pooklook on July 02, 2011, 01:58:14 PM
คง​เคย​ฟัง​เรื่อง โสก​รา​ตี​ส ปรัชญา​เมธี​กรีก จุด​ไต้​กลางวัน เดิน​กลาง​ถนน ถาม​หา “คน” กัน​มา​บ้าง

และ ​เรื่อง​ของ​ขรัว​โต หรือ​สมเด็จ​พุ​ฒา​จาร​ย์โต วัด​ระฆัง จุด​ตะเกียง​กลางวัน เดิน​ไป​หา สมเด็จเจ้าพระยา​บรม​มหา​สุ​ริ​ยวง​ศ์​ ถึง​บ้าน เมื่อ​ได้​

คำ​ตอบ​บอก​นัย ไม่​มี​การ​ปฏิวัติ​ยึด​อำนาจ ด้วย​ประโยค “แผ่นดิน​ยัง​ไม่​มืด​มิดดอก​พระคุณเจ้า”

ขรัว​โต​ไม่​พูดจา...ท่าน​ก็​เดิน​กลับ​วัด ทิ้ง​เรื่อง​เล่า​กล่าว​ขาน จนถึง​วัน​นี้

วัน ​นี้​ผม​ยัง​วนเวียน​อยู่​กับ​หนังสือ​เล่ม​เก่า อ่าน​เจอ​เรื่อง​เฒ่า​ซุน จุด​โคม​ไฟ​ใน​เวลา​กลางคืน เรื่อง​หนึ่ง​ ใน​หนังสือ สุข​ได้​ก็​วาง​เป็น (กวน จ​ยา เวย เขียน ทิ​ภาพ​ร เยี่ยม​วัฒนา แปล)

โคม​ไฟ​จุด​กลางคืน ฟัง​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา แต่​ไม่​น่า​เชื่อ​ว่า

ได้​แง่​คิด​ทั้ง...แปลก และ​ใหม่

ภิกษุ ​รูป​หนึ่ง จาริก​ปลีก​หา​ที่​วิเวก แสวง​บุญ เพื่อ​หาความ​หลุดพ้น แต่​ก็​เป็น​เวลา​เนิ่นนาน​เหลือเกิน ท่าน​ก็​รู้ตัว​ว่า ยัง​ไป​ไม่​ถึง​ไหน​สัก​ที ค่ำ​วัน​นั้น ท่าน​ก็​ถึง​หมู่​บ้าน​เล็กๆอัน​ห่างไกล ขอ​เข้าไป​พัก​แรม​ใน​บ้าน​หลัง​หนึ่ง

บ้าน​หลัง​นี้​ไม่​เคย​มี​พระ​มา​โปรด เจ้าของ​บ้าน​ดีอกดีใจ กุลีกุจอ​ต้อนรับ

เห็น​ว่า​พระ​หาย​เหนื่อย ตะเกียง​จุด​สว่าง คนใน​บ้าน​ชวน​กัน​มา​นั่ง​ล้อมวง รอ​ฟัง​พระ​เทศน์

ทันใดนั้น​เสียง​เคาะ​ประตู​ก็​ดัง ที่แท้​คนใน​หมู่​บ้าน ได้​ข่าว​มี​พระ​น่า​เลื่อมใส​มา ก็​บอก​ต่อๆอยาก​ฟัง​พระ​เทศน์เหมือน​กัน

พระ ​ภิกษุ​เห็น​ชาว​บ้าน​เลื่อมใส​ก็​ตื้นตันใจ แต่​ยัง​เริ่ม​ต้น​เทศน์​ไม่ได้ เพราะ​ผู้คนยัง​พา​กัน​มา​ไม่​หยุด ใน​บ้าน​คน​เต็ม​แล้ว ลาน​หน้า​บ้าน​คน​ก็​ออ​อยู่​แน่น

เสียง​เซ็ง แซ่​ดัง​ขึ้น​จาก​ลาน​หน้า​บ้าน “หลีก​ทาง​ให้​เฒ่า​ซุน หลีก​ทาง​ให้​ตาบอด​ซุน” พระ​มอง​ไป เห็นผู้​เฒ่า​คน​หนึ่ง ถือ​โคม​ไฟ เดิน​แหวก​หมู่​คน​เข้า​มา

เฒ่า​ซุน​เข้า​มา​ใกล้ พระ​มอง​เห็น​ชัด เขา​เป็น​คน​ตาบอด​แน่ แต่​เหตุ​ไฉน เขา​ต้อง​ถือ​โคม​ไฟมา​ด้วย

พระ​ภิกษุ​ยัง​สงบ​ใจ​เริ่ม​ต้น​เทศน์​ไม่​ไหว ถาม​เฒ่า​ซุน “ ท่าน​ตาบอด​จริงๆหรือ?”

“ขอรับ” เฒ่า​ซุนหัวเราะ “นับ​แต่​เกิด​มา ผม​ก็​มอง​อะไร​ไม่​เห็น​แล้ว”

“ท่าน​ตาบอด แล้ว​ทำไมต้อง​ถือ​โคม​ไฟ...” พระ​ภิกษุ​ถาม​ต่อ

เฒ่า​ซุน​ตอบ “ตอน​ค่ำ นอก​ถนน​ก็​มืด หาก​ผม​เดิน​ถนน ไม่​ถือ​โคม​ไฟ คน​ก็​ไม่​เห็น​ผม”

“ที่แท้ เป็น​เช่น​นี้” ภิกษุ​เพิ่ง​นึก​ได้ แล้ว​รำพึง​ว่า “เพื่อ​ผู้​อื่น ท่าน​จึง​ถือ​โคม​ไฟ”

“พระ คุณเจ้า” เฒ่า​ซุน​สาธยาย “ตอน​เดิน​ถนน​กลางคืน ผม​ถูก​ชน​น้อย​มาก นั่น​เพราะขณะ​ที่​โคม​ไฟ​ช่วย​ส่อง​ทาง​ให้​ผู้​อื่น คน​อื่น​ก็​เห็นผม​ด้วย

โคม​ไฟ​ของ​ผม ถูก​จุด​ขึ้น ทั้ง​เพื่อ​ผู้​อื่น และ​เพื่อ​ตัว​ผม​เอง”

จบ ​คำ​พูด​เฒ่า​ซุน พระ​ภิกษุ​ก็​ทบทวน​ตัว​เอง อุตสาหะ​จาริก​แสวง​บุญ​หา​วิธี​หลุดพ้น แต่​ตลอด​เวลา​ที่​ผ่าน​มา ท่าน​มุ่ง​คิด​แสวง​หา...อย่าง​เดียว ไม่​เคย​คิด​จะ​เป็น​ผู้​ให้

คิด​ได้​ดังนี้ พระ​ภิกษุ​ก็​ตระหนัก​รู้ บรรลุ​ถึง​ความ​หลุดพ้น