admin on August 02, 2011, 03:36:33 PM
ผู้พันเบิร์ดสุดประทับใจ “ศึกนันทบุเรง” - ให้ประวัติศาสตร์เป็นบทเรียนที่ดีของเรา




                พ.ท. วันชนะ  สวัสดี “ผู้พันเบิร์ด” เผย ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 4  “ศึกนันทบุเรง” มีแง่มุมน่าสนใจมากมาย เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ที่อยุธยาสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดนอย่างยิ่ง เพราะมีทั้งศึกนอก-ศึกในถาโถม ในขณะที่เรามีไพร่พลไม่ถึง 1 ใน 10 ของกองทัพนันทบุเรงที่ยกมากว่า 2 แสนคน มุ่งตีอยุธยากลับเป็นเมืองขึ้นให้ได้ดังเดิม โดยมีศึกย่อยหลายสมรภูมิ
          “เอกราชที่สมบูรณ์ของเราได้มาจากศึกครั้งนี้แหละครับ อยากให้ทุกท่านได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพทางการรบของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในการเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีการรับศึกและใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างไปจากรูปแบบเดิม ใช้คนน้อยรบกับทัพใหญ่ ใช้การข่าวที่ดีทั้งเชิงรุกและรับ รบยื้อเวลาถึงฤดูน้ำหลากจนทัพกษัตริย์หงสาต้องยกทัพกลับไป เป็นยุทธศาสตร์ที่พระองค์ท่านทรงริเริ่มและปัจจุบันก็ยังใช้กันอยู่
          แล้วยังมีความรุมเร้าของศึกที่เกิดขึ้นรายล้อมอยุธยา นอกเหนือจากทัพพม่าก็ยังมีละแวกที่เป็นหอกข้างแคร่คอยทิ่มแทงอยู่ ส่วนภายในก็มีการแยกตัวเป็นอิสระของพระยาพิชัยและพระยาสวรรคโลกที่สร้างความกดดันและอึดอัดกังวลใจต่อพระมหาธรรมราชาอีกเรื่องหนึ่ง นอกเหนือจากการประกาศอิสรภาพของพระนเรศ
ฉากที่ผมประทับใจภาคนี้ คือฉากพระแสงดาบคาบค่ายกับฉากดวลทวนกับลักไวทำมูครับ....   พระแสงดาบคาบค่ายถ่ายทำ ย า ก ม า ก ครับ  เพราะฉากรบที่ถ่ายตอนกลางคืนมีรายละเอียดต่างๆ มากมายในองค์ประกอบทุกด้านของการถ่ายทำ การเตรียมงาน การจัดไฟ เทคนิค มุมกล้อง ความสอดประสานกันของม้าที่วิ่งเข้ามา ธนูไฟที่ยิงออกมาจากกำแพง การพาดพะองหรือบันได ทหารพระนเรศปีนค่าย ทหารพม่าบนกำแพงค่ายใช้อาวุธทำร้ายตกบันได และอีกสารพัดเรื่อง  ทั้งยังต้องซ้อมกันหนักมากในตอนที่ตกจากกำแพงค่าย โดยท่านมุ้ยต้องการให้ตกลงมาด้วยความเร็วจริง แต่ใช้อุปกรณ์ช่วย ซึ่งก็ต้องคำนวณความเร็ว พร้อมทั้งหาวิธีการที่จะทำให้เหมือนจริง จึงมีการทดลองเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ หลายแบบให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในที่สุดก็ผสมผสานใช้สลิง รอก กระสวย และใบพัดช่วยกันจนลงตัว
          ส่วนฉากดวลทวนกับลักไวทำมู ผมว่าเป็นความมหัศจรรย์ของการคิดครับ คือนึกไม่ถึงว่าจะมีการคิดค่ายกลคล้ายๆ กับที่เคยเห็นในหนังสามก๊ก ซึ่งท่านมุ้ยและ อ. สุเนตรเล่าว่าอยู่ในยุคไล่เลี่ยกันและได้รับการถ่ายทอดเรียนรู้นำมาใช้กันจริงๆ... ตอนถ่ายทำฉากนี้รู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ
ผมได้เรียนรู้ข้อคิดมากมายที่ถูกถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์ในภาคนี้  ทั้งเรื่องความสามัคคีของแต่ละคนที่รวมกันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินได้ แต่ในทางกลับกันหากคนเราทำอะไรเพื่อตัวเอง หรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็อาจส่งผลถึงความล่มสลายของชาติได้อย่างไม่คาดคิด  จิตใจของผู้คนมีเรื่องรักโลภโกรธหลงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตกับปัจจุบันก็ไม่แตกต่างกันในหลายๆ แง่มุม ประวัติศาสตร์จึงเป็นบทเรียนที่ดีของเรา” ผู้พันเบิร์ดกล่าว
          พร้อมกันนี้ยังเล่าถึงความประทับใจในการทำงานกับ ม.จ. ชาตรีเฉลิม  ยุคล – ผู้กำกับ ว่า “ท่านมุ้ยละเอียดกับงานมากครับ แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็พยายามทำให้ทุกอย่างให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุดเท่าที่มีข้อมูลให้เราค้นคว้า และท่านทุ่มเทกับเรื่องนี้อย่างเต็มที่จริงๆครับ”




« Last Edit: August 03, 2011, 04:10:47 PM by happy »

happy on August 03, 2011, 04:13:51 PM









happy on August 03, 2011, 04:17:16 PM