wmt on June 23, 2010, 10:56:09 AM
เรื่องย่อ: เจ้าสาวไร่ส้ม     
 
 
        เรื่องย่อ เจ้าสาวไร่ส้ม
          บทประพันธ์ โดย เฟื่องนคร
          บทโทรทัศน์ โดย กษิดินทร์ แสงวงศ์           
          กำกับการแสดง โดย ปกาสิต กิ่งศักดิ์

          การัณย์กรณ์ ศรอภิวัฒน์ (ณัฐรัฐ โมริส - เลอกรอง) ต้องตกใจแทบล้มทั้งยืน เมื่อได้รู้ข้อความในพินัยกรรม ซึ่ง นายศร ศรอภิวัฒน์ (เศรษฐา ศิระฉายา) คหบดีผู้เป็นพ่อได้ทำไว้ ก่อนจะเสียชีวิต ข้อความในพินัยกรรมระบุว่า การัณย์กรณ์จะได้ครอบครองทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่แบ่งให้เขาได้ ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนสมรสแต่งงานกับ น.ส. ขวัญล่า นาบุญยืน (พัชรินทร์ จัดกระบวนพล) ผู้จัดการไร่ส้มของพ่อเขา
สาเหตุที่นายศรต้องทำพินัยกรรมพิลึกพิลั่นแบบนี้ เพราะความเหลวไหลของการัณย์กรณ์เอง ด้วยเพราะเป็นน้องคนสุดท้องของแฝดพี่สองสาว แสงดาว (ปรารถนา บรรจงสร้าง) และแสงเดือน (ปาริฉัตร ไพรหิรัญ) จึงถูกเอาใจเป็นพิเศษ ทำให้การัณย์กรณ์กลายเป็นคนไม่จริงจังกับอะไรทั้งสิ้น เอาแต่เที่ยวเตร่ไปวันๆ ทำธุรกิจก็โดนโกง แถมยังติดเล่นพนันบอล จนถูกเจ้าหนี้ตามล่าตัวอีก เท่านั้นไม่พอการัณย์กรณ์ยังโปรยเสน่ห์ให้สาวๆ ไปทั่ว นายศรจึงตัดสินใจว่า ขวัญล่า คือคนๆ เดียวที่จะดัดนิสัยลูกชายของเขาได้

          แต่เพียงเจอหน้ากันครั้งแรก เธอรู้สึกสังเวชในตัวเขา แม้หน้าตาเขาจะหล่อเหลา แต่กลับดูหยิบโหย่ง ปากคอยังเราะร้าย ส่วนการัณย์กรณ์รู้สึกทันทีว่า เขาไม่มีทางจะแต่งงานกับสาวผิวคล้ำ แถมหน้าตาจืดชืดคนนี้ได้แน่ๆ การพบกันครั้งแรก แม้จะทำให้การัณย์กรณ์ไม่ค่อยพอใจนัก แต่เขาก็จำต้องพยายามทำให้ขวัญล่ายอมแต่งงานกับเขา โดยหวังว่าหลังจากจดทะเบียนสมรส เขาจะขอหย่าขาดจากเธอทันที
แค่วันแรกที่การัณย์กรณ์มาที่ไร่ ก็มีปัญหา เพราะเขาถูกให้ไปนอนบ้านริมบึง และเมื่อตื่นขึ้นมาใกล้เที่ยง หิวจนแสบท้อง จึงตัดสินใจเดินออกไปหาก๋วยเตี๋ยวกินที่ถนนใหญ่หน้าไร่ แต่เดินมาถึงกลางทางก็ทนพิษแดดบวกกับความหิวไม่ไหว จึงเป็นลมทรุดลงกับพื้นถนน ระหว่างนั้นรถสองคันก็วิ่งเข้ามาหยุดตรงการัณย์กรณ์ รถคันหนึ่งเป็นของ ปารวาตี (ชาลิสา บุญครองทรัพย์) สาวสวยวัยยี่สิบกว่าๆ ลูกสาวเจ้าของไร่ส้มและรีสอร์ตที่อยู่ติดกับไร่ของคุณศร ส่วนรถอีกคันหนึ่ง เป็นของ สกุลทิพย์ เมอร์เซอร์ (สกาวใจ พูลสวัสดิ์) แม่ม่ายผัวฝรั่ง เพิ่งหย่าขาดกัน และได้แบ่งสมบัติจากผัวมามากจนตั้งตัวได้ ทั้งสองสาวลงมาดูร่างของการัณย์กรณ์ที่แน่นิ่งอยู่กับพื้น

