สตาร์บัคส์ ฉลองครบรอบ 12 ปี กับกิจกรรม “สตาร์บัคส์ แฟน เดย์”

สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ฉลองครบรอบ 3 ปี คอมมิวนิตี้ สโตร์ สาขาหลังสวน มอบเซ็ตของขวัญ “ม่วนใจ๋ ลิมิเต็ด อิดิชั่น” แทนคำขอบคุณด้วยใจจากชาวไร่กาแฟ



          สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ ส่งมอบความสุขอย่างต่อเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 3 ปี ของร้านสตาร์บัคส์ คอมมิวนิตี้ สโตร์ สาขาหลังสวน ในเดือนมีนาคม 2559 เพื่อตอบแทนคำขอบคุณจากใจชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทย ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ เมื่อซื้อเครื่องดื่ม อาหาร หรือสินค้าสตาร์บัคส์ประเภทใดก็ได้ ครบ 350 บาท รับชุดของขวัญ Starbucks Community Store Gift Set ม่วนใจ๋ ลิมิเต็ดอิดิชั่น ฟรีทันที1 ชุด ประกอบด้วย แก้วช็อตเอสเพรสโซ่ ม่วนใจ๋ ซึ่งเป็นกาแฟสตาร์บัคส์เชื้อสายไทย พร้อมคูปองส่วนลด 1 เล่ม (จำนวน 8 ใบ) และถุงผ้าดีไซน์เก๋ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. – 15 พ.ค. 59 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วประเทศ

ภาพข่าว: สตาร์บัคส์ ฉลองครบรอบ 3 ปี ร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งแรกในเอเชีย สนับสนุนเงินบริจาครวม 4.5 ล้านบาท เพื่อพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟภาคเหนือของไทย ตอกย้ำคำมั่นสัญญาในการตอบแทนคืนสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน

          บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย มร.เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ และนางสุมนพินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร ร่วมฉลองครบรอบ 3 ปีของร้านกาแฟสตาร์บัคส์ สาขาหลังสวน ซึ่งเป็นร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store) แห่งแรกในเอเชียและนอกประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมสานต่อเจตนารมย์ในการช่วยเหลือชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยบริจาคเงินจำนวน 4,500,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้จากทุก ๆ 10 บาทในการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้วในร้านกาแฟสตาร์บัคส์สาขาหลังสวนตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา รวมกับรายได้ 5 เปอร์เซ็นต์จากการจำหน่ายกาแฟม่วนใจ๋ทั่วประเทศ ให้แก่องค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (The Integrated Tribal Development Program: ITDP) เพื่อการพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน


          บรรยายภาพ (จากซ้าย)
          คุณมนิดา เหมืองแก้ว ผู้จัดการร้านกาแฟสตาร์บัคส์เพื่อชุมชน สาขาหลังสวน
          คุณชรินทร์ทิพย์ วรดิตถานุรักษ์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด         
          คุณสุมนพินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด
          มร. ไมค์ แมนน์ ผู้อำนวยการ องค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน
          มร. เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด
          คุณนพรัตน์ อาภรณ์สุวรรณ Starbucks Coffee Ambassador 2015 และผู้ชนะรางวัล Starbucks Asia Pacific Barista Championship 2016
          คุณนิภารัตน์ เยาว์วิวัฒน์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายส่งเสริมการขายและการตลาด บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด

สตาร์บัคส์ฉลองใหญ่ครบรอบ 3 ปี ร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Starbucks Community Store) ชวนดื่มด่ำประสบการณ์การเดินทางของกาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์







           สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จัดงานฉลองครบรอบ 3 ปีของร้านกาแฟสตาร์บัคส์ สาขาหลังสวน ซึ่งเป็นร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store) แห่งแรกในเอเชียและนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้คอนเซปต์ Coffee | Community | Celebrations เพื่อชวนดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ความรื่นรมย์จากการเดินทางของกาแฟสตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์ การแฟสายพันธุ์ไทยจากพื้นที่เพาะปลูกทางภาคเหนือของไทย พร้อมสานต่อเจตนารมย์ในการช่วยเหลือชุมชนชาวไร่กาแฟ โดยบริจาคเงินจำนวน 4,500,000 บาท ให้แก่องค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (The Integrated Tribal Development Program: ITDP) เพื่อการพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ภายในงานที่จัดขึ้น ณ ร้านกาแฟสตาร์บัคส์เพื่อชุมชน สาขาหลังสวน ในบรรยากาศเป็นกันเองสุดประทับใจ

          นาย เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ร้านกาแฟเพื่อชุมชนของสตาร์บัคส์ตั้งขึ้นด้วยปณิธานที่ว่า หากชุมชนได้รับการดูแลให้เติบโตเป็นอย่างดีแล้ว ทุกคนที่อาศัยในชุมชนก็จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน โดยร้านกาแฟเพื่อชุมชนแต่ละร้านมีแนวทางการดำเนินการที่แตกต่างกันไปตามแต่ความต้องการของแต่ละชุมชน โดยลูกค้าที่เข้ามารับบริการ ณ ร้านสตาร์บัคส์สาขาหลังสวนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้เกิดแก่ชีวิตของชุมชนชาวไร่ที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่ยากลำบากและอยู่ห่างไกลได้ เพราะทุก ๆ 10 บาทของการซื้อเครื่องดื่มในสตาร์บัคส์แห่งนี้จะถูกนำไปสมทบทุนในการพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟภาคเหนือของประเทศไทย ภายใต้คำมั่นสัญญาของสตาร์บัคส์ที่ต้องการตอบแทนคืนสู่ชุมชน"

          ในโอกาสนี้สตาร์บัคส์ได้บริจาคเงินจำนวน 4.5 ล้านบาทซึ่งเป็นรายได้จากทุก ๆ 10 บาทในการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้วในร้านกาแฟสตาร์บัคส์สาขาหลังสวนตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา รวมกับรายได้ 5 เปอร์เซ็นต์จากการจำหน่ายกาแฟม่วนใจ๋ทั่วประเทศให้แก่ ITDP โดยมีนาย ไมค์ แมนน์ ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (Integrated Tribal Development Program: ITDP) เป็นผู้รับมอบ

          ในช่วงพูดคุยบนเวที นางสุมนพินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร กล่าวว่า "ในการสนับสนุนดังกล่าว สตาร์บัคส์ต้องการตอกย้ำความสำคัญ ในเรื่องของคุณภาพของเมล็ดกาแฟและชาวไร่กาแฟตามหลักการปฏิบัติในการรับซื้อเมล็ดกาแฟ C.A.F.E. (Coffee and Farmer Equity Practices) โดยจะคำถึงถึงคุณภาพของผลผลิต และความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจในการปลูกกาแฟที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ รวมไปถึงการรับซื้อเมล็ดกาแฟคุณภาพในราคายุติธรรม (Ethical Sourcing) การปลูกกาแฟแบบปลอดสารเคมีและให้เติบโตตามธรรมชาติภายใต้ร่มไม้ใหญ่โดยไม่มีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Environment Stewardship) และการมีส่วนร่วมช่วยเหลือชุมชนที่สตาร์บัคส์ดำเนินธุรกิจอยู่ (Community Involvement) เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมและได้มาตรฐานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมาผลิตเป็นกาแฟสตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์"

