เรื่องนี้น่ากลัวสุด ๆ ออกอากาศในรายการ The Shock ครั้งแรก 21 ก.ค.50และนำเทปมาออกอีกครั้งเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 15 ก.ย. 50
น่า กลัวขนาดดีเจป๋องกพลทองพลับพูดว่า เป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่ต้นปีที่มีคนมาเล่าประสบการณ์ให้ฟ้งส่วน ตัวผมก็ยกให้เป็น 1 ใน 10เรื่องที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่ฟังเรื่องเหล่านี้มาประมาณ 10 กว่าปีผมพยายามจะหา clip ที่เป็นเสียงคนเล่ามาให้ฟัง เดิมสามารถฟังได้ใน web แต่เนื่องจากมันเป็นเรื่องที่เล่าเรื่องสุดท้ายของวันนั้นหากฟังย้อนหลังมัน ต้องฟังประมาณ 2 ชม.ครึ่งถึงจะถึงเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ใน webค่อย ๆ updates เรื่องเล่าแต่ละเรื่อง ไว้เขา updatesเรื่องนี้มาเมื่อไหร่จะเอามาให้ฟังกัน รับรองว่าน่ากลัวมากจริง ๆฟังจากคนเล่าจะได้ความรู้สึกกว่าอ่านนะครับ ถ้าใครรอได้ผมให้รอฟังดีกว่าครับ +++ แล้วแต่วิจารณญาณนะครับ +++
คนเล่าเรื่องนี้เค้าชื่อคุณเบิร์ดนะครับ คือวันนึงเนี้ย มีเพื่อนคุณเบิร์ดโทรมา ให้ไปงานศพพ่อของเค้า
ที่วัดแถวๆเทเวศวัดนี้เค้าว่ากันว่าต้องมีเส้นมีสายพอสมควรถึงจะเอาศพมา ตั้ง ได้ คุณเบิร์ดก็ได้ไปร่วมงานศพพร้อมกับเพื่อนๆกลุ่มนึง จนฟังสวดเสร็จแขกก็ทยอยกลับแต่คุณเบิร์ดกับเพื่อนๆยังคงนั่งคุยกับเพื่อนที่ เป็นลูกคนตายซักพักระหว่างนั้นฝนก็ตกลงมาจนกลุ่มคุณเบิร์ดยังกลับบ้านไม่ได้ ระหว่างที่นั่งรอฝนหยุดอยู่นั้น กลุ่มเพื่อนๆคุณเบิร์ด ก็เกิดความคะนอง มีคนนึง ชื่อเอก พูดทำนองเล่นๆว่า งานนี้ไม่ค่อยดีเลยเนอะเลี้ยงแค่เอแคร์ ถ้าเป็นงาน ศพเรานะ เราจะเลี้ยงเอสแอนด์พีเลย
หลังจากนั้นมีเพื่อนอีกคนนึง มองไปเห็นกระดานหน้าศาลา(กระดานที่ไว้ใช้เขียนชื่อคนตาย เวลาสวดใครเป็นเจ้าภาพวันไหนฯลฯ
ซึ่ง คุณเบิร์ดเค้าลองให้ผู้ฟังและพี่ป๋องสังเกตดูว่าแทบทุกวัดกระดานพวกนี้ จะไม่มีใครเค้าทิ้งชอร์คไว้เลยไม่มีแม้แต่เศษที่ตกตามพื้นเวลาเขียนมักจะให้ เจ้าหน้าที่ของวัดเท่านั้นเป็นผู้เขียนและเขียนแล้วก็มักจะเก็บชอร์คไว้ อย่างมิดชิด แต่เพื่อนของคุณเบิร์ดคนนึง วิ่งหายไปซักพัก แล้วไปหามาได้ซึ่งไม่รู้ไปหามาจากไหน แล้วก็เอามาเขียนเล่น เป็นชื่อจริง นามสกุลจริง ของคนชื่อเอก แทนที่คนชื่อเอกจะโกรธ กลับบอกว่า เฮ้ย!!!มึงเขียนนามสกุลกูผิด จริงๆมันต้องแบบนี้ แล้วเอกก็ไปแก้ชื่อให้ถูกด้วยการลบตัวการรันต์ ด้วยความคะนองที่ยังไม่จบ เพื่อนคนนั้นก็เลยเขียนทั้งวันตาย วันเผา เอกก็ให้ความร่วมมือด้วยการเล่นตอบ เอกบอกว่า โหไม่เอาไม่ตายวันนี้หรอก (วันที่เพื่อนเขียน)กูตายวันนี้เดี๋ยววันจันทร์พวกมรึงก็ไม่มางานกู แล้วเอกก็เอาโทรศัพท์มาดูปฎิทินแล้วบอกต่อว่า เอาวันนี้ดีกว่าวันที่ 14 ส.ค. 49 แล้วอีก 7 วันก็เผา วันที่ 20 ส.ค. 49
