happy on March 04, 2011, 02:29:41 PM

ชื่อภาพยนตร์        RANGO      
ชื่อไทย      แรงโก้ ฮีโร่ทะเลทราย
วันที่เข้าฉาย      10 มีนาคม 2554
จัดจำหน่าย      บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์)
เว็บไซต์      www.rangmovie.com

จอห์นนี่ เด็ปป์ (Johnny Depp)       พากย์เสียง       แรงโก้
            ให้เสียงพากย์ไทยโดย       บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
อิสลา ฟิชเชอร์ (Isla Fisher)      พากย์เสียง       ถั่วน้อย
            ให้เสียงพากย์ไทยโดย       โบวี่ อัฐมา ชีวนิจพันธ์
บิลล์  ไนฮีย์(Bill Nighy)          พากย์เสียง       เจ้ค หางกระดิ่ง

            ให้เสียงพากย์ไทยโดย       ตั๊ก นภัสกร มิตรเอม
อาบิเกล เบรสลิน (Abigail Breslin)                    พากย์เสียง       พริสซิลล่า
อัลเฟรด โมลินา (Alfred Molina)       พากย์เสียง       โร้ดคิลล์
สตีเฟน รู้ท (Stephen Root)       พากย์เสียง       หมอ, เมอร์ริแม็ค
แฮ็ทตี้ ดีน สแตนตัน (Hatty Dean Stanton)      พากย์เสียง       บัลธาซาร์
เรย์ วินสโตน (Ray Winstone)       พากย์เสียง       แบ้ด บิลล์
ทิโมธี โอลีเฟนท์ (Timothy Olyphant)    พากย์เสียง       จิตวิญญาณแห่งตะวันตก
เอียน เอเบอร์ครอมบี้ (Ian Abercrombie)          พากย์เสียง      แอมโบรส
กิล เบอร์มิงแฮม (Gil Birmingham)                    พากย์เสียง       นกบาดเจ็บ
คลอเดีย แบล็ค (Claudia Black)       พากย์เสียง       แองเจลิค
ทีมผู้สร้าง
   กอร์ เวอร์บินสกี้ (Gore Verbinski) –ผู้กำกับ เรื่องราว ผู้อำนวยการสร้าง
   จอห์น โลแกน (John Logan)--มือเขียนบท
   เจมส์ วอร์ด เบอร์กิท (James Ward Byrkit) –เรื่องราว
   แกรห์ม คิง(Graham King) –ผู้อำนวยการสร้าง
   จอห์น บี. คาร์ลส์ (John B. Carls) –ผู้อำนวยการสร้าง


เรื่องย่อ

              ดินแดนตะวันตกของอเมริกาเคยเจอกับวีรบุรุษนอกคอกมาทุกรูปแบบแล้ว แต่แรงโก้เป็นสายพันธุ์ใหม่แหกคอก เพราะเขาเป็นกิ้งก่าตัวจิ๋วหัวใจโต ที่ออกผจญภัยเพื่อช่วยเหลือชาวเมือง ในแบบที่ไม่มีใครเหมือน เพราะเขาต้องเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นวีรบุรุษในตำนาน ที่เขาเคยแต่เสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น
   Rango กำกับโดยกอร์ เวอร์บินสกี้ ผู้กำกับแฟรนไชส์ฟอร์มยักษ์ Pirates of the Caribbean และพากย์เสียงโดยนักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์ จอห์นนี่ เด็ปป์ในบทกิ้งก่าหลากสี ตัวเอกของเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นจากเวสเทิร์นที่เราคุ้นตา ก่อนจะจับมันเขย่า โยกซ้ายขวาอย่างเมามันส์ เพื่อให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นการผจญภัยสำหรับครอบครัวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่เจือไปด้วยอารมณ์ขันและตัวละครอบอุ่นหัวใจ พร้อมๆ กับแอ็กชันสุดระทึก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเชิญชวนผู้ชมให้ร่วมเดินทางบนเส้นทางคลุกฝุ่นไปสู่โลกสร้างสรรค์ที่แปลกต่าง เมืองแห้งแล้งสุดขอบทะเลทรายที่เป็นที่อยู่ของบรรดาสิ่งมีชีวิตต่ำต้อย และถูกคุกคามโดยสัตว์ร้าย ทั้งหมดนี้ถูกเนรมิตให้โลดแล่นมีชีวิตได้ด้วยฝีมือของทีมเล่าเรื่องที่ประสบความสำเร็จและทีมนักพากย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของวงการ
   เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ แรงโก้ หลังจากที่เคยใช้ชีวิตเป็นแค่สัตว์เลี้ยงประจำบ้าน ที่เฝ้ามองโลกเคลื่อนผ่านเขาไปจากข้างในตู้กระจก พบว่าตัวเองหลงทางอยู่ในทะเลทรายโมเฮฟ และได้ซัดเซพเนจรไปจนถึงดินแดนสุดเขตแดนตะวันตก เมืองดิน ที่แร้นแค้นไม่แพ้ชื่อ แรงโก้หวังว่าเขาจะกลมกลืนกับที่นี่ได้ แต่ไม่นานนัก เขากลับเด่นเกินใคร แม้กระทั่งในหมู่ชาวเมือง ที่ประกอบไปด้วยผู้ว่าเต่า วายร้ายงูหางกระดิ่ง ฝูงกระรอกหมาโจรปล้นธนาคาร กิ้งก่ากีลานักแม่นปืนและกิ้งก่าสาวตัวแรกที่แรงโก้ได้ประสบพบเจอ เมื่อแรงโก้จับพลัดจับผลูมาได้เป็นนายอำเภอตัวใหม่ของเมืองที่กันดารแห่งนี้และเป็นความหวังสุดท้ายที่จะหาน้ำอันล้ำค่าให้พบ เขาก็รู้ว่าเขาแกว่งเท้าหาเสี้ยนเข้าให้แล้ว ตำนานกล่าวเอาไว้ว่า คนดีๆ ไม่มีที่อยู่ในนครดิน แต่แรงโก้ก็พร้อมที่จะท้าทายโชคชะตาเมื่อเขาเดินหน้าไปตามหนทางของตัวเองเพื่อกลายเป็นสิ่งที่แม้กระทั่งกิ้งก่ายังปลอมแปลงไม่ได้ นั่นคือวีรบุรุษตัวจริง