          ด้านนาย ไมค์ แมนน์ กล่าวว่า "เงินสมทบทุนที่ ITDP ได้รับถูกนำไปใช้เพื่อช่วยพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟ รวมถึงช่วยในการสนับสนุนการบริการจัดการการดำเนินโครงการฯ อย่างยั่งยืน ทั้งในด้าน สาธารณูปโภคระบบประปา ระบบสาธารณสุข สถานีอนามัยชุมชน รวมไปถึงการศึกษาในชุมชนผ่านศูนย์การเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ทางด้านเกษตรกรรม ด้านช่างยนต์ และพัฒนาทักษะการสื่อสารเพื่อต่อรองในการจำหน่ายผลผลิต เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของชุมชนชาวเขาให้ดียิ่งขึ้น"

          โดยภายในงานมีการสาธิตการชิมกาแฟสัญชาติไทย ม่วนใจ๋ เบลนด์ โดยคุณย้ง – นพรัตน์ อาภรณ์สุวรรณ Starbucks Coffee Ambassador 2015 และแชมป์ Starbucks Asia Pacific Barista Championship 2016 เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับสุนทรียรสอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟสตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเมล็ดกาแฟพันธุ์อราบิก้าชั้นดีจากประเทศไทยและหมู่เกาะในเอเชียแปซิฟิก ให้รสชาติหนักแน่น นุ่มลึก และสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและกลิ่นไอดินธรรมชาติ

          พร้อมกันนี้ นิทรรศการภาพถ่าย ม่วนใจ๋ แกเลอรี่ ยังช่วยเปิดประตูสู่ที่มาของกาแฟจากชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของพร้อมบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจ จากความร่วมมือของสตาร์บัคส์กับ ITDP ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟในด้านต่าง และ ปิดท้ายด้วยกิจกรรม 'Starbucks Sip & Paint' ที่แขกผู้มีเกียรติ ได้แสดงฝีมือการสร้างสีสันและลวดลายแบบฉบับ Tribal Chic บนถุงผ้าดีไซน์ลายม่วนใจ๋เบลนด์ อิดิชั่น ร่วมกับการจิบกาแฟสตาร์บัคส์ ยามบ่ายควบคู่อาหารว่างในสไตล์ Northern Delights โดยผู้ร่วมงานยังสามารถส่งผ่านความปรารถนาดี ผ่านโปสการ์ดลวดลายพิเศษเพื่อส่งมอบคำขอบคุณและความรู้สึกดี ไปยังชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทย ๆสำหรับกาแฟคุณภาพที่ส่งผ่านมาในกาแฟทุกแก้วในทุกๆวัน

ได้เวลาสนุกสดชื่นไปกับ สตาร์บัคส์ แฟรบปูชิโน่ สองรสชาติใหม่ “โรสต์ มาร์ชเมลโลว์ สมอร์ส แฟรบปูชิโน่” และ “คี ไลม์ พาย แฟรบปูชิโน่” พร้อมดริ้งค์แวร์คอลเลคชั่นใหม่สีสันสดใสเพิ่มความเบิกบานรับซัมเมอร์



          สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) เพิ่มสีสันความสนุกสดชื่นให้กับหน้าร้อนนี้ด้วยสองเมนูแฟรบปูชิโน่สูตรใหม่ "โรสต์ มาร์ชเมลโลว์ สมอร์ส แฟรบปูชิโน่" (Roasted Marshmallow S'mores Frappuccino®) เครื่องดื่มปั่นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหอมหวานของมาร์ชเมลโลว์ปิ้งไฟนุ่มๆราดซอสช็อคโกแลต ผสมกับความเข้มข้นของช็อตเอสเพรสโซ่ เพิ่มความกรุบกรอบด้วยเกรแฮมแครกเกอร์ด้านบน และอีกหนึ่งเมนูคลายร้อนสูตรพิเศษ "คี ไลม์ พาย แฟรบปูชิโน่" (Key Lime Pie Frappuccino®) ที่ดัดแปลงมาจากขนมหวาน Key Lime Pie ยอดนิยมในแถบ Florida Keys ให้รสชาติสดชื่นและหอมหวานของมะนาวด้วย คี ไลม์ ซอส สูตรเฉพาะของสตาร์บัคส์ ปิดท้ายด้วยวิปครีมเบาๆพร้อมโรยแกรแฮมแครเกอร์กรุบกรอบหอมกรุ่นด้านบน สัมผัสสองเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นคลายร้อนรสชาติสุดพิเศษนี้ได้แล้วตั้งแต่ วันที่ 26 เมษายน – 13 มิถุนายน 2559 ที่ร้านสตาร์บัคส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ

          ดาวน์โหลดไฟล์รูปภาพทั้งหมดได้ที่ลิงก์ https://hkstrategies.egnyte.com/fl/ZxbL4jORCQ
          Starbucks Drinkware Collection

          สตาร์บัคส์จัดคาราวานสตาร์บัคส์ดริ้งแวร์สีสันสดใสฉูดฉาดเพิ่มความตื่นตาตื่นใจรับซัมเมอร์ ด้วยคอลเลคชั่นแบบฉบับ Sea-Sun-Sand ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสีสันที่พบได้ในฤดูร้อนของแถบแคลิฟอร์เนีย ประกอบด้วยสีฟ้าของเมืองริมทะเลภายใต้ท้องฟ้าอันแจ่มใส สีเหลืองสดจากหาดทราย สีส้มแดงจากพระอาทิตย์ตกยามเย็น และลวดลายของต้นปาล์มที่ขึ้นเรียงรายริมถนน พร้อมสีนีออนจากแสงไฟคึกคักยามค่ำคืน แสดงถึงความครึกครื้นมีชีวิตชีวา การผจญภัย การสังสรรค์และมิตรภาพในหน้าร้อนนี้ คอลเลคชั่นใหม่นี้เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ วันที่ 26 เมษายน – 13 มิถุนายน 2559 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่ร้านสตาร์บัคส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ

          สตาร์บัคส์ขอส่งมอบกาแฟทางเลือกรสชาติใหม่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ด้วย "เอสเพรสโซ่ ช้อยส์" กับช็อตกาแฟรสชาติสดชื่น กลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยวและเครื่องเทศ ด้วยกาแฟเชื้อสายแอฟริกา "คาติ คาติ เบลนด์" (Kati Kati Blend) ซึ่งเป็นภาษาสวาฮีลี แปลว่า "การรวมกันระหว่างสองสิ่ง" คือความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าที่ลงตัว ของรสชาติที่โดดเด่นอย่างเกรปฟรุต มะนาว เจือด้วยกลิ่นของเครื่องเทศจากเคนย่า รวมกับความสดชื่นมีชีวิตชีวาจากดอกไม้ในเอธิโอเปีย ออกมาเป็นกาแฟที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ สมุนไพรและความสดชื่นเบิกบานมีชิวิตชีวาของมะนาว เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับกาแฟถ้วยโปรดของคุณในฤดูร้อนนี้ได้เป็นอย่างดี

          ทั้งนี้สตาร์บัคส์จะยังคงความเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟด้วยการนำเสนอรสชาติใหม่ๆ ด้วยการคัดสรรกาแฟจากหลากหลายมุมโลกซึ่งจะหมุนเวียนปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตลอดปีมานำเสนอให้กับลูกค้าต่อไปในอนาคต มาดื่มกาแฟรูปแบบใหม่กับ "เอสเพรสโซ่ ช้อยส์" ได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าสตาร์บัคส์16 สาขา ได้แก่ สยามพารากอน (Street Level) เซ็นทรัลเวิลด์ บ้านสีลม เดอะ คริสตัล หลังสวน เอ็มควอเทียร์ เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ เซ็นทรัลลาดพร้าว เดอะ พาซิโอ่ กาญจนาภิเษก เดอะ ซีน ทาวน์อินทาวน์ เซ็นทรัลบางนา เซ็นทรัลเวสต์เกท เซ็นทรัลหาดใหญ่ ฟู้ดวิลล่า สวนเพลิน และเดอะสตรีท

สองยักษ์ใหญ่ “เอไอเอส” ผนึกกำลัง “สตาร์บัคส์” เสิร์ฟชีวิตดิจิทัล มัดใจคนรุ่นใหม่ เปิดตัว “AIS SUPER WiFi ที่ร้านสตาร์บัคส์” ทุกสาขา ทั่วประเทศ พร้อมมอบสิทธิพิเศษสุดฟิน เป็นครั้งแรกของไทย!





