FB on December 30, 2011, 04:32:36 PM
5 Days of War




 
          ประเภท Action / War
          กำหนดฉาย  5 มกราคม 2012
          บริษัทจัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
          กำกับ/อำนวยการสร้าง เรนนี่ ฮาร์ลิน (Die Hard 2, Deep Blue Sea, Cliffhanger)
          เขียนบท มิคโก้ อลันน์ (History Undercover: Terror Strikes Moscow)
          นำแสดง รูเพิร์ต เฟรนด์ (Pride & Prejudice, The Young Victoria)
          แอนดี้ การ์เซีย (Ocean's Eleven, Twelve และ Thirteen)
          วัล คิลเมอร์ (Heat, Batman Forever)
          เอ็มมานูเอล ชริควี (You Don't Mess with the Zohan, ซีรี่ย์ Entourage)

          ตีแผ่สงครามที่ทั้งโลกต้องรับรู้
          ผลงานสุดมันส์โดยผู้กำกับ Die Hard 2

          เนื้อเรื่อง

          5 Days of War เป็นเรื่องของความกล้าหาญที่เกิดขึ้นท่ามกลางไฟสงคราม ถ่ายทอดโดยสุดยอดผู้กำกับ เรนนี่ ฮาร์ลิน (Die Hard 2, Cliffhanger) ที่ผสมผสานฉากแอ็คชั่นสุดระทึกกับเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น เมื่อนักข่าวสงครามต้องติดอยู่ในจอร์เจียที่ถูกรัสเซียเข้ายึดครองในปี 2008 ประชาชนต้องสู้เพื่อความอยู่รอด ความกล้า และแรงใจ ทุกคนเสี่ยงชีวิตเพื่อมาเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

          โทมัส เอนเดอร์ส (รูเพิร์ต เฟรนด์) ต้องสูญเสียกำลังใจในการใช้ชีวิต เมื่อเพื่อนนักข่าวที่เขามีความใกล้ชิดที่สุด เสียชีวิตจากการถูกโจมตีในกรุงแบกแดด เขาพยายามหนีความรู้สึกผิดที่ช่วยเธอไว้ไม่ได้ ด้วยการไปทำข่าวในประเทศที่กำลังระอุอย่างจอร์เจีย ที่เกิดความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านอย่าง มหาอำนาจรัสเซีย

          เอนเดอร์ส และตากล้องขาลุย เซบาสเตียน (ริชาร์ด คอยล์) มุ่งหน้าเข้าไปยังเขต South Ossetia ช่วงเวลาเดียวกับกองทัพอากาศของรัสเซียปูพรมระเบิดใส่หมู่บ้านเล็กๆ เอนเดอร์ส และ เซบาสเตียน สามารถเก็บภาพไว้ได้ ก่อนที่พวกเขาจะช่วยผู้รอดชีวิตไปโรงพยาบาลในเมืองโกรี ด้วยความช่วยเหลือของครูสาวชาวจอร์เจีย ทาเทีย (เอ็มมานูเอล ชริควี) ซึ่งครอบครัวของเธอสูญหายไปจากการโจมตี ทำให้ เอนเดอร์ส ตัดสินใจที่จะกลับเข้าไปในเขตแดนอันตรายเพื่อช่วยตามหา

          ภายในเขตอันตราย พวกเขาได้พบนักข่าวสงครามสุดเก๋า ดัทช์แมน (วัล คิลเมอร์) ทั้งหมดได้เก็บภาพที่ทางรัสเซียไม่อยากให้โลกเห็น เมื่อทหารจัดการสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไร พวกเขาก็ถูกจับตัวเอาไว้โดยกองทัพที่นำโดย ผู้พันเดอมิดอฟ (ราเด เซอร์เบดิซ่า) และทหารรับจ้างสุดเหี้ยมคนสนิท ดานิล (มิคโก้ โนซิไอเนน) ทั้งหมดต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหนีออกมา และพยายามที่จะเอาความจริงมาบอกให้กับทุกคนให้ได้
« Last Edit: January 02, 2012, 01:08:53 PM by FB »

FB on December 30, 2011, 04:35:33 PM
   จุดเริ่มต้นของ 5 Days of War

          เรื่องราวของสงคราม South Ossetia ในปี 2008 ได้รับความสนใจจากผู้อำนวยการสร้าง จอร์จ ลาสคู และ เมอซ่า ดาวิทิอา ในช่วงต้นปี 2009 โดยพวกเขาให้ เดวิด แบทเทิ้ล เข้ามาเขียนบทภาพยนตร์ร่างแรก หลังจากนั้น ลาสคู ก็ได้ติดต่อให้ เรนนี่ ฮาร์ลิน เข้ามาเป็นผู้กำกับ และส่งบทไปให้ มิคโก้ อลันน์ ตกต่างเรื่องราวให้มีความน่าสนใจ และก็ยังซื่อสัตย์กับเหตุการณ์จริง โดยเป็นเรื่องราวของกลุ่มนักข่าวสงคราม ที่ต้องเสี่ยงชีวิตอยู่ในสมรภูมิรบเพื่อเล่าความจริง