          ระหว่างนั้น ที่ไร่ส้ม เมื่อขวัญล่ากลับมา ก็พบกับชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง มารอทวงหนี้พนันบอลจากการัณย์กรณ์ ขวัญล่ามาตามหาการัณย์กรณ์จึงรู้ว่าการัณย์กรณ์หายตัวไป หลังจากเจรจาขอนัดกลุ่มชายฉกรรจ์ให้มาใหม่ในวันหลังแล้ว ขวัญล่าก็ชวน กิตติชนม์ (พิศาล ศรีมั่นคง) นักวิชาการเกษตรที่ไร่ของปารวาตีซึ่งสนิทกับเธอ ออกตามหาจนพบที่บ้านของสกุลทิพย์ พอทั้ง 2 สาว เจอกัน ก็เกิดการโต้เถียงกันยกใหญ่ เพราะรู้ว่าสกุลทิพย์ต้องการอะไรจากการัณย์กรณ์

          วันต่อมา ขวัญล่าเอาร่างสัญญาจ้างงานมาให้การัณย์กรณ์เซ็น เธอยินดีจะเอาเงินของไร่กว่าสองแสนบาทใช้หนี้พนันบอลให้เขา แต่เขาจะต้องยอมทำงานเป็นลูกจ้างในไร่ การัณย์กรณ์จำ ต้องยอมเซ็นสัญญา ขวัญล่าเริ่มบังคับให้การัณย์กรณ์ออกทำงานในไร่ให้สมกับค่าจ้าง แต่ด้วยการที่เป็นหนุ่มผิวบาง เขาจึงทำงานได้เพียงนิดๆหน่อยๆ แล้วก็ต้องหลบเข้าร่ม ทำให้ขวัญล่าหงุดหงิด และเหมือนจะหมดหวังที่จะเปลี่ยนแปลงการัณย์กรณ์ โชคดีที่ คมสันต์ (ณัฐนันท์ จันทรวิโรจน์) เพื่อนสนิทของการัณย์กรณ์ ทนายประจำตระกูลให้บ้านของการัณย์กรณ์ ช่วยเจรจาขอร้องขวัญล่าให้อดทนกับเพื่อนเขา และเห็นแก่คุณศร

          ขวัญล่าตั้งใจจะเริ่มต้นใหม่ดีๆ กับการัณย์กรณ์ แต่อุปสรรคคนใหม่ก็ตามมาราวี แคทรีน่า (ธนิดา กาณจนวัฒน์) ดารานางร้ายในละคร แฟนเก่าของ ณัฐีร์ (นพเก้า โกเจริญกิจ) ที่ร่วมหุ้นลงทุนเปิดผับกับการัณย์กรณ์ ที่ตอนนี้แคทหันมาสนใจการัณย์กรณ์ โดยหวังจะปล่อยให้การัณย์กรณ์เป็นอิสระ ด้วยการแกล้งทำเป็นว่าเธอท้องกับการัณย์กรณ์ แคทขอให้ขวัญล่าเห็นแก่เด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะต้องลำบาก ขวัญล่านึกสงสารเด็ก จนเกือบจะจดทะเบียนกับการัณย์กรณ์ แผนการของแคทเกือบจะสำเร็จ แต่โชคดีที่ วรวีย์ (ชนิสาร์ บังคมเนตร) ลูกสาวของป้าสาย ปิดเทอมกลับมาพักผ่อนที่บ้าน ล่วงรู้ความลับนี้ แล้วเปิดโปงให้ขวัญล่ารู้ความจริง

