้กล้องจับยาวเลย คือฉากนี้ถ้าเป็นหนังผมเองที่ผมดูคนเดียวผมจะใช้หมดเลยครึ่งชั่วโมงในฉากนี้ เพราะโอ้เต้นน่ารัก ก็พูดได้เต็มปากว่าโอ้ให้ใจในหนังเรื่องนี้และมีอีกหลายเซอร์ไพรส์ที่เขาไม่เคยทำในหนังเรื่องไหน แต่ก็ได้เห็นในหนังเรื่องนี้แน่นอน”

          แค่เห็นลีลาก็สัมผัสได้ถึงความทะเล้นในแบบที่เชื่อว่าหลายๆ คนก็อยากเห็นมาริโอ้ซิงฉืออย่างแน่นอน อดใจรออีกนิดกับความสนุกสนานของ “รักสุดทีน”ในสไตล์พันธมิตร 1 มี.ค.นี้ทุโรงภาพยนตร์

FB on January 13, 2012, 02:58:11 PM
เสี่ยเจียงไฟเขียว “โต๊ะพันธมิตร” ทำ “รักสุดทีน” แบบจัดเต็ม ระดมสารพัดมุกแก๊ก ตอกย้ำลายเซ็นต์ “หนังรักปนฮาสไตล์พันธมิตร”



          คร่ำหวอดอยู่ในวงการพากย์หนังมาหลายสิบปี โดยเฉพาะเป็นเจ้าของประโยคยอดฮิต “ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร” ที่คอหนังคุ้นเคยเป็นอย่างดี เคยได้ไฟเขียวจาก “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” หัวเรือใหญ่ค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จนทำให้ “โต๊ะ ปริภัณฑ์ วัชรานนท์” กลายเป็นผู้ผูกขาดเสียงพระเอกหล่อๆ ระดับแถวหน้าของเอเชียไม่ว่าจะเป็น โจวซิงฉือ, เฉินหลง, เจ็ท ลี, หลิวเต๋อหัว แม้แต่หนังฝรั่งโดยเฉพาะบทเอ็ดเวิร์ด แวมไพร์เทพบุตรทไวไลท์สุดหล่อ และกลายเป็นกำลังสำคัญให้ “ทีมพากย์พันธมิตร” เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจนถึงทุกวัน และล่าสุดกำลังจะมี “รักสุดทีน” ภาพยนตร์ตลก-โรแมนติค จากผลงานการเขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตที่มาพร้อมสารพัดไอเดียมุกแก๊ก โดยเฉพาะอารมณ์สนุกสนานที่เป็นลายเซ็นต์เฉพาะในแบบฉบับพันธมิตรที่แฟนๆ คุ้นเคยเป็นอย่างดี งานนี้ยังขอสอดแทรกอารมณ์ซึ้งๆ เน้นความประทับใจลงไปด้วย นอกเหนือจากสารพัดมุกฮาที่พร้อมระดมมาแบบจัดเต็ม แถมงานนี้ได้หล่อขั้นเทพอย่าง “มาริโอ้ เมาเร่อ” มาพลิกบทบาททะเล้น กะล่อนฮา ในบทชายหนุ่มที่กล้าขอเบอร์และพร้อมจริงใจกับสาวทุกคนเป็นครั้งแรกพร้อมแท็คทีม กับ “พล่ากุ้งมาเจนต้า” ศิลปินพิธีกรหัวฟู ที่พร้อมขนลูกบ้ามาเบ่งดีกรีความซ่าส์เทียบเคียงความหล่อกับ “มาริโอ้” และยิ่ง ได้ “ดีเจจั๊ด ธีมะ กาญจนไพริน” ที่เคยขโมยซีนและทำเอาคนดูหัวร่อจนตกเก้าอี้มาแล้วใน หลุด 4 หลุดตอนฮูอากง มาร่วมก๊วนแก๊งค์บิ๊กไบค์มอ’ไซด์2ล้อไว้ห้อจีบสาวด้วยแล้ว งานนี้ “รักสุดทีน” ถือได้ว่าเป็นหนังรักปนฮาที่ตอกย้ำลายเซ็นต์เฉพาะตัวสไตล์พันธมิตรที่ห้ามพลาด เลยทีเดียว

          “คำว่าแรงบันดาลใจ มันมีส่วนมาจากว่า เราทำงานพากย์หนังมาหลายปี มันมีความสนุก พอมีการเอ่ยชื่อทีมพันธมิตรเข้าไป มันจะต้องมีความขำ มีความสนุก เพราะฉะนั้นพอเราจะมาทำหนังสักเรื่อง ให้เราหาแรงบันดาลใจจากหนังซีเรียส จากหนังเครียดๆ หรือหนังฆ่ากันเราก็คงไม่มีแรงบันดาลใจ เพราะเอ่ยชื่อเราก็ต้องเน้นที่ความสนุกสนาน ทีนี้พอจะทำหนังเรื่องแรกเราจะทำอย่างไร มองหาสิ่งที่จะกระทุ้งกระตุ้นเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาทำ เราก็มองเรื่องความรัก ความรักซึ่งต้องมีความสนุกควบคู่เข้าไปด้วย อย่างเราเป็นคนดูหนัง แล้วหนังที่เราชอบคือเดอะคลาสสิค หนังซึ้งๆ ดนตรีเพราะๆ ขำบ้างนิดหน่อย เพราะฉะนั้นเราก็เลยได้แรงบันดาลใจจากหนังเกาหลี หนังจีนฮ่องกงนี่เยอะมาก เพราะฉะนั้นหนังรักสุดทีนที่เราอยากทำ เลือกทำ เกิดจากความสนุก ความซึ้งๆ ที่เราได้เคยเจอมา ถ้ามีโอกาสทำหนังต้องทำให้คนดูรู้สึกอิ่ม และมีความสุขแต่ถ้าไปอิ่มแล้วสุขอย่างเดียวก็ไม่ใช่เรา มันต้องมีตลกมีฮามีกะล่อน มีบ้าบอคอแตก ซึ่งหนังเรื่องนี้คิดว่าเหมือนผมชงกาแฟ เอาไอ้โน่นไอ้นี่มาผสมกัน คุณจะฮาจะสนุกในครึ่งค่อนแรก แล้วจะมีอารมณ์ซึ้งๆ ในครึ่งหลัง ก็อยากให้ทุกคนได้ลองดูกัน”

          1 มี.ค. 2555 มาร่วมพิสูจน์ความฮาของ “รักสุดทีน” พร้อมกันนะจ๊ะ ทุกโรงภาพยนตร์

FB on January 21, 2012, 03:12:20 PM

จับตา “ไอซ์-อามีนา” สวยสะพรั่งทั้งกองหยุดลมหายใจ ตะลึงฉากเปิดตัวหญิงสาวผู้กุมหัวใจมาริโอ้หนุ่มกะล่อนที่ไม่เคยรักใคร


   
           ถึงบางอ้อกันทั้งนักแสดง และทีมงานนับร้อยชีวิตของกองถ่ายทำ “รักสุดทีน” ว่าทำไมผกก.โต๊ะพันธมิตร ถึงซีเรียสและจริงจังมากๆ แถมพิถีพิถัน และให้ความสำคัญสุดๆ ตั้งแต่เสื้อผ้า ทรงผม เมคอัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสีหน้าแววตาและแอ็คติ้งที่จะปรากฎขึ้นบนจอภาพยนตร์ของน้องไอซ์-อามีนา กูลสาว 18 มิสมอเตอร์โชว์ประจำปี 2010 ที่ผกก. คัดเลือกเองกับมือจากสาวๆ ร่วมร้อย ถึงขนาดว่านำฉากๆ นี้ไปทดสอบและเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจคัดเลือกนักแสดงที่จะมาคว้าบท “มินตรา” นางเอกสาวที่พร้อมทำให้ชายหนุ่มทุกคนต้องตกตะลึงราวกับต้องมนต์สะกด และต้องหันขวับทันทีเมื่อเธอย่างกรายผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนุ่มหล่อสุดฮอตที่ไม่เคยมอบหัวใจรับรักสาวคนไหนมาก่อนอย่าง “ถึงใจ” ซึ่งรับบทโดยหล่อขั้นเทพ อย่าง “มาริโอ้ เมาเร่อ” เพราะนี่คือฉากหัวใจที่เป็นไฮไลท์ของภาพยนตร์ที่ทำให้คนดูสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของนางเอกและความรู้สึกรักแรกพบ love at first sight ซึ่งเกิดขึ้นกับพระเอก

          “กับฉากไฮไลท์สำคัญที่เป็นฉากเปิดตัวนางเอกผู้กุมหัวใจมาริโอ้ นั่นคือฉากที่ผมบอกกับทีมงานทุกคนตั้งแต่วันคัดตัวค้นหานางเอกที่เราจะเลือกมาเล่น นั่นคือเห็นแล้วต้องหันขวับ เห็นแล้วต้องตะลึง ฉะนั้นฉากแรกที่นางเอกปรากฎตัวแล้วพระเอกเห็นจะต้องยิ่งกว่าตะลึง ชุดที่ใส่ต้องสวยที่สุด ชุดต้องเซ็กซี่ด้วย แล้วปล่อยลมมา ลมจะต้องพัด ตอนแรกทีมงานไปทำผมนิ่งแข็งมาเลย ผมบอกไม่ได้ผมต้องสยายเลย ลงมาต้องสยายเลย ต้องดูดีเลย วินาทีที่นางเอกเดินเข้ามา ต้องทำให้ผู้ชายทุกคนต้องรู้สึกสะดุดกับผู้หญิงคนนี้ แล้วเป็นฉากเดียวที่เหมือนว่าหลุดมาจากสวรรค์ หลุดมาจากฟ้าเลย สวยมากผู้หญิงคนนี้ ซึ่งเป็นฉากที่เราตั้งใจเลย ต้องทำให้คนดูเชื่อให้ได้ว่านางเอกสวยจริงๆ เพราะเราดูตรงนี้เราไม่เชื่อ คนดูก็ไม่เชื่อ แล้วถ้าคนดูยังไม่เชื่อแล้ว หายนะทั้งเรื่องเลย ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่สวยไม่โดน แล้วพระเอกที่เป็นผู้ชายระดับหล่อขั้นเทพ มีผู้หญิงสาวๆเยอะ จะไปชอบได้ไง เพราะฉะนั้นไอซ์ต้องดูดีที่สุด แล้วต้องสวยที่สุด แล้วสิ่งที่ท้าทายมากๆ ก็คือฉากนี้ไม่มีไดอาล็อคคำพูดแม้แต่คำเดียว แอ็คติ้งล้วนๆ แค่เปิดออกมาให้เห็น แล้วให้พระเอกสะดุ้งสุดๆ เลย มันต้องบริหารเสน่ห์ตัวเอง คือสวยแค่ไหนก็ต้องออกมาให้หมด แล้วด้วยความที่ไอซ์เป็นมิสมอเตอร์โชว์ ทำให้เขาสามารถขับเน้นเสน่ห์ของเขาออกมา ชนิดที่ว่าทั้งกองหยุดหายใจทั้งกอง หยุดโลกเลย เราไม่ได้พูดเว่อร์นะ พอน้องใส่ชุดนี้มันหยุดเลย สามารถหยุดทั้งผับให้เงียบหมด แล้วต้องมองเขาคนเดียวได้เลย ซึ่งไอซ์ทำได้ แล้วเขาบริหารเสน่ห์ตัวเองออกมาได้หมดเลย ทั้งรอยยิ้ม ทั้งมุมที่เขาหัน ทั้งผมเขาสยาย แล้วเขาหันมามองนิดนึง แบบทิ้งตาแล้วก็เดินออกไปแล้วเขาก็สามารถทำได้ ฉากนี้เราถ่ายกันแค่2ทีเองนะ แต่เราก็เลือกใช้ทีแรก

          โดยในฉากนี้ผกก.โต๊ะพันธมิตรเปิดโอกาสให้น้องไอซ์ได้โชว์ศักยภาพทางด้านการแสดงอย่างเต็มที่ ตัวเองแค่แอบกระซิบกับน้องไอซ์ก่อนที่จะถ่ายทำในฉากนี้ว่า “ไอซ์ต้องทำให้คนเชื่อให้ได้ พระเอกซึ่งหล่ออย่างเนี่ยะ เห็นหน้ามาริโอ้ใช่ม๊ะ แต่เขามารักคุณคนเดียว มาชอบคุณมาสะดุดที่คุณ แค่สายตาแรกที่เห็นคุณ คุณทำยังไง คุณยิ้มแค่ไหน คุณเยอะน้อยแค่ไหน คุณจัดมาซิ”

แล้วผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็ไม่เป็นที่น่าผิดหวัง แถมสมใจทั้งตัวนักแสดงและผกกเลยทีเดียว เตรียมจับตาดูน้องไอซ์ในชุดเดรสแดงได้ใน รักสุดทีน 1 มี.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์

FB on January 28, 2012, 02:06:28 PM
“โต๊ะ ปริภัณฑ์” การันตี “รักสุดทีน” ย้ำลายเซ็นต์ “พันธมิตร” ได้ “มาริโอ้-พล่ากุ้ง-ดีเจจั๊ด” ยิงประโยคเด็ดๆ มุกโดนๆ แอ็คติ้งกวนฮา ใส่เต็มฮา 100%



          เอ่ยชื่อ “ทีมพันธมิตร” คอหนังหลายคนอาจนึกถึงหนังจีน เกาหลี ฝรั่ง พากย์ไทยที่สอดแทรกและอัดแน่นไปด้วยประโยคเด็ดมุกโดนๆ แก๊กฮาๆ ที่การันตีถึงความสนุกสนานจนเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคอหนังเทศพากย์ไทยมานับหลายสิบปีว่าต้องพันธมิตรเท่านั้น แล้วถ้าจู่ๆ หัวหน้าทีมพากย์พันธมิตรเจ้าของประโยคคุ้นหู “ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร” อย่างโต๊ะ-ปริภัณฑ์ ขอลุกขึ้นมาเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ไทยที่มีชื่อว่า “รักสุดทีน” แบบเต็มๆ ตัวเป็นครั้งแรกทั้งที ลองคิดดูละกันว่าถ้าประสบการณ์ที่บ่มเพาะมาทั้งชีวิตจากการดูหนังคิดค้นสร้างสรรค์ไอเดียมุกฮาจากการพากย์หนังมากว่าพันหมื่นเรื่องในสไตล์พันธมิตร ถูกถ่ายทอดผ่านแอ็คติ้งลีลาการแสดงพร้อมปล่อยมุกฮากะล่อนจีบหญิงแบบไม่มียั้งจาก “มาริโอ้ เมาเร่อ” ซุป’ตาร์หล่อขั้นเทพระดับแถวหน้าของเมืองไทย พร้อมแท็คทีม 2 ดีเจ พิธีกรตัวจี๊ดอย่าง พล่ากุ้ง และดีเจจั๊ด มาร่วมจีบสาวแถมพกด้วยประโยคเด็ดวาทะโดนๆ ที่บ่งบอกถึงลายเซ็นต์ฮาขำก๊ากในแบบฉบับของพันธมิตรด้วยแล้ว อยากรู้ใช่มั้ยว่า งานนี้จะสุดทีนขนาดไหน