          เพื่อถ่ายทอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเที่ยงตรง ฮาร์ลิน ได้เดินทางไปประเทศจอร์เจียกับ ลาสคู ก่อนการเปิดกล้อง พูดคุยกับผู้สื่อข่าวที่เคยมีประสบการณ์ในสงคราม รวมถึงไปเยี่ยมสมรภูมิรบจริง และรวบรวมเรื่องราวจากประชาชนและผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์

ฮาร์ลิน เผยว่า หลังจากการทำหนังบล็อคบัสเตอร์อย่าง Cliffhanger และ Die Hard 2 เขาดีใจกับการเปลี่ยนแปลงในการทำฉากต่อสู้ที่มีความสมจริง และเล่าประเด็นที่ใกล้ชิดกับความสนใจของเขา "ผมรอคอยมานานที่ทำหนังที่มีเนื้อหาเข้มข้น ผมต้องการทำหนังที่เล่าถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ สร้างความรู้สึกที่ว่าสงครามไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆ ผมอยากทำสิ่งที่สำคัญและรู้สึกพอใจไปกับมันได้"

หลังจากได้ตัวผู้กำกับ หนังก็กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ลาสคู เล่าว่า "พวกเราคิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่สำคัญ และเป็นบางสิ่งที่ทุกคนควรรู้ เราโชคดีที่ได้ เรนนี่ ฮาร์ลิน เข้ามาเป็นผู้กำกับ เขามีอารมณ์ร่วมไปกับโปรเจ็ค การที่ได้เขาเข้ามาสั่งการ ทำให้กระบวนการทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว"

          5 Days of War เป็นการบอกเล่าถึงผลกระทบของสงคราม ทั้งเรื่องร่างกายและจิตวิญญาณของประชาชนในประเทศนี้ ดาวิทิอา เผยว่า "หนังเรื่องนี้จะถ่ายทอดให้เห็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในสงคราม โศกนาฏกรรมของคนที่สูญเสียบ้าน ลูกชาย ลูกสาว ญาติพี่น้อง พวกเราพยายามสร้างตีแผ่ประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจำรึกไว้"

          การคัดเลือกนักแสดง

          ประเทศจอร์เจียตั้งอยู่ห่างจากฮอลลิวู้ด โดยอยู่ระหว่างยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตก ทีมงานพยายามเฟ้นหาทีมนักแสดงที่เต็มใจร่วมเดินทางไปยังแดนไกล ด้วยการที่หนังได้ผู้กำกับ เรนนี่ ฮาร์ลิน เป็นหัวเรือใหญ่ และยังมีบทภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม ทำให้นักแสดงชื่อดังหลายคนให้ความสนใจ ผู้อำนวยการสร้าง เมอซ่า ดาวิทิอา เผยว่า "ผมคิดว่าเพราะประเด็นของหนัง คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนอยากเข้ามาเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น"

          ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการคัดเลือกนักแสดง นักแสดงชาวอังกฤษ รูเพิร์ต เฟรนด์ ก็เป็นตัวเลือกแรกที่ ฮาร์ลิน เลือกให้เข้ามารับบทเป็น โทมัส เอนเดอร์ส ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันที่ต้องการถ่ายทอดความจริงที่เกิดขึ้นในโลก ผู้อำนวยการสร้าง จอร์จ ลาสคู พูดถึงตัวนักแสดงว่า "รูเพิร์ต เป็นนักแสดงมืออาชีพ เขาทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้ตัวละครมีความน่าจดจำ และผมคิดว่าเขาก็ทำได้อย่างเยี่ยมยอด"

          นักแสดงชาวอังกฤษอีกคน ริชาร์ด คอยล์ ถูกเลือกเข้ามารับบทเป็นตากล้องคู่ใจของ เอนเดอร์ส ที่ชื่อ เซบาสเตียน ในขณะที่นักแสดงสาวชื่อดัง เอ็มมานูเอล ชริควี ก็รับบทเป็นครูชาวจอร์เจีย ที่ร่วมเดินทางไปกับ เอนเดอร์ส และ เซบาสเตียน เมื่องานแต่งงานของพี่สาวถูกระเบิดทำลายย่อยยับ โดย ชริควี เองก็ไม่เคยแสดงหนังสงครามมาก่อน เธอเผยว่ารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสที่ได้รับ "การได้แสดงเป็นตัวละครหญิงที่มีความเข้มแข็ง และมีสิทธิ์มีเสียงในโลกถือเป็นบทในฝันของฉัน"