          ต่อมา การัณย์กรณ์ถูกเคี่ยวเข็ญให้ออกไปทำงานตัดหญ้าในไร่ แต่เขาก็ยังคงแอบงีบเหมือนเดิม ขวัญล่ามาพบเข้าก็ต่อว่าและสบประมาทการัณย์กรณ์อย่างรุนแรง ทั้งคู่จึงแก้เผ็ดกันไป-มา โดยการัณย์กรณ์ชวน ก่อลาภ (วิชัย จงประสิทธิ์พร) เด็กคนงาน ขับรถของไร่หนีไปเที่ยวน้ำตก ขวัญล่าเอาคืนด้วยการแจ้งตำรวจว่าการัณย์กรณ์ขโมยรถ การัณย์กรณ์ถูกตำรวจจับไปนอนเล่นในห้องขังเลยทีเดียว....
เวลาผ่านไปการัณย์กรณ์เริ่มเข้าใจในตัวขวัญล่ามากขึ้น แม้เขาจะทำตัวแย่ขนาดไหน แต่เธอก็ยังเป็นห่วงเขา โดยเฉพาะช่วงที่การัณย์กรณ์ป่วย แต่แคทโทรกลับไปรายงานแสงดาวกับแสงเดือนว่า การัณย์กรณ์ป่วยหนัก แสงดาวกับแสงเดือนจึงบังคับให้คมสันต์ไปพาตัวการัณย์กรณ์กลับกรุงเทพฯ เขาจึงจำเป็นต้องกลับไป แต่ก็ให้สัญญาขวัญล่าว่า เขาจะกลับมาช่วยเก็บส้มเมื่อถึงเวลา แสงดาวกับแสงเดือนไม่ยอมให้การัณย์กรณ์กลับไปอยู่ที่ไร่อีก เธอพร้อมจะชดใช้เงินสองแสนให้ขวัญล่า ส่วนเรื่องพินัยกรรม ก็จะให้ทนายพิสูจน์ว่าพ่อของเธอ มีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ขณะทำพินัยกรรม แต่ก็ไม่สำเร็จ

          การัณย์กรณ์กลับมาที่ไร่ ทันเวลาเริ่มเก็บผลส้ม คราวนี้เขาเปลี่ยนเป็นคนละคน แม้จะต้องทำงานกลางแดด แต่การัณย์กรณ์ก็ไม่บ่นสักคำ ขวัญล่าทึ่งในความเปลี่ยนแปลงนี้ และกำลังจะรู้สึกดี แต่ไม่ทันไร ปารวาตีก็แวะมาเยี่ยมที่ไร่ และคิดจะจับการัณย์กรณ์เพื่อหวังนำเงินมาใช้หนี้แทนพ่อตน แต่การัณย์กรณ์ก็ไม่เล่นด้วย กลับผลักให้คมสันต์แทน ความจริงแล้ว ปารวาตีก็รู้สึกดีกับคมสันต์ แต่เพราะถูกแม่สั่งให้จับการัณย์กรณ์ให้ได้นั่นเอง

          แต่อุปสรรคของทั้งคู่ยังไม่หมด เมื่อสกุลทิพย์ ปราณี (แม่ของปารวาตี) และแคท ต่างก็เห็นพฤติกรรมของการัณย์กรณ์ ก็ต้องการกำจัดขวัญล่า แต่ความสัมพันธ์ของการัณย์กรณ์กับขวัญล่าดีขึ้นเรื่อยๆ แต่แคทและสกุลทิพย์ก็ยังเทียวมากวนอารมณ์ขวัญล่าอยู่ตลอด แต่ก็จะถูกขวัญล่าตอกหน้ากลับไปทุกครั้ง โดยมีการัณย์กรณ์คอยเชียร์ ยิ่งทำให้ทั้งสองสาวแค้นมากขึ้น

