activity on September 10, 2010, 08:52:37 AM
KTAMเดินหน้าเปิดขายทริกเกอร์ฟันด์2 หลังกองแรกปิดเร็วเกินคาดลูกค้ารับ10%

          นายสมชัย   บุญนำศิริ    กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า   หลังจากที่บริษัทได้เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย10 เอ็ม 10% ทริกเกอร์ ฟันด์  ( KT-Trigger1 )       เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา  บริษัทสามารถบริหารกองทุนตราสารทุนให้ผลตอบแทน10% ภายในระยะเวลาก 2 เดือนกว่า เท่านั้น  ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ในโครงการ      และในโอกาสนี้  ยังเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนในกองทุนประเภทดังกล่าว    บริษัทจึงเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย 10 เอ็ม10%  ทริกเกอร์ ฟันด์2  ( KT-Trigger2 )  ระหว่างวันที่ 14 - 27 กันยายน 2553  มูลค่าโครงการ  1,000 ล้านบาท  อายุประมาณ 10 เดือน    หรืออายุอาจต่ำกว่า 10 เดือน หากเกิดเหตุตามเงื่อนไขการเลิกกองทุน  ในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 11.00 บาท  ขึ้นไป เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน  จากมูลค่าหน่วยลงทุน   ในช่วง IPO ที่ราคา 10.00 บาทต่อหน่วย

            โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบุญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน   โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี  มีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจสูง  และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง   เงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้   ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน  ตราสารการเงิน  และเงินฝาก ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่คณะกรรมการก.ล.ต.กำหนด

นายสมชัย   กล่าวต่อไปว่า  กองทุนนี้จะมีการบริหารแบบ Active Management มีการจับจังหวะในการลงทุน (Market Timing) และเลือกหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ประกอบกับมีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ (Asset Allocation)   สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นคาดว่าแนวโน้มในอีก 10 เดือนข้างหน้าดัชนีจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลมาจากเศรษฐกิจไทยที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โครงการลงทุนภาครัฐต่างๆ ที่สนับสนุนภาคธุรกิจทั้งระบบ แนวโน้มการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศ นอกจากนี้มูลค่าหุ้นในประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ หุ้นหลายตัวมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะซื้อขายกันที่ระดับ 1,100จุด  คิดเป็น P/E ratio 12.5x ในปี 2554   จึงคาดว่ากองทุนดังกล่าว  มีโอกาสสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ได้

                   ทั้งนี้   นอกจากบริษัทจะมีการเปิดจำหน่ายกองทุนที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง   เพื่อรองรับตามความต้องการของลูกค้าแล้ว  บริษัทยังให้ความสำคัญในเรื่องการให้บริการที่ดี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าอีกด้วย  โดยการขยายเวลาการซื้อขายหน่วยลงทุนกองทุนประเภทมันนี่มาร์เก็ต  จากเดิมตั้งแต่8.30  – 14.00  น.  เปลี่ยนเป็น ตั้งแต่เวลา 8.30   - 15.30 น.   ประกอบไปด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์  ( KTSS )   กองทุนเปิดกรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์ ( KTSV )  และกองทุนเปิดกรุงไทยตลาดเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ ( RMF4)     โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16  กันยายน 2553  เป็นต้นไป    นอกจากนี้  ลูกค้าทุกกองทุนที่มีการขายคืนหน่วยลงทุน จะได้รับเงินคืนเร็วขึ้น  จากเดิมได้รับเงินคืนในเวลาประมาณ 12.00  น.    เปลี่ยนเป็น  ได้รับเงินคืนในเวลา 10.00  น.  ตามวันที่กำหนดในแต่ละกองทุน 
« Last Edit: September 14, 2010, 08:56:28 AM by activity »