“แม็คโคร” ผนึก สสว. ยกระดับผู้ประกอบการไทย สู่ SMART SMEs
ร่วมพัฒนาองค์ความรู้ในทุกมิติและสร้างแพลตฟอร์มแห่งโอกาส
เป็นประตูเชื่อมการค้า พาเอสเอ็มอีไทยลุยตลาดโลก
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ผนึก สสว. ร่วมลงนาม MOU ปั้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย พัฒนาองค์ความรู้ด้านการผลิตและการตลาด พร้อมใช้เทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพการแข่งขันยกระดับสู่ SMART SMEs ผ่าน “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” พาเอสเอ็มอีไทยลุยตลาดต่างประเทศนางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากและมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยตลอดระยะการดำเนินธุรกิจมากว่า 32 ปี ‘แม็คโคร’ ได้จัดทำโครงการการสนับสนุน SMEs และเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในทุกมิติ ทั้งการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค การเข้าถึงช่องทางจำหน่ายสินค้า เพิ่มโอกาสสร้างยอดขาย ส่งเสริมสภาพคล่อง พร้อมแบ่งปันประสบการณ์และองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs วางจำหน่ายสินค้าผ่านเครือข่ายสาขาของแม็คโครภายในประเทศ 140 สาขา และในกัมพูชาและเมียนมา การดำเนินโครงการแม็คโคร มิตรแท้โชห่วยและแม็คโคร โฮเรก้า อคาเดมี เพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ SMEs ในการเพิ่มรายได้และพัฒนาธุรกิจให้เติบโต โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นคู่ค้ากับแม็คโครเกือบ 2,000 ราย รวมถึงมีผู้ประกอบการ SMEs ที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) รวม 500,000 ราย และผู้ประกอบการร้านอาหาร ธุรกิจจัดเลี้ยงและโรงแรม (โฮเรก้า) รวม 300,000 รายที่เป็นลูกค้าของแม็คโครทั้งนี้ แม็คโครเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายตลาดในประเทศและภูมิภาคอาเซียน แม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการ SMEs ต้องเผชิญความยากลำบากจากวิกฤตเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการเปลี่ยนผ่านของโลกเทคโนโลยี ที่ทำให้เกิดช่องทางการจำหน่ายรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ซึ่งแม็คโครมีการพัฒนาแพลตฟอร์ม Makro Click ที่ช่วยสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบไร้รอยต่อแก่ผู้บริโภคและเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าแก่ผู้ประกอบการ SMEs อีกด้วย นอกจากนี้ ภายหลังการรับโอนกิจการโลตัส แม็คโครมุ่งมั่นที่จะสร้าง “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการสนับสนุน 4 ส่วนหลัก ได้แก่ การพัฒนาแพลตฟอร์ม O2O ผสมผสานช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อขยายการจำหน่ายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย สามารถเปิดตลาดไปยังผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงผ่านเครือข่ายสาขาแม็คโครที่มีแผนลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต ขณะเดียวกัน จะช่วยพัฒนาองค์ความรู้ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มความสามารถการแข่งขันและยกระดับผู้ผลิตสินค้ารายย่อยสู่การเป็น ‘Smart SMEs’ พร้อมสนับสนุนการเชื่อมต่อกับสถาบันการเงิน เพื่อเสริมสภาพคล่องรองรับการขยายธุรกิจและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนอื่นเพื่อพัฒนาและสนับสนุนเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่องนายริคาร์โด้ เบอรอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยธุรกิจแม็คโคร ประเทศไทย กล่าวว่า แม็คโครจะร่วมมือกับทุกฝ่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทย ให้มีความเข้มแข็งสามารถรับมือกับสภาวะแวดล้อมทางการตลาดของธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงไป ล่าสุด แม็คโครได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อดำเนินกิจกรรมด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถและการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ SMEs รวมถึงการให้คำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ และมีกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศทั้งนี้ แม็คโครพร้อมให้ความร่วมมือกับ สสว. ถ่ายทอดองค์ความรู้ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การตลาด การผลิต และที่สำคัญ จะทำหน้าที่เชื่อมโยง กระจายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย รวมถึงให้ความร่วมมือในการสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อ SMEs ซึ่งจะมีส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนนายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว. เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้เติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการ SMEs กว่า 3 ล้านรายและเป็นภาคธุรกิจที่มีการจ้างแรงงานมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และต้องการได้รับความช่วยเหลือดังนั้น สสว. จึงได้จัดทำโครงการความร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย โดยได้ร่วมกับแม็คโครซึ่งเป็นภาคเอกชนที่มีศักยภาพและให้ความสำคัญกับการพัฒนา SMEs อย่างต่อเนื่อง ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อร่วมกันสนับสนุนและส่งเสริมความสามารถด้านการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการพร้อมรับมือกับความท้าทายของโลกการค้ายุคใหม่และสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการในระดับสากล“ที่ผ่านมา สสว.ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับภาครัฐ และภาคเอกชนหลายแห่ง เพื่อเป็นการเอื้อต่อธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการ โดยเป็นไปตามกรอบการดำเนินงานของ สสว. คือ เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ขยายช่องทางการตลาดและเชื่อมโยงแหล่งทุน” นายวีระพงศ์ ระบุ
ผอ.สสว. กล่าวอีกว่า สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ เป็นการลงนามความร่วมร่วมมือระหว่าง สสว. และบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือแม็คโคร ซึ่ง สสว. คาดว่า นี่คือหนึ่งในรูปธรรมการเชื่อมโยงพัฒนาสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นทิศทางการดำเนินการเพื่อผู้ประกอบการ โดย สสว. จะใช้เครื่องมือต่างๆ ของ สสว. ในการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเอสเอ็มอีให้มากที่สุด