          เพราะมีเวลาเตรียมตัวไม่มากนัก ทีมนักแสดงต่างก็รู้สึกตื่นเต้นและตกใจจริง ระหว่างที่พวกเขาต้องอยู่ในฉากที่รายล้อมไปด้วยเสียงปืนและระเบิด ชริควี เล่าถึงประสบการณ์ว่า "เหมือนว่าสงครามกำลังเกิดขึ้นจริง มีระเบิดเกิดขึ้นรอบตัวคุณ อาคารถูกทำลายด้วยจรวด ทหารยิงปืนอย่างบ้าคลั่ง ฉันไม่เคยสัมผัสอะไรที่จริงจังแบบนี้มาก่อน"

          โจนาธาน เชส รับบทเป็น กัปตัน เรโซ่ อวาไลนี่ หัวหน้ากองทหารฝ่ายจอร์เจีย ที่อำนวยความสะดวกให้กับทีมนักข่าว และช่วยพวกเขานำเทปการสังหารโหดของรัสเซ๊ย ไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดย เชส ต้องฝึกฝนกับผู้ดูแลสตันท์ วลาดิเมียร์ ออลอฟ ในการต่อสู้มือเปล่า ในขณะที่กองทัพทหารจอร์เจียก็ฝึกให้เขาใช้ปืน AK-47

          วัล คิลเมอร์ รับบทเป็นนักข่าวสงครามสุดเก๋า "เดอะ ดัทช์แมน" โดยยังมีนักแสดงอังกฤษอย่าง เคนเน็ธ แครนฮาร์น และนักแสดงสาวชาวเยอรมัน อันย่า ทราอู ที่เข้ามารับบทเป็นสมาชิกนักข่าวสงครามนานาชาติ ที่มารวมตัวกันอยู่ในสงคราม

          อันย่า ทราอู ที่มีผลงานการแสดงนำใน Pandorum และกำลังรับบทเป็นศัตรูตัวสำคัญของ ซุปเปอร์แมน ใน Superman ภาคใหม่ที่จะฉายในปี 2013 ก็รู้สึกปลื้มใจกับบทบาทช่างภาพสงครา ที่ใช้เสน่ห์ของผู้หญิงในการพรางตัวเข้าไปในเขตแดนหวงห้าม เพื่อนำภาพและข้อมูลออกมาเผยแพร่ให้แก่ทุกคน

          ในขณะที่ดูสารคดีที่เกี่ยวกับสงคราม South Ossetia สองผู้อำนวยการสร้าง ลาสคู และ ดาวิทิอา ก็พบว่าประธานาธิปดีของประเทศจอร์เจีย มีความคล้ายคลึงกับนักแสดงชื่อดังของฮอลลิวู้ด นั้นก็คือ แอนดี้ การ์เซีย ซึ่งที่ในที่สุด ฮาร์ลิน ก็สามารถชักชวนเขาให้เข้ามารับบทเป็นประธานาธิบดี มิคาเอล ซาคาชวิลี

          แอนดี้ การ์เซีย ที่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วจาก The Godfather: Part III พูดถึงความกระตือรือล้นของผู้กำกับว่า "เรนนี่ มีความตื่นเต้นกับที่พวกเรากำลังทำ เขามีความอารมณ์ร่วมไปกับสถานการณ์ที่ตัวเองได้สัมผัสในจอร์เจีย และพวกเราก็ยังได้รับการสนับสนุนจากทุกคนในจอร์เจีย เพราะพวกเขาอยากให้เรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป"

          การ์เซีย ให้ความสนใจเพราะสาระของหนัง โดยเฉพาะแนวคิดเรื่องการต่อต้านสงคราม "ผมคิดว่าประเด็นของหนังสำคัญกว่าตัวละคร หนังเรื่องนี้พูดถึงความเสียสละ จิตวิญญาณ สันติภาพ และอิสรภาพ นั้นคือสิ่งพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนพึงมี และนั้นก็เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ผมเข้ามาแสดงในหนังเรื่องนี้"

          ชริควี สรุปถึงประสบการณ์ในการถ่ายทำว่า "ช่วงเวลาในจอร์เจียเป็นอะไรที่น่าทึ่งที่สุด มันมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จอร์เจีย กำลังยืนหยัดบนสองขาของตัวเอง ทั้งประชาชน วัฒนธรรม และแรงใจของทุกคน มันเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งในการมาทำงานที่นี่"

