ภาพยนตร์สารคดีขนาดยาว "ลุมพินี" กำกับโดย "ชิระ วิชัยสุทธิกุล"

ภาพยนตร์สารคดีขนาดยาว "ลุมพินี" กำกับโดย "ชิระ วิชัยสุทธิกุล" อำนวยการผลิตโดย "บรรพต วุฑฒิปรีชา"


 
               ภาพยนตร์สารคดีขนาดยาว "ลุมพินี" กำกับโดย "ชิระ วิชัยสุทธิกุล" อำนวยการผลิตโดย "บรรพต วุฑฒิปรีชา" จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ SF-World Cinema ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2554

          "ลุมพินี" เป็นภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับชีวิตของนักมวยเด็กทางภาคใต้ของประเทศไทย ใช้ระยะเวลาการผลิตร่วม 3 ปี โดยได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุน Jan Vrijman Fund ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติอัมสเตอร์ดัม - IDFA (International Documentary Film Festival Amsterdam)

          ปลายปี 2553 ภาพยนตร์สารคดี "ลุมพินี" ได้รับการคัดเลือกให้ร่วมฉาย (รอบปฐมฤกษ์) จากเทศกาลเดียวกันในส่วน Reflecting Images - Panorama

          ต่อมาในเดือนมีนาคม 2554 "ลุมพินี" ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมในหมวด Humanitarian Awards for Documentaries ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติฮ่องกง (The 35th Hong Kong International Film Festival 2011 - HKIFF 2011)

          ในเดือนมิถุนายน 2554 นี้ ผู้ชมชาวไทยจะมีโอกาสได้ชม "ลุมพินี" โดยการฉายแบบจำกัดโรงในโครงการ Indy Spirit คัดเลือกภาพยนตร์โดยนิตยสาร BIOSCOPE และสนับสนุนโดยโรงภาพยนตร์เครือ SF-Cinema โดยทางโรงภาพยนตร์ SF-World Cinema จะจัดฉายภาพยนตร์นอกกระแส 3 เรื่อง เรื่องละ 1 รอบ ทุกวัน โดยแต่ละเรื่องจะผลัดเปลี่ยนรอบฉายในแต่ละวันเพื่อเพิ่มความหลากหลายในการเลือกชมภาพยนตร์ให้กับผู้สนใจ โดยเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน 2554 เป็นเวลา 2 อาทิตย์

          ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์: www.jaikao.com/lumpinee

          ตัวอย่างภาพยนตร์          

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=0QKmFfvf5M4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=0QKmFfvf5M4</a>

“ลุมพินี” ภาพยนตร์โดยชิระ วิชัยสุทธิกุล

          “ลุมพินี” ภาพยนตร์โดยชิระ วิชัยสุทธิกุล

          มวยไทยเหมือนเหรีญสองด้าน คือความรุนแรงในสังคมมืดหรือความงดงามทางศิลปะ

          ชีวิตเด็กกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาสัมผัสมวยไทยด้วยความลุ่มหลง ทะเยอทะยาน และจินตนาการบริสุทธิ ภายในจิตวิญญาณที่เงียบสงัดของพวกเขา

          เรื่องราวยอดมวยไทยได้เริ่มต้นขึ้น ณ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ถิ่นกำเนิด ของพุฒ ล้อเหล็ก ยอดมวยไทย ผู้เป็น ตำนานตลอดกาลของคนไทย สูงศักดิ์อดีตนักมวยเพื่อนร่วมรุ่นกับพุฒ ล้อเหล็ก ภายหลัง จากไม่ ประสบความสำเร็จ .ในอาชีพการชกมวย เขาจึงหา สิ่งทดแทนให้กับ ตนเองโดยตั้งค่ายมวยชื่อ “ศักดิ์นิรันดิ์รัตน์” หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “ช.ณ.พัทลุง” ซึ่งเป็นชื่อสกุลของภรรยาเขา

          ค่ายมวยเล็กๆซึ่งอยู่ท่ามกลางสวนยางพารา ณ บ้านเกิดของเขาสูศักดิ์ตั้งความหวังที่จะสร้างยอดมวยไทย จากบ้านนอก เพื่อวันหนึ่ง นักมวย ของเขาจะได้มีโอกาสไต่อันดับขึ้นชกกับนักมวย

