happy on January 05, 2011, 04:16:20 PM
ฉันยังคอยดูนายอยู่นะ:
ตัวละครขวัญใจกลับมารวมตัวอีกครั้ง
หกปีต่อมา เราพบว่า เกร็กกลายเป็นหัวหน้าบุรุษพยาบาลประจำโรงพยาบาล และแพมเป็นคุณแม่ที่เลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน พวกเขาต้องเผชิญความท้าทายใหญ่หลวงของชีวิตเมื่อพวกเขาเลี้ยงดูลูกๆ ในที่สุด พวกเขาก็เริ่มลงตัวกับชีวิตประจำวันที่มีลูกๆ และต้องออกซื้อข้าวของเข้าบ้านหลังแรก...ขณะที่ต้องรับมือกับทั้งพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายที่ตั้งใจดี แต่ก็ทำเอาป่วนเสียจนแทบคลั่ง
แจ็ค ซึ่งเป็นซีไอเอปลดเกษียณ กำลังหงุดหงิดขณะที่เขาต้องเผชิญหน้ากับอารมณ์ฉุนเฉียวเมื่อต้องเกษียณตัวเองมาอยู่บ้าน รวมไปถึงปัญหาเกี่ยวกับความชราภาพ ขณะที่ ไดน่า ภรรยาของเขายังคงเบิกบานกับคำแนะนำของรอซ ฟ็อคเกอร์ สำหรับแจ็ค มรดกของครอบครัวยังคงเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตเมื่อเขาตั้งใจจะส่งผ่านตำแหน่งพ่อบ้านใหญ่ของเขาให้กับคนรุ่นต่อไป Meet the Fockers พูดถึงเรื่องนี้พร้อมใส่อารมณ์ฮาเข้าไปขณะที่แจ็คกำลังประเมินยีนทางฝ่ายฟ็อคเกอร์ เมื่อเขาได้พบกับรอซและเบอร์นี่ ฟ็อคเกอร์ ที่เป็นพวกอิสรเสรี และรับบทแสดงได้อย่างสุดฮาโดยสตรัยแซนด์และฮอฟฟ์แมน
เมื่อ ดร.บ็อบ ลูกเขยอีกคนของแจ็ค (ซึ่งได้ ทอม แม็คคาร์ธี่ มาแสดงเอาไว้ใน Meet the Parents และเขากลับมารับบทนี้ในภาคนี้อีกรอบ) พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่เหมาะกับหน้าที่ผู้นำ บ็อบต้องสูญเสียตำแหน่งรัชทายาทในบัลลังก์เบิร์นส์ไป บัดนี้ แจ็คมอบหมายตำแหน่งให้เกร็กเป็นเจ้าบ้านคนใหม่ ซึ่งค่อยๆ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับแจ็คทีละน้อย นี่ยังไม่พูดถึงความวิตกกังวลอื่นๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้น
ตัวละครของสติลเลอร์รู้สึกเซ็งกับการต้องเผชิญกับเหตุร้ายสุดฮาครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งใน Meet the Parents และ Meet the Fockers แต่ใน Little Fockers ทางทีมผู้สร้างตัดสินใจกลับตาลปัตรด้วยการสร้างความอับอายให้กับ แจ็ค เบิร์นส์ แทน
สำหรับเจ้าของรางวัลออสการ์ เดอ นีโร โอกาสที่จะรับบทในภาพยนตร์ที่เขาต้องแสดงท่าทางเรียกเสียงฮามากขึ้น ถือเป็นก้าวที่ช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้กับตัวเขา ไม่ว่าจะโดนฝังทั้งเป็นในทราย หรือต้องแสดงปฏิกิริยาที่มีต่อยาที่ช่วยในการแข็งตัว เดอ นีโรเล่นเพื่อเรียกเสียงฮาโดยเฉพาะ และเขาก็สนุกทีเดียวกับการได้มาจับคู่กับคู่หูสุดฮาคนเดิม “เบนมีวิธีโต้ตอบกลับในแบบของเขาเอง และยังปล่อยคำพูดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาด้วย มันอาจเป็นแค่บทพูด แต่เขากลับพูดออกมาในแบบเหมือนเขากำลังให้ความเห็น” เดอ นีโร บอก “เขาบิดโน่นนิดนี่หน่อยซึ่งทำให้มันยิ่งตลกมากขึ้น เราเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กัน และเราก็สนุกด้วยกันมากกับการทำงานร่วมกัน”