          เบื้องหลังการสร้าง

          5 Days of War ใช้เวลาถ่ายทำเป็นนาน 6 อาทิตย์ โดยยกกองถ่ายไปที่ทบิลิซี เมืองหลวงของจอร์เจีย โดยมีทีมงานนานาชาติเข้ามาร่วมกันทำงาน ไม่ว่าจะเป็น โมร็อคโก, อิตาลี, เปรู, แคนาดา, ออสเตรเลีย, บัลแกเรีย, รัสเซีย รวมถึงอเมริกาและจอร์เจีย

ทีมงานได้รับความร่วมมือเต็มที่จากรัฐบาลจอร์เจีย โดยกองทัพก็ได้ให้ทีมงานได้ใช้ยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่ เฮลิคอปเตอร์ รถถัง รวมถึงกองพลทหาร ทำให้ 5 Days of War กลายเป็นหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นหนังฮอลลิวู้ดเรื่องแรก ที่เข้าไปถ่ายทำในประเทศจอร์เจีย

          ผู้อำนวยการสร้าง เมอร์ซ่า ดาวิทิอา พูดถึงการได้รับความร่วมมือว่า "รัฐบาลของจอร์เจียต้องการให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เจริญเติบโต ทำให้พวกเขาได้รับความช่วยเหลือในทุกระดับ ซึ่งความร่วมมือทำให้ทีมงานสามารถถ่ายทำฉากที่ใหญ่และซับซ้อนได้ มันอาจจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเราไปถ่ายทำในประเทศอื่น"

          กองทัพของจอร์เจียได้มอบยุทโธปกรณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถถัง T-74 ทั้งหมด 16 คัน, รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ BTRs จำนวน 16 คัน, กระสุนเปล่า 140,000 นัด, ปืน AK-74 300 กระบอก, เครื่องบินเจ็ท SU25 4 ลำ, เฮลิคอปเตอร์โจมตี MI24, และเฮลิคอปเตอร์ทหาร HU-I อีกหลายลำ ทำให้ฉากสงครามที่เกิดขึ้นมีความสมจริงมากที่สุด

          ผู้ช่วยผู้กำกับ แมรี่ อัลเลน วู้ด ก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ใช้อาวุธจริงในการถ่ายทำ "แค่พวกเราบอกว่าต้องการรถถัง พวกเขาก็จะส่งรถถังมาให้เรา 40 คัน ซึ่งถ้าเราไปถ่ายทำที่อื่น ก็อาจก็ได้มาแค่ 4 คัน นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งจริงๆ"

          ฉากที่ท้าทายที่สุดสำหรับทีมงานก็คือ การเตรียมตัวเพื่อถ่ายทำฉากสังหารหมู่ในหมู่บ้านวาเซียนี่ ซึ่งเป็นฉากที่ต้องใช้นักแสดงประกอบเยอะที่สุดครั้้งหนึ่ง โดยฉากนี้ก็กินพื้นที่ยาวกว่า 2 กิโลเมตร โดยมีนักแสดงประกอบชาวจอร์เจียมากว่า 1,000 คน รถลาดตระเวน 60 คัน, เฮลิคอปเตอร์ 9 ลำ และรถพลเรือนกว่า 100 คัน

          ด้วยการที่มีองค์ประกอบที่ครบครันขนาดนี้ ทำให้ ฮาร์ลิน และทีมงานไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิกซีจีเข้ามาช่วย โดยเฉพาะการถ่ายทำฉากที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์หลายร้อยคน ต้องกลายเป็นเหยื่อของมัจจุราชจากท้องฟ้า เขาเล่าว่า "พวกเราถ่ายทำกันตามแบบหนังสงครามคลาสสิก ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจริงๆ และเราก็เก็บภาพทุกอย่างเอาไว้ด้วยกล้อง"

          ผู้อำนวยการสร้าง จอร์จ ลาสคู เสริมว่า "สเกลของหนังเรื่องนี้ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งเราต้องขอขอบคุณกองทัพของจอร์เจีย ในการถ่ายทำวันแรก เรามีทั้งเครื่องบินเจ็ท เฮลิคอปเตอร์ นักแสดประกอบกว่าร้อยชีวิต อุปกรณ์ทางทหารอีกหลายร้อยชิ้น เราถ่ายทำกันสามฉาก ซึ่งก็เป็นเหมือนหนังสามเรื่องที่ถ่ายทำภายในวันเดียว มันเป็นวันเปิดกล้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผม เรนนี่ ฮาร์ลิน และทีมงานทุกคน"