ตอนนั้นก็ยังไม่มีใครคิดอะไร ต่างคิดกันว่าเป็นเรื่องขำๆ แล้วก็ได้เขียนตามที่เอกบอกจนครบ มีทั้งชื่อ นามสกุล วันตาย วันเผา ครบถ้วน
หลัง จากนั้นผ่านมาได้ซักพัก คนชื่อเอกก็โทรมาหาคุณเบิร์ดเล่าให้ฟังว่า ช่วงนี้เค้าเหนื่อยเหลือเกิน นอนไม่ค่อยหลับเลยแล้วก็ฝันแปลกๆบ่อยมาก เค้าจะฝันทำนองว่าจะมีคนมาพาเค้าไปที่ไหนไม่รู้คล้ายๆกับวัดที่เคยไปงานศพ พ่อเพื่อน เค้าบอกว่าเค้าก็เดินตามคนๆนั้นไป เค้าบอกว่าเค้าได้เจอคนมากมายเค้าเข้าไปพูดด้วยแต่ก็ไม่มีใครคุยกับเค้าซัก คนเอกบอกว่าเอกฝันทำนองนี้หลายครั้ง คุณเบิร์ดก็บอกว่า คงทำงานเหนื่อยวันนี้ให้มานอนที่บ้าน เดี๋ยวจะเปิดแอร์ให้นอน ตอนกลางคืนเอกก็มานอน แล้วตอนเช้าเอกก็ปลุกคุณเบิร์ดตั้งแต่ 6โมงเช้า ทั้งๆที่เอกเป็นคนขี้เซาและตื่นสายมาก(คุณเบิร์ดบอก) เอกเล่าให้ฟังว่า ระหว่างที่นอนหลับ รู้สึกเหมือนฝันว่ามีคนมาลากเค้าออกจากเตียงไป ไปคล้ายๆที่เดิม แล้วก็เหมือนเดิมคือคุยกับใครก็ไม่มีใครคุยด้วย คราวนี้เค้าบอกว่าเค้ารู้สึกไม่ดีเค้าเลยวิ่งหนีคนที่พาเค้าไปจนตื่น ในระหว่างที่เล่าคุณเบิร์ดถามว่าแขนไปโดนอะไรมา (คุณเบิร์ดเหลือบไปเห็นแผลที่แขนเอก)
เอกบอกว่า ก็ล้มตอนที่วิ่งหนีมาเนี้ยแหละและตอนวิ่งมาก็ใส่รองเท้าสีแดงของแฟนคุณเบิร์ ดที่อยู่หน้าห้องไปด้วยวิ่งจนรองเท้าขาด คุณเบิร์ดก็ยังไม่คิดอะไร นึกว่าเอกคงเพลีย อยู่มาวันนึง กลุ่มเพื่อนคุณเบิร์ดก็ได้ไปเที่ยวกัน แถวๆรัชดาซึ่งในกลุ่มนั้นก็มีเอกอยู่ด้วยซึ่งก็ได้ตกลงกันระหว่างเบิร์ดกับ เอก แล้วว่า คืนนี้เอกจะขับรถให้เบิร์ดแล้วก็จะไปนอนที่บ้านเบิร์ดเพราะว่าเอกจะเป็นคน ที่ไม่ค่อยดื่ม ระหว่างทางขากลับคุณเบิร์ดก็สังเกตเห็นว่าเอกเหมือนคนที่เหนื่อยมากๆ ทั้งๆที่เวลาอยู่กับเพื่อนเอกจะเป็นคนที่เฮฮามาก แล้วเอกก็ได้บอกว่าวันนี้เค้าจะไปนอนกับแฟนดีกว่าเพราะเค้ารู้สึกไม่ค่อยดี เบิร์ดก็ไม่ได้ว่าอะไร จนถึงประมาณตี 4ในคืนเดียวกัน ก็มีโทรศัพท์จากแฟนเอกโทรมาหาเบิร์ด มาบอกว่า เอกล้มที่หน้าห้อง ตอนนี้อยู่ที่รพ.พระราม 9 เบิร์ดก็รีบไปในทันทีแต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะเอกเสียแล้ว หมอบอกว่าเอกมีอาการคือปอดแฟบไปข้างหนึ่งคือเป็นโรคอะไรซักอย่าง แต่ที่น่าแปลกคือเอกก็ไม่ดื่มและไม่สูบบุหรี่ แล้วที่สำคัญ วันนั้นมันคือวันที่ 13 ส.