MSN on July 13, 2011, 01:15:13 PM
KTAMเพิ่มทางเลือกการลงทุน ขายตราสารหนี้-พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ
 
              นายสมชัย  บุญนำศิริ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เผิดเผยว่า   บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 12 ( KTSUPB12 )   เสนอขาย 12-19  กรกฎาคม  2554    อายุโครงการ 6  เดือน   มูลค่า  3,000  ล้านบาท   เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นธนาคารพาณิชย์ไทย   ตราสารภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB+  ขึ้นไป   ตั๋วเงินคลัง / พันธบัตรรัฐบาล  ในสัดส่วน 75%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน   ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากประจำ  Union  National Bank  ( UAE )    ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ  3.25%  ต่อปี กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น   และส่วนต่างของผลตอบแทนที่ค่อนข้างจูงใจเมื่อเทียบกับการลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือเงินฝากระยะเดียวกัน    เงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

              นอกจากนี้   บริษัทยังอยู่ในช่วงระหว่างการเปิดจำหน่าย  กองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท  อินเวส  3 เดือน 1 ( KTSIV3M1 )  เสนอขายถึงวันที่ 14  กรกฎาคม 2554    อายุโครงการ 3 เดือน   เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกู้ระยะสั้นธนาคารดอยซ์แบงก์   เงินฝากธนาคารนครหลวงไทย  ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์    และตั๋วแลกเงินของภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป   ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.00%ต่อปี สัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

               ผลพวงจากการเลือกตั้งทั่วไปของไทยที่ผ่านไปด้วยความสงบเรียบร้อยค่อนข้างมีอิทธิพลต่อภาวะตลาดการเงินของไทยอย่างมาก โดยได้สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างประเทศทำให้มีกระแสเงินทุนไหลเข้าทั้งในตลาดตราสารหนี้และตราสารทุน  โดยเฉพาะในตราสารระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี จึงทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรในระยะสั้นแกว่งตัว  แม้ว่าในสัปดาห์นี้ตลาดการเงินส่วนใหญ่จะคาดการณ์ว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องอีก 0.25% จากระดับปัจจุบันที่อยู่ในอัตรา 3.00%  รวมถึงภาวะการแข่งขันระดมเงินของสถาบันการเงินในประเทศในรูปของตั๋วแลกเงินที่เสนออัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างจูงใจ 

ในส่วนของภาวะการลงทุนในต่างประเทศตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีความผันผวนพอสมควรตามการแกว่งตัวของอัตราแลกเปลี่ยน แต่สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินบาทและดอลล่าร์สหรัฐฯ ขยายตัวกว้างขึ้น ทำให้ได้รับดอลล่าร์พรีเมี่ยมเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกต่อการลงทุนในต่างประเทศที่มีการทำสัญญาสวอปอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อปิดความเสี่ยงดังกล่าว

               นายสมชัย  กล่าวต่อไปว่า   บริษัทได้เปิดอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้ลงทุนในที่ต้องการลงทุนระยะยาว และได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี   ซึ่งขณะนี้  บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อ ( KTILB )     ถึงวันที่  18  กรกฎาคม  2554      อายุ  10  ปี    มูลค่าโครงการ  1,000  ล้านบาท   เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000  บาท   เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อ ( ILB )   ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80     ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน     ส่วนที่เหลือจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งเงินฝาก    ตราสารแห่งหนี้    ตราสารการเงินอื่น ตามที่สำนักงานก.ล.ต.กำหนด

          โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน จากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อ ( ILB ) ประมาณ 1.20%  ต่อปี บวกกับอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี    ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ได้จาก ILB   และอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี จะสะสมอยู่ในกองทุน   ซึ่งกองทุนมีนโยบายจ่ายผลตอบแทนคืนให้กับผู้ลงทุนในทุก 6 เดือน   โดยจะจ่ายคืนในส่วนของอัตราดอกเบี้ยของ ILB เท่านั้น หลังหักค่าใช้จ่ายจากกองทุน      ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี หัก  ณ  ที่จ่าย

             จุดเด่นของกองทุนนี้ เป็นสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับการลงทุนระยะยาวที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ     กองทุนนี้จะรักษาเงินต้นและผลตอบแทนของผู้ลงทุนตามที่ได้กำหนดไว้   และคาดว่ากองทุนจะสร้างผลตอบแทนสุทธิได้สูงกว่าผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุนเองโดยตรง  นอกจากนี้ จะเปิดให้ผู้ลงทุนที่ต้องการสภาพคล่อง สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้  หลังจากครบ 2 ปีแรก   ซึ่งบริษัทจะแจ้งวันและเวลาในการขายคืนหน่วยลงทุน     ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบไม่น้อยกว่า 7  วัน