          วันหนึ่งพ่อของขวัญล่าป่วยหนัก และคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน พ่อขวัญล่าจึงขอให้ตามหาแม่ให้เจอ ซึ่งแม่ของขวัญล่าก็คือ ป้าสมจิตร แม่บ้านที่อยู่ดูแลบ้านให้การัณย์กรณ์นั่นเอง คมสันต์เอาเรื่องนี้ไปคุยกับป้าสมจิตร แต่ป้าสมจิตรปฏิเสธ เธอทิ้งลูกมาเป็นสิบปี อายที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับทุกคน คมสันต์จึงต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ แต่เหมือนฟ้าบันดาล ป้าสมจิตรเกิดอุบัติเหตุ การัณย์กรณ์จึงต้องกลับไปดูแล เมื่อป้าสมจิตรรู้ว่าพ่อของขวัญล่าอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน เธอจึงยอมบอกความจริง แต่สมจิตรก็ยังไม่ยอมกลับบ้าน

          กระทั่งถึงงานเลี้ยงวันเกิดและงานปีใหม่ของไร่ ทั้งคู่ได้ตกเป็นของกันและกัน จนเช้าวันรุ่งขึ้น ขวัญล่าตัดสินใจจะปลดปล่อยให้การัณย์กรณ์เป็นอิสระ เธอจะยอมจดทะเบียนกับเขา ซึ่งพ่อของขวัญล่า ก็ฝากขวัญล่ากับเขา การัณย์กรณ์รับปากว่าเขาจะดูแลขวัญล่าให้ดีที่สุด แต่เขาขอกลับกรุงเทพฯไปทำธุระอีกเรื่องหนึ่ง แล้วจะกลับมาแต่งงานกับขวัญล่า ข่าวเรื่องการแต่งงานของทั้งคู่เป็นที่ล่ำลือไปทั่ว สร้างความไม่พอใจให้กับแคทและสกุลทิพย์มาก สองคนหันมาจับมือกัน หาทางกำจัดขวัญล่า ทั้งสองได้ไปว่าจ้างวัยรุ่นที่เคยมีเรื่องกับขวัญล่าและยังเจ็บแค้น ให้ไปทำร้ายขวัญล่าพอให้ได้อาย แต่อย่าถึงกับฆ่าแกง

          คืนหนึ่ง ระหว่างที่ขวัญล่ากลับจากไปทำธุระที่ตัวจังหวัด วัยรุ่นสองคนก็ออกติดตามขวัญล่า เมื่อมาถึงกลางทาง วัยรุ่นก็ขับมอเตอร์ไซค์เข้าขนาบข้างรถขวัญล่า แถมเธอไม่ได้เอาปืนมาอีก กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งไร่ส้มปั่นป่วนกันไปหมด เพราะขวัญล่าไม่ได้กลับมาที่ไร่ การัณย์กรณ์กลับมาถึง พอรู้เรื่องก็ยิ่งร้อนรน แต่แล้วก็ได้รับโทรศัพท์จากขวัญล่า บอกว่าเธออยู่ที่โรงพัก ทุกคนประหลาดใจ

          แต่เหตุการณ์ที่แท้จริง คือเธอสามารถจัดการกับกลุ่มวัยรุ่นและจับมัดไว้ แต่เธอก็สลบไป จนชาวบ้านมาพบเข้า การัณย์กรณ์ดีใจมากที่ขวัญล่าไม่เป็นอะไร เขารู้สึกผิดที่ทิ้งเธอไป เพราะเขาไปเอาของขวัญแต่งงานมาให้ นั่นคือ ป้าสมจิตรนั่นเอง ทันทีที่ขวัญล่าเห็น น้ำตาก็พรั่งพรูออกมา แล้วเธอก็วิ่งเข้าไปกอดแม่ของเธอทันที ขวัญล่าพาแม่ไปพบพ่อ ทั้งคู่ต่างให้อโหสิกรรมแก่กัน

          ไม่นาน พ่อของขวัญล่าก็เสียชีวิตลง งานแต่งงานของการัณย์กรณ์ถูกจัดขึ้น เป็นงานแต่งงานที่เป็นตำนานของชาวไร่ส้มเลยทีเดียว คมสันต์และปารวาตีก็ได้ลงเอยกัน สองสาวนางร้าย แคท และสกุลทิพย์ หลังจากถูกซัดทอดจากแก๊งวัยรุ่นว่าทั้งสองเป็นผู้จ้างวาน ตำรวจก็เข้าจับกุมและดำเนินคดีกับทั้งสอง

          ไร่ส้มหวานหวานของการันต์กรณ์และขวัญล่า ได้รับการพัฒนาปรับปรุงต่อไป มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมให้เป็นรีสอร์ทแบบโฮมเสตย์ พร้อมกับทำแปลงสาธิตไร่นาสวนผสม กลายเป็นศูนย์อบรมย่อยๆของจังหวัด แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่มาพักที่นี่ เพราะอยากจะได้เจอ หนุ่มเพลย์บอยกับสาวชาวไร่มากกว่า

          ติดตามชมละครเรื่อง “เจ้าสาวไร่ส้ม” ทางช่อง 3 เร็วๆ นี้

wmt on June 23, 2010, 10:58:43 AM
คาแรกเตอร์ตัวละคร เจ้าสาวไร่ส้ม
 
           การัณย์กรณ์ ศรอภิวัฒน์ หรือ กรณ์ แสดงโดย ณัฐรัฐ – โมริส เลอกรอง ชายหนุ่มรูปหล่อ มีเสน่ห์กับสาวๆ แถมยังปากหวาน เป็นลูกชายคนสุดท้องของ นายศร ศรอภิวัฒน์ มหาเศรษฐี ด้วยความที่ถูกเอาใจมาแต่เล็ก จึงกลายเป็นคน ไม่เอาไหน ได้แต่เที่ยวเตร่เปลี่ยนสาวควงไปวันๆ ทำธุรกิจก็ถูกเพื่อนโกงจนล่มจม เมื่อนายศรป่วยใกล้จะสิ้นใจ จึงตัดสินใจดัดนิสัยลูกชาย ด้วยการระบุในพินัยกรรมว่า การัณย์กรณ์ จะได้ครอบครองทรัพย์สินมรดก ก็ต่อเมื่อจดทะเบียนสมรสแต่งงานกับขวัญล่า ผู้จัดการไร่ส้มของเขา         
         
          ขวัญล่า นาบุญยืน หรือ ขวัญ หรือ ล่า แสดงโดย น้ำฝน-พัชรินทร์ จัดกระบวนพล หญิงสาวแกร่งไม่เคยยอมแพ้ใคร แต่ก็มีน้ำใจไมตรีให้กับทุกคน ขวัญล่าไม่ได้มีหน้าตาสวยนัก แถมผิวยังออกคล้ำ แต่ความที่เป็นคนดีมีน้ำใจ จึงเป็นที่รักของทุกคนนายศรรับขวัญล่ามาเลี้ยงดูตั้งแต่เล็กๆ และส่งเสียจนเรียนจบปริญญา จนได้กลับมาทำงานเป็นผู้จัดการไร่ส้ม นายศรให้ความไว้วางใจขวัญล่ามาก จนเห็นว่า เธอเป็นคนๆ เดียวที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงลูกชายของเขา ขวัญล่ารู้เรื่องก็ตกใจมาก แต่เพราะความกตัญญูที่มีต่อนายศร และเห็นว่าหากไม่รับปาก นายศรก็คงจะนอนตายตาไม่หลับแน่ๆ
         
          คมสันต์ แสดงโดย ท็อป-ณัฐนันท์ จันทรวิโรจน์ เพื่อนสนิทของการัณย์กรณ์ คมสันต์เป็นลูกชายของทนายความประจำตระกูล ศรอภิวัฒน์ แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าพินัยกรรมของคุณศรออกจะพิลึกพิลั่น แต่พฤติกรรมของเพื่อนเขา ก็สมควรจะต้องได้รับการดัดนิสัยเหมือนกัน แม้ว่าลึกๆแล้ว คมสันต์ รู้สึกดีกับขวัญล่ามานาน แต่เขาก็ต้องตัดใจ ต่อมา คมสันต์ได้รู้จักกับปาวารตี ที่หมายมุ่งแย่งชิงการัณย์กรณ์จากขวัญล่า คมสันต์จึงช่วยกันให้ แต่ไปๆมาๆ เขากลับมารักปาวารตี เพราะสงสารเธอที่ถูกแม่บังคับใจ แต่คมสันต์ไม่รวย แม่ของปาวารตีจึงไม่ชอบเขา         

          ปารวาตี แสดงโดย หมิง-ชาลิสา บุญครองทรัพย์ ลูกสาวของนายองอาจและนางปราณี เจ้าของไร่ส้มและรีสอร์ทข้างๆ ไร่ของคุณศร และเป็นคหบดีคนหนึ่งของจังหวัด ปาวารตีถูกเลี้ยงมาเหมือนนกน้อยในกรงทอง เธอเป็นหญิงสาวที่น่าสงสาร แม้จะมีชายหนุ่มดีๆผ่านเข้ามา ก็จะถูกแม่กีดกัน และบงการให้แย่งชิงการัณย์กรณ์มาจากขวัญล่าให้ได้ แต่โชคดีที่คมสันต์ได้เข้ามาในชีวิตของเธอ และกลายเป็นตัวอย่างคู่รักที่พร้อมจะทำทุกอย่างให้กัน ทำให้การัณย์กรณ์ได้สำนึก

        แคทรีน่า หรือ แคท แสดงโดย จินนี่ - ธนิดา กาญจนวัฒน์ ดาราสาว รับบทนางร้ายในละครจนมีชื่อเสียง เดิมแคทเป็นแฟนกับณัฐีร์ ทั้งสองร่วมหุ้นกับการัณย์กรณ์เปิดผับ ต่อมาทั้งสองเลิกกัน แคทจึงหันมาสนใจการัณย์กรณ์แทน เพราะหวังมรดก เลยอาสาที่จะช่วยให้เขาเป็นอิสระจากเงื่อนไขในพินัยกรรม โดยแสดงว่าเธอตั้งท้องกับการัณย์กรณ์ ขอให้ขวัญล่าเมตตา ปล่อยเขาให้เป็นอิสระ แต่ต่อมาเมื่อการัณย์กรณ์รู้ว่าแคทอยากจะจับเขา เขาจึงพยายามหนี           

          กิตติชนม์ แสดงโดย ใหม่- พิศาล ศรีมั่นคง ชายหนุ่ม ทำงานเป็นนักวิชาการเกษตรในไร่ของปาวารตี กิตติชนม์แอบชอบปาวารตี และปาวารตีเองก็เหมือนจะมีใจให้เขา แต่แม่ของปาวารตีไม่ยอมเด็ดขาด กิตติชนม์จึงต้องยอมรับ กิตติชนม์เป็นเพื่อนที่ดีที่คอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษากับขวัญล่าอยู่เสมอ บางครั้งก็ช่วยเล่นละครเป็นแฟนขวัญล่า เพื่อพิสูจน์ใจการัณย์กรณ์

          วรวีร์ แสดงโดย อุ้ม- ชนิสาร์ บังคมเนตร ­ ลูกสาวของป้าสาย แม่บ้านในไร่ของขวัญล่า วรวีร์กำลังเรียนปริญญาตรี ปีสุดท้าย เธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิทของขวัญล่า ด้วยความที่เป็นสาวสมัยใหม่ วรวีร์ จึงสนิทสนมกับผู้ชายไปทั่ว แต่ลึกๆ แล้ววรวีร์แอบชอบกิตติชนม์ วรวีร์มีส่วนช่วย สานสัมพันธ์ระหว่างการัณย์กรณ์และขวัญล่าโดยตลอด บางครั้งเมื่อขวัญล่าแข็ง วรวีร์ก็จะช่วยให้ความแนะนำที่ดี ทำให้ขวัญล่าอ่อนลง
         
