“นิทรรศการแสดงภาพเขียนหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร"

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  เสด็จฯ เป็นประธานงาน  “นิทรรศการแสดงภาพเขียนหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร" เทิดพระเกียรติหม่อมเจ้ามารศีฯ ศิลปินไทยแนวเซอร์เรียลลิสต์ชั้นนำในต่างแดนชื่นชมภาพฝีพระหัตถ์ ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง ๒๙ มีนาคม ศกนี้ ที่สยามพารากอน

 






สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารีเสด็จเป็นประธานเปิดงาน "นิทรรศการแสดงภาพเขียน หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร" ในชื่อ "MARSI" จัดโดย มูลนิธิ หม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ร่วมกับ บริษัท สยาม พารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บริษัท ไทย เบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด มหาวิทยาลัยศิลปากร และสำนัก ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ณ ฮอลล์ ออฟ มิเรอร์ ชั้นเอ็ม ศูนย์การค้าสยามพารากอน

หม่อมราชวงศ์ชิษณุสรร  สวัสดิวัตน์ ประธานกรรมการมูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์  บริพัตร กล่าวว่า "การจัดนิทรรศการภาพเขียนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานของหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร และส่งเสริมการศึกษาด้านศิลปะในประเทศไทย โดยนิทรรศการนี้ได้รวบรวมผลงานจิตรกรรมแนว เซอเรียลลิสต์ ตลอดชีวิตการทำงานของท่านหญิงมาจัดแสดงให้ชมมากที่สุดเป็นครั้งแรกถึง ๓๕ ภาพ ทั้งนี้ มูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เข้าชมนิทรรศการนอกจากจะได้ความจรรโลงใจจากภาพเขียนที่งดงามของ ท่านหญิงแล้ว ยังจะได้ศึกษาหลักการวาดภาพจิตรกรรมยุคเรอเนอซองซ์ ซึ่งแสดงออกถึงจินตนาการและ จิตใต้สำนึกอย่างอิสระ อีกทั้งยังสะท้อนอารมณ์ความรู้สึก ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และหาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน  ที่ผ่านมาท่านหญิงได้จัดนิทรรศการต่างๆ ใน ประเทศฝรั่งเศสหลายครั้ง อาทิ นิทรรศการ  Salon Comparaisons  ณ Musée  de l’ Art  Moderne  และในนิทรรศการ  Figuratif  de  l’ Imaginaire  Surreal ในกรุงปารีส แต่ผลงานของท่านหญิงยังคงไม่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากนัก เคยจัดแสดง ที่หอศิลป์พีระศรีเพียง ๑ ครั้ง เมื่อหอศิลป์ พีระศรีสร้างเสร็จใหม่ๆ"

หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นพระธิดาพระองค์เดียวของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุมภฎพงษ์ บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต และหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ (เทวกุล) บริพัตร  ประสูติเมื่อวันที่  ๒๕  สิงหาคม  พ.ศ. ๒๔๗๔  ณ วังบางขุนพรหม เมื่อทรงจบการศึกษาจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย เสด็จ ไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และประเทศเสปน ได้รับปริญญาเอกสาขาวรรณคดี จากมหาวิทยาลัย ณ กรุงปารีส ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ และต่อมาได้ทรงรับปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์ ศิลปะ จากมหาวิทยาลัยแห่งมาดริด ประเทศเสปน ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒

คุณจิตตี รังควร พระสหายที่เติบโตมาด้วยกันกับท่านหญิง เล่าว่า "เสด็จในกรมไม่เคยบังคับให้ท่านหญิง วาดภาพ แต่จะทรงนำอุปกรณ์วาดเขียนต่างๆ มาไว้ใกล้ตัวท่านหญิง ซึ่งท่านหญิงก็ให้ความสนใจหยิบ มาขีดๆ เขียนๆ และวาดการ์ตูนเป็นเฟรมให้คุณจิตตีอ่านและช่วงสมัย ที่ท่านหญิงต้องเสด็จไปอยู่อังกฤษ ในฤดูหนาวเด็กๆ ไม่สามารถเล่นกลางแจ้งได้ก็จะไปโรงหนังกัน เมื่อท่านหญิงกลับมาท่านก็จะจำบทหนัง มาแสดงเล่นกับคุณจิตตี และเมื่อได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว ท่านหญิงก็ได้แสดงต่อหน้าพระพักต์ ในหลวง ก็ทรงตรัสว่า ดีจัง อีกหน่อยไม่ต้องเช่าหนังมาดูแล้ว นั่นคือความสนใจทางด้านศิลปะของท่านหญิงซึ่ง เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยเด็กๆ”