          นักแสดงที่รับบทเป็นทหารฝั่งจอร์เจีย โจนาธาน เชส ก็พูดถึงพูดกำกับว่า "เรนนี่ เป็นเหมือนเครื่องจักร เขาแทบเป็นคนออกคำสั่งกองทหารของจอร์เจียเลยด้วยซ้ำ เขาใส่องค์ประกอบต่างๆเข้าด้วยกัน ถ่ายทอดมันในรูปแบบของหนังบล็อคบัสเตอร์ โดยมีหัวใจและแรงใจอยู่เบื้องหลัง เขาทำหนังทำที่สร้างความประทับใจได้ทั้งด้านศิลปะการการค้า"

          นอกจากเมืองหลวงอย่างทบิลิซีแล้ว ทีมสร้างยังได้ไปถ่ายทำสถานที่ที่จุดศูนย์กลางของความรุนแรงอย่างเมืองโกรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้นำรัสเซียอย่าง โจเซฟ สตาลิน โดยทีมงานก็ได้เข้าไปจำลองเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่มีวันลืมขึ้นมาใหม่ โดยชาวบ้านหลายคนที่เคยอยู่ในเหตุการณ์จริง ก็ได้เข้ามาเป็นตัวประกอบในฉากสำคัญนี้

          ในการค้นหาข้อมูล ผู้ออกแบบงานสร้าง มาร์ค เกรวิลล์-มอรร์ริส ก็ได้ดูฟุตเทจที่บันทึกภาพสงครามเอาไว้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลในโกรี เพื่อให้มันมีความสมจริงที่สุด ผู้อำนวยการสร้าง ดาวิทิอา เผยว่า "ทีมงานออกแบบทำหน้าที่กันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการสร้างความแตกต่างระหว่างรัสเซียและจอร์เจีย"

          ฉากความรุนแรงในโรงพยาบาลโกรี ถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับนักแสดงเช่นกัน เอ็มมานูเอล ชริควี เล่าว่า "ตอนที่เราปิดกล้อง ภาพก็ยังฝันอยู่ในจิตใต้สำนึกของฉัน เพราะสิ่งเหล่านั้นมันเคยเกิดขึ้นจริง พวกเราได้จำลองโศกนาฏกรรมที่เกิดในโรงพยาบาล และมันเหมือนกับเรากำลังอยู่ในฝันร้ายจริงๆ"

FB on January 02, 2012, 01:10:16 PM
การถ่ายทำและออกแบบงานสร้าง

          ผู้กำกับ เรนนี่ ฮาร์ลิน หันไปหาผู้กำกับภาพ เช็คโก วาเรเซ่ เพื่อให้เข้ามาถ่ายทำ 5 Days of War โดยเขารอดจากการถูกซุ่มยิงและเฮลิคอปเตอร์ตกมาแล้ว วาเรเซ่ เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นช่างภาพสงคราม เขาใช้เวลานานกว่าทศวรรษเข้าไปถ่ายภาพสมรภูมิรบมากมาย ตั้งแต่สงครามยาเสพติดในโคลัมเบีย, ความตึงเครียดในบอสเนีย จนถึงวิกฤตในเชชเนีย เขาพูดถึงการเลือกว่า "เช็คโก มีประสบการณ์ในสงครามมาอย่างโชกโชน เขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด"
          วาเรเซ่ ถูกดึงดูดเข้ามาในเรื่องราวในจอร์เจีย ซึ่งเขาใช้ประสบการณ์การเป็นช่างกล้องสงคราม รวมถึงโอกาสในการได้ร่วมงานกับ ฮาร์ลิน ซึ่งเขาก็เป็นแฟนที่ติดตามผลงานของเขามาาน "เรนนี่ เป็นผู้กำกับที่สร้างฉากแอ็คชั่นได้อย่างสุดยอด และมีประสบการณ์กับหนังแอ็คชั่นมากกว่าทุกคนที่ผมรู้จัก"
          หลังจากได้พูดคุยกัน วาเรเซ่ ก็ได้เข้าใจถึงแนวทางของผู้กำกับว่า "เรนนี่ ใช้ฉากแอ็คชั่นเป็นตัวดำเนินเรื่องที่เกิดขึ้นจริง มันเกี่ยวกับสงครามที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนธรรมดา เป็นหนังชีวิตที่ถูกเล่าผ่านการต่อสู้ พวกเราไม่ต้องการทำให้สงครามดูงดงามหรือเชิดชู แต่ต้องการที่จะถ่ายทอดออกมาอย่างซื่อสัตย์ เที่ยงตรง และสมจริง"
          วาเรเซ่ ถ่ายทำ 5 Days of War ด้วยกล้อง RED ซึ่งมีความทันสมัยและมีความละเอียดสูงที่สุดในปัจจุบัน เขาเล่าว่า "มันเป็นกล้องที่น่าทึ่ง เราต้องการถ่ายทอดภาพอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็จำเป็นต้องใช้กล้องที่มีความละเอียดสูง และเพราะเราถ่ายทำเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อน โดยผ่านมุมมองของนักข่าวและช่างกล้อง มันจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด"

