ครั้งแรกของเมืองไทย
โรดสเตอร์พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20
BMW Z4 sDrive23i E20
ที่งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 31
26 มีนาคม – 6 เมษายน นี้
กรุงเทพฯ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยเตรียมเปิดตัว BMW Z4 sDrive23i E20 ซึ่งเป็นโรดสเตอร์พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 คันแรกของเมืองไทย (BMW Z4 sDrive23i ราคา 4,399,000 บาท และ BMW Z4 sDrive23i Highline ราคา 4,799,000 บาท) ที่งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน นี้
มร. คาร์ล รูดิเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่สนับสนุนนโยบายการใช้พลังงานทางเลือก เราจึงได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 เพิ่มขึ้น ซึ่ง BMW Z4 sDrive23i E20 จะเป็นโรดสเตอร์พลังงานทางเลือกรุ่นแรกของเมืองไทย ในขณะนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย มีไลน์ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ที่เหนือชั้นทั้งในด้านสมรรถนะ ความประหยัดน้ำมัน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสนับสนุนพลังงานทางเลือกด้วย สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่นที่มีจำหน่ายในขณะนี้ สามารถเติมน้ำมันไบโอดีเซล B5 ได้ และในครั้งนี้ เราได้นำเสนอรถยนต์เบนซินพลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่สนับสนุนนโยบายการใช้พลังงานทางเลือกถึง 5 รุ่น ได้แก่ BMW 730Li, BMW Z4 sDrive23i, BMW 325i Sport, BMW 320i SE และ BMW 318i เพิ่มเติมจากไลน์รถยนต์เครื่องยนต์เบนซินของบีเอ็มดับเบิลยูที่มีจำหน่ายในขณะนี้ ซึ่งเติมน้ำมันก๊าซโซฮอล์ E10”
BMW Z4 sDrive23i E20
ครั้งแรกของเมืองไทยกับโรดสเตอร์พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20
BMW Z4 sDrive23i E20 เป็นสุดยอดแห่งสปอร์ตโรดสเตอร์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics และสามารถใช้พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 ได้ อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สง่างาม ผสมผสานความคลาสสิกแนวโรดสเตอร์ขนานแท้เข้ากับความสปอร์ตล้ำสมัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้มันสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศด้านดีไซน์ยอดเยี่ยมมาแล้วถึง 2 รางวัล คือ รางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยมจากงาน Red Dot Design Award และรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยม Eyes On Design Award ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้น มันยังมาพร้อมกับอารมณ์การขับขี่สไตล์สปอร์ตโรดสเตอร์เต็มรูปแบบ ด้วยการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุล 50:50 หน้า:หลัง และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง นอกจากระบบขับเคลื่อนที่เหนือชั้นแล้ว มันยังมีความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยเข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เช่น หลังคาแบบ Retractable Hardtop น้ำหนักเบาสามารถเปิดหรือปิดในเวลาเพียง 20 วินาที อีกทั้งยังสามารถใส่ถุงกอล์ฟได้ถึง 2 ใบ (ขณะหลังคาปิด) สำหรับผู้ขับขี่ที่รักความสปอร์ตของรถแบบโรดสเตอร์แต่ยังคงหลงใหลในกีฬากอล์ฟโดยเฉพาะ
BMW Z4 sDrive23i E20 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร / 2,750 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 7.3 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 11.3 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 207 กรัมต่อกิโลเมตร (ตามมาตรฐาน EU)
iDrive ศูนย์บัญชาการข้อมูล CIC Car Infotainment Computer
สั่งการระบบข้อมูลแผนที่นาวิเกเตอร์ โทรศัพท์ และระบบเอนเตอร์เทนเมนท์
BMW Navigation System Professional +DVD + Bluetooth + iPod USB Connector
BMW Z4 sDrive23i Highline มาพร้อมกับระบบข้อมูลแผนที่นาวิเกเตอร์ ระบบบลูธูทเชื่อมโทรศัพท์มือถือ และระบบเอนเตอร์เทนเมนท์สำหรับดูหนังฟังเพลง สามารถควมคุมสั่งการได้อย่างง่ายๆ ผ่านระบบศูนย์บัญชาการข้อมูล iDrive เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งระบบ iDrive ใหม่นี้ใช้ตรรกะการใช้งานง่าย พร้อม 7 ปุ่ม Shortcut เชื่อมตรงเข้าระบบที่ใช้งานบ่อยๆ เช่น ระบบนาวิเกเตอร์ ระบบโทรศัพท์ และระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถโปรแกรมปุ่ม favorite เพื่อเลือกใช้งานสิ่งที่ตนเองใช้งานบ่อยๆ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ สถานีเพลงที่ชอบ และอื่นๆ
ระบบ BMW Navigation System Professional เป็นระบบนำทางที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน ทำงานบนฮาร์ดดิสก์ขนาด 80 กิ๊กกะไบท์ ประมวลผลได้อย่างรวดเร็วทันใจ ฮาร์ดแวร์ของระบบ BMW Navigation System Professional สามารถรองรับซอฟแวร์แผนที่แบบสามมิติความละเอียดสูง แสดงผลผ่านจอมอนิเตอร์ความละเอียดสูง 1280x480 พิกเซล แสดงแผนที่ได้หลายมุมมอง และสามารถแยกจอแสดงผลเป็นสองส่วนได้
นอกจากระบบ CIC จะเป็นศูนย์รวมข้อมูลและระบบสั่งการของรถ เช่น ระบบ On-board Computer ระบบการตั้งค่าการทำงานต่างๆ (ยกตัวอย่างเช่น ระบบล็อคประตู ระบบ follow me home ระบบไฟเลี้ยว) ยังรวมถึงระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ผ่านระบบ DVD สำหรับดูหนังฟังเพลง อีกทั้งยังสามารถ ‘rip’ เพลงที่ชอบเก็บในระบบฮาร์ดดิสก์ได้อีกด้วย และผ่านระบบ iPod USB Connector ที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPod และ iPhone ได้
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์ BMW, MINI และ Rolls-Royce และรถมอเตอร์ไซค์ BMW เรามีเครือข่ายการผลิต 24 แห่งใน 13 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีเครือข่ายจำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ในปีค.ศ. 2009 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปมียอดขายรถยนต์ 1.29 ล้านคันและรถมอเตอร์ไซค์ 87,000 คัน มีรายได้ 50.68 ล้านยูโร และมีพนักงาน 96,000 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนั้นเรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยการคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิต และจากความมุ่งมั่นและความพยายามอย่างไม่ลดละ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปจึงได้รับการจัดอันดับให้เป็น The World’s Most Sustainable Car Manufacturer โดยสถาบัน Dow Jones ใน 5 ปีที่ผ่านมา