          “ครับยังไงก็ต้องมีอย่างแน่นอน พอถ้าบอกว่าเราทีมพากย์พันธมิตรไปทำหนัง ถ้าไม่มีความสนุก ไม่มีอารมณ์ตลก ไม่มีลีลากวนๆ เนี่ยะ ผมคงต้องโดนแน่ๆ คือตัวเราเองก็ตั้งใจจะทำอย่างนั้นจริงๆ เราตั้งใจจะใส่เข้าไป เพราะเราเป็นคนชอบดูหนังสนุก เราชอบดูหนังตลกอยู่แล้ว หรือแม้แต่หนังซึ้งๆ ทุกอย่างให้มันครบรส โรแมนติคคอมิดี้ ฉะนั้นพอเรามีโอกาสได้ทำ พูดได้เลยว่าในแง่ความสนุกผมใส่ไม่ยั้งนะ ใส่กันชนิดสุดทีนแน่นอน ซึ่งงานนี้ผมได้มาริโอ้,พล่ากุ้งและดีเจจั๊ดมาร่วมทีมกัน มาเป็นตัวละครที่จะยิงประโยคเด็ดๆ มุกฮาๆ ภายใต้เรื่องราวสนุกๆ โดนๆ ซึ่งแต่ละคนต่างมีบทบาทและแคแรคเตอร์แตกต่างกันเลย แต่ชอบอะไรเหมือนกันๆ ขี่มอเตอร์ไซด์ ร่วมหุ้นเปิดร้านขายยีนส์ และที่สำคัญชอบตะลุยผับจีบหญิงด้วยกัน โดยมาริโอ้มีฉายาว่า ถึงใจ สโลแกนคือ หล่อเหลือล้น ทนยิ่งนัก รักใครไม่เป็น คือหล่อขั้นเทพเสน่ห์แรงสาวๆ ติดใจ ส่วนพล่ากุ้ง ฉายาคือ “เต็มสูบ” หล่อล้างโลก โชกเลือด เชือดใจสาวคือหน้าตาไม่ได้แต่คารมเป็นเลิศ และสุดท้ายดีเจจั๊ด ต่างจากเพื่อนๆ ตรงที่ว่าแอ๊บแมน ฉายาคือ “จัดให้” หล่อเกินมนุษย์ แต่เป็นตุ๊ดนะจ้ะ แล้วนึกภาพเวลาที่ตัวละครทั้ง 3 มาเจอกันทั้งบุคลิกทั้งการแสดง คือจูนกันได้ ต่อกันติดเลย แล้วมุกของแต่ละคนต่างระดมมาชนิดที่ว่าไม่ยอมกัน แล้วทุกครั้งก่อนถ่ายทั้ง3คนจะมา ขายมุก จะมีอะไรมาเติม อย่างโอ้เห็นหน้าหล่อๆ ที่ผ่านมาบทจะหล่อนิ่งสุภาพ ไอ้เราตอนแรกก็ไม่นึกว่าเขาจะกล้าเล่น แต่พอวันแรกถ่ายไป เขามีคิดมุกเติมมุกเติมอะไรเข้ามา ถามตลอดพี่โต๊ะเอาแบบนี้ อีกหน่อยมั้ยพี่ แล้วเป็นอย่างนี้ตั้งแต่วันแรกที่ถ่ายทำจนปิดกล้องเลย”

          เตรียมพบกับ รักสุดทีน กับหนังตลกโรแมนติคอารมณ์สนุกๆ กวนๆ พร้อมประโยคเด็ดๆ กับลีลาฮาๆ จากปากและท่าทางของ มาริโอ้,พล่ากุ้งและดีเจจั๊ดในแบบฉบับโต๊ะพันธมิตร 1มี.ค.นี้แน่นอนทุกโรงภาพยนตร์

FB on February 05, 2012, 04:36:27 PM
“มาริโอ้” ควง “ไอซ์” สวมชุดเจ้าสาว วาดลีลาบิดบิ๊กไบก์ พร้อมเพื่อนซี้ ดีเจจั๊ด-พล่ากุ้ง ร่วมขายยีนส์กลางสตู ถ่ายโปสเตอร์ “รักสุดทีน”


 
           โดดมาเขียนบท-กำกับหนังเรื่องแรกในชีวิตพร้อมยืนยันเจตนารมณ์ “รักสุดทีน” ที่ “โต๊ะ-ปริภัณฑ์”หัวหน้าทีมพากย์เจ้าของวลีเด็ด “ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร” จะต้องเน้นความสนุกสนานมันส์ฮาแถมสอดแทรกอารมณ์โรแมนติคซึ้งๆ ชวนอมยิ้มตอกย้ำลายเซ็นต์ในความเป็น“หนังรักปนฮาสนุกสนานสไตล์พันธมิตร”อย่างถึงที่สุด ทำให้พลังไอเดียสุดแสนบรรเจิดของครีเอทีฟซึ่งทำหน้าที่ออกแบบโปสเตอร์หนัง “รักสุดทีน” เนรมิตรร้านยีนส์ที่เป็นหัวใจสำคัญของหนังกลางสตูดิโอพร้อมจัดเต็มด้วยการระดมมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบก์ซูเปอร์โฟร์ 4 สูบคันโต 3 แบบ 3 สไตล์คู่กายของ 3หนุ่มแก๊ง “รักสุดทีน” ซึ่งประกอบไปด้วย “ถึงใจ” เจ้าของฉายาหล่อเหลือล้น ทนยิ่งนัก รักใครไม่เป็น คาแรคเตอร์ประจำตัวของ มาริโอ้ เมาเร่อ ตัวรถก็เลยออกมาในโทนเท่ห์ขรึม ในขณะที่ไอ้หนุ่มหัว AFRO พล่ากุ้งมาเจนต้า ผู้มีฉายา “เต็มสูบ” หล่อล้างโลก โชกเลือด เชือดใจสาว ตบแต่งมอเตอร์ไซด์พร้อมลวดลายแบบสุดกวน ส่วนดีเจจั๊ด ธีมะ กาญจนไพริน งานนี้รับบทเป็นหนุ่มหน้าสาว ที่หลงมาเข้าก๊วนในบท “จัดหนัก” ฉายา จัดให้ หล่อเกินมนุษย์ แต่เป็นตุ๊ดนะจ๊ะ พาหนะไม่ซ้ำใครตบแต่งด้วยขนเฟอร์สีชมพูแป๊ด มาให้บรรดาหนุ่มๆ วาดลีลาแอ็คท่าโลดโผนโจนทะยานฮากันแบบไม่มียั้งให้เข้าคอนเซ็ปท์รักแบบสุดทีนสุดทีนจริงๆ งานนี้เราเลยได้เห็นการโพสต์ท่าแบบเน้นปล่อยของกันสุดฤทธิ์ สไตล์รั่วมั่วมันส์ชนิดที่ว่าไม่มีการอ่อนข้อ แต่พร้อมขโมยซีนและเกทับกันสุดๆ ทั้ง “ดีเจจั๊ดและพล่ากุ้ง” จนพระเอกหนุ่มมาริโอ้เองเห็นแล้วยังอดใจไม่ไหวเมื่ออะดรีนาลีนแห่งความคึกคักในร่างกาย พุ่งสูงปรี๊ดอยากจะรั่วฮากับเขาบ้าง แต่งานนี้โดนสั่งเบรกให้คงความหล่อเท่ห์ไว้นิดส์นึง ส่วนแฟนๆ ที่อยากเห็นหนุ่มโอ้พลิกบทบาทมาเจ้าชู้กะล่อนแถมมีวิธีการจีบสาวหลีหญิงแบบออดอ้อน คงต้องอดใจรอไว้ชมในโรงภาพยนตร์แทน

          แต่ถึงกระนั้นพระเอกของเราก็ไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวังเมื่อต้องโพสต์ท่าร่วมกับแก๊งในช็อตฮาๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช็อตโรแมนติคหวานกุ๊กกิ๊กออดอ้อนกับ น้องไอซ์ อามีนา กูล สาวน้อยหน้าคมมิสมอเตอร์โชว์ปี 2010 ที่จะมาทำให้หนุ่มมาริโอ้ต้องหันขวับและหยุดความเจ้าชู้ ซึ่งงานนี้ทีมงานพร้อมแปลงโฉมนางเอกสาวหน้าใสวัย18 ของเราให้ออกมาสวยสะพรั่งตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในชุดเจ้าสาวทั้งในเวอร์ชั่นแบบหวานเจี๊ยบๆ และเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด จนพูดได้ว่าเป็นการถ่ายโปสเตอร์ที่ทั้งสนุกสนานมันส์ฮาตามสไตล์หนังพันธมิตรและอลังการแบบสุดๆ จริงๆ เพราะงานนี้ครีเอทีฟกระฉูดไอเดียออกมาแบบล้นทะลักหลายเซ็ทหลากรูปแบบจริงๆ โดยใช้เวลาถ่ายทำมาราธอนนานเกือบ 6 ชม. เลยทีเดียว

          มาริโอ - โอ้ว่าถ่ายหนังก็แปลกมากอยู่แล้วครับ ถ่ายกับทีมพันธมิตร คือทั้งเสียงทั้งซีนทุกอย่าง คือแปลกไปหมดครับ แต่วันนี้มาถ่ายโปสเตอร์ก็แปลกไปอีกแบบครับ สร้างทุกอย่างเหมือนในหนังเลยเพราะในหนังเรา 3 คนเปิดร้านขายยีนส์อยู่ใต้สะพานพุทธ พี่ๆ ทีมงานเค้าเลยจำลองมา ที่สำคัญที่ห้ามพลาดจริงๆ เลยคือลีลาการถ่ายโปสเตอร์แบบจัดเต็มของพี่พล่ากุ้งกับพี่จั๊ดโอ้ยอมซูฮกเลยครับ แต่ละท่าแต่ละทางนี่ไม่รู้คิดได้ยังไง นึกไม่ออกเลยว่าเวลาไปขับบนถนนนี่จะเป็นยังไง ฮาจริงๆ

          เห็นหล่อๆ เท่ห์ๆ ไม่ต้องโลดโผนเหมือน 2 หนุ่มมีสาวๆ โอบเอวซ้อนมอเตอร์ไซด์ก็ใช่ว่างานนี้พระเอกของเราจะสบายเพราะหนุ่มมาริโอ้ต้องแบกน้ำหนักตัวน้องไอซ์ถ่ายโปสเตอร์จนเหน็บตะคริวถามหาเลยทีเดียวเพราะต้องคุกเข่าให้นางเอกสาวนั่งตัก

          มาริโอ้ - ก็ปวดเข่านิดหน่อยครับ เพราะต้องรับน้ำหนักตัวน้องไอซ์ เห็นผอมเพรียวแบบนี้ สูงขนาดนั้น ใช่ว่าจะเบานะครับ (หัวเราะ) นี่ขนากแค่บรรยากาศการถ่ายโปสเตอร์เรายังสนุกสนานกันขนาดนี้ คิดดูแล้วกันว่าในหนังทั้งเรื่องของเราจะมันส์ขนาดไหน ยังไงก็ดูหนังของพวกเราด้วยนะครับ ในหนังนอกจากพวกเราแล้วยังมีแขกรับเชิญอีกเยอะแยะครับ เห็นโอ้ฝากผลงานและตัดบทเร็วขนาดนี้ด้านสาวไอซ์ของเราก็ไม่รอช้า ขอแจมอย่างรวดเร็ว

          ไอซ์ - “สวัสดีค่ะ ไอซ์อามีนา กูลค่ะ ก็ภาพยนตร์เรื่องรักสุดทีนก็เป็นเรื่องของหนุ่ม 3 คนที่ร่วมกันเปิดร้านขายยีนส์อยู่ที่สะพานพุทธชอบขี่มอเตอร์ไซด์และจีบสาว โดยเฉพาะตัวพี่โอ้นอกจากจะเป็นหนุ่มหล่อแล้ว ยังเจ้าชู้ จีบสาวไปเรื่อยๆ ที่สำคัญเกิดมาไม่เคยรักและมอบหัวใจให้ใครจริงๆ จนะกระทั่งมาเจอกับนางเอกที่ทำให้เลิกเจ้าชู้และเปลี่ยนตัวเองเพื่อผู้หญิงคนนี้ ส่วนร่วมงานกับพี่ๆ ทุกคนสนุกมากค่ะ แต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันเลย อย่างพี่พล่าเขาจะออกแนวแบบขนมุกใหม่ๆ มาตลอดเวลาแบบว่าคิดได้ยังไงค่ะ ส่วนพี่จั๊ดเองเรื่องนี้เขาก็จะออกแนวอะไรแอ๊บแมน ยังไงละตัวเอง (หัวเราะ) ส่วนพี่โอ้เขาก็พลิกบทบาทไปเลยจากใสๆ มาเป็นเจ้าชู้กรุ่มกริ่มแพรวพราว ทะเล้นๆ หน่อยๆ ยังไงอย่าลืมติดตามชม 1 มีนาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์นะคะ”