ผู้หญิงที่รับบทเป็นภรรยาบนจอของเขามานานกว่าสิบปี ยอมรับว่า เดอ นีโร ดีใจที่ได้กลับมารับบทนี้ “บ็อบสนุกมากทีเดียว” แดนเนอร์บอก “เขามีรอยยิ้มแบบแมวที่กระจายไปทั่วใบหน้าเขา และเขาก็หัวเราะเสียงดังมาก ตลกมากเลยแหละ”
ผู้กำกับไวทซ์รู้สึกพอใจกับความเต็มใจของเดอ นีโรที่ยอมทำทุกอย่างตามที่ได้รับคำขอร้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม ไวทซ์เล่าว่า “ในฉากหนึ่ง แจ็คต้องกระโดดลงไปในหลุมที่มีแต่ลูกบอลในงานเลี้ยงของพวกเด็กๆ ก่อนที่เขาจะมีเรื่องทะเลาะกับเกร็ก เขาเล่นฉากนี้ด้วยตัวเอง เขากระโดดขึ้นไปในอากาศ และเอาหน้าทิ่มลงไปในกองลูกบอลพลาสติค มันเป็นสิ่งที่ปกติแล้วคุณคงจะให้ทีมสตั๊นต์ทำ แต่บ็อบหุ่นฟิตมาก และเขาก็ทำงานนี้เอง จนเป็นความสนุกที่ได้มาเห็นท่าแบบที่เขาเคยทำในภาพยนตร์เรื่อง Raging Bull”
จังหวะในการปล่อยมุขตลกที่ลงตัวระหว่างเดอ นีโร และสติลเลอร์ คือผลจากความชอบพอที่พวกเขามีต่อกัน และเป็นเสมือนพระคัมภีร์ที่ทำให้ภาพยนตร์แฟรนไชส์เรื่องนี้มีอายุยืนยาวต่อมา อันที่จริง ระหว่างการถ่ายทำหลายต่อหลายฉาก มีอยู่บ่อยครั้งที่พวกเขาปล่อยก๊ากออกมาใส่กันระหว่างเทก “ในที่สุดผมก็สบายใจที่จะเรียกเขาว่าบ็อบหลังจากเวลาผ่านไปสิบปี” สติลเลอร์หัวเราะ “สำหรับผม Little Fockers ก็คือโอกาสที่ทำให้ผมสามารถกลับไปร่วมงานกับ โรเบิร์ต เดอ นีโร ได้อีกครั้ง”
ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างแจ็คกับเกร็กแสดงออกมาจนให้ผลลัพธ์สุดฮา ความเป็นคู่ปรับระหว่างเกร็กกับอดีตชายที่เคยมาจีบแพม อย่าง เควิน รอว์ลี่ย์ เศรษฐีหนุ่มผู้อ่อนไหว ยังคงมีอยู่ ความรู้สึกของเควินที่ยังคงมีให้กับคนรักเก่าของเขา และความชิงดีชิงเล่นของเขากับเกร็กยังคงเรียกเสียงหัวเราะได้เสมอ “ความตลกในตัวเควินก็คือ ยังมีอะไรให้แสดงอีกมากทีเดียว” โอเว่น วิลสัน บอก “นับแต่ครั้งแรกที่ผมแสดงเป็นเขา เขาออกจะเป็นผู้ชายที่จริงจังแต่ชอบอวดเบ่ง เป็นคนที่ไม่ค่อยรู้สึกตัวสักเท่าไหร่ด้วย”
สำหรับนักแสดงแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องยากทีเดียวที่พวกเขาจะมีโอกาสได้กลับไปแสดงเป็นตัวละครตัวเดิมหลายครั้งในรอบทศวรรษ แต่ถึงแม้จะมีช่วงเวลาห่างกันนานหลายปีอยู่ แต่ทีมนักแสดงสามารถเดินกลับไปสวมบทบาทเดิมของพวกเขาด้วยความมั่นใจ “ทุกคนต่างชอบตัวละครที่พวกเขาแสดงอยู่ ดังนั้นระดับความสบายอกสบายใจจึงเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ” วิลสันบอก “ซึ่งมันส่งผลดีต่อการทำให้การแสดงออกมาตลก”
นับแต่ที่มีการประกอบพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการระหว่างแพมกับเกร็กในภาพยนตร์เรื่อง Meet the Fockers หัวใจที่เควินเคยปักหลักเอาไว้กับคนรักเก่าของเขาก็ดูจะลดน้อยถอยลงไป ถึงแม้จะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ที่น่าประหลาดใจก็คือเขากับเกร็กกลายเป็นเพื่อนกัน และยังคงมีการพูดคุยติดต่อกันอยู่เสมอ อย่างไรก็ดี ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่เช่นกัน และยิ่งทำให้เกร็กรู้สึกโกรธ เพราะแจ็คยังคงชื่นชมเควินอย่างไม่รู้จบ ไวทซ์กล่าวว่า “เควินเปรียบเสมือนคนที่เดินบนน้ำได้ เขาคือด้านที่กลับกันของเกร็ก ซึ่งเป็นคนที่คงจะทำอะไรโดยไม่ยิงโดนเท้าตัวเองไม่ได้ เควินเป็นคนที่คุณอยากบีบคอให้ตาย แต่คุณก็ทำไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนดีมาก”
