ถิรไทย ปรับเป้าปี 53 เหลือ 1,900 ล้านบาท H1 กำไร 92.45 ล้านบาท
ถิรไทย หรือ TRT เผยผลประกอบการงวด 6 เดือน ปี 53 กำไรสุทธิ 92.46 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 33.23 % สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ส่งผลกระทบกับปัจจัยรอบด้านเล็งปรับรายได้ปี 53 นี้ ลงเหลือ 1,900 ล้านบาท แต่ยังคงรักษากำไรขั้นต้นดีกว่าปีที่ผ่านมา ผู้บริหารเผยคาดปีหน้าเป้ากลับมาเกิน 2,300 ล้านบาทแน่ จากคำสั่งซื้อที่ถูกเลื่อนมาใน Q3-Q4 ทั้งการประมูลงานภาครัฐ เอกชนในประเทศ และต่างประเทศ มูลค่ากว่า 6,400 ล้านบาท คาดได้คำสั่งซื้อมากกว่า 1,800 ล้านบาท หรือมากกว่า 30 % ย้ำปีหน้าจะเป็นปีทองของ ถิรไทยอีกปีแน่นอน
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย งวด 6 เดือนปี 53 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ว่า บริษัท มีผลกำไรสุทธิสำหรับงวดหกเดือนปี 2553 เท่ากับ 92.46 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 46.01 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.23 และมีผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ปี 2553 เท่ากับ 15.57 ล้านบาท ลดลง 34.20 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 68.72 โดยรายได้ในงวด 6 เดือน บริษัทมีรายได้จากการขาย 690.49 ล้านบาท รายได้จากการให้บริการ 43.89 ล้านบาท และมีรายได้อื่น ๆ อีก 17.99 ล้านบาท มีรายได้รวมทั้งหมด 752.37 ล้านบาท
ทั้งนี้รายได้รวมงวดหกเดือนปี 2553 ที่ลดลงสืบเนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่สงบทางการเมือง และภาวะเศรษฐกิจของทั่วโลก จึงทำให้มีการชะลอคำสั่งซื้อ และเลื่อนการส่งมอบงานออกไปในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2553 จึงทำให้บริษัทต้องปรับประมาณการเป้าหมายรายได้ลงเหลือ 1,900 ล้านบาท ถึงอย่างไรบริษัทยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) มากกว่าปีที่ผ่านมา โดยครึ่งปีแรกคิดเป็นร้อยละ 31.09 ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2553 นี้ บริษัทยังคงมีงานในมือแล้วกว่า 700 ล้านบาท และจะเข้าร่วมประมูลงานมูลค่ากว่า 6,400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานภาครัฐมูลค่า 3,600 ล้านบาท ภาคเอกชนในประเทศมูลค่า 1,800 ล้านบาท และต่างประเทศกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะสามารถชนะการประมูล และได้รับออร์เดอร์มากกว่า 1,800 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 30 ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2553 ประมาณ 400 ล้านบาท และปี 2554 ประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถรับออร์เดอร์เพิ่มในช่วงต้นปี และทำรายได้ในปี 2554 ได้ในระดับเดียวกับปีก่อนหรือประมาณ 2,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ นายสัมพันธ์ ได้กล่าวถึงรายได้ในแต่ละไตรมาสที่มีการผันผวนว่า ลักษณะธุรกิจของถิรไทยนั้น เป็นการขายให้กับโครงการต่าง ๆ ทำให้รายได้ในแต่ละไตรมาสผันผวนตามการส่งมอบงานให้กับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าของบริษัทฯ คือหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนประกอบท้าย ๆ ของโรงงานอุตสาหกรรม หรือโรงไฟฟ้า จึงมีโอกาสเลื่อนส่งมอบสูง บางไตรมาสก็มีโอกาสขาดทุน การบริหารกระแสเงินสดจึงทำได้ไม่ง่ายนัก จึงอยากให้มองธุรกิจของถิรไทยเป็นรายปีมากกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ดีบริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับดีมาตลอด