happy on June 06, 2022, 10:57:11 PM
Soft Power ไทยที่ขับเคลื่อนผ่านผลิตภัณฑ์ Thai SELECT

              อาหารไทย ยังคงเป็นอาหารที่มีมนต์เสน่ห์ในตัวเองด้วยพื้นฐานของวัตถุดิบ เครื่องปรุง และรสชาติที่แตกต่าง และบางครั้งยังแฝงเรื่องราวที่น่าสนใจไปสู่ผู้รับประทานด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Soft Power อันทรงพลังของไทยที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก แต่ไม่ใช่แค่เพียงอาหารไทยที่ปรุงสุกใหม่จากร้านอาหารเท่านั้นที่ได้รับความนิยม ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันทำให้อาหารไทยสำเร็จรูปเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคต่างประเทศ สามารถรับประทานอาหารไทยที่ยังคงคุณค่าของรสชาติและคุณภาพเอาไว้ได้อย่างดี ซึ่งทุกปีจะมีผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อรับมอบตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โดยสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการการันตีให้ผู้บริโภคทั่วโลกได้มั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวว่าจะมีรสชาติตามต้นตำรับอาหารไทยอย่างแน่นอน

ตอบโจทย์คนไทยและคนเอเชียในต่างแดน

              ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน ข้าวเหนียวน้ำกะทิมะม่วง ข้าวเหนียวเปียกลำไย และข้าวเหนียวมูน เป็นอาหารหวานยอดนิยมของคนไทยมาทุกฤดูกาล ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยที่ไปอาศัยอยู่ต่างประเทศคงจะคิดถึงรสชาติอาหารหวานเหล่านี้อยู่ไม่น้อย และวันนี้ แบรนด์ ดิลิเชียส เดสติเนชั่น (Delicious Destination) ได้ตอบโจทย์ความต้องการนั้นแล้ว ด้วยการส่งผลิตภัณฑ์แช่เยือกแข็งกลุ่มนี้ไปเสิร์ฟกันถึงต่างประเทศ พร้อมประทับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT สร้างความเชื่อมั่นให้แบรนด์อาหารไทยได้เป็นอย่างดี




              นายไกรธวัช ศรีเบ็ญจรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลเคมมิสท์ จำกัด เล่าว่า "จากจุดเริ่มต้นของการทำฟาร์มผลไม้ส่งออกในนาม FINNLAND SMART FARM ที่ส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่ให้ใช้เทคโนโลยีในการควบคุมดูแลจนได้ผลผลิตคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน ต่อยอดสู่การพัฒนาแปรรูปผลไม้และถนอมอาหารภายใต้ชื่อ Delicious Destination เพื่อส่งต่อความสดอร่อยของผลไม้ไทยแท้ หลากหลายรสชาติสู่ตลาดโลก โดยทางบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีแช่เยือกแข็งเพียง 5 นาทีในการแปรรูปผลิตภัณฑ์กลุ่มข้าวเหนียวเพื่อส่งออก ซึ่งหลังจากนำเข้าไมโครเวฟ 800 วัตต์ เพียงแค่ 2 นาที แม้จะทิ้งไว้จนเย็นแต่ยังคงความนุ่มของข้าวเหนียว รสชาติเข้มข้น และคุณค่าทางโภชนาการไว้ถึง 95% ถือเป็นการแก้ Pain Point ของข้าวเหนียวอย่างแท้จริง ส่วนตัวเนื้อผลไม้เองก็ไม่เละ ไม่เปลี่ยนรูป แม้จะผ่านความร้อน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยและชาวเอเชียทั่วโลกได้รับประทานอาหารเหล่านี้ประหนึ่งได้เดินทางมาทานที่เมืองไทยโดยตลาดเป้าหมายสำคัญ อาทิ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ส่วนโซนยุโรปจะส่งสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เนเธอร์แลนด์ซึ่งสามารถกระจายสินค้าไปได้แทบทุกประเทศในยุโรป และตลาดตะวันออกกลาง ส่วนสหรัฐอเมริกายังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้นำเข้า




              บริษัทใช้เวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้่ประมาณ 1 ปีครึ่ง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน อีกทั้งยังเล็งเห็นโอกาสเติบโตในต่างประเทศที่มีค่อนข้างสูงหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ต้องการใช้เวลาทำอาหารทานที่บ้านและอยู่กับครอบครัวมากขึ้น จริงๆ แล้วอาหารไทยนั้นไม่ว่าจะคาวหรือหวานก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในต่างประเทศอยู่แล้ว แต่อาจจะเกิดปัญหาเรื่องคุณภาพของผู้ผลิตซึ่งควบคุมได้ยากเนื่องจากมีผู้ผลิตหลากหลายในตลาดทั้งจากประเทศไทยและประเทศอื่นๆ เมื่อผู้บริโภคซื้อไปรับประทานแล้ว ไม่พึงพอใจเท่าที่ควร จึงมักจะเหมารวม ส่งผลให้เกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์อาหารไทย ด้วยเหตุนี้ ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จึงช่วยการันตีในคุณภาพ รสชาติตามต้นตำรับไทยแท้ และสร้างความเชื่อมั่นในให้แก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นการสร้างความเข้มแข็งของการส่งออกสินค้าอาหารไทยสำเร็จรูปในภาพรวม”

ปลาเค็มรวน..อาหารไทยโบราณไปนอก

              จากธุรกิจกงสีร้านเครื่องเขียนรายใหญ่ของจังหวัดชุมพรและกาฬสินธุ์ และการเป็นตระกูลที่ออกเรือมาหลายชั่วอายุคนที่สมุทรสาคร แต่พอมาเจอกับสถานการณ์โควิด-19 และการเติบโตที่ชะงักลงของธุรกิจการศึกษาทำให้​ นางสาวไพรินทร์​ อัศวทวีโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริน อินเตอร์ฟู้ด จำกัด​ เปลี่ยนวิธีคิดและหาธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต จึงหันกลับมามองที่ความชื่นชอบและความคุ้นเคยกับอาหารทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ปลาอินทรีเค็ม" ที่กลายเป็นตัวเลือกแรกของการพัฒนาสินค้า เพื่อตอบโจทย์ Pain Point เรื่องกลิ่นเมื่อต้องนำไปประกอบอาหาร ผนวกกับการใช้องค์ความรู้เรื่องการรวนปลาเค็มซึ่งถือเป็นกรรมวิธีโบราณตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จากผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ชูจุดเด่นถึงกรรมวิธีการคั่วรวนกับสมุนไพรไทย อาทิ กระเทียม พริกแห้ง ไม่ใส่สารกันเสีย ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ปรุงแต่งน้ำตาล จึงดีไซน์ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบเพื่อแจกจ่ายไปยังคนใกล้ชิดและลูกค้าได้ทดลองทาน จากการสำรวจตลาด (survey) ทำให้ทราบว่าลูกค้าชื่นชอบเพราะ "อร่อย แปลก แตกต่างจากที่เคยทาน" และมีการขอซื้อซ้ำทันที แต่ผู้บริโภคหลายท่านยังเรียกว่า "น้ำพริกปลาเค็ม" ซึ่งคลาดเคลื่อนจากคอนเซ็ปต์ของปลาเค็มรวน จึงต้องสร้างการรับรู้ใหม่ที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาภายใต้สโลแกนที่ว่า "ปลาเค็มรวนไม่ใช่น้ำพริก" และเริ่มต้นเข้าถึงผู้บริโภคผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ




              "หลังจำหน่ายไปได้สักระยะ มีสายตรงจากลูกค้าท่านหนึ่งโทรมาจุดประกายว่าสินค้าของแบรนด์เราส่งไปจำหน่ายต่างประเทศได้ เพราะตอบโจทย์ Pain Point ของผู้ที่ต้องการทานปลาเค็มแต่ไม่สามารถทอดทานเองที่บ้าน เพราะประสบปัญหาเรื่องกลิ่นที่กระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ในต่างประเทศ สินค้าของเราจึงเข้มงวดเรื่องมาตรฐานด้านอาหารและสุขภาพในหลายมาตรฐานก่อนส่งไปจำหน่าย และได้ตัดสินใจกับครอบครัวในการลงทุนทำโรงงานผลิต ศึกษาเรื่องมาตรฐานอาหารต่างๆ ควบคู่ไปกับการเข้าร่วมกิจกรรมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ทำให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการส่งออกเพิ่มมากขึ้น รวมถึงทราบรายละเอียดโครงการ Thai SELECT จึงตัดสินใจสมัครขอรับตราสัญลักษณ์ทันที เพราะมั่นใจว่าจะทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในสินค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผลิตภัณฑ์ โดยได้กำหนดกลยุทธ์ในการทำการตลาดไว้ 2 แบบ คือ กลุ่ม Business-to-Customer (B2C) จะเป็นแบบซื้อแล้วทานเลย หรือ Ready to eat และกลุ่ม Business-to-Business (B2B) ซึ่งจะเป็นกลุ่มร้านอาหารที่นำสินค้าไปประกอบในเมนูอาหาร หรือ Easy to cook






