เอ็ม พิคเจอร์ส//In The Better World แดนดิบ แดนสวรรค์ 24 มีนาคม 2554

In The Better World

จัดจำหน่ายโดย      บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด
ชื่อภาษาไทย   แดนดิบ แดนสวรรค์
เว็ปไซด์      http://www.sonyclassics.com/inabetterworld/      
ภาพยนตร์แนว   ดราม่า
จากประเทศ      เดนมาร์ก
กำหนดฉาย      24 มีนาคม 2554
      
นักแสดง    Mikael Persbrandt (Dag och natt), Trine Dyrholm (Ensoap) และ Ulrich Thomsen (Arven,Festen)

ผู้กำกับ   Susanne Bier (Thing We Lost in the Fire)
   
จุดเด่น   ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำ และล่าสุดกับการเข้าชิงรางวัลเดียวกันจากเวทีออสการ์



เรื่องย่อ    แอนตันมีอาชีพเป็นหมอ แต่ละวันต้องเดินทางจากบ้านในเมืองสงบสุขแห่งหนึ่งในเดนมาร์กไปทำงานที่ค่ายผู้ลี้ภัยชาวแอฟริกัน จึงเปรียบเสมือนใช้ชีวิตอยู่ในโลกสองใบที่แตกต่างกันมหาศาล ซึ่งนั่นเองที่ทำให้เขาและครอบครัวต้องเผชิญกับปมปัญหาขัดแย้งสารพัด อันนำไปสู่การเลือกครั้งสำคัญระหว่างชำระแค้นหรือให้อภัย แอนตัน และ แมรีแอนน์ ผู้เป็นภรรยา มีลูกชายวัยเยาว์ด้วยกันสองคน ทว่าปัจจุบันพวกเขาแยกกันอยู่และพยายามหาช่องทางในการหย่าขาด ในขณะเดียวกัน เอเลียส ลูกชายคนโตวัยสิบขวบก็ถูกกลั่นแกล้งที่โรงเรียนเป็นประจำจนกระทั่งมี คริสเตียน มาคอยปกป้อง คริสเตียนเป็นนักเรียนใหม่ เขากับ เคลาส์ ผู้เป็นพ่อ เพิ่งย้ายมาจากลอนดอน ก่อนหน้านี้ไม่นาน แม่ของเขาทนต่อกรกับมะเร็งไม่ไหวและจากไป ซึ่งคริสเตียนทำใจยากอย่างยิ่งกับความตายครั้งนี้ ความสัมพันธ์ของเอเลียสกับคริสเตียนเหนียวแน่นขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อคริสเตียนชักนำเอเลียสไปสู่การชำระแค้นที่เต็มไปด้วยอันตรายกับผลลัพธ์อันเศร้าสลด มิตรภาพจึงถูกทดสอบ ในขณะที่ชีวิตของพวกเขาก็แขวนอยู่บนเส้นด้าย ท้ายที่สุดจึงเหลือเพียงพ่อแม่ของพวกเขาเท่านั้นที่จะช่วยให้ก้าวผ่านความซับซ้อนทางอารมณ์ของมนุษย์ ผ่านความเจ็บปวด และรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา

ทีมผู้สร้าง

ซูแซนน์ เบียร์ (ผู้กำกับภาพยนตร์)

               ซูแซนน์ เบียร์ คือหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเดนมาร์กที่โดดเด่นที่สุดในปัจจุบัน ผลงานที่เคยเข้าชิงออสการ์ของเบียร์ทั้งสองเรื่อง ได้แก่ “After the Wedding” (2006) และงานสร้างในอเมริกาอย่าง “Things We Lost in the Fire” (2007) ที่นำแสดงโดย ฮัลล์ เบอร์รี และ เบนิชิโอ เดล โตโร นั้น ล้วนแต่เป็นที่นิยมถล่มทลายบ็อกซ์ออฟฟิศในบ้านเกิด ส่วนงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรก “Freud Leaving Home” (1990) ซึ่งร่วมทุนสร้างระหว่างสวีเดนและเดนมาร์ก ก็ได้รับเสียงปรบมือชื่นชมในระดับสากลไม่ต่างจากงานกำกับภาพยนตร์เรื่องต่อมาที่ร่วมทุนสร้างระหว่าง โปรตุเกส สวีเดน และเดนมาร์ก คือ “Family Matters” (1993)
   ภาพยนตร์สวีเดนเรื่องถัดมา “Like It Never was Before” (1995) ได้รับรางวัล Critic's Award จากเทศกาลหนังที่กรุงมอนทรีออล ตามมาด้วย “The One and Only” (1999) ภาพยนตร์เดนมาร์กขวัญใจนักวิจารณ์ ซึ่งดึงดูดผู้ชมเฉพาะในเดนมาร์กอย่างเดียวได้เกือบล้านคน และทำให้กิตติศัพท์ในฐานะคนทำหนังฝีมือฉกาจฉกรรจ์ของเบียร์เป็นที่เลื่องลือ หลังจากนั้น เบียร์ย้อนกลับไปที่สวีเดนและกำกับภาพยนตร์กระชากน้ำตา “Once in a Lifetime” (2000) ต่อด้วยอีกสองเรื่องฮิตถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศ ได้แก่ “Open Hearts” (2002) ภาพยนตร์แนวศิลปะบริสุทธิ์หรือ dogma ที่ได้รับเลือกให้เข้าประกวดในงาน San Sebastian, งาน Sundance และคว้ารางวัล Special Mention มาได้จากงานที่กรุงโตรอนโต และ “Brothers” (2004) ซึ่งคว้ามาได้ทั้งรางวัล Audience Award ในงาน Sundance และรางวัล Best Acting Award ที่งาน San Sebastian

