KTAM ลุยพลังงานทั่วโลกเปิดขายกองทุน KT-Energy ลงทุนในบริษัทพลังงานชั้นนำ
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์ ( KTAM World Energy Fund : KT-Energy) ในวันที่ 10 - 30 มิถุนายน 2552 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยกองทุน KT-Energy เป็นกองทุนที่ลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในกองทุนรวมหลัก BGF World Energy Fund บริหารโดย BlackRock หนึ่งในบริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน BGF World Energy Fund มีขนาดกองทุนประมาณ 91,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน เมษายน 2552) นอกจากนี้ กองทุนยังได้รับการจัดอันดับ AA ทั้งจาก S&P และบริษัทชั้นนำด้านกองทุนรวมของอังกฤษอย่าง Old Board Street Research Fund Ratings Service (OBSR) กองทุนรวมหลักจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่ประกอบธุรกิจด้านการสำรวจ พัฒนาผลิต และจัดจำหน่ายพลังงาน ซึ่งรวมถึงพลังงานทางเลือก ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนรวมหลักสามารถหาโอกาสการลงทุนในกลุ่มพลังงาน ได้ตามความต้องการโดยไม่ถูกจำกัดด้วยมูลค่าตลาด ภูมิศาสตร์ และรูปแบบการลงทุน
นายสมชัย กล่าวต่อไป กองทุน BGF World Energy บริหารโดย นาย Robin Batchelor ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น1 ใน 20 ผู้จัดการกองทุนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ที่จัดอันดับโดย Forbes Magazine ในปี 2544 และยังมีทีมงานด้านทรัพยากรธรรมชาติที่มีประสบการณ์ทั้งด้านการเงินและธรณีวิทยาเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในระดับโลก โดยมีทรัพย์สินภายใต้การจัดการเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับทรัพยากรธรรมชาติสูงถึง 600,000 ล้านบาท
การลงทุนในกองทุนดังกล่าว มีความน่าสนใจต่อการลงทุน เนื่องจาก กองทุน KT-Energy เปิดโอกาสให้นักลงทุนรับผลตอบแทนจากทั้งราคาหุ้นพลังงานชั้นนำ ซึ่งขึ้นอยู่กับผลประกอบการ และการขยายตัวของบริษัท และการปรับขึ้นของราคาพลังงานในหนึ่งเดียว โดยจากข้อมูลในอดีต พบว่าเมื่อราคาพลังงานเพิ่มขึ้น หุ้นในกลุ่มพลังงานมักเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน และมีแนวโน้มปรับตัวสูงกว่า เมื่อตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เชื่อว่ากองทุนจะได้รับประโยชน์จากที มงานผู้จัดการกองทุน ที่แข็งแกร่งของ BlackRock ศักยภาพที่โดดเด่นของบริษัทด้านพลังงานที่กองทุนหลักลงทุน รวมถึงแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานที่ยังคงมีอยู่สูงเมื่อเทียบกับปริมาณผลิตในระยะยาว ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามูลค่าหลักทรัพย์ในกลุ่มพลังงาน ได้ปรับตัวลดลงมาอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ในฐานะตัวแทนสนับสนุนการขาย นายปวิณ รอดลอยทุกข์ ผู้อำนวยการสายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวว่า การกลับมาของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น จากสภาวะตลาดที่ผ่านมา เรากำลังจะเข้าสู่ช่วงของการพักและสร้างฐาน นักวิเคราะห์ซิตี้เชื่อว่าการปรับตัว ลงในช่วงหน้าร้อนของประเทศสหรัฐฯ (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม) น่าจะเป็นโอกาสในการลงทุน
หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนหุ้นให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด ในระยะแรกของการเติบโต คือการลงทุนกลุ่มธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทั่วโลกมีงบการลงทุนโดยรวมเฉลี่ยถึงปีละ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทุกๆปีจนถึงปี 2558 และมากกว่าครึ่งของงบการลงทุนจะอยู่ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ การเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ เกิดใหม่ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น และทำให้เกิดปัญหาคอขวดในโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจ น้ำมัน ดังนั้นเราคาดว่าจะมีเม็ดเงินของบริษัทน้ำมันใหญ่และบริษัทน้ำมันแห่งชาติเข้ามาลงทุนในโครงสร้าง พื้นฐานของธุรกิจน้ำมัน
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์นี้เป็นหนึ่งในการลงทุนที่น่าสนใจ ซึ่งนักลงทุนทุกท่านจะต้องมีวินัยในการประเมินพอร์ต และตัดสินใจลงทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และความเสี่ยงที่รับได้ นายปวิณสรุป