« Last Edit: March 04, 2011, 03:56:49 PM by happy »

happy on March 04, 2011, 04:11:54 PM
กลุ่มตัวละครสารพัดสัตว์:
ทีมนักพากย์เปิดใจเรื่องตัวละคร







               สำหรับกอร์ เวอร์บินสกี้ แรงโก้ กิ้งก่าตัวน้อยที่ผันตัวเองจากสัตว์เลี้ยงไปเป็นสัตว์ตื่นกลัว ผู้ปกป้องและวีรบุรุษในที่สุด คือจอห์นนี่ เด็ปป์มาโดยตลอด แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ เด็ปป์เคยร่วมงานกับเวอร์บินสกี้มาแล้วในบทกัปตันมาดเซอร์ แจ็ค สแปร์โรว์ในแฟรนไชส์  Pirates of the Caribbean และการแสดงที่ทะลึ่งตึงตัน น่าขบขันของเขาในบทโจรสลัดหัวขบถคนนี้ก็ก่อให้เกิดตัวละครที่น่าจดจำ แปลกใหม่และสร้างแรงบันดาลใจมากที่สุดตัวหนึ่งในยุคของเรา (และทำให้เด็ปป์ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์ด้วย)
   ตัวแรงโก้เองก็รักอิสระเสรี เขาเป็นนักแสดงที่ชื่นชอบการเสแสร้งและการสวมบทบาทสมมติ ผู้ที่ยังไม่ค่อยแน่ใจซักเท่าไหร่ว่าตัวเขาเองจริงๆ แล้วเป็นใคร และนั่นก็คือจุดสำคัญในการพากย์บทนี้ เด็ปป์จะต้องถ่ายทอดความโอ้อวด ไม่กลัวเกรง ที่ฟังดูแล้วน่าขบขันแต่ก็คู่ควรกับการเป็นตำนาน
   “ผมรู้ว่าจอห์นนี่จะเหมาะกับบทแรงโก้ ไม่เพียงแต่เพราะเขามีคุณสมบัติบางอย่างที่เหมือนกิ้งก่านะครับ แต่เป็นเพราะเขามีส่วนผสมของความพิสดาร ความอบอุ่น ความเห็นอกเห็นใจ และความขบขันในแบบที่จะเกิดช่วงเวลาที่น่าอึดอัดเท่านั้นด้วย” ผู้กำกับกล่าว “แล้วเราทั้งคู่ต่างก็วิ่งหนีขนบดั้งเดิมทุกครั้งที่มีโอกาสครับ”
   มือเขียนบทจอห์น โลแกนกล่าวว่า “เมื่อได้จอห์นนี่มาพากย์เสียงแรงโก้ มันก็เป็นการท้าทายพวกเราให้เขียนตัวละครของเขาให้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ตัวละครตัวนี้มีความคิดอ่านที่ลึกซึ้ง และมีอารมณ์ขันแบบแปลกแหวกแนวที่มีแต่จอห์นนี่เท่านั้นที่จะใส่ลงไปได้”
   โอกาสของการได้สวมผิวหนังที่เปลี่ยนสีได้ของกิ้งก่าขี้อวดตัวนี้แตกต่างจากประสบการณ์อื่นๆ ที่เด็ปป์เคยผ่านมา และนั่นก็คือสิ่งที่เขาชื่นชอบ
   “ผมชื่นชอบและหลงใหลสัตว์เลื้อยคลานมาโดยตลอดครับ” เด็ปป์สารภาพ “แต่ผมคิดว่าแรงโก้ก็เหมือนพวกเราทุกคน เขาเป็นคนที่พยายามจะหาคำตอบว่าตัวเขาเองจะเป็นใคร ในฐานะกิ้งก่าแล้ว เขาสามารถเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้จากถั่วน้อยและชาวนครดินคือการยอมรับตัวเองอย่างที่เป็นอยู่ครับ”
   แรงโก้มีโอกาสครั้งแรกที่จะได้สำรวจศักยภาพของเขาอย่างเต็มที่ในตอนที่เขาคลานเข้าไปในนครดิน ซึ่งเด็ปป์บอกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขาติดใจตั้งแต่นาทีแรกที่ได้เห็น “แบบดีไซน์ของตัวละครและเมืองแห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนว่ามันจะอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน” เขาอธิบาย “มันเป็นโลกในแบบที่ผมคิดว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็อยากจะเข้าไปเยือนซ้ำแล้วซ้ำอีกน่ะครับ”
   เขากล่าวต่อไปอีกว่า “นครดินเป็นเมืองตะวันตกเต็มรูปแบบที่แทบจะเป็นเมืองเพ้อฝันอยู่แล้ว มันเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ของกอร์ และสำหรับแรงโก้ มันเป็นที่ที่ในที่สุดแล้ว เขาก็ได้พบกับผู้ชมของเขาและได้รับบทเป็นวีรบุรุษเสียที”

happy on March 04, 2011, 04:16:14 PM
               เด็ปป์ชื่นชอบการที่วีรกรรมของแรงโก้เกี่ยวข้องกับการนำน้ำกลับมาสู่ดินแดนตะวันตกที่แห้งเหือด มันเป็นประเด็นที่ยังคงปรากฏอยู่ในปัจจุบันเช่นเดียวกับในสมัยตำนานตะวันตก “มันมีอะไรบางอย่างที่ทันสมัยมากๆ เกี่ยวกับเรื่องราวนี้เพราะน้ำก็ยังมีค่าดุจทองคำครับ น้ำคือชีวิต เป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิต และถึงแม้จะมีเทคโนโลยีมากมาย เราก็ไม่อาจมีชีวิตรอดได้ถ้าขาดสิ่งพื้นฐานเหล่านี้ครับ” เขาตั้งข้อสังเกต
