Gmail on January 05, 2011, 03:38:17 PM
สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคาร ที่ 4 มกราคม
 
          ทิศทางราคาทองคำ
          ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1381 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.16 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.19 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19700 บาท กับ 19800 บาท GFG11 เปิดที่ 20260 บาท และ GFJ11 เปิดที่ 20320 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 20270 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20330 บาท SPDR ถือครอง 1280.72 ตัน (เท่าเดิม) ราคาน้ำมันปิดบวก 17 เซนต์ ปิดที่ระดับ 91.55 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 93.24 จุด มาปิดที่ระดับ 11670.75 จุด
          ราคาทองคำในช่วงสิ้นปีมีการปรับตัวสูงขึ้นในวันสุดท้ายของปีคือวันที่ 30 ธันวาคม 2553 ที่ตลาดเมืองไทยยังเปิดอยู่ ราคาบ้านเราปิดตลาดทองคำแท่งที่ระดับ 20050 บาท และ 20150 บาท โดยที่ราคาทองคำในตลาดโลกปิดตลาดนิวยอร์กในคืนวันพฤหัสบดี ที่ระดับ 1406 เหรียญ และราคาทองคำมาปรับตัวสูงขึ้นในคืนวันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2553 ปิดตลาดที่ระดับประมาณ 1419 เหรียญ ในระหว่างวันค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1421 เหรียญ เมื่อวานนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1417 เหรียญ โดยที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมาก หลุดจากระดับ 30.14 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 30.06 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้ร่วงต่อมาอยู่ที่ระดับ 30.03 บาท/ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองคำมีแรงเทขายจาก SPDR ในคืนวันพฤหัสบดี อีก 3.34 ตัน คงถือครองทองคำที่ระดับ 1280.72 ตัน ค่าเงินยูโรดีดตัวสูงขึ้นจากระดับ 1.3282 ดอลลาร์/ยูโร มาอยู่ที่ 1.3350 ดอลลาร์/ยูโร มีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลาสรุปได้ว่า ราคาทองคำในช่วงปีใหม่ ขึ้นมายืนอยู่เหนือระดับ 20000 บาท/บาททองคำได้ โดยที่ยังมีแรงเทขายปานกลางเท่านั้น ภาพรวมๆยังเป็นลักษณะของทิศทางขาขึ้น
 
วิเคราะห์ทางเทคนิค
          ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถยินอยู่เหนือ ระดับ 1400 เหรียญได้ ทิศทางเป็นขาขึ้น รวมทั้งOscillator เป็นสัญญาณบวกทุกตัว โดยที่แนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ 1430 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิม เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 และค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ มีแนวรับอยู่ที่ระดับ 30.00 บาท/ดอลลาร์ ทองคำมีแนวรับ 1400 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทยปิดตลาดที่ระดับ 20050 บาท และ 20150 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1412 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 20000 บาท และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 20200 บาท
          Gold Futures G11 จะมีแนวรับที่ระดับ 20220 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20370 บาท
 
คำแนะนำ
          สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์การแกว่งตัวของตลาดซึ่งคาดว่าจะมีแรงเทขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง
          นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) เป็นการขายทำกำไรต่อเนื่อง ถือ Port ประมาณ 30%
          นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ขายทำกำไรต่อเนื่องเช่นเดียวกัน หลังจากที่ได้ซื้อสะสมมาเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ถือ Port ประมาณ 30%

Gmail on January 05, 2011, 03:41:12 PM
ภาวะตลาดทองคำวันนี้ วันที่ 4 มกราคม 2554
 
          ข้อมูลทองคำวันนี้
          - ราคาสมาคม เปิดที่ 20,050 - 20,150
          - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,415
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.02 – 30.05
          - GFG11 Hi- Low 20,270 – 20,230 ปิดที่ 20,250
 
Gold Insight

          สัญญาทองคำตลาด COMEX
          ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,422.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,414.50 - 1,424.40 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวัน อันเป็นผลมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐซึ่งทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในช่วงเช้า

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          พุ่งขึ้น 93.24 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 11,670.75 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 14.25 จุด หรือ 1.13% ปิดที่ 1,271.89 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 38.65 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 2,691.52 จุด ซึ่งเป็นวันทำการวันแรกของปี 2554 เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวติดต่อกัน 17 เดือน และตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 91.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และการคาดการณ์ที่ว่าสภาพอากาศในสหรัฐจะหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการพลังงานให้เพิ่มขึ้นด้วย

          กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 4 มกราคม ขายออก 3.94 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,284.06 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,280.72 ตัน
          USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวรวดเร็วขึ้นในปี 2554 หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตและตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้ปัจจัยบวกจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.09% แตะระดับ 1.3365 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3377 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3336 ดอลลาร์ต่อยูโร

          USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.63% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.660 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 81.150 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 81.91 เยนต่อดอลลาร์

          USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.06-30.09 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.02-30.05 บาทต่อดอลลาร์
 