“ผมชอบความสัมพันธ์ระหว่างเควินกับเกร็กมาตั้งแต่ Meet the Parents แล้วนะ” สติลเลอร์บอก “ไอเดียที่ว่าด้วยเรื่องของแฟนเก่าผู้สมบูรณ์แบบที่เคยมีประวัติความเป็นมาร่วมกับแฟนสาวของคุณ คือสิ่งที่น่าเกรงขามเมื่อต้องรับมือ โดยเฉพาะถ้าเขาเป็นชายที่หลงใหลเธออย่างมาก สนุกดีนะที่ได้กลับมาปรากฏตัวอีกรอบใน Little Fockers นั่นคือเหตุผลอย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เควินกลับมาอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้อีกรอบ เกือบจะ 8 ปีต่อมา และถึงจะเป็นแบบนั้นแล้ว เขาก็ยังคงหลงใหลเธออยู่”
ไม่นานหลังจาก Meet the Parents สติลเลอร์กับวิลสันได้ร่วมจอพร้อมกันในภาพยนตร์คัลท์คลาสสิกปี 2001เรื่อง Zoolander (ซึ่งสติลเลอร์เขียนบทและกำกับเองด้วย) และพวกเขายังคงสนิทสนมกันต่อมาจนลงเอยด้วยการร่วมงานกันในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง “การทำงานกับโอเว่นเป็นความสนุกเสมอมาสำหรับผม” สติลเลอร์เล่า “เขาเป็นคนตลกมาก และเป็นมือเขียนบทที่เก่งมากด้วย ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหน เขาเข้าถึงความเป็นตัวละครตัวนั้น และยังค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องลึกได้ดี จนเมื่อเขากำลังเข้าฉากถ่ายทำอยู่นั้น เขาสามารถที่จะลองและแสดงเป็นเควินในเวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้อยู่เสมอ”
บรรดาผู้หญิงในภาพยนตร์ตลกเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงในครอบครัวเบิร์นส์ ต่างเดินไปบนเส้นทางของตัวเองตลอดช่วงหลายปีมานี้ แพม ฟ็อคเกอร์ ตัวละครของ เทอรี่ โปโล สลัดคราบลูกสาวตัวน้อยของพ่อ มาทำหน้าที่ภรรยาและแม่อย่างเต็มตัว ขณะที่ ไดน่า ที่แสนสง่าและสุภาพ ซึ่งรับบทโดยนักแสดงหญิง ไบลธ์ แดนเนอร์ เลิกทำท่าเสงี่ยม และกลายเป็นคู่ซี้ของ รอซ ฟ็อคเกอร์ จอมจ้อ
สำหรับ แพม การปรองดองระหว่างพ่อและสามีของเธอถือเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ซึ่งทำให้เธอสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองจาก “แพมเค้ก” ของแจ็ค ไปเป็นภรรยาของเกร็ก และแม่ของเด็กๆ ได้เต็มที่ แต่สิ่งเหล่านี้ก็มาพร้อมความท้าทายใหม่ๆ “มักจะมีหลายอย่างที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับความสงบเสมอ” โปโลกล่าว “มันเกิดขึ้นได้กับทุกคนกับชีวิตประจำวันในความสัมพันธ์ของพวกเรากับพ่อแม่สามี ตัวสามี และลูกๆ วินาทีหนึ่งคุณอยากจะบีบคอพวกเขา และอีกวินาทีหนึ่ง คุณก็รักพวกเขาสุดหัวใจ แต่คุณก็ยังบากบั่นอุตสาหะและเดินหน้าต่อไป”
สำหรับหัวหน้าครอบครัวเบิร์นส์ คุณสมบัติหนึ่งที่อยู่ยงคงนานในชีวิตแต่งงานของเขา ก็คือความรักที่คงทนถาวรที่เขามีให้กับไดน่า ขณะที่เธอเองก็ยอมรับข้อบกพร่องมากมายของเขา อย่างไรก็ดี สีหน้าหรือความเห็นที่เฉียบคมจากไดน่าสามารถบุกทะลวงกำแพงความหวาดระแวงของแจ็คได้