          เอไอเอส ตอกย้ำผู้นำด้านเครือข่ายและบริการดิจิทัลอันดับหนึ่งของประเทศ รุกครองใจคนรุ่นใหม่ ผนึกกำลัง "สตาร์บัคส์" แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ขวัญใจอันดับหนึ่งคอกาแฟชาวไทย เปิดให้บริการ "AIS SUPER WiFi" ที่ร้านสตาร์บัคส์ ทุกสาขา ทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขาสนามบินสุวรรณภูมิ) ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 650 Mbps ให้ลูกค้าของเอไอเอส และสตาร์บัคส์ สนุกกับการท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างไร้ขีดจำกัด ร่วมกันมอบประสบการณ์ชีวิตที่ดียิ่งกว่า ผ่านรสชาติของกาแฟสตาร์บัคส์แก้วโปรดควบคู่ไปกับการเชื่อมต่อชีวิตแบบดิจิทัล และสังคมออนไลน์ สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตไปอีกขั้น

          พร้อมกันนี้ ยังร่วมประสบการณ์จากสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้ลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด ซื้อเครื่องดื่ม สตาร์บัคส์ แก้วที่ 2 ลดทันที 50% ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป สร้างปรากฎการณ์ให้ลูกค้าเอไอเอสที่ชื่นชอบสตาร์บัคส์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย สานต่อความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันมอบประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ใช้บริการแห่งยุคดิจิทัล

          นายฮุย เวง ชอง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เอไอเอส เปิดเผยว่า "ด้วยวิสัยทัศน์ของ เอไอเอสที่มุ่งมั่นตั้งใจส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ชีวิตดิจิทัลแก่ลูกค้า และคนไทยในยุค 4G ในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้าน Best Network ที่เราได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้ง Mobile และ Fixed อันประกอบด้วย การขยายเครือข่าย 3G, 4G และ 4.5G ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงการขยาย AIS WiFi และ AIS SUPER WiFi ที่ปัจจุบันครอบคลุมแล้วกว่า 120,000 จุดทั่วประเทศ ตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ศูนย์การค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, สนามบิน, มหาวิทยาลัย, โรงพยาบาล, สถานีรถไฟฟ้า BTS เป็นต้น และวางแผนขยายเพิ่มอีก เป็นกว่า 160,000 จุดภายในสิ้นปี 2559 เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคดิจิทัลที่นิยมเชื่อมต่อออนไลน์ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่นอกบ้านตามสถานที่ต่างๆ ทั้งบริเวณ In door area และ Lifestyle area โดยมุ่งเน้นนโยบายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ (Business Partnership) ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่ม Chain Stores แบรนด์ชั้นนำที่มีจำนวนสาขาทั่วประเทศ เพื่อขยาย AIS SUPER WiFi เข้าไปให้บริการภายในร้าน

          วันนี้ เราก้าวไปอีกขั้น ด้วยการผนึกกำลังครั้งสำคัญกับ สตาร์บัคส์ แบรนด์ชั้นนำระดับโลกขวัญใจอันดับหนึ่ง คอกาแฟคนรุ่นใหม่ของเมืองไทย นำเครือข่าย และสิทธิพิเศษ มอบให้แก่ลูกค้าเอไอเอส เป็นครั้งแรกของไทย โดยนำบริการ AIS SUPER WiFi ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 650 Mbps มามอบให้ลูกค้าเอไอเอสได้ท่องเน็ตแบบไร้ขีดจำกัด ที่ร้านสตาร์บัคส์ จำนวน 258 สาขา ทั่วประเทศ พร้อมทั้งมอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้ลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด ซื้อเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ แก้วที่ 2 ลดทันที 50% ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ที่ร้าน STARBUCKS สาขาที่ร่วมรายการ ทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขาในสนามบินและการซื้อผ่านบริการ Drive Thru) ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2559 โดยลูกค้า 1 หมายเลข ต่อ 1 สิทธิ์ ตลอดโครงการ (จำนวนจำกัด 10,000 สิทธิ์ต่อวัน) สร้างปรากฎการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าเอไอเอสที่ชื่นชอบสตาร์บัคส์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย

          ทั้งนี้ เอไอเอสรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สตาร์บัคส์ได้ให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นในศักยภาพเครือข่ายของเรา ให้เราได้ร่วมส่งมอบ Digital Network อันล้ำสมัย ช่วยเติมเต็มร้านสตาร์บัคส์ให้เป็นสถานที่พบปะพูดคุย และสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตไปอีกขั้น ซึ่งมั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน" นายฮุยกล่าว

          ด้านนายเมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ประเทศไทย กล่าวว่า "ปรัชญาของสตาร์บัคส์มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ ลูกค้า และพนักงาน หรือที่เราเรียกว่า "พาร์ทเนอร์" ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความเป็นผู้นำผ่านแนวความคิดในการดำเนินธุรกิจ ทั้งด้านการคัดสรรและการรับซื้อเมล็ดกาแฟในราคายุติธรรม และการคิดค้นเมนูเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยม ไปจนถึงการดีไซน์ร้านสตาร์บัคส์แต่ละสาขาทั่วทุกมุมโลก ถูกวางคอนเซ็ปท์และออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์สตาร์บัคส์ ด้วยบรรยากาศอันอบอุ่น เป็นกันเอง เพื่อให้เป็นสถานที่พบปะ พูดคุย และเชื่อมต่อได้อย่างแท้จริง รวมถึง 258 สาขา ทั่วประเทศไทยเช่นกัน รวมไปถึงการมอบประสบการณ์ในโลกดิจิทัล ที่ไม่เป็นรองใคร ภายใต้กลยุทธ์ด้านดิจิทัลนั้น สตาร์บัคส์ได้ริเริ่มในการสร้างสรรค์เครือข่ายความเป็นแบรนด์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและพนักงานพาร์ทเนอร์ โดยนำเสนอผ่าน ทั้ง Starbucks Card, แคมเปญสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก My Starbucks Rewards™ รวมไปถึง โมบายล์แอพพลิเคชั่น Starbucks Thailand และการให้บริการฟรีอินเตอร์เน็ทไวไฟ ความเร็วสูง โดยเรามองเห็นถึงความต้องการของลูกค้า และมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

          ในวันนี้ สตาร์บัคส์พร้อมแล้วในการให้บริการความสะดวกสบายเหนือระดับ ด้วยการให้บริการ WiFi ของเอไอเอส ฟรี! แบบไม่จำกัด สำหรับลูกค้าสตาร์บัคส์ทุกท่าน เพื่อให้ใช้งานท่องโลกอินเตอร์เน็ท และเชื่อมต่อโซเชียลมีเดีย ไปพร้อมกับการเพลิดเพลินอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านสตาร์บัคส์ทั่วประเทศ ซึ่งความร่วมมือกับ AIS ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์สตาร์บัคส์เพื่อรองรับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ให้แก่คนรักกาแฟทั่วประเทศ" นายเมอร์เรย์กล่าว

          ทั้งนี้ ลูกค้าเอไอเอสที่มีแพ็กเกจ AIS SUPER WiFi อยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่อเพื่อใช้บริการได้โดยอัตโนมัติทันที โดยไม่ต้องสมัคร หรือลงทะเบียนใดๆ เพิ่มเติม ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการสตาร์บัคส์ทุกท่าน ก็สามารถสนุกไปกับ WiFi ของเอไอเอสได้เช่นกัน.