   ความวุ่นวายและเรื่องน่าขบขันที่เกิดขึ้นเมื่อแรงโก้พยายามจะแก้ปัญหาการขาดน้ำของเมืองแห่งนี้ทำให้เด็ปป์มีโอกาสได้เล่นกับจุดอ่อนของตัวเอง “สำหรับแรงโก้ มันเป็นเรื่องที่ต้องลุ้นกันจนตัวโก่งครับ เขาแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง...แต่เขาก็ต้องพยายามเอาตัวให้รอด” เขากล่าวกลั้วหัวเราะ การช่วยเหลือเด็ปป์ในการถ่ายทอดความรู้สึกของการยืนอยู่บนขอบเหวแบบนั้นผ่านทางการพากย์เสียงแบบไม่มียั้งของเขาคือทีมนักพากย์ที่ทำให้แต่ละซีนเป็นประสบการณ์ที่สดใหม่ “เรามีทีมงานพรสวรรค์มากมายในหนังเรื่องนี้ครับ” เด็ปป์ให้ความเห็น “ผมรู้สึกดีมากๆ แค่ได้ดูและเรียนรู้จากพวกเขาน่ะครับ”
   บางที สิ่งที่เด็ปป์ชื่นชอบมากที่สุดอาจเป็นความสร้างสรรค์แบบไม่กลัวเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ห้อมล้อมโปรเจ็กต์นี้อยู่ก็เป็นได้ “ไม่เคยมีช่วงเวลาที่น่าเบื่อเลยครับ” เขาบอก “กอร์มีเซนส์ที่เหลือเชื่อเกี่ยวกับเรื่องพิลึกพิลั่น เรื่องขำขันและเรื่องดรามา เขามักจะนำเสนอทางเลือกที่ดูเหมือนจะมาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ และเขาก็ยอมรับการลองทุกเรื่อง การทำงานกับเขาเป็นการร่วมแรงร่วมใจกันจริงๆ เขาไม่เคยกลัวเลยครับ มันมีความรู้สึกตื่นเต้นแผ่ซ่านในบรรยากาศในตอนที่คุณผสมผสานคุณสมบัติเหล่านั้นเข้าด้วยกันครับ”
   ไม่นานนักหลังจากเขามาถึงนครดิน แรงโก้ก็ได้เจอสิ่งที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน นั่นก็คือกิ้งก่าอีกตัว ที่สำคัญเป็นตัวเมียซะด้วย เธอคือถั่วน้อย กิ้งก่ากำพร้า ลูกสาวของเจ้าของที่ดิน ผู้กระตุ้นให้แรงโก้รับภารกิจเสี่ยงตายเพื่อช่วยเหลือนครดินให้พ้นจากวิกฤติการณ์ขาดแคลนน้ำ เด็ปป์กล่าวว่า “ถั่วน้อยเป็นกิ้งก่าที่หนักแน่นในตัวตนของเธอเองมากๆ ส่วนแรงโก้ก็...ไม่ใช่เลย...ซึ่งก็เป็นที่มาของความต้องตาต้องใจซึ่งกันและกันของทั้งคู่ ผมชอบการได้ร่วมงานกับอิสลา ฟิชเชอร์ ที่ทั้งฉลาด เฉียบแหลม ติดดิน และตลกสุดๆ ครับ”
   ฟิชเชอร์ ผู้เป็นที่สนใจเป็นครั้งแรกจากบทบาทที่น่าจดจำของเธอใน  The Wedding Crashers และพัฒนาตัวเองกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงตลกหญิงที่มีความสามารถมากที่สุดในปัจจุบัน ชื่นชอบตัวละครของเธออย่างมาก พอเธอได้เห็นรูปถั่วน้อย เธอก็ตกปากรับคำด้วยสไตล์หญิงแกร่งผู้ติดดินของเธอ
   “ถ้าฉันต้องเป็นกิ้งก่า ฉันก็อยากเป็นเหมือนถั่วน้อยค่ะ” ฟิชเชอร์กล่าวกลั้วหัวเราะ “ตอนที่เธอได้พบกับแรงโก้ เธอตรงดิ่งเข้าหาเขาพร้อมปืนช็อตกันในมือ แต่ไม่นานนัก เธอก็รู้ว่าเขาไม่มีพิษมีภัย และเป็นคนแปลกหน้า ถั่วน้อยเองก็มีความหลังของเธอเองเหมือนกัน คือครั้งหนึ่งพ่อของเธอเคยเป็นเจ้าของที่ทั้งหมด แต่วันหนึ่งเขาก็หายสาบสูญไป และนั่นก็คือสิ่งที่ฉันรักเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ค่ะ มันไม่ได้เป็นหนังแอนนิเมชั่นทั่วๆ ไป ตัวละครทุกตัวมีความหลังที่ลึกซึ้ง อารมณ์ขันในหนังเรื่องนี้ฮาสุดๆ เลยก็จริง แต่มันก็มีธีมที่ลึกซึ้งกว่านั้นหลายอย่างด้วยค่ะ”
   หนึ่งในธีมเหล่านั้นคือการเรียนรู้ที่จะซื่อตรงต่อตัวเอง ซึ่งเกิดขึ้นจากประกายวูบวาบระหว่างแรงโก้และถั่วน้อย “สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็คือถั่วน้อยมองทะลุเแรงโก้ได้” ฟิชเชอร์รำพึง “เธอมองออกว่าเขาไม่ได้กล้าหาญหรือเข้มแข็งอะไร และเขาก็แกล้งเสแสร้งไปอย่างนั้นเอง แต่ถั่วน้อยก็ชอบเขา เขาแตกต่างกับเธออย่างสิ้นเชิง พวกเขาก็เลยได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากกันและกัน ถั่วน้อยเรียนรู้ที่จะเปิดกว้างมากขึ้นและเผยแง่มุมที่เป็นผู้หญิงของเธอออกมามากขึ้น ส่วนแรงโก้ก็ได้เรียนรู้ที่จะซื่อสัตย์และเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เธอช่วยเหลือเขาในการเดินทางค้นหาตัวเองค่ะ”
               อย่างไรก็ดี ถั่วน้อยเองก็มีจุดอ่อนตามสายพันธุ์ของตัวเองเช่นกัน นั่นคือเธอจะตัวแข็งทื่อทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับอันตราย "เมื่อไหร่ก็ตามที่ถั่วน้อยรู้สึกว่าตัวเองอยู่ภายใต้ภาวะกดดัน เธอก็จะขยับเขยื้อนไม่ได้" ฟิชเชอร์บอก "มันเหมือนกับว่าเธอตายไปเลย แต่เธอก็ได้เรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากมันในความรักระหว่างเธอกับแรงโก้ค่ะ!”