          ในขณะเดียวกัน ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เอลวิส เดวี่ย์ ก็มีความท้าทายเช่นกัน ในการทำเครื่องแต่งกายของทหาร โดยเฉพาะชุดของทหารรัสเซียหลายร้อยชุด โดยเขาต้องศึกษาแพทเทิร์นที่เป็นเอกลักษณ์ของทหารรัสเซีย โดยใช้การอ้างอิงจากรูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหว ในที่สุดเขาก็ต้องสั่งผ้าชนิดพิเศษมาจากตุรกีมากว่า 500 เมตร เพื่อที่จะได้มาทำชุดฟอร์มทหารที่ดุดัน"
          ผู้ออกแบบงานสร้าง มาร์ค เกรวิลล์-มอร์ริส ได้ให้เครดิตกับวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของ ฮาร์ลิน ในการทำงานและประสบการณ์ที่เป็นมืออาชีพสำหรับเขา "มันยอดเยี่ยมในการได้ทำงานกับผู้กำกับที่เข้าใจการทำงานทุกแผนก และรู้ว่าทุกฉากจะออกมาเป็นยังไง เมื่อถึงเวลาที่เราเริ่มถ่ายทำ เขาก็จะเป็นคนแรกที่ลงมือเสมอ"
          เกรวิลล์-มอร์ริส เล่าต่อว่า "เราต้องการทำให้มันตรงกับเหตุการณ์จริงที่สุด แต่พวกเราก็ตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วว่า จะไม่พยายามลงไปในเนื้อหาของการเมือง และไม่ต้องการที่จะโจมตีใส่ใคร เราแค่ต้องการเล่าเรื่องของผู้คนที่ติดอยู่ในสภาวะความขัดแย้ง ประชาชนที่ต้องกลายเป็นเหยื่อของสงคราม"

          ฉากที่ เกรวิลล์-มอร์ริส ชื่นชอบที่สุดคือ ฉากการแต่งงานตามประเพณีของชาวจอร์เจีย ที่สุดท้ายแล้วก็ถูกทิ้งระเบิดใส่กลางพิธี โดยเขาและทีมงานก็ได้เปลี่ยนอาคารที่ทรุดโรม ให้กลายเป็นงานเลี้ยงงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ ตามแบบฉบับของชาวจอร์เจีย เขาเผยว่ารู้สึกเสียดายเมื่อทุกอย่างต้องพังทลายในท้ายที่สุด
          ผู้กำกับ เรนนี่ ฮาร์ลิน สรุปถึงสิ่งที่มุ่งหวังในการกำกับหนังเรื่องนี้ว่า "ในช่วงเริ่มต้นของอาชีพ ผมได้ทำหนังที่สนุกและประสบความสำเร็จ แต่ผมก็รู้สึกมาตลอดว่ามันขาดอะไรไปสักอย่าง แต่เมื่อได้ทำหนังเรื่องนี้ ความฝันและเหตุผลที่ผมเข้ามาทำหนังก็ได้กลายเป็นจริง เพราะผมได้ทำอะไรบางอย่างที่มีความหมายในโลกใบนี้"

          ทีมนักแสดง

          รูเพิร์ต เฟรนด์ (รับบทเป็น โทมัส เอนเดอร์ส)
          นักแสดงชาวอังกฤษคนนี้ เริ่มเป็นที่รู้จักจากการรับบทเป็น มิสเตอร์ วิคแฮม ใน Pride And Prejudice ฉบับปี 2005 ร่วมแสดงกับ เคียร่า ไนท์ลี่ย์ และกำกับโดย โจ ไรท์ เขายังมีผลงานการแสดงอย่าง The Libertine (2004) กับ จอห์นนี่ เด็ปป์ The Last Legion (2007) กับ โคลิน เฟิร์ธ และ เบน คิงสลี่ย์ และ Virgin Territory (2007) ของผู้กำกับ เดวิด ลีแลนด์
ในปี 2008 เฟรนด์ ได้แสดงในหนังคุณภาพเรื่อง The Boy In The Striped Pajamas ของผู้กำกับ มาร์ค เฮอร์แมน และในปีต่อมาเขาก็ประกบคู่กับ เอมิลี่ บลันท์ ในหนังพีเรียดคุณภาพ The Young Victoria รวมถึงแสดงร่วมกับ มิเชล ไฟเฟอร์ ในหนังพีเรียดอย่าง Cheri
          เฟรนด์ เรียนการแสดงมาจากสถาบัน เวบเบอร์ ดักลาส ที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอน โดยเขาได้รับรางวัล Satellite Awards สาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในปี 2005 รวมถึงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก British Independent Film Awards