สกุลทิพย์ เมอร์เซอร์ แสดงโดย อ๋อม - สกาวใจ พูลสวัสดิ์ แม่ม่ายสาว เดิมทำงานบริการอยู่ที่พัทยา โชคดีได้แต่งงานกับฝรั่ง สกุลทิพย์ได้เงินจากสามีมาลงทุนซื้อที่ดินใกล้ๆกับไร่ของคุณศร ต่อมาก็เลิกกับสามีฝรั่ง แล้วมาดูแลไร่ลำพัง สกุลทิพย์มักจะทำตัวให้สาวอยู่เสมอ แต่ผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ล้วนเข้ามาหวังเงินของเธอ เมื่อได้ข่าวว่าลูกชายของคุณศร จะได้มรดกไร่ส้มทั้งหมด เธอก็สนใจทันที และตัดสินใจว่า การัณย์กรณ์จะต้องเป็นผู้ชายในสังกัดคนใหม่ของเธอ         

          ก่อลาภ แสดงโดย เอก-วิชัย จงประสิทธิ์พร เด็กหนุ่มคนงานในไร่ขวัญล่า ก่อลาภเหมือนเป็นเด็กเอ๋อ แต่จริงๆ แล้วเพราะการเลี้ยงดูที่ไม่ดีมาแต่เด็ก จึงทำให้ก่อลาภสมองช้ากว่าคนอื่น แต่หลายๆครั้งความเห็น ที่เป็นไปอย่างซื่อๆของก่อลาภ ก็ทำให้ขวัญล่าอดคิดตามไม่ได้เหมือนกัน การัณย์กรณ์ได้ก่อลาภเป็นเพื่อนสนิท และบางทีก็ถูกการัณย์กรณ์หลอกใช้           

          ขวัญใจ แสดงโดย หมวย ชวนชื่น พี่สาวของขวัญใจ ขวัญใจแต่งงานกับนายถวัลย์หัวหน้าคนงาน มีลูกด้วยกันหนึ่งคน เป็นเด็กชายวัย 4 ขวบ ขวัญใจเป็นเหมือนตัวอย่างชีวิตหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา ที่ขวัญล่าไม่อยากให้ตัวเองเป็นอย่างนั้น

          ถวัลย์ แสดงโดย วีระชัย หัตถ์โกวิท พี่เขยของขวัญล่า สามีของขวัญใจ เดิมถวัลย์ทำงานอยู่ในไร่ของนายองอาจ ต่อมาเมื่อมารักกับขวัญใจ และแต่งงานกัน ก็ย้ายมา ทำงานกับเขา แม้ถวัลย์จะมีความรู้เรื่องไร่ส้มดี แต่ก็เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่ไม่ได้เรียนสูง จึงไม่มีความคิดที่จะพัฒนาสำหรับขวัญล่า ถวัลย์ถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการดูแลไร่ และบังคับบัญชาคนงานในไร่

          ณัฐีร์ แสดงโดย สอง-นพเก้า โกเจริญกิจ ชายหนุ่มเพื่อนของการัณย์กรณ์ และคนรักเก่าของแคท ณัฐีร์บริหารงานผับ ที่การัณย์กรณ์ร่วมลงทุน จนเจ๊งไม่เป็นท่า เขาพยายามจะขอให้แคทกลับมาหาเขา แต่ก็ถูกปฏิเสธ

แสงดาว แสงเดือน แสดงโดย กล้วย - ปรารถนา บรรจงสร้าง ก้อย - ปาริฉัตร ไพรหิรัญ พี่สาวฝาแฝดของการัณย์กรณ์ แสงดาวกับแสงเดือนเป็นเหมือนแม่ของการัณย์กรณ์ เพราะรับผิดชอบดูแลเลี้ยงดูการัณย์กรณ์มาตลอด ตั้งแต่แม่ของพวกเขาตายไป แต่การเลี้ยงดูของพี่สาวทั้งสองกลับมีส่วนทำให้การัณย์กรณ์เสียคน เพราะทั้งสองเอาใจการัณย์กรณ์ตลอด ยอมน้องทุกอย่าง เรื่องการแต่งงานของการัณย์กรณ์ กับขวัญล่านั้น พี่ทั้งสองไม่เห็นด้วยเลย แต่ต้องจำยอมเพราะรักพ่อ ในตอนหลัง เมื่อแคทมาเป่าหูว่าทุกอย่างเกิดจากแผนร้ายของขวัญล่า พี่สาวทั้งสองจึงทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้การรัณย์กรณ์แต่งงานกับขวัญล่า
 