FB on February 13, 2012, 02:00:52 PM
MOVIE GUIDE: รักสุดทีน

          ครั้งแรกและครั้งเดียวของหล่อขั้นเทพ “มาริโอ้ เมาเร่อ” กับบท เจ้าชู้ตัวพ่อ ขอกะล่อนแบบสุดทีน แถมงานนี้ยอมดิ้นกระจาย แท็คทีมแก๊งสุดติ่ง “พล่ากุ้งมาเจนต้า+ จั๊ดจัด” ตะลุยจีบหญิงไม่เลือกหน้า จนมาเจ๊อะ “สาวไอซ์-อามีนา กูล”ดีกรีมิสมอเตอร์โชว์ปี2010 ถึงเวลาที่สุดหล่อจะหยุดกะล่อนพร้อมทุ่มหัวใจบิดบิ๊กไบค์2ล้อ ขอรักสุดทีน

          พร้อมซุป’ตาร์รุ่นจิ๋ว น้องลิซซี่ (หมูฉึกฉึก) และ น้องภีมม์(ตี๋บ๊วย) ถึงแม้จะไม่ได้มาให้เสียงภาษาไทยแต่งานนี้ “โต๊ะพันธมิตร”ขอบรรเจิดไอเดียหนุกหนาน กำกับความฮาให้มันส์กระจายในสไตล์ “พันธมิตร”

          1 มี.ค.นี้ ทุกโรงภาพยนตร์

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Q5LgyipXt7w" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Q5LgyipXt7w</a>

FB on February 13, 2012, 02:02:38 PM
หนังรักเรื่องแรกของ “โต๊ะ พันธมิตร” ซ่าสุดขั้ว รั่วสุดขีด ทีมนักแสดงจัดเต็มความฮาเปิดตัว “รักสุดทีน”





          สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ สอยฝันฟันฟิล์ม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์รักแนวใหม่ใส่ใจความฮาเรื่อง “รักสุดทีน” กันไปอย่างสนุกสนานเมาท์กันมันส์ขำกระจายในบรรยากาศเป็นกันเอง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 ณ ลาน TV 9 จอ ชั้น 7 SF Cinema City, MBK Center

          โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เรียกได้ว่าจัดเต็มมาทุกองค์ประกอบ เริ่มตั้งแต่ผู้กำกับ ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ หรือ “โต๊ะ พันธมิตร” หัวหน้าทีมพากย์เสียงซุปเปอร์สตาร์ที่แฟนหนังชาวไทยรู้จักกันดีกับลีลาการพากย์ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ครั้งนี้เขาขอพักการให้ความบันเทิงหลังไมค์ตัดสินใจมาอยู่หลังกล้องขึ้นแท่นผู้กำกับเป็นครั้งแรก

          แถมสามารถดึงตัวพระเอกสุดฮอตหล่อขั้นเทพอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ มาประกบกับนางเอกสาวหน้าใหม่สวยระดับนางฟ้า ไอซ์ อามีนา กูล สาวน้อยหน้าหวานเจ้าของตำแหน่งมิสมอร์เตอร์โชว์ ปี 2010 ในหนังเรื่องนี้ได้
 
          แค่เพียงเริ่มงานก็เปิดตัวได้อย่างฮาล้ำหน้าไปแล้ว เมื่อสองหนุ่มสุดทะเล้น จั๊ด ธีมะ กาญจนไพริน และ พล่ากุ้ง วรชาติ ธรรมวิจินต์ ซึ่งเป็นนักแสดงในเรื่องนี้ด้วยมารับหน้าที่ควบเป็นพิธีกรในงานนี้ โชว์ VTR ว่าเมื่อโต๊ะพันธมิตรคิดนั่งแท่นผกก.จะเป็นอย่างไร วีดีโอนี้จัดทำมาแบบพิเศษโดยได้รับความร่วมมือจากทีมพากย์พันธมิตรเล่นเอาฮากันลั่นสนั่นงาน ช่วงต่อมาพิธีกรเชิญผู้กำกับและพระ-นางสุดหล่อแสนสวย ขึ้นมาเล่าประสบการณ์การทำงานแสนประทับใจ โดยผู้กำกับโต๊ะเผยถึงความรู้สึกการทำหนังเรื่องแรกว่า “มันเหมือนว่าจากที่เราเคยเลี้ยงลูกคนอื่น วันหนึ่งเราได้มีลูกเป็นของตัวเองได้ดูแลทุกขึ้นตอน มันเหนื่อยแต่คุ้มครับ”

          โดยเรื่องราวความสนุกสนานของเรื่องนี้นั้นเกี่ยวกับเพลย์บอยเพื่อนรัก 3 คน 3 สไตล์ ที่ทำร้านขายกางเกงยีนส์อยู่สะพานพุทธ ควงสาวไปวันๆ ไม่เคยรักใครจริง แต่แล้ววันหนึ่งเพื่อนในกลุ่มเกิดรักสาวเข้าเต็มเปา แต่เธอคนนี้ไม่ใช่ง่ายๆ ดังนั้นภารกิจพิชิตใจครั้งนี้ก็ต้องทุ่มกันสุดทีน แล้วเรื่องราวของความรักฮาๆ มันส์ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น บรรยากาศในการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเพราะความสนิทสนมของทีมนักแสดงและผู้กำกับ ต่างคนต่างเผาถึงวีกรรม และฉากเด็ดๆ ในเรื่องของแต่ละคนอย่างถึงกึ๋นมีทั้ง สุดเสียว สุดรั่ว สุดพลิ้ว สุดตัวสุดเตียง และ สุดแซ่บ แถมยังปล่อยมุกกันตลอดงาน ก่อนที่ทุกคนจะฝากผลงานหนังรักแนวใหม่ไม่ซ้ำใครด้วยเสน่ห์ของพันธมิตรที่รับรองว่าไม่เคยเห็นที่ไหนแน่นอน

          ปิดท้ายด้วยการเชิญผู้บริหารแห่งค่ายสหมงคลฟิล์มฯ คุณอวิกา เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด, คุณจาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายขาย บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, คุณอรนุช ลาดพันนา ผู้ดำเนินงานสร้าง ร่วมด้วย คุณสุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บ.เอสเอฟซินีม่า ซิตี้ ถ่ายภาพหมู่ร่วมกับทีมนักแสดง และผู้กำกับ เป็นที่ระลึกในงานเปิดตัวภาพยนตร์ครั้งนี้

          ขอเชิญพิสูจน์ความฮา ซ่า แสบ ซึ้ง ในหนังรักสไตล์พันธมิตร “รักสุดทีน”
          ได้ทุกโรงภาพยนตร์ 1 มีนาคม นี้

FB on February 23, 2012, 05:43:24 PM
บทสัมภาษณ์ “มาริโอ้ จาก รักสุดทีน” (เข้าฉาย 1 มีนาคม 2555)




 
          “ถึงใจ--หล่อเหลือล้น ทนยิ่งนัก รักใครไม่เป็น”
          คุยไปยิ้มไป ในสไตล์“พันธมิตร”กับ “มาริโอ้ซิงฉือ”
          วาดลีลาวาทะจีบหญิง ทะเล้นฮาแบบสุดทีน
          กับการพลิกบทบาทชนิดสาวๆ ต้องอ้าปากค้างและหลงรักโดยไม่รู้ตัว

          Q. ทราบมาว่ากำลังจะมีหนังเรื่องใหม่ ที่แฟนๆ จะไม่เคยเห็นมาริโอ้ เมาเร่อในบทแบบนี้มาก่อน “หนุ่มหล่อสุดเจ้าชู้ แถมจีบสาวไปทั่ว”
          O. (หัวเราะ) ครับ ผม มาริโอ้ เมาเร่อ นะครับ ก็ในภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของโอ้นะครับ “รักสุดทีน” ผมรับบทเป็น เอกชัยครับ ฉายา “ถึงใจ” ก็จะมีสโลแกนประจำตัวด้วยครับคือ “หล่อเหลือล้น ทนยิ่งนัก รักใครไม่เป็น” เป็นคาแรคเตอร์ที่โอ้เพิ่งเคยสัมผัสเป็นครั้งแรกครับ สำหรับคาแรคเตอร์ของถึงใจก็จะเป็นคนน่าตาดีค่อนข้างไปทางรูปหล่อ อาชีพหลักของเขาคือเป็นคนขายกางเกงยีนส์อยู่ที่ใต้สะพานพุทธครับ แล้วก็เป็นคนที่เรียกว่าได้ว่าจีบผู้หญิงไปทั่ว ประมาณว่าจริงใจกับผู้หญิงทุกคนเลย ไม่ว่าจะมีผู้หญิงเข้ามาเยอะแค่ไหน ถึงใจก็จะจริงใจกับเขาหมด แต่ไม่เคยมอบหัวใจให้ใครเลย เป็นคนที่ไม่รู้ว่าความรักที่แท้จริงคืออะไรหรือพูดง่ายๆ ว่ารักใครไม่เป็น

          Q. เห็นบทครั้งแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง
          O. ก็ตอนที่ได้บทของถึงใจมาครั้งแรกโอ้ก็รู้สึกว่ามันเป็นบทที่พิสดารนะ (หัวเราะ) แล้วก็ไม่คิดว่าเราจะได้บทแบบนี้ รู้สึกว่ามันเป็นบทที่น่าสนใจมากๆ เพราะว่าตัวคาแรคเตอร์ของถึงใจมีอะไรให้เล่นเยอะครับ แต่โอ้คิดว่ามันยากตรงที่เราจะเล่นออกมาเป็นธรรมชาติรึเปล่าต่างหาก หรือเราจะเล่นออกมาแล้วดูเหมือนว่าเราตั้งใจให้มันเป็นตัวนี้เกินไปมั้ย ก็เลยพยายามที่จะหาคาแรคเตอร์คือจินตนาการแรกตอนที่อ่านบทถึงใจเสร็จแล้ว รู้สึกเลยว่า เขาต้องเป็นคนที่กวนตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อยู่กับเพื่อนสองคน ซึ่งเพื่อนทั้งสองคนเองก็ดูท่าทางไม่ปกติธรรมดาอยู่แล้ว คนหนึ่งเป็นตุ๊ด แต่ต้องแอ๊บแมน (รับบทโดยดีเจจั๊ด) อีกคนหนึ่งก็เป็นคนขายยีนส์ผมเพ้าฟูเป็น AFRO เลย แล้วก็ยังต้องใส่แว่นตลอดเวลาอีก เวลาไปไหนมาไหน แม้แต่ตอนกลางคืนก็ยังใส่แว่นกันแดดตลอดเวลาอีก เออไอ้นี้ไม่ธรรมดา (รับบทโดยพล่ากุ้งมาเจนต้า) ยิ่งคาแรคเตอร์ของถึงใจเป็นคนเจ้าชู้ด้วย ผมก็เลยจินตนาการว่าตัวนี้ต้องเป็นคนพูดเก่ง เวลาเจอผู้หญิงหรือเจออะไรก็ต้องแซวตลอด คือต้องเป็นคนไม่เงียบแน่นอน อยู่ด้วยแล้วต้องมีความสุข หรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วต้องสนุกไปด้วย และที่สำคัญคือต้องมีเสน่ห์คารมดี เหมือนว่าเวลาเราเห็นผู้ชายที่จีบผู้หญิงเก่งๆ จะเป็นพวกคารมดีใช่มั้ยครับ แล้วผมว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เองน่าจะชอบคนที่ตลก เพราะฉะนั้นภาพถึงใจเข้ามาในหัวตั้งแต่ตอนที่อ่านบทแล้วว่า ตัวละครนี้ต้องเป็นคนตลกด้วย

          Q. คนดูจะได้เห็นถึงความแตกต่างอะไรในบทบาท“ถึงใจ” จากการแสดงของ “มาริโอ้” บ้าง
          O. ผมว่าแตกต่างจากเรื่องอื่นแน่นอนครับ เพราะว่าอย่างสาระแนที่เคยรับมานี่ก็คนละขั้วอยู่แล้ว อย่างนั้นก็จะเป็นตุ้งติ้งหน่อย (สาระแนสิบล้อ) และก็มีแมนๆ (สาระแนเห็นผี) แต่อันนี้รักสุดทีนเป็นอะไรที่ค่อนข้างสนุก และก็เป็นคนทะเล้นๆ ตลอด ก็จะมีอย่างช็อตเต้นๆ ด้วยครับ เพราะถึงใจเขาจะเป็นคนที่ไปเที่ยวกลางคืนบ่อย ก็ไปหาผู้หญิงอะไรอย่างนี้ ก็จะมีแบบไปเข้าผับไปเต้นไปโยก ก็จะมีท่าที่ค่อนข้างแว๊นซ์ๆ หน่อย เพราะในเรื่องก็ต้องขี่มอเตอร์ไซด์อยู่แล้วแถมอยู่กับเพื่อนแต่ละคนก็ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ (หัวเราะ) ด้วยความเป็นหนุ่มเจ้าชู้ก็จะทำให้ตัวถึงใจแตกต่างจากบทเรื่องอื่นๆ ที่เคยแสดงมาโดยเฉพาะเรื่องจีบสาวครับ เพราะว่าเรื่องนี้ต้องจีบสาวเยอะมากๆ ใครเดินผ่านนี้ไม่ได้เลยเป็นอันต้องแซว ใครจะมาซื้อกางเกงยีนส์ก็พ่วงถลาไปถึงตัวของน้องเขาตลอด แล้วก็เป็นคนที่กล้าพูด คือแซวหมดใครเดินผ่านหน้าร้านเป็นอันต้องแซว คือใครอย่าได้หน้าตาดีหน่อยเลย ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเป็นกระเทยหรือเป็นอะไรก็แซวด้วย นอกจากนี้สิ่งที่ผมคิดว่าแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ก็คือนอกจากความสนุกสนานของตัวคาแรคเตอร์นี้แล้ว ก็ยังมีอารมณ์แบบซึ้งๆ ด้วย เพราะปกติบางเรื่องเราก็เล่นซึ้งไปเลย แต่เรื่องนี้มันจะมีทั้งในเรื่องของความทะเล้นแล้วก็มีในส่วนของความซึ้งกับตัวนางเอกด้วย รวมไปถึงการเล่นกับอารมณ์สีหน้าแววตาต่างในเรื่องด้วย

