sianbun on June 14, 2009, 11:28:42 AM
องค์การสหประชาชาติ(U.N.) ประกาศให้วันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี เป็น World Oceans Day อย่างเป็นทางการ

องค์การสหประชาชาติ (U.N.) ได้แจ้งผ่านมายังองค์กรโอเชียน่า (Oceana) องค์กรสากลด้านการอนุรักษ์มหาสมุทร เพื่อทราบมติที่กำหนดให้วันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี เป็น World Oceans Day อย่างเป็นทางการ ภายหลังจากที่ได้มีการเสนอครั้งแรกเมื่อ 16 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการกำหนดอย่างเป็นทางการของ World Oceans Day ในครั้งนี้ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ลาแมร์ได้วางแผนจัดงานประสัมพันธ์และงาน VIP ทั่วโลกเพื่อสนับสนุนแนวทางการดำเนินการของโอเชียน่า

การตัดสินใจขององค์การสหประชาชาติ (U.N.) ในการให้การสนับสนุนแก่โอเชียน่า สืบเนื่องมาจากการสนับสนุนจากองค์กรจำนวนมาก ประกอบด้วย ลาแมร์ องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานต่างๆ ลงนามให้องค์การสหประชาชาติ (U.N.) กำหนดให้มี World Oceans Day อย่างเป็นทางการ หลังจากมีการนำเสนอครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 โดยรัฐบาลประเทศแคนาดา ณ การประชุมสุดยอดโลก (Earth Summit) ที่เมือง ริโอ เดอ จาเนโร (Rio de Janeiro) ประเทศบราซิล

แอนดรู ชาร์เพลส์ (Andrew Sharpless) CEO ของ Oceana กล่าวว่า “เรารู้สึกซาบซึ้งที่สหประชาชาติกำหนดวัน 1 วัน ให้เป็นวันทางการสำหรับพื้นที่ร้อยละ 71 ของโลก การกำหนดให้มี World Oceans Day อย่างเป็นทางการ จะช่วยให้เราและกลุ่มอนุรักษ์มหาสมุทรต่างๆ เชิญชวนผู้คน และเพิ่มการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในความพยายามต่อสู้กับความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศทางทะเล”

จากข้อมูลขององค์การอาหารและเกษตรกรรมแห่งสหประชาชาติ (FAO) พบว่า 3 ใน 4 ของพื้นที่โลกที่สามารถทำประมงได้ ถูกใช้ประโยชน์มากเกินไป พันธุ์สัตว์น้ำลดจำนวนลงจำนวนมาก และกำลังอยู่ในช่วงฟื้นคืนสภาพ ชาร์เพลส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ข่าวดีคือ มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ของเรากำลังได้รับการฟื้นฟู ซึ่งถือเป็นความท้าทายทางนิเวศวิทยาระดับโลกที่เราต้องให้ความใส่ใจ”

ปณิธานของลาแมร์ ในการที่จะพิทักษ์มหาสมุทร เริ่มขึ้นเมื่อ ดร. แมกซ์ ฮูเบอร์ ผู้ก่อตั้งลาแมร์ ได้ค้นพบพลังแห่งการฟื้นฟูผิวจากสาหร่ายทะเลแห่งมหาสมุทรแปซิฟิกอันเป็นแหล่ง กำเนิดตำนาน Miracle Broth อันเป็นหัวใจสำคัญของ Crème de la Mer   ดังนั้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร. แมกซ์ ฮูเบอร์  ลาแมร์ภูมิใจในการสนับสนุนโอเชียน่า องค์กรสากลด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งท้องทะเล ปีนี้ลาแมร์และโอเชียน่าจึงประกาศความร่วมมือพิเศษเพื่อยกระดับวัน    World Oceans Day 2009
 

และในการเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้ลาแมร์จึงสร้างสรรค์ “World Oceans Day” Crème ได้แก่ Crème de la Mer ชุด Limited Edition ขนาด 250 มิลลิลิตร โดยมอบรายได้สุทธิจากการจำหน่ายให้แก่โอเชียน่าทั้งหมด ซึ่ง “World Oceans Day” Crème นี้ จะวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายนศกนี้ เฉพาะที่เคาน์เตอร์ อะแควเรียม ลาแมร์ ห้างเซ็นทรัล ชิดลม

รายได้สุทธิทั่วโลกจากการจำหน่าย “World Oceans Day” Crème จะเป็นทุนสำรองสำหรับช่วยเหลือโอเชียน่า ในการรณรงค์เพื่อพิทักษ์ถิ่นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล และเพื่อช่วยเหลือคณะสำรวจแรนเจอร์ (Ranger Expedition) ปี 2009 ของโอเชียน่า ในการพิทักษ์แหล่งทรัพยากรอันทรงคุณค่าที่สุดของโลก ซึ่งก็คือมหาสมุทรของเรานั่นเอง การอนุรักษ์มหาสมุทรเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับลาแมร์   และด้วยความรับผิดชอบต่อมหาสมุทร การเก็บเกี่ยวสาหร่ายทะเลเฉพาะส่วนยอดที่สูงไปถึงผิวน้ำ ทำให้ลาแมร์สามารถช่วยรักษาระบบนิเวศของป่าสาหร่ายใต้ทะเลให้ดำรงอยู่ และปกป้องพืชทะเลชนิดนี้ไว้เพื่อคนรุ่นต่อไป

 “ก่อนที่จะได้พบกับคณะทำงานผู้อุทิศตัวขององค์กรโอเชียน่า ผมเคยคิดว่า การคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดต่อมหาสมุทรของเราคือมลภาวะ” แอนดี้ บีแวคกัว (Andy Bevacqua) รองประธานฝ่ายวิจัยและพัฒนาของห้องปฏิบัติการ สถาบันวิจัย แมกซ์ ฮูเบอร์ และสมาชิกของคณะกรรมการโอเชียน่ากล่าว “แต่หลังจากใช้เวลาร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ของโอเชียน่าในเรือคณะสำรวจแรนเจอร์ ผมคิดว่าสิ่งคุกคามมหาสมุทรที่ร้ายแรงยิ่งกว่าคือ การประมงที่มากเกินไป ในการร่วมมือกันระหว่างลาแมร์ และโอเชียน่า ทำให้ผมได้เข้าใจว่า วิธีเดียวที่เราจะบรรลุวัตถุประสงค์ และทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ก็คือการทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และภาคอุตสาหกรรม”