          ริชาร์ด คอยล์ (รับบทเป็น เซบาสเตียน)
ผลงาน >>> Prince of Persia: Sands of Time, A Good Year, Topsy-Turvy, Franklyn

          เอ็มมานูเอล ชริควี (รับบทเป็น ทาเทีย)
          เธอถือเป็นนักแสดงที่กำลังมาแรง โดยมีผลงานทั้งในภาพยนตร์และซีรี่ย์ โดยผลงานที่ผ่านตาเราก็คือการรับบทเป็นนางเอกในหนังของ อดัม แซนด์เลอร์ เรื่อง You Don’t Mess with the Zohan รวมถึง Cadillac Records กับ เอเดรียน โบรดี้ และ บียอนเซ่ และ Saint John of Las Vegas ร่วมกับ สตีฟ บุสเซมี่
          ผลงานทางซีรี่ย์ ชริควี ก็มีบทบาทต่อเนื่องในซีรี่ย์สุดฮิต Entourage ของผู้อำนวยการสร้าง มาร์ค วอลเบิร์ก ที่เข้าสู่ซีซั่นสุดท้ายในปีนี้ และเพิ่งยังได้รับบทรับเชิญในซีรี่ย์พีเรียดคุณภาพอย่าง The Borgias นำแสดงโดย เจเรมี่ย์ ไอร่อน
          เธอเกิดและโตในเมืองโตรอนโต้ แคนาดา ก่อนที่จะย้ายมาลอสแองเจลิส เพื่อเดินในเส้นทางการแสดง โดยเธอมีผลงานเรื่องแรกอย่าง Detroit Rock City ก่อนที่จะมีผลงานในหนังอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Wrong Turn, In The Mix, Rick, Waiting, The Crow: Wicked Prayer และ Tortured ขณะเดียวกันก็ได้รับบทรับเชิญในซีรี่ย์สุดฮิตอย่าง The O.C. และ Unscripted

          วัล คิลเมอร์ (รับบทเป็น ดัชท์แมน)
          ผลงาน >>> Batman Forever, Alexander, Déjà vu, Spartan

          แอนดี้ การ์เซีย (รับบทเป็น ประธานาธิบดี มิคาเอล ซาคาชวิลี)
          ผลงาน >>> Ocean's Eleven, Twelve และ Thirteen, The Godfather: Part III, The Pink Panther

          ทีมสร้าง

          เรนนี่ ฮาร์ลิน (ผู้กำกับ / ร่วมอำนวยการสร้าง)
          เขาเป็นผู้กำกับชาวฟินแลนด์ที่มีผลงานในฮอลลิวู้ดมานานกว่าสามทศวรรษ โดยเขาขึ้นชื่อในการทำหนังได้ทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นหนังดราม่าที่ได้รับรางวัลจากเวทีนานาชาติ รวมถึงหนังแอ็คชั่นบล็อคบัสเตอร์ที่ขึ้นหิ้งไปแล้วในปัจจุบัน
          ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อให้กับมากเขาที่สุดคือ Die Hard 2: Die Harder หนังภาคต่อของคนอึด บรูซ วิลลิส ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 240 ล้านเหรียญสหรัฐ และ Cliffhanger หนังแอ็คชั่น-ทริลเลอร์นำแสดงโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน, จอห์น ลิธโกว และ จานีน เทอร์เนอร์
          หลังจาก ฮาร์ลิน ทำหนังโจรสลัดเรื่อง Cutthroat Island และหนังแอ็คั่นสุดมัน The Long Kiss Goodnight นำแสดงโดย จีน่า เดวิส และ แซมมวล แอล แจ็คสัน เขาก็ได้ทำหนังฮิตประจำซัมเมอร์อย่าง Deep Blue Sea หนังฉลามอัจฉริยะ นำแสดงโดย โทมัส เจน, แซฟฟรอน เบอร์โรว์, แอลแอล คูล เจ และ แซมมวล แอล แจ็คสัน และหนังรถสูตรหนึ่ง Driven นำแสดงโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน และ คิบ พาร์ดู
          นอกจากการกำกับแล้ว ผลงานการสร้างของ ฮาร์ลิน ก็ยอดเยี่ยม โดยในปี 1991 เขาอำนวยการสร้างหนังดราม่าเรื่อง Rambling Rose นำแสดงโดย โรเบิร์ต ดูวัล, ไดแอน แล็ด และ ลอณ์ร่า เดิร์น โดยหนังได้รับรางวัลหนังยอดเยี่ยมจาก Independent Spirit Award และเข้าชิงถึงสองรางวัลออสการ์ โดยผลงานการสร้างเรื่องอื่นของ ฮาร์ลิน ก็ยังมี Speechless นำแสดงโดย ไมเคิล คีตัน และ จีน่า เดวิส และ Blast From the Past นำแสดงโดย อลิเซีย ซิลเวอร์สโตน และ เบรนแดน เฟรเซอร์