          Q. เสน่ห์ความน่าสนใจของคาแรคเตอร์ “ถึงใจ” ในมุมมองของ “มาริโอ้”
          O. เป็นประเด็นที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ที่โอ้อ่านบทแล้วรู้สึกชอบตรงนี้เลยคือในบท แม้ว่าถึงใจจะเป็นหนุ่มเจ้าชู้จีบสาวไม่เลือกก็คือชอบผู้หญิงคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย คุยไปหมด แต่พอมาเจอกับนางเอก เจอผู้หญิงคนนี้แล้วเกิดความคิดที่ว่า เอ๊ะสวรรค์ส่งลงมา หรือเป็นพรหมลิขิตอะไรรึเปล่า คือภายในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงเจอผู้หญิงคนเดียวกันถึง 3 ครั้ง เจอครั้งแรกก็ยังไม่พอ เจอครั้งที่ 2 อีก ครั้งที่ 2 ไม่พอเจออีกเป็นครั้งที่ 3 ที่ร้านขายกางเกงยีนส์ของเขาเอง ลองคิดดูว่าผู้ชายอย่างถึงใจที่เจอผู้หญิงมาเยอะมาก แต่มาสะดุดกับผู้หญิงคนนี้ก็เลยตกหลุมรัก แสดงว่าต้องสวยมากๆ เห็นแล้วตกหลุมรักจริงๆ เลย คืออยากมอบหัวใจของถึงใจให้เขา และพร้อมที่จะทำทุกอย่างอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน อยากทำทุกอย่างให้กับผู้หญิงคนนี้

          Q. ภาพยนตร์เรื่องรักสุดทีนเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
          O. ภาพยนตร์เรื่องรักสุดทีนเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งชื่อถึงใจ เป็นคนขายกางเกงยีนส์ มีเพื่อนซี้สองคนคือเต็มสูบ กับ จัดให้ครับ จัดให้เป็นตุ๊ด เต็มสูบเป็นคนแปลกๆ สามคนนี้ขายกางเกงยีนส์อยู่ใต้สะพานพุทธ ส่วนตัวของถึงใจกับเต็มสูบเป็นคนที่ขี้หลี เจอผู้หญิงที่ไหนก็จะทักจะแซวตลอด แล้วก็เป็นคนที่รักใครไม่เป็น แต่ว่าจีบไปหมดคุยไปหมด แล้วก็เป็นคนเจ้าชู้ จนกระทั่งวันหนึ่งถึงใจได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า มินท์ เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้ถึงใจ ถึงกับต้องหันขวับ เดินผ่านนิดเดียวก็หันขวับแล้ว แต่นี่เจอผู้หญิงคนเดียวถึง 3 ครั้งในเวลาแค่ 48 ชั่วโมง ทำให้ถึงใจเกิดความรู้สึกว่าเอ๊ะผู้หญิงคนนี้ฟ้าหรือสวรรค์ส่งลงมารึเปล่าคือเป็นผู้หญิงที่สวยมาก และการเจอกันครั้งนี้นำไปสู่จุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตของถึงใจจากก่อนหน้านี้ไม่เคยรักใครเลย เจอใครก็จีบไปหมด แต่กับผู้หญิงคนนี้ทำให้ถึงใจถึงกลับยอมเปลี่ยนตัวเองจากการเป็นคนเจ้าชู้ เป็นพวกขี้หลี กลายเป็นคนที่อยากจะทำตัวดี กลับไปเรียนหนังสือ เป็นคนดี ยอมและอยากทำอะไรทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนนี้

          Q. เสน่ห์หรือจุดเด่นของหนังเรื่อง “รักสุดทีน” ในความคิดของมาริโอ้
          O. สิ่งที่เป็นเสน่ห์หลักเลยที่ตัวผมเองชอบมาก และผมว่าคนดูต้องชอบมากๆ คือเรื่องของผู้กำกับเลยครับ รวมถึงสไตล์การกำกับ มุกแก๊กต่างๆ ในสไตล์หนังที่เราเคยชอบมาของพันธมิตรนะครับ พูดได้ว่าในหนังเรื่องนี้จะมีเสน่ห์ของพันธมิตรแทรกซึมอยู่ตลอดทั้งเรื่อง แต่ก่อนเราเคยเห็นแต่ทีมผู้กำกับพากย์หนังมาตลอด แต่ว่าเรื่องนี้พี่โต๊ะจะมากำกับหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แล้วจับตาดูให้ดีจะมีพี่นักพากย์ที่เราเคยได้ยินแต่เสียงไม่เคยเจอตัวจริงของเขา แต่สำหรับเรื่องนี้เขาจะมาเล่นให้ดูด้วย ผมว่าสิ่งที่พี่โต๊ะใส่เข้าไปก็คือเรื่องของความเป็นธรรมชาติ อย่างในหนังจะมีฉากที่ตัวโอ้แบบตกใจ หรือเรากลัวอะไร เป็นของจริงทั้งนั้นครับ (หัวเราะ) ก็คือเราไม่ได้ตั้งใจให้ตกใจหรืออะไรอย่างนั้น มันเป็นสิ่งที่โอ้ตกใจจริงๆ ครับ โดยเฉพาะฉากที่เล่นเครื่องเล่นหวาดเสียว ก็คือผมค่อนข้างกลัวน่ะครับ (หัวเราะ) และที่สำคัญเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้คือตัวนักแสดงหลักๆ ที่มาร่วมสร้างสีสัน โดยเฉพาะที่ขาดไม่ได้เลยคือ พี่จั๊ดแล้วก็พี่พล่ากุ้งด้วย สองคนนี้ฮามาก ตลกมาก แล้วใครเป็นแฟนคลับของน้องตี๋บ๊วยหรือน้องหมูฉึกฉึก เรื่องนี้เขามีอยู่ ต้องไปดูสองคนนี้ฮามากๆ ผมว่าหนังเรื่องนี้ทั้งตลกทั้งฮา แล้วก็มีเรื่องของมุม จุดเปลี่ยนของคนที่หลายใจ เจ้าชู้ ต้องมาดูเรื่องนี้ฮะ ยังครับยังไม่หมด (หัวเราะ) ในเรื่องนี้นอกจากพันธมิตรที่รับประกันในเรื่องของความฮาความสนุกแล้ว ก็มีกลิ่นของความซึ้งๆ ด้วย มีเรื่องของอารมณ์ด้วย อย่างในเรื่องจะมีอยู่ฉากหนึ่งที่โอ้ชอบมากเลยก็คือฉากที่ถึงใจต้องไปสารภาพรักที่ห้องเรียนครับ ท่ามกลางคนเป็นร้อยเลย

FB on February 23, 2012, 05:43:55 PM
          Q. พูดถึงผู้กำกับ “พี่โต๊ะพันธมิตร” เจ้าของประโยค “ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร”
          O. สำหรับโอ้นะครับ โอ้ว่าคนไทยที่เป็นแฟนพันธมิตรเนี่ยะมีเยอะมากครับ แล้วก็สืบหาว่าใครนะที่เป็นคนพูดว่า “พากย์เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร” เพราะโอ้เองก็เคยอยากรู้อยากเห็นว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นใคร และไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้มาทำงานกับพี่เขาน่ะครับ โอ้จำได้ว่า โอ้เคยเจอพี่โต๊ะแบบแว๊บนึงตอนเด็กๆ คือเขาไปออกรายการรู้สึกว่าจะเป็นชิงร้อยชิงล้านพี่โต๊ะมาพากย์เสียง แล้วผมรู้สึกว่า เออเขาสุดยอดเพราะทุกเรื่องที่เขาพากย์ไม่ว่าจะเป็นโจวซิงฉือ,เฉินหลง,หลิวเต๋อหัวเพิ่งมารู้ว่าจริงๆ แล้วพี่โต๊ะพากย์เป็นหลายตัวมาก แล้วทีมพันธมิตรก็ไม่ได้มีกันน้อยๆ มีกันเยอะมากแล้วก็มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย มีพี่ๆ หลายคน พอเราฟังแล้วเราคิดถึงตัวละครที่อยู่ในหนังที่เราเคยดูน่ะครับ มันก็เลยทำให้ผมตื่นเต้นที่จะได้เจอกับพี่ๆ เขา ยิ่งเจอพี่โต๊ะยิ่งเหมือนได้เจอโจวซิงฉือ โดยเฉพาะตอนถ่ายหนังมันจะตลกมาก มันจะรู้สึกเออ โจวซิงฉือเขามารึเปล่า (หัวเราะ) อะไรแบบเนี่ยะฮะ แบบว่าบรีฟด้วย แบบ (ทำเสียงหล่อ) “เอ่อ โอ้ เดี๋ยว พอดีพี่ว่าแบบนี้ดีกว่านะ เดี่ยวโอ้ขับรถเข้ามานะ อ่า เอ่อ เบรคตรงนี้นะ แล้วเดี๋ยวลงมาคุยกับน้องเขา” อะไรแบบเนี้ยะ ครับ (หัวเราะ) มันก็โอ้โห้ นี่มัน โจวซิงฉือนี่ ชอบ ฮะ แล้วก็รู้สึกว่าดีใจมากๆ ที่ได้ทำงานกับพี่ๆ เขา แล้วยิ่งได้มาทำงานกับพี่เขาแล้วรู้สึกว่าพี่เขาไม่ได้ตลกแค่ในจอในเสียงพากย์ของเขา ตัวจริงนี่พี่เขาก็ฮาแล้วก็ตลกตลอด แล้วก็เป็นผู้กำกับที่น่ารักมากๆ ดีใจมากที่ได้ทำงานกับพี่โต๊ะแล้วก็พี่ทีมงานทุกคนครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นผลงานการกำกับหนังเรื่องแรกของพี่โต๊ะ แต่พี่เขาก็ยังพิถีพิถันในทุกๆ รายละเอียดของเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมุก ของจังหวะในการพูดจาของตัวละครด้วยครับ เพราะว่าเรื่องการพูดเนี่ยะพี่โต๊ะเขาจะมีจังหวะเว้นวรรคของเขาที่เป็นเสน่ห์ของพี่โต๊ะอยู่แล้ว พี่โต๊ะเขาก็เอามาใส่ในตัวของถึงใจด้วยครับ พี่โต๊ะเขาจะบอกเวลาโอ้อ่านบทมา โอ้ตีความมาว่าเป็นแบบนี้ พี่โต๊ะเขาก็จะบอกว่าเออพี่ว่าแบบนี้ดีกว่า อันนี้น่าจะฮากว่า พี่โต๊ะก็จะช่วยในเรื่องของมุกในเรื่องของอะไรหลายๆ อย่างด้วยครับรวมถึงแอ็คติ้งด้วยครับ ถึงเขาจะพากย์หนังมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเรื่อง แต่นี่เป็นหนังเรื่องแรกที่พี่โต๊ะได้ทำ แต่รู้สึกว่าพี่โต๊ะเขาจะดูละเอียดมาก ละเอียดไม่ใช่แค่ตัวถึงใจ คือทุกตัวเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น เต็มสูบ, จัดให้ ด้วยฮะ

          Q. จากที่เคยเป็นนักแสดงหน้าใหม่ใน “รักแห่งสยาม” 5 ปีผ่านไปตอนนี้กลายมาเป็นนักแสดงรุ่นพี่แล้ว และในเรื่องนี้ได้ร่วมงานกับนางเอกน้องใหม่อย่าง “น้องไอซ์ อามีนา กูล” ด้วย
          O. นางเอกใหม่ก็คือน้องไอซ์ อามีนา กูลรับบทเป็น มินท์ ครับ คือไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วว่าน้องไอซ์ต้องสวยสะดุดตาแน่นอน คือในเรื่องถือว่าเป็นโจทย์ตั้งแต่ตอนพี่โต๊ะแคสท์ติ้งตัวละครตัวนี้เลยว่าต้องเป็นตัวละครที่ทำให้ถึงใจที่เคยจีบสาวมานักต่อนักเห็นมินท์แล้วต้องหันขวับตั้งแต่แรกเห็นเลย แล้วตัวน้องเขาเองเป็นถึงมิสมอเตอร์โชว์มาก่อน เห็นน้องแล้วก็ทำให้โอ้คิดถึงตอนเล่นหนังเรื่องแรกเหมือนกัน คือเราเล่นหนังเรื่องแรกเราก็จะแบบยังใหม่ อาจจะยังไม่รู้มุมกล้อง ไม่รู้เรื่องของแอ็คติ้งอะไรซึ่งมันก็ต้องใช้ประสบการณ์ โอ้ก็พยายามช่วยน้องเขา แบบบางทีกล้องไม่ได้รับหน้าเรา แต่โอ้รู้ว่าถ้าน้องเขาเข้าฉากมองแค่มือของผู้ช่วย หรือแค่ให้เล่นกับกล้องหรือมองผ่านกล้อง หรือแม้แต่ให้มองต้นไม้ ฯลฯ น้องเขาก็จะค่อนข้างจินตนาการยาก โอ้ก็จะพยายามช่วยน้องเขา นั่นคือสิ่งที่เราช่วยได้อาจจะไปช่วยต่อบทในคัทที่ไม่มีเรา แต่ต้องยอมรับว่าตัวน้องเขาเองก็มีความตั้งใจ และเราเองเห็นถึงความพยายามของน้องเขา แล้วพูดได้เลยว่าถึงเป็นเรื่องแรกของน้องเขา แต่บทมินท์ก็ถือว่าเป็นบทที่หินเหมือนกัน เพราะว่ามันต้องสื่อสารแสดงออกทางความรู้สึกผ่านทั้งสีหน้าแววตา และแสดงออกทางอารมณ์ซึ่งต้องแสดงออกมาค่อนข้างละเอียดเหมือนกัน บางทีก็ไม่ได้ถ่ายทอดผ่านทางคำพูด เรียกว่าเป็นตัวละครสำคัญที่ทำให้ถึงใจเปลี่ยนตัวเองเลยครับ เพราะปกติแล้วเขาก็เป็นเหมือนเพลย์บอย คุยกับผู้หญิงคนนั้นที คนนี้ที คุยวันละแปดเก้าคน แต่พอเจอมินท์แล้วรู้สึกว่าต้องเปลี่ยนน่ะครับ แล้วก็เลิกนิสัยเดิม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับน้องไอซ์ที่ต้องแสดงออกมาให้ได้ ซึ่งผมว่าน้องเขาทำได้ดีมากครับ ผมว่าบทเนี่ยะโหดแล้วก็หินสำหรับน้องไอซ์มากๆ แล้วที่สำคัญน้องเขาก็ต้องมาเสี่ยงชีวิตกับโอ้ (หัวเราะ) ในฉากที่ต้องขี่มอเตอร์ไซด์ด้วย เพราะว่าโอ้ต้องขี่มอเตอร์ไซด์พาน้องเขาซ้อนทั่วประเทศไทยเลยฮะ (หัวเราะ) ก็จะมีหลายที่เลยทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด

          Q. แท็คทีมกับ ดีเจจั๊ดและ พล่ากุ้งมาเจนต้า เป็นประสบการณ์การทำงานที่สุดทีนมากๆ ได้ข่าวว่ารั่วกันสุดๆ
          O. รั่วกันมากครับเวลาสามคนมารวมกัน โดยเฉพาะเวลาร่วมงานกับพี่พล่ากุ้ง และก็พี่จั๊ด คือแบบจัดเต็มตลอดฮะ อย่างพี่จั๊ดเนี่ยะตอนเช้าเขาก็มานิ่งๆ เงียบๆ ก่อน แต่พอเข้าฉากเมื่อไหร่ โอ้โห! ตกใจเลยครับ เขาเล่นแบบสุดยอดเลยครับ แล้วก็พี่กุ้งนี่ เรียกเขาพี่กุ้งไม่ได้นะ ต้องเรียกพล่ากุ้ง พี่พล่ากุ้งจะคอยแบบส่งใส่มุกตลอดเวลา แล้วก็เวลาเล่นคือตัวคาแรกเตอร์ของพล่ากุ้งเนี่ยะ ไม่ถอดแว่นเลยนะ สร้างความลำบากให้ทีมงานมากๆ ครับ เพราะว่าทีมงานต้องเอารีเฟล็คซ์หลบแว่นเขา หลบไม่ได้ยังไงก็เห็น (หัวเราะ) แต่ก็สนุกครับ ดีใจมากๆ ที่ได้ทำงานกับพี่ๆ ทั้งสองคน ต้องบอกเลยว่าเราจะขาดสองคนนี้ไม่ได้เลยเด็ดขาดเพราะว่าเขาจะทำให้หนังเรื่องนี้มีสีสันให้สนุกขึ้นเยอะมากครับ ทั้งพี่จั๊ดแล้วก็พี่พล่ากุ้งเนี่ยะ เหมือนเขาจะคิดมุกมาจากบ้าน คิดมาให้พี่โต๊ะผู้กำกับแล้วก็มาเสนอ แบบพี่ครับแบบนี้ๆ วันนี้จะเป็นมุกแบบนี้ อะไรอย่างนี้น่ะครับ คือโดยธรรมชาติที่พี่ๆ เขาทั้งสองคนเป็นคนตลกอยู่แล้วด้วย พอมาอยู่ในเรื่องนี้มารวมกันสองคนกับถึงใจไปด้วยเป็นสามคนนี่ไปกันใหญ่เลยครับ โอ้โห คือแซวทุกคนจริงๆน่ะครับ คือเข้าไปในผับ คุยกับผู้หญิง เขาคุยดีๆ ด้วยก็แซวเขา เขายังไม่ทันทำอะไรก็แซวเขาตลอด ซึ่งก็สนุกมากๆเลยครับ ในเรื่องสมาชิกแก๊งสุดทีนของ “ถึงใจ” ที่สำคัญฉายาของถึงใจ ก็ได้มาจากเพื่อนสองคนนี้ คือ เต็มสูบ (พล่ากุ้ง) กับ จัดให้ (ดีเจจั๊ด) ก็คือ สามคนนี้ต้องมาด้วยกัน ขายกางเกงยีนส์อยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ไปไหนก็จะขี่มอเตอร์ไซด์ไปด้วยกันตลอด ไปเที่ยวผับกลางคืน ไปขายยีนส์ แล้วมอเตอร์ไซด์แต่ละคันก็จะสื่อให้เห็นคาแรคเตอร์ของแต่ละคนด้วยครับ อย่างถึงใจก็เป็นแบบเข้มๆ หน่อยกวนๆ นิ่งๆ แต่ถ้าเป็นของเต็มสูบก็จะเป็นแบบ รั่วๆ หน่อย แล้วก็จะเป็นคนที่ไม่ค่อยปกติหน่อย แต่ถ้าเป็นของจัดให้ก็จะเป็นแบบสาวๆ หวานๆ ขี่มอเตอร์ไซด์นะครับ แต่ว่ามีขนมิงค์ติดอยู่ สีชมพูอะไรอย่างนี้ ก็สนุกเฮฮาดีครับ

          Q. อย่างนี้ก็เข้าล็อคถูกใจมาริโอ้เลยซิ เห็นว่าไลฟ์สไตล์ส่วนตัวก็ชื่นชอบมอเตอร์ไซด์อยู่แล้ว
          O. คือโดยส่วนตัวแล้วโอ้เป็นคนชอบเกี่ยวกับรถยนต์มากกว่า ก็จะชอบพวกรถโบราณอะไรอย่างนี้ แต่มอเตอร์ไซด์ก็เป็นความสนใจอย่างหนึ่งที่ชอบรองลงมาจากรถนะครับ ผู้ชายก็มีแค่นี้ละครับ รถหรือมอเตอร์ไซด์ หรือไม่ก็พระเครื่อง (หัวเราะ) แต่ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือละครโอ้ไม่เคยขี่มอเตอร์ไซด์เยอะๆ เลยครับ เท่าที่เคยขี่มาก็เป็นเรื่องสาระแนเห็นผีครับซึ่งไม่เยอะ และก็เป็นคันจิ๋วมาก แต่ว่าเรื่องนี้ต้องขี่บิ๊กไบค์ตลอด ก็คือซูปเปอร์โฟร์เป็นรถฮอนด้าคันค่อนข้างใหญ่มาก ก็ยากเหมือนกัน เพราะในเรื่องเราต้องขี่จริง แล้วมันเป็นมอเตอร์ไซด์ที่มีคลัทช์แล้วก็มีเกียร์ด้วย ซึ่งมันก็ไม่ใช่ว่าง่ายเพราะเราต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา บางทีเราก็ต้องออกถนนใหญ่ด้วย ที่ยากเวลาขี่มอเตอร์ไซด์ในหนังเนี่ยะ เขาก็ต้องตั้งกล้องไว้ในรถอีกคัน รถก็ต้องขับ ตามถ่าย แล้วเราก็ต้องดูไลน์ ดูทางกล้องให้ดีครับ แล้วก็ต้องคอยดูรถบนถนน ต้องดูสัญญาณมือให้ดีด้วยน่ะครับ ไม่งั้นก็อาจจะชนได้ อย่างตอนถ่ายเรื่องรักสุดทีนก็มีเกือบไปเหมือนกันครับ เกือบเจ็บหนักไปเหมือนกัน ก็มีฉากหนึ่งในเรื่องที่โอ้อ่านบทมาแล้วจินตนาการว่าตัวคาแรคเตอร์ต้องขึ้นมอเตอร์ไซด์คู่ใจแล้วก็บิดออกไปเลยอย่างรวดเร็ว ที่นี้พอถึงเวลาถ่ายโอ้ก็บิดออกไปอย่างเร็ว แล้วลืมคิดไปว่ามอเตอร์ไซด์มันก็อันตราย มันรถสองล้อน่ะครับ พอไปถึงก็เจอเหล็กที่กั้นของยามครับ แล้วโอ้ก็เบรกหน้าเอาไว้ เกือบชนครับ เบรกเอี๊ยดดด ทีมงานทุกคนก็แบบ เฮ้ออออ... แล้วผมก็บอก พี่ผมอ่านมาแล้วว่ามันน่าจะเร็ว ผมเพิ่งมารู้ทีหลังจากพี่ผู้กำกับภาพว่าโอ้จริงๆ โอ้ขับแค่ 30 ก็พอ เดี๋ยวพี่ทำให้เร็วได้ ไม่ต้องทำขับเร็วขนาดนั้นมันอันตราย มันก็มีเทคนิค มีอะไรที่ทำได้ แต่ว่าผมยังไม่รู้ฮะ เกือบไปเหมือนกัน แล้วเรื่องนี้อย่างที่บอกคือขี่ทั้งเรื่องเลยครับ ฝนตกก็ขี่ผู้หญิงซ้อนก็ขี่อะไรแบบนี้ครับมีทุกอย่างแล้วก็ไม่ใช่เป็นริก (Rig) ลากด้วยส่วนใหญ่จะเป็นขี่จริงแต่ริกลากก็มีบ้างครับ เพราะเป็นเรื่องของภาพ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะขี่จริงๆ ครับ แต่ถ้าพูดถึงส่วนตัวโอ้เองก็มีเก็บมอเตอร์ไซด์ไว้บ้าง อย่างตัวที่เป็นพรีเซ็นเตอร์เลยก็เป็นตัว สกู๊ปปี้ออกแบบเองเลย ก็เก็บไว้ที่บ้าน แล้วก็มีตัวเก่าๆ ที่ได้มา มีรุ่นพี่ให้มา และก็ทุกวันนี้ยังสตาร์ตไม่ติด จอดน้ำมันแห้งใยแมงมุมขึ้น (หัวเราะ)

          Q. เรื่องนี้ต้องเล่นเองไม่มีสแตนอิน
          O. ใช่ครับเพราะอย่างปรกติบางเรื่องเขาอาจจะใช้สแตนอินในเรื่องของความปลอดภัยครับ แต่ว่าในเรื่องของรักสุดทีน นี่เราไม่มีสแตนอินครับ เราจัดเต็มครับนักแสดงเราต้องขับจริงครับ ทุกที่เลยไม่ว่าจะเป็น นครปฐมหรือว่าเป็นที่แถวสุวรรณภูมิหรือว่าอีกหลายๆ ที่ครับเลียบทางด่วนรามอินทรา เราก็ขับจริงกันหมดเลย แม้แต่ริมชายหาดพัทยาโอ้ก็ต้องขับซ้อนน้องไอซ์ครับ ลมนี้โกรก มาแทบจะล้มเลยครับ ก็สนุกดีครับ

FB on February 23, 2012, 05:44:27 PM
          Q. เห็นว่าเรื่องนี้มี 2 ซุปตาร์ที่โอ้ต้องเข้าฉากร่วมด้วย
          O. ครับ (หัวเราะ) ก็ฮอตจริงๆ ครับ และผมรับประกันเลยครับว่าสองคนนี้นะครับไม่ธรรมดา ทั้งน้องภีมม์ หรือน้องตี๋บ๊วยนะฮะ และก็น้องลิซซี่หรือน้องหมูฉึกฉึกครับ สองคนนี้เรียกว่าเป็นน้องที่ไม่คาดคิด ไม่คาดฝัน ตลอดเวลา ทำงานกับน้องคือแบบมีมุกอะไรที่ผู้กำกับไม่ได้ใส่แต่เขาก็ใส่มาเอง แล้วก็เป็นเด็กก็รู้อยู่แล้วว่ามีความเป็นธรรมชาติมาก แล้วก็ไร้เดียงสา ก็น่ารักตลอดอยู่แล้ว แต่ว่าน้องลิซซี่อยู่ในกองก็คือแบบจะฮามาก แล้วก็เขาจะเขินมากๆ เป็นอะไรไม่รู้ จะไปจับตัวเขาไม่ได้เลยนะ เขาจะแบบ เอร้ย (ทำท่าเขิน) เขินตลอด เขินพี่โอ้ตลอด

          Q. มีฉากไหนที่ประทับใจบ้าง
          O. จริงๆ มีหลายฉากครับ ถึงแม้ว่าภาพลักษณ์ของหนังจะออกมาเป็นหนังตลกสนุกสนาน แต่ก็มีฉากโรแมนติคซึ้งๆ อยู่หลายฉาก อย่างมีอยู่ฉากหนึ่งที่โอ้ชอบมาก เป็นฉากที่ไดอะล็อคยาวมากแล้วมีการถ่ายทำเป็นแบบ ลองเทค (Long take) ซึ่งนักแสดงทุกคนต้องเล่นยาวโดยที่ห้ามเทค คือถ้าเทคทุกอย่างต้องเริ่มใหม่หมด ซึ่งการถ่ายทำจะเริ่มตั้งแต่โอ้ต้องขี่มอเตอร์ไซด์มาหน้าโบสถ์ที่จัดงานแต่งงาน แล้วต้องลงจากมอเตอร์ไซด์เปิดประตูเข้าไปในระหว่างที่ทุกคนกำลังทำพิธีกัน คนก็จะนั่งกันเต็มโบสถ์ แล้วเป็นฉากที่ต้องเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ทั้งพระเอกนางเอก และทุกตัวละครที่เกี่ยวข้องกัน โดยที่ผู้กำกับภาพต้องแบกกล้องแฮนด์เฮลล์เดินตามโอ้มาตั้งแต่มอเตอร์ไซด์เลย ตัวผกก.ภาพเองก็ตามคอยกำกับและจับภาพเหตุการณ์ทั้งหมดไปพร้อมกับโคลสอัพไปที่ตัวละครทุกตัว เพื่อรับสีหน้า แววตาคำพูดของตัวโอ้ที่บุกเข้ามากลางงานแต่งงาน ในขณะเดียวกันก็ต้องรับภาพของตัวละครที่คุยกับโอ้ รับสีหน้า แววตา แม้กระทั่งน้ำตาของนางเอก ยากครับ ทุกคนต้องรู้จังหวะและต้องสัมพันธ์กัน แล้วต้องเล่นกับอารมณ์ด้วย อย่างน้องไอซ์เข้าอยู่ในฉากแล้ว โอ้ก็ต้องเดินเข้าไปพูดด้วย กล้องก็ต้องตาม ผมก็คิดว่ามันยากมากๆ ครับ ตอนทำออกมาเราก็ไม่คิดว่าเราจะทำได้ ตอนนั้นผมแค่คิดเชื่อมั่นอย่างเดียวเลยว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้นนะ และต้องมีสมาธิว่าตัวละครตัวนั้นกำลังเจออะไรอยู่ พอเข้าไปก็ยาวเลย ก็ดีใจกับตัวเองครับว่าเราไม่ได้ไปกังวลกับมันมากจนเกินไป แล้วก็ทำมันออกมาได้ออกมาเป็นที่น่าพอใจของตัวเราเองครับ ก็ชอบครับ แต่ตอนถ่ายก็มีอุปสรรคที่ทำให้ต้องถ่ายใหม่ ตอนเล่นบังเอิญก็มีนักแสดงสมทบ (เอ็กซ์ตร้า) ในฉากเขาลืมปิดมือถือ เสียงโทรศัพท์ก็เลยดังขึ้นมาแต่โอ้มองว่าเขาคงไม่ได้คิดนะครับว่าจะมีคนโทรเข้ามาตอนนั้น แล้วก็แบบเป็นช็อตที่ยาวมากก็เลยต้องถ่ายใหม่ แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ ซีนนี้เป็นอะไรที่ยาก ละเอียดอ่อนและเป็นไฮไลท์ของเรื่องด้วยนะครับ

          Q. ถ้าให้นิยามคำว่า “รักสุดทีน”
          O. ถ้าให้โอ้บอกนิยามของหนังเรื่องรักสุดทีนนะครับ คำว่ารักสุดทีนเนี่ยะ ผมว่าเป็นอะไรที่วัยรุ่นที่สุดครับ แล้วก็แบบเสียใจที่สุด ดีใจที่สุด เซอร์ไพรส์ที่สุดด้วยฮะ คือที่สุดของทุกอย่างน่ะครับ ก็เลยกลายเป็นรักสุดทีนครับ

          Q. ในชีวิตที่ผ่านมาเคยทำอะไรที่มันสุดทีนไหม โดยเฉพาะเรื่องของความรัก
          O. สำหรับโอ้เองเคยครับ ทำอะไรเกี่ยวกับความรักในแบบสุดทีน ก็เป็นเหตุการณ์ตอนวันเกิดคนที่เรารัก เราก็ทำให้แบบสุดทีนไปเลยทุกอย่างแบบจัดเต็มครับเ หมือนเราก็คิดมาก่อนไม่ใช่ว่าเรามาคิดอะไรใกล้ๆ วันเกิดเขา คิดมาก่อนว่าเราจะทำอะไรเซอร์ไพรส์ให้เขามีความสุขที่สุด เพราะว่าเรารักใคร เราก็อยากให้เห็นเขามีความสุขใช่ไหมครับ ตัวโอ้เองก็เลยอยากลองทำดูว่าเออเห็นเขามีความสุขที่สุดจะเป็นยังไง อยากให้เขาเซอร์ไพรส์ที่สุดแฮปปี้ที่สุดน่ะครับ โอ้ก็ไปคิดมาก่อนว่าเขาชอบกินอาหารประเภทไหนก็เลยไปหาร้านอาหารที่เขาชอบแล้วก็ไปแอบสั่งเค้กไว้ สั่งเค้กไว้เสร็จ ผมรู้เลยว่าผู้หญิงเขาที่สุดอยู่แล้วเรื่องการเซอร์ไพรส์ ผู้หญิงชอบการเซอร์ไพรส์ เราก็เลยเซอร์ไพรส์ทุกที่เลย พอขึ้นรถเราก็มีลูกโป่งมาให้ เราก็จะซื้อของขวัญให้อะไรอย่างงี้ด้วย แล้วเราก็ไม่บอกเขา เราก็ต้องเซอร์ไพรส์อีกชั้นหนึ่ง เราก็ต้องไม่บอกเขาว่าเราพาไปไหน เราก็บอกแค่ว่าอ๋อเดี๋ยวเราพาไปหาเพื่อน อะไรแบบนี้ฮะ แต่พอไปก็เป็นร้านอาหารที่แบบที่เขาอยากกิน มีเค้กมาให้แล้วก็มีของขวัญอีก มีลูกโป่งเต็มรถ ดีมันไม่ระเบิด (หัวเราะ) ถามว่าแล้วคนที่ได้รับหลังจากที่โอ้ทำไปแล้วเขารู้สึกอย่างไรก็แฮปปี้ดีครับ ชอบครับ แฮะๆ (เขิน)

          Q. มาจนถึงวันนี้แล้วจากหนังเรื่องแรกในชีวิต “รักแห่งสยาม” “หนัง” เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของมาริโอ้ เมาเร่อแค่ไหนอย่างไร
          O. ครับจาก 5 ปี จากรักแห่งสยามนะครับ หนัง สำหรับโอ้แล้วพูดได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของชีวิตโอ้เลยครับเพราะว่าแทบจะทุกวันที่โอ้ได้ออกกองได้ไปทำงานมันทั้งสนุกแล้วก็ได้ประสบการณ์ที่เราไม่มีทางได้จากห้องเรียน ผมว่ามันเป็นประสบการณ์ที่เราได้โตขึ้นด้วย ได้โตไปกับพี่ๆ ทีมงาน ที่ทำให้เราได้เล่นหนังดีๆ คือนอกจากได้เล่นหนังดีๆ มันยังได้เรื่องของบทสอนข้อคิดดีๆ ถ่ายทอดไปให้กับวัยรุ่นด้วย ผมว่ามันได้หลายต่อ แล้วตัวโอ้เองโอ้ว่ามันได้เยอะมากได้ฝึกความเป็นผู้ใหญ่ด้วย แล้วตอนเล่นหนังทุกเรื่องเราได้เปลี่ยนคาแรคเตอร์ มันตื่นเต้นทุกวัน อย่างบางทีบางเดือนเล่นสามเรื่อง ตอนเช้ามีบางวันเป็นสองคาแรคเตอร์ ตอนเช้าเป็นคนกวนๆ ตอนเย็นเป็นคนตุ้งติ้งอะไรแบบเนี้ยะครับ ซึ่งเราก็ต้องแบ่งพาร์ทของตัวเราเองให้ดี ผมว่าเป็นประสบการณ์ที่ซื้อไม่ได้ แล้วก็เป็นประสบการณ์ที่จะจดจำในหัวสมองผมอีกต่อไปตลอดชีวิตเลยครับ ก็ดีใจครับที่ได้เล่นหนังหลายๆ เรื่องแล้วก็ได้เล่นหนังดีๆ แบบนี้

          Q. หลายคนอยากรู้แล้วตัวโอ้เองมีหลักเกณฑ์ในการเลือกเล่นหนังอย่างไรบ้าง
          O. สำหรับโอ้เอง โอ้ก็จะเลือกจากบทที่โอ้เชื่อน่ะครับ โอ้ว่าสิ่งแรกที่นักแสดงอ่านบทแล้วเชื่อในตัวบทก็จะถ่ายทอดออกมาได้นะครับ ก็คือถ้าเราอ่านบทแล้วเราไม่เชื่อหรือว่าเราคิดว่าเราถ่ายทอดออกไปไม่ได้เนี่ยะ ผมว่ามันก็ไม่ดี เพราะว่าสิ่งแรกผมว่าน่าจะอยู่ที่ตัวเราเอง มุมมองของตัวเราเองมากกว่า

          Q. จากบทเด็กมัธยมใสๆ ที่มีแง่มุมดราม่าใน “รักแห่งสยาม” จนมาถึง บทหนุ่มเจ้าชู้จีบสาวไปเรื่อยรักใครไม่เป็นอย่างใน “รักสุดทีน” แฟนๆ จะมีโอกาสได้เห็นบทบาททางการแสดงที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ของมาริโอ้อีกไหม
          O. จากนี้ไปก็จะมีครับ คืออย่างก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็จะมีเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็ได้ทดลองกับผู้กำกับหลายๆ คน ได้ลองคาแรคเตอร์หลายๆแบบ จากนี้ไปผมก็จะได้เปลี่ยนคาแรคเตอร์ไปเรื่อยๆ อย่างเรื่องนี้จะกวน กวนถึงขีดสุดแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนเหมืนกัน เจ้าชู้ จีบหญิง ซึ่งก็จะเป็นครั้งแรกเหมือนกัน หรืออย่างที่ผ่านมาก็ได้เล่นอุโมงค์ผาเมือง ก็จะได้เป็นพระในยุคเมือ 500 ปีที่แล้ว ก็คือได้เปลี่ยนคาแรคเตอร์ไปแบบฉีกตลอดเลยฮะ ต่อไปก็จะมีเรื่องสิ่งเล็กๆ 2 มีหนังต่างประเทศเป็นหนังจีนซึ่งไปถ่ายทำที่เมืองจีนแล้วโอ้ก็ต้องพูดภาษาจีนด้วย ก็คงจะได้เห็นผลงานที่แตกต่างและบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปครับ แล้วก็มีหนังอีกเรื่องหนึ่งนะครับที่ท้าทายที่สุดสำหรับตัวโอ้เอง เป็นหนังของหม่อมน้อยนะครับ แต่ว่าต้องขออุบไว้ก่อนนะครับ (ยิ้ม)

          Q. อัพเดทชีวิตช่วงนี้กันหน่อย
          O. อัพเดทชีวิตโอ้กันนะครับ 7 วันช่วงนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากถ่ายละครแล้วก็มีเดินสายโปรโมหนังเรื่องนี้ครับ “รักสุดทีน” แล้วก็มีเตรียมตัว เวิร์คช็อปหนังใหม่ของหม่อมน้อยด้วยครับ ตอนนี้มีเวลาว่างก็จะอ่านบท มีเรื่องของซ้อมเต้น ซ้อมร้อง เพลงเรื่องของคอนเสิร์ตสี่บวกหนึ่ง ครับ แล้วก็จะมีละครเรื่องใหม่ของโอ้ด้วยครับ เรื่องรักเกิดในตลาดสดครับ


          Q. ท้ายนี้อยากฝากอะไรกับแฟนๆ ของเรา
          O. สิ่งที่โอ้อยากพูดกับแฟนๆ ที่ติดตามผลงานโอ้อยากบอกว่าขอบคุณมากๆ นะครับที่ติดตามผลงานโอ้มาโดยตลอดคืออยากจะบอกกับพวกคุณว่าพวกคุณเป็นกำลังใจให้โอ้มากๆ แล้วทำให้โอ้ได้มีกำลัง แล้วก็มีพลังที่จะไปทำหนังใหม่ ไปเล่นละคร หรือ เปลี่ยนคาแรคเตอร์ แฟนคลับทุกคนเป็นกำลังใจ ให้โอ้มากๆ ครับ ถ้าไม่มีแฟนคลับทุกคนก็คงไม่มีโอ้วันนี้ครับ ยังไงก็ฝากให้แฟนๆ นะครับอย่าลืมปีห้าห้านี้โอ้มีหนังสนุกๆ อย่าง รักสุดทีน ครับ อย่าลืมมาดูนะครับ ก็เป็นอีกคาแรคเตอร์หนึ่งของโอ้ซึ่งฉีกออกไป แล้วก็ใครที่เป็นแฟนของพันธมิตรก็อย่าลืมดูหนังเรื่องนี้นะครับ เพราะว่าเราอาจจะเคยฟังแต่เขาพากย์แต่ไม่เคยดูเขากำกับหนังก็อยากให้มาดูกันครับ 1 มี.ค. นี้ ขอบคุณครับ

FB on February 23, 2012, 05:45:38 PM
“ดีเจจั๊ด” พร้อมขโมยซีนมาริโอ้ ใน “รักสุดทีน” ด้วยบทบาทสุดฮา “หล่อเกินมนุษย์ แต่เป็นตุ๊ดนะจ๊ะ”


 
          นอกจากจะมีพระเอกหล่อขั้นเทพอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ มีนางเอกสาวระดับมิสมอเตอร์โชว์ปี 2010 อย่าง น้องไอซ์ อามีนา กูล มาเรียกแขกแล้ว ผู้กำกับ โต๊ะ-ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ เจ้าของประโยคเด็ด “ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร” หัวหน้าทีมพากย์ขวัญใจคนไทย ซึ่งโดดมาเขียนบทกำกับหนังเรื่องแรก

          “รักสุดทีน” หนังรักอารมณ์ดี ก็ยังไม่หมดมุกแค่นั้น ยังจัดเต็มด้วยการสร้างบทบาทเสริมสีสันให้กับเรื่องด้วยแก๊งเพื่อนพระเอกที่ได้ ดีเจพล่ากุ้ง (วรชาติ ธรรมวิจินต์) และ ดีเจจั๊ด ธีมะ กาญจนไพริน มาเสริมทัพ โดยเฉพาะดีเจจั๊ด ที่มารับบท “จัดหนัก ฉายา “จัดให้หล่อเกินมนุษย์ แต่เป็นตุ๊ดนะจ๊ะ”

          ผู้กำกับโต๊ะฟันธงเลยว่าต้องเป็น “คนนี้คนเดียวเท่านั้น” แถมยังชมเปาะว่าเป็นคนที่เล่นมุกได้ลื่นไหลเข้ากับตัวละครเพื่อนๆ ได้อย่างกับรู้จักกันมานาน สามารถพูดบทยาวๆ ได้โดยไม่ผิดสักคำเดียว เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ภูมิใจนำเสนอในเรื่องนี้

          โดยหนุ่ม จั๊ด ธีมะ นักแสดงมากความสามารถคนนี้ก็ได้เผยถึงบทบาทใหม่แสนท้าทายว่า

          “ตอนที่ได้รับบทมานะครับ เขาเขียนว่าหล่อเกินมนุษย์ แต่เป็นตุ๊ดนะจ๊ะ ไอ้ตรงเป็นตุ๊ดนะจ๊ะนี่ไม่หนักใจ แต่หล่อเกินมนุษย์นี่หนักใจนะ เพราะว่าการที่คนเราจะหล่อเกินมนุษย์ได้หน้าต้องเป๊ะมาก ไม่ว่าจะเป็นมาริโอ้เอง หรือแบบโดม ปกรณ์ ลัม คนพวกนี้คือหล่อเกินมนุษย์ แต่สำหรับเราก็พยายามทำตัวให้หล่อเกินมนุษย์ที่สุดแม้ว่ามันจะไม่ได้ แต่ว่าไอ้ตรงเป็นตุ๊ดนะยะ เราโอเค เราเล่นได้อยู่แล้วนะครับ ก็จะเป็นคาแรคเตอร์ที่สนุกๆ ในเรื่องคือเวลาไปดีลผู้หญิงให้เพื่อน ผู้หญิงก็จะมีมาแอบชอบเราด้วย คือแต่ในใจของเรา เราเป็นตุ๊ดนะยะ เราแค่ทำภารกิจของเราให้สำเร็จคือ “ภารกิจที่ว่ารักเพื่อน” เอาผู้หญิงไปใส่พานไปมอบให้เพื่อน แต่ว่าในระหว่างที่ใส่พานไปมอบให้เพื่อน ถ้ามันมีจำนวนหลายคนมันอาจจะเหลือมาถึงเราบ้าง ซึ่งไอ้การเหลือมาถึงเราบ้าง เป็นอะไรที่ชอกช้ำสำหรับเรา ทำไมล่ะเราเป็นตุ๊ดนะยะ แต่ทำไมต้องเหลือมาถึงเรา”

          โดยตัวละครนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญในการสร้างสีสันในเรื่องให้ครบรสความฮา แต่ความยากอยู่ต้องเปิดปิดสวิตช์แก๊กแมน-แต๊บหลุดได้ทันที

          “สีสันของคาแรคเตอร์นี้ เป็นอะไรที่สนุกมากครับ มันจะต้องมีการเล่นแบบเปลี่ยนอารมณ์ สลับอารมณ์กันไปในซีนเดียวเยอะมาก มีซีนหนึ่งยกตัวอย่างให้ฟัง ซีนนี้เป็นซีนที่เราไปเที่ยวกันสามคน ไปเที่ยวในผับ พอไปเที่ยวในผับ เรานั่งกันอยู่โต๊ะหนึ่ง ไอ้โต๊ะข้างๆ ที่อยู่ข้างหลังเราเป็นผู้หญิง แล้วไอ้เพื่อนเราสองคนมันเล็งไว้แหละ เวลาเราอยู่กับเพื่อนเราก็เป็นตุ๊ดนะยะของเราตามนิสัยปกติ แต่พอเราหันไปจะดีลให้เพื่อน เราจะต้องเปลี่ยนทุกอย่าง เปลี่ยนทั้งเสียง เปลี่ยนทั้งบุคลิกภาพ จากเสียงที่แบบสูงๆ ก็ต้องมาเป็นแบบต่ำๆ ในการติดต่อผู้หญิง นี้คือสีสัน แล้วมันก็จะมีหลายตอนมากที่เราจะต้องแอ๊บไว้ บางทีก็ระเบิดออกมา บางทีก็เป็นแมน บางทีก็เป็นตุ๊ด คือความยากมันอยู่ตรงที่จะต้องสลับกันในซีนเดียวคือตรงนี้มันต้องเป็นผู้ชายมากๆ เลย แล้วพอหันกลับมาปุ๊บเราต้องเป็นตุ๊ดให้มากๆ เลยเหมือนกัน มันคือ 2 คาแรคเตอร์ที่สุดโต่งน่ะครับ”

          ใครที่อยากเห็นลีลาแอ๊บแมนแสนสะดิ้งสุดพริ้วของ ดีเจจั๊ด เตรียมตัวดูกันแบบจัดเต็มกันได้ 1 มี.ค. นี้ทุกโรงภาพยนตร์

FB on February 23, 2012, 05:46:32 PM
ปิดสุวรรณภูมิเปิดตัว “รักสุดทีน” ส่ง “โอ้-พล่ากุ้ง-จั๊ด” ขึ้นบิ๊กไบค์ 2 ล้อ พร้อมใจบิดสุดชีวิต หนังเรื่องแรกในชีวิต โต๊ะ พันธมิตรขอฝันแบบไม่กั๊กใส่เต็มแม็ค



          หลังจากเพาะประสบการณ์ในฐานะหัวหน้าทีมพันธมิตร เพื่อสร้างสีสันความสนุกสนาน และเสียงหัวเราะให้บังเกิดกับผู้ชมในหนังต่างประเทศพากย์ไทยนับพันนับหมื่นเรื่องมาทั้งชีวิต พอมาถึงไฮไลท์สำคัญฉากเปิดตัว“มาริโอ้-พล่ากุ้ง-ดีเจจั๊ด” กลุ่มเพื่อนซี้ที่มีอุดมการณ์ร่วมกันว่าจีบหญิงเป็นเรื่องใหญ่พอๆ กับความหลงใหลในการบิดมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์ 2 ล้อ ทำให้ทีมงานนับร้อยชีวิตตลอดจนนักแสดงและผู้กำกับต้องยกกองถ่ายทำไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อให้ 3 หนุ่ม รักสุดทีน บิดมอเตอร์ไซด์แบบสุดชีวิตด้วยความเร็วสุดทีนเกิดไปบนถนนเส้นยาวที่ทอดตัวออกไปเป็นกิโลๆ เพื่อไปรับกับภาพของเครื่องบินที่พร้อมทะยานออกจากพื้นรันเวย์ตีคู่ไป พร้อมกันกับการขึ้นชื่อหนังบนจอตามความตั้งใจของตัวผู้กำกับโต๊ะพันธมิตร ฟังดูเหมือนง่ายแต่กว่าจะได้ภาพออกมาสมใจผู้กำกับ งานนี้ทีมงานนักแสดงทั้งหมดต้องยกกองไปถ่ายทำถึงโลเกชั่นบนถนน ในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิถึง 2 ครั้ง 2 ครา หลังจากที่ครั้งแรกต้องยกเลิกการถ่ายทำกลางคัน เนื่องจากการถ่ายทำต้องเผชิญกับพายุนกเต็นเข้ามาในช่วงเวลานั้นพอดี จนไม่สามารถถ่ายทำได้และเพื่อความปลอดภัยของนักแสดงทั้ง 3 คนที่ต้องขับมอเตอร์ไซด์วิ่งไปบนถนนด้วยความเร็ว โดยไม่ใช้ตัวแสดงแทนซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้

          ซึ่งพี่โต๊ะ ผกก.เล่าว่า “อย่างฉากเปิดเรื่องที่ผมฝันแต่แรกก็คืออยากได้ถนนกว้างๆ สวยๆ ผมอยากให้ทั้ง 3 คน มาริโอ้, พล่ากุ้ง, จั๊ดขี่มอ’ไซด์ แล้วมีเครื่องบินๆ คู่กัน คือมอ’ไซด์ต้องไปด้วยความเร็วเพื่อที่จะได้ตามเครื่องบินทัน เราใช้วิธีปิดถนนในสุวรรณภูมิ วันแรกไปปิดได้แค่ฉากไฟแดง ฝนตกกระหน่ำ โอ้โหฉากเปิดเรื่องยังไม่ได้เลย ไปทั้งวัน ได้มาแค่ฉากไฟแดงนิดหน่อย ถนนก็เปียกแฉะ ทั้ง 3 คนเขาก็ขี่จริงนะ สปิริทเขาขี่ ไอ้เราก็ห่วงมาก ผู้ช่วยก็บอกว่าถ้าล้มมาเนี่ยะเป็นเรื่องเลยนะ พระเอกไม่ได้เลยนะ แล้วตัวประกอบทุกคน เราก็บอก ไม่เข้าใจทำไมล้มไม่ได้ ถ้าล้มก็เป็นเรื่องเลยซิพี่ เพราะคิวหนังคิวละครคิวงานต่างๆ ของโอ้ ก็จะทำอะไรไม่ได้เลยนะ ฉากหัวใจคือฉากชื่อเรื่องที่ผมอยากได้ก็ถ่ายไม่ได้ พอถ่ายหมดจากฉากตรงไฟแดง พล่ากุ้งก็จะบอกบิดสุดทีน ไปเลยแล้วต้องไปแล้ว พอบรื้อต้องเร็วมาก โอ้ พล่า จั๊ด ทุกคนต้องขี่มอเตอร์ไซด์อย่างเร็ว แล้วถ่ายจากข้างๆ ไป เครื่องบินต้องขึ้นจากสุวรรณภูมิตีขึ้นคู่ไปกับมอเตอร์ไซด์อย่างนี้เลย แล้วชื่อเรื่องก็ไปขึ้นที่เครื่องบิน คือตอนแรกเราฝันว่าจะเป็นพระเอกขี่ตรงที่มีรถไฟหัวจรวดวิ่งคู่ด้วยซ้ำ แต่พอมานั่งคิดเครื่องบินสวยกว่า หัวจรวดเราอุตส่าห์ทิ้งละ ถ้าเครื่องบินยังไม่ได้อีก ไม่ได้เลยก็เลยต้องยกทีมงานทั้งกองกลับไปเซ็ทคิวถ่ายอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ได้สมใจปรารถนา สวย ออกมาดูดีมากๆ เลยละ เราจะได้เห็นความแรงของการที่พระเอกขี่มอเตอร์ไซด์ซิ่งๆ แบบไม่กลัวอะไรเลยกับก๊วน แล้วก็พุ่งไปกับเครื่องบิน มีชื่อเรื่องขึ้นมานั่นคือสิ่งที่เราอยากเห็นมากภาพอย่างนั้น อยากเห็น”

          แน่นอนว่าเหล่าแฟนๆ เองก็อยากเห็นหนุ่มมาริโอ้หล่อเท่ห์ขรึมเช่นกัน เพราะได้ข่าวว่าที่เหลือเราจะได้เห็นหนุ่มหล่อขั้นเทพมาริโอ้ที่จะพลิกลีลากรุ่มกริ่มออดอ้อนจีบสาวเจ้าชู้แถมกวนและฮาสุดๆ อย่างแน่นอน 1 มี.ค. “รักสุดทีน”

FB on February 23, 2012, 05:47:39 PM
 ไอซ์-นางเอกมาริโอ้” ร้องจ๊าก กลางถนนข้าวสาร “ฟิซสปาเป็นเหตุ” จั๊กกะจี้สุดๆ รุมตอดนับร้อยๆ ตัว



              “ข้าวสารฟอร์เอฟเวอร์” ที่เที่ยวสุดฮิพและฮิทตลอดกาลของคนไทยและชาวต่างชาติตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงนักท่องเที่ยวและคนทำงาน เป็นที่ที่พระเอกหนุ่มสุดฮอตอย่าง “มาริโอ้ เมาเร่อ” และ “ไอซ์ อามีนา กูล” นางเอกสาวหน้าคมวัย 18 มิสมอเตอร์โชว์ปี 2010 จะออกเดทคู่กันในฉากสวีทหวานของทั้งคู่จากภาพยนตร์เรื่อง “รักสุดทีน” ผลงานการเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ในสไตล์สนุกสนานแบบจัดเต็มเป็นครั้งแรกของ “โต๊ะ ปริภัณฑ์” หัวหน้าทีมพากย์เจ้าของประโยดเด็ด “ให้เสียงภาษาไทยโดยพันธมิตร” โดยมีไฮไลท์คือส่งคู่พระเอกนางเอกตะลุยเดินเที่ยวดูโน่นดูนี่ไปบนถนนข้าวสาร ลิ้มรสผัดไท เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ กุ๊กกิ๊กร่วมกันในสไตล์หนุ่มสาวที่เพิ่งออกเดทคู่กัน ก่อนที่จะจับทั้งคู่ไปนั่งหย่อนขาให้ปลานับร้อยๆ ตัวรุมตอดในรูปแบบ “ฟิชสปาหรือสปาปลา” ให้จั๊กกะจี้หัวใจเล่นซะเลย ซึ่งงานนี้ทำเอาน้องไอซ์นางเอกสาวของเราที่เกิดมายังไม่เคยสัมผัสกับประสบการณ์ฟิชสปามาก่อนในชีวิตถึงกับกลั้นลมหายใจและข่มใจไม่ให้เกิดอาการกรี๊ดแตกสุดฤทธิ์แถมยังนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว

          “ (ไอซ์) ต้องยอมรับเลยค่ะว่า แรกๆ ยังไม่เท่าไหร่ค่ะ เดินซื้อผัดไท กินผัดไทกับพี่โอ้ ยังสบายๆ ค่ะ แต่อาจมีอุปสรรคตรงที่ข้าวสารคนเยอะมาก ก็เลยทำให้ถ่ายหนังยาก พี่ๆ ทีมงานก็จะวิ่งกันวุ่นพอสมควร ที่สำคัญแฟนๆของพี่โอ้เยอะมาก ทั้งคนไทย คนฟิลลิปปินส์มารุมถ่ายรูปขอลายเซ็นต์ แต่พอต้องไปถ่ายที่ร้านสปาปลานี่แหละค่ะ ด้วยความที่ไอซ์เป็นคนที่ไม่ชอบอะไรที่มันจั๊กกะจี้มากๆ แล้วตัวเองก็ไม่กล้า ไม่เคยทำมาก่อนเลยฟิชสปา แต่ในบทเราต้องเป็นคนที่ชอบ เคยทำมาแล้ว แต่นี่เป็นการพาพี่โอ้มาลองทำเป็นครั้งแรก พอตอนถ่ายแค่ไอซ์เอาเท้าจุ่มลงไปปุ๊บ มันจั๊กกะจี้มาก รู้สึกว่าอยากเอาขาขึ้นมาทันทีเลย (หัวเราะ) แล้วรู้สึกว่าขาเราสั่นมากๆ ค่ะ ไม่อยากถ่ายต่อเลย คือหนูกลัวมาก (หัวราะ) แต่ก็ต้องควบคุมสีหน้าแววตา ท่าทางต่างๆ แต่พอพี่เขาสั่งคัทเท่านั้นแหละไอซ์รีบเอาเท้าออกมาเลย (หัวเราะ)”

          “(มาริโอ้) ผมก็เรียกว่าจั๊กกะจี้มากครับ ปกติเวลาไปที่อื่นปลาไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น แต่ไม่รู่ว่าที่นี่ทำไมปลาเขาเยอะจริงๆ ครับ ตอดชนิดเรียกได้ว่าสุดยอดเลยครับ ขาแทบจะชาไปเลยครับ นี่ก็โดนๆไปเต็มๆเลยครับ ซึ่งในเรื่องไอซ์จะต้องเป็นคนที่มาบ่อยแต่ตัวจริงเพิ่งเป็นครั้งแรกแต่กลับกลัว ส่วนตัวโอ้เองในเรื่องไม่เคยมา เรื่องจริงโอ้ก็ไม่เคยมาแต่ก็ไม่กลัว แต่ยอมรับว่าจั๊กกะจี้มากๆ ส่วนเรื่องมาที่ข้าวสารนี่นับครั้งได้เหมือนกันเลย ประมาณว่าถ้าเพื่อนมาก็ขอติดมาด้วยครับ อย่างจริงๆ แล้วแถวข้าวสารถือว่าของกินอร่อยๆเยอะครับ เสียดายครับอดกิน(หัวเราะ)เพราะต้องถ่ายหนังยังไงโอ้ต้องหาเวลามากินให้ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นโจ๊กบางลำพู,ก๊วยเตี๋ยวต้มยำ ฯลฯ พูดแล้วน้ำลายสอครับ 55”