สตาร์บัคส์ชวนปลุกความสดชื่นด้วย 2 เครื่องดื่มแฟรบปูชิโน่รูปแบบใหม่ล่าสุด “ช็อคโกแลต แบล็คที เจลลี แฟรบปูชิโน่” และ “ดับเบิลช็อคโกแลต กรีนที ครีม แฟรบปูชิโน่” พร้อมดริ้งค์แวร์คอลเลคชั่นใหม่สีสันสดใสสำหรับซัมเมอร์ 2016







          สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) เพิ่มสีสันความสนุกสดชื่นให้กับหน้าร้อนนี้ด้วย 2 เมนูแฟรบปูชิโน่สูตรใหม่ "ช็อคโกแลต แบล็คที เจลลี แฟรบปูชิโน่" (Chocolate Black Tea Earl Grey Jelly Frappuccino®) เครื่องดื่มปั่นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยความพิเศษของส่วนผสมช็อคโกแลต ชาดำจากประเทศเคนย่า ที่ขึ้นชื่อในความเข้นข้นและรสชาติที่นุ่มนวล พร้อมด้วย "เจลลี่ชาเอิลเกรย์" ที่ให้ความหอมหวานสดชื่นเข้ากันได้ดีกับวิปครีมนุ่ม ๆ ด้านบน ช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ในการดื่มชา และอีกหนึ่งเมนูใหม่ล่าสุด "ดับเบิล ช็อคโกแลต กรีนที ครีม แฟรบปูชิโน่" (Double Chocolate Green Tea Cream Frappuccino® ประสบการณ์ใหม่ของการดื่มกรีนทีด้วย 2 รสชาติคู่ซี้ชาเขียวและช็อคโกแลต ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเชฟขนมหวานมาแล้วทั่วโลก ผสมจาวาชิพเพิ่มความกรุบกรอบและช็อคโกแลตสูตรพิเศษ สัมผัส 2 เครื่องดื่มคลายร้อนไม่ซ้ำใครได้แล้วตั้งแต่ วันที่ 14 มิถุนายน – 1 สิงหาคม 2559 ที่ร้านสตาร์บัคส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ

Starbucks Drinkware Collection
          สตาร์บัคส์ จัดขบวนสตาร์บัคส์ดริ้งแวร์ คอลเลคชั่นใหม่สีสันสดใสสำหรับซัมเมอร์ปี 2016 แรงบันดาลใจจาก สายลม แสงแดด เสียงคลื่น มหาสมุทรและชีวิตริมทะเล โดยผสมผสานโทนสีแห่งปี 2016 อย่าง สีชมพูโรสควอตซ์ (Rose Quartz) และสีฟ้าประกายม่วง เซเรนิตี้ บลู (Serenity Blue) ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย เพิ่มลูกเล่นงานดีไซน์ด้วยประกายแวววาวของแสงแดดกระทบฟองคลื่น สตาร์บัคส์ดริ้งแวร์ คอลเลคชั่น ซัมเมอร์ปี 2016 ใหม่นี้ เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ วันที่ 14 มิถุนายน – 1 สิงหาคม 2559 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่ร้านสตาร์บัคส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ
         
          สตาร์บัคส์ ขอส่งมอบกาแฟทางเลือกรสชาติใหม่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ด้วย "เอสเพรสโซ่ ช้อยส์"กับช็อตกาแฟอาราบิก้าคุณภาพเยี่ยม "สตาร์บัคส์ เคนย่า" (Starbucks Kenya) กาแฟหายากที่ขึ้นบนพื้นที่สูงที่มีดินอุดมสมบูรณ์และอากาศที่เหมาะสมที่สุดจากประเทศเคนย่า ให้รสชาติโดดเด่นของความหวานสดชื่น เหมาะสำหรับเครื่องดื่มกาแฟ ลาเต้ คาปูชิโน และอเมริกาโน เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่แตกต่างในเครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ของคุณ

          สตาร์บัคส์ ยังคงความเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟด้วยการนำเสนอรสชาติใหม่ ๆ ผ่านการคัดสรรกาแฟจากหลากหลายมุมโลกซึ่งจะหมุนเวียนปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี ร่วมสัมผัสประสบการณ์ของรสชาติกาแฟ "เอสเพรสโซ่ ช้อยส์" ได้แล้ววันนี้ที่ร้านสตาร์บัคส์ 17 สาขา ได้แก่ สยามพารากอน สตรีท เลเวล, เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1, บ้านสีลม, เดอะ คริสตัล, หลังสวน, เอ็มควอเทียร์, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เดอะพาซิโอ ปาร์ค กาญจนาภิเษก, เดอะ ซีน ทาวน์อินทาวน์, เซ็นทรัลบางนา, เซ็นทรัลเวสต์เกต, เซ็นทรัลหาดใหญ่, ฟู้ดวิลล่า, สวนเพลิน มาร์เก็ต, เดอะสตรีท และเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ 2 (Think Space)

สตาร์บัคส์ จับมือ วิเวียน แทม เผยโฉมคอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากแรงบันดาลใจลวดลายโรแมนติกแบบฉบับตะวันออก









          สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) ภูมิใจเสนอสินค้าคอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ได้รับการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์สาวชื่อดังระดับโลก วิเวียน แทม (Vivienne Tam) นำเสนอแรงบันดาลใจภายใต้แนวความคิด Romance of the East สู่ลวดลาย "ปักษาและผกาพรรณ" ("Bird and Flora") แสนหวาน สะท้อนการผสมผสานเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมเอเชียเข้ากับวัฒนธรรมตะวันตกได้อย่างลงตัว โดยความร่วมมือกับวิเวียน แทม ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจจากประสบการณ์แบบสตาร์บัคส์ ผ่านการถ่ายทอดวิจิตรของศิลป์แบบตะวันออกที่หลอมรวมกับความโมเดิร์นแบบตะวันตกลงบนผลงานสวยสะดุดตาให้แก่ลูกค้าสตาร์บัคส์ที่ชื่นชอบแฟชั่นโดยเฉพาะ

          คอลเลคชั่นสินค้าเอาใจแฟชั่นนิสต้า Vivienne Tam + Starbucks® ภายใต้แนวความคิด Romance of the East มาพร้อมกับ แก้วทัมเบลอร์ 2 ชั้น, ขวดน้ำ S'Well และกระเป๋าผ้า โดยวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2559 ที่ร้านสตาร์บัคส์ทั่วประเทศโดย สินค้าในคอลเลคชั่น ประกอบด้วย

          · Vivienne Tam + Starbucks® Double Wall Mug แก้วทัมเบลอร์ 2 ชั้น พร้อมลวดลาย "Bird and Flora" เอกลักษณ์การออกแบบของวิเวียน แทม ที่เพิ่มความสวยงามให้แก่แก้วทัมเบลอร์ซิกเนเจอร์ของสตาร์บัคส์ที่สามารถเก็บความร้อนได้ยาวนาน ราคา 1,200 บาท

          · Vivienne Tam + Starbucks S'Well® 17oz Stainless Steel Bottle ขวดน้ำสเตนเลสสตีล S'Well ขนาด 17 ออนซ์ มี 2 เฉดสีให้เลือกสรร ได้แก่ สีดำ และ สีแดง โดยขวดประดับด้วยลาย "Bird and Flora" กลางขวด เพิ่มรายละเอียดให้แก่ขวด S'Well ซึ่งมีเทคโนโลยีช่วยเก็บอุณหภูมิของเครื่องดื่มร้อนได้นาน 12 ชม. และเครื่องดื่มเย็น 24 ชม. พร้อมกันนี้ ฝาปิดผนึกสูญญากาศและผนัง 2 ชั้นยังช่วยลดการควบแน่นของน้ำและป้องกันไม่ให้ลวกมือได้อีกด้วย ราคาขวดละ 1,800 บาท

          · Vivienne Tam + Starbucks® Tote Bag – กระเป๋าผ้าพิมพ์ลาย "Bird and Flora" สีสันสดใสสวยงาม ที่ทอจากนวัตกรรมเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่ช่วยเพิ่มความคงทนให้กับเนื้อผ้า ราคา 480 บาท

          มร. เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "สตาร์บัคส์มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์ในแบบสตาร์บัคส์สำหรับลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับดีไซน์เนอร์ชื่อดังและแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลก เพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่ ในรูปแบบของสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านแฟชั่นและฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างมีสไตล์"

          เปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ เพื่อร่วมค้นหาแรงบันดาลใจเบื้องหลังลวดลายอันอ่อนช้อย ที่แฝงความทันสมัยอยู่ในผลงานได้อย่างลงตัว ไปกับ คอลเลคชั่นสไตล์ East Meets West ตามแบบฉบับวิเวียน แทม ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของสตาร์บัคส์ในการยกระดับประสบการณ์เหนือชั้น อันแปลกใหม่ ด้วยสินค้าและบริการที่เป็นเอกลักษณ์

ภาพข่าว: แจส เออเบิร์น จับมือสตาร์บัคส์ เปิดสาขาสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไดรฟ์ ทรู แห่งแรกย่านศรีครินทร์



          นายสุพจน์ วรรณา (คนซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ผู้พัฒนาโครงการศูนย์การค้าชุมชน แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ (JAS URBAN SRINAKARIN) จับมือเป็นพันธมิตรกับ นายธนาศักดิ์ กุลรัตนรักษ์ (คนขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุกิจ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟระดับโลก ในการเปิด Starbucks Drive Thru สาขาแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ เนื้อที่กว่า 400 ตรม. เพื่อเป็นแหล่งนัด พบแห่งใหม่ของทุกครอบครัวและแฟนๆ สตาร์บัคส์ในย่านศรีนครินทร์ ปลายปีนี้

ภาพข่าว: แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ จับมือสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟระดับโลก เพื่อเปิดสาขาสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไดรฟ์ ทรู แห่งแรก ย่านศรีครินทร์



          นายสุพจน์ วรรณา (คนซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ผู้พัฒนาโครงการศูนย์การค้าชุมชน แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ (JAS URBAN SRINAKARIN) จับมือเป็นพันธมิตรกับ นายธนาศักดิ์ กุลรัตนรักษ์ (คนขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุกิจ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด ในการเปิด Starbucks Drive Thru สาขาแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ เนื้อที่กว่า 400 ตรม. เพื่อเป็นแหล่งนัดพบแห่งใหม่ของทุกครอบครัวและแฟนๆ สตาร์บัคส์ในย่านศรีนครินทร์ ปลายปีนี้

          อนึ่งโครงการแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ เป็นโครงการช้อปปิ้งมอลล์แห่งที่ 3 ของบริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ต่อจากเดอะแจส วังหิน ที่เปิดตัวในปี 2557 และเดอะแจส รามอินทรา มในปี 2558 ด้วยงบลงทุนกว่า 600 ล้านบาท โครงการฯ ถูกเนรมิตให้เป็นแหล่งนัดพบแห่งใหม่บนย่านศรีนครินทร์ ที่รวมสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ครบครัน ร้านค้าแบรนด์ดังมากมาย ที่จอดรถกว่า 450 คัน ทั้งยังมีพื้นที่สีเขียวร่มรื่น เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ของลูกค้ากว่า 1 แสนครัวเรือนรอบโครงการฯ

สตาร์บัคส์ ฉลองครบรอบ 18 ปี ตอกย้ำความเป็นผู้นำวัฒนธรรมการดื่มกาแฟในประเทศไทย มุ่งสร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟเหนือระดับ ผ่าน “สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ สโตร์” แห่งแรก ณ ศูนย์การค้าเกษร







          บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) ฉลองความสำเร็จในวาระครบรอบ 18 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ประกาศความเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์วัฒนธรรมการดื่มกาแฟในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมชู 3 นวัตกรรม "เมล็ดกาแฟ – ศาสตร์และศิลปะการชง – บาริสต้า" หัวใจสำคัญในการยกระดับ "ประสบการณ์สตาร์บัคส์" อันเป็นเอกลักษณ์ โดยสตาร์บัคส์ ยังคงเดินหน้ามอบทางเลือกที่หลากหลายในการดื่มกาแฟแก้วโปรดให้กับลูกค้า พร้อมการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ตอบรับกระแสความนิยมของวัฒนธรรมการดื่มกาแฟนอกบ้านที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภคชาวไทย โดย สตาร์บัคส์ จะยังคงดำเนินธุรกิจโดยมุ่งมั่นที่จะส่งมอบกาแฟคุณภาพเยี่ยมสู่ผู้บริโภคควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ กลับคืนสู่สังคม เฉกเช่นที่ดำเนินมาตลอดระยะเวลา 18 ปี

          สำหรับ "ประสบการณ์สตาร์บัคส์" ที่ยังคงได้รับความนิยมและยอมรับจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง มาจากคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่ยอดเยี่ยมที่สตาร์บัคส์เสาะแสวงหามาจากทุกมุมโลกเพื่อมารังสรรค์เป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดให้กับลูกค้า ศาสตร์และศิลปะการชงกาแฟ และบาริสต้าที่มีความเชี่ยวชาญและความรู้ด้านกาแฟอย่างแท้จริง ในการสร้างสรรค์กาแฟแก้วพิเศษเฉพาะบุคคลให้กับลูกค้า

สิ่งที่ทำให้ "ประสบการณ์สตาร์บัคส์" มีความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ มาจากสัมพันธภาพอันยั่งยืนที่สตาร์บัคส์มีกับชาวไร่กาแฟทั่วโลก ปัจจุบันสตาร์บัคส์ได้ทำงานร่วมกับชาวไร่กาแฟกว่าล้านรายในแหล่งเพาะปลูกกาแฟชั้นเยี่ยมจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงในประเทศไทย ด้วยความสัมพันธภาพดังกล่าว ทำให้สตาร์บัคส์ สามารถนำเสนอกาแฟ Starbucks Reserve™ กลุ่มกาแฟหายาก ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม รสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และมีจำนวนจำกัด ซึ่งวางจำหน่ายเฉพาะในร้านเพียง 2,000 สาขาทั่วโลกเท่านั้น