แดนเนอร์อธิบายว่ามันคือสิ่งที่สร้างความพอใจให้กับเธอที่ได้มารับบทไดน่าและดูว่าเธอกับแจ็คยังคงดำรงชีวิตด้วยกันต่อไปอยู่ “ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ Fockers ภาคที่ 3 นี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทุกภาคคือการทำงานที่สนุก ฉันเคยพูดติดตลกกับ บ็อบ เดอ นีโร ว่าฉันหวังว่าพวกเขาจะยังคงสร้างภาพยนตร์ต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าในภาคต่อไป เราจะต้องเดินโดยใช้ไม้เท้า และลงเอยด้วยการต้องใช้ที่ช่วยเดินและนั่งรถเข็นหลังจากภาคต่อจากนั้นก็เถอะ”
การได้พบปะกับฟ็อคเกอร์ในภาคที่สองของภาพยนตร์แฟรนไชส์เรื่องนี้ ทำให้คนดูได้เห็นการได้รับการเลี้ยงดูที่ผิดแผกแปลกกว่าชาวบ้านของเกร็ก และทำให้เราได้รู้จักกับพ่อแม่สุดประหลาดของเขา รอซกับเบอร์นี่ บาร์บรา สตรัยแซนด์ เจ้าของสองรางวัลออสการ์ กลับมารับบทเป็นคุณแม่ของเกร็ก ที่ทำงานเป็นนักบำบัดเรื่องเซ็กซ์ให้กับเหล่าผู้สูงวัย และหลังจากมีรายการทีวีและหนังสือขายดีของตัวเอง ตอนนี้เธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงไปแล้ว
ลูกชายบนจอของสตรัยแซนด์เป็นคนออกมาสรุปความรู้สึกที่ทีมงานมีต่อการที่มีสตรัยแซนด์มาร่วมงานด้วยว่า “บาร์บร่า สตรัยแซนด์คือคนที่ทุกคนชื่นชมในทุกระดับ” สติลเลอร์ให้ความเห็นไว้ “หลายครั้ง มันยากที่จะลืมความรู้สึกเช่นนั้นไปได้เมื่อคุณเข้าฉากร่วมกับเธอ แต่เธอก็รู้สึกสบายใจกับความเป็นตัวเธอเอง และเธอก็นำเอาแสงออร่าที่เปล่งประกายมากับเธอด้วยเมื่อเธอเดินเข้าฉากไป ผมตื่นเต้นเสมอที่ได้ร่วมงานกับเธอ และสามารถเรียกเธอว่าแม่ได้ด้วย”
สตรัยแซนด์ตั้งตารอที่จะได้สวมบทบาทสุดโต่งอย่าง รอซ ในภาพยนตร์เรื่อง Little Fockers แต่ที่ทำให้เธอตื่นเต้นมากกว่านั้นก็คือการได้มาอยู่ในกองถ่ายร่วมกับเพื่อนเก่าๆ “ฉันชอบที่ได้ทดลองอะไรบ้าง และดัสตินก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีในแง่นั้น นักแสดงคนอื่นๆ ก็เหมือนกัน ฉันรักพวกเขามาก” สตรัยแซนด์บอก “พอลเองก็สนับสนุนให้พวกเราด้นมุกสด พวกเราก็เลยสนุกสนานกันใหญ่ ส่วนที่ดีที่สุดที่ได้กลับมาแสดงภาพยนตร์เรื่อง Little Fockers ก็คือการได้เล่นกับพวกนักแสดง ฉันเพลิดเพลินมากทีเดียว”
การกลับมารวมตัวกันอีกรอบของทีมนักแสดงคงไม่ใช่การกลับมารวมตัวกันอย่างแท้จริงแน่ถ้าปราศจากเจ้าของสองรางวัลออสการ์อย่าง ดัสติน ฮอฟฟ์แมน ที่กลับมารับบท เบอร์นี่ พ่อของเกร็ก เบอร์นี่ที่เป็นเสมือนหอกข้างแคร่ของ แจ็ค เบิร์นส์ คือด้านตรงกันข้ามกับแจ็คโดยแท้ และบุคลิกของเขายังคงทำให้ทีมนักแสดงต้องหัวเราะ นักแสดงชายผู้เป็นตำนาน ผู้ที่ผู้กำกับไวทซ์พูดถึงว่าเป็น “นักแสดงที่สวมหัวใจไว้ที่ข้อมือ” มีความสุขที่ได้กลับมารับบทเบอร์นี่ คุณพ่อที่ไม่เหมือนใคร บัดนี้ วงจรแห่งความไว้ใจสมบูรณ์แล้วจริงๆ
« Last Edit: January 05, 2011, 04:22:44 PM by happy »
Logged