          ก็เป็นอีกหนึ่งฉากไฮไลท์ของภาพยนตร์ แฟนๆ ของหนุ่มโอ้สาวไอซ์ก็อย่าลืมไปให้กำลังใจทั้งคู่ได้ใน “รักสุดทีน” ภาพยนตร์สนุกสนานในสไตล์ยิ้มๆ ฮาๆ ตามแบบฉบับพันธมิตร 1 มี.ค. นี้ทุกโรงภาพยนตร์

FB on February 23, 2012, 05:48:23 PM

จับตาดู “ไอซ์- อามีนา กูล” สาวสวยวัยใส ที่ทำให้ “มาริโอ้” ต้องหันขวับและหยุดความเจ้าชู้ ตัวเลือกเดียวของ “โต๊ะ ปริภัณฑ์” นางเอก “รักสุดทีน”ที่นุ่งยีนส์สวยที่สุด


   
Q : ก่อนอื่นให้ “ไอซ์” แนะนำตัว ทักทายกันก่อนเลยดีกว่า
I : สวัสดีคะอามีนา กูลค่ะ ชื่อเล่นไอซ์ค่ะ หนูเกิดที่เมืองไทย เป็นลูกครึ่งไทย-ปากีสถาน คุณแม่เป็นคนไทย และคุณพ่อเป็นคนปากีสถาน หนูเกิดได้ 2 เดือนก็บินไปปากีสถานไปบ้านเกิดคุนพ่อค่ะหนูเติบโตและเรียนอยู่ที่นั้นจนถึงเกรด 2 ก็ไปอยู่กับคุณยายที่ฮอลแลนด์ คุนแม่ชอบเมืองไทยค่ะเราเลยกลับมาอยู่กันที่เมืองไทยหนูเริ่มมาเรียนที่นี่ตอน 8 ขวบ ตอนนั้นก็พอพูดไทยได้บ้าง เพราะคุณแม่จะสอนบ้างเป็นบางคำ ค่อยๆ ให้เราได้หลายๆ ภาษาจนถึงปัจจุบันหนูอยู่เมืองไทยมาสิบปีล่ะค่ะแล้วก็ชอบมากๆ เพราะรู้สึกว่าเมืองไทยเป็นประเทศที่มีน้ำใจทุกคนใจดีและชอบยิ้มให้กัน ตอนนี้ก็อายุ 18 ปีค่ะกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเสสะเวทวิทยาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็ปีนี้ก็ต้องเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ที่ผ่านมาก็จะมีถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา งานต่างๆ บ้าง ล่าสุดก็กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกชื่อ “รักสุดทีน” เล่นกับพี่มาริโอ้ เมาเร่อ คะ

Q : เริ่มรู้สึกว่าตนเองสนใจในเรื่องการแสดงตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
I : ตั้งแต่เด็กเป็นคนขี้อาย แต่พอเริ่มอยู่ประถมเห็นเพื่อนเต้นงานโรงเรียน แล้วก็จำได้เลยว่าเพลงแรกที่ไม่ได้เต้นแล้วร้องไห้คือเพลง “โอเคนะคะ” ของแคทลียา อิงลิช เห็นท่าเต้นน่ารักดี เพื่อนที่มาเต้นก็ได้ดอกไม้ด้วย ตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมายังไงเราก็ต้องแสดงงานโรงเรียน เราก็ชอบมาโดยตลอด ชอบต่างหน้า ชอบแต่งตัวสวยๆ ชอบเต้น ชอบรำ แล้วครูก็ส่งประกวดนางนพมาศ แล้วก้ได้รางวัลมา ตั้งแต่นั้นก็มีประกวดบ้าง ถ่ายหนังสือบ้าง มีถ่ายงานอะไรต่างๆ บ้าง เริ่มทำงานในวงการตั้งแต่ 15 คะ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดที่จะทำจริงจัง แต่ว่าตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมพอดี ปี 2009 ไปประกวดมิสทีนไทยแลนด์ก็คิดว่าจะหาประสบการณ์ แล้วก็ไม่อยากใช้ชีวิตช่วงเวลาปิดเทอมอยู่บ้านเฉยๆ ดีกว่า ก็เลยไปประกวด แล้วเราก็ดันโชคดีได้เข้ารอบ (หัวเราะ) เข้ารอบเสร็จแล้วก็ไปเก็บตัว ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดตัวเองไม่เคยไปภาคใต้เลย ก็ได้ไปเก็บตัวที่ภูเก็ต ได้มีเพื่อนหลายๆ รร. ได้มีเพื่อนคนนี้คนนั้น ตั้งแต่นั้นก็รู้สึกว่าการทำงานตรงนี้สอนให้เรามีความรับผิดชอบ ได้เข้าสังคมรู้จักคน มีประสบการณ์ในเรื่องการแสดง การพูดคุยกับคนรอบข้าง ตอนที่ประกวดไอซ์ก็ได้ตำแหน่งมิสโคคาไอดอลมานะคะ ตอนนั้นไอซ์ยังผมสั้นเอยู่เลยเพื่อนๆ ชอบเรียกเด็กปักษ์ใต้ เพราะตอนนั้นผอมมาก ตัวเล็กมาก พราะเพิ่งเรียนจบม.ต้นมา พอมาอายุ16ก็ประกวดมิสมอเตอร์โชว์ปี 2010 ได้ที่ 1 มาปีนั้น ก็ถือว่าเป็นรางวัลที่ค่อนข้างภูมิใจคะ หลังจากมีมิสทีนไทยแลนด์ ที่ถือว่าประสบความสำเร็จขั้นแรก แล้วหลังจากที่ได้มิสมอเตอร์โชว์ก็จะมีงานถ่ายโฆษณาเป็นผลิตภัณฑ์บ้าง เป็นแอดโฆษณา ถ่ายหนังสือ แล้วตอนปี 2010 ก็ได้รับรางวัลโล่ห์พระราชทานในฐานะลูกตัญญูแห่งชาติค่ะ

Q : เมื่อพูดถึงความฝันของตัวเอง?
I : ความฝันของไอซ์ตั้งแต่เด็กก็คือ อยากเดินแบบ ก็เหมือนเด็กทั่วไป อยากเป็นดารา เห็นเขาแต่งตัวสวยๆ ใส่ชุดสวยๆ มีคนขอถ่ายรูป ก็ชอบแต่ไม่คิดว่าจะได้มาทำแบบนี้จริงๆ ช่วงนั้นเราก็คิดว่าตั้งใจเรียนหนังสือให้จบ แล้วก็มีอยู่ช่วงหนึ่งเราอยากเป็นแอร์ฯ คิดว่าอยากจะไปเรียนด้านแอร์ฯ แล้วพอมาทำงานตรงนี้ ก็รักที่จะทำงานตรงนี้

Q : แล้วเป็นไงมาไงถึงได้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องรักสุดทีน แถมเป็นนางเอกของพระเอกสุดฮอตอย่างมาริโอ้ เมาเร่อด้วย?
I : ก็มีพี่ๆ ทีมงานติดต่อไปว่ามีหนังเรื่องหนึ่งจะเปิดแคสท์ติ้ง แล้วเขาก็บอกไกด์มานิดหนึ่งว่าเรื่องนี้เขาต้องการผู้หญิงที่ใส่กางเกงยีนส์แล้วสวย ไปวันแรกเราก็ใส่กางเกงยีนส์ไปเลยคะ แล้วก็เดินตรงเข้าไปเลย เข้าไปหาพี่โต๊ะ (ปริภัณฑ์ วัชรานนท์ หัวหน้าทีมพากย์พันธมิตร ผกก. รักสุดทีน) พี่โต๊ะก็ชี้บอกใช่เลย เราก็งง แล้วพอเขาให้บทเรามาอ่าน แล้วก็มีพี่ต้นเขาเป็นแอคติ้งโค้ช เขาก็คอยติวให้ พอหลังจากแคสท์เสร็จ 2-3 วัน พี่เขาก็โทรมาบอกว่าเราได้นะ ตอนแรกไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้เล่นด้วยความที่เราไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อน แอ็คติ้งก็ไม่เคยเรียน เราผ่านแต่งานถ่ายแบบมา พอผกก. เขาเลือกเรามา ทำให้เรายิ่งมีความตื่นเต้น ว่าเราจะทำได้หรือเปล่า กดดันยิ่งเล่นกับพี่มาริโอ้ ด้วยความที่พี่เขาเป็นซุปเปอร์สตาร์อยู่แล้ว เราเองใหม่จริงๆ ฝีมือการแสดงเราไม่มีอะไรเลยแล้วเขาเป็นคนที่แบบเป็นพระเอกสุดฮอตที่ใครๆ ก็อยากเล่นกับเขา เขาเป็นคนที่เก่ง เราก็จะรู้สึกเกร็งๆ จะทำให้คนอื่นเขาเสียเวลากับเราหรือเปล่า ด้วยความที่เรายังใหม่ และก็เป็นเรื่องแรกด้วย ก็รู้สึกภูมิใจมากคะ

Q : ทราบมาว่าไม่ใช่แค่ต้องใส่ยีนส์สวยเท่านั้น วันแรกที่แคสท์ติ้งก็เจอโจทย์ยากเลย?
I : ค่ะ นอกจากเขาต้องการนางเอกที่ใส่กางเกงยีนส์สวยแล้ว คือพี่โต๊ะก็จะให้เราลองแสดงให้ดู โดยเอาฉากที่สำคัญและก็ยากที่สุดของตัวละครตัวนี้มาให้เราลองเล่น เป็นฉากที่นางเอกจะต้องร้องไห้อยู่ริมสระ แล้วไอซ์เองไม่เคยแสดงมาก่อนเขาก็ให้บทนี้มาเล่น เราก็โอเคๆ ต้องพูดไปร้องไห้ไปด้วยอยู่ริมสระ เป็นฉากที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของเรื่อง พี่โต๊ะบอกว่าคนที่จะได้มาเล่นเรื่องนี้ถ้าเกิดทุกฉากเล่นได้แต่เล่นฉากนี้ไม่ได้มันก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะว่าฉากนี้พี่โต๊ะเขามองภาพไว้ในสมองอยู่แล้วว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้ๆ

Q : เล่าให้ฟังหน่อยว่าคาแรคเตอร์ที่ได้รับเป็นอย่างไรบ้าง?
I : คาแรคเตอร์ของ มินท์ หรือมินตราจะเป็นผู้หญิงที่นิ่งๆ เงียบ แล้วก็มีอะไรน่าค้นหา เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ ขนาดผู้ชายที่หล่อกระชากใจสาวทุกคนที่ถือว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่ออย่าง เอกชัย (รับบทโดยมาริโอ้) ก็มาหลงรักมินท์ แล้วก็มองการณ์ไกลว่ามินท์จะต้องเป็นเนื้อคู่ที่ฟ้าส่งมาให้เขา อย่างตัวละครมินท์นะคะก็สร้างความประหลาดใจให้กับนายถึงใจ ด้วยการที่เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาเจอ 3 ครั้งภายในเวลา 48 ชม. แล้วมินตรานี่แหละเป็นผู้หญิงที่สามารถทำให้นายถึงใจเปลี่ยนตัวเองจากที่เป็นเพลย์บอย ไม่สนใจเรื่องเรียน กลับกลายเป็นคนที่กลับไปหาครอบครัว สนใจเรื่องเรียน พยายามจะทำตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อผู้หญิงคนเดียวคะ

Q : คิดว่าเสน่ห์ความน่าสนใจของตัวละครตัวนี้อยู่ที่ตรงไหน อย่างไร?
I : สำหรับไอซ์แล้วคิดว่าเสน่ห์ของมินตราอยู่ตรงที่ตัวมินตราเป็นคนที่จิตใจดี เป็นคนที่ดูน่าค้นหา ลึกลับ สามารถทำให้คนๆ หนึ่งที่แบบว่าจากที่ไม่สนใจเรื่องเรียน สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนๆ หนึ่งได้ คือกลับมาเรียนหนังสือ กลับมาเป็นคนดี นายถึงใจเลยหลงรักผู้หญิงคนนี้ และอยากจะได้ผู้หญิงคนนี้มาใช้ชีวิตคู่ต่อไป แล้วก็เป็นผู้หญิงที่ใครอยู่ใกล้แล้วมีความสุข แล้วตัวละครตังนี้ก็มีความซับซ้อนมีหลากหลายอารมณ์ในแต่ละฉาก อย่างฉากหนึ่งหัวเราะ อีกฉากก็เศร้า เป็นบทที่ท้าทายความสามารถมากคะ จะมีทั้งซึ้ง เศร้า เหงา สนุก มีหลากหลายคาแรคเตอร์ในตัวเดียวกันคะ ผกก.ยังแซวไอซ์เลยว่าไอซ์ต้องไปมีความรักแล้วแหละถึงจะรู้ว่ามีความรักแล้วเป็นยังไง แล้วยิ่งนี่เป็นหนังเรื่องแรกของไอซ์ด้วย ก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมาก

Q : “รักสุดทีน” เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร?
I : เป็นเรื่องของชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นเพลย์บอย วันๆ เอาแต่จีบสาวไปทั่ว รักใครไม่เป็น ไม่เคยคิดที่จะหยุดตัวเองหรือมอบหัวใจให้กับผู้หญิงคนไหน จนกระทั่งวันหนึ่งก็ได้มาเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่กลายเป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นทั้งเรื่องการเรียน การใช้ชีวิต แล้วก็อะไรอีกหลายๆ อย่าง ซึ่งเขาเองคิดว่าผู้หญิงคนนี้แหละคือคนที่ใช่สำหรับเขา และเขาเองก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อคนที่เขารัก เพื่อผู้หญิงที่เขารักคะ

Q : เสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่อง “รักสุดทีน”อยู่ที่ตรงไหนอย่างไร ?
I : เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้นะคะ ไอซ์คิดว่ามันอยู่ตรงที่มันมีหลายรสชาติมากเลยนะคะ ทั้งเรื่องความสนุก ความเศร้า อารมณ์ของแง่คิด หรือว่าแบบความรัก แล้วก็เหมือนว่าให้คนดูสามารถดูได้ว่าความรักเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ แล้วก็ทำให้อะไรที่มันไม่ดีสามารถกลับเป็นเรื่องดีได้