ค. 49 ก่อนวันที่เขียนในกระดานเพียง 1 วันแต่ตอนนั้นทุกคนก็ยังไม่คิดอะไร เพราะลืมเรื่องกระดานกันไปหมดแล้วในระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่กับ เรื่องการตายของเอกก็ไม่มีใครนึกถึงเรื่องกระดาน เพราะทุกคนต่างก็ลืมไปหมด เบิร์ดก็กำลังติดต่อกับญาติของเอก เพราะตอนนี้พ่อ แม่เอกอยู่ที่ออสเตรเลียหมด
เบิร์ดนึกขึ้นมาได้ว่าเอกมีป้าอยู่คนนึงอยู่ แถวลาดพร้าว เบิร์ดก็ได้ติดต่อไป ในระหว่างนั้นเบิร์ดก็ได้หาวัดที่จะเอาศพเอกไปตั้งด้วยแต่ที่แปลกก็คือ เบิร์ดหาวัดไม่ได้เลยซักวัดเดียว!!!(เบิร์ดอยู่แถวห้วยขวาง) วัดแถวห้วยขวางก็ไปดูมาหมดบางวัดเบิร์ดก็สนิทกับเจ้าอาวาส แต่ก็ยังไม่ได้ เต็มทุกวัน ในระหว่างที่เบิร์ดกำลังเครียดอยู่ ก็มีโทรศัพท์โทรมาจากป้าเอกบอกว่าหาวัดได้แล้ว โดยเพื่อนของป้าเค้าหาให้ โดยใช้เส้นของเพื่อนป้าเบิร์ดก็ดีใจ ที่หาวัดได้ ก็ถามว่าวัดไหน และที่ป้าบอกมาก็คือ วัดเดียวกันกับพ่อเพื่อนที่ตาย!!!! และที่สำคัญศาลาเดียวกัน!!!!(ศาลาที่ไปเขียนกระดานเล่น) ตอนนี้ทุกคนเริ่มคิดถึงเรื่องกระดานแล้ว เพราะอะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้เพื่อนทุกคนก็มางานศพของเอก ก็ได้มานั่งคุยกันถึงเรื่องของกระดานแล้วก็มีการกำหนดวันเผาของเอก ซึ่งก็เป็น วันที่ 20 ส.ค. 49 (วันที่เอกกำหนดไว้) ตรงกับที่เขียนไว้เป๊ะ!! เบิร์ดกับเพื่อนๆ ก็ได้มีการ นำดวงของเอกไปดูหมอมากหลายที่และแทบทุกที่ก็จะบอกคล้ายๆกัน คือ เอกยังไม่ตาย!!!แต่ช่วงนี้จะต้องอยู่อย่างลำบาก จะทำอะไรก็ไม่ขึ้น ในระหว่างนั้น เบิร์ดเล่าว่า เอกมาเข้าฝันบ่อยมากบางทีก็มาเข้าฝันให้เพื่อนที่ยืมเงินเอาเงินมาคืนเอา กางเกงยีนมาคืน
บางทียามที่บริษัทเอกก็เห็นเอกทำงานจน ถึง 4 ทุ่มทั้งๆที่เอกเป็นคนเช้าชามเย็นชามคือกลับ 5 โมงเป๊ะทุกที และแฟนเบิร์ดก็ถามว่าเบิร์ดเอารองเท้าสีแดงให้ใครใส่ไป ทำไมรองเท้าถึงขาด(ที่เอกเคยเล่าให้ฟังว่าใส่วิ่งหนีในความฝัน) เคยมีพระให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า เอกอาจจะยังไม่ถึงที่ตายแต่มาเขียนให้ตัวเองตาย ก็เลยยังไม่ได้ไปไหนต้องชดใช้กรรมให้หมดก่อน หรือถ้าอยากให้เอกไปดี ก็ต้องใช้กุศลแรงคือการบวช เบิร์ดกับเพื่อนๆ ก็ได้รวมตัวกัน ลาพักร้อนแล้วก็บวชให้เอก จนทุกวันนี้ก็มีบ้างที่เอกมาเข้าฝันแต่ก็น้อยกว่าเมื่อก่อนแล้ว....
ขอขอบคุณประสบการณ์ดี ๆ บล๊อคแก๊งดอทคอม