เจ็ตสกีโลกภูเก็ต ปั้นกลยุทธ์เที่ยว
ส่งเสริมระบบใหม่ “ใช้ไฟฟ้า” เสนอความสวยงามไปทั่วโลก ชูมุมมองใหม่น้ำทะเลใสๆสู่ฝั่ง
รมว.พิพัฒน์ ไอเดียเจ๋ง ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ดันกีฬาเจ็ตสกีขับเคลื่อนโปรเจ็ค “รักษ์โลก” เพื่อมีส่วนเป็นผู้นำของเรือชนิดต่างๆ เดินหน้าสู่แนวคิดการลดคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการมุ่งสู่การใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า แทนการใช้เครื่องยนต์ให้ท้องทะเลภูเก็ต โดยริเริ่มโครงการกลยุทธ์ WGP#1 Offshore World Championship 2023 - PHUKET หรือการแข่งขันเจ็ตสกีระยะทางไกล นอกชายฝั่ง ชิงแชมป์โลก ณ ชายหาดเครือโรงแรม ลากูน่า ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 16-19 มีนาคม 2566 กำหนดให้พัฒนาเป็นการแข่งขันไฟฟ้า 100% ภายใน 3-5 ปี และปั้นให้เกิดประโยชน์ชาติที่ยั่งยืน ทั้งเป็น “จุดหมายกีฬาโลกทางน้ำ” และใช้นำเสนอความสวยงามเกาะภูเก็ต ในมุมมองใหม่ จากน้ำทะเลใสๆสู่ฝั่ง นำเสนอความถี่เพิ่มบนสื่อทั่วโลก ซึ่งจะออกอากาศหลักทาง EUROSPORT ทั่วยุโรป บนฐานการรับชมกว่า 155 ล้านครัวเรือน
จากการแถลงข่าวในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย มร.พอล วิลสัน รองกรรมการผู้จัดการ ลากูน่า ภูเก็ต และนายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเม้นท์วอเตอร์เจ็ต WGP#1 ณ ห้องแถลงข่าวชั้น 24 การกีฬาแห่งประเทศไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า “ทัวร์นาเม้นท์ WGP#1 Offshore World Championship 2023 – PHUKET หรือ การแข่งขันเจ็ตสกีระยะทางไกล นอกชายฝั่ง ชิงแชมป์โลก ณ ชายหาดเครือโรงแรม ลากูน่า ภูเก็ต จะเป็นโครงการกิจกรรมที่สร้างสรรค์ประโยชน์หลายด้าน ได้แก่ การสร้างหมุดหมายระดับโลกทางน้ำ หรือ “World Destination”, ใช้กิจกรรมเสนอภาพที่สวยงามไปยังสื่อทั่วโลกเช่น EUROSPORT ที่มีฐานการรับชมกว่า 155 ล้านครัวเรือน และยังเป็นโครงการที่มีเป้าหมายด้าน “รักษ์โลก” ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ โดยโครงการจะมีส่วนเป็นผู้นำใช้เจ็ตสกีไฟฟ้า 100% แทนการใช้เครื่องยนต์ภายใน 3-5 ปี ซึ่งเป็นต้นแบบให้กับเรืออื่นๆด้วย”
ด้านนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับด้านกีฬานั้น กีฬาเจ็ตสกีก็ประสบความ สำเร็จอย่างสูงในการเป็นต้นแบบ การพัฒนาแบรนด์กีฬาไทยสู่เวทีโลก แบรนด์ WGP#1 ของไทย ได้รับความเชื่อถือเป็นสนามเจ็ตสกีเก็บคะแนนชิงแชมป์โลก มีสื่อดังๆ ทั่วโลกให้ความเชื่อถือ จุดนี้ จึงเป็นทั้งการสร้างชื่อเสียงประเทศไทยอีกด้านหนึ่ง ซึ่งกิจกรรมนี้ก็เป็นการต่อยอดนำแบรนด์กีฬาไทยที่ได้รับความเชื่อถือบนเวทีโลก มาสร้างประโยชน์ให้ชาติมากยิ่งขึ้น” มร.พอล วิลสัน รองกรรมการผู้จัดการ ลากูน่า ภูเก็ต เปิดเผยว่า ลากูน่า ภูเก็ต ซึ่งได้รับเลือกเป็นศูนย์กลางกิจกรรม รู้สึกภาคภูมิใจที่จะได้ร่วมสร้างกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อภูเก็ต ทั้งการประชาสัมพันธ์ การเป็นจุดหมายระดับโลก และส่งเสริมกิจกรรมที่มีบทบาทเพื่อการลดคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเป็นรูปธรรม ลากูน่า ภูเก็ต มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการรองรับกิจกรรมระดับนานาชาติ มีความพร้อมด้านที่พัก, ห้องประชุม, ฟิตเนส บริการต่างๆ รวมถึงสนามกอล์ฟด้วย สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ แบ่งเป็นกิจกรรมรอบเกาะ ที่เน้นนำเสนอความสวยงาม 1 วัน ในวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2566 และการแข่งขันโปร ชิงแชมป์โลก 2 วัน ในวันเสาร์ที่ 18 และอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 ซึ่งออฟชอร์ ใช้เส้นทางแข่งขันนอกชายฝั่ง ห่างฝั่งประมาณ 2-3 กิโลเมตร เป็นจุดที่มีการสัญจรทางน้ำน้อย ระหว่าง “ชายหาดลากูน่า ถึง แหลมพรมเทพ” กำหนดวิ่งไปกลับ 2 รอบ 120 กม. มี มร.ชองค์ บรูโน พาสโตเลโล แชมป์โลกเจ็ตสกีระยะทางไกล ชาวฝรั่งเศษ เป็นเต็งหนึ่ง ข้อมูลข่าวสาร https://drive.google.com/drive/folders/14Ac9x40SLgLxTrx1s3QGnGrJhNyPzdcT?usp=sharing
https://drive.google.com/file/d/1EK4tVvqswirCtVbjXmV0Oal72pOE3teg/view?usp=sharing