KTAMเปิดปีใหม่เดินหน้าขาย2กองทุน ตราสารหนี้ใน-ตปท.6เดือนชู3.40%ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในสัปดาห์แรกของปีใหม่ บริษัทเดินหน้าเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 24 (KTSUPB24 ) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 10 มกราคม 2555 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 3,000 ล้านบาท โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เงินฝาก ตราสารการเงินระยะสั้น ตั๋วแลกเงินบริษัทเอกชนไทย ในสัดส่วน 55 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากประจำ First Gulf Bank (FGB ) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับ 3 ในอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ , เงินฝากประจำ Union Nationl Bank (UNB ) ซึ่งเป็นธนาคารที่ดำเนินกิจการในสหรัฐอาหรับแอมิเรตส์ ถือหุ้นใหญ่ โดยองค์กรเพื่อการลงทุนของภาครัฐอาบูดาบี และ เงินฝากประจำ Bank of China ซึ่งเป็นธนาคารภาครัฐถือหุ้นใหญ่โดยหน่วยงานเพื่อกาลงทุนของรัฐบาลจีน สัดส่วนเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.40% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 4 ( KTFIX6M4) ประเภท Roll Over ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 10 มกราคม 2554 อายุโครงการ 6 เดือน เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐทั้ง 100% ผลตอบแทนประมาณการที่ 2.75% ต่อปี
สำหรับแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้จะแกว่งตัวในระดับใกล้เคียง 3.00-3.05% สอดรับกับการคาดการณ์ของตลาดการเงิน ที่คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จากระดับปัจจุบันที่ 3.25% ในการประชุมในวันที่ 25 มกราคม นี้ เพื่อให้มีผลชี้นำต่อสถาบันการเงินในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ยืม และเพื่อรองรับความเสี่ยงจากปัญหาต่อเนื่องผลกระทบของมหาอุทกภัยที่มีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่จะกระทบต่อภาคการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ
ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและตั๋วแลกเงินระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มจะลดลงได้อีก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงิน โดยอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 3 เดือน ในปัจจุบันอยู่ในระดับสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะ 6 เดือน และ 1 ปี สะท้อนการคาดการณ์ของที่อัตราดอกเบี้ยมีโอกาสจะปรับลดลงได้อีก ดังนั้น การฝากเงินระยะ 3 เดือน แม้จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะ 6 เดือน แต่จะเผชิญกับความเสี่ยงจากการได้รับผลตอบแทนที่ลดลงเมื่อจะมีการลงทุนใหม่หลังครบระยะเวลา 3 เดือน (Reinvestment Risk)