          คุณศร ศรอภิวัฒน์ (รับเชิญ) แสดงโดย ต้อย -เศรษฐา ศิระฉายา มหาเศรษฐีวัย 65 ปี คุณศรได้ซื้อที่ดินไว้เมือสิบปีก่อน แล้วเริ่มทำไร่ส้ม หวังว่าเมื่อถึงบั้นปลายชีวิต เขาก็จะวางมือจากธุรกิจ และใชัชีวิตอย่างสงบสุขที่นี่ แต่การทำไร่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด จนคุณศรได้พบกับครอบครัวของ ขวัญล่า และเข้าอุปการะเลี้ยงดูขวัญใจกับขวัญล่า เมื่อคุณศรล้มป่วยและรู้ว่าตนเองอยู่ได้อีกไม่นาน เขาก็นึกห่วงอนาคตของลูกชายคนสุดท้อง คุณศรจึงขอร้องให้ขวัญล่าช่วยเขาเป็นครั้งสุดท้าย   

          นายหลอด แสดงโดย เปี๊ยก -สมมาตร ไพรหิรัญ ชายวัยหกสิบกว่าๆ นายหลอดเป็นพ่อของขวัญล่า ในสมัยหนุ่มๆ นายหลอด เอาแต่กินเหล้าและเล่นการพนัน จนทะเลาะตบตีขวัญจิตร แม่ของขวัญล่า ในที่สุด ขวัญจิตรก็ทนไม่ไหว ต้องหนีออกไปจากบ้าน นายหลอดจึงต้องเลี้ยงลูกแต่เพียงลำพัง เด็กทั้งสองเติบโตขึ้นมาอย่างอดๆอยากๆ เพราะนายหลอดก็ยังคงกินเหล้าเมายา เหมือนเดิม จนนายศรมาพบเข้า แล้วขอเอาเด็กทั้งสองมาเลี้ยง

          ป้าสมจิตร แสดงโดย ปู-ปริศนา กล่ำพินิจ นางสมจิตร ชื่อเดิมคือ ขวัญจิตร หญิงวัยห้าสิบกว่าๆ ภรรยาของนายหลอด หลังจากหนีออกจากบ้าน สมจิตรไปมีสามีใหม่ ทั้งสองไม่มีลูกด้วยกัน ต่อมาสามีใหม่เสียชีวิต สมจิตรจึงต้องอยู่ตามลำพัง วันหนึ่งเธอประสบอุบัติเหตุถูกรถชน การัณย์กรณ์ขับผ่านมาพอดี จึงพาป้าสมจิตรไปรักษาพยาบาล และชวนให้ไปดูแลบ้านเขา ต่อมาเมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่การัณย์กรณ์จะต้องแต่งงานด้วย คือลูกสาวของเธอ ป้าสมจิตรก็มีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงความคิดของการัณย์กรณ์ที่มีต่อขวัญล่าด้วย                                         

          ป้าสาย แสดงโดย แป้ง-นนท์ หาญตระกูล หญิงวัยห้าสิบปี มาช่วยทำงานเป็นแม่บ้านในไร่ของขวัญล่า เมื่อการัณย์กรณ์ ย้ายมาอยู่ที่ไร่ ก็ได้ป้าสายเป็นคนคอยช่วยเหลือ การัณย์กรณ์ก็เอาใจประจบป้าสาย จนสองคนสนิทกัน แม้ขวัญล่าจะพยายามห้ามไม่อยากให้ป้าสายเอาใจการัณย์กรณ์ แต่ป้าสายก็ไม่สนใจ ซึ่งจริงๆแล้ว กลับเป็นเรื่องดี เพราะป้าสายเป็นเหมือนคนที่ช่วยผ่อน ไม่ให้ความสัมพันธ์ของการัณย์กรณ์ตึงจนขาดไป