          มิคโก้ อลันน์ (ผู้เขียนบท)
          ผลงาน >>> History Undercover: Terror Strikes Moscow, The Dictator’s Shadow, Rampart: A Detective’s Requiem

          เช็คโก้ วาเรเซ่ (ผู้กำกับภาพ)
          ผลงาน >>> The New Daughter, Under the Same Moon, Their Eyes Were Watching God, True Blood

          มาร์ค เกรวิลล์-มอร์ริส (ผู้ออกแบบงานสร้าง)
          ผลงาน >>> Sunstorm, Candyman: Day of the Dead, Back in the Day, Shame

          เอลวิส เดวี่ย์ (ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย)
          ผลงาน >>> Saving Private Ryan, Age of Heroes, The Shepherd: Border Control, Its Alive

FB on January 08, 2012, 03:08:31 PM
“5 DAYS OF WAR” สมรภูมิคลั่ง 120 ชั่วโมง เผย ชนวนระอุจัดหนักอาวุธสงครามของจริง ถ่ายภาพยนตร์สงครามที่สมจริงที่สุดในประวัติศาสตร์



           5 Days of War หรือ สมรภูมิคลั่ง 120 ชั่วโมง ผลงานแอคชั่นระอุโลก จากฝีมือของ “เรนนี่ ฮาร์ลิน” ผู้กำกับของภาพยนตร์ภาพยนตร์แอคชั่นฟร์มยักษ์อย่าง Die Hard 2 และ Deep Blue Sea ยกทีมงานไปถ่ายทำจริงที่เมืองที่เป็นฉากหลังของสงครามอย่างเมืองทบิลิซี่ และหมู่บ้านวาลิเซียนี่ ในประเทศจอร์เจีย โดยได้ รูเพิร์ต เฟรนด์ นักแสดงหนุ่มหล่อไฟแรง มารับบท นักข่าวสงครามบ้าพลัง ระหว่างสงครามเกือบจะลบประเทศ “จอร์เจีย” ออกจากแผนที่โลกภายในเวลาเพียง 5 วันโดยฝีมือกองทัพรัสเซีย เพราะเหตุแย่งชิงดินแดนในปี 2008 สงครามครั้งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นสงครามในยุโรปที่ดุเดือดที่สุดในรอบทศวรรษ โดย หนึ่งในทีมงานหลักของ 5 Days of War อย่างผู้กำกับภาพ “เชคโก วาเรเซ่” ก็เคยใช้ชีวิตเป็นช่างภาพสงครามตัวจริง ซึ่งเคยทำงานท่ามกลางไฟสงครามในบอสเนีย, เชสเนีย และในโคลัมเบียมาแล้ว รับประกันมุมมองภาพสงครามที่สมจริงและบีบหัวใจให้ลุ้นระทึกแน่นอน

          โดยผู้กำกับ “เรนนี่ ฮาร์ลิน ถ่ายทำฉากรบทั้งหมดโดยใช้อาวุธและยุทโธปกรณ์ประกอบฉากที่ใช้ในสงครามจริงๆ โดยไม่มีการพึ่งCG แต่อย่างใด ทั้งรถถังกว่า 40 คัน, รถหุ้มเกราะกว่า 20 คัน, ปืน AK-74 พร้อมกระสุน 300 กระบอก, เครื่องบินเจ็ท 5 ลำ และเฮลิคอปเตอร์โจมตีอีกหลายลำ รวมทั้งยังใช้ชาวจอร์เจียมาเข้าฉากกว่า 1,000 ชีวิต

          เพียง “5 วัน” สงครามนี้จะลบหนึ่งประเทศจากแผนที่โลก
          เพียง “5 วัน” สงครามนี้จะฝังความระทึกสุดสมจริงไว้ในความทรงจำ

          5 มกราคมนี้ ในโรงภาพยนตร์