              ตลาดเป้าหมายแรกคือประเทศในเอเชียที่ใกล้กับประเทศไทยอย่างเมียนมาร์ ผ่านทาง Thai Town Supermarket และมาเลเซีย ที่จะไปในรูปแบบการจับคู่ธุรกิจกับร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ซึ่งมีถึง 13 ร้าน ในลักษณะของการสร้างสรรค์เมนูอาหารสไตล์ฟิวชั่นใหม่ๆ ของร้าน และยังมองไปถึงการไปสู่ตลาดที่ไกลมากขึ้นอย่างสหรัฐอเมริกา โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทส่งออกสินค้าไทยซึ่งได้เข้ามาดูโรงงานเพื่อพิจารณาการนำไปจำหน่ายให้กับคนเอเชียที่นั่น ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่พอสมควร สำหรับการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ร่วมกิจกรรมโปรโมทของทาง DITP ทั้งในและต่างประเทศ เพราะการขยายตลาดไปต่างประเทศนั้นนับว่ายังมีโอกาสอยู่มาก แต่จะต้องเข้าไปในช่องทางที่ถูกต้องและมีหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุน สำหรับผู้ประกอบการที่มีสินค้าที่มีอัตลักษณ์ความเป็นไทย มีกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน อยากให้ลองพิจารณาการขอรับตราสัญลักษณ์นี้ ซึ่งในปีหน้า ริน อินเตอร์ฟู้ด ก็เตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อจะขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ด้วยเช่นกัน"

ทำไม “โลโบ” ถึงขอใช้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT อย่างต่อเนื่อง




              ด้าน​ นางสาวศจี เสือขำ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โกลโบ ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตสินค้าเครื่องปรุงอาหาร ตราโลโบ​ ที่ต่ออายุตราสัญลักษณ์ THAI SELECT มาอย่างต่อเนื่องเล่าว่า "บริษัทฯ ได้นำสินค้าเข้าประกวดขอรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT มาตั้งแต่พ.ศ. 2555 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการขยายขอบเขตตราสัญลักษณ์ เข้ามาในกลุ่มเครื่องปรุงอาหารไทย ผลิตภัณฑ์โลโบก็เข้าพิจารณารับตราสัญลักษณ์และต่ออายุทุกๆ 3 ปี มาโดยตลอด ปัจจุบัน “โลโบ” มีสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ แล้วถึง 74 รายการ ซึ่งปีนี้มีการขอต่ออายุ 39 รายการ และขอใช้ใหม่อีก 4 รายการ ได้แก่ ผงทำข้าวหมกไก่ เครื่องแกงฮังเล ผงทำอาหารทอดกระเทียมพริกไทย และผงปรุงน้ำราดหมูแดง เพราะในตลาดต่างประเทศนั้นอาหารไทยเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ทำให้มีผู้ผลิตอาหารไทยหลายราย ทั้งจากประเทศไทยเองและประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซียก็ผลิตเครื่องต้มยำ หรือประเทศทางยุโรปก็ผลิตแกงเขียวหวานหรือผัดไทย ผู้บริโภคจึงมีตัวเลือกมากมาย นอกจากราคาจะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อแล้ว เรื่องคุณภาพและมาตรฐานด้านรสชาติไทยแท้ก็เป็นปัจจัยสำคัญด้วย ดังนั้นการมีตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จึงทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในผลิตภัณฑ์ รสชาติต้นตำรับและอัตลักษณ์ความเป็นไทย เป็นการช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านภาพลักษณ์ของสินค้าอาหารไทย ที่ไม่ใช่แค่เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีมาตรฐานโดยเฉพาะด้านรสชาติที่เป็นที่นิยมและได้รับรองจากหน่วยงานที่ได้รับความเชื่อถือ"

              สำหรับผู้ประกอบการอาหารไทยสำเร็จรูปสามารถติดตามรายละเอียดการขอใช้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ได้ทาง อีเมล tsproduct.ditp@gmail.com