happy on September 01, 2011, 03:49:16 PM

               โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ร่วมกับ เอ็กซ์ตร้า เวอร์จิ้น ต่อยอดโครงการ Director’s Screen Project ส่งหนัง ที่รัก ผลงานการกำกับของ ศิวโรจณ์ คงสกุล ภาพยนตร์คุณภาพรางวัล Tiger Award จากเทศกาล International Film Festival of Rotterdam (The Netherlands) 2011 โดยมีโปรแกรมฉาย ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนนี้ ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พิเศษราคาเดียวเพียง 120 บาท ทุกที่นั่ง ทุกรอบ สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามรอบฉายภาพยนตร์ หรือรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมที่ SF Call Center (02) 268 – 8888 และ www.sfcinemacity.com  หรือเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่หน้าโรงภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ที่เดียวเท่านั้น!!!
« Last Edit: September 01, 2011, 03:52:14 PM by happy »

happy on September 01, 2011, 04:02:38 PM
ที่รัก
ETERNITY
ภาพยนตร์โดย ศิวโรจณ์ คงสกุล

ไทย • 2553 • 105 นาที • 16:9 • Dolby SRD • 35 มม. • ภาษาไทย มีคำบรรยายอังกฤษ
เข้าฉาย วันที่ 8 กันยายน 2554 ที่โรงภาพยนตร์ SF World เซ็นทรัลเวิลด์
เรต: ทั่วไป






เรื่องย่อ

"ที่รัก" เล่าเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งผ่านสามช่วงเวลาของชีวิต ช่วงแรกคือชีวิตหลังความตายของเขาที่มีโอกาสได้กลับไปเยือนบ้านเกิดสมัยวัยเยาว์ ช่วงที่สองพูดถึงความทรงจำที่ดีที่สุดของชายหนุ่มคนนั้น     นั่นคือช่วงเวลาที่เขาได้พบหญิงสาวที่จะมาเป็นภรรยาของเขาในอนาคต และช่วงสุดท้ายจะสะท้อนภาพชีวิตของภรรยา ลูกชาย และ ลูกสาวของเขา ในวันที่ไม่มีเขาอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว

ทีมงาน

ผู้ควบคุมการผลิต    อาทิตย์ อัสสรัตน์, โสฬส สุขุม, ม.ร.ว.อัมพรพล ยุคล

ผู้กำกับภาพยนตร์    ศิวโรจณ์ คงสกุล

ผู้กำกับภาพ       ม.ร.ว. อัมพรพล ยุคล

ผู้กำกับศิลป์       ราสิเกติ สุขกาล

ตัดต่อ       ศิวโรจณ์ คงสกุล, ณัฐฎ์ธร กังวาลไกล

เสียง       ทีฆะเดช วัชรธานินท์

อำนวยการสร้าง    บริษัท ป๊อป พิคเจอร์ จำกัด, บริษัท เรด สแนปเปอร์ จำกัด


สารจากผู้กำกับ (DIRECTOR’S STATEMENT)

เช้าวันนั้ นที่บ้านของผมมีโทรศัพท์ดังขึ้น มันดังอยู่หลายทีแล้วก็เงียบไป ผมตื่นขึ้นแล้วเดินลงบันไดมาที่ชั้นล่างตรงห้องรับแขก ผมมองไปที่โทรศัพท์ หูโทรศัพท์ถูกยกวางอยู่นอกตัวเครื่อง ที่ห้องน้ำชั้นล่างมีแสงไฟเปิดอยู่ ในห้องน้ำมีเสียงคนกำลังแปรงฟันและเสียงน้ำไหลจากก๊อกน้ำดังผสมกัน ผมยืนอยู่หน้าห้องน้ำตะโกนเรียกแม่ แม่ไม่ตอบอะไร หลังจากนั้นแม่เปิดประตูห้องน้ำ ภาพที่ผมเห็นแม่กำลังบ้วนปากและล้างหน้า ที่ตาของแม่ทั้งสองข้างมีแต่น้ำตา แม่เรียกผมเข้าไปกอดบอกกับผมว่า “พ่อตายแล้ว” ตอนนั้นผมจำได้ผมไม่ร้องไห้ ขณะที่ผมกับแม่อยู่ที่ห้องน้ำ น้องสาวของผมยังหลับอยู่ เธอนอนกอดตุ๊กตาตัวโปรดของเธอหลับสนิทอยู่บนห้องนอนของแม่ ผมถามแม่ว่าให้เรียกน้องลงมามั้ย แม่บอกว่าไม่ต้องน้องไม่รู้เรื่องอะไรหรอกน้องยังเด็กอยู่ แม่บอกให้ผมเตรียมหาชุดดำที่ผมไม่ได้เคยเตรียมไว้ก่อนว่าจะต้องใส่มัน ระหว่างนั้นผมเดินออกไปข้างนอกตัวบ้าน ผมจำได้ว่ามันเป็นช่วงเวลาฟ้าสาง หลังจากผมเดินหันหลังให้แม่พ้นตัวบ้านออกมาผมร้องไห้ไม่หยุด...

...หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของพ่อได้ไม่นาน ครอบครัวของเราเดินทางไปที่สุสานจีนที่สระบุรีเพื่อไปเรียกดวงวิญญาณของพ่อมาประทับร่างทรงของแปะกง ผมเดินทางไปกับแม่ น้องสาว ย่า และยาย ตอนนั้นผมพกเครื่องเล่นเทปพกพาแบบที่อัดเสียงได้ไปด้วย พ่อเคยซื้อให้ผมพร้อมกับเทปเพลงวงร็อคยอดนิยมใน   ยุคนั้น ผมเอามันติดตัวไปด้วยความคิดที่ว่าจะอัดเสียงพ่อกลับมาฟังที่บ้าน พิธีกรรมเริ่มขึ้น ผมเริ่มกดปุ่มอัดเสียง มีชายชราใส่ชุดจีนสีขาวนั่ งตัวสั่นพูดภาษาจีนอยู่ตรงหน้า ผมฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่อง รู้แต่เพียงว่าพวกเราทั้งหมดกำลังตกอยู่ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง หลังจากนั้นชายชราในชุดจีนเริ่มตัวสั่นน้อยลงแล้วเปลี่ยนมาพูดภาษาไทย คำพูดทั้งหมดที่เขาใช้พูดกับแม่และผมเป็นคำพูดของพ่อ ต่อมาจากนั้นทุก ๆ  ปีผมมีโอกาสหยิบเอาเทปที่อัดเสียงพ่อมาฟังอยู่บ่อย ๆ เวลาที่ผมคิดถึงพ่อ แต่พอผมโตขึ้นผมเริ่มมีคำถามกับความเชื่อเรื่องเรียกดวงวิญญาณมาประทับร่างทรงว่าเป็นความจริงหรือไม่ แล้วผมก็เริ่มลืมเทปอัดเสียงม้วนนั้นไปแล้วพร้อมกันกับที่ความโศกเศร้าในครอบครัวของเราเริ่มจางหายไป

เหตุการณ์ทั้งหมดได้ผ่านมานานแล้วเป็นเวลา 14 ปี เทปที่ใช้อัดเสียงม้วนนั้นได้หายไปแล้วตอนผมย้ายบ้านจากหลังเก่ามาอยู่หลังใหม่ ผมเริ่มโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ผมมีความรัก ผมมีงานที่ผมรัก ผมมีโอกาสได้ทำหนังและเขียนบท ตอนนี้ผมกำลังจะเริ่มทำหนังยาวเรื่องแรก ในบทหนังยาวเรื่องแรกของผมจึงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความทรงจำของผมและครอบครัว หนังเรื่องนี้จะมีการแบ่งออกเป็นสามส่วนแบบไม่ชัดเจนนักเพราะทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบจะถูกเชื่อมโยงกันด้วยเรื่อง “ความตาย” ในส่วนแรกของหนังเป็นเรื่องความเชื่อของไทยที่ว่าหลังจากคนเราเสียชีวิตไปแล้วได้สามวัน ดวงวิญญาณของเราจะเดินทางกลับไป “เก็บรอยเท้า” ในที่ที่เราคิดถึง ในส่วนที่สองของหนังเป็นเรื่องของแม่ ที่แม่ชอบเล่าให้ผมฟังเวลาที่คิดถึงพ่อ มันเป็นช่วงเวลาที่พ่อกับแม่มีความสุขกับความรัก มันเป็นช่วงเริ่มต้นของความรักของคนทั้งสองก่อนที่จะมีผมเกิด ในส่วนที่สามของหนังเป็นชีวิตประจำวันของคนสามคน ผม แม่ น้องสาว หลังจากที่ไม่มีพ่อ โดยที่เราทั้งสามคนคิดอยู่ตลอดว่าวิญญาณของพ่อยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เราและมองดูเราอยู่ ในหนังเรื่องนี้ทั้งสามส่วนจะถูกซ้อนทับกันบาง ๆ ด้วย “สีดำ” เราจะมองเห็นด้วยความไม่ชัดเจนนัก เพราะสีดำบาง ๆ ที่บังสายตาเราอยู่ตลอดมันเป็นตัวแทนของ “ความตายของคนที่เรารัก” ที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วมันจะยังคงอยู่กับเราตลอดไป
                                                                                                          ศิวโรจณ์ คงสกุล
                                                                                                        18 มกราคม 2552


เทศกาลภาพยนตร์ที่ “ที่รัก” ได้เข้าประกวดและร่วมฉาย

-   2010 Pusan International Film Festival (South Korea)
ประกวดสาย New Currents
-   2010 World Film Festival of Bangkok (Thailand) – Opening Film
-   2011 International Film Festival of Rotterdam (The Netherlands)
รางวัล Tiger Award
-   2011 Deauville Asian Film Festival (France)
รางวัล Grand Prix
-   2011 Hong Kong International Film Festival
-   2011 Singapore Arts Festival
-   2011 Las Palmas Festival  (Spain)
-   2011 Eskisehir Film Festival (Turkey)
-   2011 Seattle International Film Festival (USA) 2011
-   2011 Munich Film Festival (Germany) 2011
-   2011 La Rochelle International Film Festival (France)
-   2011 Los Angeles Film Festival (USA) 2011
-   2011 Yerevan Golden Apricot Film Festival (Armenia)
-   2011 Era New Horizons (Poland)
-   2011 Melbourne International Film Festival (Australia)
-   2011 Durban International Film Festival (South Africa)
-   2011 London International Film Festival (UK)