          มร. เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จในการครองความเป็นผู้นำวัฒนธรรมกาแฟในประเทศไทยว่า "ตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ มีความภาคภูมิใจที่ลูกค้าไว้วางใจและให้เราเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการดื่มกาแฟในประเทศไทย สตาร์บัคส์ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์"ประสบการณ์สตาร์บัคส์" ที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์อย่างต่อเนื่อง ตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์การดื่มกาแฟที่หลากหลาย รวมถึงมีความสนใจเรื่องกาแฟที่เพิ่มมากขึ้น โดยเห็นได้จาก ในปี 2559 สตาร์บัคส์ ได้ให้บริการเครื่องดื่มเฉลี่ยภายในร้านสูงถึง 3.5 ล้านแก้วต่อเดือน"

          3 นวัตกรรม "เมล็ดกาแฟ – ศาสตร์และศิลปะการชง –บาริสต้า" หัวใจสำคัญในครองความเป็นผู้นำวัฒนธรรมกาแฟอย่างแท้จริง

          ในโอกาสครบรอบ 18 ปี สตาร์บัคส์ ยังได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำในวัฒนธรรมการดื่มกาแฟในประเทศไทย โดยการเปิดตัวร้านรูปแบบใหม่ Starbucks Reserve Experience Store (สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ สโตร์) แห่งแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้าเกษร เพื่อยกระดับประสบการณ์การดื่มกาแฟ ผ่าน 3 นวัตกรรม "เมล็ดกาแฟ – ศาสตร์และศิลปะการชง – บาริสต้า" มอบประสบการณ์สุดยอดกาแฟคุณภาพเยี่ยมชนิดพิเศษที่หายากและมีจำนวนจำกัด ผ่านเครื่องชงกาแฟ Victoria Arduino VA 388 Black Eagle ที่ใช้ในการแข่งขัน Barista Championship ประจำปี 2015 – 2016 รวมถึง Starbucks Reserve™ Experience Bar ที่เพิ่มความพิเศษให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มกาแฟด้วยเครื่องชงหลากหลายรูปแบบอย่างใกล้ชิด โดยมีคอฟฟี่มาสเตอร์ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านกาแฟเป็นผู้สร้างสรรค์กาแฟแก้วพิเศษให้กับลูกค้า

          ในฐานะผู้นำวัฒนธรรมการดื่มกาแฟในประเทศไทย สตาร์บัคส์ ได้ให้บริการที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ปัจจุบัน สตาร์บัคส์ มีจำนวนทั้งสิ้น 262 สาขาทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นร้าน Starbucks Coffee Leadership Store (สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ลีดเดอร์ชิพ สโตร์) จำนวน 20 สาขา โดยมีสาขา ศูนย์การค้าเกษร เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เป็นร้านสาขาต้นแบบ ร้านแบบไดร์ฟทรู จำนวน 14 สาขา และร้านสตาร์บัคส์ทั่วไปอีก จำนวน 228 สาขา ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

          ในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง สตาร์บัคส์ยังให้ความสำคัญในการเป็นผู้นำในการสร้างร้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน สตาร์บัคส์ มีร้านกาแฟสีเขียวที่ผ่านมาตรฐาน LEED® ที่เป็นมาตรฐานการออกแบบอาคารเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกให้การยอมรับ มากถึง 42 สาขา นับเป็นประเทศที่มีจำนวนร้านสตาร์บัคส์ กรีนสโตร์มากที่สุดเป็นอันดับสองในโลกรองจากสหรัฐอเมริกา

สานสัมพันธ์ผ่าน "ประสบการณ์แบบสตาร์บัคส์" แบบไร้รอยต่อ

          มร. เมอร์เรย์ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึง กลยุทธ์ในการทำให้สตาร์บัคส์กลายเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยมีโซเซียลมีเดียและมือถือได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หัวใจสำคัญของการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าสตาร์บัคส์ คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าทั้งที่ร้านสตาร์บัคส์และบนโลกโซเซียล พร้อมมอบความสะดวกในการใช้บริการสตาร์บัคส์ในทุกวัน

          ปัจจุบันมากกว่าร้อยละ 50 ของลูกค้าสตาร์บัคส์ เป็นสมาชิก My Starbucks Reward™ ลอยัลตี้ โปรแกรม ของสตาร์บัคส์ โดยมีจำนวนสมาชิก 680,000 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 23 นอกจากนี้ สตาร์บัคส์ ยังเป็นแบรนด์ร้านกาแฟรายแรกๆ ที่เปิดตัวโมบายเพย์เมนท์ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อเครื่องดื่มและสินค้าภายในร้าน สตาร์บัคส์ ซึ่งในปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดสูงถึง 450,000 ครั้ง

          "สตาร์บัคส์ ให้ความสำคัญกับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยตรงผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ยอดนิยม อย่าง Facebook ของ Starbucks Thailand มีจำนวนผู้ติดตามสูงถึง 900,000 คน ส่วน Instagram มีจำนวน ผู้ติดตามกว่า 86,000 ราย ซี่งแต่ละโพสต์นั้น ได้รับการกด Like หรือแชร์ ไม่ต่ำกว่า 1,000 ครั้ง โดยข้อมูลที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าของเราเป็นอย่างมาก อาทิ แนะนำเครื่องดื่มใหม่ หรือโปรโมชั่นโดนใจต่าง ๆ เป็นต้น โดยรางวัล Thailand Zocial Awards 2016 ในกลุ่มธุรกิจประเภท "ร้านอาหาร" ที่สตาร์บัคส์ได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้ เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์โซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

          18 ปีแห่งความมุ่งมั่นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนในชุมชน

          สตาร์บัคส์มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ผ่านการแสวงหาเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมอย่างมีจริยธรรมจากทั่วทุกมุมโลก และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแก่ชุมชนที่สตาร์บัคส์ดำเนินธุรกิจอยู่ เมื่อไม่นานมานี้ ได้ฉลองครบรอบ 3 ปีร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store) แห่งแรกในเอเชียและนอกสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งอยู่ที่สาขาหลังสวน โดยบริจาคเงินจำนวน 4,500,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้จากทุก ๆ 10 บาทในการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้วในร้านกาแฟสตาร์บัคส์สาขาหลังสวนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มอบให้แก่องค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (The Integrated Tribal Development Program: ITDP) เพื่อการพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทย นอกเหนือจากการบริจาครายได้ 5เปอร์เซ็นต์ของการจำหน่ายกาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปีที่ได้เริ่มวางจำหน่ายกาแฟพิเศษจากประเทศไทยชนิดนี้

          "สตาร์บัคส์จะยังคงรักษามาตรฐานประสบการณ์สตาร์บัคส์ที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้าในประเทศไทย ไม่ว่าเราจะมีขยายจำนวนสาขาไปกี่สาขาก็ตาม เราจะมุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับประสบการณ์ที่พิเศษในทุกวันให้กับลูกค้า และเราจะยังคงส่งมอบกาแฟคุณภาพเยี่ยมสู่มือผู้บริโภคควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ กลับคืนสู่สังคม ความสำเร็จตลอดระยะเวลา 18 ที่ผ่านมา จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดการมีส่วนร่วมของพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) สตาร์บัคส์ทุกคนที่มีเป้าหมายร่วมกันในการทำงานเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ผมขอขอบคุณทุกความตั้งใจและทุ่มเทพาร์ทเนอร์ และขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนสตาร์บัคส์ตลอดมา" มร. เมอร์เรย์ กล่าวทิ้งท้าย