ดร.กมล ทัศนาญชลี  ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์  ปี พ.ศ. 2540 ได้กล่าวถึงผลงานของท่านหญิงไว้ว่า    “ผลงานของท่านหญิงเป็นแนวเซอร์เรียลลิสติกแต่ท่านหญิงสามารถฝ่าฟันข้ามกำแพงใหญ่อย่าง Salvador Dali, Max Ernst หรือ Rene Maeritte ไปได้ ซึ่งศิลปินหลายคนในแนวทางนี้มักจะได้รับ อิทธิพลกันแต่กับผลงานของท่านหญิงนั้นท่านได้ทรงศึกษาลงลึกถึงรากเหง้าของเซอร์เรียลลิสต์ ไปยังจุดเริ่มต้นอย่าง Hieronymus Bosch (1450-1516) ศิลปินชาวเนเธอแลนด์ เป็นยุคเดียวกับ ขรัวอินโข่งในบ้านเรา ซึ่งผม ประหลาดใจอย่างมากว่าท่านสามารถฟันฝ่าด่านใหญ่ที่ศิลปินหลาย คนมักติดอยู่ไปได้อย่างไร อีกทั้งยังสามารถพัฒนาจนกลายเป็นแนวทางของตนเองได้เมื่อได้มา ชมงานของท่านหญิงจะได้พบกับความอุตสาหะ ความฝันและจินตนาการอันแรงกล้าและโดยการ ทำงานของท่านหญิงที่ศึกษาเจาะลึกลงไปถึงรากเหง้า การทำงานอย่างต่อเนื่องและพัฒนาผลงาน ของตนเองจนกลายเป็น เอกลักษณ์ก็เป็นแบบอย่างอันดีให้กับศิลปินและนักศึกษาศิลปะรุ่นใหม่ๆ”   

Michel Steve สถาปนิกชาวฝรั่งเศสสหายคนสนิทของท่านหญิง  ได้ออกแบบนิทรรศการในครั้งนี้โดยการ จำลองบรรยากาศอันรื่นรมย์ของสตูดิโอทรงงาน ณ เมืองอาน็อต มาไว้ให้ใกล้เคียงกับของจริง ทุกวัน สุดสัปดาห์ ระหว่างเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. จะมีการบรรเลงเพลงโปรดของท่านหญิง อาทิ บาค โมซาร์ต    บีโทเฟน และให้บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มที่ท่านหญิงโปรดปราน ผู้ที่สนใจท่านใดหากอยากชมภาพ เขียนชั้นเยี่ยมของศิลปินชาวไทยในระดับนานาชาติ ขอเชิญชวนให้มาชมนิทรรศการในครั้งนี้ ภายในงาน จัดจำหน่ายของที่ระลึกและหนังสือรวบรวมภาพเขียนฝีพระหัตถ์ที่ท่านหญิงทรงสะสมมาตลอดพระชนม์ชีพ รายได้ทั้งหมดสมทบทุนมูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการศึกษา ด้านศิลปะและสงเคราะห์สัตว์พิการ

หมายเหตุ

มูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์  บริพัตร ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม  ๒๕๕๒ ตามพระประสงค์ของ หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ด้วยความร่วมมือจากพระญาติและพระสหายผู้ใกล้ชิด  เพื่อส่งเสริมการ ศึกษาด้านศิลปะในประเทศไทยและดำเนินกิจกรรมสงเคราะห์สัตว์ต่างๆ  มูลนิธิฯ ได้จัดนิทรรศการแสดง ภาพเขียน “MARSI” ขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ และมีโครงการจัดแสดงนิทรรศการในหอศิลป์ทั่วประเทศ อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อสานต่อพระปณิธานของหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ ในการส่งเสริมการศึกษา ด้านศิลปะ 

นิทรรศการแสดงภาพเขียนของหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร จะจัดแสดงไปตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่

๒๙ มีนาคม ๒๕๕๓ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ น.- ๒๐.๐๐น. ณ ฮอลล์ ออฟ มิเรอร์ ชั้นเอ็ม ศูนย์การค้าสยาม พารากอน ภายในงานยังมีการจำหน่่ายบัตรอวยพรและหนังสือรวบรวมภาพฝีพระหัตถ์ของ ม.จ.

มารศีสุขุมพันธุ์  บริพัตร นอกจากนี้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ยังมีการแสดงดนตรีโดยได้คัดเลือกบทเพลง  ทีท่านหญิงมารศีโปรดพร้อมเสิร์ฟอาหารว่าง  บริการฟรีให้แก้ผู้เข้าร่วมชมนิทรรศการอีกด้วย 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร

กุลยา กาศสกุล  ๐๘๙ ๗๗๗ ๐๕๔๑ วรชัย รัตนดวงตา๐๘๓ ๐๓๓ ๐๑๖๑

E mail: marsi.foundation@gmail.com