ซิสเซ กรวม ยอร์เกนเซน (ผู้คุมงานสร้างภาพยนตร์)

               ซิสเซ กรวม ยอร์เกนเซน ปัจจุบันคือหนึ่งในผู้คุมงานสร้างภาพยนตร์ชาวเดนมาร์กที่มีผลงานประจักษ์ชัดมากที่สุด รวมถึงร่วมงานกับ ซูแซนน์ เบียร์ มายาวนาน นอกเหนือจาก IN A BETTER WORLD แล้ว เธอยังเคยคุมงานสร้างภาพยนตร์ของผู้กำกับชื่อดังมากหน้าหลายตา อาทิ “Brothers” (2004) และภาพยนตร์เข้าชิงออสการ์อย่าง “After the Wedding” (2006) ทั้งสองเรื่องของ ซูแซนน์ เบียร์,  “Dear Wendy” (2005) ของ โธมัส วินเทอร์เบิร์ก, “Fear Me Not” (2008) ของพี่น้องร่วมอุดมการณ์ศิลปะบริสุทธิ์ คริสเตียน เลฟริง ซึ่งได้รับเลือกให้เข้าประกวดในงานที่กรุงโตรอนโตด้วย และ “Wilbur Wants to Kill Himself” (2002) กับ “Just Like Home” (2007) สองผลงานซึ่งเป็นที่กล่าวขานถึงอย่างมากของ โลเน เชร์ฟิก นอกจากนี้ เธอยังนั่งแท่นผู้อำนวยการสร้างให้กับภาพยนตร์โดย สกอตติช อันเดรีย อานอลด์ เรื่อง “Red Road” (2006) ซึ่งชนะรางวัล Jury’s Special Prize ที่งานเมืองคานส์ปี 2006
   ไม่นานมานี้ ซิสเซ กรวม ยอร์เกนเซน ก็คุมงานสร้างภาพยนตร์กำกับโดย เพอร์นิลล์ ฟิสเชอร์ คริสเตนเซน เรื่อง “A Family” (2010) ซึ่งเข้าประกวดในเทศกาลภาพยนตร์กรุงเบอร์ลิน และคว้างรางวัล FIPRESCI มาได้ รวมทั้งยังชนะรางวัล narrative award ในเทศกาลภาพยนตร์กรุงลอสแองเจลิส ยิ่งไปกว่านั้น องค์กร European Film Promotion ยังเลือก ซิสเซ กรวม ยอร์เกนเซน ให้ได้รับการขนานนามว่า “Producer on the Move” ในปี 2003 ส่วนในปี 2004 ซิสเซก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “10 Producers to Watch” ที่จัดอันดับโดยนิตยสาร Variety ฉบับอุทิศให้แก่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์

นักแสดง

มิกาเอล เพอร์สแบรนท์ – รับบท แอนตัน
   มิกาเอล เพอร์สแบรนท์ คือนักแสดงชาวสวีเดนที่ทรงเสน่ห์ เป็นที่นิยมและน่าชื่นชมยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบัน ในปี 2009 เขาได้รับรางวัล Guldbaggen อันถือว่าทรงเกียรติที่สุดในวงการภาพยนตร์สวีเดน จากการแสดงในเรื่อง “Everlasting Moments” (2008) คุมบังเหียนโดยคนทำหนังเลื่องชื่อชาวสวีเดน แจน โทรลล์ นอกจากนี้ นักแสดงซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดคนหนึ่งอย่างเขายังสวมบทบาทที่น่าตกใจและสร้างความตื่นตะลึงใน “Heaven’s Heart” (2008) กำกับโดยคนทำหนังชาวเดนมาร์ก ซิมอน สตาโฮ, “The Kautokeino Rebellion” (2008) กำกับโดยผู้กำกับชาวนอร์เวย์ นีลส์ กาอุป และผลงานทางจอแก้วในเยอรมัน "Die Patin" (2008) ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงGuldbaggen Award ของสถาบันภาพยนตร์แห่งสวีเดน (Swedish Film Institute) จากการแสดงในเรื่อง  "Deathly Compulsion” (1999), "Everybody Loves Alice" (2002) และ "Bang Bang Orangutang" (2005)