          ข่าวเศรษฐกิจโลก
          - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% แตะระดับ 8.102 แสนล้านดอลลาร์ ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และสูงกว่าเดือนต.ค.ที่ขยายตัวแตะระดับ 8.067 แสนล้านดอลลาร์
          - สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.ขยายตัวที่ระดับ 57 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 56.6 จุด และทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว
          - กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ได้ปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 เป็นขยายตัว 2.6% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 2.5% ต่อปี หลังจากภาคเอกชนปรับเพิ่มสต็อกสินค้า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีสหรัฐจะขยายตัวรวดเร็วขึ้นในไตรมาส 4 และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวต่อเนื่องไปจนถึงปี 2554 หลังจากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีของผู้มีรายได้ทุกระดับชั้นออกไปอีก 2 ปี พร้อมกับขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการแก่ประชาชนที่ว่างงานหลายล้านคนออกไปอีก 13 เดือน โดยมาตรการลดหย่อนภาษีมีมูลค่ารวม 8.58 แสนล้านดอลลาร์
          - เอสโทเนียได้ประกาศใช้สกุลเงินยูโรอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เอสโทเนียกลายเป็นประเทศที่ 17 ที่เข้าเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซน หรือกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร และจะต้องดำเนินการปฏิรูปอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานของยุโรป ซึ่งรวมถึงการปฏิรูประบบประกันสังคมและระบบภาษี การลดอัตราเงินเฟ้อ และลดอัตราว่างงาน
          - นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าความต้องการพลังงานในปี 2554 จะสูงขึ้นนับตั้งแต่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2554 เป็น 88.8 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 260,000 บาร์เรลจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2554
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
 
  อาทิตย์ที่

4  มกราคม 2554
 ข้อมูลที่น่าจับตา
 ตัวเลขเดิม
 ตัวเลข คาดการณ์
 ตัวเลขจริง
 
วันอังคาร
 · Factory Orders

· Total Vehicle Sales

· FOMC Meeting Minutes

· Treasury Currency Report

Gmail on January 05, 2011, 05:47:14 PM
ภาวะตลาดทองคำวันนี้ วันที่ 5 มกราคม 2554 
 
          ข้อมูลทองคำวันนี้
          ราคาสมาคม เปิดที่ 19,650 - 19,750
          ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,381
          อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.10 – 30.13
          GFG11 Hi- Low 20,250 – 20,190 ปิดที่ 20,200
         
          Gold Insight
           สัญญาทองคำตลาด COMEX
          ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 44.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,378.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,375 - 1,417.80 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิตที่ลดลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2553 เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          ดีดขึ้น 20.43 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 11,691.18 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.67 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 1,270.20 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 10.27 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 2,681.25 จุด หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า คณะกรรมการเฟดจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเต็มวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันจันทร์ ซึ่งส่งผลให้ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ปิดลบเมื่อคืนนี้
          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.17 ดอลลาร์ หรือ 2.37% ปิดที่ 89.38 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 88.36 - 92.07 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือนเมื่อวันจันทร์ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันให้กับสัญญาน้ำมันดิบ แม้ทางการสหรัฐเปิดเผยรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม
          กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 4 มกราคม ขายออก 4.25 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,280.72 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,276.47 ตัน
          USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์หลังจากสหรัฐเปิดเผยรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด รวมทั้งรายงานการประชุมของธนาคารสหรัฐ (เฟด) ที่ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐค่าเงินยูโรร่วงลง 0.40% แตะที่ 1.3297 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3351 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ1.3267 ดอลลาร์ต่อยูโร
          USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.35% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.000 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 81.710 เยนโดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 82.14 เยนต่อดอลลาร์
          USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.03-30.07 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.10-30.13 บาทต่อดอลลาร์
          ข่าวเศรษฐกิจโลก
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐประจำเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% แตะระดับ 4.238 แสนล้านดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าที่มีอายุการใช้งานต่ำกว่า 3 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง
          สำนักงานแรงงานกลางเยอรมนีรายงาน จำนวนคนว่างงานที่ปรับตามฤดูกาล (seasonally adjusted) เพิ่มขึ้น 3,000 คนจากเดือนพฤศจิกายน มาอยู่ที่ 3.15 ล้านคนในเดือนธันวาคม 2553 สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลง ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 7.5% ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในรอบกว่า 40 ปีได้ทำให้หลายบริษัทลดจำนวนพนักงาน
          สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโรปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ และเหนือกว่าระดับเป้าหมาย 2% ที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กำหนดไว้เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี ซึ่งเป็นผลมาจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทะยานขึ้น
 
          ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
  อาทิตย์ที่

4  - 5 มกราคม 2554
 ข้อมูลที่น่าจับตา
 ตัวเลขเดิม
 ตัวเลข คาดการณ์
 ตัวเลขจริง
 
วันอังคาร
 · Factory Orders

· Total Vehicle Sales

· FOMC Meeting Minutes

· Treasury Currency Report
 -0.9%

12.3M

-

-
 -0.1%

12.3M

-

-
 0.7%

12.6M

-

-
 
วันพุธ
 · ADP Non-Farm Employment Change

· ISM Non-Manufacturing PMI

· Crude Oil Inventories
 93K

55.0

-1.3M
 101K

55.6

-1.4M