happy on August 16, 2010, 01:50:52 PM


สมานฉัน Color's Love
บ.เอกเพชร ฟิล์ม
วันที่เข้าฉาย  /2 กันยายน 2553
แนวหนังโรแมนติก, คอมเมดี้
ผู้กำกับ ผศ ดร. ชวนะ มหิทธิชาติกุล-ภวกานนท์
นักแสดง ตูนAF3 ธัชพล ชุมดวง, จิ๊บ-ปกฉัตร เทียมชัย ภราดร ศรีชาพันธุ์  อู๊ด เป็นต่อ

เรื่องย่อ

ในวันวาเลนไทน์ วันที่ดอกรักแบ่งบาน สว่างไสวไปทุกที่ รวมทั้ง “ที่นี้ “ที่ว่าการเขต “สมรัก”  ซึ่งมีคู่รักหลากวัย มายืนยันความรักต่อกันด้วยการจดทะเบียนสมรสในวันนี้  แต่คู่นี้ สมาน (ตูน AF3 ธัชพล ชุมดวง)และฉันทนา (ปกฉัตร เทียมชัย) นี้ซิ ที่เลือกวันนี้เพื่อสะบั้นรัก ที่เคยมีต่อกัน

                 แม้ทั้งคู่จะยังจดจำเมื่อแรกสบพบรักเมื่อสมัยวัยรุ่นวุ่นเรียนมหาวิทยาลัย  แต่ความรักของทั้งคู่ก็ยัง แตกยอด ผลิดอกออกใบ เป็นคู่รักหวานใส เป็นที่อิจฉาตาร้อนแก่เพื่อนๆทั้งหลาย จริงๆ นะ... และแล้ว...เมื่อรักมันจุกอกทนไม่ได้อีกต่อไป..นายสมานก็ได้แต่งงานกับสาวฉันทนาและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขพร้อมทั้งมีเด็กชายจัมป์ เป็นดังโซ่ทองคล้องใจของทั้งคู่

                 แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่นิทานที่จะจบด้วยความสุขจากนี้และตลอดไป
ความรักและผูกพันเท่านั้นคงไม่พอที่จะทำให้รักเรายืนนาน   ยิ่งคิดต่างกัน มองโลกต่างกันก็ยิ่งแล้วใหญ่ ก็ดูนายสมานของเราซิทำงานเป็นเซลล์ขายปุ๋ย มีความมุ่งมั่นในการดำเนินชีวิตเจริญรอยตามแนวคิดเศรษฐกิจพอของในหลวง และหน้าที่การงานยังทำให้เค้าต้องเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วด้วยความมีน้ำใจกับทุกคน  ก็ยิ่งทำให้พ่อสมานของเรามีเวลาให้กับครอบครัวอย่างลูกจัมป์และสุดที่รักอย่างฉันทนาน้อยลง   

                 แล้วส่วนแม่ฉันทนาก็อยากจะเป็นสาวยุคใหม่มั่นเกินร้อยที่รักก็ยุ่ง และก็ยังมุ่งกับงานอีกด้วย กับอาชีพมัณฑนากรในบริษัทขนาดใหญ่ และ โลกก็กลมจนน่าหมั่นไส้ มีอย่างที่ไหนทำเอาเธอ เจอะรุ่นพี่หนุ่มหล่อสมัยเรียนที่เคยแอบหลงรักเธอ อย่าง เนฑิต (โชกุณ  บรรณเจิด) ที่ทำงานบริษัทเดียวกันในตำแหน่งเจ้านายของเธอ แล้วด้วยงานในหน้าที่รับผิดชอบทำให้เวลาที่เธอควรจะมีให้สมานและลูกชายอย่างน้องจัมป์ กลับกลายเป็นเธอต้องใกล้ชิดกับกิ๊กเก่า อย่าง เนฑิต เพิ่มขึ้น เฮอะ น่ากลุ้มนะเนี้ย