   ฟิชเชอร์ชื่นชอบการได้ต่อปากต่อคำแบบเทรซี-เฮพเบิร์นกับเด็ปป์ "สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจในการทำงานร่วมกับจอห์นนี่คือเขาสามารถแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมและมีสมาธิต่อหน้ากล้อง แต่จริงๆ แล้ว เขาเป็นคนสบายๆ และตลกมากๆ" เธอบอก "เขาทำให้คุณรู้สึกสบายใจเพราะเขาเป็นคนที่ช่างพูดและช่างเอาใจค่ะ"
   ตัวละครสำคัญอีกตัวในการเดินทางของแรงโก้คือพริสซิลล่า หนูน้อยช่างระแวง ผู้เคลือบแคลงในตัวแรงโก้ ที่เพิ่งมาใหม่ แต่เธอก็เปลี่ยนใจมาศรัทธาในตัวเขา อาบิเกล เบรสลิน สาวน้อยวัยสิบสี่ ผู้โด่งดังจากดรามาติกคอเมดีฮิตเรื่อง  Little Miss Sunshine และกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งที่มาแรงที่สุดในยุคนนี้ เปิดตัวในโลกแอนนิเมชั่นด้วยผลงานเรื่องนี้
   เบรสลินสนใจอารมณ์ขันประชดประชันของพริสซิลล่าในทันที ซึ่งกอร์ เวอร์บินสกี้ก็พูดถึงตัวละครตัวนี้ว่า "น่ารักแบบเจ้าเล่ห์แสนกล" เบรสลินบอกว่า "การพากย์เสียงพริสซิลล่าสนุกมากเพราะเธอน่ารักสุดๆ แต่เธอก็มักจะพูดสิ่งที่คาดไม่ถึงเสมอ เธอชอบพูดทุกเรื่องที่เธออยากจะพูดน่ะค่ะ"
   ในตอนที่เธอได้เห็นภาพตัวละครของเธอเป็นครั้งแรก เบรสลินก็ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นไปอีก "ตอนที่ฉันได้เห็นเธอ ฉันก็ได้แต่พูดว่า 'ตายแล้ว เธอเจ๋งจังเลย!' เธอไว้เปียยาวสองข้าง และสวมหมวกใบใหญ่ตลอดเวลา ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอสนุกมากๆ เลย"
   บางทีส่วนที่สนุกที่สุดสำหรับเบรสลินอาจเป็นโอกาสของการได้ปล่อยของออกมาบนเวทีแปลกประหลาดที่เวอร์บินสกี้รวมบรรดานักพากย์ไว้ด้วยกันก็ได้ "การนำทุกคนมาอยู่รวมกันในชุดที่แตกต่างกัน ใช้สำเนียงที่แตกต่างกัน และวิธีการพูดตลกๆ ที่แตกต่างกันเป็นเรื่องวิเศษสุดค่ะ" เธอบอก "และแน่นอนว่าการได้ร่วมงานกับจอห์นนี่ เด็ปป์ก็เจ๋งจริงๆ ค่ะ"
   ถ้ามีสิ่งมีชีวิตที่น่าขนลุกขนพองในนครดิน ผู้สร้างเงาแห่งความหวาดกลัวในหัวใจของสิ่งมีชีวิตตัวอื่นๆ ล่ะก็เขาก็คือเจ้ค หางกระดิ่ง วายร้ายมากพิษสง ผู้เลื้อยเข้ามาในเมืองด้วยจุดมุ่งหมายของตัวเอง ทีมผู้สร้างเลือกนักแสดงอังกฤษมากความสามารถ บิลล์  ไนฮีย์ให้มาพากย์เสียงงูหางกระดิ่งชั่วร้าย ที่มีคมเขี้ยวด้านหน้าและมีปืนตรงหาง ไนฮีย์ ผู้เพิ่งร่วมงานกับเวอร์บินสกี้และเด็ปป์ในบทตัวละครอมตะที่ใช้ CG เข้าช่วย กัปตันเดวี่ โจนส์ในแฟรนไชส์  Pirates of the Caribbean สนใจวิสัยทัศน์กล้าบ้าบิ่นของเวอร์บินสกี้ที่มีต่อโลกแอนนิเมชั่นใบนี้
   ประสบการณ์แอนนิเมชั่นก่อนหน้านี้ของไนฮีย์คือภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์เรื่อง Finding Nemo แต่เขาก็บอกว่า Rango แตกต่างออกไป "มันแปลกใหม่มากๆ และก็น่าพึงพอใจมากด้วยครับ" เขาให้ความเห็น "พอรู้จักทีมงานที่เกี่ยวข้อง ผมก็ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาสร้างสิ่งที่แตกต่างออกไปขึ้นมา แต่ผมก็ชอบจริงๆ ที่มันให้ความรู้สึกที่สมจริงด้วยเหมือนกัน"
   ไนฮีย์ถึงขนาดที่รู้สึกเห็นอกเห็นใจตัวละครอาชญากรของเขา ผู้ไม่ได้เลวร้ายเท่าที่คุณคิดด้วยซ้ำไป "เจ้ค หางกระดิ่ง ดูเหมือนจะเป็นวายร้ายขนานแท้ ที่เป็นคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มีเกียรติในแบบงูๆ ของเขาเหมือนกัน" เขาตั้งข้อสังเกต
   และแม้ว่าตัวละครของเขาจะจ้องเล่นงานแรงโก้ ไนฮีย์ก็แฮปปี้มากที่ได้ร่วมงานกับจอห์นนี่ เด็ปป์อีกครั้งหนึ่ง "ผมชื่นชอบการได้ร่วมงานกับจอห์นนี่เสมอครับ" เขาบอก "เขาเป็นสุภาพบุรุษ และเป็นนักแสดงที่ฉลาดอย่างเหลือเชื่อและมีไหวพริบแพรวพราวครับ"
                เน็ด บีตตี้ นักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์และลูกโลกทองคำ ผู้เพิ่งผ่านงานพากย์เสียงใน Toy Story 3 มา ให้เสียงพากย์บท ผู้ว่านครดิน เต่าทะเลทรายชรา ผู้ที่รักษาฐานอำนาจไว้ได้ยาวนานเพราะน้ำ "เขาอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่มานานกว่าใครในนครดินก็ได้ครับ" บีตตี้อธิบาย "อย่างที่เขาบอกว่า 'ฉันเป็นผู้ว่ามานานก่อนที่จะมีนครดินเสียอีก' และเขาก็เป็นผู้ครอบครองอำนาจเพราะเขาซ่อนความลับยิ่งใหญ่เอาไว้ครับ"
   เช่นเดียวกับเมืองแห่งนี้ อาชีพนักการเมืองของท่านผู้ว่าก็วนเวียนอยู่รอบๆ แนวโน้มของวิกฤติขาดแคลนน้ำ "น้ำเป็นความหวังของชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในนครดินครับ" บีตตี้ยอมรับ "และท่านผู้ว่าก็ควบคุมมันไว้"
   ในความจริงแล้ว ตัวละครตัวนี้ถูกเขียนขึ้นให้สะท้อนตัวละครที่น่าจดจำของจอห์น ฮูสตันใน China Town นั่นคือโนอาห์ ครอส บารอนเจ้าเสน่ห์ผู้ควบคุมน้ำ แม้แต่ในตอนที่เขาควบคุมระบบคอรัปชัน ที่สร้างความร่ำรวยให้บางคนและความหายนะให้อีกหลายๆ คนก็ตามที "มันมีความคล้ายคลึงบางอย่างระหว่างตัวละครตัวนี้กับตัวละครที่วิเศษสุดของจอห์น ฮูสตันครับ" บีตตี้บอก "ผมคิดว่ามันช่วยใส่เอาองค์ประกอบที่น่าสนใจมากๆ ให้กับ Rango เพราะน้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อทุกชีวิต"
   นอกเหนือจากธีมของเรื่องแล้ว บีตตี้ยังตกหลุมรักลุคยืดยาวของตัวละครของเขาด้วย "ท่านผู้ว่ามีคอยาวเฟื้อยที่สามารถยืดออกและมองเห็นในทุกทิศทางครับ ผมอยากจะทำแบบนั้นได้บ้างจัง!” เขายอมรับ
   ผู้ที่ช่วยเสริมสร้างสีสันให้กับทีมนักพากย์คือนักแสดงอังกฤษเจ้าของรางวัล อัลเฟรด โมลินา ผู้มีบทบาทหลากหลายตั้งแต่  Raiders of the Lost Ark tไปจนถึง An Education และบทบาทใหม่ของเขาในซีรีส์  Law & Order: Los Angeles และพากย์เสียงโร้ดคิลล์ ตัวนิ่มผู้เฉลียวฉลาดอย่างน่าประหลาดใจ, นักแสดงสมทบงานชุม แฮร์ ดีน สแตนตัน ผู้เปิดตัวในแวดวงแอนนิเมชั่นในบทบัลธาซาร์ หัวหน้าฝูงกระรอกหมา ที่เป็นโจรปล้นธนาคาร, เรย์ วินสโตน "ผู้ร้าย" ชาวอังกฤษที่ได้รับการยกย่อง  (The Departed, Indiana Jones and The Kingdom of the Crystal Skull) ในบทแบ้ด บิลล์  มือปืนที่ชะตาพลิกผันของนครดินและทิโมธี โอลีเฟนท์ ผู้ก่อนหน้านี้สร้างชื่อจากเวสเทิร์นแปลกใหม่ในบทนายอำเภอเซธ บุลล็อคในซีรีส์เอชบีโอเรื่อง Deadwood และมาพากย์เสียงจิตวิญญาณแห่งตะวันตกผู้ลึกลับ ผู้ซึ่งการพบกันครั้งนั้นได้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของแรงโก้โดยสิ้นเชิง
   สตีเฟน รู้ท ผู้พากย์เสียงในซีรีส์แอนนิเมชั่นฮิตเรื่อง King of the Hill ได้พากย์เสียงหลายบท ซึ่งรวมถึงหมอกระต่ายขี้เมา และเมอร์ริแม็ค นายธนาคารที่ไม่มีเงินฝาก รู้ทกล่าวว่าเขาตกหลุมพรางทันทีที่ได้เห็นภาพอาร์ตเวิร์คของนครดิน "มันเป็นเมืองเล็กๆ ที่แปลกมากๆ" เขาบอก "และผมก็ชอบพิธีกรรมเกี่ยวกับน้ำของพวกเขาด้วย"
   เมอร์ริแม็ค ผู้ฝากน้ำราวกับว่ามันเป็นเงินสด พบว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับหายนะเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเหือดแห้ง "เมอร์ริแม็คเป็นสิ่งมีชีวิตขี้วิตก ขี้ขลาด และเขาก็กินยาแก้ปวดแบบไม่มีน้ำกลั้วคอด้วย" รู้ทตั้งข้อสังเกต "แต่เขาก็หวังว่าแรงโก้จะช่วยพวกเขาได้"
   หมอ กระต่ายขนฟูประจำเมือง ตัวละครอีกตัวของรู้ท ได้ร่วมกับเหล่าซามูไรผู้กล้า เป็นกองทัพที่จะไล่ล่าหัวขโมยที่ขโมยน้ำไปจากนครดินอย่างไร้ยางอาย "เสียงของหมอรวมเอาขี้เมาทุกคนจากยุค 30s และ 40s ที่คุณเคยเห็นในหนังเข้าไว้ด้วยกัน ในเวอร์ชันตะวันตก ซึ่งเป็นเรื่องสนุกมากครับ" รู้ทกล่าว "ความสนุกอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือมันเต็มไปด้วยอารมณ์ขันในแบบที่ผู้คนทุกวัยชื่นชอบครับ"





happy on March 04, 2011, 04:20:08 PM
ความจริงของ Rango:
ไอแอลเอ็มเนรมิตชีวิตให้โลกที่เหมือนจริงของเหล่าตัวละครที่เหลือเชื่อ







               เมื่อถึงเวลาของการเลือกสตูดิโอแอนนิเมชั่นที่จะเปลี่ยนภาพอาร์ตเวิร์คของทีมงานและการแสดงของนักพากย์ให้กลายเป็นภาพที่จะทำให้ผู้ชมดื่มด่ำไปกับความจริงที่น่าอัศจรรย์ใจของ Rango...กอร์ เวอร์บินสกี้ก็หันไปหาสตูดิโอที่ไม่มีใครคาดถึงอีกเช่นเคย
   เขาอยากให้ผู้ชมของเขาเข้าถึงการเดินทางของแรงโก้ได้ด้วยภาพ ที่จะรู้สึกถึงเข็มทุกอันบนต้นตะบองเพชร ทุกคลื่นลมร้อนในตรอกซอยซอย ทุกขอบมุมของทุกตึก และที่สำคัญที่สุด ทุกเสียงหัวใจเต้นภายในตัวละครที่ไม่เหมือนใครตัวนี้ ดังนั้น แทนที่จะเลือกตัวเลือกที่ชัดเจนอยู่แล้ว เวอร์บินสกี้กลับเดินเข้าหาสตูดิโอที่เชี่ยวชาญด้านดิจิตอลที่สุดที่เขารู้จัก นั่นก็คืออินดัสเทรียล ไลท์ แอนด์ เมจิค
   แน่นอนว่า ไอแอลเอ็มคุ้นเคยกับการสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลของพวกเขาอยู่แล้ว ไอแอลเอ็ม ที่ก่อตั้งโดยจอร์จ ลูคัส เพื่อสร้างสเปเชียล เอฟเฟ็กต์ให้กับแฟรนไชส์ Star Wars ที่น่าทึ่งของเขา ไอแอลเอ็มก็ได้สร้างภาพที่น่าทึ่งที่สุดเท่าที่คอหนังเคยเห็นมาในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น  Terminator, Jurassic Park, The Mask, Iron Man, Transformers และ Avatar ตัวเวอร์บินสกี้เองก็เคยร่วมงานกับไอแอลเอ็มอย่างใกล้ชิดเพื่อเนรมิตชีวิตให้กับบรรดาตัวละคร CG ของ  Pirates of the Caribbean: Dead Man’s Chest และ At World’s End มาแล้ว
   แต่ไอแอลเอ็มก็ไม่เคยทำงานกับภาพยนตร์แอนนิเมชั่นเต็มรูปแบบมาก่อนเลย ซึ่งเวอร์บินสกี้ก็คิดว่าเป็นข้อได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด "ด้วยความที่ผมไม่เคยสร้างหนังแอนนิเมชั่นมาก่อนและไอแอลเอ็มก็ไม่เคยสร้างหนังแอนนิเมชั่นมาก่อน เราก็เลยรู้ว่าอย่างน้อยที่สุด มันก็จะแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ" เวอร์บินสกี้บอก "ผมไม่อยากให้ แรงโก้ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเสียงที่ไม่สมบูรณ์ของจอห์นนี่ เด็ปป์ แต่ผมอยากให้มันให้ความรู้สึกเหมือนว่าแรงโก้เป็นจอห์นนี่ เด็ปป์และไอแอลเอ็มก็สามารถสร้างความสมจริงแบบนั้นออกมาได้ครับ"
   ที่ไอแอลเอ็ม ก่อนอื่น พวกเขาจะต้องสลัดความตกใจจากข้อเสนอที่ได้รับมาให้ได้เสียก่อน "ผมเป็นแฟนหนังแอนนิเมชั่นครับ แต่ผมก็ยอมรับว่าเราก็หวาดระแวงนิดๆ" จอห์น นอลล์ ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์ ผู้เคยร่วมงานกับเวอร์บินสกี้ใน Pirates กล่าว "แล้วพอเราได้เห็นแบบดีไซน์ของตัวละครที่น่าทึ่งและสิ่งแวดล้อมพวกนั้น...จบเลยครับ เรามองเห็นศักยภาพของมันว่าน่าจะเป็นเรื่องราวที่พิเศษสุดจริงๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากจะทำครับ"
   โปรเจ็กต์นี้กลายเป็นสิ่งที่นอลล์พูดถึงว่าเป็น "ตัวทำลายกระบวนทัศน์" สำหรับไอแอลเอ็ม ที่เปลี่ยนแปลงวิธีการและตารางการทำงานของบริษัท พร้อมๆ กับการผลักดันนักวาดภาพของพวกเขาให้ทดลองทำในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยมีโอกาสได้ลองมาก่อน "เราชื่นชอบโปรเจ็กต์ที่บีบให้เราคิดวิธีใหม่ๆ ในการทำสิ่งต่างๆ ครับ" นอลล์อธิบาย "ระดับของปฏิสัมพันธ์และเอฟเฟ็กต์ที่จำเป็นต่อการสร้างงานดีไซน์ของ Rango เป็นแรงบันดาลใจให้เราตั้งคำถามว่า เราจะคิดต่างยังไงเพื่อทำงานนี้ให้มีประสิทธิภาพที่สุดและสร้างสรรค์ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ"
   ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์ ทิม อเล็กซานเดอร์ ผู้ควบคุมดิจิตอลเฟรมทั้งหมดของเรื่อง กล่าวเสริมว่า "เราสามารถใช้ความชำนาญของเราในด้านวิชวล เอฟเฟ็กต์กับแอนนิเมชั่นได้โดยตรง กอร์อยากจะสร้างสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ที่ผู้ชมจะสามารถสัมผัสได้ถึงความร้อนระอุ ได้ลิ้มรสของฝุ่นทราย รู้สึกถึงความแห้งแล้งกันดารของโลกใบนี้  และทำให้ดูเหมือนกับว่าเราได้ไปอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ในทะเลทรายเพื่อถ่ายทำหนังเรื่องนี้จริงๆ สเกลของหนังเรื่องนี้ใหญ่เกินกว่าหนังทุกเรื่องที่เราเคยทำกันมา ดังนั้นมันก็หมายถึงว่าเราต้องพิจารณาลำดับการทำงานของเราอย่างจริงๆ จังๆ และหาวิธีใหม่ๆ ที่จะดำเนินขั้นตอนตามปกติของเราน่ะครับ"
   ความเชื่อใจว่าไอแอลเอ็มจะสามารถทำในสิ่งที่ท้าทายนี้ได้มีอยู่ตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว มือเขียนบทจอห์น โลแกนกล่าวว่า "ทางเดียวที่เราสามารถสร้างตัวละครที่ซับซ้อนขนาดนี้ขึ้นมาได้เพราะเราชื่อว่าไอแอลเอ็มจะสามารถสร้างภาพแอนนิเมชั่นตัวละครพวกนี้ได้ เราคุยกันถึงจิตวิญญาณของตัวละคร และที่ไอแอลเอ็ม พวกเขาก็เข้าใจเรื่องนั้นดี ขั้นแรก นักพากย์จะต้องสร้างสิ่งที่ซื่อตรงและสมจริงขึ้นมา ก่อนที่อนิเมเตอร์จะต้องสร้างสิ่งที่ซื่อตรงและสมจริงพอๆ กันออกมา ซึ่งใช้มากกว่าเทคโนโลยีครับ"
   กระบวนการของไอแอลเอ็มเริ่มต้นขึ้นด้วยอาร์ตเวิร์คของนักออกแบบวิชวล "แครช" แม็คครีรี่ ผู้วาดงานอาร์ตเวิร์คด้วยความรู้สึก "สมจริงแบบภาพถ่าย" ที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของไอแอลเอ็ม "กอร์อยากจะเข้าหาทุกอย่างจากมุมมองที่ต่างออกไป ซึ่งก็คือมุมมองที่ผมคุ้นเคยดีคัรบ" แม็คครีรี่เล่า "พอกอร์พูดเรื่องเวสเทิร์นให้ผมฟัง ผมก็นึกถึงเซอร์จิโอ ลีโอนและความรู้สึกดิบเถื่อนแบบนั้น ซึ่งคุณไม่ค่อยจะได้เห็นในแอนนิเมชั่นซักเท่าไหร่ แต่เราทั้งคู่ชื่นชอบมันมากครับ"
   เมื่อถึงเวลาของตัวละครเอกของเรื่อง ที่ปรากฏอยู่ในดิจิตอลช็อตกว่า 1,000 ช็อต แม็คครีรี่ก็ใช้แหล่งข้อมูลทุกอย่างเท่าที่มีเพื่อขัดเกลาลุคของกิ้งก่าตัวนี้ "เราดูทุกอย่างตั้งแต่เท็กซ์เจอร์หลากหลายชนิด กิ้งก่าสายพันธุ์ต่างๆ ไปจนถึงดอน น็อทส์ครับ" แม็คครีรี่อธิบาย "เราอยากให้แรงโก้ดูน่าสนใจ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องเป็นผืนผ้าใบว่างเปล่าสำหรับการถ่ายทอดอารมณ์ของจอห์นนี่ด้วยครับ"
   วิสัยทัศน์ที่แม็คครีรี่มีต่อนครดินช่วยสร้างมุมมองใหม่สำหรับเมืองเวสเทิร์นที่เสื่อมโทรมและถูกสร้างขึ้นโดยนักบุกเบิกด้วยวัสดุอุปกรณ์ทุกชนิดที่พวกเขาจะหาได้ "เมื่อมองจากระยะไกลๆ นครดินก็ดูเหมือนเมืองในดินแดนตะวันตกที่มีอยู่ดาษดื่น แต่พอคุณเข้าไปใกล้ขึ้น คุณก็จะได้เห็นว่ามันสร้างขึ้นจากไม้อมยิ้ม กระป๋องน้ำมัน ยางเก่าๆ ทำนองนั้น และเมืองนี้ก็กลายเป็นตัวละครอีกตัวหนึ่งในหนังเรื่องนี้ครับ" เขากล่าว
   พอไอแอลเอ็มเริ่มต้นทำงานด้านศิลป์ หนึ่งในความท้าทายชิ้นใหญ่ที่สุดก็คือจำนวนของตัวละครแอนนิเมชั่นในเรื่อง "ปกติแล้ว หนังแอนนิเมชั่นจะมีตัวละครหลักไม่กี่ตัว แต่ในเรื่องนี้ เรามีตัวละครที่ซับซ้อนมากๆ อย่างน้อย 60 ตัวที่เราจะได้เห็นภาพโคลสอัพ" ทิม อเล็กซานเดอร์ตั้งข้อสังเกต "โชคดีที่อนิเมเตอร์ของเราตกหลุมรักพวกเขาทุกตัวเพราะพวกเขาต่างก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูงครับ"
   ฮัล ฮิคเคล ผู้เริ่มทำงานในภาพยนตร์พิกซาร์เรื่อง Toy Story ก่อนที่จะได้ทำงานกับไอแอลเอ็มเพื่อทำตามความฝันที่จะได้สร้างสิ่งมีชีวิตสไตล์เรย์ แฮร์รีเฮาเซน รับหน้าที่ผู้กำกับแอนนิเมชั่น "ผมตื่นเต้นมากครับ" เขาบอก "มันมีหนังเวสเทิร์นแอนนิเมชั่นมาแล้วหลายเรื่อง แต่กับ Rango มันมีความแปลกประหลาดในแบบที่ให้ความรู้สึกใหม่เอี่ยมอ่อง แต่ถึงแม้ว่าตัวละครพวกนี้จะพิลึกแค่ไหน ไอเดียของพวกเขาคือการสร้างพวกเขาให้สมจริงที่สุดเพื่อที่คุณจะสามารถจินตนาการได้ว่า จะเป็นยังไงหากคุณสัมผัสตัวพวกเขา หรือแม้กระทั่งรู้สึกได้ว่า ลมหายใจของพวกเขาจะมีกลิ่นยังไงถ้าพวกเขานั่งอยู่ตรงหน้าคุณน่ะครับ!”
   ฮิคเคลและทีมอนิเมเตอร์ที่ท้ายที่สุดแล้วก็มีจำนวนเกือบ 55 ชีวิตได้รับแรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณและอากัปกิริยาที่พวกเขาได้เห็นในฟุตเตจ HD ของบรรดานักพากย์ ในการสะท้อนการแสดงเหล่านั้น พวกเขาพุ่งเป้าไปที่เฉดที่ไม่ค่อยจะพบเห็นในแอนนิเมชั่น ซึ่งก็คือความเบาบางที่น่าขำขัน "การแสดงของพวกนักพากย์ไม่ได้ออกมาการ์ตูนหรือกว้างๆ แต่มันเป็นอารมณ์ขันมีสไตล์เกี่ยวกับช่วงเวลาที่น่าอึดอัดครับ" ฮิคเคลให้ความเห็น "ตัวละครพวกนี้มีความนิ่งอยู่เยอะ ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับอนิเมเตอร์เพราะตามคำนิยามแล้ว เราต้องทำให้พวกเขาขยับ! แต่เราก็เรียนรู้ว่าการทำให้ทุกอย่างเรียบง่ายและพื้นฐานที่สุดจะทำให้ช่วงเวลาตลกขบขันเงียบๆ นั้นออกมาเองครับ"
   เวอร์บินสกี้มักจะผลักดันให้อนิเมเตอร์เพิ่มสีสันให้กับตัวละครมากยิ่งขึ้นอยู่เสมอ "กอร์มีคำที่เขาชอบใช้บ่อยๆ คำว่าซ่าส์น่ะครับ" ฮิคเคลตั้งข้อส้งเกต "เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาอยากให้สิ่งต่างๆ สนุกขึ้นหรือแปลกขึ้น เขาก็จะบอกว่า 'ขอความซ่าส์เพิ่มขึ้นอีกซัก 10% นะ' อารมณ์แบบนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเขาครับ"
   สำหรับฮิคเคล ความรู้สึกที่น่าตื่นตาตื่นใจแต่ก็อบอุ่นหัวใจคือสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ มากกว่าจะเป็นเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี "ความแปลกใหม่ในหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเรื่องทางเทคโนโลยีครับ" เขากล่าวสรุป "มันเป็นเรื่องของการนำเสนอโปรเจ็กต์นี้ในรูปแบบที่แตกต่างจากที่อนิเมเตอร์คนอื่นๆ จะทำ เราใช้เวลาคุยกันเรื่องเทคนิคน้อยกว่าที่เราคุยกันเรื่องที่ว่าอะไรจะทำให้ซีนนั้นๆ ตลกขึ้นหรือน่าประทับใจยิ่งขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่น่าทึ่งที่สุดครับ"
   เวอร์บินสกี้ไม่เพียงแต่ต้องการให้ตัวละครมีภาพที่บ่งบอกถึงเท็กซ์เจอร์ของพวกเขาและมีอารมณ์ความนึกคิดแบบมนุษย์เท่านั้น แต่เขายังต้องการจะถ่ายทำ Rango ราวกับว่าเขาให้ช่างภาพไปถ่ายทำกลางแจ้งจริงๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนอารมณ์ของเรื่องไปตามการใช้แสงและเลนส์
   ขณะที่อนิเมเตอร์ทดลองกับลุคสมจริงแบบภาพถ่ายที่แปลกใหม่ สไตล์นั้นก็งอกเงยเติบโตด้วยตัวของมันเอง ทิม อเล็กซานเดอร์อธิบายว่า "เราใช้ความจริงเป็นฐานของทุกอย่างที่เราทำคัรบ เราถึงขั้นที่ออกเดินทางไปทะเลทรายเพื่อดูว่าเราจะใช้งานแสงหรือรูรับแสงแบบไหนได้ถ้าเราถ่ายทำที่นั่นกันจริงๆ งานกล้องทุกชนิดถูกมองเป็นเหมือนการใช้งานในหนังไลฟ์แอ็กชัน ยกตัวอย่างเช่น ในร้านเหล้า ทุกรายละเอียดจะถูกพิจารณาในเรื่องของมิติ และแต่ละช็อตก็จะมีการให้เสียงและถ่ายภาพออกมาอย่างมีเอกลักษณ์ ผลที่ได้ก็คือสิ่งแวดล้อมง่อนแง่นที่น่าขบขัน ซึ่งเหมือนกับหลุดออกมาจาก  Once Upon a Time in The West น่ะครับ"
   โรเจอร์ ดีคินส์ ผู้กำกับภาพ ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว 9 ครั้ง และโด่งดังจากความสามารถในการใช้แสง เข้าร่วมโปรเจ็กต์นี้ในฐานะที่ปรึกษาด้านกำกับภาพ ด้วยการนำเสนอไอเดียด้านวิชวลที่แปลกใหม่ให้กับทีมงานไอแอลเอ็ม "เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่โรเจอร์มีคิวว่างให้เรา" อเล็กซานเดอร์บอก "พอเราโชว์ซีนหนึ่งให้เขาดู เขาก็จะบอกว่า 'ผมจะถ่ายทำแบบนี้นะถ้ามันเป็นไลฟ์แอ็กชัน' แล้วมันก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อเรา เขามีข้อเสนอแนะดีๆ หลายอย่างและทำให้เราได้เห็นหนังเรื่องนี้ผ่านสายตาของเขาครับ"
   สิ่งที่น่าขันก็คือการให้ความสำคัญกับองค์ประกอบความจริงของเวอร์บินสกี้และไอแอลเอ็มช่วยสร้างโลกที่เป็นเหมือนความฝัน ที่ซึ่งเป็นฉากให้กับการผจญภัยค้นหาตัวเองของแรงโก้ อเล็กซานเดอร์กล่าวสรุปว่า "ความหวังของเราก็คือการสร้างประสบการณ์ที่กระตุ้นเร้าสัมผัสต่างๆ ที่คุณจะรู้สึกได้ถึงสัมผัสผิวหนังของตัวละครพวกนี้ ที่คุณจะรู้สึกถึงลมที่พัดมาปะทะหน้าคุณในทะเลทราย และที่คุณจะรู้สึกได้ถึงความรักที่เป็นส่วนประกอบในการเดินทางของแรงโก้ครับ"