ทายาทซัมมิทเทงบ 500 ล้านบาท เตรียมผุด “โมโนโพลี พาร์ค” เอ็กซ์พีเรียนซ์มอลล์แห่งแรกย่านพระราม 3
วุฒิภูมิ จุฬางกูร ทายาทซัมมิท ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ของไทย เทงบ 500 ล้านบาท ผุดโครงการ “โมโนโพลี พาร์ค” แหล่งพักผ่อนหย่อนใจแนวใหม่แห่งแรกและแห่งเดียวในย่านพระราม 3 เจาะตลาดวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ โดยชูจุดเด่นเป็นศูนย์รวมร้านอาหารชื่อดังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 4 ของปีนี้
นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจแม็กซ์ โมโนโพลี จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ “โมโนโพลี พาร์ค” กล่าวว่า โมโนโพลี พาร์ค ที่เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘The Experience Mall’ คือเป็นสถานที่ ที่ให้ความรู้สึกใหม่ในการพักผ่อน ให้ประสบการณ์ความสุขอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีความแตกต่าง จากศูนย์การค้าทั่วไปตั้งแต่สถาปัตยกรรมภายนอกที่แปลกตาไปจนถึงบรรยากาศภายในที่ผ่อนคลาย พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย
“จุดเด่นของโมโนโพลี พาร์ค คือการรวมร้านอาหารชื่อดังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ได้มีสาขาอยู่ทั่วไป เพื่อให้ผู้ที่อาศัยในย่านพระราม 3 และบริเวณใกล้เคียงสามารถมารับประทานได้โดยไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงอีกมุมเมือง นอกจากนี้ยังมีบริการด้านสุขภาพ ความงาม การเงิน รวมทั้งบริการอื่นๆ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตการพักผ่อนแบบสบายๆ ของครอบครัวยุคใหม่”
โมโนโพลี พาร์ค อยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ เชิงสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ด้านถนนพระราม 3 ใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท โดยจะมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด 3 ชั้น รวมพื้นที่ใช้สอยทั้งโครงการ 6,734 ตารางเมตร อัตราค่าเช่าขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และตำแหน่ง โดยผู้ค้าที่เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ภายในเดือนมิถุนายน จะได้รับอัตราค่าเช่าพิเศษ เริ่มต้นที่ 600 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน เฉลี่ยที่ 700 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
“ย่านพระราม 3 ถือเป็นทำเลที่ตั้งที่เป็นทำเลทอง เพราะมีทั้งแหล่งชุมชนและโครงการที่อยู่อาศัยไม่น้อยกว่า 2 แสนหลังคาเรือน มีอาคารสำนักงานอยู่มากมาย จากประชากรราว 5 แสนคนซึ่งเปนกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง อีกทั้งการเดินทางสะดวก อยู่ใกล้กับใจกลางย่านธุรกิจ เช่น สาทร สีลม สุขุมวิท โดยใช้เวลาเดินทางแค่ 10-15 นาที นอกจากนี้ ย่านนี้ยังไม่มีศูนย์การค้าในลักษณะเดียวกับโครงการของเรามาตั้งอยู่เลย จึงเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง” นายวุฒิภูมิกล่าว
“ด้วยความพร้อมของโครงการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุน ที่ดิน จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการในการลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ มีทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับโครงการได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วเกือบร้อยละ 90 เป็นโครงการที่เสร็จตามกำหนด และพร้อมเปิดให้บริการแน่นอน ขายพื้นที่จริง มีโครงสร้างจริง ไม่ใช่ขายฝัน ขายกระดาษ” นายวุฒิภูมิกล่าวทิ้งท้าย