                 เมื่อเวลาที่มีให้กันน้อยลง ความเข้าใจและไว้ใจที่เคยมีให้กันมันก็ดูจะน้อยลงตามไปด้วย ยิ่งเมื่อมีมือที่สามอย่างเนฑิตด้วยแล้วยิ่งทำให้ความรักที่มีต่อกันยิ่งน้อย...น้อยลงไปอีก ดูเหมือนไม่ว่าสมานจะทำอะไร ก็ขวางหูขวางตาไปซะหมด แล้วความขัดแย้งในชีวิตคู่ของคนทั้งสอง ดูจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ ไม่ต่างไม่จากความแตกแยกทางความคิดทางการเมืองของคนในสังคม ในครั้งแรกที่ สมานและฉันทนา มีปากเสียงกันนั้น ต่อหน้าน้องจัมป์นั้น ทำให้ลูกชายที่รักมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง หลังจากได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล ทั้งคู่จึงพบว่า น้องจัมป์มีกรุ๊ปเลือดพิเศษต่างจากเด็กทั่วไป ดังนั้นเมื่อได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจจึงมีอาการเช่นนี้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

                 ....สมานและฉันทนาจึงสัญญากันว่าจะไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกอีก และหันหน้าเข้าหากัน เพื่อร่วมกันกอบกู้ครอบครัวของตนขึ้นมาอีกครั้ง โดยฉันทนาตัดสินใจลาออกจากงานมาดูแลลูกและครอบครัวอย่างเต็มที่  พร้อมทั้งตัดขาดกับเนฑิต เมื่อคิดได้แล้วว่า เธอยังคงรักสมานอยู่ไม่เสื่อมคลาย

                 ถึงแม้สมานและฉันทนาจะมีเวลาให้กันมากขึ้น พยายามให้ความเข้าใจกันมากขึ้น แต่ว่าช่องว่างที่มีอยู่นั้น ความหวาดระแวงที่ยังคงเกาะกินอยู่ในใจนั้น ก็ยังคงมีอยู่และพร้อมจะปะทุขึ้นมาสร้างความร้าวฉานได้อย่างง่ายดาย

                 แล้วความอดทนก็มาถึงจุดสิ้นสุด เหมือนกับความขัดแย้งในสังคมที่รุนแรงขึ้นจนถึงขั้นแตกหักและมีการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรง เช่นเดียวกับชีวิตคู่ของสมานและฉันทนาที่จบลงด้วยการ หย่าร้าง ที่สำนักงานเขต “สมรัก” ในวันแห่งความรักนี้

                 แต่ก่อนที่สมานและฉันทนา จะเซ้นต์ชื่อลงบนหนังสือหย่า ทั้งสองได้เห็นข่าวในโทรทัศน์รายงานว่า เกิดเหตุคนเมายาบ้าขับรถบรรทุกแก๊สฝ่าด่านตำรวจมา และหักหลบรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งตัดหน้ากะทันหัน ทำให้รถบรรทุกแก๊สพลิกคว่ำลื่นไถลไปจอดขวางกลางรางรถไฟ จนเมื่อขบวนรถไฟคันที่ ด.ช.จั้มพ์ โดยสารแล่นผ่านมา คนขับรถไฟต้องรีบเบรกกะทันหัน ทำให้ถังแก๊สที่กลิ้งมาใกล้รางเกิดระเบิดขึ้นทันที เป็นเหตุให้ขบวนรถไฟเสียหลักพลิกคว่ำตกจากราง...

                 เหตุการณ์เริ่มวุ่นวาย เมื่อการขนย้ายผู้บาดเจ็บเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เพราะต้องฝ่าทั้งกลุ่มม็อบที่กำลังเผชิญหน้ากันปิดเส้นทางการจราจร....ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ และเหล่าญาติผู้รอคอยด้วยความหวังว่า ลูกหลาน พ่อแม่ หรือ พี่น้องของเขาเหล่านั้นที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที 

                 รวมทั้งสมานและฉันทนาที่พบแล้วว่าสุดท้ายความรักของทั้งคู่ยังคงอยู่...ที่น้องจัมป์  ได้รีบมาโรงพยาบาลด้วยความหวังว่าจะมีปาฏิหารย์ เกิดขึ้นกับชีวิตของลูกชาย ซึ่งเป็นตัวแทนของความรักของทั้งคู่ ชีวิตที่ยังแขวนอยู่ระหว่างความเป็นและความตายในการรักษา  เช่นเดียวกับทุกคนในโรงพยาบาลแห่งนี้ หวังเพียงจะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับทุกชีวิตอันเป็นที่รัก
« Last Edit: August 16, 2010, 01:54:23 PM by happy »