          จากค่ายใหญ่ๆในกรุงเทพฯ และความฝัน อันยิ่งใหญ่คือเข็มขัดแชมป์เปี้ยนมวยไทย ณ เวทีลุมพินี ซึ่งนักมวยบ้านนอกของสูศักดิ์ จะมีใครสักเกี่คนที่จะไปถึงจุดหมายนั้น

          สูงศักดิ์ต้องแบกภาระอย่างหนักกับการต้องเลี้ยงดูเด็กๆที่ทยอยเข้าสู่ค่ายศักดิ์นิรันดิ์รัตน์ เด็กบางคนถูกพ่อแม่นำมาฝากให้เรียนมวย เพราะสุดจะทนกับความเกเรของลูกชาย เด็กบางคนมาเพราะใจรัก บางคนเป็นเด็กเร่ร่อนฐานะยากจน ติดยา ต้องคดีลักเล็กโขมยน้อย ชีวิตไร้จุดหมาย เขามาหาสูศักดิ์เพียงเพื่อ

          หาที่พักพิง หรือบางคนมองมวยไทยเพียงแค่ทางเลือกสุดท้าย

          พวกเขาถูกโชคชะตาพัดพาให้มาใช้ชีวิตร่วมกัน เกิดเป็นสังคมเล็กๆที่มีทั้งมิตรภาพและความขัดแย้ง โดยมีสูศักดิ์เป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจ ที่ค่ายมวยแห่งนี้จึงไม่ต่างอะไรกับโรงเรียนดัดสันดาน หรือสถานบำบัดทางจิต โดยมีความเข้มงวดและความเมตตาที่มีต่อเด็กๆของสูศักดิ์ เขาจึงเป็นเสมือนพ่อบุญธรรมของเด็กๆทุกคน

          การเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักมวยของเด็กๆไม่เป็นเพียงชีวิตที่เกิดใหม่ แต่พวกเขาได้มองเห็นความหวัง การชกมวยได้นำพวกเขาสู่ความฝัน ในความฝันของแต่ละคนแม้จะดูเล็กน้อยและไร้เดียงสาสำหรับใครบางคน แต่สำหรับพวกเขาแล้วมันยิ่งใหญ่เกินพอสำหรับชีวิตเล็กๆที่เริ่มต้นมาจากความว่างเปล่า

กิจกรรม ภาพยนตร์สารคดีขนาดยาว เรื่อง “ลุมพินี” และ "Breakfast Lunch Dinner"

          วันที่ 8 – 20 กรกฎาคม 2554
          โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า และนิตยสารBIOSCOPE ร่วมเปิดตัวภาพยนตร์ สารคดีขนาดยาว เรื่อง “ลุมพินี” ผลงานกำกับของ ชิระ วิชัยสุทธิกุล ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมฉายในเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอแลนด์ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ฮ่องกง 2011 และภาพยนตร์เรื่อง Breakfast Lunch Dinner ผลงานกำกับล่าสุดของอโนชา สุวิชากรพงศ์(ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องเจ้านกกระจอก) ภายใต้โครงการ Indie Spirit โดยมีโปรแกรมฉายเรื่องละ 1 รอบต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 8 – 20 กรกฎาคม 2554 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พิเศษราคาเดียวเพียง 120 บาท ทุกที่นั่ง ทุกรอบ สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามรอบฉายภาพยนตร์ หรือรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมที่ SF Call Center (02) 268 – 8888 และ www.sfcinemacity.com หรือเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่หน้าโรงภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ที่เดียวเท่านั้น!!!

ภาพยนตร์ที่จัดฉายภายใต้โครงการ Indie Spirit 2011
สถานที่จัดฉาย                 โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ( โรงที่ 10 )
                    
                       Fri 8 – Wed 13 July 2011

No.   Title   Rate   Showtime
1   Lumpinee   13+   19.00
2   Breakfast Lunch Dinner   15+   21.10

                       Thu 14 – Wed 20 July 2011

No.   Title   Rate   Showtime
1   Breakfast Lunch Dinner   15+   19.00
2   Lumpinee   13+   21.00