สตาร์บัคส์ นำเสนอนวัตกรรมเครื่องดื่มแฟรบปูชิโน่สูตรโยเกิร์ตใหม่ล่าสุด"แมงโก้ ฟรุ้ต เจลลี โยเกิร์ต แฟรบปูชิโน่" และ "สตรอเบอรี่ ฟรุ้ต เจลลี โยเกิร์ต แฟรบปูชิโน่" พร้อมพาเหรดดริ้งค์แวร์คอลเลคชั่นสีสันสุดสนุก









           สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) ชวนสัมผัสความสดใสจากนวัตกรรมเครื่องดื่มล่าสุด ที่นำรสชาติของผลไม้ยอดนิยมผสานเข้ากับความนุ่มละมุนของโยเกิร์ตรสชาติลงตัว กับ 2 เมนูแฟรบปูชิโน่สูตรใหม่ "แมงโก้ ฟรุ้ตตี้ เจลลี่ โยเกิร์ต แฟรบปูชิโน่" (Mango Fruit Jelly Yogurt Frappuccino®) เครื่องดื่มปั่นรสหวานอมเปรี้ยวของซอส "มะม่วงอัลฟองโซ่" พันธุ์มะม่วงจากประเทศอินเดียที่ขึ้นชื่อว่าหายากและราคาแพงที่สุดในโลก ผสมโยเกิร์ตสูตรพิเศษจากฝรั่งเศส พร้อมเจลลี่และเนื้อมะม่วง มอบรสชาติของความสดชื่นสนุกสนาน และอีกหนึ่งเมนูใหม่ล่าสุด "สตรอเบอรี่ ฟรุ้ต เจลลี่ โยเกิร์ต แฟรบปูชิโน่" (Strawberry Fruit Jelly Yogurt Frappuccino®) ประสบการณ์ใหม่ของการดื่มสตรอเบอรี่ผสมโยเกิร์ต ด้วยความหวานซ่อนเปรี้ยวของสตรอเบอรี่และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ของโยเกิร์ตจากประเทศฝรั่งเศส พร้อมเจลลี่ผสมเนื้อสตรอเบอรี่ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น ด้วยสีสัน รสชาติและกลิ่นตามธรรมชาติของสตรอเบอรี่ไว้อย่างครบถ้วน สัมผัส 2 เครื่องดื่มแฟรบปูชิโน่สูตรโยเกิร์ตใหม่ล่าสุด ได้ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม – 19 กันยายน 2559 ที่ร้านสตาร์บัคส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ

          Starbucks Drinkware Collection
          สตาร์บัคส์ส่งท้ายซัมเมอร์ 2016 ด้วยดริ้งค์แวร์คอลเลคชั่นใหม่สุดสนุก ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของอาทิตย์อัสดงริมทะเล ทั้ง สีน้ำเงิน ชมพู ม่วง และส้ม ถ่ายทอดออกมาเป็นลวดลายต้นปาล์มของขายหาดแคลิฟอร์เนีย ที่เต็มไปด้วยมนต์สเน่ห์ของเมืองแห่งแสงสี เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ วันที่ 2 สิงหาคม – 19 กันยายน 2559 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่ร้านสตาร์บัคส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ     
             
          สตาร์บัคส์ ขอส่งมอบกาแฟทางเลือกรสชาติใหม่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ด้วย "เอสเพรสโซ่ ช้อยส์" กับช็อตกาแฟอาราบิก้าคุณภาพเยี่ยม "สตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์" (Starbucks Muan Jai Blend) ความภาคภูมิใจของ สตาร์บัคส์ประเทศไทย การผสมผสานระหว่างเมล็ดกาแฟพันธุ์อราบิก้าชั้นดีจากประเทศไทยและหมู่เกาะอื่น ๆ ในแปซิฟิก ให้รสชาติหนักแน่น นุ่มลึก ให้กลิ่นหอมของสมุนไพร และเครื่องเทศอ่อน ๆ โดยรสชาติที่โดดเด่นนี้ สามารถสัมผัสได้ในเครื่องดื่มหลักที่มีได้ปรุงแต่งรสชาติอย่าง ลาเต้ คาปูชิโน่ หรืออเมริกาโน่ ชื่อ "ม่วนใจ๋" เป็นภาษาคำเมือง ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นภาคเหนือที่ยังคงใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มีความหมายว่า "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" ซึ่งหมายถึงความสุขจากการดื่มกาแฟคุณภาพที่ผ่านการปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและการรับซื้อในราคายุติธรรม รวมถึงความสุขจากการได้มีส่วนร่วมในการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทย ผ่านการดื่มกาแฟม่วนใจ๋ทุกๆแก้ว

          สตาร์บัคส์ ยังคงความเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟด้วยการนำเสนอรสชาติใหม่ ๆ ผ่านการคัดสรรกาแฟจากหลากหลายมุมโลกซึ่งจะหมุนเวียนปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี ร่วมสัมผัสประสบการณ์ของรสชาติกาแฟ "เอสเพรสโซ่ ช้อยส์" ได้แล้ววันนี้ที่ร้านสตาร์บัคส์ 19 สาขา ได้แก่ สยามพารากอน สตรีท เลเวล, เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1, บ้านสีลม, เดอะ คริสตัล, หลังสวน, เอ็มควอเทียร์, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เดอะพาซิโอ ปาร์ค กาญจนาภิเษก, เดอะ ซีน ทาวน์อินทาวน์, เซ็นทรัลบางนา, เซ็นทรัลเวสต์เกต, เซ็นทรัลหาดใหญ่, ฟู้ดวิลล่า, สวนเพลิน มาร์เก็ต, เดอะสตรีท เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ 2 (Think Space), ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ และศูนย์การค้าเกษร

          Starbucks Food Menu
          สตาร์บัคส์ชวนเต็มอิ่มไปกับอาหารสุดพิเศษทุกช่วงเวลาตลอดทั้งวัน เริ่มด้วยเมนูอาหารเช้า ครัวซองท์บัน นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ครัวซองท์รูปทรงกลม ไส้ เบค่อนกรอบ ไข่ดาว และกูด้าชีส พร้อมด้วย ทาร์ตเบรคฟาสต์เบค่อนรมควันไข่ แป้งพัฟเนื้อเบา กรอบ ชั้น ๆ ใส่ไส้เบค่อนรมควัน ซอสเบชาเมล ไข่ และมอสซาเรลล่าชีส และยังมี แซนด์วิชปูอัดไข่กุ้ง ขนมปังขาวตัดขอบไส้ปูอัดคลุกเคล้ามายองเนสและไข่กุ้ง ตามด้วย เบลเยี่ยมวาฟเฟิลรสดับเบิ้ลช็อคโกแลต วาฟเฟิลสูตรเข้มข้นด้วยช็อคโกแลตชิพสูตรพิเศษของสตาร์บัคส์ช่วยเพิ่มอรรถรส

ภาพข่าว: ร่วมยินดี สตาร์บัคส์ เปิดสาขาใหม่ ที่ มธ.ศูนย์รังสิต



          รศ.เกศินี วิฑูรชาติ (กลาง) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและบริหารศูนย์รังสิต พร้อมด้วยคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะผู้บริหารหอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำโดย ผศ.เอกรินทร์ ยลระบิล ผู้อำนวยการหอสมุดฯ (ที่ 5 จากขวา) ร่วมแสดงความยินดีกับผู้บริหารบริษัท สตาร์บัคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในโอกาสเปิดร้านสตาร์บัคส์ สาขาใหม่ ณ หอสมุดป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อเร็ว ๆ นี้