ทริเน ดุยร์โฮล์ม – รับบท แมรีแอนน์
   ทริเน ดุยร์โฮล์ม เดินบนถนนสายอาชีพการแสดงอันน่าประทับใจมายาวนาน ผลงานเรื่องแรกคือการแสดงในดราม่าวัยทีน “Spring Tide” (1990) ซึ่งพาเธอไปคว้ารางวัล Bodil สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมด้วย ตลอดอาชีพการแสดงนั้น เธอรับบทมาแล้วมากมายทั้งในภาพยนตร์ขนาดยาว ภาพยนตร์ขนาดสั้น ละครเวที และซีรี่ส์ทางจอแก้ว โดยเริ่มดึงดูดความสนใจมากยิ่งขึ้นเมื่อฝากฝีมือการแสดงไว้ใน “The Celebration” (1998), “In China They Eat Dogs” (1999) และ “In Your Hands” (2004) กับการแสดงอันโดดเด่นที่นำมาซึ่งรางวัลจาก Danish Film Academy
   นอกจากนี้ การรับบทนำในภาพยนตร์ชนะรางวัล Silver Bear จากเทศกาลหนังที่กรุงเบอร์ลิน  กำกับโดย เพอร์นีลล์ ฟิสเชอร์ คริสเตนเซน ในปี 2006 เรื่อง “A Soap” ยังมอบรางวัลสุดยอดนักแสดงแห่งปีให้เธอ หลังจากนั้น ทริเน ดุยร์โฮล์ม ก็ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกมากมายจากการแสดงใน “Dancers” (2008), “Little Soldier” (2008) และ “Troubled Water” (2008) ส่วนผลงานละครเวทีนั้น เธอแสดงบทบาทหลากหลายในโรงละคร Royal Danish Theatre มากกว่าโรงละครใดๆ

อุลริก ธอมเซน – รับบท เคลาส์
   อุลริก ธอมเซน เคยร่วมงานกับผู้กำกับภาพยนตร์ฝั่งยุโรปที่โด่งดังสุดขีดหลายท่าน และยังเป็นหนึ่งในนักแสดงชาวเดนมาร์กซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในระดับสากล
   เขาเผยฝีมือทางการแสดงในระดับสากลครั้งแรกในภาพยนตร์ชนะรางวัลปาล์มทองคำปี 1998 กำกับโดย ธอมัส วินเทอร์เบิร์ก เรื่อง “The Celebration” ซึ่งทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัล Best European Actor บนเวที European Film Academy Awards เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ธอมเซนยังแสดงในภาพยนตร์อีกสองเรื่องที่ได้เข้าชิงชัยใน Sundance Film Festival ด้วย คือ “Allegro” (2005) และ “Adam’s Apples” (2005) ในขณะที่การแสดงในภาพยนตร์ฝั่งยุโรปหลายต่อหลายเรื่องก็ล้วนแต่ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกเสมอมา อาทิ “The Biggest Heroes” (1996), “The Inheritance” (2003) และ “Brothers” (2004) ซึ่งบทบาทการแสดงในเรื่องหลังสุดนี้ทำให้เขาได้เข้าชิง Best European Actor เป็นครั้งที่สอง และคว้ารางวัล Best Actor อันทรงเกียรติจากเทศกาล San Sebastian มาได้ ส่วนผลงานการแสดงที่ธอมเซนฝากไว้ในภาพยนตร์ระดับสากล ได้แก่ ภาพยนตร์ถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศ “Bond: The World Is Not Enough” (1999), “The Weight of Water” (2000) กำกับโดย แคธริน บิกกาโลว์, “Max” (2002) กำกับโดย เมนโน เมย์เยส, “Killing Me Softley” (2002) กำกับโดย เฉินข่ายเกอ, “Kingdom of Heaven” (2005) กำกับโดย ริดลีย์ สกอตต์ และทริลเลอร์ชื่อดัง “The International” (2009) กำกับโดย ทอม ทีเควียร์