สตาร์บัคส์ ชวนสัมผัสสุนทรียรสของการดื่มด่ำกาแฟรูปแบบใหม่ ด้วย Starbucks Cold Brew Coffee



          สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย)ชวนสัมผัสประสบการณ์การดื่มด่ำกาแฟรูปแบบใหม่กับ สตาร์บัคส์ โคลด์ บรู คอฟฟี่ (Starbucks Cold Brew Coffee) การบรรจงสร้างสรรค์เครื่องดื่มกาแฟดำเย็นแบบพิเศษ ที่พร้อมมอบสุนทรียรสการดื่มด่ำ รสชาติกลมกล่อม และหอมละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ จากการแช่เมล็ดกาแฟในน้ำเย็นนานกว่า 14 ชั่วโมง เพื่อสกัดรสชาติกาแฟอย่างค่อยเป็นค่อยไปให้ได้รสชาติที่มีน้ำหนัก พร้อมกลิ่นหอมของช็อกโกแลต จากเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าจากละตินอเมริกาและแอฟฟริกาที่คัดสรรมาเพื่อวิธีการชงแบบ โคลด์ บรู (Cold Brew) โดยเฉพาะ เครื่องดื่มขวัญใจแก้วใหม่สำหรับคนรักกาแฟดำ จัดจำหน่ายจำนวนจำกัดในแต่ละวัน พร้อมสัมผัสเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ โคลด์ บรู คอฟฟี่ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ ร้านสตาร์บัคส์ 104 สาขาทั่วประเทศ

สตาร์บัคส์ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วยขนมไหว้พระจันทร์หลากรสเลิศ



          สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) ส่งมอบความสุขเนื่องในโอกาสเทศกาลไหว้พระจันทร์ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติให้เลือกสรร เพื่อเป็นของฝากสำหรับคนที่คุณรัก โดยในปีนี้นอกเหนือจากขนมไหว้พระจันทร์ 5 ไส้ยอดนิยมอย่าง ไส้กาแฟสตาร์บัคส์ ไส้ชาเขียวสตาร์บัคส์และถั่วแดง ไส้ทุเรียนหมอนทอง ไส้ชอคโกแลตมิ้นท์ และไส้โหงวยิ้งแล้ว ขนมไหว้พระจันทร์สตาร์บัคส์บรรจุในกล่องลวดลายสวยงามสีแดงส้ม และสีเหลืองทอง ซึ่งเป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล มีให้เลือกบรรจุในแบบ 2 ชิ้นหรือ 4 ชิ้น โดยสามารถเลือกรสชาติตามต้องการได้ ขนมไหว้พระจันทร์ สตาร์บัคส์เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ วันที่ 18 กรกฎาคมเป็นต้นไป หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ที่ร้านสตาร์บัคส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ

สตาร์บัคส์ เปิดตัว สตาร์บัคส์ ทีวาน่า (Starbucks Teavana) รุกตลาดชายอดนิยม พร้อมฉีกประสบการณ์สุดสนุก กับการดื่มด่ำชาแบบไร้ขีดจำกัด



          สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) รุกตลาดชายอดนิยม เปิดตัว สตาร์บัคส์ ทีวาน่า (Starbucks® Teavana) เครื่องดื่มชาจินตนาการใหม่ ที่พร้อมปลุกเร้าประสบการณ์ความสนุก สดชื่นที่ร้านสตาร์บัคส์ ด้วยเครื่องดื่มชาเย็น และร้อนหลากรสชาติ และใบชาเต็มใบบรรจุในถุงผ้ากรองสำหรับชงที่บ้าน สีสันความสดใสใหม่ล่าสุด เอาใจคนรักชา และลูกค้าสตาร์บัคส์ที่ไม่ดื่มกาแฟ พร้อมจำหน่าย ณ ร้านสตาร์บัคส์ 275 สาขาทั่วประเทศ และพิเศษกับร้านทีวาน่า แฟล็กชิพ สโตร์ 5 สาขา ที่ตกแต่งด้วยพร็อพสีสันสดใส ตั้งแต่ 20 กันยายน 2559 เป็นต้นไป

          นาย เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ตลาดชานับเป็นตลาดเครื่องดื่มโลกที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากน้ำดื่ม โดยมีมูลค่าสูงถึง 125,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท ในวันนี้ เราเพร้อมเปิดตัวแบรนด์ สตาร์บัคส์ ทีวาน่า ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อเปิดวิสัยทัศน์ใหม่ของความเพลิดเพลินในเครื่องดื่มชา พร้อมนำความเชี่ยวชาญผนวกกับนวัตกรรมที่เรามีมา เพื่อมอบประสบการณ์การดื่มชารูปแบบใหม่ให้แก่ลูกค้า จากส่วนผสมชั้นเลิศ ที่ร้อยเรียงออกมาเป็นสุนทรีภาพของการดื่มด่ำชาระดับพรีเมียม ในแบบจินตนาการไร้ขีดจำกัด เหมาะสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการดื่มชา และลูกค้าที่มองหาความสดชื่นระหว่างวัน รวมถึงผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ ให้ได้เพลิดเพลินในแบบเดียวกับกาแฟสตาร์บัคส์ที่มอบความประทับใจไม่รู้จบ"

          สตาร์บัคส์ ทีวาน่า ทุกแก้ว คือผลผลิตของความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานความพิเศษของรสชาติ จากส่วนผสมที่หลากหลายอย่างลงตัว เข้ากับเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่ทันสมัย เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุก สดชื่น จากการดื่มรสชาติเยี่ยม แบบที่เหนือความคาดหมายและไม่เหมือนใคร ด้วยรสสัมผัสอันซับซ้อน จากส่วนผสมที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีในทุก ๆ แก้ว

          พร้อมกันนี้ สตาร์บัคส์ ทีวาน่า ยังคงให้ความสำคัญกับความมุ่งมั่นในการคัดสรรวัตถุดิบและส่วนผสมที่ดีที่สุด ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับชาวไร่ผู้เพาะปลูกชา เพื่อให้มั่นใจว่า สตาร์บัคส์ ทีวาน่า สามารถสนับสนุนการซื้อใบชาและพันธุ์พืชคุณภาพเยี่ยมจากทั่วทุกมุมโลก ในราคายุติธรรม โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญทำการทดสอบรสชาติชาหลายร้อยชนิดในแต่ละวัน เพื่อสรรหาชาที่ดีทีสุด สำหรับ สตาร์บัคส์ ทีวาน่า โดยเฉพาะ

          เชิญร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดสนุก พร้อมปลุกเร้าจินตนาการ การดื่มด่ำชาแบบไร้ขีดจำกัดไปกับ สตาร์บัคส์ ทีวาน่า เครื่องดื่มชาแบบชงสดที่ร้าน 4 รสชาติใหม่ไม่ซ้ำใคร และใบชาเต็มใบบรรจุในถุงผ้ากรอง 4 รสชาติ ได้ที่ร้านสตาร์บัคส์ 275 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งมีร้านทีวาน่า แฟล็กชิพ สโตร์ 5 สาขา ที่ตกแต่งด้วยพร็อพสีสันสดใสคือ เดอะ สตรีท, พาซิโอ้ กาญจนาภิเษก, วิลล่า อารีย์, สยาม สแควร์วัน และเซ็นทรัลเวลิ์ดชั้น 1 ได้ตั้งแต่ 20 กันยายน 2559 เป็นต้นไป